ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fiction] ณ สนามเด็กเล่น - TaoKacha

    ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่6 กลับมาได้หรือเปล่า

    • อัปเดตล่าสุด 1 พ.ค. 56


    ณ สนามเด็กเล่น

     

    ห้องฉุกเฉินคือเป้าหมายแรกทันทีที่มาถึง เฟรมนั่งกุมขมับอยู่บนเก้าอี้ยาวอาการคงไม่ต่างกับผมที่เส้นเลือดข้างขมับกำลังเต้นกระตุกแรง ปวดหัวจนกลัวว่ามันจะระเบิดออกมาในวินาทีใดวินาทีหนึ่ง

     

    "เป็นไงบ้าง" ผมเอ่ยปากถาม เด็กหนุ่มก็ลุกพรวดขึ้นมาทันทีี ดวงตาฉายแสงออนล้าและแดงก่ำ

     

    "ไอ้เจมส์มันขับรถไปส่งพี่ต้น แต่ขากลับ..."

     

    เป็นปกติที่ต้นจะไปเที่ยวต่างประเทศทุกปิดเทอม ใครจะคาดคิดว่าผู้โชคร้ายที่ตกเป็นเหยื่อแก๊งค์บ้าบอนั่นจะเป็นน้องชายคนนี้ของผม นอกจากสมองที่ได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนักรถคันสวยก็โดนไฟเผาพร้อมกับของมีค่าที่หายไปเหยียบแสน  นั่นไม่เท่าชีวิตของคนดีๆคนหนึ่งที่อาจต้องเสียไปเพราะความคึกคะนอง

     

    "คุณน้ารู้หรือยัง?"

     

    "ผมเพิ่งโทรบอก สงสารคุณน้าผู้หญิง ร้องไห้จนหมดแรง" เฟรมยังจำเสียงสะอื้นนั้นได้เป็นอย่างดี มีจัสคอยปลอบและคุณน้าผู้ชายที่รับสายต่อเพื่อแจ้งข่าวร้ายจากเขา

     

    "แล้วต้น.."

     

    "ผมไม่อยากบอกว่ะพี่ มันคงดีกว่าถ้าได้รู้ตอนกลับมา เผลอๆไอ้เจมส์มันอาจหายดีไปรับที่แอร์พอร์ตได้แบบปกติ" ผมก็หวังให้มันเป็นแบบนั้น

     

    "แล้วมึงล่ะ ต้องกลับบ้านต่างจังหวัดไม่ใช่เหรอ"

     

    "ผมไม่อยากกลับแล้วว่ะ อยากอยู่ดูแลมัน" อย่างน้อยๆก็ตลอดช่วงที่รอให้ครอบครัวของเจมส์เคลียร์ธุะเสร็จแล้วกลับมา

     

    ใช่ครับ คุณน้าทั้งคู่อยู่ต่างจังหวัด กำลังจัดการเรื่องสำคัญที่ยังอยู่ในกระบวนการทางกฏหมาย แต่ท่านก็พยายามอย่างเต็มที่กับเที่ยวบินที่เร็วที่สุดเพราะเป็นห่วงลูกชายจับใจ

     

    "ไปเตรียมตัวเถอะเฟรม ไม่ต้องห่วงทางนี้ พี่ดูแลมันเอง"

     

    "แต่ผมห่วงมัน"

     

    "ไม่ต้องห่วง พี่จะโทรบอกทันทีที่มันปลอดภัย"

     

     

     

     

    ทางเดินหน้าห้อง ICU เงียบสงัด หลังจากสายหนึ่งโทรเข้ามา คุณน้าบอกว่าเร็วที่สุดคือเช้าวันพรุ่งนี้ ผมก็หวังว่าไอ้หมีที่อยู่ในนั้นจะหอบเอาข่าวดีมาต้อนรับครอบครัวที่มันบ่นว่าคิดถึงนักหนา

     

     

     

     

     

    จวบจนรุ่งสางของอีกวัน ผมได้แต่มองมือถือของตัวเองแล้วเก็บมันเข้าที่ ไม่มีเวลาแม้แต่จะต่อสายหา...น้อง...ที่กำลังรอผมกลับไปอยู่เช่นกัน

     

    เรียกได้ไม่เต็มปากว่าเจมส์จะปลอดภัย ผ้าพันแผลรอบศีรษะจากการผ่าตัดเอาเลือดคลั่งในสมองออกส่งผลให้คุณน้าเป็นลมล้มไปทันทีที่เห็นลูกชาย คุณน้าผู้ชายเลยต้องคอยเฝ้าดูแล เหลือก็แต่จัสที่ยืนมองพี่ชายผ่านกระจกใสด้วยดวงตาแดงก่ำและน้ำตาคลอจวนเจียนจะไหล

     

     

    จะให้ผมทิ้งมันไปได้ยังไง

     

     

     

    นาน....นับสัปดาห์กว่าทุกอย่างจะเริ่มเข้าที่เข้าทางเมื่อแสงสว่างทอเหนือการลืมตาตื่นของเจมส์

     

    ความยินดีโอบล้อมทุกคนที่รู้ข่าว ไอ้หมีนั่นมันตื่นมาก็กินกับเวิ่นได้เป็นปกติแถมยังมากกว่าเดิม จนเฟรมที่เพิ่งกลับมาอดค่อนขอดไม่ได้ว่าสงสัยหินก้อนนั้นจะปาไปโดนต่อมปัญญาอ่อนของเจมส์ให้กระตุ้นหนัก

     

     

    เสียงหัวเราะที่กลับมาอีกครั้งพาให้ผมกลับบ้านได้อย่างสดใสหลังจากหอบข้าวของไปสลับกับคุณน้าดูแลคนป่วย มีเฟรมมารับช่วงต่อก็พอให้วางใจได้บ้าง

     

     

    ขับรถมาจอดเทียบหน้าบ้านตัวเองแล้วก็รู้สึกเหมือนเลือดในกายมันอุ่นวาบขึ้นมาเมื่อเห็นรถคุ้นตา

     

     

    "คชา..." ชื่อของน้องชายที่แสนคิดถึงหลุดออกมาจากปากพร้อมรอยยิ้มเต็มแก้ม

     

    น้องกลับมาแล้ว

    แรงเต้นจากก้อนเนื้อในอกผมมันรุนแรงจนแทบควบคุมร่างกายไว้ไม่อยู่ ความยินดีเปี่ยมล้นจนไม่รู้จะขยับออกไปหายังไง ก่อนที่ทุกอย่างจะถูกสัญญาณกดให้หยุดลงเสียดื้อๆ

     

     

    หยุดแม้กระทั่งลมหายใจของผม

     

     

     

    ใครคนหนึ่งอุ้มน้องออกมาจากรถ รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของคนสองคนดังลอดเข้ามาให้ได้ยิน น้องดูสนุกสนาน มีความสุขเมื่อได้พูดคุยกับผู้ชายคนนั้น ก่อนที่ทั้งคู่จะหายเข้าบ้านตามหลังคุณน้าไป

     

     

    ใคร...

     

     

    คนที่ทำให้น้องหัวเราะได้ขนาดนั้น คือใคร...

     

     

     

     

     

     

    ผมเตรียมตัวไปหาเจมส์ในเย็นวันนั้นอีกครั้ง จะอยู่บ้านก็หงุดหงิดสู้ไปนั่งด่านั่งเหน็บแนมกับไอ้พวกนั้นยังดีเสียกว่า

     

    ทันทีที่อออกมานอกตัวบ้าน เสียงหัวเราะที่ดังแว่วมาจากสนามหญ้าบ้านข้างๆก็ชวนให้ต้องชะงักค้างอยู่กับที่

     

    "พี่เต๋า!!" เสียงสดใสเอ่ยเรียกผมพร้อมวิ่งมาเกาะรั้วไม้ หน้าผากได้รูปเกาะเหงื่อพราวชวนให้เอื้อมมือไปเช็ดให้แต่ผมกลับทำได้แค่คิด

     

    "พี่เต๋าไปเตะบอลกับน้องคชาไหม?" รอยยิ้มสดใสที่เฝ้าคิดถึงส่งมาให้ บอกตามตรงว่าแอบดีใจลึกๆที่น้องไม่โกรธผมจากเหตุการณ์ในวันนั้น

     

    "น้องคชากำลังเล่นเตะบอลกับอาณัฐ สนุกมากๆๆๆๆ พี่เต๋าไปเล่นด้วยกันนะ" ผมหันมองชายหนุ่มหน้าตาเข้าขั้นดีมากที่ส่งยิ้มอ่อนๆมาให้ ก่อนที่ผมจะเบนสายตาไปสนใจน้อง

     

    "พี่มีธุระ" เสียงแข็งในแบบที่ไม่เคยเป็น ทันได้เห็นสายตาของน้องที่ไหววูบก่อนที่ประโยคหนึ่งจะกระแทกอกให้สำนึกถึงความงี่เง่าของตัวเอง

     

    "มีธุระอีกแล้วหรือครับ...ไม่เป็นไร น้องคชาไปเล่นกับอาณัฐก็ได้"

     

     

     

     

    น้องวิ่งไปแล้ว กลับไปสนใจลูกกลมๆนั้นไม่หันมามองผม

     

     

     

    ถึงตอนนี้ ผมไม่มั่นใจว่าตัวเองควรดีใจที่น้องไม่โกรธหรือจะเสียใจกับการมีใครมาแทนที่ตัวเองดี

     

     

    ที่ตรงนั้นมันควรจะเป็นผมแต่ตอนนี้อะไรๆก็เปลี่ยนไปแล้ว

     

    "อาณัฐ"

     

     

    เสียงเล็กใสที่เอ่ยเรียกด้วยความร่าเริงยังก้องอยู่ในหัว

     

     

    ผม...ผิดเอง

     

    To be con.
    ตอนที่ 7 กลับมาหาฉันทีได้ไหม

    Talk : สวัสดีนักอ่านที่น่ารักทุกท่านค่ะ คิดถึงมากๆๆๆ ขอโทษที่หายไปนานนะคะ ช่วงนี้อาจหายไปบ้างเพราะทำงานเจ็ดวันเลย ทั้งงานบริษัทและงานที่ต้องกลับมาช่วยที่บ้าน อีกซักสองเดือนงานที่บ้านก็คงซาลง เมื่อนั้นเราจะกลับมารัวฟิคดังเดิม ฮือๆๆ 

    สำหรับใครที่เล่น Line นะคะ แอดมาได้ที่ mint_minnii ทักมาสั้นๆว่า "ณ" เราจะลากเข้ากรุ๊ปทันทีเพื่อพูดคุยและอัพเดทข่าวสารเรื่องฟิคนะคะ หรือใครสะดวกทางทวิตเตอร์ก็ตามแต่จะปรารถนาเลยค่ะ follow กันได้ที่ @FICSODmw นะ หรือถ้าจะตามเฉพาะเรื่อง "ณ สนามเด็กเล่น" จะเข้าไปดูที่ #สนามเด็กเล่น ก็ได้ค่ะ (หลายช่องทางจริงๆ)

    ไปแล้วๆ ไว้เจอกันกับตอนหน้านะคะ

    ด้วยรัก
    จาก...ณ 

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×