คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 3 The Vilolin
Paris
โรงละคร ป๊อบปูแลร์...
1 ปีต่อมา...
แสงจากเทียนเล่มเล็กส่องแสงริบหรี่...
ทำให้ห้องที่ดูมืดทึมอยู่แล้ว ดูน่ากลัวขึ้นไปอีก...
แต่ก็ยังพอจะทำให้เห็นเงารางๆ ของเตียงสี่เขาขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางห้อง
เสียงไอค่อกแค่กจากร่างที่นอนอยู่บนเตียง
ปลุกเด็กหญิงที่นอนฟุบอยู่ข้างเตียงให้ตื่นขึ้น...
“พ่อ! เป็นอะไรค่ะ! ” เด็กหญิงถามอย่างตกใจ
พร้อมเกาะแขนของชายวัยกลางคนที่นอนตัวสั่นอยู่บนเตียงแน่น
“เฮอร์ไมโอนี่...ไม่ไปนอนที่ห้องของลูกล่ะ...” ผู้เป็นบิดาถาม ก่อนจะไอออกมาอีกระลอก
“พ่อไม่สบาย จะไม่ให้หนูนอนเฝ้าพ่อได้ไงละค่ะ...”
เธอพยุงบิดาขึ้นนั่ง ก่อนจะส่งแก้วน้ำให้ดื่มหลังเขาหยุดไอแล้ว
“เฮอร์ไมโอนี่...พ่อมีเรื่องจะวานหนูหน่อยได้มั๊ย?...” เขาถามลูกสาวเบาๆ
“อะไรเหรอค่ะพ่อ?”
“พรุ่งนี้จะมีคนมาหาพ่อ...ให้หนูเอาไวโอลินของพ่อไปมอบให้เขาด้วย...เข้าใจมั๊ยลูก”
“ทำไมละค่ะ พ่อยกไวโอลินให้คนอื่นทำไมละค่ะ...” เธอถามเสียงสั่น...
ไวโอลิน...สิ่งที่ทำให้พ่อเธอยังหายใจอยู่ทุกวันนี้ หลังจากการตายของแม่เธอ
ที่เสมือนได้พรากชีวิตครึ่งหนึ่งของเขาไปเสียแล้ว...
“พ่อว่า...พ่อคงไม่ต้องใช้มันอีกแล้วล่ะ...” เขาหัวเราะเบาๆ
“พ่ออย่าพูดอย่างนั้นสิค่ะ!!!” ลูกสาวร้องอย่างตกใจ น้ำตาคลอขณะจัดมือบิดาแน่น
“กลัวอะไรกับความตายละลูก...โลกหน้าของพ่อ มีแม่ของหนูรออยู่ พ่อไม่กลัวหรอกลูก
ถ้าพ่อตาย...พ่อก็จะยังอยู่กับหนูน่ะ...พ่อจะเป็น The angel of music อยู่คอยคุ้มครองหนู”
เขายิ้มอย่างอบอุ่น
“ The angel of music will sing song in your head
”
เสียงทุ้มนุ่มร้องคลอเบาๆ
...เบามาก....จนเหมือนเสียงที่ก้องกังวาลอยู่ในใจของคนฟังเท่านั้น
ก่อนที่เขาจะเอามือกดหน้าอก รู้สึกเหมือนลมหายใจติดขัด ความเย็นเข้าเกาะกุมร่างกาย
“ไม่เอาค่ะ ไม่เอา! พ่อ!!” เด็กหญิงร้องไห้กอดพ่อแน่น ขณะที่บิดาเริ่มไอจนตัวโยนอีกครั้ง
และเงียบลง...ในที่สุด
เสียงประตูเปิดออก พร้อมด้วยเสียงร้องลั่น
“เฮอร์ไมโอนี่!! โอ! ไม่น่ะกุสตาฟ กุสตาฟน้องพี่!!!”
หญิงสาวคนหนึ่งวิ่งเข้ามา ก่อนจะทรุดลงข้างเตียง
สองมือปิดปากแน่น
“ป้าจิวรี พ่อ!! พ่อเป็นอะไร!! พ่อตื่นสิค่ะ!!” เฮอร์ไมโอนี่ฟูมฟาย
ก่อนที่เสียงกรีดร้องของเธอจะเงียบลงเมื่อป้ากอดเธอจนหน้าแนบอก
อกของป้าก็สั่นเทาไม่แพ้กัน...
“แม่ค่ะ...อากุสตาฟเป็นอะไรไปค่ะ...” เสียงสั่นๆดังมาจากบานประตูที่เปิดค้างเอาไว้
เด็กหญิงผมสีทองยืนกอดตุ๊กตา ดวงตาฉายแววหวาดกลัวต่อคำตอบที่จะได้ยิน
“เม็ก...อาเขา...อาเขาไปแล้ว...” มารดาพูดได้แค่นั้น เธอก็วิ่งเข้ามา พร้อมทรุดตัวลงร้องไห้....
ค่ำคืนที่หนาวเย็น...ทั้งสามคนกอดกันพร้อมร่ำไห้ กับการจากไปของชายคนหนึ่ง...
...................................................................
...................................................
.....................................
“แฮรี่!! วันนี้เยี่ยมเหมือนเคยน่ะ ว่าแต่...จริงเหรอที่นายมีเรื่องกับมัลฟอย?”
เพื่อนร่วมทีมควิดดิช เดินเข้ามากอดคอชายหนุ่มร่างผอมวัย 13 ปี ที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ
“ก็มันดันมาด่าพ่อชั้นเองนี่หน่า ช่วยไม่ได้!!
แล้วมันก็ดันพุ่งเข้าไปไปโดนแท่งเหล็กบ้าๆนั่นเข้า ตอนชั้นเบี่ยงตัวหลบ” แฮรี่พูดสั่นๆ
เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน
แม้ว่าเขาจะรอดจากการถูกทำโทษ
เพราะไม่ได้เป็นฝ่ายหาเรื่องก่อน
แต่ภาพที่เลือดสดๆไหลออกมาจากรอยกรีดขนาดใหญ่บนหน้าของมัลฟอย
ก็ยังติดตาเขาไม่หาย...
“นายว่าแผลมันจะหายรึป่าว...” เพื่อนเขาถามเบาๆ
“ไม่รู้สิ...ชั้นก็...” แฮรี่นิ่งเงียบ...
เมื่อนึกถึงคำพูดของอาจารย์พยาบาลที่บอกว่าบาดแผลของมัลฟอยอาจจะไม่หายสนิท
เพราะแท่งเหล็กที่มอบรอยแผลนั่นให้มัลฟยอ
เป็นอาวุธที่สร้างขึ้นด้วยเวทมนต์โบราณ
“งั้นชั้นไปนอนก่อนน่ะ” แฮรี่เปิดประตูห้องนอนเป็นการตัดบท
ก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างเหนื่อยล้า
“บ้าชิบ!....” เขาสบถเบาๆ ภาพนั้นมันยังติดตาเขาไม่หาย ให้ตายสิ...
ทั้งๆที่ไอ้บ้านั่นพุ่งตัวจะเข้ามาต่อยเขาแท้ๆ นี่ถ้าเขายืนเฉยๆให้มันต่อย
เขาก็คงไม่ต้องมานั่งประสาทเสียอยู่อย่างนี้หรอก...
แต่คิดดูอีกที มันก็สมควรแล้วนี่หน่า...
แค่มีสายเลือดบริสุทธิ์กับตระกูลเก่าแก่ในโลกเวทมนต์
ก็ใช่ว่าจะมาจิกหัวดูถูกคนได้ตลอดนี่...
แฮรี่นอนก่ายหัว...คิดสะระตะไปเรื่อย
จนเมื่อเสียงหนึ่งดังขึ้น...เรียกความสนใจเขาไปจนสิ้น!
“เฮอร์ไมโอนี่!!!” แฮรี่ร้องเรียกชื่อเดียวที่วาบเข้ามาในหัว
พร้อมผุดลุกขึ้น ราวกับมีไฟลนก้น!
เมื่อได้ยินเสียงไวโอลินดังเป็นท่วงทำนองที่เขาคุ้นเคย
‘ The angel of music sings song in my head
And the angel of music sings song in my head
.’
ใคร!! ใครมาสีไวโอลินเพลงนี้...ใครกัน...
แฮรี่ทรุดตัวลงนั่งกับเตียงตามเดิม
เมื่อระลึกได้ว่า เฮอร์ไมโอนี่ซึ่งเป็นมักเกิ้ลไม่สามารถมาอยู่ที่ฮอกวอตส์นี่ได้แน่...
นี่เขาไม่ได้เจอเธอมา 2-3 ปีแล้วน่ะ...
ตอนกลับบ้านหลังจากมาเรียนที่ฮอกวอตส์ได้ 1 ปี
เขาก็พบว่า เธอและบิดาได้ย้ายไปอยู่ที่อื่นเสียแล้ว
โดยที่เขาไม่สามารถติดต่อเธอได้อีกเลย....
‘ เธอจะเป็นไงมั่งน่ะ เฮอร์ไมโอนี่...’
เขาหลับตาลงช้าๆ ในหัวยังครุ่นคิดถึงเสียงเพลงที่เพิ่งจบไป...
เสียงหนึ่งดังกังวาลอยู่ในห้วงแห่งความฝันของเขา...
...เด็กหญิงตัวน้อย กับดวงตาสีน้ำตาลกลมโต...
เสียงเสนาะร้องคลอกับเสียงไวโอลิน....
"What I love best is
when I’m asleep in my bed
.
And the angel of music sings song in my head
."
----------------------------------------
ความคิดเห็น