ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : .. สามคนบนหนึ่งเวที .. ---+ แก้ใหม่ +---
            “  ฉันรู้ว่าพวกเธออยากได้ข่าว  แต่ช่วยเคารพความเป็นส่วนตัวของพวกเราบ้าง  “  เฟย์พูดน้ำเสียงเย็น  คลิฟฟ์สีหน้าเฉยชาไม่ได้สนใจอะไร  แต่ครีมกำลังงงว่าเฟย์พูดกับใคร  - -  ซักพักจึงได้เห็นว่ากลุ่มนักศึกษาหญิงสองสามคนลุกเดินออกไปจากโต๊ะข้างๆ  แล้วเฟย์กับคลิฟฟ์ก็เริ่มต้นคุยกันต่อด้วยรอยยิ้มเหมือนเดิม  ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
R..R R R~
“  โทษทีนะ  “  เฟย์พูดก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมารับสาย
“  ก็เตรียมไว้สิ  ภาคบ่ายฉันไม่มีเรียน  เดี๋ยวไป  - -  ฉันบอกให้ไปเตรียมก็ไปสิ  ไม่ต้องเถียงอะไรทั้งนั้นแหละ  “  เฟย์น้ำเสียงหงุดหงิด
“  งานละครเหรอ  “  คลิฟฟ์ถาม
“  อื้ม  “  เฟย์ตอบรับ
“  หมายถึงงานละครเวทีครั้งหน้าเหรอคะ  ครั้งนี้ใครเป็นตัวเอกเหรอ  “  ครีมถามอย่างตื่นเต้น  เฟย์ยิ้มๆ
“  ขออุบไว้ก่อนดีกว่าจ๊ะ  ว่าแต่ครีมจะมาดูรึเปล่า  “
“  เฟย์เล่นรึเปล่าหล่ะคะ  ถ้าเล่นครีมก็จะไปดู  “
“  เล่นสิจ๊ะ  บทคล้ายๆของเดิม  แต่ตัวเอกครั้งนี้ไม่ธรรมดานะ  ต้องไปดูให้ได้นะรู้รึเปล่า  “
“  จริงเหรอ  ดีจัง ! แต่ยังไงก็ช่วยเก็บบัตรไว้ให้ด้วยนะคะ  ครีมก่อคดีไว้เยอะกับคนขายบัตรหน่ะ  “
เฟย์หัวเราะก่อนจะพูด  “  งั้นพี่ไปก่อนนะ  - -  คลิฟฟ์  อีกแค่สองเดือนก็จะถึงวันจริงแล้ว  เป็นไปได้อย่าบ่ายเบี่ยงอีกเลยนะ  “  ครีมมองทั้งสองด้วยสีหน้าฉงน  คลิฟฟ์พยักหน้าผ่านๆ  เฟย์ยิ้มให้ทั้งสองแล้วเดินจากไป  คลิฟฟ์กับครีมตกอยู่ในสภาวะเงียบงันไปทั้งคู่
ครีมและคลิฟฟ์ยังคงแสดงบทบาทแฟนกำมะลอต่อกันอย่างแนบเนียน  ทั้งๆที่มาจนป่านนี้ครีมก็ยังไม่รู้ว่าเหตุผลของคลิฟฟ์คืออะไร  และดูๆมันก็ไม่เห็นจะมีอะไรเกิดขึ้น  --  เย็นวันนั้นขณะเดินทางกลับบ้าน
“  มีอะไรจะถามฉันรึเปล่า  “  คลิฟฟ์ถาม
“  ถ้ารู้ว่ามี  นายก็คงรู้ว่าฉันจะถามอะไร “
“  ละครเวทีครั้งหน้า  ฉันต้องเล่นเป็นตัวเอกนะ  “  คลิฟฟ์บอก  ครีมสะเทือนใจไม่น้อย  เพราะคิดอยู่แล้วว่าเฟย์กับคลิฟฟ์พูดกันเหมือนกับรู้กันสองคนหลายครั้งแล้ว  และครีมก็พอจะคาดได้ว่าคนที่จะเล่นเป็นตัวเอกผู้หญิง  คงไม่พ้นเฟย์เหมือนเดิม  ก็ในเมื่อพอลลี่ปฏิเสธไปนี่นะ  ถึงแม้เธอจะเล่นทุกเรื่อง  แต่หน้าตาและความสามารถยังเป็นที่ยอมรับและน่าอิจฉาสำหรับผู้ชมคนดู...
“  อย่างนี้ฉันคงพลาดไม่ได้  เฟราธีกับนาย  เล่นเป็นตัวเอกทั้งคู่  บัตรคงหมดตั้งแต่ยังไม่ประชาสัมพันธ์หล่ะมั้ง  “  ครีมพูดเรื่องที่ไม่ตรงกับใจซักเท่าไหร่
“  เป็นละครแบบไหนเหรอ  “  ครีมถาม  พยายามรักษาสีหน้าให้ยิ้มแย้มไปด้วย
“  ตำนานเทพนิยาย  มีเจ้าหญิงเจ้าชายอะไรทำนองนั้น  “  คลิฟฟ์พูดอย่างไม่สนใจ
“  มีจุ๊บๆกันรึเปล่า  “  ครีมถามดักคอ  ยิ้มๆอย่างล้อเลียน  คลิฟฟ์อึ้งไปก่อนแล้วตอบ
“  มีตอนท้าย  “  ครีมสะอึก  ไม่คิดว่าจะมีจริงๆ  เธอถามต่อไปไม่ถูก  เหมือนมีอะไรจุกอยู่ที่คอ  ทั้งสองตกอยู่ในความเงียบเหมือนเดิม  ผ่านไปหลายนาทีครีมพยายามชวนคุยต่อ  เพื่อให้บรรยากาศไม่รู้สึกอึดอัด
“  เทควันโดนายเป็นไงบ้าง  ไม่เห็นนายไปซ้อมเลย  “
“  ช่วงนี้ไม่มีแข่ง  เลยไม่ต้องซ้อม  - -  โทดทีนะครีม  เธอกลับคนเดียวต่อได้รึเปล่า  ฉันต้องไปซ้อมละคร  “
“  มีซ้อมแล้วมาส่งฉันทำไม  “ ครีมถามด้วยน้ำเสียงตำหนิ
“  ความจริงเค้าเริ่มซ้อมกันไปตั้งนานแล้วหล่ะ  แต่ฉันขอเฟย์ปัดไปเรื่อยๆ  แต่นี่เหลืออีกสองเดือน  เดี๋ยวทำงานเค้าพังน่ะนะ  “
“  อื้ม  “  ครีมพยักหน้ารับรู้
“  กลับได้ใช่มั๊ย  “  คลิฟฟ์ถามอย่างลังเล
“  เมื่อก่อนก็กลับคนเดียวตลอดอยู่แล้ว  “  ครีมยิ้ม
“  งั้นพรุ่งนี้เจอกัน  “
“  บ๊ายบาย  “  ครีมเอ่ยหมองๆ 
          สัปดาห์ต่อมา  ทุกอย่างเริ่มคืบหน้าเมื่อหนังสือพิมพ์มหาลัยลงข่าวของครีมกับคลิฟฟ์  และเมื่อมีคนมาสัมภาษณ์ครีมก็ดำเนินตามแผนคือยอมรับว่าเป็นแฟนคลิฟฟ์  โดยที่คลิฟฟ์ก็ยอมรับทุกประโยคที่หนังสือพิมพ์ลงเกินจริงไปมาก  - -  นั่นทำให้ครีมมีปัญหา  ครีมเคยเป็นแค่เพียงนักศึกษาคนหนึ่งในมหาลัยที่ใหญ่โตจนดูเธอเป็นแค่องค์ประกอบเล็กๆ  ที่มีพ่อเป็นนักสืบคนดังเท่านั้นเอง  กลับกลายเป็นคนดังระดับมหาลัยที่มีแต่คนมอง  หรือถ้าสนิทกันก็จะคอยถามว่า ‘ คลิฟฟ์ไม่มาด้วยเหรอ ‘ ตลอดเวลา  - - เช่นกันเมื่อเธอเข้าชมรม  ทุกคนสีหน้าเครียด  ( จริงๆทุกคนที่เธอพูดถึงก็มีแค่ห้า คนเท่านั้นแหละ )
“  เป็นอะไรกันไปหมดคะ  “  ครีมพูดขณะที่เธอเอาเป้บนไหล่ลงวางข้างๆตัว
“  คือเรามีปัญหานิดหน่อยน่ะจ๊ะ  “
“  ปัญหาอะไร  --  ไม่หน่อยหรอกมั้ง  หน้าเครียดกันหมดเลย “  ครีมเดาเมื่อเห็นสีหนั่งลงบนเก้าอี้นิ่มๆข้างๆกีต้าร์
“  คือ....  คือ ........  คือเราเจรจากับเฟราธีประธานชมรมการแสดงได้แล้วว่าเราจะเอาเครื่องดนตรีของเราเล่นซาวน์แทร็คประกอบละคร  ...  แล้ว.....”  เพื่อนอึกอัก
“  ก็ดีแล้วนี่  เซรันก็อยากให้เป็นอย่างนั้นอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ  “  ครีมหันไปหาประธานชมรมที่ยืนกอดอกหน้าเครียดพิงเปียโนอยู่
“  ครีม  พี่รู้ว่ามันเป็นการทำร้ายจิตใจเธอ.....  “  เซรันทำสีหน้าจริงจังเดินเข้ามาหาครีม
“  ทำร้าย ?  ทำร้ายครีมเนี่ยนะ  “  ครีมชี้ตัวเองงงๆ
“  พี่รู้ว่าเธอกับคลิฟฟ์เพิ่งจะเริ่มคบกัน  ความรู้สึกของเธอสองคนในตอนนี้ยังไม่เคยชินกับความรัก  การที่เธอจะต้องเล่นเปียโนซึ่งเป็นเสียงดนตรีตัวสำคัญในการดำเนินเรื่องให้คลิฟฟ์กับเฟย์เล่นฉากจีบกันต่อหน้าเป็นเรื่องที่ออกจะทำร้ายความรู้สึกเธอมาก  “  เซรันก้มหน้าก้มตาพูดเร็วๆเหมือนเตรียมคำพูดไว้เป็นอย่างดีแล้ว  ไม่ได้สังเกตสีหน้าของครีมเลย  ทันทีที่เซรันพูดจบ  ครีมระเบิดหัวเราะอย่างกลั้นไม่อยู่
“  นึกว่าเรื่องอะไร  อย่าคิดมากซี่รัน  ถึงเราจะเริ่มคบกัน  แต่ฉันแยกออกน่า  ว่าอันไหนคือละคร  อันไหนคือชีวิตจริง  “  ครีมพูดมาถึงตรงนี้  เธอเองก็รู้สึกตะขิดตะขวง  ในเมื่อเธอเองก็ไม่รู้ว่าอันไหนคือความจริง  ทั้งสองอย่างที่เธอกำลังทำอยู่เป็นละครสองฉากที่ซับซ้อน
“  เธอไม่คิดอะไรจริงๆเหรอ  “
“  จริงสิ  คิดไปถึงนั่น  “  ครีมส่ายหน้า  แล้วก้มลงหยิบชีทตัวโน๊ตของเธอออกมา  เซรันเอื้อมมือมาดันชีทกลับเข้ากระเป๋าตามเดิม
“  ถ้าเธอยินดี  ฉันจะขอเริ่มซ้อมเพลงให้เธอวันนี้เลยได้มั๊ย  “
“  ได้เสมอ  “  ครีมยกนิ้วโป้งมาเกี่ยวกับนิ้วโป้งของเซรันอย่างตกลง แล้วลุกไปที่เปียโนอย่างกระตือรือร้น  หลังจากเก็บโน๊ตเพลงเก่านั่นใส่กระเป๋าแล้ว
            ในขณะเดียวกันที่ชมรมเทควันโด  คลิฟฟ์กำลังถูกกรรมการชมรมต่อว่า
“  เธอปฏิเสธการซ้อมตอนเย็นมาเป็นอาทิตย์แล้วนะ  ฉันรู้ว่าตอนนี้เธอกำลังเริ่มคบกับแฟนเธอ  แต่อย่างน้อยหนึ่งอาทิตย์เธอต้องมาซ้อมวันนึง  อย่ามัวแต่คิดเรื่องครีมาเทียร์  อย่ามัวแต่คิดเรื่องละคร  คิดถึงเรื่องการแข่งเทควันโดในอีกสามเดือนข้างหน้าบ้าง  เธอเป็นคนสำคัญระดับประเทศแล้วนะคลิฟฟ์  “  คลิฟฟ์พยักหน้าอย่างเบื่อหน่ายที่ถูกโค้ชต่อว่าเอาบ่อยๆ  ทั้งๆที่สิ่งที่เค้ากำลังพูดถึงไม่ใช่เหตุผลจริงๆ  และเค้าก็ไม่เคยยินดีจะกระโดดเข้าชมรมเทควันโดเลยซักครั้งในชีวิต
              ขณะนั้นเอง  เฟย์วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา
“  คลิฟฟ์ๆ  ฉันขอยืมตัวเค้าแป๊ปนะคะ  “  เฟย์ดึงคลิฟฟ์ออกมาห่างๆ
“  คลิฟฟ์  เมื่อกี้ประธานชมรมดนตรีมาขอเล่นซาวน์แทร็คในละครเราหล่ะ  “
“  แล้ว...  บอกฉันทำไม  “  คลิฟฟ์มองงงๆ
“  ก็เสียงดนตรีหลักคือเปียโนไงหล่ะ  “  เฟย์พูดอย่างภาคภูมิใจลึกๆ
“  เปียโนแล้วยังไง  “
“  ก็คนเล่นก็คือครีมาเทียร์  ภัคกมล  ไงหล่ะ  “  เฟย์ยิ้มหน้าระรื่น  คลิฟฟ์ได้ยินแล้วเครียดลงทันที...
R..R R R~
“  โทษทีนะ  “  เฟย์พูดก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมารับสาย
“  ก็เตรียมไว้สิ  ภาคบ่ายฉันไม่มีเรียน  เดี๋ยวไป  - -  ฉันบอกให้ไปเตรียมก็ไปสิ  ไม่ต้องเถียงอะไรทั้งนั้นแหละ  “  เฟย์น้ำเสียงหงุดหงิด
“  งานละครเหรอ  “  คลิฟฟ์ถาม
“  อื้ม  “  เฟย์ตอบรับ
“  หมายถึงงานละครเวทีครั้งหน้าเหรอคะ  ครั้งนี้ใครเป็นตัวเอกเหรอ  “  ครีมถามอย่างตื่นเต้น  เฟย์ยิ้มๆ
“  ขออุบไว้ก่อนดีกว่าจ๊ะ  ว่าแต่ครีมจะมาดูรึเปล่า  “
“  เฟย์เล่นรึเปล่าหล่ะคะ  ถ้าเล่นครีมก็จะไปดู  “
“  เล่นสิจ๊ะ  บทคล้ายๆของเดิม  แต่ตัวเอกครั้งนี้ไม่ธรรมดานะ  ต้องไปดูให้ได้นะรู้รึเปล่า  “
“  จริงเหรอ  ดีจัง ! แต่ยังไงก็ช่วยเก็บบัตรไว้ให้ด้วยนะคะ  ครีมก่อคดีไว้เยอะกับคนขายบัตรหน่ะ  “
เฟย์หัวเราะก่อนจะพูด  “  งั้นพี่ไปก่อนนะ  - -  คลิฟฟ์  อีกแค่สองเดือนก็จะถึงวันจริงแล้ว  เป็นไปได้อย่าบ่ายเบี่ยงอีกเลยนะ  “  ครีมมองทั้งสองด้วยสีหน้าฉงน  คลิฟฟ์พยักหน้าผ่านๆ  เฟย์ยิ้มให้ทั้งสองแล้วเดินจากไป  คลิฟฟ์กับครีมตกอยู่ในสภาวะเงียบงันไปทั้งคู่
ครีมและคลิฟฟ์ยังคงแสดงบทบาทแฟนกำมะลอต่อกันอย่างแนบเนียน  ทั้งๆที่มาจนป่านนี้ครีมก็ยังไม่รู้ว่าเหตุผลของคลิฟฟ์คืออะไร  และดูๆมันก็ไม่เห็นจะมีอะไรเกิดขึ้น  --  เย็นวันนั้นขณะเดินทางกลับบ้าน
“  มีอะไรจะถามฉันรึเปล่า  “  คลิฟฟ์ถาม
“  ถ้ารู้ว่ามี  นายก็คงรู้ว่าฉันจะถามอะไร “
“  ละครเวทีครั้งหน้า  ฉันต้องเล่นเป็นตัวเอกนะ  “  คลิฟฟ์บอก  ครีมสะเทือนใจไม่น้อย  เพราะคิดอยู่แล้วว่าเฟย์กับคลิฟฟ์พูดกันเหมือนกับรู้กันสองคนหลายครั้งแล้ว  และครีมก็พอจะคาดได้ว่าคนที่จะเล่นเป็นตัวเอกผู้หญิง  คงไม่พ้นเฟย์เหมือนเดิม  ก็ในเมื่อพอลลี่ปฏิเสธไปนี่นะ  ถึงแม้เธอจะเล่นทุกเรื่อง  แต่หน้าตาและความสามารถยังเป็นที่ยอมรับและน่าอิจฉาสำหรับผู้ชมคนดู...
“  อย่างนี้ฉันคงพลาดไม่ได้  เฟราธีกับนาย  เล่นเป็นตัวเอกทั้งคู่  บัตรคงหมดตั้งแต่ยังไม่ประชาสัมพันธ์หล่ะมั้ง  “  ครีมพูดเรื่องที่ไม่ตรงกับใจซักเท่าไหร่
“  เป็นละครแบบไหนเหรอ  “  ครีมถาม  พยายามรักษาสีหน้าให้ยิ้มแย้มไปด้วย
“  ตำนานเทพนิยาย  มีเจ้าหญิงเจ้าชายอะไรทำนองนั้น  “  คลิฟฟ์พูดอย่างไม่สนใจ
“  มีจุ๊บๆกันรึเปล่า  “  ครีมถามดักคอ  ยิ้มๆอย่างล้อเลียน  คลิฟฟ์อึ้งไปก่อนแล้วตอบ
“  มีตอนท้าย  “  ครีมสะอึก  ไม่คิดว่าจะมีจริงๆ  เธอถามต่อไปไม่ถูก  เหมือนมีอะไรจุกอยู่ที่คอ  ทั้งสองตกอยู่ในความเงียบเหมือนเดิม  ผ่านไปหลายนาทีครีมพยายามชวนคุยต่อ  เพื่อให้บรรยากาศไม่รู้สึกอึดอัด
“  เทควันโดนายเป็นไงบ้าง  ไม่เห็นนายไปซ้อมเลย  “
“  ช่วงนี้ไม่มีแข่ง  เลยไม่ต้องซ้อม  - -  โทดทีนะครีม  เธอกลับคนเดียวต่อได้รึเปล่า  ฉันต้องไปซ้อมละคร  “
“  มีซ้อมแล้วมาส่งฉันทำไม  “ ครีมถามด้วยน้ำเสียงตำหนิ
“  ความจริงเค้าเริ่มซ้อมกันไปตั้งนานแล้วหล่ะ  แต่ฉันขอเฟย์ปัดไปเรื่อยๆ  แต่นี่เหลืออีกสองเดือน  เดี๋ยวทำงานเค้าพังน่ะนะ  “
“  อื้ม  “  ครีมพยักหน้ารับรู้
“  กลับได้ใช่มั๊ย  “  คลิฟฟ์ถามอย่างลังเล
“  เมื่อก่อนก็กลับคนเดียวตลอดอยู่แล้ว  “  ครีมยิ้ม
“  งั้นพรุ่งนี้เจอกัน  “
“  บ๊ายบาย  “  ครีมเอ่ยหมองๆ 
          สัปดาห์ต่อมา  ทุกอย่างเริ่มคืบหน้าเมื่อหนังสือพิมพ์มหาลัยลงข่าวของครีมกับคลิฟฟ์  และเมื่อมีคนมาสัมภาษณ์ครีมก็ดำเนินตามแผนคือยอมรับว่าเป็นแฟนคลิฟฟ์  โดยที่คลิฟฟ์ก็ยอมรับทุกประโยคที่หนังสือพิมพ์ลงเกินจริงไปมาก  - -  นั่นทำให้ครีมมีปัญหา  ครีมเคยเป็นแค่เพียงนักศึกษาคนหนึ่งในมหาลัยที่ใหญ่โตจนดูเธอเป็นแค่องค์ประกอบเล็กๆ  ที่มีพ่อเป็นนักสืบคนดังเท่านั้นเอง  กลับกลายเป็นคนดังระดับมหาลัยที่มีแต่คนมอง  หรือถ้าสนิทกันก็จะคอยถามว่า ‘ คลิฟฟ์ไม่มาด้วยเหรอ ‘ ตลอดเวลา  - - เช่นกันเมื่อเธอเข้าชมรม  ทุกคนสีหน้าเครียด  ( จริงๆทุกคนที่เธอพูดถึงก็มีแค่ห้า คนเท่านั้นแหละ )
“  เป็นอะไรกันไปหมดคะ  “  ครีมพูดขณะที่เธอเอาเป้บนไหล่ลงวางข้างๆตัว
“  คือเรามีปัญหานิดหน่อยน่ะจ๊ะ  “
“  ปัญหาอะไร  --  ไม่หน่อยหรอกมั้ง  หน้าเครียดกันหมดเลย “  ครีมเดาเมื่อเห็นสีหนั่งลงบนเก้าอี้นิ่มๆข้างๆกีต้าร์
“  คือ....  คือ ........  คือเราเจรจากับเฟราธีประธานชมรมการแสดงได้แล้วว่าเราจะเอาเครื่องดนตรีของเราเล่นซาวน์แทร็คประกอบละคร  ...  แล้ว.....”  เพื่อนอึกอัก
“  ก็ดีแล้วนี่  เซรันก็อยากให้เป็นอย่างนั้นอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ  “  ครีมหันไปหาประธานชมรมที่ยืนกอดอกหน้าเครียดพิงเปียโนอยู่
“  ครีม  พี่รู้ว่ามันเป็นการทำร้ายจิตใจเธอ.....  “  เซรันทำสีหน้าจริงจังเดินเข้ามาหาครีม
“  ทำร้าย ?  ทำร้ายครีมเนี่ยนะ  “  ครีมชี้ตัวเองงงๆ
“  พี่รู้ว่าเธอกับคลิฟฟ์เพิ่งจะเริ่มคบกัน  ความรู้สึกของเธอสองคนในตอนนี้ยังไม่เคยชินกับความรัก  การที่เธอจะต้องเล่นเปียโนซึ่งเป็นเสียงดนตรีตัวสำคัญในการดำเนินเรื่องให้คลิฟฟ์กับเฟย์เล่นฉากจีบกันต่อหน้าเป็นเรื่องที่ออกจะทำร้ายความรู้สึกเธอมาก  “  เซรันก้มหน้าก้มตาพูดเร็วๆเหมือนเตรียมคำพูดไว้เป็นอย่างดีแล้ว  ไม่ได้สังเกตสีหน้าของครีมเลย  ทันทีที่เซรันพูดจบ  ครีมระเบิดหัวเราะอย่างกลั้นไม่อยู่
“  นึกว่าเรื่องอะไร  อย่าคิดมากซี่รัน  ถึงเราจะเริ่มคบกัน  แต่ฉันแยกออกน่า  ว่าอันไหนคือละคร  อันไหนคือชีวิตจริง  “  ครีมพูดมาถึงตรงนี้  เธอเองก็รู้สึกตะขิดตะขวง  ในเมื่อเธอเองก็ไม่รู้ว่าอันไหนคือความจริง  ทั้งสองอย่างที่เธอกำลังทำอยู่เป็นละครสองฉากที่ซับซ้อน
“  เธอไม่คิดอะไรจริงๆเหรอ  “
“  จริงสิ  คิดไปถึงนั่น  “  ครีมส่ายหน้า  แล้วก้มลงหยิบชีทตัวโน๊ตของเธอออกมา  เซรันเอื้อมมือมาดันชีทกลับเข้ากระเป๋าตามเดิม
“  ถ้าเธอยินดี  ฉันจะขอเริ่มซ้อมเพลงให้เธอวันนี้เลยได้มั๊ย  “
“  ได้เสมอ  “  ครีมยกนิ้วโป้งมาเกี่ยวกับนิ้วโป้งของเซรันอย่างตกลง แล้วลุกไปที่เปียโนอย่างกระตือรือร้น  หลังจากเก็บโน๊ตเพลงเก่านั่นใส่กระเป๋าแล้ว
            ในขณะเดียวกันที่ชมรมเทควันโด  คลิฟฟ์กำลังถูกกรรมการชมรมต่อว่า
“  เธอปฏิเสธการซ้อมตอนเย็นมาเป็นอาทิตย์แล้วนะ  ฉันรู้ว่าตอนนี้เธอกำลังเริ่มคบกับแฟนเธอ  แต่อย่างน้อยหนึ่งอาทิตย์เธอต้องมาซ้อมวันนึง  อย่ามัวแต่คิดเรื่องครีมาเทียร์  อย่ามัวแต่คิดเรื่องละคร  คิดถึงเรื่องการแข่งเทควันโดในอีกสามเดือนข้างหน้าบ้าง  เธอเป็นคนสำคัญระดับประเทศแล้วนะคลิฟฟ์  “  คลิฟฟ์พยักหน้าอย่างเบื่อหน่ายที่ถูกโค้ชต่อว่าเอาบ่อยๆ  ทั้งๆที่สิ่งที่เค้ากำลังพูดถึงไม่ใช่เหตุผลจริงๆ  และเค้าก็ไม่เคยยินดีจะกระโดดเข้าชมรมเทควันโดเลยซักครั้งในชีวิต
              ขณะนั้นเอง  เฟย์วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา
“  คลิฟฟ์ๆ  ฉันขอยืมตัวเค้าแป๊ปนะคะ  “  เฟย์ดึงคลิฟฟ์ออกมาห่างๆ
“  คลิฟฟ์  เมื่อกี้ประธานชมรมดนตรีมาขอเล่นซาวน์แทร็คในละครเราหล่ะ  “
“  แล้ว...  บอกฉันทำไม  “  คลิฟฟ์มองงงๆ
“  ก็เสียงดนตรีหลักคือเปียโนไงหล่ะ  “  เฟย์พูดอย่างภาคภูมิใจลึกๆ
“  เปียโนแล้วยังไง  “
“  ก็คนเล่นก็คือครีมาเทียร์  ภัคกมล  ไงหล่ะ  “  เฟย์ยิ้มหน้าระรื่น  คลิฟฟ์ได้ยินแล้วเครียดลงทันที...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น