คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่2 Valentine
วันนี้ผมกลับบ้านเร็วผิดปกติ....มาก จนแม่ตกใจแทบทำตะหลิวหลุดมือ ปกติตะวันไม่ตกดินผมไม่กลับมาหรอก แต่วันนี้มันพิเศษ
ผมมองนาฬิกาเรือนสวยบนข้อมือตัวเอง
สี่โมงเย็นแล้วทำไมยังไม่กลับมาอีกนะ
"มองหาใครเต๋า"
"อะไรนะครับ?"
"แม่ถามว่ามองหาใคร?"
"เอ่อ...ข้างบ้านเราเพิ่งย้ายมาอยู่ใหม่เหรอครับแม่ พอดีเมื่อเช้าผมเห็น..."
"เพิ่งย้ายมาเมื่อวานนี้เอง" สงสัยเพราะเมื่อวานผมกลับดึกไปหน่อยเลยไม่ทันได้สนใจ
"มีเด็กน้อยมาด้วยนะ ตั้งสองคนแหน่ะ น่ารักมากเลย แม่ทำแกงไว้เยอะแยะว่าจะเอาไปฝากบ้านนั้น นี่แม่ว่าจะทำอะไรเพิ่มแบบจืดๆไปเผื่อเด็กๆด้วย เต๋าว่าดีไหม?"
"ดีมากครับแม่" ผมทิ้งท้ายไว้เท่านั้นก่อนจะออกจากห้องครัวตรงขึ้นชั้นบนของบ้าน จัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อภารกิจที่ตั้งใจไว้
แดดอ่อนยามเย็นผสานสายลมเอื่อยไม่ร้อนมากแต่ก็ไม่ซับเหงื่อที่เริ่มไหลจากข้างขมับจากการใช้แรงงานขจัดรังมดและแมลงอันตรายรวมถึงกำจัดวัชพืชและทำความสะอาดศาลาหลังเล็กกลางสวน เผื่อว่าถ้าวันไหนเจ้าตัวเล็กมาเล่นจะได้ไม่มีตัวอะไรไปกัดต่อยเข้า ผมทำงานของตัวเองไปก็ชะเง้อคอมองบ้านข้างๆไปฟ้ามืดพอดีกับเสียงรถที่เคลื่นเข้ามาจอด ผมรีบล้างไม้ล้างมือก่อนตรงเข้าครัวบ้านตัวเองจัดกล่องที่แม่เตรียมไว้เพื่อกดกริ่งบ้านข้างๆ
"สวัสดีค่ะ" คนที่เดินมาเปิดประตูคือเจ้าของเสียงที่ผมได้ยินเมื่อเช้า
"เอ่อ...สวัสดีครับ ผมเต๋าครับ อยู่บ้านข้างๆ พอดี...แม่ให้เอาของมาให้ครับ" แม่ของเจ้าตัวเล็กรู้จักกับแม่ของผมอยู่ก่อนแล้วจากเมื่อวาน
"อ๋อออ พี่เต๋านี่เอง เห็นน้องคชาพูดถึงเมื่อเช้า ขอบคุณมากๆนะคะ ฝากขอบคุณคุณแม่ด้วย เจ้าตัวเล็กหลับปุ๋ยมาตั้งแต่ในรถ เดี๋ยวเก็บไว้อุ่นให้ทานพรุ่งนี้ดีกว่า เมนูนี้เจ้าตัวเขาชอบนัก เต๋าเข้ามาในบ้านก่อนไหมจ้ะ" เอ่ยปฏิเสธคำชวนนั้นไป แอบมองลอดแมกไม้ทันเห็นประมุขของบ้านอุ้มตัวเล็กหลับคอพับคออ่อน มีน้องชายช่วยถือกระเป๋านักเรียนเดินตามไปติดๆ
"ไม่เป็นไรครับ" ใจจริงรอเล่นกับน้องมาตั้งแต่เย็น หากเวลานี้คงไม่เหมาะ
"ผมลาเลยนะครับ" เอ่ยขอตัวก่อนจะพูดคุยกับเจ้าของบ้านสองสามคำเพื่อลากลับ
ไม่วันนี้ก็ยังมีพรุ่งนี้ และอีกหลายๆวันน่า บ้านอยู่ใกล้กันแค่นี้เอง
เพิ่งเจอกันเมื่อเช้า...แปลกที่ทำไมผมถึงได้ติดใจเด็กคนนี้นักทั้งที่ไม่เคยนึกชอบเด็กคนไหนมาก่อน
มีบ้างที่รู้สึกอยากเล่นด้วย แต่มันก็แค่ครั้งคราว ไม่ใช่รอเพื่อที่จะได้เจอแบบนี้
ก่อนที่จะปล่อยตัวเองให้คิดอะไรไปไกล เสียงหนึ่งก็กรีดร้องขัดจังหวะเสียก่อน
"ว่าไง"
(ไอ้เต๋า นี่มึงอยู่ไหน?) เพื่อนผมเองครับ
"บ้าน"
(เห้ยยยย!! นี่มันคืนวันศุกร์นะเว้ย)
"แล้วไงว้ะอ้น"
(ห่านนนน นี่มันคืนสังสรรค์หลังจากเครียดกับการเรียนมาทั้งอาทิตย์นะครับเพื่อน นี่ทุกคนอยู่ร้านกันหมดแล้ว รอมึงอยู่เนี่ย รีบมาเลยเพื่อน)
"มึงอย่ามาอ้าง ต่อให้เป็นวันจันทร์ถ้าพวกมึงอยากกระทบมึงก็ไปอยู่ดี" กระทบคือการชนแก้วนั่นเองครับ พวกเราไม่ชอบความรุนแรง จำต้องเรียกอย่างมีอารยะ
(แล้วมึงจะมาไหม?) ปลายสายถามมา ผมก็ตอบไปทันทีเหมือนกัน
"มึงอยู่ร้านไหน"
กว่าจะกลับมาถึงบ้านก็เกือบเช้า นอนไปไม่กี่ชั่วโมงก็เป็นอันต้องตื่นขึ้นมาทั้งที่อยากหลับต่อจะแย่ เป็นแบบนี้ประจำ คืนไหนที่ไปเมามาจะตื่นเร็วและสดใสยิ่งกว่าได้นอนสิบแปดชั่วโมง ไม่มีอาการแฮงค์เหมือนคนอื่นซึ่งปัจจุบันก็ยังหาสาเหตุไม่ได้
ผมพาร่างตัวเองไปจัดการทำความสะอาดเพราะหลุมดำในช่องท้องกำลังโหยหามื้อหลักที่นอกเหนือจากแอลกอฮอล์ มองหาจนทั่วบ้านถึงได้พบแม่ตัวเองยืนเกาะรั้วหลังบ้านคุยอย่างออกรสกับคุณน้า
แล้วเจ้าตัวเล็กล่ะ
วันนี้วันเสาร์จะตื่นหรือยังก็ไม่รู้
จุดหมายของผมคือสนามหญ้าหน้าบ้านแล้วก็ต้องชะงัก ดันตัวเองหลบมุมใต้ต้นไม้ใหญ่เพราะภาพน่ามองของใครบางคน
แมวสีขาวสะอาดตากำลังหลับไม่ได้สติอยู่บนสนามหญ้าเขียวสดของบ้านข้างๆ ตรงหน้ามีเด็กวัยอนุบาลกำลังย่องมาช้าๆก่อนจะย่อตัวเพื่อคลานมานอนคว่ำวางคางไว้กับสองแขนที่รองหนุนเพื่อมองแมวอ้วน ตากลมโตสดใสเคลิ้มไปกับสายลมเย็นพัดเอื่อย เฝ้ามองนิ่งสงบเหมือนจะหลับไปพร้อมกับขนปุย จวบจนเสียงหนึ่งดังขึ้นไม่เบานัก
"เฮียยยยยยย" เสียงเล็กแหลมของเด็กผู้ชายตะโกนมาแต่ไกล คนถูกเรียกหันไปปรามน้องชายด้วยการเอานิ้วชี้แนบชิดริมฝีปากส่งเสียง "ชู่" ให้เงียบ
"เดี๋ยวน้องแมวตื่นนะเค้นท์"
"ปลุกมันขึ้นมาเล่นกับเราสิ" วิธีปลุกของคนน้องคือการดึงหางฟูๆจนแมวที่หลับสะดุ้งตื่น ไม่เท่านั้นเมื่อแรงตกใจของมันส่งผลให้ตวัดอุ้งเท้าข่วนตรงข้างขมับของคนที่นอนมองอยู่โดยไม่ทันได้ตั้งตัว!!
ผมตกใจกับภาพที่เห็น ไม่ทันรู้ตัวว่ากระโดดข้ามรั้วไม้นั้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้อีกทีก็ตอนที่อุ้มคนกำลังร้องไห้เพราะความเจ็บและตกใจมาไว้บนตักแล้วเรียบร้อย
"ไม่เป็นไรนะครับ คนดี ไม่เป็นไรนะ ไหนขอพี่เต๋าดูซิ" เด็กดีพูดง่าย พอบอกแบบนั้นเขาก็เอียงด้านที่โดนแมวข่วนมาให้ดูทันที รอยเล็กๆกับเลือดจางบ่งบอกสภาพแผลไม่ใหญ่นักแต่ก็คงแสบพอตัว เจ้าตัวเล็กหยุดร้องไห้พอดีกับที่ผู้เป็นแม่รีบมาดูอาการ
"คชาเป็นอะไรไหมลูก เข้าบ้านไปทำแผลนะ" ผมอุ้มเขาเข้าบ้านตามคำชวน เลือกโซฟาตัวนุ่มเพื่อหย่อนกายลงก่อนจะประคองเด็กชายตัวเล็กไว้บนตักถึงจะหยุดร้องไห้แล้วแต่อาการตกใจไม่คลายหายไปไหน หญิงสาวเพียงคนเดียวของบ้านวางกล่องปฐมพยาบาลลงไม่ทันได้เปิดเสียงโทรศัพท์ก็กรีดร้องให้ต้องรีบไปรับเสียก่อน เธอดูอ้อยอิ่งเกินกว่าจะทิ้งความเป็นห่วงไปได้ผมเลยอาสาเสียเอง
"ผมทำแผลให้เองครับ ไม่ต้องห่วง"
คนดีของผมว่าง่ายครับ นอกจากซีดปากเพราะแสบแผลนิดหน่อยก็ยอมให้แปะพลาสเตอร์แต่โดยดี ระหว่างทำแผลโดยไม่ได้ตั้งใจเมื่อหูแว่วได้ยินเสียงคุณแม่ของคชากำลังคุยกับคนที่คิดว่าเป็นป้าเรื่องหาพี่เลี้ยงให้เด็กน้อยทั้งสองคนในช่วงเย็นที่ตนกับสามีต้องทำงานจนดึกส่งผลให้ไปรับลูกช้าจนต้องฝากฝังไว้กับครูประจำชั้นแบบวันก่อนที่ผมเห็น สมองประมวลผลรวดเร็วพอดีกับจังหวะเดียวกับที่คุณแม่นั่งลงตรงหน้า
“ขอโทษนะครับ ไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟัง แต่กำลังหาพี่เลี้ยงให้น้องอยู่หรือครับ?”
“ใช่ค่ะ น้าหามาซักพักแล้วก็ยังไม่เจอที่ถูกใจเลย เดี๋ยวนี้หายากจริงๆ”
“ถ้างั้น...ให้ผมดูแลน้องๆแทนไหมครับ ผมเรียนเลิกแค่ช่วงบ่าย ช้าสุดก็พอดีกับที่โรงเรียนเลิก เสาร์อาทิตย์ก็ว่าง อีกอย่าง...บ้านเราอยู่ใกล้กัน น่าจะสะดวกกว่า ผมขับรถผ่านโรงเรียนน้องๆทุกวัน คุณน้าจะได้ไม่ต้องลำบากหาพี่เลี้ยงด้วยไงครับ”
“น้าเกรงว่าจะลำบากเต๋าหรือเปล่า..”
“ไม่เลยครับ ผมยินดีมากๆ เล่นกับน้องๆสนุกดี แม่เองก็ชอบบ่นทุกวันอยากมีเด็กๆมาวิ่งเล่นในบ้านบ้าง” ผมเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม มั่นใจได้เลยว่าจะไม่มีคำปฏิเสธแน่นอน
“ถ้างั้น...น้าฝากเต๋าดูแลน้องด้วยนะจ้ะ”
“ครับ...ผมจะดูแลน้องให้ดีที่สุด”
ผมสัญญา
คุณน้าขอตัวไปเตรียมของว่างผมเลยอนุญาตตัวเองให้นั่งดูการ์ตูนกับคชาได้ตามใจชอบ กำลังเพลินๆลูกคนเล็กของบ้านก็วิ่งเร็วๆมาพร้อมกับแมวตัวอ้วนในอ้อมกอด ขนาดตัวเกือบจะเท่ากัน
“มาแล้วๆๆๆๆ” เสียงใสตะโกนมาพร้อมตัว
“นี่ไงที่มันทำเฮียเจ็บ จัดการเลย เค้นท์จับให้แล้ว”
คุณครับ...
ผมไม่คิดเลยว่าเด็กน้อยที่เพิ่งร้องไห้จะทำตาวาวแล้วกระโดดจากตักผมไปฟัดพร้อมไล่งับพุงกลมๆของแมวอ้วนด้วยความไวและความแค้นขนาดนี้
น่ารัก
น่าเอ็นดู
หรือผมควรจะเตรียมรับมือกับเด็กแสบดี
วันแห่งความรัก...กี่ปีก็ไม่ต่างจากเดิมมากนัก ขนม ดอกไม้ มีขายในราคาเกินกว่าปกติไปมาก ผมนัดกับเพื่อนไว้คืนนี้ว่าจะฉลองตามแบบฉบับคนโสดกันที่ร้านประจำ อย่าริอาจคิดว่าที่โสดเพราะไม่มีใครสนใจนะครับถ้าคุณยังไม่เห็นจดหมายสารภาพรัก ช็อกโกแลตหลายสิบกล่อง และดอกกุหลาบที่เรียงอยู่หลังรถ ก็ไม่ได้ฮ็อตขนาดนั้นหรอกครับติดที่ว่ามนุษยสัมพันธ์ดีควบตำแหน่งเดือนคณะเสียมากกว่าเลยได้รับความเกื้อกูลแบบนี้อยู่บ่อยๆ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญที่ผมต้องมาคิดในเวลานี้ สิ่งดึงดูดความสนใจได้ดีที่สุดคือรั้วโรงเรียนอนุบาลตรงหน้าต่างหาก
เสียงเอะอะของเด็กๆสะท้อนก้องในใจทันทีที่ก้าวพ้นรั้วเข้ามา อนุบาลหนึ่งห้องทานตะวันเด่นชัดด้วยการตกแต่งสีสดใส คุณแม่ของน้องติดต่อกับทางโรงเรียนไว้แล้วว่าคนที่จะมารับเป็นใครคุณครูเลยไม่แปลกใจนัก
“เชิญทางนี้ค่ะคุณ....?”
“เต๋าครับ”
“ฉันชื่อเมย์ค่ะ”
“ครับ...คุณครูเมย์”
“เรียกเมย์เฉยๆก็ได้ค่ะ” ผมยิ้มให้เธอหากไร้การต่อความใด
“เป็นพี่ของน้องหรือคะ?”
“พี่ข้างบ้านครับ...ผมจะพบน้องได้หรือยัง?” ดูเหมือนเธอจะเพิ่งนึกขึ้นได้ ถึงได้ยอมนำทางไปยังลานเครื่องเล่นหลบเงาไม้กันแดดได้อย่างดี
“น้องคชา อุ่ย....” เธอสะดุดคำเรียกขานเพราะภาพที่เห็น ในจังหวะเดียวกับที่ผมก็ชะงักไปเหมือนกัน “น้องคชา” เด็กตัวเล็กหน้าหวานกำลังแหงนคอมอง...ครับ....แหงนคอมองเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ปีนบนลูกโลกปล่อยชายกระโปรงให้เห็นลายคิตตี้น่ารักด้านใน ผมแทบกุมขมับตัวเองตอนที่คุณครูรีบไปปิดตาแล้วดึงความสนใจน้องออกมาหาผู้ปกครองอย่างผม
แต่น้องก็สนใจผมมากกว่าคิดตี้นั่นจริงๆ เขายิ้มเต็มแก้มวิ่งเข้ามากระโดดกอดผมที่อ้าแขนรับ เสียงเล็กร้องให้อุ้มพอดีกับที่คุณครูพาน้องเค้นท์ที่ร่าเริงสดใสไม่แพ้กันเดินผ่านสวนเล็กมาจากชั้นเตรียมอนุบาล
แวะซื้อขนมนมเนยหน้าโรงเรียนคลายหิวให้น้องแล้วถึงได้เปิดประตูด้านหลังส่งเด็กน้อยทั้งสองเข้าไป ผมเลือกที่จะให้เขานั่งด้านหลังทั้งคู่พร้อมคาดเบลท์เพื่อให้เขานั่งสบายและเล่นกันได้อย่างเต็มที่ แต่สิ่งที่เป็นต่างจากที่คิดอยู่มากตรงที่เค้นท์พยายามจัดกระเป๋าของตัวเองและพี่ชายให้เข้าที่ก่อนจะกอดหุ่นยนต์แล้วหลับไป ปล่อยให้อีกคนปลดตัวเองออกจากเข็มขัดนิรภัยแล้วย้ายที่นั่งเป็นตักผมแทน เด็กน้อยฉีกยิ้มกว้างเป็นคำตอบในสีหน้าสงสัยที่ผมส่งไปถาม
“ขอนั่งตรงนี้กับพี่เต๋าได้ไหมครับ” จริงๆแล้วมันก็ได้ แต่...
“มันจะอันตรายนะครับ”
“ขอคชานั่งตรงนี้นะครับ” ไม่พูดเปล่ายังทำตาวาวส่งมาให้อีกด้วย มีหรือที่ผมจะกล้าขัดใจ
“ต้องนั่งนิ่งๆนะครับ ห้ามยุกยิก เดี๋ยวจะอันตราย” เขาไม่ตอบ แต่กำลังยุ่งอยู่กับสติ๊กเกอร์รูปหัวใจสีแดงประกายบิบวับหลายสิบดวงบนอกเสื้อตัวเอง ก่อนที่ปลายนิ้วเล็กจะแกะมาดวงหนึ่งเพื่อแปะลงบนอกเสื้อผม
คุณรู้ไหม...
ผมเคยอดค่าขนมเก็บเงินซื้อช็อกโกแลตให้สาวตอนม.ต้น
ผมเคยหอบกุหลาบแดงช่อโตตัดผ่านโรงอาหารตอนพักเที่ยงเพื่อมอบมันให้ดาวโรงเรียนตอนม.ปลาย
สาบานได้ว่าไม่มีครั้งไหนที่ทำให้ใจเต้นได้เท่าครั้งนี้
ไม่เคยมีครั้งไหนที่เลือดในกายของผมจะร้อนและรัวแรงสั่นของก้อนเนื้อในอกได้เท่าตอนที่สติ๊กเกอร์หัวใจดวงเล็กถูกแปะประทับไว้พร้อมเสียงกระซิบแผ่วแต่ก้องอยู่ในใจได้เท่าประโยคนั้น
“คชารักพี่เต๋านะครับ”
ผมกำลังเป็นอะไร
To be con.
สวัสดีนักอ่านที่น่ารักทุกท่านต้อนรับวันแห่งความรักค่ะ >_<
ตอนที่2 นี้เรื่องยังเบาๆอยู่ ยังไม่อยากผลีผลามมากเกรงจะเป็นการพรากผู้เยาว์ 5555
อยากให้ติดตามกันต่อไปนะคะ รับรองว่าน้องคชาไม่ธรรมดาจนพี่เต๋า.....นั่นแหล่ะ ครึครึ
คอมเม้นท์ติชมกันได้ตามสบายเลยนะคะ
สำหรับวันนี้คนโสดขอให้เจอคู่เร็วๆ คนมีคู่ก็ขอให้รักันตลอดไปนะคะ
เที่ยวกันอย่างสนุกสนานและระมัดระวังนะ
ด้วยรัก
จาก...ณ
ความคิดเห็น