ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ForEver เธอคือสายลม ฉันคือทราย

    ลำดับตอนที่ #6 : .. สามคนบนหนึ่งเวที .. ---+ แก้ใหม่ +---

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 125
      0
      16 พ.ค. 47

                “  ฉันรู้ว่าพวกเธออยากได้ข่าว  แต่ช่วยเคารพความเป็นส่วนตัวของพวกเราบ้าง  “  เฟย์พูดน้ำเสียงเย็น  คลิฟฟ์สีหน้าเฉยชาไม่ได้สนใจอะไร  แต่ครีมกำลังงงว่าเฟย์พูดกับใคร  - -  ซักพักจึงได้เห็นว่ากลุ่มนักศึกษาหญิงสองสามคนลุกเดินออกไปจากโต๊ะข้างๆ  แล้วเฟย์กับคลิฟฟ์ก็เริ่มต้นคุยกันต่อด้วยรอยยิ้มเหมือนเดิม  ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    R..R……R…………R~

    “  โทษทีนะ  “  เฟย์พูดก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมารับสาย

    “  ก็เตรียมไว้สิ  ภาคบ่ายฉันไม่มีเรียน  เดี๋ยวไป  - -   ฉันบอกให้ไปเตรียมก็ไปสิ  ไม่ต้องเถียงอะไรทั้งนั้นแหละ  “  เฟย์น้ำเสียงหงุดหงิด

    “  งานละครเหรอ  “  คลิฟฟ์ถาม

    “  อื้ม   “  เฟย์ตอบรับ

    “  หมายถึงงานละครเวทีครั้งหน้าเหรอคะ  ครั้งนี้ใครเป็นตัวเอกเหรอ  “  ครีมถามอย่างตื่นเต้น  เฟย์ยิ้มๆ

    “  ขออุบไว้ก่อนดีกว่าจ๊ะ  ว่าแต่ครีมจะมาดูรึเปล่า  “

    “  เฟย์เล่นรึเปล่าหล่ะคะ  ถ้าเล่นครีมก็จะไปดู  “

    “  เล่นสิจ๊ะ  บทคล้ายๆของเดิม  แต่ตัวเอกครั้งนี้ไม่ธรรมดานะ  ต้องไปดูให้ได้นะรู้รึเปล่า  “

    “  จริงเหรอ  ดีจัง ! แต่ยังไงก็ช่วยเก็บบัตรไว้ให้ด้วยนะคะ  ครีมก่อคดีไว้เยอะกับคนขายบัตรหน่ะ  “

    เฟย์หัวเราะก่อนจะพูด  “  งั้นพี่ไปก่อนนะ  - -  คลิฟฟ์  อีกแค่สองเดือนก็จะถึงวันจริงแล้ว  เป็นไปได้อย่าบ่ายเบี่ยงอีกเลยนะ  “  ครีมมองทั้งสองด้วยสีหน้าฉงน  คลิฟฟ์พยักหน้าผ่านๆ  เฟย์ยิ้มให้ทั้งสองแล้วเดินจากไป  คลิฟฟ์กับครีมตกอยู่ในสภาวะเงียบงันไปทั้งคู่

    ครีมและคลิฟฟ์ยังคงแสดงบทบาทแฟนกำมะลอต่อกันอย่างแนบเนียน  ทั้งๆที่มาจนป่านนี้ครีมก็ยังไม่รู้ว่าเหตุผลของคลิฟฟ์คืออะไร  และดูๆมันก็ไม่เห็นจะมีอะไรเกิดขึ้น   --  เย็นวันนั้นขณะเดินทางกลับบ้าน

    “  มีอะไรจะถามฉันรึเปล่า  “  คลิฟฟ์ถาม

    “  ถ้ารู้ว่ามี  นายก็คงรู้ว่าฉันจะถามอะไร “

    “  ละครเวทีครั้งหน้า  ฉันต้องเล่นเป็นตัวเอกนะ  “  คลิฟฟ์บอก  ครีมสะเทือนใจไม่น้อย  เพราะคิดอยู่แล้วว่าเฟย์กับคลิฟฟ์พูดกันเหมือนกับรู้กันสองคนหลายครั้งแล้ว  และครีมก็พอจะคาดได้ว่าคนที่จะเล่นเป็นตัวเอกผู้หญิง  คงไม่พ้นเฟย์เหมือนเดิม  ก็ในเมื่อพอลลี่ปฏิเสธไปนี่นะ  ถึงแม้เธอจะเล่นทุกเรื่อง  แต่หน้าตาและความสามารถยังเป็นที่ยอมรับและน่าอิจฉาสำหรับผู้ชมคนดู...

    “  อย่างนี้ฉันคงพลาดไม่ได้  เฟราธีกับนาย  เล่นเป็นตัวเอกทั้งคู่  บัตรคงหมดตั้งแต่ยังไม่ประชาสัมพันธ์หล่ะมั้ง  “  ครีมพูดเรื่องที่ไม่ตรงกับใจซักเท่าไหร่

    “  เป็นละครแบบไหนเหรอ  “  ครีมถาม  พยายามรักษาสีหน้าให้ยิ้มแย้มไปด้วย

    “  ตำนานเทพนิยาย  มีเจ้าหญิงเจ้าชายอะไรทำนองนั้น  “   คลิฟฟ์พูดอย่างไม่สนใจ

    “  มีจุ๊บๆกันรึเปล่า  “  ครีมถามดักคอ  ยิ้มๆอย่างล้อเลียน  คลิฟฟ์อึ้งไปก่อนแล้วตอบ

    “  มีตอนท้าย  “  ครีมสะอึก  ไม่คิดว่าจะมีจริงๆ  เธอถามต่อไปไม่ถูก  เหมือนมีอะไรจุกอยู่ที่คอ  ทั้งสองตกอยู่ในความเงียบเหมือนเดิม  ผ่านไปหลายนาทีครีมพยายามชวนคุยต่อ  เพื่อให้บรรยากาศไม่รู้สึกอึดอัด

    “  เทควันโดนายเป็นไงบ้าง  ไม่เห็นนายไปซ้อมเลย  “

    “  ช่วงนี้ไม่มีแข่ง  เลยไม่ต้องซ้อม  - -  โทดทีนะครีม  เธอกลับคนเดียวต่อได้รึเปล่า  ฉันต้องไปซ้อมละคร  “

    “  มีซ้อมแล้วมาส่งฉันทำไม  “ ครีมถามด้วยน้ำเสียงตำหนิ

    “  ความจริงเค้าเริ่มซ้อมกันไปตั้งนานแล้วหล่ะ  แต่ฉันขอเฟย์ปัดไปเรื่อยๆ  แต่นี่เหลืออีกสองเดือน  เดี๋ยวทำงานเค้าพังน่ะนะ  “

    “  อื้ม  “  ครีมพยักหน้ารับรู้

    “  กลับได้ใช่มั๊ย  “  คลิฟฟ์ถามอย่างลังเล

    “  เมื่อก่อนก็กลับคนเดียวตลอดอยู่แล้ว  “  ครีมยิ้ม

    “  งั้นพรุ่งนี้เจอกัน  “

    “  บ๊ายบาย  “  ครีมเอ่ยหมองๆ  



               สัปดาห์ต่อมา  ทุกอย่างเริ่มคืบหน้าเมื่อหนังสือพิมพ์มหาลัยลงข่าวของครีมกับคลิฟฟ์  และเมื่อมีคนมาสัมภาษณ์ครีมก็ดำเนินตามแผนคือยอมรับว่าเป็นแฟนคลิฟฟ์  โดยที่คลิฟฟ์ก็ยอมรับทุกประโยคที่หนังสือพิมพ์ลงเกินจริงไปมาก  - -  นั่นทำให้ครีมมีปัญหา  ครีมเคยเป็นแค่เพียงนักศึกษาคนหนึ่งในมหาลัยที่ใหญ่โตจนดูเธอเป็นแค่องค์ประกอบเล็กๆ  ที่มีพ่อเป็นนักสืบคนดังเท่านั้นเอง  กลับกลายเป็นคนดังระดับมหาลัยที่มีแต่คนมอง  หรือถ้าสนิทกันก็จะคอยถามว่า ‘ คลิฟฟ์ไม่มาด้วยเหรอ ‘ ตลอดเวลา  - - เช่นกันเมื่อเธอเข้าชมรม  ทุกคนสีหน้าเครียด  ( จริงๆทุกคนที่เธอพูดถึงก็มีแค่ห้า คนเท่านั้นแหละ )

    “  เป็นอะไรกันไปหมดคะ  “  ครีมพูดขณะที่เธอเอาเป้บนไหล่ลงวางข้างๆตัว

    “  คือเรามีปัญหานิดหน่อยน่ะจ๊ะ  “

    “  ปัญหาอะไร  --  ไม่หน่อยหรอกมั้ง  หน้าเครียดกันหมดเลย “  ครีมเดาเมื่อเห็นสีหนั่งลงบนเก้าอี้นิ่มๆข้างๆกีต้าร์

    “  คือ....  คือ ........  คือเราเจรจากับเฟราธีประธานชมรมการแสดงได้แล้วว่าเราจะเอาเครื่องดนตรีของเราเล่นซาวน์แทร็คประกอบละคร  ...  แล้ว.....”  เพื่อนอึกอัก

    “  ก็ดีแล้วนี่  เซรันก็อยากให้เป็นอย่างนั้นอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ  “  ครีมหันไปหาประธานชมรมที่ยืนกอดอกหน้าเครียดพิงเปียโนอยู่

    “  ครีม  พี่รู้ว่ามันเป็นการทำร้ายจิตใจเธอ.....  “  เซรันทำสีหน้าจริงจังเดินเข้ามาหาครีม

    “  ทำร้าย ?  ทำร้ายครีมเนี่ยนะ  “  ครีมชี้ตัวเองงงๆ

    “  พี่รู้ว่าเธอกับคลิฟฟ์เพิ่งจะเริ่มคบกัน  ความรู้สึกของเธอสองคนในตอนนี้ยังไม่เคยชินกับความรัก  การที่เธอจะต้องเล่นเปียโนซึ่งเป็นเสียงดนตรีตัวสำคัญในการดำเนินเรื่องให้คลิฟฟ์กับเฟย์เล่นฉากจีบกันต่อหน้าเป็นเรื่องที่ออกจะทำร้ายความรู้สึกเธอมาก  “  เซรันก้มหน้าก้มตาพูดเร็วๆเหมือนเตรียมคำพูดไว้เป็นอย่างดีแล้ว  ไม่ได้สังเกตสีหน้าของครีมเลย  ทันทีที่เซรันพูดจบ  ครีมระเบิดหัวเราะอย่างกลั้นไม่อยู่

    “  นึกว่าเรื่องอะไร  อย่าคิดมากซี่รัน  ถึงเราจะเริ่มคบกัน  แต่ฉันแยกออกน่า  ว่าอันไหนคือละคร  อันไหนคือชีวิตจริง  “  ครีมพูดมาถึงตรงนี้  เธอเองก็รู้สึกตะขิดตะขวง  ในเมื่อเธอเองก็ไม่รู้ว่าอันไหนคือความจริง  ทั้งสองอย่างที่เธอกำลังทำอยู่เป็นละครสองฉากที่ซับซ้อน

    “  เธอไม่คิดอะไรจริงๆเหรอ  “

    “  จริงสิ  คิดไปถึงนั่น  “  ครีมส่ายหน้า  แล้วก้มลงหยิบชีทตัวโน๊ตของเธอออกมา  เซรันเอื้อมมือมาดันชีทกลับเข้ากระเป๋าตามเดิม

    “  ถ้าเธอยินดี  ฉันจะขอเริ่มซ้อมเพลงให้เธอวันนี้เลยได้มั๊ย  “

    “  ได้เสมอ  “  ครีมยกนิ้วโป้งมาเกี่ยวกับนิ้วโป้งของเซรันอย่างตกลง แล้วลุกไปที่เปียโนอย่างกระตือรือร้น  หลังจากเก็บโน๊ตเพลงเก่านั่นใส่กระเป๋าแล้ว



                ในขณะเดียวกันที่ชมรมเทควันโด  คลิฟฟ์กำลังถูกกรรมการชมรมต่อว่า

    “  เธอปฏิเสธการซ้อมตอนเย็นมาเป็นอาทิตย์แล้วนะ  ฉันรู้ว่าตอนนี้เธอกำลังเริ่มคบกับแฟนเธอ  แต่อย่างน้อยหนึ่งอาทิตย์เธอต้องมาซ้อมวันนึง  อย่ามัวแต่คิดเรื่องครีมาเทียร์  อย่ามัวแต่คิดเรื่องละคร  คิดถึงเรื่องการแข่งเทควันโดในอีกสามเดือนข้างหน้าบ้าง  เธอเป็นคนสำคัญระดับประเทศแล้วนะคลิฟฟ์  “  คลิฟฟ์พยักหน้าอย่างเบื่อหน่ายที่ถูกโค้ชต่อว่าเอาบ่อยๆ   ทั้งๆที่สิ่งที่เค้ากำลังพูดถึงไม่ใช่เหตุผลจริงๆ  และเค้าก็ไม่เคยยินดีจะกระโดดเข้าชมรมเทควันโดเลยซักครั้งในชีวิต

                  ขณะนั้นเอง  เฟย์วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา

    “  คลิฟฟ์ๆ  ฉันขอยืมตัวเค้าแป๊ปนะคะ  “  เฟย์ดึงคลิฟฟ์ออกมาห่างๆ

    “  คลิฟฟ์  เมื่อกี้ประธานชมรมดนตรีมาขอเล่นซาวน์แทร็คในละครเราหล่ะ  “

    “  แล้ว...  บอกฉันทำไม  “  คลิฟฟ์มองงงๆ

    “  ก็เสียงดนตรีหลักคือเปียโนไงหล่ะ  “  เฟย์พูดอย่างภาคภูมิใจลึกๆ

    “  เปียโนแล้วยังไง  “

    “  ก็คนเล่นก็คือครีมาเทียร์  ภัคกมล  ไงหล่ะ  “  เฟย์ยิ้มหน้าระรื่น  คลิฟฟ์ได้ยินแล้วเครียดลงทันที...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×