ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    -รวมเล่ม- 14 th ☀ㅣ#vga

    ลำดับตอนที่ #8 : NOV ; MOVIE DAY

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ย. 60


    B
    E
    R
    L
    I
    N
               14th Nov

     

     

    มินยุนกิไม่เคยสนใจเทศกาลของเหล่าคู่รัก เขารู้สึกว่ามันงี่เง่าสิ้นดีที่ประเทศนี้คลั่งไคล้เทศกาลแบบนี้กันเหลือเกิน

     

    ในความคิดของเขาน่ะ เวลาที่เอาไปทำกิจกรรมคู่อย่างการเดท ดูหนัง หรือเดินเล่น สู้เอาไปทำงาน แต่งเพลงที่ค้างไว้เพื่อหาเงินใช้ชีวิตยังดีกว่ากันตั้งเยอะ

     

    และเขาก็คิดแบบนี้ทุกเทศกาล ไม่เว้นแม้แต่ Movie Day อย่างวันนี้

     

    วันนี้เป็นวันที่โรงหนังคนเยอะจนน่าหงุดหงิด แต่เอาจริงๆก็ไม่ใช่แค่โรงหนังหรอก เพราะตอนที่มินยุนกิเดินผ่านร้านขายซีดี และร้านเช่าซีดีก็มีแต่คนเต็มไปหมด คนเยอะจนอยากจะหันหลังกลับไปเปิด Netflix ดูหนังอยู่ที่บ้าน แทนที่จะต้องออกมาที่โรงหนังแบบนี้

     

    ซึ่งจริงๆมันก็ไม่ใช่ความตั้งใจของเราหรอก บอกแล้วว่าเขาไม่ชอบคนเยอะๆ รวมไปถึงการเข้าไปอยู่ในสถานที่เดียวกับคนเป็นร้อยที่ไม่ได้รู้จักกันอย่างในโรงหนัง

     

    แต่ที่เขามาในวันนี้ก็เพราะมีเด็กบางคนที่อยากจะดูหนังกับเขาในวันที่เด็กคนนั้นพูดผ่านโทรศัพท์มาอย่างตื่นเต้นว่ามันคือ Movie Day ซึ่งเขาทำได้แค่ถอนหายใจ แล้วก็ตอบตกลงเท่านั้น

     

    นับตั้งแต่วันนั้นที่บ้านของปาร์คจีมิน ทั้งยุนกิและแทฮยองก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องความสัมพันธ์อีก เพราะคนเด็กกว่าจะไม่เริ่มต้นพูด ถ้ายุนกิไม่เป็นคนเปิดประเด็นขึ้นมา

     

    ตอนนี้แทฮยองเหลือแต่รอคำตอบรับของยุนกิเท่านั้นแหละ...

     

    ร่างเล็กในเสื้อโค้ทยืนหมุนไปหมุนมาอยู่ข้างหน้าโรงหนังที่เป็นจุดนัดพบของเขากับแทฮยอง มินยุนกิเพิ่งมาถึง ช่วงนี้เขาค่อนข้างว่าง เพราะไม่ได้มีงานอะไรสำคัญเข้ามา มีแต่งานแต่งเพลงเล็กๆน้อยๆกับช่วยดูเพลงทที่ตัวเองแต่งแล้วส่งต่อไปให้ศิลปินเท่านั้น

     

    แต่อย่างไรก็ตาม... มันก็ออกจะประหลาดอยู่ดีเพราะปกติถ้านัดกันคนเด็กกว่าจะมาก่อนทุกครั้ง แถมครั้งนี้เขาทักคาทกไปก็ยังไม่ยอมตอบเสียอีก

     

    จะเป็นอะไรหรือเปล่า?

     

    ความคิดแรกที่เขามาในหัว ก่อนที่เขาจะปฏิเสธตัวเองอย่างรวดเร็วเมื่อคิดว่ามันต้องไม่ใช่แบบนั้นอยู่แล้ว เพราะเมื่อกลางวันก็ยังคุยกันดีๆ ยุนกิตัดสินใจเดินเข้าไปในตัวห้างเพื่อเดินเล่นแทนที่จะยืนรออยู่เฉยๆให้หายกังวลใจ แต่เหมือนร้านขายเครื่องดนตรี ร้านขายซีดีเพลง ร้านขายเสื้อผ้าสไตล์ที่เขาชอบ กลับไม่น่าสนใจเท่าที่เคย เมื่อสมองเขาเอาแต่คิดถึงใครอีกคน

     

    แทฮยองไม่เคยขาดการติดต่อนานขนาดนี้

     

    จนกระทั่งผ่านเวลานัดไปเกือบชั่วโมง จนเลยเวลารอบหนังที่แทฮยองซื้อไว้ คนชวนก็ไม่มาซะที มินยุนกินั่งลงที่ร้านกาแฟหน้าโรงหนังก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดแช็ตที่เขาเพิ่งจะส่งสติ๊กเกอร์ไป

     

    ข้อความยังคงไม่ถูกอ่าน

     

    ริมฝีปากสีสดเม้มแน่น ความเป็นห่วงและกระวนกระวายใจมันมีมากจนนิ้วเผลอกดโทรออกไปหาคนที่หายตัวไปเป็นเวลาหลายชั่วโมงทั้งๆที่ปกติเขาไม่ชอบการโทรหาใครมากนักหรอก ส่วนใหญ่ก็มีแต่คนโทรมาหาเขาก่อนทั้งนั้น ฟังเสียงรอสายไปเกือบหนึ่งนาที ก็มีคนรับสายที่เขากดไป...

     

    แต่ไม่ใช่แทฮยอง...

     

    -“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่านั่นใครคะ”- เสียงผู้หญิงที่เขาไม่เคยได้ยินทำเอายุนกิขมวดคิ้วยิ่งกว่าเดิม แต่เขาก็กลั้นใจตอบกลับไปด้วยคำถาม

     

    นี่ใช่เบอร์ของแทฮยองหรือเปล่าครับ”

     

    -“ใช่ค่ะๆ แต่ตอนนี้แทไม่ว่าง จากใครคะ ให้ฝากบอกอะไรมั้ย”- คำพูด และคำเรียกทำให้ข้างในใจเขาวุ่นวายไปหมด ทั้งๆที่ปกติเขาเป็นคนที่จัดการอารมณ์และความรู้สึกของตัวเองได้ดีแท้ๆ แต่พอมาเป็นเรื่องของคิมแทฮยอง เขากลับทำอะไรไม่ได้เลย

     

    “เอ่อ... ฝากบอกเขาว่ามินยุนกิโทรหาแล้วกันครับ”

     

    -“ได้ค่ะ ถ้าแทว่างแล้วจะบอกให้นะคะ”- พูดจบปลายสายก็ตัดไปทันทีเหมือนกำลังรีบไปทำอะไรสักอย่าง ทิ้งให้มินยุนกินั่งถือโทรศัพท์อยู่นิ่งๆเหมือนคนกำลังพยายามประมวลผลข้อมูลอะไรบางอย่าง และเมื่อประมวลผมเสร็จ...

     

    ผลลัพธ์ที่ออกมาคือหยาดน้ำตา

     

    หยาดน้ำใสไหลลงมาตามแก้มขาว จากหนึ่งหยด สองหยด สามหยดจนเป็นสายอาบแก้ม มือขาวยกขึ้นมาปิดปากอย่างพยายามจะกลั้นน้ำตา แต่มันกลับไม่ช่วยอะไรนอกจากทำให้เขาร้องไห้หนักขึ้นไปอีก

     

    ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ทำไมถึงอยู่กับแทฮยองที่ขาดการติดต่อกับเขาไปหลายชั่วโมง

    แล้วทำไมถึงเรียกแทฮยองว่าแทเฉยๆเหมือนสนิทกันมากขนาดนั้น

     

    แค่คิด...

    แค่คิดว่าจะไม่มีแทฮยองคอยตามใจ คอยคุย คอยมาจีบแบบนี้...

     

    แค่คิดเขาก็เจ็บหัวใจจนต้องร้องไห้ออกมาทั้งๆที่เขาไม่ใช่คนที่ร้องไห้ง่ายเลยแท้ๆ

     

    แต่เพราะเป็นเรื่องของคิมแทฮยอง...

     

    เขาว่าเขาได้คำตอบที่จะเอาไปตอบเด็กคนนั้นแล้วล่ะ... แต่พอได้คำตอบ เจ้าของคำถามที่ค้างคำถามมานานกลับไม่อยู่ให้เขาตอบ

     

    ร่างเล็กค่อยๆลุกขึ้นยืนเพื่อกลับบ้าน นั่งร้องไห้อยู่ที่ร้านกาแฟคนเดียวไม่สมกับเป็นเขาเลยแม้แต่น้อย แต่มันก็ช่วยไม่ได้จริงๆ ตอนนี้ในหัวเขามีสิ่งที่พร้อมจะไปเป็นเนื้อเพลงเต็มไปหมด เพราะฉะนั้น การกลับไปบ้าน เขียนเพลงออกมาสักเพลงสองเพลง อาจจะดับความฟุ้งซ่านของเขาได้บ้าง...

     

    และมันอาจจะหยุดความเสียใจของเขาได้...

     

    มินยุนกิกดที่กุญแจรถเพื่อปลดล็อก ก่อนที่เสียงเรียกจะดังขึ้นมาจากทางด้านหลังพร้อมกับร่างที่วิ่งเข้ามากอดเขาเอาไว้แน่น

     

    “พี่ยุนกิ! ผมขอโทษ อย่าเพิ่งกลับได้ไหมครับ...” เสียงทุ้มต่ำอันคุ้นหูดังขึ้น น่าแปลกที่คราวนี้เขาไม่ปฏิเสธอ้อมกอดของเด็กคนนี้เหมือนทุกครั้ง แต่เลือกที่จะกอดตอบไปเบาๆ ก่อนจะดึงตัวเองออกมาแล้วสบกับนัยน์ตาลูกหมาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดของคิมแทฮยองที่ถามขึ้นมาสั้นๆ

     

    “ผมยังชวนพี่ดูหนังได้อยู่มั้ย”

     

    “ได้สิ”

     

     

    หนังที่พวกเขาทั้งสองคนตั้งใจจะมาดูรอบต่อไปนั้นต้องรอไปอีกเกือบสองชั่วโมง ทำให้แทฮยองและยุนกิเลือกที่จะมารอที่ร้านขายเนื้อแกะย่างเพื่อกินข้าวเย็นรอ

     

    “ทำไมตาพี่แดง... จมูกพี่ด้วย พี่ร้องไห้เหรอ” เสียงทุ้มถามออกมาแผ่วเบา อาจจะเพราะผิวของยุนกิขาวมาก ทำให้ริ้วสีแดงก่ำนั่นมันเห็นได้ค่อนข้างชัดเจนในแสงไฟ

     

    คนถูกถามไม่ตอบ ทำเพียงหลบสายตามองออกไปนอกกระจกร้าน ก่อนจะหันกลับมาสบกับตาของเด็กตรงหน้าแล้วถามออกไปบ้าง

     

    “ทำไมมาช้า”

     

    “พี่ อย่าให้พูด นี่ผมยังโมโหหัวหน้าอยู่เลยเนี่ย เอางานมาให้ทำตอนจะเลิกงาน เทสต์ระบบอะไรไม่รู้ ที่ต้องใช้ผลวันพรุ่งนี้เลย ผมเลยปลีกตัวออกมาไม่ได้ นี่ถ้าเคย์ไม่รับสายพี่แล้วบอกหัวหน้าว่าคนที่บ้านผมโทรมาตามแล้วผมคงไม่ได้ออกมาอะ”

     

    “เคย์?”

     

    “เพื่อนที่ทำงานผมเองครับ เธอทำตำแหน่งเดียวกับผม แต่อยู่คนละแผนกกัน... หึงเหรอครับ” เอ่ยถามกระเซ้าพร้อมรอยยิ้มซนๆ แต่ก็ต้องค่อยๆหุบยิ้มไปเมื่อยุนกิไม่ได้ขำด้วย ตาเรียวจ้องเขานิ่งๆ ก่อนที่ริมฝีปากสีพีชนั่นจะขยับช้าๆ

     

    “ฉันว่าฉันมีคำตอบให้นายแล้วล่ะ”

     

    “เรื่องหึงน่ะเหรอครับ” แทฮยองยังคงเอ่ยถามกลับขำๆ เพราะเขาเดาไม่ออกจริงๆว่ามินยุนกิต้องการจะสื่อถึงอะไร คนตัวขาวเม้มปากแน่น แก้มสองข้างขึ้นสีแดงระเรื่อ

     

    เขาไม่ได้อยากพูด... แต่สถานะที่ไม่ชัดเจนมันทำให้เขากระวนกระวายใจมากอย่างที่เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่ามันจะเกิดขึ้น

     

    เพราะฉะนั้น...

    เขาต้องเลิกขี้ขลาดเสียที

     

    คิมแทฮยองไม่ใช่แค่ความเคยชิน เด็กคนนี้ไม่ใช่แค่คนที่มาตามใจเขาจนเคยตัว

    แต่คิมแทฮยอง

     

    คือคนที่เขาชอบ

    ชอบมากที่สุด

     

    ตาเรียวสีดำสนิทหันมาสบตาคมของอีกคนโดยที่มีกระแสจริงจังอยู่ในนั้น ถึงแม้จะเขินแค่ไหน แต่มินยุนกิก็ยังอยากมองสีหน้าทั้งหมดของแทฮยองตอนที่เขาพูดประโยคนี้ออกไป

     

    ประโยคที่คิมแทฮยองเองก็รอมานาน

     

    เขาปล่อยให้น้องรอนานเกินไปแล้ว... ถึงเวลาที่เขาจะต้องตอบรับอะไรกลับไปบ้างซะที

     

    “หลังจบหนังเรื่องนี้... เรามา... เป็นแฟนกันนะ”



    ....


    มาช้ามากแถมยังสั้นอีก ฮือออ ขอโทษค่ะ

    แต่เราง่วงมากเลย

    น้ามตา

    รักทุกคนเหมือนเดิมนะคะ ขอคุณทุกคนมากที่รอค่ะ แง


    #วีก้า14 เด้อ เลิ้บหนักมาก


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×