ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FanFiction Harry Potter : Phantom of the opera

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 5 Think of me...

    • อัปเดตล่าสุด 8 ก.ย. 51



    Paris
    1877

     

    ปารีส...เมืองหลวงแห่งการละคร โอเปร่า.....

    จุดเริ่มต้น ของนักแสดงเล็กๆจำนวนมาก

     

    และจุดสูงสุดในชีวิตของนักแสดงบางคน....

     

    โรงละครมากมายในกรุงปารีส

    อันเป็นบันไดก้าวแรกของความฝันของนักแสดงหลายๆคน

    ที่หวังจะโชติช่วงอยู่บนฟากฟ้าแห่งวงการโอเปร่า

     

    และหนึ่งในโรงละคร

    ที่ให้กำเนิดนักร้องโอเปร่าชั้นเยี่ยมแก่วงการการแสดงของปารีสมามากมาย....

     

    โรงละครป๊อปปูแลร์....

     

    ...................................................................

    ..............................................

    ..................................

     

    มันเป็นเช้าที่น่ารื่นรมย์ในฤดูร้อนอันสดใส

    ที่ไม่สู้จะมีบ่อยนักของกรุงปารีส....

     

    ชายหนุ่มผมสีดำขลับ กำลังควบม้าสีขาวไปตามถนนอย่างคึกคะนอง

    เพราะท้องถนนยังไม่พลุกพล่านนัก ก่อนเขาจะหยุดม้าอย่างฉับพลัน

    จนเจ้าอาชาสีขาวล้วนต้องยกเท้าหน้าขึ้นอย่างน่าหวาดเสียว

     

    ดวงตาสีเขียวเข้มเหลือบมองขึ้นไปบนท้องฟ้า

    ก่อนที่เจ้าตัวจะสูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอด เพื่อลิ้มรสอากาศอันน่าอภิรมย์

     

    จนกระทั่งสิ่งหนึ่งได้ดึงดูดสายตาของเขาให้เบนไปจากท้องฟ้าสีครามอันสดใส

     

    จุดหมายของการออกมาตามคำสั่งของบิดา....

     

    นั้นก็คือ โรงละครป๊อปปูแลร์  อันเลื่องชื่อ

    ที่ตั้งเด่นสง่าอยู่ใจกลางมหานครแห่งศิลปะ

     

    มันถูกสร้างเป็นรูปโดมสีทองขนาดมหึมา....แกะสลักลวดลายวิจิตรตระการตา

    ความโอ่โถงภายใน....อาจเทียบได้กับพระราชวังแวร์ซาย

    การตกแต่งที่ได้รับการอุปถัมภ์จากพวกราชวงศ์ผู้มั่งคั่ง....

    ที่เนรมิตให้ ป๊อปปูแลร์ เป็นต้นแบบของโรงละครโอเปร่าที่ดีที่สุดในยุคนั้น!

     

    โรงละครแห่งนี้

    จุผู้ชมได้ตั้งแต่สามัญชนธรรมดา จนถึงบรรดาพวกราชวงศ์สูงศักดิ์

    ที่ต่างก็มีความต้องการเติมเต็มความสุข จากการได้ชมละครโอเปร่า

     

    และมันก็เป็นเช้าที่เหมาะแก่การเริ่มซ้อมใหญ่เพื่อการแสดงในค่ำคืนนี้

    ของนักแสดงประจำโรงละครโอเปร่าป๊อปปูแลร์กว่าสองร้อยชีวิต

    หลังจากที่พวกเขาต้องซ้อมต่อเนื่องกันมาตลอดสองเดือนเต็ม

     

    สองเดือนเต็มที่ต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจ ในการฝึกซ้อม

    เพื่อให้ผลงานออกมาสมศักดิ์ศรีของการเป็นโรงละครโอเปร่าอันดับหนึ่งแห่งปารีส!!

     

    และชายหนุ่มบนหลังม้า....ก็ต้องไปดูการซ้อมใหญ่ในวันนี้แทนบิดา

    ในฐานะผู้รับอุปถัมภ์โรงละคร!!!

     

    ...........................................................

    ........................................

    ..........................

     

    เสียงไวโอลินและเครื่องดนตรีอีกหลากหลายชนิดกระหึ่มไปทั่วโรงละคร

     

    เสียงขับร้องไปตามเนื้อเพลงอย่างไพเราะ ดังขึ้นลงตามเสียงดนตรี

    ที่บรรเลงตามแต่จังหวะการตวัดไม้บาตงของวาทยกรร่างผอม

    ที่ยืนอยู่ด้านล่างเวที จะเป็นผู้กำหนด

     

    ด้านบนเวทีคึกคักไปด้วยนักแสดงจำนวนเกือบร้อย

    ที่กำลังกระโดดขึ้นลงตามจังหวะของดนตรี

     

    บ้างทรุดกายลงแนบกับพื้นอย่างอ่อนช้อย...

    บ้างกระโดดหมุนตัวราวกับขนนกที่บิดปลิวตามสายลมเอื่อย....

     

    กลางเวที.... ณ. ที่นั้น....

    ใจกลางวงของนักบัลเล่ต์ที่กำลังยอบตัวลงติดกับพื้น .....

    ร่างระหงในชุดเจ้าหญิงอาหรับสีน้ำตาลอ่อนกำลังยืดตัวขึ้นช้าๆ ราวกับหงส์กำลังจะโผบิน....

    ก่อนจะกระโดดขึ้นและหมุนตัวอย่างอ่อนช้อยงดงาม

     

    เส้นผมหยักศกสีน้ำตาลพลิ้วไปตามจังหวะการเคลื่อนตัวที่นุ่มนวลแต่รวดเร็ว

     

    ผ้าลูกไม้สีดำสนิทตัดกับผิวเนื้อสีขาวอมชมพู

    ปิดบังครึ่งหนึ่งของใบหน้า เน้นให้ดวงสีน้ำตาลแก่ดูคมกล้าขึ้นไปอีก

     

    เสื้อรัดอกตัวเล็กเน้นทรวดทรงระหงให้ดูงดงาม ในขณะที่เจ้าของเลือนร่าง

    กำลังส่ายเอวเล็กบางที่คาดไว้ด้วยสายกระพรวนเส้นเล็กไปตามจังหวะเพลง...

    จนทำให้เกิดเสียงกรุงกริ้งไพเราะดังกังวาน....

     

    การฝึกซ้อมบทดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง....

    จนกระทั่งเข้าฉาก การปรากฏตัวของตัวเอกในการแสดงชุดนี้....

     

    หญิงสาวในชุดแต่งองค์ทรงเครื่องพร้อมสรรพ ก้าวเข้ามาจากด้านข้างเวที

    ในอ้อมแขนกอดสุนัขพันธุ์พุดเดิ้ลไว้แน่น

     ก่อนจะเสือกตัวเจ้าขนฟูฟ่องสีขาว

    ให้กับสาวใช้ร่างอวบที่เดินตามหลังมาติดๆ....

     

    ระหว่างที่ดนตรีบรรเลงเพลงรอ....

    เหล่านักเต้นทั้งหลายที่เข้ามายืนชม ต่างเริ่มเคลื่อนกายออกไปด้านข้างเวที

    เพื่อแหวกที่ให้เพียงพอกับนักร้องนำ.....

      คาร์ลอตต้าร์....

    และชุดอันหรูหราฟูฟ่องของเธอ....

     

    หญิงสาวใบหน้าขาวผ่องด้วยแป้งที่ทาไว้เกือบห้าชั้น

    เดินนวยนาดเข้ามากลางเวทีอย่างไม่สนใจใครทั้งสิ้น

    ในขณะที่ดวงตาคมจัดด้วยดินสอเขียนขอบตา ก็คอยเขม่นเหล่านักเต้นสาวที่กำลังร่ายรำ

    ไม่ให้เผลอเข้ามาเหยียบกระโปรงหางยาวเฟื้อยเกือบสามวาของเธอ....

    ก่อนที่เธอจะมาหยุดอยู่กลางเวที....

     

    เสียงดนตรีหยุดกึก....เมื่อเธอกางแขนออก สูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอด

     

    ปากสีแดงสดเผยอกว้างพร้อมกับเสียงร้องแหลมสูงที่ดังขึ้นพร้อมดนตรี!

     

    จะว่าไพเราะก็อาจจะ...

     

    แต่อย่างไรก็ดี....

    เสียงร้องนั่น...แหลมสูงแทงแก้วหู จนเหล่าบรรดานักเต้นที่ยืนมุมอยู่ข้างๆ

    ต่างต้องอุดหูกันอย่างถ้วนหน้า อีกหลายคนทำหน้าหวาดเสียว

    เมื่อปากสีแดงแจ๊ดนั่น อ้ากว้างราวกับจะไต่ระดับความสูงขึ้นอีกเกือบเท่าตัว!

     

    แต่ราวกับสวรรค์มีเมตตา

    เมื่อวาทยกรเคาะไม้กับที่วางโน้ตเป็นสัญญาณให้หยุดอย่างกะทันหัน

     

    หลายคนถอนหายใจที่รอดจากการที่แก้วหูทะลุ

    แต่ร่างในชุดฟูฟ่องสะบัดกกระโปรงอย่างไม่พอใจ

    พร้อมตั้งท่าจะเดินมาทางวาทยกรทันที แต่ก็ต้องชะงัก....

     

    เมื่อเห็นสาเหตุของการที่ต้องหยุดซ้อมกลางคัน....

     

    ชายวัยกลางคนร่างเจ้าเนื้อ...เดินนำสุภาพบุรุษสองคนที่ดูมีอายุไม่ต่างกันเข้ามา

    ก่อนจะมาหยุดอยู่กลางเวที....

     

    เหล่านักเต้นต่างป้องปากกัน พร้อมซุบซิบกันต่างๆนานา....

    เมื่อเห็นผู้จัดการของพวกเขา

    ชายร่างเจ้าเนื้อ ที่มีนามว่า  เลอแฟฟร์ นำคนนอกเข้ามา

     

    ขออภัยที่มาขัดจังหวะการซ้อม....คุณเรอเยร์ มาดามจิวรี....ท่านทั้งหลายกรุณาฟังผมหน่อย

    เขาเอ่ยขึ้นด้วยเสียงดังฟังชัด

     

    เรอเยร์....วางไม้บาตงลง ดวงตาฝ้าฟางหลังแว่นตา มองไปที่ผู้พูดอย่างสนใจ

     

    มาดามจิวรี เพียงเหลือบมองระหว่างที่เธอกำลังพาดเท้ากับขอบไม้

    เพื่อยืดเส้นให้เตรียมพร้อมเต้นบัลเล่ต์

     

    และทุกคนต่างเงียบเสียงลง เพื่อรอฟังเรื่องที่ผู้จัดของพวกเขาจะกล่าว...

     

    เอาล่ะทุกท่าน....ผมคิดว่าพวกคุณคงเคยได้ยินข่าวว่าผมจวนจะลาออกแล้ว

    เขาเว้นวรรคนิดหนึ่ง...เมื่อเสียงกระซิบซาบอย่างตื่นเต้นเริ่มดังขึ้น....

    ซึ่งตอนนี้ผมยืนยันได้ว่า เป็นเรื่องจริง... เขาพูดดังๆ เพื่อแข่งกับเสียงอื้ออึง

    และผมยินดีจะแนะนำให้ทุกท่านรู้จักกับสองท่านที่จะเป็นเจ้าของใหม่ของโรงละคร

    คุณริชาร์ เฟอร์แมง และ คุณจิลล์ อังเดร เขาผายมือไปยังชายทั้งสองที่ยืนอยู่ข้างๆ

     

    เกิดเสียงปรบมือขึ้นตามมารยาท

    พร้อมๆกับที่บรรดานักแสดงหญิง ต่างเหลือบมองเจ้าของคนใหม่ด้วยดวงตาที่มีเลศนัย...


    และนอกจากนี้   เลอแฟฟร์เอ่ยขึ้นอีกครั้ง

    ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่จะแนะนำให้ทุกท่านรู้จักผู้อุปถัมภ์คนใหม่ไปพร้อมๆกัน

    เขาหันไปทางชายหนุ่มร่างสูง ที่เพิ่งจะเข้ามาถึง

    และกำลังดึงถุงมือหนังสีดำส่งให้คนต้อนรับ

    ก่อนที่เขาจะเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว

     

    ดวงตาสีเขียวจัด ตัดกับผมสีดำดึงดูดสายตาของนักเต้นสาวๆให้เคลิบเคลิ้มกันอย่างลืมตัว

     

    ท่านเค้าส์ เดอ ชานญี 

     

    เลอแฟฟร์ผายมือไปทางชายหนุ่มร่างสูงที่เดินเข้ามาหยุดอยู่ข้างๆ

    เกิดเสียงปรบมือดังขึ้นอย่างเกรียวกราว พร้อมกับเสียงกระซิบกระซาบของพวกสาวๆ....

     

    แต่ห่างออกไป....ตรงมุมของเวทีด้านข้าง....

    หญิงสาวผมหยักศกในชุดเจ้าหญิงอาหรับ...ยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ....

     

    ดวงตาสีน้ำตาลคม ฉายแววปิติออกมาอย่างเด่นชัด!!

     

    เฮอร์ไมโอนี่....เป็นอะไรเหรอ?.... นักเต้นสาวผมสีทองที่ยืนอยู่ข้างๆ ถามอย่างสงสัย...

    เม็ก...นั่น....นั่น แฮรี่.... เธออุทานอย่างตกใจ...ระหว่างที่เพ่งพิศไปที่ร่างสง่ากลางเวที...

    ก่อนที่พ่อชั้นตาย...ที่บ้านกลางสวน....ในลอนดอน... เฮอร์ไมโอนี่พูดราวกับคนละเมอ...

    เฮอร์ไมโอนี่....เขาหล่อจังเลย!!” เม็กประคองเพื่อนสาวที่ทางราวกับคนครึ่งหลับครึ่งตื่น

     

    ดวงตาสีน้ำตาลเข้ม...จ้องมองไปยังร่างที่ยืนอยู่กลางเวที....

    ความทรงจำในวันวาร ย้อนเข้ามาสู่ห้วงสำนึกอีกครั้ง....

     

    เสียงไวโอลินของพ่อ....กับเสียงร้องประสานกันของเขาและเธอ.....

     

    .....แฮรี่....เขาจะยังจำเธอได้มั๊ยน่ะ? ....

     

    ผมและบิดามารดาเป็นเกียรติที่ได้อุปถัมภ์งานศิลปะ โดยเฉพาะโรงละครอันยิ่งใหญ่แห่งนี้

    ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น กับคนที่ยืนอยู่รอบๆ ซึ่งคนเหล่านั้นก็ยิ้มให้เขาอย่างดีใจ

     

    และทันใดนั้น หญิงสาวในชุดฟูฟ่อง ก็เดินนวยนาดเข้ามาอย่างยั่วยวน

    พร้อมทั้งยื่นมือให้ชายหนุ่ม ซึ่งเขาก็จับและจุมพิต มือนั้นตามมารยาท

     

    ผมขอแนะนำให้รู้จัก ซินญอร่า คาร์ลอตต้า จูดิเชลลี่ นักร้องนำเสียงโซปราโน 5  ฤดูกาล

    และ ซินญอร์ อูบาลโด ปิอันจี นักแสดงนำชายของเรา

    เลอแฟฟร์ผายมือไปยังชายร่างอ้วน ที่ยืนอยู่ถัดออกไป

    เกิดเสียงปรบมือดังขึ้นเปาะแปะตามมารยาท

     

    เป็นเกียรติอย่างสูง ซินญอร์ แต่ผมคงกำลังรบกวนเวลาซ้อม

    แต่จะอยู่ร่วมฉลองความสำเร็จคืนนี้แน่นอน ขอประทานโทษนะครับ ผมต้องขอตัวก่อน...  

    แฮรี่พูด ก่อนจะโค้งตัวเล็กๆ

    และเดินออกไป...

     

    หญิงสาวใจเต้นผมสีน้ำตาล ใจเต้นตึกตัก...เมื่อร่างนั้นเดินผ่านมาทางเธอ...

     

    แต่มันก็ต้องเปลี่ยนเป็นเต้นระรัวอย่างเจ็บปวด....เมื่อร่างนั้นเดินผ่านเลยไป...

     

    เขาคงจำชั้นไม่ได้.... เฮอร์ไมโอนี่พูดเบาๆอย่างน้อยใจ กับเพื่อนสาวของเธอ

    เขาไม่เห็นเธอ แล้วอีกอย่าง...เธอยังไม่ได้เอาผ้าคลุมหน้าออกเลยน่ะ...

    เม็กดึงผ้าลูกไม้ออกจากใบหน้าของเฮอร์ไมโอนี่

    พร้อมทั้งพูดปลอบใจระหว่างที่ทั้งคู่มองตามแผ่นหลังของชายหนุ่มที่กำลังเดินจากไป...

     

    โดยที่ชายหนุ่มผู้นั้น ไม่รู้ว่า....เขาได้พลาดอะไรบางอย่างที่สำคัญมากไปเสียแล้ว

     

    ขออภัยน่ะค่ะ....หลีกทางหน่อยค่ะ

    มาดามจิวรี ในฐานะของหัวหน้าผู้ฝึกสอนนักเต้น

    เข้ามาไล่ต้อนบรรดาแขกให้ออกไปจากเวที เพื่อที่จะเริ่มทำการซ้อมต่อ...

     

    พร้อมทั้งแนะนำการแสดงบัลเล่ต์ให้เจ้าของคนใหม่ได้เรียนรู้...

     

    เราภูมิใจกับบัลเล่ต์ของเรามาก เมอซิเออร์...

    มาดามจิวรีพูด ขณะพาเจ้าของคนใหม่เดินไปรอบๆเวที...

    ผมเห็นแล้วว่าทำไม เฟอแมง มองตามเหล่านักเต้นที่กำลังโลดแล่นอยู่บนเวทีตาเป็นมัน

    โดยเฉพาะแม่สาวผมบลอนด์คนนั้น..... เขาเสริม พร้อมยิ้มอย่างมีเลศนัย....

    นั่น...เม็ก จิวรี....ลูกสาวชั้นเอง.... มาดามพูด

     

    และเป็นคำพูดที่สามารถลบรอยยิ้มนั่นออกจากใบหน้าของเฟอแมงโดยทันที

     

    แล้วสาวน้อยคนนั้นละ....คงไม่ได้เกี่ยวดองกับคุณหรอกน่ะ  อังเดรชี้นิ้วไปทางร่างระหงที่กำลังโยกตัวไปมา ผมสีน้ำตาลแก่พลิ้วไสว...

    นั่น เฮอร์ไมโอนี่ ดาเอ้...  มาดามพูดเนิบๆ

    ดาเอ้...ดาเอ้....เอ....ไม่ได้เป็นญาติกับนักไวโอลินชื่อดังนั่นหรอกใช่มั๊ย?...

    ลูกสาวคนเดียวของเขา....น้องชายของดิชั้นเอง....

     

    มาดามยิ้มเย็นๆ เมื่อเห็นรอยยิ้มหายไปจากใบหน้ากรุ้มกริ่มของชายทั้งสอง

     

    ท่านค่ะ....กรุณาไปยืนด้านข้างด้วย....

    มาดามรีบต้อนชายทั้งสองไปติดกับมุมเวที...เพื่อไม่ให้ถูกนักเต้นเหยียบ....

     

    แต่ทันใดนั้น

    เสียงหนึ่งก็เรียกความสนใจของคนทั้งเวที

     

    เมื่อผ้าม่าน หนาหนัก....หลุดลงมาตรงที่นักร้องนำสาว...กำลังจะยืนโก่งคอร้อง!!!

     

    เกิดความชุลมุนขึ้น...เสียงหวีดร้องดังก้อง....

    พร้อมกับเสียงกรี๊ดด้วยความโมโหและหวาดกลัวของคาร์ลอตต้า

    ที่กำลังตะเกียกตะกายลุกขึ้น หลังจากรอด ไม่โดนทับแบนติดเวทีมาอย่างหวุดหวิด!

     

    นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น!!!” วาทยกรตวาดก้องไปยังด้านบน ที่ผู้คุมฉากร่างอ้วนโผล่หน้าแดงจัดด้วยฤทธิ์สุราออกมาจากหลังฉาก

    ผมสาบานได้ ผมไม่รู้ เมื่อกี้ผมก็ไม่ได้อยู่ตรงนี้ด้วย เขายืนยัน

    ถ้าจะมี....ก็คงมีแต่ ผี เท่านั้นแหละครับ... เขาแสยะยิ้มอย่างโหดเหี้ยม ขณะที่ค่อยๆสาวผ้าม่านที่ร่วงลงไปขึ้นมา....

    เงียบเดี๋ยวนี้ บูเกร์! มาดามจิวรีตวาด....

     

    ก่อนที่เธอจะหยิบซองสีขาวที่ติดอยู่ตรงชายผ้าม่านที่กำลังถูกสาวขึ้นไป....

     

      นี่มันอะไรกัน!!... สองผู้จัดการใหม่สบถอย่างหัวเสีย....

    ในขณะที่นักร้องนำกำลังกรีดร้องอย่างหัวเสียอยู่กลางเวที

     

    เอาละทุกท่าน....ถ้าต้องการอะไร....ผมอยู่ออสเตียเลีย...ขอให้โชคดี

    เลอแฟฟร์ผู้จัดการเก่ารีบตัดช่องน้อยแต่พอตัว ก่อนจะเดินตัวปลิวหนีไปทันที...

     

    บ้าจริง!!  โอ...ซินญอร์ร่า คาร์ลอตต้า...ใจเย็นก่อนครับ...

    สองผู้จัดการใหม่พยายามเอาใจนักร้องนำผู้เอาแต่ใจ และตั้งท่าจะเดินหนีท่าเดียว

     

    ใจเย็นบ้าบออะไรกัน...!! สามปีที่ผ่านมา มีแต่เรื่องอย่างนี้เกิดขึ้น

    แล้วมีใครหาทางหยุดมันได้มั๊ย  ไม่!! เพราะฉะนั้น อย่าหวังว่าจะได้อะไรดีๆจากฉันอีกเด็ดขาด ไม่มีทาง!!!! เธอโพล่งออกมาอย่างเหลืออด

    ก่อนจะเดินกระแทกเท้าจากออกไป มีสาวใช้อุ้มสุนัขที่รักของเธอตามติดไปอย่างรวดเร็ว....

     

      โอ!! ไม่น่ะไม่!! ผู้จัดการทั้งสองคนกุมขมับ  สีหน้าอยากฆ่าตัวตายเป็นที่สุด!

     

    การขาดนักร้องนำ ก็เท่ากับว่า พวกเขาจะไม่สามารถเปิดแสดงได้ในคืนนี้

    ทั้งที่บัตรขายหมดเกลี้ยงไปแล้วเป็นเดือน!

     

    ทั้งผู้จัดการ และวาทยกร ต่างกำลังโวยวายกันอย่างหนัก...ถึงการแก้ปัญหาในคืนนี้

    ก่อนที่มาดามจิวรีจะเดินเข้ามายื่นซองจดหมายที่เธอเพิ่งเก็บได้ ให้เขาทั้สองคน

     

    นี่มันอะไรกันอีก!!...   อังเดรตวาดอย่างอารมณ์เสีย

    ดิชั้นมีข้อความจาก ปีศาจโอเปร่า... มาดามเอ่ยขึ้นเบาๆ

    โอพระเจ้า!! งมงายกันเหลือเกิน!!” อังเดรส่ายหัวอย่างอารมณ์เสีย

     

    เขาขอต้อนรับพวกคุณเข้าสู่โรงละครโอเปร่าของเขา....

     

    ของเขางั้นเหรอ!!” เฟอแมงโพล่งออกมาอย่างเหลืออด

    และสั่งให้เก็บที่นั่งชั้นบอกซ์ หมายเลข 5  ไว้ให้เขา

    และถึงเวลาต้องจ่ายเงินเดือนเขาแล้วด้วยค่ะ  มาดามจิวรีพูดรัวเร็ว...

    เงินเดือนบ้าบออะไรกัน!!” อังเดรถามกลับ เส้นเลือดในสมองเต้นตุบๆ

    อ่อ...คุณเลอแฟฟร์ให้เขาเดือนละสองหมื่นฟรังค์ หรือคุณจะให้เขาเพิ่มมากขึ้นก็ได้นะ เพราะตอนนี้มี ท่านเค้าส์ เดอ ชานญี เป็นผู้อุปถัมภ์....

    มาดามจิวรีสะบัดผมเปียอย่างไม่สนใจอะไร

     

    ไม่มีเงินเดือนบ้าบออะไรทั้งนั้น

    ตอนนี้เราจะหมดตัวกันอยู่แล้ว เราขาดนักร้องนำ

    แล้วจะเปิดแสดงในคืนนี้เอาเงินมาให้ไอ้ปีศาจของคุณได้ไงกัน!!!

    อังเดรโวยวายอย่างเหลืออด

     

      นี่....ย....ยังไงก็ต้องมีตัวสำรองสิ เฟอแมงพยายามหาทางออก

    แต่วาทยากรกลับตบมือกับผนังอย่างโมโห

     

    ไม่มีใครเล่นแทนคาร์ลอตต้าได้!!!”  เรอเยร์ วาทยากรโต้กลับอย่างเหลืออดในความรู้ทางด้านดนตรีอันน้อยนิดของผู้จัดการใหม่

    ตั๋วหมดเกลี้ยงเลยน่ะ....เราจะเอาเงินไหนจ่ายคืนผู้ชม ทั้งสองต่างกุมขมับด้วยความเครียด...

     

    ทันใดนั้น....มาดามจิวรีก็ดึงตัวหญิงสาวคนหนึ่งออกมากลางเวที....

     

    เฮอร์ไมโอนี่ ดาเอ้...ร้องได้ค่ะท่าน.... มาดามพูดเรียบๆ

     

    อย่าบ้าไปหน่อยเลย...นักเต้นนั่นนะเหรอ... อังเดรขัดขึ้น

    ลองฟังเธอร้องดูสิ เธอได้รับการฝึกสอนอย่างดี.... มาดามยืนยัน

     

    สองสหายจ้องหน้ากันอย่างชั่งใจ....จนในที่สุด เฟอแมงก็หันกลับมายังร่างระหง

    ที่กำลังยืนทำหน้าตื่นตกใจอยู่กับมาดามจิวรี....

     

    ก็ได้ๆ...ไงก็ไม่มีทางเลือกแล้ว...มาสิ....มาตรงนี้  คุณเรอเยร์ ขอเพลงด้วย....

    เฟอแมงกวักมือเรียนหญิงสาวให้ออกมายืนตรงกลางเวที

     

    พร้อมกับที่เสียงดนตรีเริ่มบรรเลง

     

    แต่....นี่มันบ้าสิ้นดี ชั้นว่าไม่เหมาะแน่... อังเดรบ่นมุบมิบ

    เธอสวยออก... เฟอแมงยิ้ม ....

     

    มองตรงไปยังร่างระหงที่ยืนสง่ากลางเวที...

     

    แสงไฟสาดส่องให้ตัวขาวผ่องของเธอดูเนียนมากขึ้น

    ริมฝีปากแดงจัดด้วยเลือดฝาดเหยียดยิ้มอย่างอายๆ...

     

    ทั้งเวทีเงียบกริบ....รอฟัง

     

    ก่อนที่ริมฝีปากได้รูปจะค่อยๆเผยอออกจากกันน้อยๆ....

     

    Think of me, think of me fondly,
    when we've said goodbye.
    Remember me once in a while -
    please promise me you'll try.
    When you find that, once again, you long
    to take your heart back and be free -
    if you ever find a moment,
    spare a thought for me

     

    เพลง...ที่ไพเราะ...แสนเศร้า

    เพลง...ที่ทำให้ผู้ร้องคิดถึงชายคนหนึ่ง....ที่เขาอาจจะจำเธอไม่ได้....และอาจไม่เคยคิดถึงเธอ

     

    แต่เธอ....คิดถึง และระลึกถึงเขาตลอดมา.....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×