ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สลับร่าง...ป่วนโรงเรียน

    ลำดับตอนที่ #1 : แผนการเลอเลิศ

    • อัปเดตล่าสุด 17 ส.ค. 52


    บทที่ 1 แผนการเลอเลิศ
     
     
    ไม่ยุติธรรมเล้ย!”    เสียงแหลมสูงกรีดร้องลั่นระเบียง ส่งผลให้เจ้านกน้อยที่หวังใช้สวนสวยแห่งนี้เป็นที่พักพิงสุดท้ายต้องตาลีตาเหลือกโผบินหนีขนร่วงกระจุย    ทิ้งให้รังที่ยังสร้างไม่เสร็จกลายเป็นที่ขดตัวของกระรอกจอมขี้เกียจที่ไม่คิดจะไปหาโพรงอยู่เอง
    ต้นเสียงคือเด็กหญิงผมเปียยาวชุดเสื้อคลุมยาว   เธอเดินร่อนอยู่บนระเบียงหินอ่อนที่ทอดยาวไปตามอุทยาน    ใบหน้าที่ไม่เคยอนาทรร้อนใจใดๆบัดนี้ทมึงตึง    เธอลากขาเตะโครมๆเข้าที่เสาก่อนชักกลับมาถูอย่างเจ็บปวด
    กรรมตามสนองวันนี้แดดดีลมแรงยังจะมาโมโหอะไรไม่เข้าเรื่องอีก”   เด็กชายอีกคนกล่าวอย่างสงบ    ไม่สนใจกองไฟที่กำลังลุกฮืออยู่ข้างๆ
    เด็กหนุ่มคนนี้มีหน้าตาเหมือนเด็กหญิงเพราะทั้งคู่เป็นแฝด แม้เป็นแฝดคนละฝาแต่หน้าเหมือนกันยังกับแกะ กิตติศักดิ์ความซนเป็นแฝดลิงของคู่นี้เลื่องลือไปทั่วแผ่นดิน 
     
    ไม่เข้าเรื่องอะไรพี่!   พี่ก็ได้ยินแล้วไม่ใช่รึท่านพ่อสั่งให้ฉันไปเรียนโรงเรียนนักปราชญ์อะไรนั่น ส่วนพี่ต้องไปเรียนโรงเรียนอัศวิน!…โอวสวรรค์ฉันอยากไปท่องเที่ยว ได้ต่อสู้กับโจร ได้ปราบปิศาจ ไม่ใช่ไปนั่งท่องหนังสือนะ!”
    แค่นั้นเด็กหญิงก็อยากเขกอะไรอีกสักรอบแต่แผลบวมที่ขายังหยุดเอาไว้ได้
    คิดดูเถิดน้องรัก” พี่ชายทำหน้าเจ็บปวดเหมือนท้องผูก   “เคยได้ยินค่านิยมใดที่พิลึกกึกกือเท่าที่เมืองของเราไหม?   เมื่อบุตรหรือธิดาของขุนนางคนใดอายุครบสิบสามขวบแล้ว จะต้องถูกส่งตัวไปเข้าเรียนโรงเรียนหลวงของรัฐ    โดยส่งบุตรชายไปเข้าโรงเรียนหลวงเพื่อศึกษาวิชาการดาบการทหารการปกครองและการเมือง    ขณะที่ต้องส่งบุตรสาวไปเรียนโรงเรียนปราชญ์ ศึกษาทั้งมนตราบทสวดสรรเสริญเทพเจ้าและความรู้อันยิ่งใหญ่แห่งธรรมชาติ
    ใช่สิพี่ ถ้าแค่นั้นมันก็ดีสิ แต่ค่านิยมบ้าๆที่มีมาเป็นร้อยปีนี่บังคับให้เด็กผู้หญิงทุกคนไปเรียนท่องบทสวดอะไรนั่นไม่มีโอกาสได้ไปท่องเที่ยวประกอบวีรกรรมกู้ชาติอะไรสักนิด!”
    โอวจะท่องเที่ยวไปทำไมให้เหนื่อยและอันตราย” พี่ชายผู้ถูกบัญชาให้ไปโรงเรียนอัศวินพร่ำ   “คงไม่มีอะไรในโลกอีกแล้วที่น่าหลงใหลเท่าศาสตร์แห่งมนตรา ความรู้ การเข้าสู่จิตวิญญาณอันลึกล้ำ ก้าวไปสู่อีกโลกคู่ขนานที่ซ้อนเหลื่อม…”
    ฉันเป็นผู้หญิงแท้ๆยังไม่อยากเรียนเลยพี่” แฝดผู้น้องเดินออกห่างไอ้บ้าผู้พี่ที่กำลังเพ้อเจ้อเต็มที    “พี่ราเมน ฉันว่าเราหนีไปรัฐอื่นกันไหม   ที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ศิรยนครนี่…”
    จะหนีไปไหนพ้นล่ะน้อง” พี่ชายว่าตาปรือ   “ไม่ว่าจะรัฐไหนในประเทศโสธรานี้เด็กผู้หญิงก็ต้องถูกส่งเข้าโรงเรียนปราชญ์ และเด็กผู้ชายก็ต้องถูกส่งตัวเข้าโรงเรียนหลวงอยู่ดีมีบัญญัติในกฏหมายของทุกรัฐ! ต่อให้เราเป็นลูกวุฒิสมาชิกหรือลูกโจรก็ต้องเจอแบบนี้
    พี่...งั้นเราไปตายกันไหม?”
    พี่ชายคิ้วขมวดรามินก็รู้แค่พี่เห็นดาบก็ขยะแขยงแล้วแล้วถ้าเจอเลือด...”
    พี่ถึงกับสลบ!”   น้องสาวต่อให้ทันที   “ตอนนั้นพี่ต้องโดดเรียนจนน้องสาวที่น่ารักอย่างฉันต้องปลอมตัวไปเข้าเรียนแทน...”
    เจ้าน้องสาวที่น่ารักหยุดจ้องไปเสียเฉยๆ    พี่ชายหันไปมองใบหน้าเจ้าความคิด ก่อนอ้าปากค้าง
    ...เธอไม่คิดจะทำอะไรแผลงๆอย่างนั้นใช่ไหม?”
    รามินส่ายหน้าดรึ๋ยๆยิ้มกว้าง   “ก็พี่อยากไปเรียนโรงเรียนหญิงล้วนซึ่งก็เป็นไปไม่ได้เลยสำหรับกระเทยอย่างพี่"   เด็กหญิงโดนมะเหงกไปที
    "ไหนๆเราก็หน้าเหมือนกันจะตายอยู่แล้ว   เราก็มาสลับร่างกันเลยไหมล่ะ!   พี่ปลอมตัวเป็นฉันไปเรียนโรงเรียนปราชญ์ในฐานะเด็กหญิง   แล้วฉันปลอมเป็นพี่ชายไปเข้าเรียนโรงเรียนหลวง   พี่จะได้เรียนปรัชญาคติแล้วก็มนตรามหาเส่ห์ของพี่ด้วยนะ"
    สเน่ห์ต่างหาก!”   ราเมนแก้ทันควัน  “แต่...ตอนนี้ก็ยังพอว่าแล้วถ้าผ่านไปอีกสักสองสามปีเกิดเจ้าแตกเนื้อสาวแล้วหน้าอกบึ้มบั้มขึ้นมา...”
    ยังไม่ทันพูดจบพี่ชายก็ได้รับประเคนฝ่ามือปะทะใบหน้าจากน้องสาวไปทันที   “ตาบ้า! ถึงฉันจะชอบฟันดาบก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ใช่กุลสตรีนะยะ
    "แค่นั้นยังไม่พอเสียงเธอจะแตกแหลม..."
    น้องสาวทำหน้าเบ๊   “เสียงแหลมน่าเกลียดเหมือนพี่ตอนนี้หรือ?”
    คราวนี้ถึงตาพี่ชายเงื้อมือฟาดน้องสาวแต่รามินหลบได้ทัน
    เสียงเล็กๆเหมาะแก่การสานธยายมนตราถวายเทพ”   นี่คือคำแก้ตัวของกระเทย
    โถ่พี่! ตกลงเถอะน่า    พี่จะได้อยู่สบายๆ   ส่วนฉันจะได้ไปผจญภัยสมใจ
    แต่...”
    ไม่ต้องแต่หรอกน่าจำได้ไหมตอนนั้นขนาดศิระพี่เลี้ยงเรา...สนิทกันออกขนาดนี้ยังดูไม่ออก…”
    วางแผนอะไรกันอีกฝ่าบาท! ”   พี่เลี้ยงตายยากส่งเสียงเบิกทางก่อนโผล่เข้ามา   ผู้ได้รับยกย่องว่าเป็น 'พี่เลี้ยง' คือชายร่างสูงกำยำที่ใส่ชุดสีน้ำเงินขลิบดิ้นเงินทั้งชุดเหมือนองครักษ์คนอื่นๆ   ต่างเพียงปีกสีเงินที่ประดับอยู่บนหมวกทรงกะลาครอบแสดงถึงตำแหน่งองครักษ์คนสนิทส่วนพระองค์   เขาหวีผมดำเสียเรียบแปล้ผูกไว้ด้วยเชือกแดงเส้นเล็ก ชุดเครื่องแบบสะอาดเรียบร้อยไม่มีแม้รอยยับ   ใบหน้านิ่งตึงอยู่ตลอดเวลาและบัดนี้ดวงตาคู่เรียวกำลังจับจ้องคู่แฝดนรกขณะรีบสาวเท้าผ่านระเบียงหินอ่อนมุ่งมายังทั้งคู่   องครักษ์ที่เดินยามสวนทางมาก้มศีรษะคารวะท่านศิระก่อนที่จะเดินแยกไปอีกฟากหนึ่งของอุทยาน
    สองพี่น้องทำหน้าหรามองซ้ายขวาไม่รู้ไม่ชี้   
    เดือนก่อนก็ท้องเสียไม่ไปสมัครสอบ    สัปดาห์ก่อนก็เป็นหัดฝรั่งเศสเข้าสอบไม่ได้    แล้วนี่สัปดาห์หน้าจะเดินทางแล้วยังจะวางแผนอะไรอีก?”
    โถ่! ศิระขา…”   น้องสาวทำเสียงน่าสงสาร ส่งดวงตาเป็นประกายวิบวับให้พี่เลี้ยงใจโหด    เป็นคนอื่นอาจจะใจอ่อนแต่สงสัยมุขนี้คงใช้กับศิระมากเกินไป...
    ไม่ต้องมาอ้อนวอนฝ่าบาทการเข้าเรียนที่สถานศึกษาเป็นกฏบัญญัติที่แม้แต่พระราชโอรสและพระราชธิดาแห่งพระจักรพรรดิเช่นพวกท่านก็ไม่มีข้อยกเว้น
    โถ่! ใครตั้งกฎกันล่ะถ้าฉันเป็นราชาเมื่อไหร่จะสั่งเปลี่ยนกฎบ้าบอพวกนี้ให้หมด!...เอ่อ...ราชินีก็ได้
    ศิระศิระเป็นพี่เลี้ยงที่รู้ใจเราสองคนมากที่สุด…”   แฝดพี่ใช้ไม้อ่อน   “จะว่าไปศิระคงรู้ใจพวกเรามากกว่าท่านพ่อของเราอีก   ศิระรู้ใช่ไหมว่าผมไม่อยากไปเรียนโรงเรียนหลวงอะไรนั่น และน้องรามินก็ไม่อยากไปเรียนโรงเรียนปราชญ์…”
    ทรงได้รับพระบรมราชโองการจากทูลกระหม่อมพ่อแล้วนี่!”   พี่เลี้ยงขู่ฟ่อๆเหมือนงู
    หวังว่าคงไม่แอบใส่ยาถ่ายลงไปจนออกเดินทางไม่ได้อีกนะฝ่าบาท”   แววตาปราดมาที่น้องสาวเป็นพิเศษ
    เชอะ!
    ไม่อีกสามวันเราจะออกเดินทาง...แน่นอน” ยายแฝดน้องนามรามินประกาศลั่น “รามินจะไปโรงเรียนปราชญ์ส่วนราเมนจะไปโรงเรียนหลวงที่มัธยปุระ
    เสียงประกาศฉอดๆนั่นล่ะที่ไม่น่าไว้ใจ   พระพี่เลี้ยงจึงถามซ้ำ
    กษัตริย์ตรัสแล้วไม่คืนคำ?”
    ใช่เราพูดแล้วไม่คืนคำ
     
    พอพระพี่เลี้ยงเดินออกไปน้องสาวตัวดีถึงหันมามองพี่ชายตาเป็นประกาย
    แต่ใครน้อจะเป็นรามินใครจะเป็นราเมนเรื่องนี้เราไม่รู้นะ
    พี่ชายขืนใจพยักหน้าเออออตามน้องสาวไปอย่างหาทางเลี่ยงไม่ได้     อีกห้าวันคงได้สนุกสนานน่าดูเจ้าหญิงรามินทราแห่งศิรยนครจะเสด็จโรงเรียนชายล้วนส่วนเจ้าฟ้าชายราเมนทรมกุฏราชกุมารแห่งศิรยนครจะเสด็จโรงเรียนหญิงล้วน
    สุริยเทพเป็นพยานลูกไม่ได้รู้เห็นด้วยเลยนะ...ไม่เล้ย!
     
     
    เดี๋ยวพี่จะรีบไปไหน?”    น้องสาวตะโกนลั่นมาตามระเบียง    “เย็นนี้หลังทานข้าว เจอกันที่หน้าโรงครัวนะ
    ทำไมอ่ะ?”
    เออน่า!    เดี๋ยวไปถึงก็รู้เองน๊า ฮิฮิฮิ”    เสียงหัวเราะทำเอาพี่ชายขนลุกซู่
     
     


    <::><::><::><::><::>

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×