คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #45 : หมดแรง
ตกเย็นเมื่อแฮมเคลียร์งานเสร็จก็รีบกลับมาบ้านด้วยความเป็นห่วงภรรยา เมื่อมาถึงบ้านแฮมก็ตรงดิ่งไปที่นั่งมุมโปรดของพริมรตา แต่ต้องเจอกับความว่างเปล่า แฮมมีสีหน้าที่ผิดหวังเล็กน้อย แต่ด้วยความเป็นห่วงภรรยาจึงไปสอบถามกับป้าเย็น ถึงอาการป่วยของพริมรตา
ป้าเย็นตอบยิ้ม ๆ ว่า “คุณพริม..พักอยู่ข้างบนค่ะ วันนี้ทานได้น้อย ทานไปไม่เท่าไรก็อาเจียนหมดเลย...ป้าว่าคุณแฮมน่าจะดูเธอสักหน่อยนะคะ”
“อ้าว...แล้วทำไมไม่โทรหาผมล่ะครับป้า” แฮมไม่พอใจ
“แหม...ก็คุณพริมบอกว่าไม่อยากรบกวนคุณน่ะสิคะ...บอกว่างานยุ่ง...ป้าก็เลยไม่อยากจะขัดใจ...คนทะ...เอ่อ....คนที่มีอาการแบบนี้...มักจะหงุดหงิดง่าย...ปะ....ป้าก็เลย.....” ป้าเย็นพูดอ้อมแอ้ม จนแฮมรู้สึกรำคาญ ส่ายศีรษะไม่อยากจะรับฟัง แล้วรีบผละไปทันที ภรรยาเขาป่วยทั้งคน น่าจะมีการโทรแจ้งกันบ้าง พริมรตานี่ก็น่าตีซะจริง ๆ ดื้อไม่มีที่สิ้นสุด สงสัยต้องลงโทษกันเสียหน่อยแล้ว
เวลาเย็น ธัญวลัยกลับมาถึงบ้าน พบว่าเตี่ย มาม้าและเฮียอ๋อง ต่างนั่งดูการแถลงข่าวของเธอกับภีมภัทรด้วยความอิ่มอกอิ่มใจ โดยไม่สนใจว่าเธอนั้นกลับมาบ้านแล้ว ธัญวลัยเดินขึ้นไปบนห้องนอนด้วยความหมดอาลัยตายอยาก เธอนั่งบ่นกับตัวเอง “นี่คง..เป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้วล่ะ
..” ธัญวลัยยิ่งคิดน้ำตาก็เริ่มซึมออกมาเล็กน้อย เธอซูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อปรับสภาพ และเตือนตัวเองว่าอย่าอ่อนแอ เด็ดขาด อย่าเสียใจกับการกระทำของตนเอง ธัญวลัยสะบัดศีรษะเพื่อไล่ความฟุ้งซ่านออกไป
ภีมภัทรที่แม้จะเลยเวลาเลยงานไปนานแล้ว เขาก็ยังนึกถึงคำพูดของแฮมที่ยังก้องอยู่ในโสตประสาทของเขา “พี่ภีมก็จะได้ก็จะได้แค่ตัวธัญเขาเท่านั้น!!!” ภีมภัทรนึกแล้วก็อดใจหายไม่ได้ ภีมภัทรนั่งทอดสายตามองไปยังด้านนอก ทิวทัศน์ในยามเย็นตอนนี้มันช่างดูเหงา ๆ พิกล น่าแปลก ทำไมนะ ทำไม หลายครั้งที่เขาได้อยู่ใกล้กับธัญวลัย เขาถึงได้มีความสุข ยิ่งได้แกล้ง ได้แหย่เธอ เขารู้สึกมีชีวิต ชีวามากขึ้น อย่างบอกไม่ถูก ทุกครั้งที่ใกล้ชิดกัน สีหน้า รอยยิ้ม ทั้งยามที่ธัญวลัยโกรธ อากัปกิริยาอาการทุกอย่างที่เป็นของธัญวลัย ทำเอาเขาอดที่จะอมยิ้มไปด้วยไม่ได้จริง ๆ หากธัญวลัยต้องจากเขาไปจริง ๆ เขายอมไม่ได้เด็ดขาด แต่ ณ เวลานี้ สิ่งที่เขาทำได้คือ การที่จะยื้อเวลาให้เขากับเธอได้อยู่กันให้ได้นานที่สุด หากเป็นเวลาสั้น ๆ เขาก็ยินดี เพียงแต่ขอให้ธัญวลัยอยู่ใกล้ๆ เขาก็พอ ภีมภัทรไม่รอช้าเขาหยิบกุญแจรถแล้วรีบมุ่งหน้าไปยังเป้าหมายทันที
“เพราะเธอ...ธัญ...เธอทำให้ฉันเหมือนเป็นคนบ้าทุกครั้งที่คิดถึงเธอ”
ทางแฮมเมื่อมาถึงห้องนอนก็พบว่าภรรยาสาวของเขากำลังหลับสนิท แฮมที่มีสีหน้าหงุดหงิดในตอนแรก กลับดูคลายลงเป็นอย่างมาก เขาค่อย ๆ เดินไปหาอย่างช้า ๆ และเบาที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนการพักผ่อน แฮมค่อย ๆ ใช้มือของเขาไกล่ที่เส้นผมอย่างเบามือ และบรรจงจุมพิตเบา ๆ ที่หน้าผากอย่างทะนุถนอม พริมรตารู้สึกตัวว่ากำลังถูกรบกวน จึงค่อย ๆ ลืมตาอย่างช้า ๆ และพบว่าคนที่กำลังกวนเธออยู่นั้นไม่ใช่ใคร สามีของเธอนั่นเอง พริมรตาค่อย ๆ ขยับตัวจะลุกขึ้น แต่แฮมรั้งไว้ “ คุณ...พักผ่อนเถอะ...เดี๋ยววันนี้ผมจะปรนนิบัติคุณเอง” แฮมพูดยิ้ม ๆ
พริมรตาพยักหน้ารับ “คุณปวดหัวมากไหม....” แฮมถามอย่างอ่อนโยน มือก็อังที่หน้าผากของพริมรตา พริมรตาส่ายหน้าแทนคำตอบ “ไหน.....ขอวัดไข้หน่อยนะ” แฮมพูดพลางแล้วซุกไซร์ที่ซอกคอของพริมรตาเบา ๆ
พริมรตาส่งเสียงฮึมฮัมในลำคอ แฮมค่อยๆ ขบที่ติงหูพริมรตาเบา ๆ “อืม...ตัวก็ไม่ร้อนนี่” “จะอาบน้ำหรือจะให้ผมเช็ดตัวดี”
พริมรตาค่อย ๆ ใช้มือดันที่อกแฮมให้ออกห่างเพราะเธอมีอาการหายใจจะไม่ออก เพราะอารมณ์ที่ถูกปลุกขึ้นด้วยฝีมือของแฮมผู้เป็นสามี แฮมมองหน้าพริมรตาที่ตอนนี้มีสีหน้าที่แดงก่ำ เหมือนจะเป็นไข้ แฮมรีบทำการปฐมพยาบาลโดยด่วน ด้วยการค่อย ๆ ใช้มือบรรจงปลดที่กระดุมเสื้อของพริมรตาออกอย่างช้า ๆ “เดี๋ยวจะเช็ดตัวให้นะ..คนดี” ว่าแล้วแฮมก็ลุกขึ้นไปเอากะละมังใบย่อมที่ป้าเย็นเตรียมไว้ให้พริมรตาเมื่อบ่าย ไปเปลี่ยนน้ำที่ห้องน้ำทันที ไม่นานก็ออกมา “ผม...เอาน้ำอุ่นมาเช็ดตัวให้คุณแล้วนะพริม”
“เอ๊ะ...คุณจะรีบติดกระดุมทำไมเนี่ย” แฮมบ่นพริมรตา
“มานี่เลย...ถอดออกดีกว่า....ทำอย่างนี้ได้ไง...ผมก็ทำอะไรไม่ถนัดน่ะซิ”
“ก็...ก็พริมเขินนี่คะ....” พริมรตากล่าวอย่างอาย ๆ แฮมกลับยิ้มอย่างเอ็นดู ในความเขินของภรรยา “ไม่เห็นต้องเขิน ต้องอายอะไรนี่ คุณกับผมก็เหมือนคน คนเดียวกันนะ ทีผมป่วยคุณยังดูแลผมเลย...ตอนนี้คุณป่วย คุณต้องให้โอกาสผมดูแลบ้างนะคนดี” แฮมกล่าวเสร็จก็จุ๊บที่แก้มของภรรยาอย่างรวดเร็ว พริมรตาอ้าปากจะทักท้วง แฮมมองหน้าพริมรตาอย่างไม่พอใจที่เธอขัดใจเขา พริมรตาจึงได้แต่เงียบ
“มา...นอนลงซะคนดี..ผมจะเช็ดตัวให้คุณเอง” พูดจบแฮมก็ค่อย ๆ ปลุดกระดุมเสื้อของพริมรตาอีกครั้ง ผิวที่เนียนละเอียด ของภรรยาทำให้หลายครั้งแฮมต้องแอบกลืนน้ำลาย ข่มใจ บอกกับตัวเองเสมอว่า พริมป่วย พริมป่วย เพื่อสะกดความร้อนในกายของเขา จนเมื่อเขาเช็ดตัวให้พริมรตาเสร็จ แฮมถึงกับเป่าปากด้วยความโล่งใจที่สามารถทำภารกิจนี้เสร็จสิ้น แฮมบ่นในใจกับตัวเอง “หายป่วยเมื่อไร...จะทบตั้งต้นและดอกเล้ย” แฮมจุมพิตที่ริมฝีปากของพริมรตาเบา ๆ เพื่อเป็นการมัดจำ แล้วออกจากห้องไปเพื่อเตรียมอาหารให้กับพริมรตา ส่วนพริมรตานั้นหลับเพราะความอ่อนเพลียไปตั้งแต่แฮมเริ่มเช็ดตัวเธอไปไม่นาน
ภีมภัทรก็มาถึงที่ร้านกาแฟของธัญวลัย ทีแรกเขาตั้งใจจะไปหาเธอที่บ้านแต่เห็นว่าที่ร้านกาแฟของธัญวลัยมีไฟเปิดอยู่ เขาจึงแวะที่จะไปดู เผื่อมีอะไรผิดสังเกต แต่สิ่งที่เขาเห็นคือ ธัญวลัยนั้นกำลังทำความสะอาดร้านอย่างขะมักเขม่น ภีมภัทรเปิดประตูแต่ทว่าธัญวลัยล็อกประตูกระจกเอาไว้ ภีมภัทรจึงเคาะประตูเพื่อให้ธัญวลัยนั้นได้ยิน แต่ธัญวลัยกำลังฟังเพลง mp 3 ผ่านมือถือโดยใช้ small talk ภีมภัทรพาลเข้าใจผิดจึงคิดว่าธัญวลัยยังโกรธเขาอยู่เป็นแน่ จังหวะนั้นเอง ธัญวลัยเดินเข้าไปทางด้านหลังร้าน เพื่อทำความสะอาดต่อ ภีมภัทรที่เห็นดังกล่าวกลับคิดพาลไปใหญ่ ว่าธัญวลัยหนีหน้าเขา ภีมภัทรไม่ละความพยายามเขาเดินไปด้านหลังของร้าน ณ ขณะนั้น ธัญวลัยกำลังก้มหาของอยู่ ภีมภัทรเห็นอาการดังกล่าว ถึงกับกุมขมับ เพราะไม่รู้จะง้อธัญวลัยอย่างไรดี ธัญวลัยที่หาของเจอแล้ว ก็รีบไปที่หน้าร้านต่อ เพื่อทำความสะอาด ภีมภัทรจึงเดินกลับมายังหน้าร้านอีกครั้ง ธัญวลัยที่ตอนแรกอารมณ์ขุ่นมัวอยู่ ตอนนี้เริ่มจะแจ่มใสขึ้น ธัญวลัยเช็ดโต๊ะไปก็หยุดทำท่าเต้นตามนักร้องที่เธอโปรดปราน ภีมภัทรที่มองอยู่อยู่อีกด้านหนึ่งก็ถึงกับขำกับความเอ็นดูของธัญวลัย และความโง่เขลาของตนเอง ที่มัวคิดอยู่ว่าธัญวลัยกำลังโกรธและหนีหน้าเขาอยู่ ภีมภัทรจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะโทรหาธัญวลัย ระหว่างนั้นขณะที่ธัญวลัยกำลังฟังเพลงอยู่นั้น ก็มีเสียงเข้ามาแทรก ธัญวลัยกดรับจากปุ่ม small talk และส่งเสียงทักทาย “สวัสดีค่ะ...ธัญพูดจ๊ะ”
“ธัญ...ผมเองน่ะ ภีมภัทร”
“อ้าว....โทรมาทำไมเนี่ย” ธัญวลัยเสียงเปลี่ยนทันที เริ่มหงุดหงิด เท้าสะเอวระหว่างพูดโทรศัพท์ ธัญวลัยไม่รู้ว่าภีมภัทรนั้นอยู่ตรงหน้าประตูของร้าน
“ธัญ....หันหลังมาหน่อยสิ” ภีมภัทรเอาน้ำเย็นเข้าลูบ
“ทำไม...ฉันต้องหันหลังด้วย” ธัญวลัยยียวน
“ก็ผมอยู่ข้างหลังคุณนี่ไง....ข้างนอกอากาศมันเย็นนะ” ภีมภัทรเริ่มอ้อน
ธัญวลัยค่อย ๆ หันหลังมา ก็พบภีมภัทรยืนยิ้มหน้าแป้นโบกมือทักทายให้ธัญวลัย ธัญวลัยเชิดหน้าและหันหลังกลับไม่แม้แต่จะหันไปพูดกับภีมภัทร “เอ้า!! มีอะไรก็พูดมา เสร็จแล้วคุณจะได้กลับ ส่วนฉันจะได้ทำงานต่อ”
“ธัญ เราหันมาพูดกันดี ๆ ได้ไหม ผมขอร้องนะธัญ”
ธัญวลัยถอดหายใจ “เฮ้อ...เอาล่ะ ฉันจะพูดตรง ๆ เลยนะ ฉันยังไม่พร้อมที่จะเจอใครในตอนนี้ ขอเวลาฉันหน่อย ตอนนี้คุณกลับไปเหอะ ไว้อีก 2-3 วัน แล้วค่อยว่ากัน”
“ธัญ หันมาพูดกันเหอะ เปิดประตูให้ผมเข้าไปหน่อยนะ ผมขอโอกาสนะ ธัญ” ภีมภัทรยังพูดผ่านโทรศัพท์ที่ยืนอยู่ข้างนอก
ธัญวลัยเดินมาที่ประตู และยังคงพูดกับภีมภัทรผ่าน small talk “ฉันจะพูดเป็นครั้งสุดท้ายนะคุณภีม ระยะนี้ฉันอยากให้คุณและฉันได้ทบทวนกับสิ่งที่เกิดขึ้น ถามใจแต่ละฝ่าย แล้วอีก 2- 3 วันค่อยว่ากัน แต่ตอนนี้คุณ กลับ -ไปซะ” เมื่อพูดเสร็จธัญวลัยก็กดปุ่มวางสายผ่าน small talk เดินหายเข้าไปหลังร้านทันที โดยที่ไม่สนใจเสียงของภีมภัทรที่ยืนทุบประตูกระจก และส่งเสียงเรียกธัญวลัยอยู่อย่างนั้น
ภีมภัทรที่ยืนส่งเสียงอยู่ที่ประตู เขาเคาะและส่งเสียงจนยืนหมดแรง อยู่ตรงนั้น ส่วนธัญวลัยเมื่อกลับเข้าหลังร้าน เธอนั่งถอดหายใจ เอามือลูบใบหน้าตัวเอง พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา ใช่ตอนนี้เธอกำลังสับสน ไม่ใช่ว่าเธอไม่สงสารภีมภัทร แต่เธอต้องการให้ภีมภัทรได้สำนึกกับสิ่งที่ภีมภัทรทำกับเธอ อีกทั้งโอกาสนี้คงจะทำให้เธอได้คิดและทบทวนอะไรบางอย่างที่เกิดขึ้น เพื่อจะตอบคำถามให้กับตนเองให้กระจ่างแก่ใจ
ภีมภัทรกดโทรศัพท์หาธัญวลัยอีกครั้ง ธัญวลัยที่นั่งหมดใจอยู่ที่โซฟา ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เธอที่หน้าจอโทรศัพท์ก็รู้ว่าเป็นภีมภัทรที่โทรเข้ามา ธัญวลัยตัดสินใจปิดมือถือทันที เอามือปิดหูเพราะยังคงได้ยินเสียงเคาะประตูของภีมภัทรที่ยังคงตะโกนเรียกเธออยู่อย่างนั้น จนกระทั่งเงียบเสียงไป
เวลาผ่านไปสักพักเสียงเมื่อเสียงเรียกของภีมภัทรเงียบลง ไม่นานเสียงรถยนต์ก็ดังขึ้น ธัญวลัยที่นั่งอยู่หลังร้านเธอไม่รู้เลยว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร จนกระทั่งได้ยินเสียงรถยนต์เข้ากระทบที่หูธัญวลัย ธัญวลัยเมื่อได้ยินเสียงรถยนต์ก็เข้าใจว่าภีมภัทรนั้นได้ขับรถออกไป เธอจึงค่อย ๆ ออกมาดูก็พบว่ารถของภีมภัทรนั้นไม่อยู่เสียแล้ว ธัญวลัยได้แต่พึมพำเบา ๆ “อย่างนี้ล่ะ..ดีแล้ว คุณภีมขอเวลาฉันสักพักนะ” ว่าแล้วธัญวลัยจึงตัดสินใจกลับบ้าน โดยไม่ทันจะสังเกตว่ารถของภีมภัทรนั้นไม่ได้ไปไหน เพียงแต่จอดแอบอยู่อีกด้านหนึ่งของมุมถนน
มาอัพให้แล้วนะคะ ไม่รู้ว่าจะถูกใจหรือเปล่า เม้นต์และโหวตให้กันบ้างนะ จะได้มีใจ
ความคิดเห็น