คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1 ปฐมบทความแรด
♥นี่นาย!รับกะเทยทานเพิ่มไหมจ๊ะ!♥ sp น้องฐาภาค ม.ปลาย 1
ตอนที่ 1 ปฐมบทความแรด
“คนต่อไป....ฐาปนันท์” เสียงคุณครูลิ้นจี่อาจารย์สอนวิชาภาษาไทยหรือที่กลุ่มหนูตั้งฉายาให้ว่าเจ๊ฉิ่งดังมา ทำให้น้องฐาลุกขึ้นและก้าวเดินมายืนที่หน้าชั้นเรียนอย่างมาดมั่น ลำตัวตั้งตรง หน้าเชิดเล็กน้อยกระพุ่มมือไหว้อย่างสวยงามสมเป็นกุลสตรี
“เรียนอาจารย์ที่เคารพรัก และ...สวัสดีเพื่อนๆ ที่น่ารักทุกคน” เพื่อนๆ ในห้องต่างตั้งใจฟังกันตาแป๋ว อาจเป็นเพราะตะลึงงันในความสวย... อิอิ ขออนุญาตแนะนำตัว...“ผมนายฐาปนันท์ (ไม่ระบุนามสกุล) เลขที่ 16 ครับ”
ผม?? ครับ??? หลายคนคงคิดว่าแกแนะนำตัวเองผิดหรือเปล่าอะไรเทือกนั้นใช่ไหม? ไม่ค่ะ ไม่ผิดแม้แต่น้อย แม้จะมีใบหน้าขาวซีดไร้ร่องสิวมาอุดตัน เรือนร่างอรชรอ้อนแอ้น ท่าทางการย้ายวารหรือก็ส่ายไปมา น่ารักน่าชัง แต่ไอ้ที่ว่ามานั้น บังเอิญ....ไม่ใช่ผู้หญิงค่ะ แต่.....เป็น..ตุ๊ด!!
“วันนี้ผมจะออกมาพูดในหัวข้อเรื่อง สิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นในอนาคต....” ระหว่างพูดก็นำมือทั้งสองมาประสานกันที่บริเวณเอว ใบหน้ามีรอยยิ้มน้อยๆ ช่วงบนขยับส่ายไปมือเพื่อให้สายตาสามารถทอดมองไปทั่วห้อง อันเป็นวิธีการพูดสุนทรพจน์ที่ดี
“ครับ คงไม่ผิดถ้าสิ่งที่คนเราต้องการเป็นอันดับต้นๆ มักจะเกี่ยวข้องกับตัวเอง... และหรือ... เริ่มต้นมาจากตัวเองเสียเป็นส่วนใหญ่ ผมเองก็ไม่แตกต่างจากคนทั่วไป เพราะถึงจะมีอะไรที่แตกต่างแต่ยังเป็น...มนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาเท่านั้น ดังนั้นสิ่งที่ผมต้องการให้เกิดขึ้นในอนาคตคือ... ความเท่าเทียมกันในเรื่องรสนิยมทางเพศ”
แค่กๆ... หลายคนในห้องเริ่มเกิดอาการสำลัก บางคนกลั้นขำ
แต่...อย่าได้แคร์สิ่งใดๆ ไม่เลิกพูดจนกว่าอาจารย์จะไล่ลงจากเวที น้องฐาเพิ่มสาธยายเรื่องความเหลื่อมล้ำในสังคม อันเกี่ยวข้องกับเรื่องเพศที่สาม เรื่อยเปื่อย... น้ำท่วมทุ่ง และมั่วมาก ฮาๆ จนเจ๊ฉิ่งต้องแอบกระแอมไอ เป็นสัญญาณว่า แกกลับมาเหอะ ออกทะเลไปไกลแล้ว น้องฐาจึงสรุปว่า
“ไม่ว่าจะเพศไหนๆ ก็ถือว่าเป็นมนุษย์ เป็นเพื่อนร่วมโลกเช่นเดียวกัน ผมหวังว่า ทุกคน...จะทำให้เป็นกลางและเปิดกว้างกับโลกที่ก้าวหน้า เป็นมิตรกับสิ่งมีชีวิตทุกชนิดแม้จะคนละสปีชี่ส์กับคุณก็ตาม....ท้ายสุดนี้ ขอถามนิดนึง....ใครเกลียดกะเทย....ให้ยกมือขึ้น”
พรึ่บ!!!! (มหาศาล.....)
น้องฐาแอบยิ้มพลางคิดในใจ อีพวกนี้นี่ จะตรงไปตรงมาไปหรือเปล่ายะ?
ไม่สิ ถ้าไม่ได้ยกเพื่อประชดประชันอาจจะเป็นเพราะอิจฉาในความงามยิ่งกว่านางสาวไทยของหนูเป็นแน่
“ค่ะ ขอบคุณสำหรับกำลังใจของทุกคนนะคะ สวัสดีค่ะ” ส่งรอยยิ้มแสนหวานปานนางสาวไทยอีกครั้ง กระพุ่มมือแล้วย่อเกือบสุดอย่างนอบน้อม ก่อนจะเดินเข้าที่นั่ง
“คนต่อไป.....ดนุพร” เสียงเจ๊ฉิ่งดังมาขณะที่น้องฐายังเดินไม่ถึงโต๊ะ ทันทีที่หย่อนบั้นท้ายอวบอิ่มลงยังเก้าอี้.....
“ฮ่าๆ..” เสียงหัวเราะแหลมๆ ของคนข้างกายทำให้หนูต้องแอบจิกตาใส่อย่างงอนๆ
“แกจะร้องไห้ทำเขือเหรอยะ” หนูแอบทำเสียงเล็กๆ แอบด่าเพื่อนไป เพื่อนคนนี้ชื่อปาล์มค่ะ ร่างเป็นชายใจเป็นหญิง สรุปว่าสปีชี่ส์เดียวกันค่ะ คอนเฟิร์ม...
“ไม่ทำหรอกเขือ...พอดีมีแล้วหนึ่งอัน” ชิ!! ต่อปากต่อคำ “แกนี่ก็กล้านะยะ พูดเรื่องเพศที่สามแบบหน้าตาเฉยเลย” พูดไปก็หัวเราะไป
“ฉันก็แค่แสดงความคิดเห็นเท่านั้นแหละ ยังไงก็แค่เรียงความเท่านั้น จะเปลี่ยนแปลงความคิดชาวบ้านได้ยังไง ดูสิ พอฉันแกล้งถามขึ้นมา เล่นยกมือกันซะค่อนห้อง” หนูทำเสียงกระเง้ากระงอด
“โถๆ แม่คนขี้ใจน้อย ไม่มีใครเขายกมือเพราะคิดจริงจังหรอก แค่อยากจะแกล้งแกเท่านั้นแหละย่ะ เพราะถ้าแกสังเกตดีๆ คนที่ยกมือเมื่อกี้ก็มีฉันและก็พวกกลุ่มเราทั้งกลุ่ม ถ้าเกลียดกะเทยจริงๆ ก็เท่ากับเกลียดตัวเองด้วยน่ะสิ” ปาล์มว่าเหมือนเป็นเรื่องตลก ก็จริงค่ะ สมัยนี้สังคมเขาเปิดกว้างมากขึ้นแล้ว จะหาชายจริงหญิงแท้ยากขึ้นทุกวัน แต่ที่ยากยิ่งกว่าคือคนที่จะยอมรับความจริง ....
หมายความว่ายังไงน่ะเหรอคะ? ก็หลายคนยังไม่รู้ตัวเอง หลายคนรู้แล้วแต่ไม่กล้าแสดงออกในสิ่งที่ตัวเองเป็น ยกตัวอย่างเช่น โอ๋ เพื่อนกะเทยอีกคนที่มันเก๊กแมนเก่งเหลือคณา ตอนอยู่กับเพื่อนคนอื่นๆ ก็ดูเหมือนจะแมนเต็มร้อย ไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือท่าทาง แต่พออยู่กับพวกเดียวกัน ยัยนี่แรดไม่เกรงใจใครเลย แม้แต่น้องฐาตัวน้อย ยังต้องยอมแพ้ความแรงแรดของมันด้วยความโศกา
ระหว่างช่วงพักกลางวัน เราล้อมวงนั่งเปิบส้มตำไก่ย่าง....ตรงโต๊ะหินอ่อนนอกโรงอาหาร อันประกอบด้วยบรรดาสาวๆ ที่รวมกันแล้วก็ยังสวยน้อยกว่าหนู (มั่นไปป่ะ? หลงตัวเองจริงๆ)
“มึงเห็นรุ่นพี่คนนั้นไหม... หล่อเริ่ด กิ๊บบี้โดนใจเจ๊” เสียงอีโอ๋ดังมาประจานความแรด กระซู่ กรูปรี เมื่อเหล่ตาไปยังรุ่นพี่ม.หกคนหนึ่งที่เดินผ่านมา
“สรุปเขาเป็นรุ่นพี่หรือมึงเป็นพี่กันแน่ยะ อีเจ้” หนูแอบกวนบาทาเพื่อนเล่นแก้เซ็ง (ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าพวกเราต้องอ่อนกว่า) อีโอ๋หันควับมาส่งสายจิกใส่
“อีนี่วอนเดี๋ยวกูตบล้างน้ำ” ชะอุ้ย อีนี่ดุ!! มีลูกต้องขอตัวนึงไปเลี้ยงเฝ้าบ้าน
“อย่านะยะ ถ้าแกเอามือเท่าไม้พายของแกมาโดนใบหน้าอันบอบบางของฉัน มันต้องเละแน่ๆ” หนูทำเสียงแสดงความรังเกียจและเหยียดหยามสุดฤทธิ์
“ต๊ายยยยย อีหอยหลอด หน้าบางม้ากกก คาบเจ๊ฉิ่งยังเห็นเชิดหน้ารับสายตาด่าทอแบบไม่เกรงใจใครอยู่เลย เขายกมือว่าเกลียดกะเทยยังจะยิ้มรับหน้าบานอีก” อีนี่เห่าเก่งและกัดเจ็บ
“เขาเกลียดฉันเพราะฉันสวยกว่าต่างหากล่ะยะ” ดีกรีความแรดอาจไม่สู้ แต่สวยเริดไม่เป็นรองใคร น้องฐาภูมิใจนำเสนอค่ะ อิอิ
“ถุย!!! สวยตาย” อีปาล์มกะเทยกอล์ฟฟี่ส่งเสียงมาขัดคอ พร้อมคายเศษกระดูกไก่ที่แทะแล้วมาใส่จานเป็นท่าทางประกอบฉาก.....ทำให้น้องฐาย่นจมูก
“กังกา กินข้าวอยู่นะอีนี่” นังออยผู้ซึ่งมีบทบาทน้อยสุดในวงสนทนาเพราะมักจดจ่ออยู่กับการกินแว้ดออกมาทันทีที่อีปาล์มแสดงกิริยา ไพร่สถุล รากหญ้าออกมาเห็นๆ
“ย่ะ รู้แล้วว่ากินข้าว ไม่ได้กินขี้อยู่” มีหน้ามากวน แทบจะกระเดือกไก่ไม่ลง แต่ต้องกินเข้าไป ประเดี๋ยว ไม่อึ๋ม อิอิ
“หยุดเลยอีปาล์ม ฟังมึงพูดแล้วกูหมดอารมณ์ชมผู้ชายเลยอ่ะ” โอ๋รีบห้ามทัพ ทำให้เรากลับมาจกข้าวเหนียวต่อจนอิ่ม
วิถีกะเทยในกลุ่มไม่มีอะไรมากค่ะ ช่วงพักกลางวันไม่ค่อยจะได้เล่นกีฬาอย่างพวกผู้ชาย กลัวเหงื่อออกเดี๋ยวตัวเหม็น พออิ่มข้าว ก็จะไปหาโต๊ะหินอ่อนที่ตั้งอยู่ระหว่างทางเดินโรงอาหารกับตึกเรียน เหล่หนุ่ม เวลาเจอใครที่กิบเก๋เข้าตาจนเกิดอาการคันก็อาจจะมีจุดพลุ เรียกร้องความสนใจกันบ้าง ซึ่งดูจากผลสำรวจที่ผ่านมาแล้ว ผู้ที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในกลุ่มตกอยู่ที่ออย เพราะเธอผิวขาว ตาหวาน แก้มยุ้ย แลดูกุ้งนางมาก แต่กลับเป็นคนที่เงียบที่สุด บ้าผู้ชายน้อยที่สุดจนน่าเสียดาย... ส่วนพวกที่เหลือน่ะหรือคะ ศูนย์รวมอมนุษย์ดีๆ นี่เอง
พอใกล้หมดคาบเรียนพวกเราจะเยื้องกรายย้ายวารไปรวมตัวที่ห้องน้ำชายค่ะ (โรงเรียนที่เรียนเป็นโรงเรียนสหศึกษานะคะ) เข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวตามอัธยาศัย ตามด้วยโบ๊ะแป้งแต่งหน้าจนขาววอก ตามด้วยน้ำยาอุทัย...พอให้ปากแดงน่าจ๊วบ (แต่สำหรับหนู มักจะปากแดงธรรมชาติด้วยน้ำแดงอยู่แล้ว)
แอบส่องกระจก อย่างน้องฐานี่ไม่สวยมาก แต่น่ารักสุดๆ อมนุษย์...แต่เป็นนางฟ้าน้อยๆ ค่ะ แอร๋ยยยยย เขิน หันไปมองเพื่อนๆ (ยกเว้นออยไว้หนึ่งคนเพราะมันสวยกว่านิดดดดดดนึง) อยู่กับยัยเงือกพวกนี้แล้วปวดกะโหลก อยากจะเอามีดกรีดหน้าตัวเองวันละสิบรอบจะได้สวยน้อยลง คิคิ
ชีวิตกะเทยน้อยดำเนินมาอย่างปกติสุขเรื่อยเปื่อยจนกระทั่ง ม.ห้าเทอมหนึ่งตอนจะสอบปลายภาคค่ะ วันดีคืนดี อีเพื่อนผู้กร้านโลกก็เริ่มชักพาให้น้องฐาผู้น่ารักไร้เดียงสาก้าวเข้าสู่โลกใหม่ ที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน... ด้วยของสิ่งนั้น...
“อร๊ายยยยย หล่อโฮก....” เสียงแบบนี้ไม่ใช่ใครค่ะ ต้องเป็นอีโอ๋ กทม. ที่แสดงอาการคันธมาศซะจนไม่เหลือความแมน เมื่อชะโงกหน้าลงไปดูภาพในหนังสือที่กางหราตรงหน้าอีปาล์ม
“บัดสีบัดเถลิง ซื้อมาทำไมก็ไม่รู้ เอาไปซื้อของกินได้เป็นถุงๆ” อีน้องออย ไม่ว่าอะไรก็ไร้สาระไปหมดเมื่อเทียบกับการกิน
“เชอะไม่รู้จักของดี” เจ้าของนิตยสารทำเสียงจิ๊จ๊ะ เมื่อเพื่อนทำเป็นไม่สนใจ น้องฐาเคลื่อนกายไปเบียดเพื่อนๆ กระแซะยัยออยที่มือถือสากปากถือศีลปากว่าตาก็มองหนุ่มหล่อในหนังสือไม่วางตา
กรี๊ดดดดดด น้องฐาอยากจะกรี๊ดดดดดด อีหน้าตาว่าหล่อแล้วแต่รูปร่างนี่เย้ายวนมาก
บุรุษหน้าเข้มผิวสีแทนที่เกือบจะเปลือยในภาพนั้น ส่งสายตาเซ็กซี่มาเย้ายวนกระชากใจให้เต้นตุ้บตั้บ เสื้อผ้าอาภรณ์หรือก็น้อยชิ้นมากมาย บนไม่มีข้างล่างเหลือแต่จับปิ้งชิ้นเดียวให้เสียวเล่น
ซื้ดดดด อา..... แบบว่า...อึ้มมมมมม้ากกกกก
เห็นแล้วมันฟิน มันฟิน มัน.....
แหมะ.....แหมะ.....
เอ๋ ....เกิดอะไรขึ้น ... อยู่ดีๆ ก็เป็นหวัดเหรอ น้ำอะไรไหลจากจมูกหนู??
“อีฐา... อีอ่อน....แค่นี้มึงใจเสาะเหรอยะ” เสียงอีโอ๋โวยวายเมื่อหันมามองหน้าหนู
“ใจเสาะอะไร?” หนูยังถามกลับแบบงงๆ เอามือล้วงผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดน้ำมูกที่หลั่งไหลไม่หยุด....
ปื้ด.... แต่พอยกขึ้นมาดู
น้ำมูก...ทำไมสีแดง... ทำไมน้ำ... แอร๋ยยยยยย กะเทยเลือดออก
“อีฐามึงเงยหน้าสิ.... มันจะได้หยุดไหล ไปหาน้ำแข็งมา” อีโอ๋โวยวายเป็นงานเป็นการ ส่วนหนูที่เห็นเลือดไหลออกมาจากรู....จมูกแล้วก็อยากจะเป็นลมล้มพับ เกิดความวุ่นวายชุลมุนในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ทั้งให้หนูเงยหน้าทั้งไปขอน้ำแข็ง จนสุดท้ายเลือดกำเดาหยุดไหล แต่น้องฐาแทบจะหมดแรงยืนเพราะตกใจที่เลือดมันออกเยอะจัด
ในที่สุดพวกเพื่อนๆ ก็ช่วยกันพาร่างบอบบางของหนูไปที่ห้องพยาบาลเพื่อนอนพัก... อาจารย์ห้องพยาบาลใจดีให้หนูนอนพักที่นี่ได้แล้วแกก็ออกไปข้างนอก พวกอีเพื่อนก็ส่งเสียงงุ้งงิ้งเอ่ยแซวความไร้เดียงสาของหนูอยู่นานจนกระทั่ง...
“หนวกหูจริงๆ หยุดพูดซะทีได้ไหม?” เสียงห้าวๆ ดังมาจากเตียงข้างๆ ด้านในที่มีผ้าม่านกั้นอยู่ พวกเราจึงไม่รู้ว่ามีบุคคลอื่นนอนพักอยู่ก่อนแล้ว
เงียบ......ฉี่!!!
“ฉันว่าพวกเราไปกันดีกว่านะ จะเข้าเรียนแล้วยังไม่ได้ไปโบ๊ะแป้งเลย” โอ๋มันตัดบทขึ้นมาทันที และคนอื่นๆ ต่างพากันเออออเห็นด้วย
“ไปก่อนนะฐา นอนดีๆ ล่ะ” ปาล์มว่า แล้วทั้งสามก็พากันเดินออกจากห้องพยาบาลไป ทิ้งให้หนูอยู่กับไอ้เสียงโหดนั่นตามลำพังสองต่อสอง
ฮือๆๆ อีเพื่อนเลว ทิ้งกันได้ลงคอ มาวางระเบิดไว้แล้วจากไป
ไอ้เสียงโหดเตียงข้างๆ มันจะลุกขึ้นมาบีบคอหนูหรือเปล่าก็ไม่รู้
ฮือๆๆ ช่วยน้องฐาด้วย แง้ๆๆๆๆ
ความคิดเห็น