คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #50 : ออกเดินทาง
เมื่อธัญวลัยขับรถมาถึงบ้านของภีมภัทร เป็นใหญ่และภรณ์พรรณนั่งรอการกลับมาของภีมภัทรเมื่อรู้ข่าว ธัญวลัยที่เดินเข้ามาด้วยความกังวลปนรู้สึกผิดที่ทำให้ภีมภัทรต้องมาเจ็บตัว ภรณ์พรรณเมื่อเห็นธัญวลัยก็ปรี่เข้าไปถามไถ่ด้วยความคิดถึง โดยไม่สนใจบุตรชายที่ยืนเจ็บอยู่ข้าง ๆ “ธัญ...หนูเป็นอย่างไรบ้างล่ะลูก” “บาดเจ็บตรงไหนบ้างหรือเปล่า” ภรณ์พรรณพูดพลางจับตัวธัญวลัยหมุนซ้ายหมุนขวาสำรวจบาดแผล ธัญวลัยส่ายหน้าเบา ๆ “หนูไม่เป็นไรค่ะ ดีที่ได้คุณภีมมาช่วยไม่งั้นธัญเจ็บแน่ค่ะ ยังไงหนูต้องขอโทษคุณลุงและคุณป้าด้วยนะคะ” ธัญวลัยยกมือไหว้ขอโทษทั้งสองที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้ลูกชายของเขาต้องเจ็บตัวเพราะเธอ
เป็นใหญ่หัวเราะร่วน “ไม่เป็นไรหรอกหนูธัญ..อย่ากังวลเลย ไอ้ภีมน่ะ มันเต็มใจอยู่แล้ว ดูสิ ขนาดเจ็บอย่างนี้มันยังยืนยิ้มอยู่ได้อีก”
ภีมภัทรอมยิ้มที่คำที่พ่อแซวเขา “โธ่พ่อ...อย่าแซวผมสิ”
“ไป..เราไปกินข้าวกันดีกว่า วันนี้พริมกับแฮมเขาไปสวีตกันสองคน เนี่ยปล่อยให้พ่อกับแม่รอแกอยู่ ดีนะวันนี้หนูธัญกินข้าวกับลุงกับป้าหน่อยนะ ถือว่าทำบุญกับคนแก่ก็แล้วกัน กินกันน้อยแล้วไม่เจริญอาหารเท่าไร” เป็นใหญ่ชักชวนด้วยคำพูดที่เป็นกันเองแกมบ่น เมื่อธัญวลัยได้ยินก็ยากที่จะปฏิเสธ ได้แต่ยิ้มเจื่อน ๆ
ด้านพริมรตากับแฮมก็นั่งอยู่ในร้านอาหาร ทั้งสองดื่มด่ำกับบรรยากาศ แฮมเอาอกเอาใจพริมรตา ต่างตักอาหารให้กัน ผลัดกันป้อน คนทั้งคู่คอยส่งสายตาหวานซึ้งกันไปมา เปรียบเสมือนโลกนี้มีเพียงสองคน จนคนในร้านอาหารต่างก็ตาร้อนผ่าวด้วยความอิจฉา
เมื่อทุกคนพร้อมที่โต๊ะอาหาร ภีมภัทรที่กำลังกินข้าวที่ไม่ถนัดนัก เพราะมือที่เจ็บดันเป็นมือขวามือที่เขาถนัดเสียด้วย ต้องมาอาศัยมือซ้ายเป็นตัวช่วย ธัญวลัยที่เห็นแต่แรกจึงเอ่ยถามเบา ๆ “ยังเจ็บมืออยู่เหรอ?” ภีมภัทรพยักหน้าแต่ก็บอกว่าไม่เป็นไร ธัญวลัยจึงเอ่ยขอโทษเขาเบา ๆ และตักอาหารให้เป็นการขอโทษและขอบคุณ
เป็นใหญ่แอบยิ้มด้วยความพอใจให้กับพฤติกรรมของหนุ่มสาว พลางนึกงานสำคัญขึ้นมา “เออ..ภีมแล้วเที่ยวประจำปีของบริษัทดำเนินการไปถึงไหนแล้ว?”
“เอ่อ..เอ่อ...ครับพ่อ” ภีมภัทรเกิดอาการงงเพราะไม่ทันฟังในสิ่งที่พ่อถาม เพราะมัวแต่มองธัญวลัยอย่างปลื้ม ๆ ที่เธอคอยตักอาหารให้เขา
“พ่อถามว่าเรื่องที่จะเที่ยวประจำปีของบริษัทไปถึงไหนแล้ว?”
“อ๋อ...ครับพ่อทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีครับ ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง”
“ดี..แล้วสภาพแกจะไหวมั้ย? น้องแกกับแฮมไม่ได้ไปด้วยนะ รู้หรือยัง?
“ครับ...ผมรู้แล้ว”
“เออ..จริงสิ..หนูธัญ..หนูไปกับตาภีมมั้ย?” ภรณ์พรรณเอ่ยชวนอย่างกระตือรือร้น
“คือ..หนู..เอ่อ..เอ่อ” ธัญวลัยมีอาการอึกอักไม่อยากจะไปกับภีมภัทรเพราะยังเคืองภีมภัทรอยู่และยังไม่ไว้ใจภีมภัทร
ภีมภัทรเห็นอาการอึกอักของธัญวลัย จึงเอ่ยขึ้น“แม่ครับ อย่าทำให้เขาลำบากใจเลย ผมว่า...”
“ไม่เป็นไรค่ะ” ธัญวลัยโพล่งขึ้นมา “หนูไปก็ได้ค่ะ” ภีมภัทรครางชื่อธัญขึ้นมาเบา ๆ มองหน้าธัญวลัยอย่างประหลาดใจปนดีใจ
“อุ้ย!!จริงเหรอจ๊ะ..แหมดีใจจัง ยังนี้ป้ากับลุงจะได้เบาใจหน่อย เกรงว่าตาภีมจะไม่ไหว ป้าขอบใจหนูจริง ๆ นะหนูธัญ ยังไงซะป้าก็ฝากตาภีมด้วยนะลูก” ภรณ์พรรณพูดไปยิ้มไปอย่างอารมณ์ดี ธัญวลัยได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ
......................................................................
เมื่อถึงวันกำหนดการเดินทาง ภีมภัทรขับรถมาที่บ้านของธัญวลัยเพื่อจะมารับธัญวลัยไปด้วยกันตามที่ได้ตกลงกันไว้ เตี่ยธัญวลัยตื่นเต้นกับการไปเที่ยวครั้งนี้ของธัญวลัยกว่าใครในบ้าน เร่งปลุกให้ธัญวลัยตื่นขึ้นมาเตรียมตัวแต่เช้าเพื่อไม่ให้เสียเวลา ธัญวลัยได้แต่บ่นงึมงำ ทั้งเฮียและมาม้าได้แต่สายหน้ากับพฤติกรรมของพ่อลูกคู่นี้
ธัญวลัยเมื่อเตรียมตัวเสร็จก็จัดแจงนำกระเป๋าที่เธอได้เตรียมไว้พร้อมเสบียงระหว่างเดินทาง ทันทีที่ภีมภัทรมาถึงต้องตะลึงกับถุงเสบียง 3 ใบที่วางกองใกล้กับกระเป๋าเดินทางของธัญวลัยที่ดูเหมือนเสบียงจะใหญ่กว่ากระเป๋าเดินทางเสียอีก
“โห!!คุณ!!..จะเตรียมตัวไปไหนเนี่ย!!”
“อ้าว!! ก็เตรียมไปกินระหว่างทางไง”
“เหรอ? ผมนึกว่าจะไปเข้าค่ายเสียอีก” ภีมภัทรพูดขำ ๆ
“ทำไม!!!..ฉันไม่เห็นว่าจะเสียหายตรงไหนเลย เตรียมไปน่ะดีแล้ว รึว่าคุณจะไม่กิน ก็ดีนะ ฉันจะได้กินอยู่คนเดียว โธ่เอ้ย!!! ไม่น่าเตรียมเผื่อด้วยเลย” ธัญวลัยบ่นพลางเกาศีรษะที่นึกฉุนคนอุตส่าห์หวังดีดันโดนบ่น
ภีมภัทรอมยิ้ม ที่ธัญวลัยเตรียมขนม เสบียงซะมากมายก็เพราะเผื่อเขาด้วยนั่นเอง
“ขอบคุณนะครับ” ภีมภัทรยิ้มทำสายตากรุ้มกริ่มใส่ธัญวลัย
“อะไร!!” ธัญวลัยแว้ด หันตาขวาง เข้าใจว่าภีมภัทรตบหัวแล้วลูบหลัง
“ก็...ที่คุณเตรียมขนมพวกนี้ไว้เผื่อผมด้วยน่ะซิ”
“นี่...น้อย..หน่อย...ฉันจะบอกอะไรให้นะ...ที่ฉันเตรียมไปก็เพราะสังเวชมากกว่า” ธัญวลัยพูดแก้เก้อ
“อ้าว!!!ไอ้ธัญเสร็จรึยัง รีบไปซิเดี๋ยวสายหรอก” เตี่ยส่งเสียงเร่งให้ธัญวลัยรีบออกเดินทาง ผิดวิสัยอันปกติ จนเฮียอ๋องต้องสะกิดถามเบา ๆ
“เตี่ย...จะเร่งไอ้ธัญมันไปไหนเนี่ย ทีเมื่อก่อนนะมันจะไปไหนมาไหนต้องคอยถาม ไปไหน? ไปกันใคร? กลับกี่วัน? ถามอยู่นั่นแหละ จนมันไม่อยากไป แล้วทีนี้ทำมาเร่งมัน เตี่ยคิดอะไรป่ะเนี่ย?”
เตี่ยที่ยิ้มอิ่มใจ หุบยิ้มแทบไม่ทันเมื่อลูกชายถาม “อ้าว!!!....เฮ้ย!!!ไอ้อ๋อง...ถามอย่างนี้หาเรื่องเตี่ยรึเปล่าว่ะ”
“เปล้า...ผมแค่สงสัย เตี่ยไม่มีอะไรน่ะดีแล้ว” “ไม่ใช่ว่าอยากจะอุ้มหลานจนตัวสั่นถึงกับพยายามเร่งให้มันรีบ ๆ ล่ะ” เฮียอ๋องดักคอ
“แหม...แกนี่สมกับเป็นลูกเตี่ยจริง ๆ” เตี่ยกระหยิ่มยิ้มย่อง พลางลูบหัวอ๋องอย่างรู้ใจ
“เฮ้อ...ไม่รู้จะหาเรื่องไปทำไม้?” เฮียอ๋องบ่น พลางเดินไปหาธัญวลัย ที่แยกตัวไปเอาของกินมาเพิ่ม
“ธัญ...อ่ะนี่” เฮียอ๋องส่งของบางอย่างให้กับธัญวลัย
“อะไรน่ะเฮีย” ธัญวลัยสงสัย
เฮียอ๋องปรามให้ธัญวลัยพูดเบา ๆ “เออ..น่า....เอาไว้ป้องกันตัว” เฮียอ๋องกระซิบ ยัดเยียดใส่มือธัญวลัย ธัญวลัยรับมางง ๆ แล้วใส่กระเป๋ากางเกงทันที
เฮียอ๋องพูดต่อทันที “อย่าให้ไอ้ภีมมันรู้...พกไว้ติดตัวเสมอ หากอะไรที่มันไม่น่าไว้จัดการทันทีนะ ดูแลตัวเองด้วย และอย่าปิดมือถือล่ะ” เฮียอ๋องกำชับ ธัญวลัยได้แต่พยักหน้า ส่วนมาม้ากับเตี่ยกำลังพูดคุยกับภีมภัทรอย่างออกรส สังเกตได้จากเสียงหัวเราะที่ดังมาเป็นระยะ
“อ้าว!! ไอ้ธัญเสร็จรึยัง” เตี่ยตะโกนส่งเสียงเรียกธัญวลัย
“เสร็จแล้วค่ะ...กำลังจะออกไป” ธัญวลัยตะโกนออกไป เฮียอ๋องตบที่ไหล่ธัญวลัยเบา ๆ เร่งให้ออกไปโดยเร็ว เตี่ยจะได้ไม่สงสัย
“ขอบคุณนะเฮีย” ธัญวลัยพูดแล้วเดินออกไป เตรียมตัวที่จะเดินทาง
------------------------------------------------------------------------------
จบอีกตอนแล้ว ดีใจจัง เม้นต์โหวตด้วยนะคะ (สุขสันต์วันสงกรานต์ให้ทุกคนมีความสุขมากมาย สุขภาพแข็งแรง แม้สถานการณ์บ้านเมืองจะตึงเครียดก็ตาม) สู้ ๆ ภาวนาให้บ้านเมืองสงบสุขเสียทีนะ
ความคิดเห็น