คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2 พรหม...ไม่ได้ลิขิต
ตอนที่ 2 พรหม...ไม่ได้ลิขิต
ดื๊อ ดื่อ ดือ ดื่อ ดื่อ ดือ ดื๊อ ดือ
เสียงออดหมดคาบครั้งที่เท่าไรก็ไม่รู้ดังขึ้น น้องฐาลืมตาโพลงเนื่องจากนอนหลับไปงีบใหญ่ พอตื่นขึ้นมาก็ตาสว่างจนหลับไม่ลงเพราะเสียงกรนเบาๆ จากเตียงข้างๆ ที่ทำให้ระลึกได้ว่าไม่ได้อยู่คนเดียว โชคยังดีที่ยังไม่มีคดีฆาตกรรมในห้องพยาบาลเกิดขึ้นแต่อย่างใด
ไม่นาน มีเสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามาจนในที่สุดประตูห้องพยาบาลก็เปิดผลั่ว!!
มิ่ง เพื่อนร่วมชั้นเรียนคนหนึ่งของหนูเดินเข้ามา แอบส่งสายตาเหล่มาทางหนูนิดหนึ่งแต่ไม่ได้ใส่ใจมากนักก่อนจะเดินเลยเข้าไปที่เตียงด้านใน
“เฮ้ยโรจน์ เลิกเรียนแล้ว กลับบ้านกันเถอะ” มิ่งบอก และทำให้หนูแอบอ้าปากค้าง กลืนน้ำลายเอื๊อกๆ
อร๊ายยยยยย เสียงก็ว่าโหดแล้วแต่ไม่คิดว่าหน้าจะโหดด้วย ที่แท้เตียงข้างๆ ก็เป็นไอ้โรจน์เองเหรอเนี่ย
“อือ” คนป่วยตอบด้วยเสียงไร้อารมณ์ แล้วสองเกลอก็พยุงกันเดินผ่านเตียงหนูมาอย่างทุลักทุเล
ไอ้โรจน์เหล่ตามามองหนูที่ลุกขึ้นครึ่งนั่งครึ่งนอนบนเตียง พอเห็นว่ามันหันมา หนูก็ก้มหน้าอัตโนมัติด้วยความรู้สึกขนพองสยองเกล้า กลัวมันจะหาว่ามองหน้าหาเรื่อง แต่กลายเป็นว่า...
“มึงจะนั่งเฉยๆ อีกนานไหม มึงไม่เห็นเหรอว่ากูเจ็บขาเดินไม่ไหวเนี่ย ยังไม่รีบมาพยุงกูอีก ที่เสียงดังรบกวนกูตอนหลับเมื่อกี้กูยังไม่ได้คิดบัญชีเลยนะ” ไอ้โรจน์ส่งเสียงมาข่มขู่ จากที่ซีดอยู่แล้วหนูหน้าซีดกว่าเดิมอีก รีบกุลีกุจอโดดลงจากเตียงไปหามันอย่างเร่งด่วน พอไปยืนข้างๆ หนูก็พยายามจะจับแขนมันไว้ด้วยมืออันสั่นเทา หากแต่อีกฝ่ายกลับส่งสายตาดุๆ มาอีก
“ขยับมาใกล้ๆ พยุงกูดีๆ ไม่ใช่ทำท่าอีเดียจแบบนั้น แม่ง...ทำเหมือนรังเกียจ เดี๋ยวกูกระทืบจมดิน” อร๊ายยยยยย โหดไปไหนคะ? หนูรีบขยับเข้าไปใกล้พร้อมทั้งจับแขนของมันมาพาดคอไวว่องแล้วช่วยพยุงร่างมันออกมาจากห้องพยาบาล
ถ้าไม่นับรวมญาติพี่น้องและบรรดาอมนุษย์กลุ่มเดียวกัน ก็เพิ่งจะได้ใกล้ชิดกับจนเกือบรู้สึกถึงการใช้ลมหายใจร่วมกับผู้ชายแบบนี้เป็นครั้งแรก
อ้อมกอด (เขาเรียกอ้อมแขนวุ้ย) ที่วาดมาทำให้หัวหนูต้องแนบกับอกของมันนิดๆ เป็นครั้งแรกที่ได้วาดแขนโอบเอวใครสักคน และรู้สึกถึงคำว่า “กล้ามเนื้อ” น้ำหนักที่ทิ้งลงมาแม้จะหนักแต่ก็รู้สึกถึงความเชื่อมั่นไว้วางใจ (ได้ข่าวว่ามันไม่มีคนอื่นมาช่วยมั่งเหอะ) กลิ่นเหงื่อและกลิ่นบุหรี่อ่อนๆ ที่เพื่อนๆ ทั้งหลายไม่มี สิ่งที่แตกต่างจากกลิ่นน้ำหอม กลิ่นแป้งก็น่าหลงใหลดี... ทำให้รู้สึกได้ว่า
เออ....นี่แหละถึงจะเป็น “กลิ่นผู้ชาย” ของแท้ ...
..........อร๊ายยยยยย คิดละเขินอ่ะ...........
บ้าเนอะ....แค่ต้องพยุงคนขาเจ็บไปที่รถแค่นี้? หนทางก็ไม่ได้ยาวไกลอะไรนัก กลับคิดอะไรก็ไม่รู้เลยเถิดไปกันใหญ่ สงสัยภาพในนิตยสารเล่มนั้นจะอาถรรพ์แน่ๆ เลยเชียว....
ในที่สุดเราสามคนไปถึงรถเครื่องของมันที่จอดอยู่ (รถเครื่องก็อย่างเดียวกับรถมอเตอร์ไซค์นะคะ) จริงสิ ลืมไปว่ามากันสามคน แหม.... หนูก็ลืมตัวนึกว่าโลกนี้มีเพียงสองเราอยู่ตั้งนาน
“อีตุ๊ด!!...มึงล้วงกุญแจรถในกระเป๋ากางเกงกูออกมาซิ” เสียงไอ้โรจน์ดังขึ้นมา ทำให้น้องฐาสะดุ้งหันไปมองหน้าคนสั่งทำตาปริบๆ เหมือนเด็กเอ๋อ แต่ก็พอเข้าใจว่าสองแขนของมันคล้องคอหนูกับไอ้มิ่งไว้อยู่เลยไม่ว่างจะหยิบกุญแจเองก็เลยต้องมาวานหนูที่ดันโชคดียืนอยู่ด้านขวาพอดีค่ะ แต่อดกล้าๆ กลัวๆ ไม่ได้
“กูบอกให้หยิบกุญแจในกระเป๋ากางเกงกูที ไม่ได้ยินหรือไง เดี๋ยวกูถีบร่วง” อ๊า น่ากลัวชะมัดเลยอ่ะค่ะ
หงึกๆ หนูรีบพยักหน้าทันทีแล้วยื่นมือลงไปควานหากุญแจรถในกระเป๋ากางเกงไอ้หมาบ้าจอมวางอำนาจด้วยมือสั่นๆ ขอให้ล้วงลงไปแล้วเจอแต่กุญแจด้วยเถอะอย่าเจองูยักษ์อะไรเล้ยยยย เดี๋ยวกำเดาทะลักอีกรอบจะยุ่ง
กรุ๊งกริ๊ง.... ในที่สุดหนูก็ชูกุญแจรถของมันขึ้นมาได้โดยที่ไม่เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญแต่อย่างใด มิ่งคว้ากุญแจในมือหนูไปถือไว้
“อ้าว.... เชี่ยเอ๊ย....ใครทำน้ำหกใส่เบาะรถกูวะ” ไอ้โรจน์สบถอย่างหัวเสียเมื่อหันไปสังเกตที่รถตัวเองที่เปียกน้ำอยู่
“มึงเช็ดดิ๊” แล้วมันก็หันมาสั่งหนูอีกจนได้ หนูก็เอามือเช็ดแบบลวกๆค่ะ แต่มันไม่แห้ง...
“ใช้มือแล้วมันจะแห้งไหมอีควาย... ผ้าเช็ดหน้าน่ะมีไหม?” ฮือๆๆๆ หนูรีบพยักหน้าแล้วล้วงกระเป๋ากางเกงตัวเองเพื่อดึงผ้าเช็ดหน้าออกมาแต่พบว่า...ผ้าเช็ดหน้ามันเปื้อนเลือดกำเดาแดงเถือก..... แป่ว....
“สกปรก นี่มึงคิดจะเอาผ้าเช็ดหน้าเน่าๆ เปื้อนเลือดโสโครกของมึงมาเช็ดรถกูเหรอ จะมากไปแล้วนะ เดี๋ยวปั๊ด....” ไม่พูดเฉยๆ ค่ะ ไอ้หมาบ้ามันทำท่าจะง้างบาทามาถีบหนูเหมือนที่พูด แต่หนูขยับตัวออกห่างได้ทันและประกอบกับที่มันเจ็บขาและมิ่งประคองอยู่มันเลยก้าวตามมาเตะหนูไม่ได้ เลยรอดพ้นตีนไปหวุดหวิด
“ขอโทษ...เราไม่ได้ตั้งใจ” หนูรีบยกมือขึ้นมาพนมพร้อมส่งสายตาแสดงความหวาดกลัวทันที
“ถ้ามึงไม่รู้จะเอาอะไรมาเช็ดรถมึงก็ถอดเสื้อมึงออกมาเช็ด” นั่น! ให้ถอดเสื้อนักเรียนออกมาเช็ดเนี่ยนะ อร๊ายยยย ไม่เอานะ นี่มันเลิกเรียนพอดี คนเดินไปมาก็ออกจะเยอะแยะ อายเขาตายเลย...
“หรือมึงจะถอดกางเกงมาเช็ดก็ได้” โห....แต่ละตัวเลือก... ดีทุกข้อเลยอ่ะค่ะ
“โรจน์ แต่เรา....” หนูเบะหน้าเหมือนจะร้องไห้แล้วค่ะ แต่ก็ไม่นำพา....
“ชักช้าร่ำไร เดี๋ยวกูตบ” คำว่าเดี๋ยวของมันแปลว่าตอนนั้นเลยค่ะเพราะมันเงื้อฝ่ามือโตๆ มาเรียบร้อยแล้ว หนูหลับตาปี๋เอียงคอหลบแต่ไม่ทัน เลยโดนเบิร์ดกะโหลกไปหนึ่งทีจนหน้าคว่ำ พอเงยหน้าขึ้นมากลัวจะโดนซ้ำเลยต้องจำใจถอดเสื้อนักเรียนขึ้นมาเช็ดรถให้มันทั้งน้ำตานองหน้า... โชคยังดีนะคะที่ใช่เสื้อกล้ามด้วยตัวนึงไม่งั้น โอ๊ย... น้องฐาล่ะคงอับอายหน้าอกน้อยๆ จนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ถ้าให้ใหญ่อวบอึ๋มสักคัพเอฟจะไม่ว่าสักคำ
เบาะรถหายเปียกแล้ว มิ่งก็ต้องรับหน้าที่เป็นพลขับ ไอ้โรจน์ก็นั่งไพ่เป็นตุ๊ดไปเลยทีเดียว
เฮ้อ...กว่าจะรอด...นึกว่าจะโดนตบหัวหลุดแล้วซะอีก น้องฐาเอาเสื้อเปียกๆ มาบิดหมาดๆ สะบัดหลายทีแล้วสวมมันทั้งชื้นๆ ก็พอดีพวกอีเพื่อนเดินมาเจอ
“อ้าว... พวกกูอุตส่าห์ไปหาที่ห้องพยาบาลมึงมานี่ทำไมเนี่ย” อีโอ๋ถามขึ้น
“กูเดินออกมา” ตอบไปอย่างไร้อารมณ์
“แล้วทำไมเสื้อมึงเป็นงั้น?”
“ช่างเถอะ ถือว่าฟาดเคราะห์” หนูตอบด้วยเสียงปลงๆ
พวกเราเดินไปเข้าแถวเพื่อจะไหว้อาจารย์เวรยามที่ป้อมหน้าโรงเรียน ซึ่งตอนนี้แถวยาวไปไกลแล้ว
“เออ กูรู้แล้วว่าใครที่นอนห้องพยาบาลกับมึง ก็ไอ้โรจน์ไง” อีโอ๋ทำเสียงภาคภูมิใจทันที
“กูรู้ก่อนมึงอีก” หนูตอบด้วยเสียงหงุดหงิดทันที
“อย่าบอกนะว่าที่เสื้อมึงเละแบบนี้ก็ฝีมือมัน” เทพธิดาพยากรณ์มาเองเลยนะยะหล่อน...
หนูกลอกตาเซ็งๆ ไม่ใครจะเสวนาในเรื่องที่ผ่านไปแล้ว เพราะมันช่างอนาถนัก
“โห... แม่ง...เลวว่ะ แต่ก็เก่งด้วย... ขนาดเล่นบาสจนส้นเท้าซ้นยังสามารถหาเรื่องมึงได้อีกเนอะ” ชมหรือด่าคะอีโอ๋
“ฉันว่าไม่ได้เก่งหรอก อีฐามันซวยต่างหาก” ขอบคุณนะคะอีปาล์ม ช่วยได้มากค่ะ ไม่ปลอบใจแล้วยังซ้ำเติม
“เออ... กลับบ้านไป กินตับเยอะๆ นะมึง... จะได้บำรุงเลือด วันนี้เสียไปเยอะนี่ หึหึ” โอ้.... โชคดีกลุ่มนี้มีนักโภชนาการอยู่ด้วย
แต่ละคน ช่างเป็นเพื่อนที่แสนดีจริงจริ๊ง
................................................
หลังจากเหตุการณ์นั้นแล้วไอ้โรจน์มันก็สงบเสงี่ยมมากขึ้นกว่าเดิมเยอะ จากที่ปกติมันจะเป็นไอ้หมาบ้าหาเรื่องชาวบ้านไปทั่ว แต่เพราะเจ็บขามันเลยซ่าน้อยลง และมันก็ไม่สนใจหนูอีกแต่อย่างใด ถือว่าโล่งอกโล่งใจเป็นที่ยิ่ง.. กาลเวลาก็ผ่านไปอย่างปกติสุขเหมือนเก่า...
พอขึ้นม.ห้าเทอมสองเท่านั้นล่ะได้เรื่อง เปิดเทอมใหม่วันแรกพวกเราก็ต่างช่วยกันทำความสะอาดห้องเรียนที่มีทั้งฝุ่นเกาะ และสภาพโต๊ะเรียนที่ยังคงสภาพแยกย้ายกันห่างไกลเพื่อใช้สำหรับสอบ พวกผู้หญิงในห้องช่วยกันกวาดห้อง ส่วนหนูหิ้วถังน้ำเพื่อจะถูพื้น ทันใดนั้นเอง ความซุ่มซ่ามอันเป็นสมบัติเฉพาะตัวก็ทำให้สะดุดขาตัวเองจนล้มลง ถังน้ำที่หิ้วมาหกกระจาย ไปโดนขาใครคนหนึ่ง ทั่วห้องพร้อมใจกันหันมามองอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น เกิดความเงียบขึ้นในบัดดล
“ขอโทษน้า” น้องฐาละล่ำละลักขอโทษอย่างสำนึกผิดระหว่างที่ค่อยๆ พยุงตัวเองลุกขึ้นนั่งภาพตรงหน้าพบแต่เบรกเกอร์ของใครคนนึง ทำให้ทราบว่าผู้เคราะห์ร้ายเป็นนักเรียนชาย...
นั่นก็ยังไม่เลวร้ายเท่าไร ถ้ามันไม่ใช่...... ไอ้โรจน์ โจทก์เก่า!!
“มึงอย่าอยู่เลย อีตุ๊ด......” เสียงไอ้โรจน์คำรามลั่นก่อนจะเงื้อฝ่าเท้าเหมือนจะเตะ
มายก๊อดดดดดดดด หนูรีบลุกขึ้นยืนแล้วเผ่นแผล็วไปอย่างรวดเร็วก่อนจะโดนสหบาทา หนูวิ่งหนีไอ้โรจน์ไปถึงห้องน้ำชายแล้วก็ขังตัวอยู่ในนั้น
“มึงออกมาเลยนะ” เสียงไอ้โรจน์ขู่ตะคอกอยู่ข้างนอกด้วยเสียงโหดๆ จนหนูตัวหด สั่นเป็นเจ้าเข้า
“ขอโทษนะโรจน์ เราไม่ได้ตั้งใจ” หนูตะโกนบอกด้วยเสียงเศร้าๆ แต่ไม่กล้าออกจากห้องน้ำ น้ำตาไหลพรากๆ...
“มึงไม่ออกมาใช่ไหม....ได้.... มึงเจอดีแน่...” มันว่าแล้วเงียบไป ได้ยินเสียงน้ำก๊อกไหลแรงๆ ชั่วครู่....
กระซิก กระซิก... แง้ๆ.... ทำไงดี ทำไมซวยปานนี้เนี่ย..... เดินวนไปวนมาอยู่ในห้องส้วมอย่างลุกลี้ลุกลนจนกระทั่ง....
ซู่!!! สายน้ำถูกสาดเข้ามาจากด้านบนค่ะ
“แอร๋ยยยยยยย” ร้องเป็นกะเทยถูกเชือดเลยค่ะ ทั้งตกใจทั้งหนาว เปียกปอนไปหมดทั้งตัว ฮือๆๆๆ
“มึงทำรองเท้ากูเปียกมึงเจอแค่นี้ยังน้อยไป อยากอยู่ข้างในมากนักก็อยู่ไปนะ ออกมาเมื่อไรมึงโดนแน่” ไอ้โรจน์ขู่ แล้วก็ได้ยินเสียงฝีเท้าย่ำออกจากห้องน้ำไป....
น้องฐานั่งร้องไห้อยู่ในห้องน้ำอยู่ทั้งวันไม่ยอมออกจากห้องน้ำ จนกระทั่งตกเย็นคาดว่าจะไม่เจอไอ้โรจน์แล้วนั่นแหละถึงกล้าออกมา และเพราะนั่งเปียกอยู่อย่างนั้นทั้งวันหนูก็เลยไม่สบายไม่มาเรียนไปสองวัน วันพุธก็โผล่มาแบบหวาดๆ
“ฐา... มึงหายดีแล้วเหรอ?” โอ๋ทักทายเมื่อหนูยืนนิ่งอยู่ในห้องเพราะไม่รู้ว่าที่นั่งตัวเองอยู่ตรงไหน
“อื้อ...ดีขึ้นแล้ว....” หนูตอบด้วยเสียงเบาๆ แสดงความอ่อนเพลีย
“เออ.... มึงหนอมึง ซวยฉิบหาย มีเรื่องกับใครก็ไม่มี ดันไปมีกับไอ้โรจน์” โอ๋ส่งเสียงแสดงความสงสารออกมาอย่างเห็นได้ชัด หนูก็ได้แต่เบะหน้าเศร้าๆ อย่างรู้ตัวดีว่าไม่มีใครช่วยได้ ก็ต้องรอดูต่อไปว่ามันจะทำยังไงต่อ จะซ้อมหนูให้เละจนสมแค้นหรือเปล่า....ถึงจะพอใจ
“เออ ฉันเห็นแกไม่สบายเลยไม่กล้าบอก แต่แกมาเรียนแล้วอย่างนี้ ไม่บอกไม่ได้แล้วล่ะนะ” ปาล์มทำหน้าเครียด
“อะไรเหรอ?” หนูถามพลางเลิกคิ้วสงสัย
“ก็ที่นั่งใหม่เทอมนี้ไง อาจารย์แกให้จับฉลากไม่ได้เลือกเอง แล้วคนที่นั่งคู่กับแกอ่ะนะ....ก็ไอ้โรจน์อ่ะแหละ” หา!!!!!!!!!!!!!!!
ได้แต่.....ตาโต อ้าปากค้าง......
จำไม่ได้ว่าเคยไปฉี่รดศาลเจ้าที่ไหนไม่ใช่รึ?
แล้วทำไมชีวิตน้องฐา......มันถึงได้อาภัพอับโชค.....เคราะห์ซ้ำกรรมซัดปานนี้ล่ะ!!
ความคิดเห็น