คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #41 : เป็นข่าว 100%
เมื่อภีมภัทรพาธัญวลัยมาส่งถึงบ้าน ธัญวลัยก็ตรงดิ่งเข้าบ้าน เดินผ่านเฮียอ๋องที่ห้องรับแขกไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่สนเฮียอ๋องที่นั่งรอการกลับมาของน้องสาวอย่างใจจดใจจ่อ
“เฮ้ย...ไอ้ธัญ...ธัญ” เฮียอ๋องส่งเสียงเรียกธัญวลัย ที่ขึ้นกำลังเดินขึ้นบนห้องโดยไม่สนใจเสียงเรียกของเฮียอ๋อง
“สวัสดีครับเฮียอ๋อง” ภีมภัทรที่เดินตามเข้าบ้าน ทักทายเฮียอ๋องตามปกติ
“เออ..หวัดดี..อ้าว...เอ่อ..แล้วนี่ยังไงกันนี่ ไอ้ธัญมันกลับมามันเดินดุ่ย ๆ ไม่สนใครเลยเนี่ย...อ้าว..แล้วเมื่อกี้เฮียพึ่งโทรหาไอ้ธัญมันแต่เจ้าก๊อตรับสายบอกว่าธัญมันเข้าห้องน้ำ...เสร็จแล้วจะโทรกลับ แล้วนี่อะไรเนี่ย..ทำไมมันกลับมาไวจัง แล้วทำไมมันไม่โทรหาเฮียก่อนกลับมา แล้วยังไง....” เฮียอ๋องเริ่มสับสน งง กับเหตุการณ์
“เอ่อ...เอ่อ...คือ...”ภีมภัทรอ้ำอึ้งเพราะไม่รู้จะเล่าให้เฮียอ๋องฟังอย่างไรดี ไม่ทันที่ภีมภัทรจะเล่าอะไรให้เฮียอ๋องฟัง ก็มีเสียงของธัญวลัยตะโกนแทรกเข้ามา “เฮีย...คุณภีมจะกลับบ้านแล้ว ช่วยส่งเขาแทนน้องด้วย” ภีมภัทรได้ยินเสียงของธัญวลัยก็สำนึกผิดปนความน้อยใจ จึงบอกลาเฮียอ๋อง โดยทิ้งความงุนงงให้เฮียอ๋องสงสัยต่อไป
“เฮียครับ..งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ ไว้พรุ่งนี้ผมจะมาใหม่”
“เออ ๆ งั้นก็ได้ กลับดี ๆ นะ ขอบใจมากที่มาส่งไอ้ธัญมันนะ”
ภีมภัทรยิ้มรับแล้วไม่กล่าวอะไร ภีมภัทรเดินออกจากบ้านของธัญวลัยด้วยความรู้สึกที่หดหู่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ภีมภัทรหันมองไปด้านบนของบ้านธัญวลัยและถอดหายใจ รู้สึกผิดอย่างบอกไม่ถูก เขาอยากจะขอโทษธัญวลัยเป็นล้าน ๆ ครั้ง อยากจะบอกว่าเสียใจ แต่ก็คงไม่ช่วยอะไร ตอนนี้ธัญวลัยปิดกั้นทุกสิ่งอย่าง สิ่งที่เขาทำได้ตอนนี้คือ คงรอเวลาให้ธัญวลัยใจเย็นลงกว่านี้แล้วค่อยคุยกันใหม่อีกที แต่เขาจะทำอย่างไรดี เพื่อให้ธัญวลัยหายโกธร และเลิกล้มความคิดที่จะยกเลิกการแต่งงานกับเขา ภีมภัทรไม่อยากเสียธัญวลัยไป ไม่รู้เพราะความรักหรือเพราะอะไรกันแน่ แต่สิ่งที่เขาสามารถตอบให้กับตนเองได้คือ เขาคงทนไม่ได้ หากเห็นธัญวลัยไปเป็นของของคนอื่น
ทางด้านธัญวลัยเมื่อกลับมายังห้องนอนของตนเอง ก็คิดที่จะหาวิธีที่จะทำอย่างไรดี เธอไม่ต้องการแต่งงานกับภีมภัทรแล้ว ต่อให้ภีมภัทรมาต่อว่าเธอว่าเสียสัจจะงานนี้เธอก็ยอมเพราะต้นเรื่องก็คือ ภีมภัทรนั่นเอง แต่จะทำอย่างไรดีล่ะ จะไปบอกให้เตี่ยกับมาม้ารู้เรื่องราวทั้งหมดคงไม่ดีแน่ ขืนบอกเฮีย เฮียก็ต้องเล่นงานภีมภัทรหนักแน่นอน และหากเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาล่ะ ชื่อเสียง วงศ์ตระกูลคงย่อยยับแน่งานนี้ หากเธอเลือกที่จะแต่งงานกับภีมภัทรต่อไป เฮ้อ...นรก !!! ชัด ๆ ธัญวลัยถอดหายใจด้วยความเหนื่อยหน่ายเป็นที่สุด และเธอจะทำเช่นไรดี
ส่วนเฮียอ๋องยังคงค้างคาในใจ เกิดอาการคันปากอยากจะถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เมื่อตะกี้พึ่งจะค่อยกันไปแล้วไหงถึงกลับมาบ้านซะงั้น คงต้องเกิดเรื่องกับน้องสาวเป็นแน่ แต่จะไปถามตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ไว้พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่
รุ่งเช้าธัญวลัยรีบลุกออกจากบ้านเพื่อไปเปิดร้านตามปกติ แต่วันนี้เธอต้องการจะไปให้เร็วที่สุดเพื่อที่คนในบ้านจะได้ไม่เห็นบาดแผลที่เด่นชัดบนใบหน้าเธอ ยังไม่ทันจะออกจากบ้าน ก็ได้ยินเสียงเรียกเธอแต่เช้าเช่นกัน
“ไอ้ธัญ...แกจะไปไหนแต่เช้าว่ะ” เฮียอ๋องเรียก
“จะไปเปิดร้านน่ะซิเฮีย ถามได้”
“จะไปทำไมแต่เช้า จะหนีอะไรหรือเปล่า” เฮียดักคอ
“เปล้า...เปล่านี่ แค่รู้สึกว่านอนไม่หลับ และเมื่อวานก็ทิ้งร้านทั้งวันก็เลยเป็นห่วงอยากจะรีบไปจัดการก่อนเวลานะเฮีย งั้นน้องไปก่อนนะ” ธัญวลัยรีบเดินออกไป แต่เฮียเรียกไว้ ธัญวลัยแทบจะเตะเบรกไม่ทัน
“หยุดเลย....ไม่ต้องมาทำเนียน..เมื่อวานมีอะไรรึเปล่าเฮียโทรไปหาแก ก๊อตมันรับสายและบอกว่าแกไปห้องน้ำ แต่ไม่นานแกก็กลับมาถึงบ้านพอดี...มีอะไรหรือเปล่า” เฮียอ๋องกล่าวแบบจับผิด
“โอ๊ย...เฮียจะอะไรนักหนาล่ะเนี่ย ก็พอดีมีเรื่องคือว่า...คือ....” ธัญวลัยพยายามนึกว่าจะเล่าอย่างไรดี
“คือ...อะไร” เฮียอ๋องคาดคั้น
“คือว่ายังงี้ น้องไปเข้าห้องน้ำจริง ของก็ฝากก๊อตเอาไว้ แต่ดันเกิดเรื่องคือ น้องสาวคุณภีม ดันไม่สบายเป็นลมก็เลยรีบกลับเลย ของของน้องก็เลยอยู่ที่ไอ้ก๊อตมันไง แฮะ ๆ ” ธัญวลัยยิ้มแห้ง ๆ
“อืม...แล้วไอ้แผลที่หน้าแกเนี่ยไปโดนอะไรมา”
ธัญวลัยนึกในใจ กะแล้วต้องถามแบบนี้ ทำไม้ ทำไมซื้อหวยมันไม่ถูกแบบนี้มั่งว้า “เป็นความผิดของน้องเองล่ะ” น้ำเสียงของธัญวลัยเศร้าไปในทันที เมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวานที่ภีมภีทรตบหน้าเธอทำให้ศีรษะไปกระแทกกับกระจกจนได้แผลมา
“จะบอกว่าแกซุ่มซ่ามเองว่างั้น” เฮียอ๋องสรุป เพราะด้วยนิสัยของน้องสาวมักจะซุ่มซ่ามและโก๊ะอยู่เสมอ
“อืม..ประมาณนั้นแหละ” ธัญวลัยพยักหน้า
“งั้น...แล้วนี่อะไร” เฮียอ๋องประกาศเสียงเขียว โยนหนังสือพิมพ์ฉบับเช้าให้ธัญวลัยอ่าน
“อะไรเหรอเฮีย” ธัญวลัยสงสัย
“ก็อ่านซิ...อ่านตรงนี้นะ” เฮียอ๋องชี้คอลัมน์ที่หนังสือพิมพ์ ที่มีภาพภีมภัทรแบกเธอขึ้นพาดบ่า ตอนที่ภีมภัทรพาเธอไปคอนโดของเขา
“เฮ้ย!!!” ธัญวลัยกล่าวอย่างตกใจและอ่านข้อความของคอลัมน์นั้นออกเสียงเบา ๆ “ทายาทส่งออกอุ้มสาวหมวยนิรนามขึ้นคอนโดย่านชานเมือง ในยามวิกาล คงคิดว่าสาวหมวย(เป็น)คาลามายด์ชั้นดี”
“จะบ้าเหรอ” ธัญวลัยอุทานอย่างตกใจ “นี่มันอะไรกันเนี่ย”
“นั่นสินี่มันอะไรกัน” เฮียอ๋องถามด้วยความสงสัย สีหน้าของธัญวลัยตอนนี้ทั้งยุ่งทั้งยับไม่ต่างจากกระดาษที่โดนขย้ำยังไงยังงั้นเลย
“โอ๊ย..เซ็งโว๊ย” ธัญวลัยทรุดนั่งที่โซฟา กุมขมับด้วยความกลุ้มใจ แล้วเธอจะทำอย่างไรต่อไปดี
-----------------------------------------
ภีมภัทรตั้งแต่เมื่อคืนก็นอนไม่หลับเช่นกัน เช้านี้ภีมภัทรจึงลงมาเพื่อสูดอากาศสดชื่นยามเช้า เพื่อไล่ความเครียดและเพิ่มความผ่อนคลาย เผื่อว่าอากาศบริสุทธิ์ยามเช้าคงจะทำให้สมองเขาปลอดโปร่ง มีสติ เกิดปัญญาที่จะแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เข้ามาได้เป็นอย่างดี ระหว่างที่ภีมภัทรเดินไปที่ประตูบ้านไปหยิบหนังสือพิมพ์ฉบับเช้าที่มีมาอ่าน เพื่อรู้ข่าวสารต่าง ๆ รายวัน รวมถึงสถานการณ์ ความเคลื่อนไหวทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง ฯลฯ ที่นักธุรกิจส่วนใหญ่จะต้องรู้ไว้ ภีมภัทรอ่านหนังสือพิมพ์อย่างผ่อนคลาย และจิบกาแฟร้อนไปพลางอย่างสบายอารมณ์ ระหว่างกวาดสายตานั้นกลับเห็นภาพข่าวซึ่งปรากฏอยู่ใน เป็นภาพที่ตัวเขาอุ้มธัญวลัยพาดบ่า เข้าคอนโดที่เขาซื้อไว้ ภีมภัทรอ่านบทความในข่าว “ทายาทส่งออก เกิดอารมณ์เปลี่ยว หิ้วสาวปริศนาขึ้นคอนโดตอนดึก ปลุกกระแสของเล่นไฮโซ” ภีมภัทรอาการของขึ้นทันที ปิดหนังสือพิมพ์แล้วเหวี่ยงให้ไปไกลตาที่สุด เขาผละอย่างรวดเร็ว รีบแต่งตัวผลุนผลันรีบออกจากบ้าน ป้าเย็นซึ่งเป็นคนรับใช้ อ้าปากถามด้วยความสงสัยแต่ยังไม่ทันภีมภัทรเสียแล้ว
ระหว่างทางที่ภีมภัทรขับรถออกมา เห็นแผงหนังสือหรือร้านหนังสือที่ไหนก็ตามเหมามาหมด ไม่นานเมื่อภีมภัทรมาถึงบ้านธัญวลัย ก็พบว่าธัญวลัยนั่งหน้าเครียดอยู่ที่ห้องรับแขกของบ้าน บรรยากาศไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตึงเครียดแค่ไหน ทั้งเตี่ย มาม้าและเฮียอ๋อง พยายามกดดัน คาดคั้นถึงข่าวที่เกิดขึ้น ว่าเรื่องราวเป็นมายังไง เสียงของเตี่ยดังประกาศกร้าว บ่งบอกถึงความเป็นหัวหน้าครอบครัว
“ธัญ...ไหนแกบอกเตี่ยมาสิ...ว่าไอ้ภาพเนี่ยมันเป็นมายังไง ไอ้ข้อความทุเรศ ๆ นั่นอีก”
ธัญวลัยอ้ำ ๆ อึ้งไม่ตอบ เพราะไม่รู้จะตอบว่าอย่างไรดี หากบอกความจริง เตี่ยและ มาม้าคงเสียใจเป็นแน่ ธัญวลัยได้แต่ อ้ำ..อึ้ง จนเตี่ยเริ่มรำคาญ
“มัวแต่อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ อยู่นั่นแหละ นี่คงห่างไม้ ห่างมือมานานใช่ไหม ห๊า!!!”
“อ๋อง” เตี่ยเรียกเฮียอ๋องที่ได้แต่ยืนมองธัญวลัยด้วยความเป็นห่วงน้องสาว
“คะ..ครับเตี่ย”
“ลื้อไปเอาไม้มา...ถามดีๆ ไม่ตอบใช่มั้ยห๊ะ..... สงสัยตรงใช้ตัวช่วย”
“เตี่ย!!! เฮีย!!!” ทั้งเฮียและมาม้า
“ลูกมันก็โต ๆ แล้วนะเฮีย...ค่อย ๆ พูด ค่อย ๆ จากันก็ได้” มาม้าดิ่งมาปลอบเตี่ยให้ใจเย็น ๆ
“หนอย...ค่อย ๆ พูด ค่อย ๆ จากับมันงั้นเหรอ..อั้วถามมันแทบปากจะฉีกถึงใบหูอยู่แล้ว มันไม่ตอบสักแอะ มันน่านัก” เตี่ยง้างมือจะฟาดที่หน้าของธัญวลัย
ภีมภัทรที่เห็นเหตุการณ์ก็ตรงดิ่งไปหาบุพการีของธัญวลัย
“เตี่ยครับ” เสียงของภีมภัทรดังขึ้นก่อนที่ตัวเขาจะเข้าไปถึง
“ใจเย็นก่อนครับ เรื่องนี้ธัญเขาไม่ผิดนะครับ หากเตี่ยอยากจะลงโทษก็มาลงที่ผมแทนก็ได้ครับ” ภีมภัทร นั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้า บุพการีทั้งสองของธัญวลัย
“เรื่องทั้งหมดผมอธิบายได้ครับ ได้โปรดอย่าไปโกรธหรือลงโทษอะไรธัญเลยครับ ผมขอร้อง.....ไม่สิเรื่องทั้งหมดนี้เป็นความผิดของผมเพียงคนเดียว” ภีมภัทรประกาศชัด บอกถึงความจริงจัง จริงใจ
ธัญวลัยมองหน้าภีมภัทรด้วยความทึ่ง ที่เขาก็มีความเป็นสุภาพบุรุษพอตัว แต่มันก็สมควรอยู่หรอกกับสิ่งที่เขาทำกับเธอไว้
“เรื่องทั้งหมด เป็นเพราะความวู่วามของผมเอง ภาพนั่นเป็นภาพที่ผมกับธัญเราทะเลาะกัน ผมพยายามจะปรับความเข้าใจกับธัญจึงพาธัญไปที่คอนโดนั้นซึ่งมันเป็นของผม”
“งั้น...ลื้อจะแก้ปัญหานี้อย่างไร รู้ไหม อั้วไม่เคยเสียหน้าขนาดนี้มาก่อนเลย คราวที่แล้วก็ทีนึง งานนี้ก็เอาอีกแล้ว คราวก่อนยังพอให้อภัยได้ เพราะลื้อรับผิดชอบดี แต่งานนี้ทำให้ชื่อเสียงวงศ์ตระกูลอั้ว ป่นปี้ไปหมด เก๊กซิมจริง ๆ คงจริงอย่างที่เขาว่า มีลูกสาวเหมือนมีส้วมอยู่หน้าบ้าน” เตี่ยพูดด้วยความโกธรและโมโหสุด ๆ ยากที่ใครจะเอาอยู่
ธัญวลัยที่นั่งอยู่ถึงกับน้ำตารินออกมาด้วยความน้อยใจ กับคำพูดของเตี่ยที่มันทิ่มแทงใจเธอเหลือเกิน ภีมภัทรรู้สึกเห็นใจธัญวลัยอย่างที่สุด เขาอยากจะลุกขึ้นไปกอด ปลอบใจเธอ ให้หายเศร้า เขารู้สึกแย่ทุกครั้งที่ทำให้ธัญวลัยต้องมาเจอแบบนี้ก็เพราะตัวของเขาเอง เฮียอ๋องได้แต่ส่ายหน้าเอือม ๆ กับคำพูดของเตี่ย "เตี่ย!!!"
“เตี่ยครับ...อย่าว่าธัญเลยครับ...ผมบอกแล้วว่าเรื่องทั้งหมดก็เพราะผม ธัญเขาไม่ผิดอะไรเลย อย่าต่อว่าธัญแบบนี้เลยนะครับเตี่ย เตี่ยจะตีผม จะทำร้ายผม จะด่าผมยังไงก็ได้ผมยอม แต่ขออย่าทำอะไรธัญเขาเลยนะครับ” ภีมภัทรกราบที่เท้าของเตี่ยธัญวลัย แต่เตี่ยธัญวลัยกลับชักเท้ากลับ ภีมภัทรรู้สึกอึ้งไปเล็กน้อย แต่ก็ยอมรับโดยดี หากเป็นเขา เขาก็คงไม่ยอมเหมือนกัน
“งั้น...นายจะแก้ปัญหายังไงต่อไป” เฮียอ๋องถามด้วยความสงสัย
“ผมคิดว่า...ผมจะแถลงข่าวครับ และการแถลงข่าวนี้จะประกาศออกไปอย่างชัดเจนเลยว่าผมกับธัญเรากำลังจะแต่งงานกัน เพราะฉะนั้นภาพข่าวที่เกิดขึ้น มันเป็นความเข้าใจผิดว่าธัญไม่ใช่ผู้หญิงประเภทนั้น” ภีมภัทรตอบน้ำเสียงหนักแน่น
“ห๋า....แถลงข่าวเหรอ” ทุกคนอุทานเป็นเสียงเดียวกันโดยไม่ได้นัดหมาย ธัญวลัยมองหน้าภีมภัทรด้วยความตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน
“นายมันบ้าไปแล้ว” ธัญวลัยโวยหลังจากเงียบไปนาน
“ธัญ...แล้วคุณจะปล่อยให้คนอื่นเขามองคุณกับครอบครัวแบบนี้น่ะเหรอ” ภีมภัทรใช้คำว่า”ครอบครัว” เพราะรู้ดีว่าธัญวลัยนั้นรักครอบครัวเธอและแคร์มากแค่นี้ เป็นการดีเสียอีก ที่ธัญวลัยจะได้ไม่หาเรื่องเลิกกับเขา ยังไงซะตัวเขาต้องพลิกวิกฤตนี้ให้เป็นโอกาสน่าจะเหมาะที่สุด
“จริงด้วยนะธัญ...เฮียเห็นด้วย...เตี่ยกับม้าล่ะว่าไง” เฮียถามความเห็นของบุพการี
“นั่นสิน่ะ...จริงอย่างที่คุณภีมเขาว่านะเฮีย...อั้วเห็นด้วยนะ” มาม้าคล้อยตาม
เตี่ยของธัญวลัยมีสีหน้าครุ่นคิด และไม่นานก็ตอบตกลง “เอางั้นก็ได้ แต่ว่าต้องรับปากกับอั้วนะว่าลื้อจะไม่ทำให้ใครเสียหาย”
“ครับเตี่ย...ให้โอกาสผมอีกสักครั้งนะครับ.....ผมจะทำให้ดีที่สุด ยังไงซะวันนี้ผมก็ขออนุญาตเอาธัญไปกับผมด้วยนะครับ ผมว่าจะแถลงข่าววันนี้ช่วงบ่าย ซึ่งจะให้ธัญไปด้วยเพื่อเป็นการยืนยันระหว่างเรื่องของเราสองคน”
“อืม...”เตี่ยพยักหน้าแล้ว ปล่อยให้ธัญวลัยและภีมภัทรจัดการปัญหาด้วยตัวเอง
“งั้นธัญ..แกรีบไปแต่งตัวเดี๋ยวนี้เลย...ทำหน้าตาให้มันดีหน่อย แต่งตัวให้ดูดีด้วยนะเข้าใจไหม” เตี่ยหันมากำชับธัญวลัย ก่อนจะออกไปคุมโรงงานตามปกติ ธัญวลัยที่เซ็งอยู่แล้ว จึงรู้สึกถึงความเช็งบวกความเครียด สีหน้าในตอนนี้ยุ่ง คิ้วแทบจะขมวดเป็นโบว์ได้อยู่แล้ว
มาม้าและเฮียอ๋องจึงได้แต่มองด้วยความเป็นห่วง แต่ก็ไม่มีหนทางไหนที่จะดีไปกว่านี้ ทั้งหมดตกลงกันเช่นนั้น ธัญวลัยจึงขอตัวเพื่อไปแต่งตัว และเตรียมตัวให้พร้อมกับการแถลงข่าวในวันนี้ช่วงบ่ายกับภีมภัทร
ระหว่างที่ธัญวลัยไปแต่งตัว ภีมภัทรก็จัดการโทรสั่งงานกับเลขาส่วนตัว เพื่อทำการโทรเรียกสื่อมาทำข่าว เพราะเขากับธัญวลัยจะแถลงข่าวที่เกิดขึ้น และจัดการโทรบอกนายเป็นใหญ่ผู้เป็นบิดาและมารดาให้ทราบถึงวิธีการจัดการของเขา ซึ่งทุกคนก็ล้วนเห็นดีด้วย
ภีมภัทรครางกับตัวเองเบา ๆ “ธัญ...ผมขอโทษ”
----------------------------------------------------------------------------------------
จบไปอีกตอนแล้วนะจ๊ะ อย่าลืม เม้นต์และโหวตด้วยนะคะ จะขอบคุณมากมาย ^o^ ที่เป็นกำลังใจให้กันตลอด ตลอด ตลอด มา กว่าจะเคลียร์งานเสร็จก็ปาเป็นอาทิตย์เลย แต่ก็มีความสุขที่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักและชอบ จึงไม่ท้อ จะพยายามทำให้ดีที่สุดจ้า
ความคิดเห็น