เล่ห์ร้าย กลายรัก (ตอนจบแล้วจ้า)

ลำดับตอนที่ #32 : เคลิ้ม

ธัญวลัยกลับเข้าบ้านในตอนเย็น เมื่อมาถึงก็ถอดกายนั่งลงที่โซฟาห้องรับแขกของบ้านอย่างหมดสภาพ

“เฮ้อ....เหนื่อย”

เฮียอ๋องที่นั่งดูโทรทัศน์อยู่ใกล้ ๆ จึงถามน้องสาวคนเดียวด้วยความสงสัย “เป็นไรอีกล่ะ”

 “วันนี้ไปลองชุดเจ้าสาวมาไม่ใช่เหรอ ดูทำท่าทางเข้า ยังกะไปออกสนามรบมางั้นล่ะ แล้วดูซิเนี่ย น่าบูดยังกะตูดลิง ทำไม....วันนี้เจ้าบ่าวแกเขาขัดใจอะไรแกมาอีกสิ ดูซิดูทำหน้าเข้า”

ธัญวลัยที่นั่งหมดแรงเมื่อครู่ดีดตัว  ของขึ้นมาทันที “เฮีย...น้องจะเล่าให้ฟัง ตอนแรกนะ ไอ้น้องเขยเฮียตัวแสบดันเลือกชุดที่มัน....มันแทบไม่เหลืออะไรให้จินตนาการเลย” ธัญวลัยรัวเป็นชุด  “รู้ไหมทำไม สายเดี่ยวก็เล็กอย่างกะเส้นสปาเก็ตตี้ แถมข้างหลังชุดน่ะนะ  อืม.... หืม... ก็เว้าซะแถมจะเห็นก้น ด้านหน้าเสริมฟองน้ำซะอกน้องแทบจะทะลัก เห็นเนินอกด้วยอ่ะ โอ๊ย.นึกแล้วยังเคืองไม่หายนะเนี่ย มีอีกนะ ชุดที่สองน้องเลือกเองกับมือเป็นชุดที่สวยมาก เป็นเกาะอกนะเฮียและก็มีโบว์สีชมพูตรงข้างเอวด้วยนะ สไตล์เกาหลีเป๊ะ น้องตัดสินใจจะเอาตัวนี้แหละ แต่ไอ้น้องเขยเฮียเนี่ยนะ ดั้นบอกกับพนักงานในร้านว่าไงรู้ไหมเฮีย”

เฮียอ๋องที่นั่งดูโทรทัศน์รายการโปรดอยู่ได้แต่เออออ ไม่ได้สนใจน้องสาวที่นั่งบรรรยายในสิ่งที่ได้เจอมาในวันนี้ให้เฮียได้รับรู้ด้วย ธัญวลัยเห็นเฮียมัวแต่สนใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามากกว่าเธอ ธัญวลัยปรี๊ดแตก “เฮีย!!! สนใจน้องมั่งไหมเนี่ย” ธัญวลัยฉุนจัดฉวยรีโมทโทรทัศน์มาไว้ในมือและกดปิดทันที

เฮียที่นั่งดูรายการโปรดอย่างเพลิดเพลิน เริ่มฉุนขึ้นมาเล็กน้อย “อะไรว่ะ...เฮียจะดูโทรทัศน์ เอารีโมทมาให้เฮียเดี๋ยวนี้ไอ้ธัญ” เฮียอ๋องแบบมือกระดิกบอกให้ธัญวลัยส่งรีโมทมาให้โดยเร็ว ธัญวลัยไม่ยอมส่งให้โดยดี  “ไม่...ไหนลองเล่าให้น้องฟังสิ  ว่าเมื่อตะกี้น้องพูดอะไรไปบ้าง” ธัญวลัยทดสอบเฮียอ๋องว่าทั้งหมดที่เธอพูดไปนั้น เฮียสนใจฟังเธอมากน้อยแค่ไหน

เฮียอ๋องถอนหายใจ “เฮ้อ...เมื่อไรเลิกว่ะนิสัยแบบนี้ เหมือนเด็กไม่มีผิด” ธัญวลัยนิ่งเพื่อรอฟังเฮียเล่าในสิ่งที่เธอพูดไป “ก็ได้...แกไปลองชุดเจ้าสาวมา ชุดแรกไม่ถูกใจเพราะมันโป๊มากเกินไปสำหรับแก ส่วนชุดที่สองแกเลือกเองแต่คุณภีมเขาไม่พอใจ...เนี่ยแค่เนี่ยที่แกเล่า” ธัญวลัยพยักหน้ารับรู้ เลียนแบบพิธีกรรายการดัง“ถูก...ถูกต้องนะครับ ที่เฮียพูดมาทั้งหมดและขณะนี้น้องกำลังจะเล่าต่อไป เฮีย...เฮียต้องตั้งใจฟังน้องนะ” เฮียอ๋องพยักหน้ารับฟังอย่างเบื่อหน่าย  ธัญวลัยเล่าให้ฟังเพิ่มเติมจากของเดิม (ภาคต่อ) ว่าหลังจากที่เธอเลือกชุดที่สองเสร็จภีมภัทรกลับบอกให้เธอหยุดให้เขา ถ่ายภาพเพื่อที่จะได้ไปให้แม่ ซึ่งก็คือภรณ์พรรณแม่ของภีมภัทรช่วยเลือกชุดเจ้าสาวให้ ตอนแรกธัญวลัยก็อิดออดแต่ด้วยคำพูดที่ภีมภัทรอ้างแม่ของเขาขึ้นมา ทำให้ธัญวลัยยากจะปฏิเสธ จึงร่วมมือให้ภีมภัทรถ่ายรูปแต่โดยดี ไม่เพียงแค่นั้นยังให้เธอกลับไปลองชุดมาใหม่กว่าจะพอใจก็บ่ายกว่าแล้ว

            เฮียอ๋องที่อดทนนั่งรอน้องสาวบรรยายถึงเหตุการณ์ที่ไปเผชิญมาด้วยความเบื่อหน่าย แต่ก็อดที่จะถามไม่ได้ว่า “เฮ้ย..แกไปเลือกชุดเจ้าสาวและคุณภีมล่ะเขาได้ลองชุดเจ้าบ่าวมาด้วยหรือเปล่า”

            ธัญวลัยชะงักไปจึงอยู่วันนี้ภีมภัทรได้มีโอกาสลองชุดเจ้าบ่าวด้วย ซึ่งธัญวลัยก็ไม่กล้าเล่าความจริงให้เฮียอ๋องฟังถึงความรู้สึกที่เธอเห็นว่าภีมภัทรนั้นหล่อ และดูดีแค่ไหน เฮียอ๋องเห็นธัญวลัยเงียบไปจึงสะกิด “เฮ้ย...นี่จะเงียบอีกนานไหมเนี่ย จะเล่าไม่เล่า ไม่เล่างั้นเอารีโมทมาคืนเฮียเลย” เฮียอ๋องทวง

                “โห่.เฮียเล่าให้ฟังก็ได้ คุณภีมเขาก็ลองเหมือนกัน ก็....”

                “ก็อะไร อ้ำอึ้งอยู่นั่นแหละ รีบ ๆ เล่า และก็คืนรีโมทมาให้เฮียด้วย”  เฮียอ๋องเร่งธัญวลัย เพราะกลัวว่ารายการโปรดจะจบเสียก่อนที่ธัญวลัยจะเล่าจบ

                “ก็สู้เรน ซงซึงออน ปารค์เฮจินของน้องไม่ได้หรอก ห่างชั้นกว่าเยอะ” บุคคลที่ธัญวลัยพูดออกมาล้วนเป็นนักแสดงนำซีรีส์เกาหลีที่เธอติดตามมาตลอด และมีการเก็บสะสมผลงานนักแสดงนั้น ๆ ไว้เกือบทุกเรื่อง จะเรียกเธอว่าแฟนพันธุ์แท้เลยก็ว่าได้

                เฮียอ๋องส่ายหน้าด้วยหมั่นไส้ในความฟอร์มจัดของน้องสาว ทำไมจะไม่รู้ ว่าน้องสาวคิดอย่างไร แต่ด้วยนิสัยฟอร์มจัด ปากแข็ง จึงเฉไฉอ้างโน่นนี่ไปเรื่อย “สรุปว่าก็ดูดี ว่างั้น”

                “ก็ใช่ ก็แค่ดูดีนะ” ธัญวลัยพูดแล้วนึกย้อนถึงตอนที่ภีมภัทรใส่สูททักซิโด้สีดำ มีโบว์เล็ก ๆ ผูกที่คอ เสื้อสีเชิ้ตที่ขาว ตัดกับเสื้อสูทสีดำ มันทำให้เขาดูเท่ห์มากในสายตาเธอ อีกชุดก็เป็นชุดสีขาวทั้งชุดซึ่งชุดนี้ภีมภัทรก็ดูเท่ห์ไม่แพ้ชุดแรกอย่างกับเทพบุตรหรือเจ้าชายในนิทานหลอกเด็ก ๆ  ที่ใคร ๆ ก็คงได้ฟัง และก็คงคิดไปว่าสักวันคงเป็นเช่นนั้นบ้าง  แต่เรื่องจริงที่ธัญวลัยปฏิเสธไม่ได้ก็คือไม่ว่าจะเป็นชุดไหนก็ตามที่ภีมภัทรเลือกก็สามารถเข้ากันได้ดีกับชุดเจ้าสาวของเธอ  แต่เรื่องอะไรที่เธอจะต้องชมออกหน้าออกตาด้วยล่ะ เดี๋ยวก็เหลิงกันพอดี

                “เอาล่ะ...น้องเล่าเหตุการณ์วันนี้จบและ น้องไปอาบน้ำแล้วเดี๋ยวมากินข้าวดีกว่า หิวจะตายอยู่แล้ว”

                “อ่ะ...รีโมทน้องคืนให้” ธัญวลัยส่งคืนรีโมทใส่มือเฮียอ๋อง แล้วรีบลุกออกจากโซฟาขึ้นบนห้องนอนทันที

                “เออ ๆ ...ให้มันได้ยังงี้น้องฉัน ทิ้งระเบิดแล้วเดินเฉย” เฮียอ๋องประชด

                ด้านภีมภัทรที่ตั้งแต่กลับมาก็ขลุกอยู่แต่ในห้อง มองดูแต่กล้องดิจิตอลที่มีภาพของธัญวลัยใส่ชุดเจ้าสาวในแบบต่าง ๆ ที่ธัญวลัยยิ้มหวานรับกับกล้องโพสต์ท่าทางอย่างเป็นธรรมชาติแบบโดยดี หากไม่ใช่เพราะคำอ้างที่ว่าจะถ่ายภาพไปให้แม่ของเขาดูล่ะก็ จ้างให้ธัญวลัยคงไม่ยอมให้ถ่ายแบบโดยดีและดูสวยแบบนี้เป็นแน่  อีกทั้งตัวเขายังแอบเก็บภาพในขณะที่ธัญวลัยเผลอด้วยอิริยาบถต่าง ๆ ไม่ว่าจะด้านข้าง หรือตอนที่พูดคุยอยู่กับพนักงานในช่วยแนะนำในเรื่องของชุดเจ้าสาวที่ธัญวลัยได้ลองใส่ ภาพทุกภาพของธัญวลัยที่อยู่ในกล้องดิจิตอล ทำให้ภีมภัทรยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ และยกกล้องดิจิตอลขึ้นมาจูบเหมือนฝากรักไปยังเจ้าตัว ซึ่ง ณ ขณะนี้ เขาเหมือนตกอยู่ในโลกส่วนตัวที่เรียกว่าห้วงแห่งความรักเข้าให้แล้ว ประตูหัวใจที่ปิดตายมานานเริ่มจะเปิดแย้มเป็นครั้งแรกหรือนี่

                ------------------------------------------------------------------------

ช่วยเม้นต์และโหวตด้วยนะคะ จะหมดใจแล้วนะ เป็นเรื่องแรกค่ะ จะพยายามแต่งให้ดีที่สุด