คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter - 2
Title : ไม่บอกเธอ
Couple : Tao & Kacha
Chapter : 2
ไม่รู้ว่าเมื่อคืนผมหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่แสงแดดอุ่นสาดผ่านผ้าม่านสีขาวเข้ามาทอเหนือผ้านวมนุ่ม ผมขยับตัวบิดขี้เกียจถึงได้พบว่าเจ้าโทรศัพท์เครื่องเล็กยังอยู่ในมือตัวเอง ดูเวลาแล้วเหลือเฟือพอที่จะงีบได้อีกซักหน่อย กำลังหันตัวจะไปคว้าหมอนข้างแล้วก็ต้องสะดุ้งเฮือก ตื่นเต็มตา
บนที่นอนมีใครคนหนึ่งคู้ตัวซุกอยู่ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน ผมลองขยับผ้าห่มให้เปิดออกพร้อมใจสั่นระทึก อย่าบอกนะว่าโดนผีหลอกกลางวันแสกๆ
แต่ถ้าเป็นผี
คงเป็นผีที่น่ารักมากแน่นอน
เรือนผมนุ่มละอยู่ข้างแก้ม ผมกลั้นหายใจเมื่อรู้ว่าคนที่ซุกซบอยู่ไม่ใช่ใครอื่นไกล ในมือของเขามีคีย์การ์ดห้องผมที่คงได้มาจากพี่กิต วันนี้เด็กแสบเมื่อวานของผมกลายร่างเป็นหนุ่มร่างบางเมื่อเจ้าตัวใส่ยีนส์สีซีดขาดตรงหน้าขากับเชิ้ตสีขาวตัวบางที่ชายเสื้อมันร่นขึ้นเผยเอสไลน์ชัดเจน ช่วงเอวคอดนั่นมันเรียกร้องให้ผมแตะมือลงไป ลองไล้ปลายนิ้วกับผิวเนื้อนุ่มแผ่วเบา
อ่า...
“คชา....” ปลุกคนหลับให้ตื่น แต่ทำไมถึงได้กลายเป็นกระซิบข้างหูก็ไม่รู้ ตื่นเถอะคชา ตื่นมารับผิดชอบหน่อย ทำไมมานอนแบบนี้ ไม่รู้หรือไงตอนเช้าๆร่างกายผู้ชายมันแข็งแรงกว่าปกตินะ!
เขายังไม่รู้สึกตัว ผมก็เลยปล่อยให้อะไรๆมันเลยตามเลยตั้งแต่ใบหูขาว ช่วงคอหอมกรุ่นกลิ่นแป้งเด็กจนมาถึงเรียวปากนุ่ม เพลินกับมือที่ไร้เหนือหน้าท้องแบนราบใต้เชิ้ตตัวขาวก่อนจะถูกผลักเต็มแรงพร้อมเสียงโวยวายลั่นห้อง
“ไอ้บ้า! !”
“ด่าทำไมตัวเองมานอนบนเตียงคนอื่นแท้ๆ” เขาหอบหายใจหนัก ไม่รู้ว่าโกรธหรืออะไรกันแน่
“แล้วนายมา...มา...เออนั่นแหล่ะ แบบนั้นทำไม ไม่ให้นอนก็ปลุกกันดีๆสิ” ผมอยากจะหัวเราะนะ แต่ดูท่าทางเขาจะโกรธจริงๆ
“ปลุกนานแล้วไม่ตื่น นี่...จะโวยวายทำไมเป็นผู้หญิงหรือไง” เขาเงียบ บ่นอะไรงมงำกับตัวเองแล้วก็จัดการพับผ้าห่มให้เข้าที่เข้าทางก่อนจะหันมาเหวี่ยงผมรับอรุณหรือที
“จะอาบน้ำก็ไปสิ เช้าแล้วไม่เห็นหรือไง วันนี้มีถ่ายโปสเตอร์ ถ่ายทีเซอร์ โปรโมทคอนเดี่ยวที่ภูมิใจนักหนาไม่ใช่หรือไง!” ผมเดินผิวปากเข้าห้องน้ำก่อนจะแวะยิ้มกับตัวเองในกระจก ให้เวลาตัวเองได้หมั่นไส้กับเงาสะท้อนที่มันแสดงออกว่ามีความสุขเสียเหลือเกินซัก 2 นาทีก่อนจะจัดการตัวเองให้เรียบร้อยด้วยเวลาอันรวดเร็ว
เมื่อเปิดประตูห้องน้ำออกมาก็ได้กลิ่นหอมลอยมาจากส่วนที่เป็นห้องครัว คชากำลังง่วนกับการัดโต๊ะอาหาร
“ทำอะไร?”
“เตรียมมื้อเช้าสิถามได้ เห็นเป็นซักผ้าหรือไง” แหม่ เด็กมันเถียง
“เตรียมทำไม ปกติก็ไม่ค่อยกิน”
“ต่อไปนี้ต้องกินทุกวัน มื้อเช้าสำคัญมากนะไม่เคยเรียนเหรอ ไม่กินมื้อเช้าร่างกายจะไม่แข็งแรง จะไม่มีอาหารไปบำรุงสมอง แถมมีผลกับอารมณ์ระหว่างวันด้วยนะ”
“งั้นคชามาทำให้กินทุกวันเลยสิ”
“ไม่ใช่เรื่อง”
หยอกล้อกันหน้าตะกร้าซอสพอหอมปากหอมคอผมก็กลับมาสนใจเสื้อผ้าหน้าผมตัวเองในห้องแต่งตัวต่อ วันนี้เลือกยีนส์กับเชิ้ตดำ จงใจให้เข้าคู่กับใครบางคน
แต่เหมือนเจ้าตัวเขาจะไม่รู้
เพราะนอกจะนั่งแทะขนมปังล่วงหน้าไปเกือบหมด เออาร์เฉพาะกิจของผมก็หันไปซัดนมและน้ำผลไม้ต่ออย่างไม่บันยะบันยัง กินเสร็จเตรียมอิ่มล่วงหน้าตามเคยแต่มีหรือครับที่ผมจะยอม
“ไส้กรอกยังเหลืออีกตั้งสองชิ้น ทำไมไม่กินให้หมด”
“อิ่ม ไม่ไหวละ”
“ไม่ได้ ทำมาแล้วต้องกินให้หมด เสียดายของ เร็วกินเข้า” ผมใช้ส้อมตัวเองจิ้มไส้กรอกในจานเขาแล้วป้อนให้ถึงปาก คนโดนป้อนมองหน้าผมสลับไส้กรอกชิ้นนั้นอยู่สองสามรอบแล้วก็ทำหูแดงใส่ซะเฉยๆ
“เป็นอะไร กินๆไปดิ่ คิดถึงอะไรอยู่หรือไง” ลองเอ่ยแซวไปแล้วก็ได้ผล
“ไอ้บ้า ลามก! ใครเขาจะไปคิด” แหม่ะ มันชื่นใจจริงจริ๊งงงงง
มื้อเช้าของเราผ่านไปได้ด้วยดีครับ ไม่มีอะไรเสียหายหรือบุบสลาย แต่กว่าจะได้ออกไปทำงานนี่ก็เหนื่อยพอสมควร เหนื่อยกับอะไรน่ะหรือครับ ก็ความดื้อของเออาร์ของผมนี่แหล่ะ
“ใส่เสื้อคลุมไปอีกตัวนึง เชิ้ตตัวนี้มันบางเกินไป” นอกจากจะสีขาวแล้ว เจ้าตัวเขายังไม่ใส่อะไรไว้ข้างในอีก สะท้อนแดดทีไม่ต้องคิดเลยว่ามันจะเห็นอะไรๆปถึงไหน
“ไม่เอา มันร้อน ทีนายอ่ะ แวกจนจะถึงสะดืออยู่แล้วยังไม่เห็นเป็นไรเลย” ผมเลยกลัดกระดุมเข้าที่เสียสองเม็ด เป็นตัวอย่างที่ดี
“ใส่เสื้อนั่นได้หรือยัง ฉันจะสายก็เพราะเออาร์ตัวเองนี่แหล่ะ” กว่าจะเกลี้ยกล่อมกันได้ก็ถึงเวลางานในเวลาฉิวเฉียด อยู่คุยกับแฟนคลับได้หน่อยเดียวก็ต้องปลีกตัวไปทำงานอีกแล้ว ภารกิจของผมในวันนี้หนักหนาพอสมควรเพราะคิวงานที่เบียดแน่นจนต้องเร่งรีบกับทุกอย่าง แต่ไม่เป็นไรครับ กำลังใจผมดี มองไปด้านนอกก็เจอแฟนคลับกลุ่มใหญ่ มองข้างๆตัวก็เจอแฟนครับอยู่อีกคน.....โอเค....เออาร์ก็เออาร์
ต่างคนต่างยุ่งกับการทำงานจนมืดค่ำถึงได้เปลี่ยนสถานที่กันบ้าง ผมมีนัดเลือกและซ้อมเพลงที่จะใช้เล่นคอนเสิร์ตอีกที่ ถึงจะเหนื่อยแต่ก็ยังสู้ไหว วันนี้ผมเลือกรถยนต์แทนที่จะเป็นมอเตอร์ไซน์คันโปรดเพราะไม่อยากให้ใครบางคนตากลมตากแดดเดี๋ยวจะป่วยไปซะก่อน เรานั่งชิมของว่างที่แฟนคลับให้มาเงียบๆในรถขณะติดไฟแดงก่อนที่เพลงหนึ่งจากคลื่นวิทยุที่เลือกไว้ก่อนหน้าจะดังขึ้น
เราเงียบฟัง
คชาขยับตัวอย่างอึกอัด
แล้วเขาก็ปิดมันลง
ผมลอบยิ้ผ่านมือข้างที่ใช้ศอกท้าวไว้กับประตู เกลี่ยปลายนิ้วลูบคางตัวเองเล่นก่อนจะฮัมเพลงนั้นอย่างอารมณ์ดี และแน่นอนว่าคนข้างๆผมเขาไม่อารมณ์ดีด้วย แต่จะอารมณ์ไหนอันนี้ก็สุดจะรู้
“เพลงมีเป็นล้านเลือกเพลงอื่นไม่ได้หรือไง!” นั่นไง มาแล้วไง
“อ่าว ก็เพลงนี้มันเพราะ แล้วตอนนี้ก็กำลังติดหูคนฟังด้วย ทำไม นายมีความหลังอะไรกับเพลงนี้เหรอ?” ลองเอ่ยถามไปแต่เขาไม่ยอมตอบกลับหันไปนั่งกอดหมอนบนโซฟาปล่อยให้ผมซ้อมเพลงนั้นกับพี่ๆแบ็คอัพตามลำพัง ไอ้ที่ตั้งใจว่าจะแกล้งพร้อมๆกับสื่อความนัยเลยไม่ง่ายอย่างที่คิด เพลงเพราะ ติดหูก็จริงแต่บางท่อนชวนให้สับสนพอสมควร ผมเลยได้ “การบ้าน” เป็นการให้กลับไปร้องเพลงนี้แล้วยังมีอีกหลายๆเพลงที่ต้องเตรียม
หันมองนาฬิกาอีกที เข้าวันใหม่ไปเรียบร้อย แต่เราก็ยังอยู่ต่อกันอีกเป็นชั่วโมงถึงได้เวลาแยกย้าย เออาร์ของผมหลับคอพับคออ่อนอยู่บนโซฟาตัวเดิมตั้งใจจะเข้าไปปลุกเขาก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาเสียก่อน
“เสร็จแล้วเหรอ?” ถามไปขยี้ตาตัวเองไปจนผมต้องจับมือเขาออกก่อนที่จะขยี้จนเจ็บตา
“เสร็จแล้ว ปะ กลับห้องกัน”
“ไม่เอา เราจะกลับบ้าน”
“กลับบ้านทำไม เมื่อเช้าเอากระเป๋าเสื้อผ้ามาด้วยไม่ใช่เหรอ” ถึงจะทะเลาะกันไปรีบร้อนแข่งกับเวลายามเช้าไปแต่ผมก็เห็นหรอกนะว่าเขาหอบเป้ใบใหญ่มาทิ้งไว้ข้างเตียงในห้อง
“ถ้าไปนอนด้วย...ห้ามทำแบบเมื่อเช้าอีกนะ” เกือบจะหลุดปากถามไปแลวว่าแบบไหน พอนึกขึ้นได้รสหวานซ่านมันกลับเจืออยู่ที่ปลายลิ้นทันที ผมจับหัวเขาโยกไปมาแรงๆ
“ไม่ทำหรอก คิดมากว่ะ”
ไม่ทำหรอก....กับ ไม่ทำหลอก..... เมื่อกี้นี้ผมได้ออกเสียงควบคล้ำหรือเปล่านะ หึหึ
เกือบลืมหายใจเมื่อเธอเข้ามาใกล้ๆ
แค่เธอยิ้มมาก็สั่นไปทั้งหัวใจ
อยากจะบอกเธอให้ได้รับรู้ความในใจ
“ตรงนั้นมันเพี้ยน เอาใหม่ตั้งแต่ต้น” เสียงเข้มๆลอยมาจากหัวเตียงในห้องผมเอง หันไปมองก็เห็นเจ้าของเสียงนั่งอ่านการ์ตูนสนุกสนานปล่อยให้ผมเกากีตาร์ซ้อมร้องเพลงอยู่คนเดียวบนพื้นปลายเตียง ไม่ช่วยแล้วยังจะมาสนุกสนานคนเดียว ปั้ด! ทิ้งกีตาร์แล้วโดดขึ้นเตียงซะดีมั้ย! !
“ไม่มีแรงจะร้องแล้ว” เหนื่อยกาย อยากพัก อยากนอนบนที่นอนนุ่มๆ บางทีผมก็อยากงอแงบ้างอะไรบ้าง
“พรุ่งนี้มีงานบ่ายเลย อนุญาตให้ตื่นสายได้ ซ้อมต่ออีกนิดน่า...เอาครึ่งเพลงพอเลย มานี่ เดี๋ยวช่วย” การช่วยของเขาคือการขยับตัวมานอนคว่ำบนเตียงแต่หันมาทางที่ผมนั่งอยู่มือก็เคาะเตียงให้จังหวะไปด้วย
ผมเริ่มเกากีตาร์อีกครั้งร้องเพลงไปพร้อมกับเขาที่คลอตามก่อนที่ทุกอย่างจะดึงเราเข้ามาใกล้กัน
เขามองตาผม
ผมมองตาเขา
“แต่บอกตอนนี้ไม่รู้จะเร็วไปหรือไม่ ก็ยังไม่รู้ ว่าเธอคิดเช่นไร
ถ้าบอกคำนั้นแล้วเธอตอบมาว่าไม่ใช่ ถ้าเป็นแบบนี้เธอคงจะเดินหนีไป
ดีพอแล้วที่ได้มีเธออยู่ใกล้ๆ ได้ยินเสียง ได้คอยดูแลอยู่ไม่ไกล
จะซ่อนความลับเอาไว้ในหัวใจ มากเพียงไหนฉันจะไม่ยอมพูดไป”
ก่อนที่ปลายจมูกของเราจะไม่เหลือช่องว่างให้อากาศรอดผ่าน เขาเบือนหน้าหนี หันไปปิดไฟหัวเตียง ทุกอย่างตกอยู่ในความมืด
“นอนได้แล้ว”
ผมวางกีตาร์ลง เคลื่อนตัวไปนอนประจำที่ของตัวเองตามความเคยชิน
เรานอนบนเตียงเดียวกัน มีหมอนข้างกั้นกลาง เวลาล่วงเลยมาจนเกือบเช้า แต่เราต่างยังคงลืมตาท่ามกลางความมืดที่มีเพียงแสงจันทร์รอดผ่าน
ปล่อยให้หัวใจเราเต้นรุนแรงไปในจังหวะเดียวกัน...
To be con.
สวัสดีนักอ่านที่น่ารักทุกท่านค่ะ สวัสดีปีใหม่แบบดีเลย์นะคะ ขอให้ทุกคนสนุกสนานไปกับปีนี้เช่นเคย
พาร์ทนี้ทำไมดูพระเอกของเราหื่นๆยังไงชอบกล หรือคิดไปเอง ฮ่าๆๆๆ ยังไงก็ฝากคอมเม้นท์ ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ เจ้าหญิงก็จะมาเร็วๆนี้ค่ะ ส่วน ณ สนามเด็กเล่น มาต่อแน่นอน แต่มันถึงฉากเศร้าอ่ะ ยังไม่พร้อม 55555555
แล้วเจอกันค่ะ
ด้วยรัก
จาก...ณ
ความคิดเห็น