:::::::::::::::::::: พูดไม่คิด Ep.2
มันต้องเป็นแผนการร้ายจากนรกแน่นอนที่มีใครสักคนดลบันดาลให้ผมได้มีโต๊ะทำงานส่วนตัว....อยู่ตรงข้ามกับ จี พ่อของเขาคงไม่ได้ตั้งใจหรอกที่จะให้มาจ๊ะเอ๋คนชื่อเล่นเหมือนกัน ตั้งชื่อลูกชายว่า จีรพัส ชื่อเล่นสุดคลาสสิคคือ “จี”
เด็กฝึกงานของธนาคารนี้คัดเกรดพร้อมหน้าตานะเนี่ย จีรพัสก็เรียนภาคอินเตอร์อยู่ในมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังเช่นกัน หน้าตาก็...
เออ มันน่ารัก มันน่ามันเขี้ยว มันแก้มป่อง มันยิ้มสวย มันฟันสวย มันตาหวาน มันชอบผู้ชายแน่ๆ มันไม่ได้ออกสาวด้วย! แบบนี้ใครๆ ก็ชอบอยู่แล้ว นอกจากนี้จีรพัสมันยังฮา มันตลก มันอารมณ์ดี....และมันมีพี่บีมมายืนประกบสอนงานอยู่ใกล้ๆ ทุกวี่ทุกวัน วันๆ ก็เรียกหาแต่ จี จี สี่หมื่นแปดพันรอบ ผมพยายามไม่คิดว่าเป็นชื่อเดียวกัน แต่พอใจลอยทีไร กลายเป็นพี่นทีเรียกทุกที
พี่บีมไม่เคยเรียกชื่อผม เวลาพูดถึงผมจะเรียกว่า น้อง หรือไม่ก็พูดว่า น้องทีมพี่นที เท่านั้น แต่พอมาสอนงานให้จีรพัสกลับเรียกชื่อได้เรื่อยๆ สะดวกปาก
จี…ที่ไม่ใช่ผม เงาสะท้อนที่ไม่ใช่ผม ทุกๆ วันผมตื่นเช้ามาด้วยความทรมานที่รู้สึกว่าตัวเองหดเล็กลงเรื่อยๆ และสิ่งนี่นี่เองที่ผมทรมานนับวันนับคืนรอให้การฝึกงานนี่จบๆ ไปเสียที
ผมตั้งหน้าตั้งตาทำงาน หันหลังให้จีรพัสมากที่สุดเท่าที่ทำได้ด้วยการย้ายไปทำงานโต๊ะนั้นบ้าง โต๊ะนี้บ้าง แต่ถึงหลบหน้าไม่ให้ตัวเองเห็นโมเมนต์กุ๊กกิ๊กรุ่นพี่สอนงานรุ่นน้อง พี่นทีก็มีเหตุต้องคุยกับพี่บีมอยู่เรื่อย หลบยังไงก็มาโผล่ให้เห็นอยู่ดี
ผังของออฟฟิศนี้กั้นแต่ละทีมด้วยพาร์ทิชั่นสีขาวที่สูงราว 150 ซม. จัดโต๊ะเป็นตัว U หัวหน้าทีมนั่งในคอกคอยดูงานของคนที่เหลือ ดังนั้นแปลว่าคอกพี่นทีและคอกของพี่บีมที่ใช้พาร์ทิชั่นร่วมกัน ทำให้สองคนมีสภาพเหมือนคนข้างบ้านจีบกันข้ามรั้ว ยืนคุยกันข้างพาร์ทิชั่นสวีทหวานหยด ไม่ใช่ผมคนเดียวที่คิด หลายคนก็เอ่ยแซว ยิ่งระยะหลังๆ มีประโยคทำนองว่า “พี่นทีกลับมาขับคัมรีแล้วเหรอครับ” หรือว่า “เบื่อสตาร์บัคส์หรือยัง” หรือแม้กระทั่ง “พี่นทีครับ..ผมว่าจะถอยคัมรีไฮบริด นั่งสบายดีไหมครับ” คัมรีไฮบริดคันที่ว่า...คือรถของพี่บีมที่เพิ่งถอยมาไม่นานและผมจำได้
เย็นเมื่อวาน ผมได้ยินพี่บีมบ่นว่า ปวดท้องจัง แต่ประโยคต่อมาก็คือ...พี่นทีไปดื่มที่ร้านผมไหม วันนี้ไม่ได้ขับรถมานี่ครับ
พาไปที่ร้านด้วยเหรอ.... ผมเข้าใจความรู้สึกของเท็ดดี้ที่เคยน้อยอกน้อยใจพระนาย เนื่องจากอาจารย์กล้าณรงค์มาหาที่ร้านบ่อยๆ แล้วล่ะสิ
วันนี้พี่บีมก็บอกว่าปวดท้องอีก พี่นทีถามว่าไปโรงพยาบาลไหม แต่เจ้าตัวดูตารางประชุมแล้วส่ายหัวอย่างสิ้นหวัง
“ไว้ไปคลีนิกนอกเวลาแล้วกันพี่”
“คลีนิกนอกเวลาที่ไหนเขาเปิดถึงตีหนึ่ง หมอกลับหมดแล้ว” ผมบ่นกับตัวเองแต่จีรพัสได้ยินจึงเงยหน้าขึ้นมาถาม
“หือ ใครไปดึกดื่นแบบนั้นกัน”
ผมหุบปากเงียบ...ก็พี่บีมมักไปคุมร้านถึงตีหนึ่งนี่นา แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปหาหมอ
สุดท้ายเย็นวันนั้นผมก็ทนไม่ไหว เปิดโปรแกรมแชทที่เรามักคุยกันบ่อยๆ แล้วปลดล็อกพี่บีมออก ข้อความที่ค้างคาไว้ตลอดสามเดือนพรูลงมาจนไล่อ่านไม่ทัน เป็นข้อความที่พี่เขาฝากไว้ให้ผมเพียงฝ่ายเดียว
…จี พี่ขอโทษจริงๆ ต้องทำยังไงถึงจะยอมคุยกันเหรอ...
…ไม่มาที่ร้านแล้ว?...
…ไหนสัญญาว่าจะเป็นพนักงานที่ดีไง ไม่ต้องคิดถึงพี่ก็ได้ แต่เด็กคนอื่นๆ ที่เขาเตรียมลาหยุดกลับบ้านที่ต่างจังหวัดเขาก็กลับไม่ได้...
…พระนายกับเท็ด เขาคุยกันแล้ว จีล่ะคิดเรื่องของเราบ้างไหม...
...จีให้พระนายได้โอกาสครั้งที่สองในการคุยกับเท็ด แต่ทำไมพี่ถึงไม่ได้โอกาสล่ะ?...
...ปรับความเข้าใจกันสักหน่อยเถอะ ให้พี่ได้อธิบายบ้าง...
…หนึ่งเดือนแล้วนะ...
…พี่ไม่ได้ตื๊อ แต่ปาร์ตี้เลี้ยงส่งเชสเตอร์ จะมาไหม...
…พี่ไม่ไปก็แล้วกัน จีก็มาหาเพื่อนเสียนะ...
…หาที่ฝึกงานได้หรือยัง...
...ได้ยินชัดแล้วว่าจีคิดยังไงกับเรื่องของเรา ชัดเจน จีน่าจะชัดเจนกับพี่แบบนี้ตั้งแต่แรก นี่จะเป็นข้อความสุดท้าย พี่อยากให้จีอ่าน แต่ไม่ต้องตอบก็ได้ รู้แค่ว่า...ตลอดเวลาที่ผ่านมา พี่มีความสุขมากที่มีจีอยู่ด้วยกัน แต่มันจบแล้ว ขอบคุณมากที่ทำให้พี่มีความสุขในช่วงเวลาสั้นๆ นั้น...
จิระอยากจะตบปากตัวเองให้เลือดกบปากเมื่อหวนคิดได้ว่าพูดอะไรออกไป เพียงเพราะอยากเอาชนะ เพียงเพราะอยากจะเป็นฝ่ายที่ถูกง้อ
เขาไม่เคยรู้เลยว่าตลอดเวลาสามเดือนที่ผ่านมา อดีตคนรักต้องผ่านอะไรบ้าง ถ้าไม่ได้มาฝึกงานที่นี่ไม่มีวันรู้ถึงภาระงานหนักหน่วงที่ต้องพบเจอในแต่ละวัน ประชุมเครียด ต้องรับมือกับลูกค้าระดับล่างที่วาดวิมานสวยหรูจากกองทุนรวม หรือความคาดหวังของทุกคนในทีมที่จะเห็นยอดขายพุ่งทะลุเป้า ที่บีบสุดๆ ก็คือเป้ายอดขายที่สูงลิบที่ฝ่ายบริหารของธนาคารสั่งตรงจากหอคอยงาช้าง
ข้าวก็ไม่ค่อยได้กิน พักก็ไม่ค่อยได้พัก กาแฟและบุหรี่เป็นเหมือนเครื่องต่อชีวิตของทุกคนในแผนกโดยไม่ยกเว้นพี่บีม
เขาเคยสัญญากับผมว่าจะเลิกสูบบุหรี่ ผมจากมาก่อนทราบผล
เหนื่อยมากสินะ ทำได้ยังไงนะ ที่ยังไปยืนยิ้มคุยกับลูกค้าที่ร้าน คอยดูแลบัญชี ควบคุมงานอย่างราบรื่น ไหนจะมีเวลาคอยดูแลจิระโดยไม่เคยปริปากบ่นสักคำ
"ชีวิตมนุษย์เงินเดือนก็บัดซบงี้แหล่ะน้องเอ๊ย" ใครสักคนที่ยืนคุยกับจีรพัสลอยมาเข้าหู
จีรพัสผู้เกิดมาบนกองเงินกองทองไม่ต่างจากตัวเขาเองมีสีหน้าเห็นใจ
"จริงพี่ ถ้าไม่ได้มาฝึกงานนี่ไม่มีทางรู้เลยว่าลำบากขนาดไหน" จีรพัสว่า "พี่เคยคิดจะไปทำอย่างอื่นไหมครับ ทำตามความฝัน"
"ทำสิ... เห็นพี่บีม บุริศร์ทำแล้วอิจฉา อยากเก่งให้ได้แบบนั้น พยายามให้ได้ขนาดนั้น"
"หือ พี่บีมทำไมเหรอครับ"
"พี่บีมเขามีร้านอาหารของตัวเอง เขาไม่ได้ชอบหรอกไอ้แผนกกองทุนรวมเนี่ย ก็แค่ไม่พูดออกมาแล้วทำงานให้ดีที่สุดเท่านั้นเอง แต่ใครๆ ก็รู้ว่าพี่บีมรักร้านนั้นมาก และร้านก็โตขึ้นเรื่อยๆ ดังขึ้นเรื่อยๆ ด้วย --- พี่สงสัยว่า ถ้าพี่บีมจะลาออก ก็คงไม่ได้ออกเพราะตามพี่นทีไปหรอก แต่คงจะลาออกไปทำร้านเต็มตัวมากกว่า น่าอิจฉาจริงๆ เลยนะ คนที่มีความฝันและพยายามจนคว้ามันไว้ได้เนี่ย"
จีรพัสพยักหน้า "ครับเป็นคนเก่งที่ น่าสนใจจริงๆ"
สายตาของผมเหลือบมองไปยังปฏิทินตั้งโต๊ะที่มีโน้ตและลายมือของหลายคนลงตารางงานไว้เต็มไปหมด ผมลองพลิกดูแล้วถอนใจ
ส่งรายการงบดุลประจำไตรมาสให้พี่ฮิม / วีคลีรีพอร์ต /ประชุมฝ่ายมาร์เกตติ้ง / เทรนนิ่งงานโรดโชว์ / บีมมีนัดประชุมทีวีคอนเฟอเรนซ์ 19.00
ผมรู้สึกตื้อในอก คล้ายกับว่าไม่มีอากาศเหลือพอที่จะหายใจเข้าได้เต็มปอด ผมกระพริบตาถี่ๆ สะกดความรู็สึกของตัวเองไว้ คนที่อยู่ในห้วงความคิดของผมทุกนาทีก็โผล่มาด้วยใบหน้าร่าเริงเหมือนปกติ
ยิ้มสวย... แววตาก็มีความสุข... ผมเห็นพี่บีมแค่ด้านเดียวมาตลอด เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางโดยที่ไม่เคยได้รู้จักมุมอื่นๆ ของเขาเลย ตอนที่พี่บีมเพียรพยายามง้อผม ชีวิตส่วนอื่นๆ ของเขาเป็นอย่างไรนะ มีไอ้ตารางงานบ้าบอชวนหดหู่แบบนี้ทุกวันหรือเปล่า
แล้วทำไมยังขอบคุณผม... ไม่มีเหตุผลเลยสักนิด
พี่บีมโผล่มาแถวหางตา ผมคว้างานชิ้นใหม่ขึ้นมาทำ คือเขียนดราฟต์บทวิเคราะห์การลงทุนสำหรับให้หัวหน้าทีมตรวจทานและอัพโหลดขึ้นเว็บไซต์ในแปดโมงเช้าของวันพรุ่งนี้ พี่นทีเกลียดการเขียนบทวิเคราะห์ประเภทนี้มาก เขาว่าเสียเวลาทำงานจึงโยนมาให้ผมช่วยรวบรวมข่าวให้แทน แต่ผมก็ทำเกินคำสั่งไปเล็กน้อยด้วยการดราฟต์ให้เสียเลย
เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งเป็นเวลา 18.45 น. เลยเวลางานไปโข แต่ทุกคนยังอยู่ที่โต๊ะของตัวเอง จีรพัสเดินไปสวัสดีทุกคนในทีมก่อนกลับบ้าน ผมเห็นพี่บีมตบไหล่ของเขาเพื่อให้กำลังใจอย่างเอ็นดู หัวใจของผมมันเจ็บแปลบจนต้องรีบซ่อนสายตา
ถึงป่านนี้จะทำอะไรก็คงสายเกินไปแล้ว ผมกดส่งอีเมลแล้วลากลับเงียบๆ ไม่ให้เอิกเริก แต่ก็เกือบจะจ๊ะเอ๋กันจนได้ พี่บีมหันหลังคุยโทรศัพท์กับอาจารย์พระนายอยู่
"เออ กูฝากหน่อย ปวดท้องว่ะ (...) ไม่รู้ดิวะ คลีนิกนอกเวลาคงทัน (...) มึงให้เลขามึงนัดหมอให้กูทีสิ (...) มันมวนๆ บีบๆ พิกล หลายวันละ แต่พอไปหาหมอแม่งก็ไม่เป็นอะไร (...) เออๆ อย่าถามมากน่า นัดให้กูก็พอละ (...) ครับๆ ครับคุณพระนาย (...) เออ มึงดูแลตัวเองด้วย"
เจ้าตัวหันมาสบตากับผมพอดี แววตาขี้เล่นที่มีแจกจ่ายให้คนอื่นนั้นชาด้านราวกับผี
"ปวดท้องมากหรือเปล่า...ไปที่โรงพยาบาลไหม"
ผมตัดสินใจพูดออกไปในเสี้ยววินาทีก่อนที่เขาจะเดินผ่านไป ความเงียบเพียงแค่ไม่กี่วินาทีที่เกิดขึ้นระหว่างเรานั้นยาวนานแทบทนไม่ไหว ผมได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองเต้นแรงอยู่ในอก กลัวคำตอบแต่ผมอดทนไม่ไหวนี่นา...
ในฐานะของผม จะขอร้องให้หมอคนไหนในโรงพยาบาลมาคอยดูแลพี่บีมก็ย่อมได้ ไม่ใช้เรื่องเหลือบ่ากว่าแรงเลย จริงอยู่ล่ะว่าผมกำลังจะใช้อำนาจของลูกชายกรรมการบอร์ดโดยมิชอบ
แต่ผมไม่อยากเห็นผู้ชายคนนี้ไม่สบายนี่นา
ประตูกระจกเปิดออก "คุณบีมโทรศัพท์ค่ะ"
ผมไม่ได้รับคำตอบ ผมไม่ได้รับโอกาสที่จะพูดกับเขา ผมไม่ได้มีสิทธิ์ใดที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเขาอีก
TBC ไม่ระบุวัน ให้กลับไทยก่อน
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
อ่านในนี้สงสารหมาจีมากกว่าอะ TT
จีก้ง้อหน่อยสิๆ นี่เงียบเฉยย ไม่พูดไม่ขอโทษ ไม่ขอโอกาสเลยย พี่เค้าจะรู้มั้ยว่ายังรัก
อยากให้คู่นี้มุ้งมิ้งๆ หวานๆ มันน่ารักน่าหมั่นไส้ดีอะ
ตอนอ่านเล่มหลัก เห็นใจคู่นี้ ทั้งๆ ทึ่เป็นคนรักเพื่อนทั้งคู่ แต่ไม่เข้าใจกันเองซะ.... ลุ้นๆๆๆ ขอให้ได้รักดีๆ ตอบแทน
จะว่าไปบริษัทนี้อยู่ที่ไหน อยากจะขอไปทำงานด้วย ชีวิตคงจะแฮปปี้ แอบดูคู่นี้ที คู่นั้นที แค่คิดก้อฟิน 555
...แต่พออ่านตอนนี้แล้วแบบ...ทำไมสงสารหมาจี TOT น้องจีผิดไปแล้วค่ะพี่บีม ยกโทษให้น้องเถอะค่ะ ฮืออออ
กลับมากุ๊กกิ๊กกันเร็วๆ น้าาาา
นี่อ่านแล้วน้ำตาจะไหล ทำไมมันบีบบอารมณ์ปานนี้
// อ่านแล้วบีบรัดจิตใจสุดๆ
อ่านตอนพิเศษสงสารจีมากกก
#เลือกทีมไม่ถูกเลย