คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ณ ห้องซ้อม - จิ้งเจ๋ง
Title : ณ ห้องซ้อม
Couple : จิ้งเจ๋ง
By : ณ
เลิกเรียนยังเป็นเวลาที่เร็วเกินไปหากจะกลับบ้าน กิจกรรมหลังพ้นรั้วโรงเรียนของผมเลยหนีไม่พ้นเดินเล่นไปตามซอกซอยที่คุ้นเคยใจกลางเมือง แม้จะเห็นจนคุ้นตาไม่มีอะไรแปลกใหม่ให้คุ้นใจมันก็ยังคงเป็นที่พึ่งสุดท้ายของผม แวะซื้อไอศกรีมร้านโปรดถ้วยใหญ่ได้ก็ควงกระเป๋าหนังใบเดียวในมือเดินขึ้นบันไดเพื่อพบกับจุดหมายที่เป็นห้องซ้อมใหญ่ของเพื่อนรุ่นพี่ที่เคยคุ้นกัน
เสียงแปลกหูดังแว่วมาจากห้องซ้อมชวนให้ต้องหันไปถามเจ้าของที่กำลังรีบเร่งเก็บของ
“พี่ ซื้อเปียโนมาไหม?”
“เออ นี่ให้น้องลองดูให้อยู่ เห้ยจิ้ง เดี๋ยวเสร็จแล้วฝากปิดห้องให้ด้วยนะ พี่รีบว่ะ เมียจะคลอด”
“เอ้า เหรอ เออๆยินดีด้วยพี่”
ผมล่ำลาพี่คนสนิทได้แป้บเดียวพี่แกก็รีบวิ่งลงบันไดไป ทิ้งให้ผมทอดมองเงาใครคนหนึ่งในชุดโรงเรียนนานาชาติที่โดนเปียโนหลังใหญ่บังอยู่ ท่วงทำนองไม่คุ้นหูแต่ก็เพราะจนต้องก้าวเข้าไปฟังใกล้ๆ รู้ตัวอีกทีเขาก็หยุดปลายนิ้วที่พรหมบรรเลงตัวโน้ตขึ้นมามองเสียแล้ว
“หวัดดี...”
“อ่า...หวัดดี....เราจิ้ง” ผมอึกอัก รู้สึกขัดเขินอย่างบอกไม่ถูก
“อื้อ เราก๊วยเจ๋ง เรียกเจ๋งอย่างเดียวก็ได้ เล่นด้วยกันไหม” ผมวางถ้วยไอติมกับกระเป๋าไว้บนหลังเปียโน หย่อนกายลงนั่งที่ว่างใกล้กันกับที่เขาขยับไว้ให้
“แต่ว่าเราเล่นไม่เป็น”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราสอน...ลองกดตรงนี้...ค่อยๆ ใช่ แบบนั้นแหล่ะ” ก็เพลินดีนะครับ เขาบอกอะไรก็ขยับตามนิ้วที่ชี้นำพาไป ก่อนจะรู้สึกได้ถึงไออุ่นบางอย่างในอากาศ เงยหน้าจากปุ่มสลับดำขาวถึงได้เห็นว่าหน้าเราอยู่ใกล้จนจมูกแทบเกยกัน
“คือ....” ผมอึกอัก ไอร้อนจากลมหายใจเขาสาดประทะร้อนผ่าวจนรู้สึกเหมือนจะเป็นไข้
“ได้ไหม?” เขาเอ่ยถามเสียงแหบพร่า
“อะ...อะไรได้ไหม?” ใจสั่นไปหมดแล้วครับ ถึงจะอยู่โรงเรียนชายล้วนคุ้นชินกับผู้ชายด้วยกัน ไม่ใช่สิ คุ้นชินที่เห็นผู้ชายกับผู้ชายอยู่ใกล้กันแต่ไม่คิดว่าจะ เอ่อ....
“เล่นที่เราสอนได้ไหม” อ๋อออออ..........
“ก็....พอได้”
“แล้วเราจะเล่นกันได้ไหม?” ห๊ะ! ลมตกใจจะลุกหนีแต่เสียหลัก นอกจากจะล้มลงที่เดิมแล้วยังปัดเอาถ้วยไอศกรีมวนิลาที่ละลายแล้วหกราดตั้งแต่เสื้อจนถึงเป้ากางเกง!
เหยดเขร้! !
“เราเช็ดให้.....”
เช็ดของเขาคือการขยับกายเข้าหาแล้วยิ้มมุมปากส่งมาให้ผมก่อนใบหน้าค่อนไปทางหวานน่ามองจะก้มลงแตะปลายลิ้นเลียผ่านรอยชื้นดูดซับกลิ่นและรสหอมหวานจนหลุดเสียงจากแรงดูดรอดออกมาให้ได้ยิน
ผมกำลังจะตาย ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนในชีวิตเพราะบางอย่างในตัวผมมันกำลัง....
“กางเกง...เปื้อนด้วย...” เขาเอ่ยเย้ามากกว่าจะบอกเล่าก่อนก้มลงดูดซับกับกางเกงสีน้ำเงินของผม ไล้เลียผ่านหัวเข็มขัดลงจนเกือบถึงรอยแยกของซิปผมถึงได้พลิกายเขาช้อนร่างเล็กให้นั่งบนแนวเปียโนจนเกิดเสียงดังก้องกังวาล
เขาดูตกใจ แตะผมก็ไม่ปล่อยให้ได้ตั้งตัวเมือแทรกตัวเองผ่านเรียวขาสวยที่อ้าออกแล้วส่งปากเข้าประกบแต้มลิ้นตวัดไล้จากน้ำข้นเหนียวสีขาวของไอศกรีมตรงมุมปากเขาเช็ดให้ด้วยความนุ่มหยุ่นของเรียวริ้วก่อนส่งเข้าตระหวัดเกาะเกี่ยวกัน
ปลายยิ้วประดับแหวนเกลี้ยงสวยส่งเข้าขยุ้มเรือนผมปลุกปั่นอารมณืส่วนลึกของกันและกันอย่างห้ามไม่อยู่ ผมปลดเสื้อคลุมสีเทาของเขาออกจากไหล่เล็ก ไล้จมูกผ่านลำคอแล้วย้อนขึ้นเลียลิ้นกับใบหูขาวสะอาด ส่งมืออีกข้างสอดลึกผ่านเสื้อสีน้ำเงินเข้ม ยังไม่มันที่จะได้ทำอะไรมากไปกว่านั้นเขาก็ดันช่วงไหล่ร้องห้ามไว้เสียก่อน
“ดะ...เดี๋ยว...”
แต่ขอโทษครับคราวนี้มันตาผม
ปัดเสื้อเขาพ้นทางจับเอนร่างบางให้พิงกับเปียโนหลังใหญ่ก่อนไล้ปลายนิ้วผ่านเนื้อนวลนุ่มมือสอดลึกผ่านหน้าท้องแบนราบขึ้นสะกิดแตะติ่งไตที่กำลังตื่นตัวสู้มือ เขายกหลังมือขึ้นปิดปากเมื่อผมดันเก้าอี้ของเปียโนออกแล้วแทนที่ด้วยตัวเองนั่งคุกเข่าลงกับพื้น
แกะเข็มขัดออกด้วยฟันซี่คมปลดตะขอตามลงไปแล้วรูดซิบออกด้วยวิธีเดียวกันทั้งที่มือยังไม่ละห่าง อีกมือดึงร่นกางเกงตัวสวยให้กางตรงข้อเท้าเผยชั้นในตัวขาวแก่สายตา ไฟห้องซ้อมไม่สว่างมากแต่ก็ไม่มืดเกินไปที่จะเห็นว่าผิวเนื้อนั้นขาวสะอาดสวยขนาดไหน
“จิ้ง....” เขาเอ่ยเรียกเสียงแผ่ว ผมเพียงแค่ละไปแตะจูบแผ่วเพียงชั่ววินาทีก็กลับมาสนใจตำแหน่งเดิมต่อ
ส่งลิ้นกดดุนไล้ไปตามแนวยาว จูบย้ำๆผ่านเนื้อผ้าที่ตึงแน่นแล้วจึงใช้ปากเกี่ยวรูดลงเผยส่วนอ่อนไหวตื่นตัวเต็มที่ กอบกุมด้วยมือและปากจนเสียงหวานครางสั่นขบรูดด้วยแนวฟันเรียกร่างบางให้กระตุกไหม ไม่รอให้เขาได้ถึงจุดหมายผมก็ปาดเอาไอศกรีมก้นถ้วยสอดผ่านความเย็นรอดช่องทางเบื้องหลังที่ตอดรัดแน่นให้ต้องชะงักนิ้วมือที่ส่งไปเพียงหนึ่ง
สงสารจนต้องส่งจูบหวานเข้าปลอบปละโลม ก่อนสอดลึกเพิ่มจำนวนให้คุ้นชิน ไม่ทันรู้ตัวเมื่อมันถูกแทนที่ด้วยส่วนหนึ่งของผม
“อ๊า....เจ็บ...” เราต่างไม่เคย เพียงแค่ปล่อยให้ทุกอย่างมันค่อยเป็นค่อยไป
“อย่าเกร็ง คนดี หายใจลึกๆนะ ค่อยๆ...อ่า แบบนั้น” แรงตอดถี่กระชั้นจนอดไม่ไหวที่ต้องสอดกายเข้าไปในคราวเดียว เสียงหอบหายใจปนครางเครือดังก้องห้องเก็บเสียงผสานเสียงเปียโนเป็นจังหวะตามแรงสะโพกที่กดเข้าหาไม่ใช่ทำนองเพลงแต่น่าฟังกว่ามากนัก
เนิ่นนานกว่าจังหวะหอมหวานจะจบลงแต่แน่นอนว่าผมไม่ยอมให้มันจบลงแค่นี้...เรื่องของเรามันเพิ่งเริ่มจริงไหมครับ
“เสื้อตัวนี้ขอยืมก่อนนะ” เสื้อมีฮู้ดสีเทาปักตราโรงเรียนถูกเอายืมมาคลุมตัวเองปิดรอยเปื้อนจากไอฮกรีมเมื่อครู่
“ไหวไหม....” เอ่ยถามเขาที่พยายามทรงตัวจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ ริมฝีปากแดงเยิ้มตึงอิ่มจากแรงดูดเม้มเข้าออกสลับกันพาให้แก้มขาวแดงเรื่อ เขาไม่ตอบแต่ผมก็ยินดีเข้าไปประคองถ้ายอมให้อุ้มก็จะทำ
“เราเดินไหว...ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้” เลยหันไปคว้ากระเป๋าตัวเองกับของเขามาถือ จัดการปิดห้องซ้อมก่อนแตะไหล่ให้อีกคนออกจากห้อง ระมัดระวังโดยการส่งตัวเองลงบันไดไปก่อนให้เขาเดินตามหลัง เผื่อว่าถ้าเสียหลักจะได้มีผมรอรับอยู่
ยังไม่ทันได้ไปไหนก็เจอเด็กผู้หญิงผมลอนตาโตด้วยบิ้กอายส่งยิ้มทักทายพร้อมเอ่ยเรียกเสียงดัง
“เจ๋งงงงง มาซ้อมที่นี่เหรอ เรากำลังจะกลับบ้านพอดีเลย ...กลับด้วยกันไหม” เธอดูขวนเขินบิดชายกระโปรงสั้นของตัวเองจนแถบเปิดขึ้นมาเหนือ....นั่นแหล่ะ
ผมที่กำลังถูกเมินเลยกระแอมเสียงดังแล้วตวัดแขนโอบรอบช่วงไหล่เล็ก
“ไม่รบกวนดีกว่าครับ พอดีวันนี้เจ๋งจะกลับบ้านกับแฟน ไปครับ...ที่รัก” กระซิบคำสุดท้ายชิดแก้มใสแล้วพาคนที่กำลังอึ้งไม่ได้สติเรียกแท็กซี่บอกจุดหมายคุ้นเคยเสร็จก็เปิดประตูส่งเขาเข้าไปก่อนแล้วส่งตัวเองเอนกายพาดศีรษะลงกับตักนุ่ม
“แวะบ้านจิ้งก่อนนะครับเจ๋ง”
เรื่องของเรามันเริ่มขึ้นง่ายเกินไป
แต่รับรอง ผมไม่ยอมให้มันจบง่ายๆหรอกนะครับ
ด้วยเกียรติของเด็กกางเกงน้ำเงินที่ยอมคุกเข่าตรงหน้าเด็กนานาชาติเลยเอ้า! (หัวเราะ)
END.
สวัสดีนักอ่านทุกท่านค่ะมาแล้วกับฟิคสั้นทันเหตุการณ์ที่ไม่มีอะไรเลย ฮ่าๆๆๆ แต่งเพราะแรงยุและแรงอยากล้วนๆ
ยังไม่ได้ตรวจทานคำผิดหรือแก้เรื่องใหม่เลย มีอะไรผิดพลาดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
คอมเม้นท์กันได้เต็มที่นะคะ
ขอให้สนุกกับจิ้งเจ๋งค่ะ
ด้วยรัก
จาก...ณ
ความคิดเห็น