คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #30 : ลองชุด
เมื่อธัญวลัยและภีมภัทรขึ้นมาถึงชั้นสองของร้าน พนักงานสาวคนเดิม ก็พายังชุดเจ้าสาวที่แขวนไว้เรียงรายอย่างเป็นระเบียบ พร้อมกล่าวถึงรูปแบบ สไตล์ล่าสุด ฝีมือการตัดเย็บของช่าง ภีมภัทรฟังอย่างตั้งใจและเลือกหยิบมาทาบที่ตัวของธัญวลัย
“ผมว่าชุดนี้ก็โอเคนะครับคุณน้อง”
ชุดที่ภีมภัทรเลือกมานั้นเป็นชุดสาวเจ้าสีขาวกระโปรงยาว สายเดี่ยว เผยให้ให้เนินอกเล็กน้อย ดูเซ็กซี่และแอบหวาน ด้านหน้าของชุดเป็นโบว์ผูก สไตล์เกาหลีที่กำลังนิยมอยู่ในขณะนี้
“ค่ะ เห็นด้วยเลยค่ะ ชุดนี้นะคะ ทำการเนื้อผ้าอย่างดี รูปแบบชุดก็ทันสมัย ไก๋เก๋ เป็นสายเดี่ยวที่ไม่เล็กเกินไป และก็ประดับด้วยลูกไม้อย่างดี...เป็นลูกไม้ที่นำเข้าด้วยนะคะ”
“ส่วนตรงช่วงอกก็จะมีซับให้ค่ะ เจ้าสาวไม่ต้องกลัวโป๊ อีกทั้งช่วงอกของชุดจะมีฟองน้ำเสริมด้วยนะคะ เวลาเจ้าสาวใส่ช่วงอกจะดูอิ่ม ไม่เรียบจนเกินไป ด้านหลังแม้จะเปลือยนิดหน่อยแต่ด้วยรูปร่างของคุณ...เอ่อ”
ธัญวลัยจึงเสนอตัวเอง “ดิฉัน...ธัญวลัยค่ะ”
“ค่ะ....คุณธัญวลัย ด้วยรูปร่างที่สมส่วน ความสูง ชุดนี้ก็จะโชว์แผ่นหลังของเจ้าสาว ซึ่งคุณธัญวลัยเป็นคนผิวขาวนะคะ การที่โชว์แผ่นหลังเนี่ยจะเป็นการอวดผิวที่ขาวเนียนของเจ้าสาวให้ดู เด่น สวยและเซ็กซี่ค่ะ”
ธัญวลัยอึ้ง นึกในใจ “ทำไม...สวย ๆ อย่างฉันข้างหลังฉันดูเด่นกว่าข้างหน้าหรือไงห๊า พวกมีตาหามีแววไม่จะวิจารณ์อะไรก็ได้แต่อย่ามาวิจารณ์หน้าอกของเธอเด็ดขาด แม้จะไม่ตูมตาม แต่ก็เล็กกระทัดรัด พกพาสะดวก และทันสมัย เพราะเป็นจอพาสม่า ไม่ใช่โทรทัศน์จอนูนเหมือนในอดีตนะยะ”
“เอ่อ...ค่ะ ก็ดีค่ะ” ธัญวลัยรู้สึกเขิน ๆ และเจ็บลึก ๆ กับชุดที่ภีมภัทรเลือกมาทั้งสายเดี่ยว เปลือยหลัง เน้นหน้าอก(ที่กระแทกใจธัญวลัยอย่างแรง) ดูจากสภาพชุดแล้ว แทบไม่เลือกอะไรให้จินตนาการเลย
ส่วนภีมภัทรก็อดที่จะขำไม่ได้ เพราะเขาตั้งใจแกล้งเลือกชุดแบบนี้เพื่อต้องการจะให้ธัญวลัยได้ลองเปลี่ยนตัวเอง อีกทั้งต้องการให้มีส่วนในการเลือกชุด
“งั้นคุณจะลองเลยไม่คะ เชิญทางนี้เลยค่ะ” พนักงานหยิบชุดมาจากภีมภัทรและเดินนำธัญวลัยไปยังห้องลองชุดทันที
“เอ่อ....คะ คือว่า” ธัญวลัยไม่มีความมั่นใจ หันไปมองหน้าภีมภัทรด้วยสายตาที่อึดอัด ประมาณว่าฉันไม่อยากใส่ชุดนั้น แต่แทนที่ภีมภัทรจะช่วย กลับทำหน้าล้อเลียน เชื้อเชิญให้ธัญวลัยตามพนักงานไปโดยเร็ว แถมยังกระซิบพูดให้ธัญวลัยเจ็บใจอีกด้วยว่า “หรือคุณไม่กล้ากันแน่”
ธัญวลัยมองภีมภัทรด้วยความขุ่นเคืองที่โดนภีมภัทรสบประมาท แต่ด้วยนิสัยที่ไม่ยอมใคร และไม่ชอบให้ใครมาท้าทาย แม้ทางทีตอนแรกอิดออดไม่อยากไปลองชุดเจ้าสาวที่ประดับด้วยลูกไม้สีหวาน แต่ในทัศนคติของสาวห้าวของธัญวลัยกลับมาว่ามันสวยก็จริงแต่ดูเลี่ยนมากในความคิดของเธอ แต่เมื่อโดนภีมภัทรสบประมาทอย่างแรง จึงทำให้เธอมีแรงฮึดขึ้นมาคว้าชุดเจ้าสาวที่ตัวดังกล่าว เดินตามพนักงานไปยังห้องลองชุดอย่างรวด แถมพูดประชดเสียงดังให้ภีมภัทรได้ยิน
“คุณค่ะ เดี๋ยวฉันของลองเครื่องประดับและก็ลองทำผมคร่าว ๆ ดูด้วยเลยได้ไหมคะ อยากจะรู้ว่าจะทำอย่างไรให้เข้ากับชุดนะคะ จะได้สวยดั่งใจว่าที่เจ้าบ่าว”
ภีมภัทรได้ยินอย่างนั้นก็อดขำไม่ได้ แม้ในใจออกจะตื่นเต้นอยู่ลึก ๆ ว่าสาวห้าวอย่างธัญวลัยใส่ชุดเจ้าสาวแบบนั้นจะมีสภาพเป็นอย่างไร
“ได้เลยค่ะ ไม่มีปัญหาค่ะ” พนักงานยิ้มอย่างยินดีและเตรียมตัวผู้ช่วยอีก 2 คนเพื่อที่จะช่วยแต่งตัวให้กับธัญวลัย
“หน่อย....น้อย เดี๋ยวมาช่วยช่วยเตรียมเครื่องประดับ กับรองเท้าแล้วเดี๋ยวมาช่วยกันทำผมแต่งตัวให้กับเจ้าสาวด้วยนะจ๊ะ”
“ได้ค่ะ พี่น้อง” สองสาวผู้ช่วยรับคำอย่างแข็งขัน เมื่อได้รับคำสั่งทั้งสองกุลีกุจอ เพื่อเตรียมตัวให้กับธัญวลัยอย่างกระตือรือร้น
“เอ่อ....ฉันสามารถเลือกชุดอื่นได้ด้วยใช่ไหมคะ”
“ค่ะ...เชิญเลือกได้เลยค่ะ หากเจ้าสาวไม่ถูกใจ ร้านเรามีชุดเจ้าสาวให้เลือกหลายแบบหลายสไตล์ค่ะ หากคุณธัญ สนใจชุดไหนก็เลือกได้ตามสบายค่ะ”
“ค่ะ..ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ”
ธัญวลัยจึงเข้าไปห้องชุดที่ทางร้านจัดไว้ ส่วนภีมภัทรก็นั่งรออยู่ที่โซฟาหน้าห้องลองชุด ที่ทางร้านมีไว้รองรับ เพื่อที่ว่าเวลาเจ้าสาวลองชุด เจ้าบ่าวจะได้ชี้แนะ หรือ บอกถึงความต้องการของทั้งคู่ เพื่อให้ทางร้านนำมาแก้ไขปรับปรุงหาสิ่งให้ถูกใจให้มากที่สุดทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาว
-------------------------------------------------------------
“ห๊า!!! พี่ภีมพาคุณธัญไปลองชุดที่ Wedding Studio เหรอค่ะ” พริมรตากล่าวอย่างตกใจ
“ใช่ จ๊ะ” ภรณ์พรรณกล่าวยิ้ม ๆ
“เมื่อคืนพี่เราน่ะนะ มาปรึกษาแม่ ว่าจะเลือกชุดอย่างไงดี แล้วควรทำตัวอย่างไร แทกแคร์อย่างไง อีกทั้งยังจะถามแม่อีกนะ ว่าตอนที่พ่อแม่แต่งงานกัน เวลาไปเลือกชุดพ่อปฏิบัติกับแม่ยังไงบ้าง แต่ตอนนั้นแม่ถูกใจที่พ่อปฏิบัติต่อแม่หรือเปล่า คงอยากจะทำปฏิบัติตัวให้ถูกใจหนูธัญ แม่ว่าพี่เขาคงอยากจะเอาใจหนูธัญนะ ร้อยวันพันปี แม่ไม่เคยเห็นพี่เขาจะดูเอาใจใครมากเป็นพิเศษ”
“พริม...ก็ว่างั้นล่ะค่ะ”
“โห่...ดูท่าทางพี่ภีมจะรักคุณธัญจริง ๆ นะคะแม่ ดูกระตือรือร้นจัง”
“โอ๊ย!!! นึก ๆ ไป อิจฉาคุณธัญเนอะ ไม่เห็นเหมือนตอนพริมแต่งงานเลย เจ้าบ่าวไม่ค่อยสนใจ อะไรก็ได้ เชอะ พูดถึงแล้วมันน่าน้อยใจชะมัด”
แฮมที่นั่งอยู่ด้วยถึงกับออกตัว“โธ่..พริมจ๋า ก็ผมเห็นว่าคุณน่ะ สวยอยู่แล้ว ทำอะไรก็ดูดี อีกอย่างผมก็ไม่อยากขัดใจคุณ คุณเป็นใคร แล้วผมเป็นใคร ผมไม่กล้าเสนอความเห็นอะไรหรอก ผมเป็นเพียงแค่พนักงานธรรมดา ๆ คนหนึ่ง ส่วนคุณเป็นลูกสาวเจ้าของบริษัทคุณว่าอะไรดี ผมก็ว่าดีด้วยหมดล่ะจ๊ะ”
แฮมโอบกอดพริมรตาอย่างเอาใจ นึกถึงตอนนั้นก็อดที่จะน้อยใจในตัวเองไม่ได้ อีกทั้งเจ้าสาวของเขานั้นทั้งสวยและน่ารักเป็นที่หมายปองของหนุ่ม แถมยังเป็นลูกสาวเจ้าของบริษัท ในความคิดของเขานั้นเข้าใจว่า พริมรตาคงเป็นเหมือนคุณหนูทั่ว ๆ ไป ที่เอาแต่ใจ สามารถวีนและเหวี่ยงได้อย่างไม่มีเหตุผล แต่ในความเป็นจริงเมื่อเขาได้มาสัมผัสตัวตนของพริมรตาแล้ว มันไม่ใช่เลย ตรงกันข้ามนอกจากความสวยภายนอกแล้ว พริมรตายังสวยภายในอีกด้วย ทั้งนิสัยที่เป็นกันเอง ไม่ถือตัว สามารถเข้ากับผู้อื่นได้เป็นอย่างดี ร่าเริงแจ่มใส มีเสน่ห์ที่ใคร ๆ เห็น ก็ต้องอดที่จะรักพริมรตาไม่ได้ เมื่อเขามีโอกาสที่จะได้แต่งงานกับคนที่สวยทั้งภายนอกและภายในอย่างพริมรตาก็ถือว่ามีบุญมากแล้ว มีหรือที่จะกล้าขัดใคร หากใครว่าแซวเขาว่ากลัวเมีย เขาก็ไม่ถืออะไร ก็เพราะมันเป็นเรื่องจริงนั่นเอง ที่ว่ากลัวก็เพราะกลัวว่าเมียจะไม่รัก
“แล้วไป หากคิดนอกใจล่ะก็ น่าดู” พริมรตาขู่
“ผมจะไปกล้ามีใครที่ไหนอีกล่ะ มีคุณคนเดียวผมก็พอใจแล้ว” แฮมพูดแล้วก็อดที่จะหอมแก้มขาว ๆ ของพริมรตาไม่ได้
พริมรตาตีที่หน้าขาของสามี แฮมถึงกับร้องโอ๊ย “นี่...คุณ ทำอะไรเกรงใจคุณแม่บ้างสิ”
ภรณ์พรรณยิ้มอย่างเป็นสุขที่เห็นลูก ๆ มีครอบครัวที่อบอุ่นและรักใคร่กันอย่างนี้ เป็นธรรมดาของคนที่เป็นพ่อ เป็นแม่ เมื่อเห็นลูกมีความสุขก็อดที่จะมีความสุขไปด้วยไม่ได้
ช่วยเม้นต์และโหวตให้ด้วยนะคะ ขอบคุณทุกข้อความที่ส่งมา จะพยายามปรับปรุงต่อไปคะ
ความคิดเห็น