ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เล่ห์ร้าย กลายรัก (ตอนจบแล้วจ้า)

    ลำดับตอนที่ #16 : เอะใจ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.89K
      5
      1 ก.ย. 52

    รุ่งเช้าธัญวลัยต้องพบกับความแปลกใจชุดใหญ่ เพราะว่าภีมภัทรนั่งยิ้มหน้าแป้นอยู่กับเตี่ย และเฮียของเธอ ธัญวลัยถามด้วยความหงุดหงิด นายภีม มาทำไมแต่เช้า ไม่ไปทำงานหรือไง

                    ผมก็มารับคุณไปที่ร้านไง และก็มาบอกเรื่องให้ที่อีก 2 วันพ่อกับแม่ของผมท่านจะมาทาบทามสู่ขอคุณให้ถูกต้องตามประเพณีภีมภัทรพูดเสร็จหันไปยิ้มกับเตี่ยและเฮียของธัญวลัยอย่างประจบ

                    สร้างภาพ ธัญวลัยด่าภีมภัทรเบา ๆ

                    คุยธุระเสร็จก็ออกไปจากบ้านฉันได้แล้ว ธัญวลัยไล่ภีมภัทร

                    ไอ้ธัญญญ เตี่ยหันมาดุธัญวลัยทันที

                    ขอโทษแทนลูกสาวเตี่ยด้วยนะ มันก็นิสัยอย่างนี้ล่ะ อย่าถือเลยนะ เตี่ยธัญวลัยกล่าวขอโทษแทนลูกสาวที่เสียมารยาทกับแขก ที่สำคัญเป็นว่าที่ลูกเขยในอนาคตเสียด้วยซิ

                    เตี่ย ไปนับญาติเมื่อไรเนี่ย ธัญวลัยแย้ง

                    ก็เมื่อวันที่เขามาบอกว่าไปไหนต่อไหนกับแกนะซิ เตี่ยรื้อฟื้นความหลัง ธัญวลัยได้ยินอย่างนั้นก็หน้ามุ่ยแบบอัตโนมัติ และกำลังจะอ้าปากตอกกลับแต่ต้องชะงัก เพราะได้ยินเสียงมาม้ามาจากในครัว

                    กินข้าวได้แล้ว กับข้าวเสร็จแล้วจ้า

                    ก่อนจะเกิดเหตุปะทะขึ้นระหว่างห้องรับแขกของบ้าน ระฆังเสียงของมาม้าก็ดังขึ้น เรียกสมาชิกทุกคนทานข้าวเช้าก่อนไปทำงาน เหตุปะทะจึงต้องยุติเพียงแค่นั้น และมาม้าก็หันมาเชื้อเชิญภีมภัทรร่วมทานข้าวเช้าด้วย

                    ภีมลูก กินข้าวก่อนนะค่อยไปทำงาน จะได้มีแรง มื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดรู้ไหม มาม้าพูดด้วยความเอ็นดูภีมภัทรแล้วตักกับข้าวใส่จานให้ภีมภัทร

                    ครับมาม้า ขอบคุณมากครับ ภีมภัทรไม่ปฏิเสธ เมื่อมีผู้ใหญ่มาเสนอเขาจะไม่สนองได้อย่างไร

     ส่วนธัญวลัยได้แต่โมโหอยู่ในใจ เอาใจกันเข้าไป นายภีมเพราะนายฉันเลยกล้าเป็นหมาหัวเน่าเลย

    ระหว่างโต๊ะอาหารธัญวลัยกระซิบกับภีมภัทรถึงความไม่พอใจที่ภีมภัทรมาที่บ้านของเธอ เพื่อพูดถึงเรื่องที่ภีมภัทรบอกเธอเมื่อคืน

    นี่นายเรื่องที่จะพาครอบครัวมาที่บ้านฉันน่ะ เดี๋ยวฉันบอกพวกท่านเองก็ได้ไม่ต้องถ่อมาถึงนี่เหรอ ธัญวลัยพูดเบา ๆ กับภีมภัทรระหว่างอยู่ที่โต๊ะอาหาร

    ได้ไง ผมกลัวว่าคุณจะไม่บอกพวกท่าน อีกอย่างผมว่าผมมาบอกด้วยตัวเองยังไงก็ดูดีกว่า ภีมภัทรพูดเสร็จก็ตักข้าวเข้าปากไม่สนใจธัญวลัยอีกเลย

    เชอะ ธัญวลัยหมั่นไส้ภีมภัทร เพราะรู้ทันเธอไม่เสียหมด

    เมื่อทานอาหารเช้าเสร็จภีมภัทรก็อาสาเป็นคนมาส่งธัญวลัยที่ร้านกาแฟ และวันนี้เองที่ทำให้ภีมภัทรได้รู้จักการ์ตูน ผู้ช่วยที่ร้านกาแฟของธัญวลัย

                    สวัสดีค่ะ พี่ธัญ การ์ตูนยกมือไหว้ธัญวลัยและหันไปยกมือไหว้ภีมภัทร สวัสดีค่ะ พี่ หนูชื่อการ์ตูน เป็นผู้ช่วยมือขวาของพี่ธัญและอาแปะค่ะ การ์ตูนรายงานตัวด้วยความภาคภูมิใจ แต่ก็อดที่จะสงสัยในตัวภีมภัทรไม่ได้

                    เอ่อ...พี่ การ์ตูนอยากจะถามภีมภัทรแต่ก็ไม่กล้าได้แต่อึก ๆ อัก ๆ อยู่อย่างนั้น ภีมภัทรจึงเป็นฝ่ายแนะนำตัวบ้าง

                    สวัสดีจ๊ะสาวน้อย พี่ชื่อภีมภัทร เรียกว่า พี่ภีมก็ได้นะ พี่เป็นแฟนพี่ธัญและก็มีโครงการจะแต่งงานกับพี่ธัญเร็ว ๆ นี้ล่ะ ภีมภัทรรายงานตัวเสร็จก็โอบธัญวลัย เพื่อแสดงให้การ์ตูนเห็นว่าเขาเป็นแฟนกับธัญวลัยจริง ๆ

                    ธัญวลัยจึงหยิกที่สีข้างเค้าอย่างแรงและก็เอ่ยกับภีมภัทรเบา ทะลึ่ง เสร็จธุระก็กลับไปได้แล้ว

                    จริงเหรอพี่ธัญ การ์ตูนตื่นเต้นกับข่าวใหม่ที่ได้รับ

                    คนที่พี่ธัญจะแต่งก็คือพี่ภีมนี่เอง การ์ตูนเข้าใจเรื่องราวมากขึ้น จากหลายวันก่อนเพียงแค่แต่ได้ยินว่าพี่ธัญของเธอจะแต่งงานก็ยังนึกสงสัยอยู่ว่าใครหนอ แต่ทว่าวันนี้ได้เห็นตัวเป็น ๆ ของว่าที่เจ้าบ่าวของพี่ธัญแล้วก็รู้สึกดีใจ แอบอิจฉาเล็กน้อย ที่ตัวเองไม่มีผู้ชายที่หล่อแบบนี้บ้าง

                    นี่คุณ เสร็จแล้วก็กลับไปได้แล้ว ธัญวลัยไล่ภีมภัทรอีกครั้ง

                    จ๊ะ ที่รัก งั้นผมขอตัวไปทำงานเลยนะจ๊ะ บ๊าย บาย ภีมภัทรกล่าวกับธัญวลัยเสร็จจนเดินไปถึงหน้าประตูร้านแล้วก็หันกลับมาส่งจูบ เพื่อแกล้งยั่วธัญวลัย ธัญวลัยเห็นดังนั้นจึงเอาจูบที่ภีมภัทรฝากมากับสายลมจับไว้ แล้วทำเป็นทิ้งลงพื้นแล้วใช้เท้าขยี้ ๆ อยู่อย่างนั้น ภีมภัทรอดที่จะยิ้มไม่ได้

                ส่วนการ์ตูนเห็นดังนั้นก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ ถึงกับเพ้อถึงภีมภัทร พี่ธัญ ตูนอิจฉาพี่ธัญจังเลยง่ะ อยากได้แบบนี้ หล่อ ดูดี มีสกุลรุนชาติ น่าคบหา มาเป็นสามีบ้าง พี่ภีมเค้าน่ารักนะพี่ธัญ เหมาะกับพี่ธัญดีออก

                    ธัญวลัยเกิดอาการปรี๊ดแตกจึงพูดสวน ตูน หยุดหื่นเลยและก็หยุดเพ้อได้แล้วเตรียมตัวทำงาน อ้อ!และก็ไม่ต้องไปเป็นกรมประชาสัมพันธ์ประจำหมู่บ้านนะ ธัญวลัยเตือนการ์ตูน เพราะหากข่าวนี้แพร่กระจายออกไปมีหวังเธอคงต้องตอบคำถามไม่หยุดไม่หย่อนเป็นแน่ แค่บริหารร้านนี้ให้ได้กำไรในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ก็ปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว หากมีเรื่องมีมาเสริมอีกล่ะก็ จบเห่

                    จ้า พี่ธัญ การ์ตูนรับคำพร้อมกับเตรียมตัวช่วยธัญวลัยเปิดร้านกาแฟ

    ------------------------------------------------------------------------------------------------------

                    ทางด้านแฮมหลังจากปลอบประโลมพริมรตาทั้งคืนวันนี้ดูมีชีวิตชีวา มีใจในการทำงานเป็นอย่างมาก นั่งคิดโปรเจ็กต์ต่อไปทันที เพื่อรับรองแผนการตลาดต่อไป อีกทั้งเพื่อความสำเร็จของบริษัทและตัวเขาเอง ระหว่างที่นั่งคิดโปรเจ็กต์และหาข้อมูลเพิ่มเติมอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์มือถือของเค้าก็ดังขึ้น

                    สวัสดีครับ แฮมพูดครับ

                    ไง ไอ้แฮม หายไปเลยนะแก จำฉันได้ไหมเนี่ยเสียงปริศนาเอ่ยถาม

                    ก๊อตใช่ไหม ฉันจำเสียงแกได้นะ แฮมตอบกลับ

                    หนอย ที่นี้มาทำเป็นจำได้ นะแก ทีแกแต่งงานมีข่าวดีไม่เคยบอกเพื่อนบอกฝูง ก๊อตประชดทันที

                    ขอโทษทีว่ะเพื่อน ฉันไม่ได้มีเจตนาจะปกปิดทั้งนั้นแหละ แต่ตอนนั้นฉันไม่พร้อมจะแต่งงานด้วยซ้ำ มันเร็วมากจนแทบไม่ทันตั้งตัว แต่ก็มีการ์ดเชิญไปนี่ แฮมกล่าวอย่างแก้ตัว

                    ใช่มีการ์ดเชิญ แต่เชิญพี่ชายฉันไม่ได้เชิญฉันโว๊ย ก๊อตของขึ้นสวนกลับด้วยความน้อยใจและมีทิฐิ

                    ขอโทษ อย่าโกธรเลยนะ เรื่องมันผ่านมาแล้ว อีกอย่างฉันไม่อยากจะรื้อฟื้นว่ะ แฮมรีบตัดบท เพราะรู้ขืนพูดมากไป เข้าทางยัยก๊อตแน่นอน

                    ฉันถามจริง ๆ เถอะไอ้ที่แกไม่อยากบอกชาวบ้านว่าแต่งงานน่ะมันเพราะอะไร ก๊อตถามด้วยความอยากรู้ ตามนิสัยของเธอ

                    ฉันพลาดว่ะ ตอนนั้นฉันไม่อยากแต่งงานเสียด้วยซ้ำ แต่สถานการณ์มันบังคับ แฮมกล่าวโดยหารู้ไม่ว่าพริมรตาได้ยินทุกอย่างที่แฮมพูด พริมรตาถึงกับน้ำตาคลอเบ้า กลั้นเอาไว้ไม่อยู่ รีบเดินหนีจากบริเวณหน้าห้องทำงานของแฮมทันที

                    สถานการณ์บังคับ ก๊อตย้ำอย่างงง

                    ใช่ แต่เพราะสถานการณ์บังคับนี่แหละทำให้ฉันรู้ว่า รู้จักความว่ารัก และฉันก็ขาดเขาไม่ได้ พยายามทำทุกอย่างก็เพื่อเขา มันอาจจะเป็นพรหมลิขิตก็ได้มั้ง แฮมกล่าวแบบยิ้ม ๆ เมื่อนึกถึงใบหน้าของพริมรตา

                    แหวะ จะอ้วก ก๊อตพูดด้วยความหมั่นไส้

                    นี่แกไอ้ก๊อต แกอิจฉาล่ะซิ แฮมแหย่

                    ไม่เลยเพื่อน ฉันอยู่แบบนี้ ฉันก็มีความสุขดี เออนี่แกก็รู้ไหมว่าตอนนี้ไอ้ธัญกับคุณภีมพี่ชายเมียแกเป็นแฟนกัน ก๊อตถามด้วยความอยากรู้ เพราะจากเซ้นต์ของเธอทำให้รู้สึกว่า สิ่งที่ได้ยินมานั้น มันน่าจะมีอะไรมากกว่านั้น เธอจึงตัดสินใจสืบเอง

                    รู้ แฮมตอบ

                    แล้วทำไมถึงมาคบกันได้ว่ะ ก๊อตถามด้วยสงสัย

                    ประโยคนี้นี่เองที่ทำให้แฮมนึกย้อนเหตุการณ์ไปถึงคืนนั้นแต่ภีมภัทรเรียกแฮมเข้าไปคุย แถมยังขอที่อยู่และรูปถ่ายที่มีธัญวลัยไปด้วย

                    เฮ้ย! คงไม่มีอะไรหรอกน่า แฮมบอกปัด เพราะพรหมลิขิตมั้ง แฮมตอบไปเพื่อตัดปัญหา

                    แล้วแกถามธัญหรือเปล่าว่าทำไมถึงมารู้จักกับคุณภีม ก๊อตพยายามหลอกถามแฮม

                    อืม..ไอ้ธัญบอกว่า คุณภีมไปที่ร้านกาแฟบ่อย ๆ ก็เลยได้คุยกัน และก็สานสัมพันธ์กันเรื่อยมาแฮมตอบตามที่ธัญวลัยบอกเมื่อวานก่อน

                    เหรอ..แหม ก๊อตนึกเสียดาย อยู่ในใจ เพราะหากได้ข้อมูลมาไม่เหมือนกันละก็ ต่อมความอยากรู้อยากเห็นจะทำงานทันที

                    นี่ก๊อต แกไม่ทำงานหรือไง จับผิดเรื่องชาวบ้านอยู่ได้แฮมถามแบบประชด

                    ก็นี่ไง นี่แหละงานฉัน เรื่องของชาวบ้านคืองานของฉัน ก๊อตย้ำ แถมยอกย้อน และกล่าวอย่างภาคภูมิใจ

                    พอที เพื่อน ๆ คนอื่น ๆเป็นไงบ้างสบายดีไหม แฮมรีบเบี่ยงประเด็น อีกทั้งอยากรู้ความเคลื่อนไหวของเพื่อน ๆ ในกลุ่มด้วย เพราะเขามัวแต่ทำงานจนลืมเพื่อนและสังคมไปเลย เพราะอยากจะถีบตัวเองให้เหมาะสมและคู่ควรกับพริมรตา

                    การสนทนาระหว่างแฮมกับก๊อตเป็นไปอย่างราบรื่น ถามสารทุกข์สุขดิบ เรื่องราวต่างๆ ของเพื่อน ที่ต่างก็แยกย้ายไปทำงานตามหน้าที่ซึ่งการสื่อสารทางโทรศัพท์นี่แหละทำให้ได้รู้ข่าวคราวของเพื่อน ๆ แม้จะไม่ได้เจอกันแต่ข้อมูลที่ได้จากก๊อตนั้น รับรองเป็นความจริง 100%

                    พริมรตาเมื่อได้ยินคำพูดของสามีก็พยายามสงบจิตใจที่ห้องน้ำบริษัท ย้ำกับตัวเองว่า

                    ไม่เป็นไรพริม ฉันจะต้องไม่เป็นไร แฮมจะรักเรา จะต้องใช้ความดีในตัวเองเอาชนะให้ดี สู้ ๆ พริมรตาปลอบใจตนเอง เพราะหากเธอขาดเขา ก็คงอยู่ไม่ได้เช่นกัน

                เราต้องเชื่อมั่น ๆ มันต้องดี สู้ ๆ พริม เธอต้องเชื่อมั่นในตัวเขา พริมรตาสะกดจิตตัวเอง เพื่อสร้างความหวัง และคิดว่าสิ่งที่เธอคิดนั้นจะต้องสำเร็จเป็นแน่

                    เมื่อพริมรตาสงบจิตใจ พยายามลืมเหตุการณ์ที่ได้ยินเมื่อครู่ ตั้งสติและก็เริ่มทำงานตามปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

     --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ช่วยเม้นต์และโหวตด้วยนะคะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและให้กำลังใจ ^ 0 ^ ค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×