ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เล่ห์ร้าย กลายรัก (ตอนจบแล้วจ้า)

    ลำดับตอนที่ #34 : ชวนเที่ยว

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.33K
      7
      13 ธ.ค. 52

    ห๊ะ!!!! ไปหัวหินกับคุณเนี่ยนะ ธัญวลัยตกใจกับสิ่งที่ภีมภัทรบอก

                             

    ใช่   แต่ไม่ได้แค่คุณกับผมเท่านั้น แต่เราสองคนจะไปกับพนักงานในบริษัทของผมต่างหาก ภีมภัทรเน้น

     

    ไปเมื่อไร

     

    ก็ประมาณอีกประมาณกลางเดือนหน้า

     

    กลางเดือนหน้า!!!!” ธัญวลัยตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน

     

    จะทันมั้ยเนี่ย ธัญวลัยวิตก ภีมภัทรได้ยินก็ทำสีหน้างุนงง

     

    ทันอะไร ภีมภัทรคิ้วขมวดด้วยความสงสัย

     

    ก็...เรื่องงานแต่งของเราไง เรายังไม่ได้ ถ่ายรูปแต่งงาน เลือกของชำร่วย แจกการ์ด และก็จองโรงแรม ไหนจะจัดเลี้ยงอีก โอ๊ย!! มากมาย ธัญวลัยโวย

     

    ภีมภัทรได้ยินก็ยิ้มออกมา กับสิ่งที่ธัญวลัยบ่น แสดงว่าธัญวลัยนั้นให้ความสำคัญกับงานแต่ง ที่สำคัญใช้คำว่า เรา แทนที่จะเป็นนายกับฉัน ธัญวลัยที่โวยวายอยู่เห็นภีมภัทรยิ้มก็อดถามด้วยความหมั่นไส้ไม่ได้

     

    นายยิ้มอะไร ธัญวลัยสงสัย

     

    ก็..ดีใจไงภีมภัทรยิ้มกวน ๆ

     

    ดีใจ ดีใจอะไร ฉันยังไม่ได้ตอบตกลงเลยนะว่าจะไปกับนายหรือเปล่า ธัญวลัยหงุดหงิด

     

    ก็ดีใจ ที่เห็นคุณแคร์งานแต่งของเราด้วยไง ภีมภัทรเฉลย

     

    ธัญวลัยเหวอไปทันที คิดในใจเราเผลอปล่อยไก่ไปได้ไงเนี่ย ก็....ก็...จะไม่ให้ฉันห่วงได้ไงเล่า...ก็เตี่ย...เตี่ยกับมาม้า ฉันเล่นประกาศไปซะทั่วว่าฉันจะแต่งงาน ขืนฉันขัดใจมีหวัง ธัญวลัยแก้ตัวพัลวัน

     

    เหรอ ภีมภัทรทำเสียงล้อเลียน และมองธัญวลัยแบบจับผิด

     

    นี่ไม่ต้องมามองแบบนี้เลย เราสองคนยังไม่ได้ทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง อีก 4 เดือนเองนะ ยังจะเอาเวลาไปเที่ยวเล่นอีก

     

    อืม...ก็เอาอย่างนี้ว่าอาทิตย์นี้เราก็ไปถ่ายรูปแต่งงาน เสร็จแล้วก็เลือกแหวน และก็การ์ดแต่งงานกัน โอเคไหมภีมภัทรเสนอ

     

    ก็เอาซิ....แต่ฉันสงสัย ทำไมฉันต้องไปหัวหินกับนายด้วยไม่ทราบ

    เอ่อ...ผมอยากให้เราสองคนมีโอกาสใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น แล้วก็.....ก็...ครอบครัวผมอยากให้คุณไปเที่ยวครั้งนี้ด้วยภีมภัทรไม่ปากไม่ตรงกับใจ ความรู้สึกที่เขามีกับธัญวลัยนั้น มันยิ่งเพิ่มมากขึ้น มากขึ้น เรื่อย ๆ ซึ่งแม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่อาจสามารถหาเหตุผลมาตอบกับตัวเองได้เลย สิ่งที่เขารู้สึกตอนนี้คือ อยากให้ธัญวลัยกับเขา ลงเอยกันด้วยดีจริง ๆ โดยไม่ต้องเสแสร้งโดยเอาครอบครัวทั้งสองฝ่ายมาอ้างก็คงจะดี สิ่งที่เขาเห็นอีกอย่างของธัญวลัยคือ การที่เอาใจใส่ และแคร์ครอบครัวไม่ว่าจะเป็นครอบครัวของธัญวลัยหรือครอบครัวเขาเอง ทุกครั้งที่ธัญวลัยอยู่กับครอบครัวเขา เธอมักจะปฏิบัติเหมือนตอนที่ทำกับครอบครัวของเธอเอง แม้แต่ความสดใส การตรงไปตรงมา นี่หรือเปล่านะที่เป็นเสน่ห์เฉพาะของธัญวลัย

     

    โอเค...ฉันพอเข้าใจแล้ว   แต่...ยังไม่รับปากนะ ขอเวลาเคลียร์ตัวเองก่อนก็แล้วกัน ถึงเวลานั้น ฉันจะบอกอีกที โอเค้   


    ครับผม ภีมภัทรยิ้มรับ

     

    หืม....ให้ได้อย่างนี้ฉลาดมาก แสนรู้ที่สุด ธัญวลัยชมหยิกที่แก้มภีมภัทรเบาๆ ด้วยความหมั่นไส้กับรอยยิ้มที่ภีมภัทรยิ้มรับ มันเป็นรอยยิ้มที่ดูอบอุ่น หยอกล้ออย่างเป็นกันเอง

     

    ภีมภัทรเอามือมาจับมือธัญวลัยเอาไว้และแนบที่แก้มของเขาอย่างเบา ๆ ธัญวลัยแอบเขิน แล้วเบี่ยงประเด็น กลัวว่าภีมภัทรจะจับได้ ถึงกระแสบางอย่างที่เกิดขึ้นภายในใจของเธอจึงตีที่ไหล่ภีมภัทรเบา ๆ เพื่อเตือนสติ นี่ ๆ เยอะแล้ว เยอะแล้ว....ปล่อยได้แล้ว ไม่ขำนะมุกนี้ ภีมภัทรปล่อยมือด้วยความเสียดาย

     

    ว่างมากก็มาช่วยฉันเก็บร้านดีกว่าธัญวลัยเบี่ยงประเด็น

     

    แต่เอ๊ะ....คุณชายอย่างคุณจะทำได้หรือเปล่าน้า

     

                ภีมภัทรปลดเนกไท และพับแขนเสื้อขึ้นทันที จัดมาเลยดีกว่า เดี๋ยวก็รู้ว่าผมทำได้ไม่ได้ภีมภัทรหยิบผ้าเช็ดโต๊ะที่วางอยู่ตรงหน้าธัญวลัย มาเช็ดโต๊ะทันที ธัญวลัยส่งเสียง ทำให้ตลอดนะจ๊ะ อ้อ...แล้วก็อย่าลืมกวาดพื้นให้สะอาดด้วยล่ะ ฉันจะไปทำความสะอาดหลังร้าน หากออกมาไม่เรียบร้อยล่ะโดนแน่ ธัญวลัยทำขู่ แล้วเดินไปทางประตูที่เชื่อมอยู่ระหว่างหลังร้าน ปล่อยให้ภีมภัทรทำความสะอาดอยู่คนเดียว ระหว่างที่ภีมภัทรทำงาน ธัญวลัยก็คอยชำเลืองมองดูภีมภัทรทำงานเป็นระยะ ๆ ภาพที่ธัญวลัยเห็นคือการทำงานอย่างจริงจังของภีมภัทร ที่ไม่มีทีท่าว่าจะท้อเลยซักนิด เขาทำทุกอย่างจริง ๆ อย่างที่รับปากกับเธอไว้ ทั้งเช็ดโต๊ะ กวาดพื้น ถูกพื้น และก็เอาขยะที่ร้านไปทิ้งที่ถังอีกต่างหาก ธัญวลัยเห็นทุก ๆ อย่างที่เกิดขึ้นก็อดที่จะชื่นชมภีมภัทรอยู่ลึก ๆ ไม่ได้

                    
                   จนเมื่อภีมภัทรทำงานเสร็จก็นั่งเก้าอี้ ถอดหายใจด้วยความเหนื่อยล้ามาจากการทำงานทั้งวัน แถมยังต้องมาช่วยธัญวลัยเก็บกวาดร้านอีก ธัญวลัยเห็นท่าทางเพลียของภีมภัทรจึงไปเอาน้ำมาให้
                   "อ่ะ...กินซะจะได้สดชื่น แล้วก็ขอบคุณมากที่วันนี้คุณมาช่วยฉันเก็บร้าน งั้นวันนี้ฉันจะเลี้ยงข้าวเย็นคุณเอง โอเคมั้ย"

                  "โห..เลี้ยงข้าวเย็นแค่เนี้ย" ภีมภัทรแกล้งบ่นน้อยใจ "ผมเนี่ย....ผู้จัดการบริษัทนะครับ ค่าแรงผมแค่ข้าวเย็นเองเหรอ ขออย่างอื่นด้วยได้ป่ะ" 
                 "จะเอาอะไร ก็ว่ามา" ธัญวลัยชักจะรำคาญในความเรื่องมากของภีมภัทร 
                "ค่าแรงผมไม่แพงหรอก แต่ผมขอให้คุณจ่ายค่าแรงผม....ด้วยหัวใจคุณได้ไหมธัญ" ภีมภัทรหันมาพูดกับธัญวลัยด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความจริงใจ จนธัญวลัยได้ยินถึงกับสะท้าน แต่ก็ยังวางฟอร์ม "ทะลึ่งแล้วไง.....เว่อร์ไปแล้ว" ภีมภัทรถึงกับเหนื่อยหน่ายนี่เขาพูดด้วยความสัตย์จริงแล้วนะ ทำไมธัญวลัยถึงมองว่าเขาทำเป็นเล่นอยู่ได้นะเนี่ย ภีมภัทรอารมณ์เสียถึงกับลุกขึ้น "ผมจะกลับบ้านแล้ว เก็บร้านเสร็จก็รีบกลับบ้านก็แล้วกัน ผมขอตัวกลับก่อนล่ะ" ว่าแล้วภีมภัทรก็เดินดิ่งไปทางประตูร้าน ปล่อยให้ธัญวลัยนั่งเหวออยู่คนเดียว "เอ้า...แล้วไม่ไปกินข้าวกันก่อนเหรอ"  "คนอะไรเอาใจยากจริง ๆ" 
            
                   -------------------------------------------------------------------------
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×