ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : เด็กรีดนมวัว (หรือว่าชีจะreturn!)
ชายน์หลับตาปี๋ ก่อนสวดภาวนาขอให้ความโชคดีเกินร้อยของเขาสัมฤทธิ์ผล ณ ตอนนี้ด้วยเถิด แล้วเขาก็จิ้มเลือกดันเจี้ยนนั้นขึ้นมาทันที!
"ก็เป็นอย่างที่ข้าคิดไว้" โซรอสว่า "กำลังคิดๆ อยู่เลยว่าอยากไปที่นั่นพอดี"
และแล้วคณะเดินทางกอบกู้เผ่าพันธุ์มนุษย์ก็ได้ออกเดินทาง นี่อาจจะไม่ใช่ครั้งแรกสำหรับเสนาบดีกลาโหมอย่างโซรอสที่จะโลดแล่นไปบนหลังม้าสีฟ้าบนทุ่งหญ้าสีเขียวชานเมืองแพนดอร่า หากสำหรับชายน์แล้ว...นี่นับเป็นประสบการณ์แรกที่บร๊ะเจ้าโจ๊กไปเลย!
"แต่ข้าว่า ตอนบินในเกมบินไปฟันไป มันยังสนุกกว่านี้เลยนะ" โซรอสออกความเห็น อันที่จริงก็ไม่ใช่ว่าชายน์ไม่เคยเล่นเกมนั้น...
"อย่าพูดถึงเกมนั้นเลยน่า พูดแล้วเฮิร์ท" ชายน์ไม่อยากนึกถึงประสบการณ์บินหลังพระอาทิตย์ตกดินนั้นนัก...มันย้ำเตือนความจริงที่ว่าเขาเพิ่งโดนแบนจากเกมนั้นเพราะไปเปิดบอทหาเงิน
ทันใดที่เจ้าม้าทั้งสองตัวต้องชะงัก ชายน์แทบถลาตกจากหลังม้า ทว่าไม่ว่าจะชักบังเหียนยังไง เจ้าม้าทั้งสองตัวก็ไม่มีทีท่าว่าจะขยับเลยแม้แต่น้อย
"สงสัยจะมีเควสมาล่ะสิ" โซรอสว่า กระโจนลงจากม้า แล้วหาที่นั่งพักอย่างสงบไม่รู้สึกรู้สา
รอไปอีกชั่วโมงสองชั่วโมง จนกระทั่งชายน์แทบจะคิดสั้นโจมตีสไลม์เมือกที่โดดดึ๋งๆ ยั่วเย้าเขาอยู่ตั้งนานแล้วให้ตายกันไปข้างหนึ่ง ทันใดนั้นเขาก็ได้เห็นกับไอ้ตัวต้นปัญหาที่กำลังวิ่งตะหลัดๆ ข้ามทุ่งมาแต่ไกล...ไม่ได้มาคนเดียว มากันเป็นฝูงเลยด้วย!
แม่วัวสีน้ำตาลลายแผนที่โลกบุกโจมตีแล้ว!!!
อั่ก!
ไม่ว่าจะโดนทักทายแบบนี้สักกี่ครั้งก็ไม่น่าพิสมัยเอาซะเลยสำหรับเต้านมเบิ้มๆ ของแม่วัวที่ปะทะหน้าของเขา พระองค์หญิงลงไปกองบนพื้น แหงนหน้ามองผ่านเต้านมวัวที่กระเพื้อมไปมาก็พบกับเด็กชายตัวเล็กที่กำลังยืนกระหืดหอบ
"นายท่านขอรับ! นายท่านโซรอส ได้โปรดให้ข้าได้เดินทางไปกับท่าน!"
โซรอสปราดมองเด็กเลี้ยงวัวตั้งแต่หัวจรดเท้า เขายังเป็นเด็กชายอายุไม่เกินสิบสองปี สวมเสื้อกั๊กลายหนังวัวและรองเท้าบูท ที่เท่ห์สุดๆ ไปเลยน่ะคือหมวกคาวบอยน้อยที่เขาสวมอยู่ อัครเสนาบดีกลาโหมขยับแว่นตากันแดดไว้เชิง
"แ้ล้วนี่เจ้าทำเควสรีดนมวัวหนึ่งล้านลิตรส่งให้แพนดอร่าเสร็จแล้วหรือไง?"
"เรียบร้อยขอรับนายท่าน!" อื้อหือ!...ช่างพยายามจริงๆ "ดังนั้น...อนุญาตให้ข้าผจญภัยไปกับพวกท่านเถิด"
ยืนพิจารณาอยู่สักครู่ พลันที่ดาบอันใหญ่ถูกเหวี่ยงเข้าแสกหน้าเด็กชายเลี้ยงวัว!
เด็กชายไม่หลบ หากแต่ใช้ท่อนแขนเล็กๆ ของเขารับดาบหนักนั้นไว้อย่างง่ายดาย!
"พละกำลังยอด ให้ข้าดูสเตตัสของเจ้า" โซรอสว่า เรียกหน้าต่างดูค่าความสามารถของเด็กชายขึ้นมาทันที
ชายน์พยุงตัวลุกขึ้นท่ามกลางฝูงแม่วัวได้แล้ว เดินไปทางโซรอส มองเด็กชายอย่างดูแคลน "นี่นาย รับเด็กนี่ไปร่วมเดินทางด้วยก็ตัวถ่วงเปล่าๆ"
เสนาบดีกลาโหมหันมามองพระองค์หญิง เหยียดยิ้มหยันที่มุมปาก "ดูี่นี่ซะก่อน ค่าสเตตัสทั้งหมดเกินสามสิบ โดยเฉพาะค่า vit ที่ปาเข้าไปหกสิบกว่าแล้ว ชายน์...นายต้องพิจารณาแล้วล่ะว่าใครเป็นตัวถ่วงกันแน่"
อึก...พระองค์หญิงกลืนน้ำลายเฮือก เดินไปเก็บเป้สัมภาระสะพายขึ้นบ่าแต่โดยดี
------------------------
หลังจากโบกมืออำลาฝูงแม่วัวนมเรียบร้อยแล้วคณะเดินทางก็เริ่มออกเดินทางต่อ เมื่อได้ทราบจุดหมายของการเดินทางแล้วเด็กชายเลี้ยงวัว...เรส...ก็เสนอความคิดเห็นขึ้นมา
"โซรอส...บางทีข้าคิดว่า...ที่ที่ท่านจะไปนั้นอาจจะผิด..."
พระองค์หญิงต้นคิดเริ่มจะโวยวาย "หึ! แล้วนายคิดว่าที่ไหนกันล่ะ?"
"หากทุกคนล้วนต้องก้าวผ่าน..." เด็กชายทวนปริศนา "สำหรับสุสานเหล็กไหล...ใช่...มนุษย์ทุกคนเมื่อตายก็ต้องไปสู่สุสาน แต่ว่าท่านอย่าลืมสิ คนตายเท่านั้นที่จะไปสุสาน นั่นไม่ใช่ลางดีเลย"
"ที่ไหนยิ่งอันตราย ที่นั่นสิยิ่งน่าสนุก!" พระองค์หญิงฉีกยิ้มบ้าเลือด
"ใช่...แต่ไม่มีใครผ่านออกมาจากสุสาน" เรสว่ากลับ "อีกอย่าง...สุสานเหล็กไหลไม่ใช่สุสานสำหรับมนุษย์...แต่เป็นสุสานของพวกหุ่นยนต์และนวัตกรรมจากอารยธรรมโบราณต่างหาก ดังนั้นข้าึจึงคิดว่าไม่ใช่ที่นี่หรอก"
"ส่วนชื่ออื่นๆ อย่างหุบเหวมังกร หรือประตูสู่อาณาจักรตะวันออกเฉียงเหนืออันไกลโพ้น นี่ไม่ใช่เส้นทางของมนุษย์ มันเป็นเส้นทางของมังกรกับยักษ์"
"เจ้าก็เลยคิดว่าสมบัติชิ้นแรกไม่ได้อยู่ที่นั่นสินะ"
"ใช่ขอรับท่านโซรอส" เด็กชายว่า แล้วบอกเล่าคำสันนิษฐานของเขาต่อ "ทีนี้ก็เหลืออีกสองที่ ทะเลดวงดาวกับบ่อน้ำแห่งกาลเวลา..."
"งั้นก็ทะเลดวงดาว!" ชายน์โพล่งขึ้นมา หากเรสส่ายหน้า
"จริงๆ แล้วตำนานบอกกล่าวไว้ว่า...ยามเมื่อเจ้าเกิดจากดาราบนฟากฟ้า จุติมาสู่โลกมนุษย์ ผ่านบ่อน้ำแห่งการหลงลืม เจ้าดิ้นรนบนแผ่นดินมนุษย์จวบจนสิ้นเวรกรรมแล้วจึงกลับสู่สรวงสวรรค์ ดังนั้นเจ้าก็ต้องผ่านบ่อน้ำแห่งการหลงลืมเช่นเดียวกัน"
"อืม..." โซรอสครุ่นคิด "นั่นก็หมายถึง...บ่อน้ำ"
"ไม่มีเหตุผลเลย!" ชายน์โวยลั่น "อาศัยตำนงตำนานอะไรพวกนี้ได้ยังไง!"
"อย่างน้อยก็ดูน่าเื่ชื่อถือกว่า luck ของเจ้านั่นแหละ" โซรอสตัดบท
"กาลเวลา...ใช่แล้วครับท่าน! มนุษย์ทุกคนต่างต้องก้าวผ่านช่วงเวลาไป จากเป็นเด็ก เป็นผู้ใหญ่ ล่วงเข้าสู่วัยชรา ไม่มีใครหนีเส้นทางนี้พ้น ดังนั้นผมฟันธงครับว่าสมบัติชิ้นแรกจะต้องอยู่ที่นี่! บ่อน้ำแห่งกาลเวลา!"
อัครเสนาบดีครุ่นคิดตาม ก่อนจะตัดสินใจพยักหน้า "งั้นเราจะเปลี่ยนเส้นทาง มุ่งสู่บ่อน้ำแห่งกาลเวลา!"
"ต...แต่!"
"นายเจ้าหญิง" อัครเสนาบดีหันขวับ "ถ้าท่านไม่ประสงค์จะร่วมเดินทางไปกับพวกเรา ก็เชิญพักผ่อนเล่นที่แพนดอร่า รอพวกเรานำสมบัติกลับมาก็แล้วกัน!"
พอได้รับคำขาดชายน์ถึงกันหน้าจ๋อย รีบควบม้าตามทั้งคู่ไปในทันที
[ไปเนื้อเรื่องต่อไปจ้า]
"ก็เป็นอย่างที่ข้าคิดไว้" โซรอสว่า "กำลังคิดๆ อยู่เลยว่าอยากไปที่นั่นพอดี"
และแล้วคณะเดินทางกอบกู้เผ่าพันธุ์มนุษย์ก็ได้ออกเดินทาง นี่อาจจะไม่ใช่ครั้งแรกสำหรับเสนาบดีกลาโหมอย่างโซรอสที่จะโลดแล่นไปบนหลังม้าสีฟ้าบนทุ่งหญ้าสีเขียวชานเมืองแพนดอร่า หากสำหรับชายน์แล้ว...นี่นับเป็นประสบการณ์แรกที่บร๊ะเจ้าโจ๊กไปเลย!
"แต่ข้าว่า ตอนบินในเกมบินไปฟันไป มันยังสนุกกว่านี้เลยนะ" โซรอสออกความเห็น อันที่จริงก็ไม่ใช่ว่าชายน์ไม่เคยเล่นเกมนั้น...
"อย่าพูดถึงเกมนั้นเลยน่า พูดแล้วเฮิร์ท" ชายน์ไม่อยากนึกถึงประสบการณ์บินหลังพระอาทิตย์ตกดินนั้นนัก...มันย้ำเตือนความจริงที่ว่าเขาเพิ่งโดนแบนจากเกมนั้นเพราะไปเปิดบอทหาเงิน
ทันใดที่เจ้าม้าทั้งสองตัวต้องชะงัก ชายน์แทบถลาตกจากหลังม้า ทว่าไม่ว่าจะชักบังเหียนยังไง เจ้าม้าทั้งสองตัวก็ไม่มีทีท่าว่าจะขยับเลยแม้แต่น้อย
"สงสัยจะมีเควสมาล่ะสิ" โซรอสว่า กระโจนลงจากม้า แล้วหาที่นั่งพักอย่างสงบไม่รู้สึกรู้สา
รอไปอีกชั่วโมงสองชั่วโมง จนกระทั่งชายน์แทบจะคิดสั้นโจมตีสไลม์เมือกที่โดดดึ๋งๆ ยั่วเย้าเขาอยู่ตั้งนานแล้วให้ตายกันไปข้างหนึ่ง ทันใดนั้นเขาก็ได้เห็นกับไอ้ตัวต้นปัญหาที่กำลังวิ่งตะหลัดๆ ข้ามทุ่งมาแต่ไกล...ไม่ได้มาคนเดียว มากันเป็นฝูงเลยด้วย!
แม่วัวสีน้ำตาลลายแผนที่โลกบุกโจมตีแล้ว!!!
อั่ก!
ไม่ว่าจะโดนทักทายแบบนี้สักกี่ครั้งก็ไม่น่าพิสมัยเอาซะเลยสำหรับเต้านมเบิ้มๆ ของแม่วัวที่ปะทะหน้าของเขา พระองค์หญิงลงไปกองบนพื้น แหงนหน้ามองผ่านเต้านมวัวที่กระเพื้อมไปมาก็พบกับเด็กชายตัวเล็กที่กำลังยืนกระหืดหอบ
"นายท่านขอรับ! นายท่านโซรอส ได้โปรดให้ข้าได้เดินทางไปกับท่าน!"
โซรอสปราดมองเด็กเลี้ยงวัวตั้งแต่หัวจรดเท้า เขายังเป็นเด็กชายอายุไม่เกินสิบสองปี สวมเสื้อกั๊กลายหนังวัวและรองเท้าบูท ที่เท่ห์สุดๆ ไปเลยน่ะคือหมวกคาวบอยน้อยที่เขาสวมอยู่ อัครเสนาบดีกลาโหมขยับแว่นตากันแดดไว้เชิง
"แ้ล้วนี่เจ้าทำเควสรีดนมวัวหนึ่งล้านลิตรส่งให้แพนดอร่าเสร็จแล้วหรือไง?"
"เรียบร้อยขอรับนายท่าน!" อื้อหือ!...ช่างพยายามจริงๆ "ดังนั้น...อนุญาตให้ข้าผจญภัยไปกับพวกท่านเถิด"
ยืนพิจารณาอยู่สักครู่ พลันที่ดาบอันใหญ่ถูกเหวี่ยงเข้าแสกหน้าเด็กชายเลี้ยงวัว!
เด็กชายไม่หลบ หากแต่ใช้ท่อนแขนเล็กๆ ของเขารับดาบหนักนั้นไว้อย่างง่ายดาย!
"พละกำลังยอด ให้ข้าดูสเตตัสของเจ้า" โซรอสว่า เรียกหน้าต่างดูค่าความสามารถของเด็กชายขึ้นมาทันที
ชายน์พยุงตัวลุกขึ้นท่ามกลางฝูงแม่วัวได้แล้ว เดินไปทางโซรอส มองเด็กชายอย่างดูแคลน "นี่นาย รับเด็กนี่ไปร่วมเดินทางด้วยก็ตัวถ่วงเปล่าๆ"
เสนาบดีกลาโหมหันมามองพระองค์หญิง เหยียดยิ้มหยันที่มุมปาก "ดูี่นี่ซะก่อน ค่าสเตตัสทั้งหมดเกินสามสิบ โดยเฉพาะค่า vit ที่ปาเข้าไปหกสิบกว่าแล้ว ชายน์...นายต้องพิจารณาแล้วล่ะว่าใครเป็นตัวถ่วงกันแน่"
อึก...พระองค์หญิงกลืนน้ำลายเฮือก เดินไปเก็บเป้สัมภาระสะพายขึ้นบ่าแต่โดยดี
------------------------
หลังจากโบกมืออำลาฝูงแม่วัวนมเรียบร้อยแล้วคณะเดินทางก็เริ่มออกเดินทางต่อ เมื่อได้ทราบจุดหมายของการเดินทางแล้วเด็กชายเลี้ยงวัว...เรส...ก็เสนอความคิดเห็นขึ้นมา
"โซรอส...บางทีข้าคิดว่า...ที่ที่ท่านจะไปนั้นอาจจะผิด..."
พระองค์หญิงต้นคิดเริ่มจะโวยวาย "หึ! แล้วนายคิดว่าที่ไหนกันล่ะ?"
"หากทุกคนล้วนต้องก้าวผ่าน..." เด็กชายทวนปริศนา "สำหรับสุสานเหล็กไหล...ใช่...มนุษย์ทุกคนเมื่อตายก็ต้องไปสู่สุสาน แต่ว่าท่านอย่าลืมสิ คนตายเท่านั้นที่จะไปสุสาน นั่นไม่ใช่ลางดีเลย"
"ที่ไหนยิ่งอันตราย ที่นั่นสิยิ่งน่าสนุก!" พระองค์หญิงฉีกยิ้มบ้าเลือด
"ใช่...แต่ไม่มีใครผ่านออกมาจากสุสาน" เรสว่ากลับ "อีกอย่าง...สุสานเหล็กไหลไม่ใช่สุสานสำหรับมนุษย์...แต่เป็นสุสานของพวกหุ่นยนต์และนวัตกรรมจากอารยธรรมโบราณต่างหาก ดังนั้นข้าึจึงคิดว่าไม่ใช่ที่นี่หรอก"
"ส่วนชื่ออื่นๆ อย่างหุบเหวมังกร หรือประตูสู่อาณาจักรตะวันออกเฉียงเหนืออันไกลโพ้น นี่ไม่ใช่เส้นทางของมนุษย์ มันเป็นเส้นทางของมังกรกับยักษ์"
"เจ้าก็เลยคิดว่าสมบัติชิ้นแรกไม่ได้อยู่ที่นั่นสินะ"
"ใช่ขอรับท่านโซรอส" เด็กชายว่า แล้วบอกเล่าคำสันนิษฐานของเขาต่อ "ทีนี้ก็เหลืออีกสองที่ ทะเลดวงดาวกับบ่อน้ำแห่งกาลเวลา..."
"งั้นก็ทะเลดวงดาว!" ชายน์โพล่งขึ้นมา หากเรสส่ายหน้า
"จริงๆ แล้วตำนานบอกกล่าวไว้ว่า...ยามเมื่อเจ้าเกิดจากดาราบนฟากฟ้า จุติมาสู่โลกมนุษย์ ผ่านบ่อน้ำแห่งการหลงลืม เจ้าดิ้นรนบนแผ่นดินมนุษย์จวบจนสิ้นเวรกรรมแล้วจึงกลับสู่สรวงสวรรค์ ดังนั้นเจ้าก็ต้องผ่านบ่อน้ำแห่งการหลงลืมเช่นเดียวกัน"
"อืม..." โซรอสครุ่นคิด "นั่นก็หมายถึง...บ่อน้ำ"
"ไม่มีเหตุผลเลย!" ชายน์โวยลั่น "อาศัยตำนงตำนานอะไรพวกนี้ได้ยังไง!"
"อย่างน้อยก็ดูน่าเื่ชื่อถือกว่า luck ของเจ้านั่นแหละ" โซรอสตัดบท
"กาลเวลา...ใช่แล้วครับท่าน! มนุษย์ทุกคนต่างต้องก้าวผ่านช่วงเวลาไป จากเป็นเด็ก เป็นผู้ใหญ่ ล่วงเข้าสู่วัยชรา ไม่มีใครหนีเส้นทางนี้พ้น ดังนั้นผมฟันธงครับว่าสมบัติชิ้นแรกจะต้องอยู่ที่นี่! บ่อน้ำแห่งกาลเวลา!"
อัครเสนาบดีครุ่นคิดตาม ก่อนจะตัดสินใจพยักหน้า "งั้นเราจะเปลี่ยนเส้นทาง มุ่งสู่บ่อน้ำแห่งกาลเวลา!"
"ต...แต่!"
"นายเจ้าหญิง" อัครเสนาบดีหันขวับ "ถ้าท่านไม่ประสงค์จะร่วมเดินทางไปกับพวกเรา ก็เชิญพักผ่อนเล่นที่แพนดอร่า รอพวกเรานำสมบัติกลับมาก็แล้วกัน!"
พอได้รับคำขาดชายน์ถึงกันหน้าจ๋อย รีบควบม้าตามทั้งคู่ไปในทันที
[ไปเนื้อเรื่องต่อไปจ้า]
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น