ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] The Goat's Howling by Lingbahh

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter Four : Runaway Child

    • อัปเดตล่าสุด 10 ส.ค. 56


     

    The Goat's Howling 

     

    By Lingbahh

     

    Chapter Four : Runaway Child

     

     

     

     

     

    การสอบปากคำของนักสืบกอร์ดี้ไม่ได้ทำให้ผมวุ่นวายใจอย่างที่คิดนัก  น่าจะเป็นเพราะว่าผมเตรียมใจไว้ตั้งแต่รอบที่แล้วก็เป็นได้ และอีกประเด็นหนึ่งคือ ไม่มีหลักฐานใดๆ ชี้ตัวว่าผมเป็นฆาตกรใจเหี้ยมผู้สับมือแล้วส่งมาให้นักสืบเดรโกทางไปรษณีย์ จึงแทบไม่มีประโยชน์อะไรจะล้วงข้อมูลในสิ่งที่ผมไม่รู้  นักสืบกอร์ดี้จะซักละเอียดยิบเสียหน่อยก็คือเหตุการณ์ช่วงที่ไปรษณีย์มาส่งผม เห็นได้ชัดว่าลุงแดเนียลจะต้องเป็นรายต่อไปที่มานั่งในห้องสี่เหลี่ยมสีเทามัวซัวแทนที่ผม  

     

    “เอมิล”  นักสืบกอร์ดี้เรียกชื่อผมเป็นครั้งที่ยี่สิบเห็นจะได้ เมื่อผมเผลอใจลอยมองช่องหน้าต่างแคบๆ  อิสรภาพหนึ่งเดียวที่จะได้เห็นท้องฟ้าขมุกขมัวของวันนี้

     

    ผมเลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้นสูงแล้วพ่นลมหายใจแรงๆ  บิดตัวอึดอัดใจแล้วเอามือวางบนเป้ากางเกงของตัวเอง “จะอะไรอีกล่ะ”

     

    “เธอควรพูด ‘ครับ’  ฉันมั่นใจว่าเธอเคยอยู่ในโรงเรียนชั้นดีที่มีสอนมารยาท”

     

    สงสัยนักสืบกอร์ดี้ยังไม่ได้ไปคุยกับจ่าคนเมื่อเช้าที่เจอผมเปิดคลาสสอนมรรยาทผู้ดีให้ เขาถึงมาคาดคั้นอะไรแบบนี้อีก  น่ารำคาญชะมัดเมื่อไรเรื่องนี้จะจบๆ ไปเสียทีนะ 

     

    “ผมอยากเข้าห้องน้ำ ผมปวดหนัก.......หนักมาก”

     

    “อีกไม่กี่คำถาม”

     

    “ไม่งั้นผมจะปล่อยมันที่มุมห้องนี่ล่ะนะ  ขอเตือนไว้ก่อนว่ามันผิดหลักสุขอนามัย”

     

    นักสืบกอร์ดี้ทำหน้าฉุน  ก่อนที่จะเดินกระฟัดกระเฟียดออกไปเรียกตำรวจหน้าตาไร้พิษสงที่อ้วนฉุด้วยรอบเอว 44 คนหนึ่ง แล้วบอกให้เขาช่วยพาผมไปห้องน้ำหน่อย  ทว่ากลับโดนเถียงว่า เจ้าหนูนี่รู้จักห้องน้ำโรงพักนี้อยู่แล้ว เล่นเอานักสืบกอร์ดี้ถึงกับแยกเขี้ยวใส่ ตำรวจหุ่นลูกแพร์ผู้นั้นเลยจำใจต้องพาผมไปห้องน้ำ ผมพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่เผลอยิ้มออกมา จำเป็นต้องปั้นสีหน้าเคร่งเครียดหงุดหงิดให้สมกับที่ปวดหนักให้สมบทบาท  ผมกับเขาเดินมาจนถึงห้องน้ำขนาดสี่ห้องที่ส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์  ผมจึงหันไปมองเขา “จะไปส่งผมถึงข้างในด้วยหรือไง”

     

    คนถูกถามยักไหล่ “งั้นฉันรอข้างนอก ใช้เวลาตามสบาย ระหว่างนี้ฉันจะไปหาโดนัทกินรองท้องแล้วกันไอ้หนู นี่เลยพักเที่ยงมานานแล้วยังไม่มีไรตกถึงท้องเลย”

     

    เชิญใช้เวลาตามสบาย  เพราะผมเองก็ต้องใช้เวลาเช่นกัน

     

     

    $-$-$-$-$

     

     

    ห้องน้ำในสุดเป็นห้องน้ำขนาดกว้างหนึ่งเมตร ลึกสองเมตรที่ถูกล้อมกรอบไว้ด้วยโครงอลูมิเนียมสีเงินมันวับขัดกับพื้นกระเบื้องสีขาวมอซอที่มีคราบตะไคร่ขึ้นจับจนเขียวในมุมอับ ผนังด้านขวาของห้องน้ำมีที่จับอลูมิเนียมทรงตัวแอลยึดแน่นแข็งแรงพอสมควร  ผมสังเกตว่ามีหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งแขวนอยู่ คงเป็นของใครวางทิ้งเอาไว้  เมื่อแหงนหน้าทางผนังด้านบนขึ้นก็เห็นพัดลมดูดอากาศใบพัด 18 นิ้วแบบที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมซึ่งถูกถอดสายไฟออกและติดตั้งอยู่บนผนังคอนกรีต ผมมองมันด้วยความรู้สึกหนักใจ  หนักทั้งขนาดของพัดลมและหนักในเรื่องที่ว่าผมจะปีนขึ้นไปอย่างไรโดยไม่ตกลงมาแข้งขาหักเป็นที่สมเพชเสียก่อน  ตกส้วมขาหัก คงไม่ใช่ประสบการณ์วัยรุ่นที่น่าจดจำนักหรอก

     

    ถ้าผมทำไม่ได้....   

     

    ผมส่ายหัวสลัดความคิดนี้ออกไป เดรโกต้องฆ่าผมแน่ๆ และผมคงไม่แคล้วถูกโยนเข้าซังเต นอนตบยุงรอทนายเยาวชน สู้ในชั้นศาลและถูกตราหน้าทั้งชีวิตว่ามีประวัติอาชญากรรม ดังนั้นจึงไม่มีคำว่าทำไม่ได้ ผมยอมถูกเดรโกฟาดปากให้เลือดอาบติดต่อกันสิบครั้งยังคุ้มเสียกว่า  อย่างน้อยเขาจะเป็นคนสุดท้ายในโลกนี้จะยอมเห็นผมอยู่หลังรั้วตาข่ายสูงลิบของสถานพินิจเยาวชนผู้กระทำความผิด  แน่ล่ะ จะตั้งชื่อให้สวยหรูอย่างไรก็ตามทีแต่ทุกคนล้วนรู้อยู่แก่ใจว่าข้างในมันก็คือคุกเด็กดีๆ และเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการบ่มเพาะอาชญากรอายุต่ำกว่าเกณฑ์ให้เติบโตขึ้นเป็นอสูรกายในภายภาคหน้า  จบออกมาพร้อมปริญญาบัตรอาชญากรมืออาชีพพร้อมรับงานใหญ่ได้เลย  ถึงผมอาจจะเรียนไม่จบชั้นมัธยมปลายแต่ผมก็ไม่ต้องการอะไรแบบนั้นมาประดับชีวิตหรอกนะ  มันน่าสมเพชเกินไปสำหรับลูกชายจากครอบครัวทหาร

     

    เอาวะ ลองดูสักตั้ง

     

    ผมปิดฝาชักโครกลงแล้วค่อยๆ ปีนขึ้นไป  แนบตัวเข้ากับผนังแล้วลองจับพัดลมดูดอากาศขยับดู  พบว่าเป็นไปตามที่เดรโกบอกไว้ทุกอย่าง พัดลมดูดอากาศไม่ได้ขันสกรูไว้แถมทำจากไฟเบอร์กลาสที่มีน้ำหนักค่อนข้างเบา  ผมจึงอาศัยแรงของวัยหนุ่มเท่าที่มีอยู่ถอดพัดลมดูดอากาศออกมาตั้งใจจะวางกับพื้น  พัดลมในมือผมหนักอึ้งที่จวนเจียนจะร่วงจากมืออยู่หลายครั้งหลายคราจากเหงื่อที่ไหลออกมาจากฝ่ามือ  ผมกัดฟันสู้ จับให้แน่นขึ้น แต่กลับเป็นว่าเพ่งสมาธิมากเกินไปจนเท้าก้าวพลาดเกือบจะร่วงลงมาจูบกับพื้น  โชคดีที่ยั้งตัวไว้ได้ทันจึงยังทรงตัวอยู่ได้ ผมค่อยๆวางพัดลมดูดอากาศลงอย่างช้าๆ ท่ามกลางหัวใจที่เต้นระส่ำ

     

    ใครบางคนโผล่เข้ามาในห้องสุขาพร้อมกับเสียงผิวปากสบายใจ  หัวใจของผมเต้นแรงแทบจะโดดออกมานอกอก กลัวว่าจะถูกจับได้่ แต่ว่าเสียงผิวปากยังคงดังอยู่และเสียงของปัสสาวะก็ไหลลงโถปัสสาวะเป็นจังหวะอย่างที่มันควรจะเป็น ผมตัวดีรู้ว่ามือสั่นด้วยความกลัว แต่วินาทีนี้คงหนีไปไหนไม่ได้แล้ว จึงเลือกที่จะกดชักโครกสักครั้งหนึ่งแล้วหยิบหนังสือพิมพ์ไปเปิดให้เกิดเสียงกรอบแกรบ รอจนกระทั่งเสียงผิวปากเบาลงไป จึงโผล่หัวออกมาดูเพื่อเช็คเป็นครั้งสุดท้าย  ก่อนที่จะกลับมาสานต่อภารกิจแหกสน.ด้วยการยืนที่จุดเดิม  แหวนหน้ามองกรอบผนังสี่เหลี่ยมจัตุรัสพื้นที่สามร้อยยี่สิบสี่ตารางนิ้วที่เผยให้เห็นท้องฟ้าเทาหม่นของฤดูหนาวด้านนอก สายลมหนาวที่พัดเข้ามาด้านในทำเอาผมแทบจะแข็งไปทั้งตัว นึกเข้าใจความรู้สึกของนักโทษอยู่กลายๆ ผมก้าวเท้าซ้ายขึ้นเหยียบที่จับรูปตัวแอลที่ติดผนัง  แยกขาอีกข้่างที่เหลือยกขึ้นเหยียบท่อน้ำที่อยู่บนผนังอีกข้างด้วยอาการสั่นระริก รู้สึกว่าการทำอะไรคล้ายบัลเล่ต์นี่ช่างไม่ง่ายเลย ผมไม่ควรนึกดูถูกใครก็ตามที่เต้นบัลเล่ต์แล้วสินะ แม้ว่าจะไม่ค่อยเห็นด้วยกับกางเกงรัดเป้าพรรค์นั้นก็ตามที 

     

    ผมต้องหนี  ไม่ว่าอะไรจะรออยู่ข้างหน้าก็ตาม    เอาล่ะนะ

     

     

     

    3

     

     

    2

     

     

     

    1

     

     

    พุ่งไปเลย! 

     

     

     

     

    ตุ้บ!!!  เอ๊ะ อะไรนิ่มๆ นะเนี่ย  ผมหันไปมองข้างตัวและด้านล่างเห็นเป็นถุงสีดำและเศษโฟมบรรจุเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ รู้สึกอุ่นใจที่ไม่ได้หล่นลงมาแข้งขาหักแถมพระเจ้าดูเหมือนจะประทานพระหัตถ์อันศักดิ์สิทธิ์มารองรับเสียด้วย แต่พอมองดูดีๆ และกลิ่นแปลกๆ คันจมูกแล้ว  ผมพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนกองขยะดีๆนี่เอง  ผมรีบยันตัวขึ้นแล้วหาทางลงจากถังขยะสีเหลืองมัสตาร์ดขนาดใหญ่อย่างทุลักทุเลเนื่องจากน้ำหนักของผมเองทำให้ถุงใส่ขยะบางส่วนแตกและยวบลงไปกับก้นถัง  จนรู้สึกเหมือนถูกดูดลงทะเลขยะยังไงยังงั้น  กว่าที่จะปีนออกมาได้เล่นเอาเหงื่อท่วมตัวแถมด้วยกลิ่นเหม็นบูดของขยะสดที่มีคนแอบเอามาทิ้งปะปนกับขยะแห้งด้วย  

     

    เหม็นฉิบ...  รู้อยู่แล้วว่าเหม็นแต่ผมก็ยังจะดมเนื้อตัวของตัวเองราวกับต้องการให้ประสาทรับกลิ่นพังไปข้างหนึ่ง  ....อยากอ้วกชะมัด  แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาทำตัวเป็นคุณชายสะอาดเสียเมื่อไร   ผมหันซ้ายหันขวาพบว่าตรอกเล็กๆ ด้านข้างสถานีตำรวจนั้นไม่มีใครอยู่เลยจึงรีบวิ่งปรู๊ดหายลับไปในซอกตึกที่ก่อจากอิฐแดงมุ่งหน้ากลับอพาร์ทเมนต์และที่หลบซ่อนตัวอันแปลกประหลาดที่ถูกกำชับไว้ 

     

    ระหว่างที่กำลังหอบแฮ่กยัดเสื้อผ้าและของจำเป็นเข้ากระเป๋าเดินทางใบเล็กนั้น จู่ๆ ในหัวของผมก็มีใบหน้าของเดรโกโผล่เข้ามาในหัวพร้อมรอยยิ้มมุมปากเหมือนหมาป่าเจ้าเล่ห์....  หมอนั่นต้องหัวเราะเยาะอยู่แน่ๆ บ้าเอ๊ย!

     

     

     

     

     

    $ $ To be Con $ $

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×