คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #52 : เกมสาน (รัก) สามัคคี 100%
วันต่อมา ภีมภัทรกับธัญวลัยพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ของโรงแรม รอต้อนรับพนักงานบริษัทอย่างใจจดจ่อ เมื่อภีมภัทรได้รับโทรศัพท์แจ้งจากเลขาว่าอีกไม่นาน คณะของบริษัทก็จะเข้าถึงโรงแรม ภีมภัทรที่ยืนรอไปก็หาว วอด ๆ ๆ จนธัญวลัยที่ยืนใกล้ๆ รู้สึกรำคาญ “นี่คุณ...ไปหากาแฟกินอีกสิไป๊ ยืนหาวอยู่ได้ น่ารำคาญ!!!” ภีมภัทรหันมองธัญวลัยด้วยความขุ่นเคือง สาเหตุที่ทำให้เขาหาววอด ๆ อย่างนี้ก็เพราะใครกันเล่า ที่ทิ้งให้เขานอนตากอากาศตบยุงเกือบทั้งคืน
“นี่..ไม่ต้องทำสายตาแบบนี้เลย...สม!!!แล้วใครทะลึ่งบ้องให้จองเตียงเดี่ยวกันล่ะ” ธัญวลัยเยาะเย้ย เชิดใส่ ภีมภัทร
ภีมภัทรได้แต่ฮึ่ม ๆ ในใจ “เดี๋ยวก่อนเถอะ..ยัยธัญ!!!จอมแสบ เผลอเมื่อไรแล้วเจอกัน” ภีมภัทรลอบยิ้มแบบเจ้าเล่ห์
“นั่นไง....ค่ะ..คุณภีมคณะของคุณมาแล้วค่ะ” เจ้าหน้าที่บอก
ทั้งภีมภัทรและธัญวลัยจึงสงบศึกชั่วคราว เมื่อรถทัวร์จอดลง คณะการต้อนรับของโรงแรมก็คล้องพวงมาลัยดอกกล้วยไม้ ให้กับพนักงานทุกคน สร้างรอยยิ้มและความประทับให้กับทุก ๆ คน จิ๊บซึ่งเป็นหัวหน้าทีมในการพาพนักงานบริษัทมาเที่ยวในครั้งนี้ บอกถึงการเข้าพักของพนักงานแต่ละคน จิ๊บจะรับผิดชอบพนักงานหญิง ส่วนคุณประพนธ์จะรับผิดชอบพนักงานชาย และแยกการเข้าพักไว้อย่างเป็นสัดส่วน ว่าใครอยู่โซนไหนกันบ้าง ซึ่งแต่ละโซนนั้นก็จะไม่ไกลกันมาก ทั้งทุกโซนก็จะมีพนักงานของทางโรงแรมและคณะทัวร์คอยทำการบริการอยู่ใกล้ ๆ หากมีคนไหนต้องการอะไรเพิ่มเติม ซ้ำยังบอกถึงกำหนดการเมื่อเข้าห้องพักเสร็จ ก็จะมีกิจกรรมที่ทางโรงแรมได้ทำการเตรียมไว้ให้กับคณะของบริษัทได้ร่วมสนุกกัน เมื่อเสร็จจากการบอกรายละเอียดต่าง ๆ ใบหน้าของพนักงานทุกคนล้วนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม บางรายรู้สึกตื่นเต้นกับการได้มาพักผ่อนในครั้งนี้ ระหว่างที่จิ๊บพูดอยู่นั้น ภีมภัทรยังยืนหาวอยู่อย่างนั้น ทั้งยังแอบเกาบริเวณทั้งแขน ขาและลำคอ ซึ่งเป็นของแถมจากการที่เขานั้นนอนตบยุงอยู่ทั้งคืน
คุณประพนธ์ที่สังเกตอาการของภีมภัทรตั้งแต่เรียก จึงกระซิบถามเบา ๆ “เจ้านาย...เมื่อคืนคงดึกมากเลยใช่มั้ยครับ” ประพนธ์ถามอย่างมีเลศนัย พูดพลางพยักเพยิดไปทางธัญวลัยที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ กับภีมภัทร ที่ขณะนี้ให้ความสนใจถึงการแจงรายละเอียดของกิจกรรมที่มีการได้เตรียมการไว้
ภีมภัทรไม่กล้าที่จะบอกความจริง ว่าอาการที่เขาเป็นตอนนี้เพราะนอนนอกห้องโดยมียุงเป็นเพื่อน จึงได้แต่พยักหน้าแทนคำตอบ แถมยังเก๊กฟอร์มว่าเป็นเรื่องปกติ ประพนธ์ยกนิ้วให้ด้วยความนับถือ “เจ้านายแน่มากครับ” ภีมภัทรยิ้มกร่าง ๆ แต่ต้องหุบยิ้มแทบไม่ทัน เมื่อโดนธัญวลัยหยิกที่สีข้างอย่างแรงที่มัวแต่โม้
เมื่อการแจกแจงรายละเอียดเสร็จเรียบร้อย ทุกคนจึงแยกย้ายไปสำรวจที่พักของตนเองทันที เพราะอีก 2 ชั่วโมงต่อจากนี้ จะมีการจัดกิจกรรมนันทนาการของบริษัท
ที่โรงพยาบาล พริมรตามีการนัดหมอเพื่อไปตรวจตามกำหนด แฮมที่มีสีหน้ากังวล พริมรตาสังเกตเห็นอาการผิดปกติของแฮมที่มีตั้งแต่เมื่อวัน จึงถามด้วยความเป็นห่วง
“แฮมคะ...ดูสีหน้าคุณไม่สบายเลย แวะหาหมอตรวจหน่อยไหมคะ”
“มะ..ไม่จ๊ะ ผมไม่เป็นไร ผมแค่เป็นห่วงคุณและก็.ธะ..เอ่อ” แฮมหันมองพริมรตาที่ขณะนี้ส่งสายตาพิฆาตมาที่เขา “เอ่อ...ผมเป็นห่วงทีมงานของบริษัทที่ไปเที่ยวครั้งนี้นะสิ..แหม...ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้าง” แฮมเกือบพลั้งปากว่าเข้าเป็นห่วงใคร ขืนหลุดปากพูดไป เกรงว่าพริมรตาได้ยินจะยิ่งเข้าใจผิดไปใหญ่
“แน่ใจนะ” พริมรตาหันมาคาดคั้นสามี
“จ้า..ที่รัก” แฮมเสียงอ่อย เข้าประคองพริมรตาอย่างเอาใจมุ่งหน้ากลับบ้านทันที
ที่หัวหิน กิจกรรมนันทนาการ กำลังเริ่มขึ้น ขณะที่คุณจิ๊บกำลังอธิบายถึงเกมสานสามัคคี กติกามีอยู่ว่า พนักงานทุกคนต้องจับฉลากหาบัดดี้ในการเล่นเกม เมื่อหาบัดดี้ได้แล้ว ก็จะร่วมเล่นเกมตามกติกาที่กำหนดไว้ ระหว่างที่คุณจิ๊บกำลังอธิบายอยู่ ธัญวลัยขอตัวเดินเล่นอยู่ชายหาด ใกล้ ๆ กับลานกิจกรรมที่กำลังมีขึ้น ด้วยเหตุผลที่ว่าเธอไม่ใช่คนในบริษัท หากอยู่ร่วมด้วยคงเป็นการไม่เหมาะสม ส่วนภีมภัทรในฐานะตัวแทนผู้บริหาร เขาจำต้องเล่นเกมนี้เพื่อเป็นการสานสัมพันธ์ภาพที่ดีระหว่างเจ้านายกับลูกน้อง ขณะที่ทำกำลังทำหาคู่อยู่นั้นมี มีภีมภัทรคนเดียวที่ไม่สามารถมีคู่เพราะขาดผู้เล่นไปหนึ่งคน ภีมภัทรเสนอธัญวลัยให้ร่วมเล่นด้วย พนักงานทุกคนล้วนมีความยินดีส่งเสียงเฮฮา กรี๊ดกร๊าด ที่ให้ธัญวลัยเข้าร่วมด้วย ภีมภัทรไม่รอช้ารีบเดินไปหาธัญวลัยทันที ธัญวลัยที่ได้ยินเสียงดังโหวกเหวกก็หันไปมองด้วยความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่ทันไรภีมภัทรก็ถึงตัวธัญวลัยพอดี “เกิดอะไรขึ้นคะ เสียงดังเชียว”
“เอ่อ...คือว่า...ลูกน้องผมอยากให้คุณร่วมเล่นเกมด้วยน่ะ คุณจะว่ายังไง”
“เฮ้ย!!!ไม่เอาดีกว่า...ฉันว่าไม่เหมาะมั้งนะ..เชิญพวกคุณตามสบายเหอะ”
ระหว่างที่ทั้งคู่ถกเถียงกันอยู่ เสียงโทรโข่งของคุณจิ๊บก็ดังขึ้น “ขอเชิญคุณธัญ..มาเป็นแขกพิเศษร่วมเล่นเกมกับพวกเราด้วยค่ะ”
“เอ้า...พวกเราส่งเสียงต้อนรับคุณธัญเขาหน่อย” สิ้นเสียงจิ๊บ พนักงานทุกคนล้วนส่งเสียงเชื้อเชิญ บางคนก็ปรบมือ บางคนก็โบกมือทักทาย ธัญวลัยเห็นดังนั้น จึงยากที่จะปฏิเสธ ยอมเดินตามภีมภัทรโดยดี เมื่อครบคู่แล้ว จิ๊บหยิบหนังสือพิมพ์ออกมาแจกเพื่ออธิบายกติกาในการเล่นเกม “กติกาของเกมคือ ให้คู่ของแต่ละคนยืนอยู่บนหนังสือพิมพ์ที่ได้แจกกันไป หากเท้าของคนใดคนหนึ่งออกนอกอาณาเขตของหนังสือพิมพ์ตกรอบไปเลย แต่ละรอบของการเล่นทั้งคู่ต้องคอยดูไม่ให้หนังสือพิมพ์มีรอยฉีกขาด และที่สำคัญทุกรอบในการเล่น ขนาดของหนังสือพิมพ์จะเล็กลงเรื่อย ๆ โดยให้ทั้งคู่คิดทำอย่างไรก็ได้ เพื่อที่จะให้อยู่ในอาณาเขตของหนังสือพิมพ์ ให้เวลาทั้งคู่ในการคิดหาวิธีที่จะทำอย่างไรก็ได้ในการที่จะอยู่บนหนังสือพิมพ์ได้ตามกติกา เมื่อสิ้นสัญญาณนกหวีดเป็นอันเริ่มเกมนะคะ” จิ๊บนิ่งไปนิดนึง เพื่อสังเกตการณ์ความพร้อมของผู้เล่นแต่ละคน
“เอ้า..เริ่มค่ะ” จิ๊บเป่านกหวีดส่งสัญญาณเริ่มต้นของเกม ทุกคนต่างพยายามยืนบนหนังสือพิมพ์ตามกติกา ต่างช่วยกันดูว่ายังอยู่ในอาณาเขตหรือไม่ และก็ผ่านไปได้ด้วยดี สักพักเมื่อขนาดของหนังสือพิมพ์เริ่มเล็กลง จำนวนผู้เล่นก็ลดลงตาม บ้างก็ล้มกัน บ้างก็ทำหนังสือพิมพ์ขาดบ้าง แต่สิ่งที่เห็นคือ เสียงหัวเราะ กันไปมาดังลั่นลานกิจกรรมที่ได้เตรียมไว้
จนมาถึงคู่ของภีมภัทรและธัญวลัย ที่ต้องมาลุ้นกับอีก 1 คู่ว่าใครจะอยู่หรือจะไป ขณะนี้ขนาดหนังสือพิมพ์นั้นเล็กลง พื้นที่ในการยืนก็เล็กลงเรื่อย ๆ จนพื้นที่สามารถบรรจุได้เพียงแค่คนเดียว ไวเท่าความคิด ธัญวลัยเอ่ยปากขอโทษภีมภัทรและก็ให้มือเรียวของเธอเกาะที่ไหล่หนาของภีมภัทร ธัญวลัยถอดรองเท้าแตะวางไว้ด้านนอกของหนังสือพิมพ์ ธัญวลัยค่อย ๆ เหยียบบนเท้าของภีมภัทรอย่างเบาๆ ด้วยความกลัวที่จะทำให้ภีมภัทรเจ็บ แล้วจะพาลทำให้เธอล้มเจ็บไปด้วย แม้ภีมภัทรจะเจ็บเล็กน้อยแต่ในหัวใจกลับอิ่มเอม เปรมสุด ๆ เจ็บแค่นี้ถือว่าคุ้ม ใบหน้าตอนนี้ของธัญวลัยแทบจะแนบกับไหล่ของเขา ภีมภัทรใช้มือทั้งสองโอบกอดธัญวลัยให้แน่นมากยิ่งขึ้น ธัญวลัยมีสีหน้าไม่พอใจ พูดเบา ๆ ให้ได้ยินกันสองคน “นี่นาย ไม่ต้องกอดฉันแน่นก็ได้นะ”
“เอ้า!!! ผมเป็นห่วงคุณนะเนี่ย...กลัวคุณจะล้มหงายหลังไป ขืนล้มไป คุณอายเขาแน่ ๆ” ภีมภัทรเอาดีเข้าตัว ทั้ง ๆ ที่ใจจริง เขาอยากจะหยุดเวลาตรงนี้เอาไว้ให้นานที่สุด นาน ๆ จะได้มีโอกาสกอดธัญวลัยแบบเต็มที่เสียที แถมยังได้สูดกลิ่นหอมแป้งเด็กจาง ๆ ที่แก้มใสของธัญวลัย หากไม่ติดว่าคนอยู่เยอะล่ะก็ ป่านนี้เขาคงได้สัมผัสแก้มใส ๆ แถมได้ชิมความหวานที่ริมฝีปากแม่ตัวดีไปแล้ว
พนักงานทุกคนยังคงสนุกกับเกมอย่างเต็มที่บ้างส่งเสียงเชียร์คู่ภีมภัทรกับธัญวลัย บางคนก็ส่งเสียงเชียร์พรรคพวกของตน ดูสนุกสนานและเป็นกันเอง ประพนธ์ทำหน้าที่เก็บภาพกิจกรรมที่น่าประทับใจ และก็ไม่พลาดที่จะเก็บ
ธัญวลัยได้ยินก็สั่นหัวหงึก ปฏิเสธหัวสั่น หัวคลอน เพราะหากกินอย่างนั้น มันก็เหมือนเธอกับภีมภัทรจูบกันน่ะสิ “โอ้ว...แม่เจ้า...ไม่นะ” ตรงข้ามกับภีมภัทรที่ยิ้มหน้ากวน ๆ ท้าทายธัญวลัย “ไม่ล่ะซิคุณ ป๊อดก็บอกมา ผมจะได้บอกเขาว่าคุณขอสละสิทธิ์”
“จะบ้าหรือไง...เงียบปากไปเลยนะ” ธัญวลัยเหวี่ยงใส่ภีมภัทร พลางคิดในใจ ลูกพี่ ลูกน้อง เตี๋ยมกันมาหรือเปล่าว่ะเนี่ย แล้วฉันจะทำไงดีว่ะ
“กินเลย!!! กินเลย!!!! กินเลย!!!!” ดังมาเป็นระยะ และก็ดังขึ้นเรื่อย ๆ ธัญวลัยจึงยากที่จะปฏิเสธ เธอจึงหันไปถามจิ๊บ “กินแค่แท่งเดียวใช่มั้ยคะ” จิ๊บเหลือบมองภีมภัทรที่ยืนขมุบขมิบบอกบทด้านหลังธัญวลัย จิ๊บพยักหน้าตอบธัญวลัย ธัญวลัย ถอดหายใจด้วยความโล่งอก “เอาว่ะ อันเดียวแค่อันเดียว ดีกว่าให้กินแบบนี้หมดกล่อง”
“ค่ะ ตกลงค่ะ” ธัญวลัยตอบไม่เต็มเสียงนัก ในใจของเธอตอนนี้เต้นไม่เป็นระส่ำ นึกภาพขึ้นมาแล้วหลอน ๆ ชอบกล
และแล้วการกินป๊อกกี้ของทั้งสองก็เริ่มต้นขึ้น จิ๊บจัดท่าทางให้ธัญวลัยให้มือทั้งสองแตะไปที่ไหล่หนาทั้งสองของภีมภัทร ธัญวลัยแย้งแต่จิ๊บกลับบุ้ยใบ้ไปทางกองเชียร์ที่มองมาด้วยใจจดจ่อ ด้านภีมภัทรใช้มือทั้งสองแตะไปที่เอวของธัญวลัย ป๊อกกี้รสสตอเบอรี่อยู่ที่ปากของทั้งสอง เมื่อสิ้นเสียงนกหวีดทั้งธัญวลัยและภีมภัทรใช้ปากและฟันค่อย ๆ กัดป๊อกกี้ทีละนิด จนเมื่อถึงขนาดของป๊อกกี้เล็กลง ริมฝีปากของทั้งคู่ปะทะกันอย่างตั้งใจ ธัญวลัยนิ่ง ส่วนภีมภัทรฉวยโอกาสนี้ ใช้ริมฝีปากของเขาประทับไปที่ริมฝีปากของธัญวลัยเบา ๆ ธัญวลัยตาเหลือกรีบผละจากภีมภัทรโดยเร็ว เผลอใช้มือแตะที่ริมฝีปากของตัวเองเบา ๆ ด้วยความเขินการทำงานของหัวใจเต้นแบบผิดจังหวะ เมื่อได้สติธัญวลัยรีบฉีกยิ้มอันสดใสให้แก่บรรดาพนักงาน ส่วนภีมภัทรฉวยมือของธัญวลัยมากุมไว้เบา ๆ พร้อมทั้งมีรอยยิ้มเป็นอันเสร็จการกินป๊อกกี้พิสูจน์พลังความรัก จุ๊บปากสามัคคีที่ทั้งคู่ได้เล่นกิจกรรมจนชนะ เสียงโห่แซว เสียงกรี๊ด ด้วยความยินดี ของพนักงานที่มีให้ทั้งสองคน บรรยากาศตอนนี้เหมือนกับงานฉลองวิวาห์ยังไงยังงั้น
ตอนค่ำของวันเดียวกัน ณ ห้องจัดเลี้ยงของโรมแรม ถูกจัดขึ้นเป็นอาหารค่ำไว้ต้อนรับคณะของภีมภัทร เพื่อกระชับความสัมพันธ์บริษัทก็เริ่มขึ้น อาหารทะเลถึงจัดวางไว้มุมหนึ่งของห้องจัดเลี้ยง บนเวทีขณะนี้นักร้องประจำโรงแรมที่มาขับกล่อมเสียงเพลงมีอันต้องไปพักผ่อน เพราะพนักงานบริษัทของภีมภัทรต่างผลัดกันขึ้นขับร้องเพลงคาราโอเกะอย่างเมามัน ด้านล่างเวทีมีการโยกย้าย ออกท่าทาง ตามเสียงเพลง สร้างความครึกครื้นสนุกสนาน บรรยากาศอบอวนไปด้วยความสนุกและอบอุ่นอย่างเป็นกันเอง
ขณะที่ตอนนี้ทั้งภีมภัทรและธัญวลัยต่างก็นั่งกินอาหารทะเลอย่างเอร็ดอร่อย เคลิ้มไปกับบรรยากาศที่อยู่โดยรอบ พนักงานบริษัทบางคนทำการชักชวนภีมภัทรดื่มเบียร์ ภีมภัทรมองธัญวลัยอย่างเกรง ๆ กลัวธัญวลัยจะว่า แต่ธัญวลัยไม่ถือ บอกภีมภัทรให้ตามสบาย เพราะนาน ๆ จะได้มีโอกาสสนุกสนานกันอย่างนี้ อีกทั้งเป็นการส่งผลดีต่อความสัมพันธ์ระหว่างเจ้านายกับลูกน้อง ภีมภัทรจึงถือโอกาสสนุกสนานแบบเต็มที่ พลางคิดในใจ "งานนี้...ยัยธัญเสร็จแน่ๆ ฮิึ ๆ ๆ!!!" พลางคิดในใจก็กระดกแก้วแบบทีเดียว ธัญวลัยเห็นว่าเริ่มดึกมากแล้ว จึงปลีกตัวเข้าห้องพักผ่อน ปล่อยให้ภีมภัทรสนุกไปกับงานเลี้ยงมื้อค่ำให้เต็มที่ เพราะหลังจากวันนี้ไป เขาคงต้องลุยกับงานที่กำลังเข้ามา
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ครบ 100% แล้วจ้า ถูกใจรึเปล่า หายไปนานเลยโทษทีจ้า ToT สมองตีบตัน และสถานการณ์มีแต่ตึงเครียดเนอะ เลยหมดใจจะแต่ง เม้นต์โหวตนะจ๊ะ (อย่าพึ่งทิ้งกันนะ)
ความคิดเห็น