คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : NOV - Special ; Count one
COUNT
ONE
(ต่อจาก Movie Day เดือนพฤศจิกายน)
นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่คิมแทฮยองดูหนังไม่รู้เรื่องเลยแม้แต่นิดเดียว
เรื่องเป็นยังไง
เริ่มยังไง จบยังไง ใครเป็นตัวร้าย เขาแทบไม่ได้รับรู้เลยด้วยซ้ำ จิตใจของเขาจดจ่ออยู่กับมือขาว ๆ ที่ยอมให้เขาจับแต่โดยดี มือนิ่มที่กระชับเข้าอย่างไม่รู้ตัวเมื่อถึงฉากตื่นเต้น
กลิ่นหอม ๆ ที่ชัดขึ้นเมื่อร่างเล็กข้าง ๆ ขยับเข้ามาใกล้
แล้วก็...
ประโยคที่คนเป็นพี่พูดเอาไว้ก่อนเข้าโรงหนัง
‘หลังจบหนังเรื่องนี้... เรามา... เป็นแฟนกันนะ’
ประโยคที่พอคนพูดเอ่ยจบก็หันไปเรียกพนักงานมาคิดเงิน
โดยที่ไม่ได้สนใจคิมแทฮยองที่กำลังนั่งประมวลผลเหมือนคอมพิวเตอร์รุ่นเก่าที่แรมไม่พอ
แถมโปรเซสเซอร์ยังมีแค่ตัวเดียวเลยแม้แต่น้อย มินยุนกิทำทุกอย่างเหมือนไม่ได้พูดอะไรออกไปทั้ง
ๆ ที่ใบหน้าขาวจัดขึ้นสีเรื่อจนน่ามอง
คิมแทฮยองสาบานเลยว่า
ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้เขายังสลัดใบหน้าและน้ำเสียงนั้นออกไปจากหัวไม่ได้เลย
“ฉากต่อสู้ทำดีมากเลย
ตัวร้ายก็มีมิติ ตอนจบก็ดี อยากดูอีกรอบเลย ขนาดเพลงประกอบก็ยังดี
ไม่ผิดหวังเลยจริง ๆ” เสียงหวานติดจะแหบพูดไปเรื่อย ๆ
โดยที่ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าคนที่เดินอยู่ข้าง ๆ นั้นไม่ได้ฟังเลยสักนิด
แทฮยองจ้องมองแต่ปากสีสดที่กำลังขยับพูดจนไม่ได้สนใจอย่างอื่น
ยุนกิพูดต่อไปอีกสองถึงสามประโยคก็เพิ่งรู้สึกว่าเด็กข้าง ๆ แทบไม่ได้ตอบสนองอะไรกลับมาเลย
คนตัวเล็กหยุดเดิน แล้วหันไปมองคนที่เขาพบว่ากำลังจ้องเขาไม่วางตา
“แกได้ฟังฉันพูดอยู่ใช่มั้ย”
คิมแทฮยองแค่ยิ้มไม่ตอบอะไรเรื่องนี้
เพราะสิ่งที่เขาพูดออกมาคือการเปลี่ยนเรื่องไปเป็นเรื่องที่เขาเอาแต่คิดตั้งแต่ได้ยินมัน
“นี่เรา...
เป็นแฟนกันแล้วใช่มั้ยครับพี่ยุนกิ”
ตาเรียวกะพริบสองสามครั้ง
ก่อนที่ใบหน้าน่ารักจะขึ้นสีจัดเมื่อเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าพูดอะไรออกไปเมื่อตอนเพิ่งกินข้าวเสร็จ
ยุนกิหลบสายตาจริงจังของอีกคนด้วยการเสมองไปทางอื่น
ริมฝีปากบางเม้มแน่นเมื่อไม่รู้จะตอบอะไรดี
“เขินเหรอครับ”
ถามด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ แต่ก็เป็นการถามเพื่อแซวเท่านั้น
ในเมื่อคำตอบทั้งหมดมันแสดงออกมาที่ใบหน้านี้เรียบร้อยแล้ว
“พี่ยุนกิครับ
ไม่งั้นผมจะคิดว่าพี่ไม่อยากเป็นแฟนกับผมแล้วนะครับ” เสียงทุ้มแกล้งทำเป็นหงอย
แต่สิ่งที่ได้กลับมามีเพียงการเบะปากของมินยุนกิ
เพราะถึงน้ำเสียงจะดูน่าสงสารแค่ไหน ก็ไม่สามารถกลบเกลื่อนแววตาพราวระยับนั่นได้เลย
คนถูกแกล้งถอนหายใจออกมายาวเหยียด
ก่อนจะพูดออกมาสั้น ๆ
“ขอสิ”
“ครับ?”
“ถ้าไม่ขอก็ไม่ต้องเป็น”
ประโยคฟังดูห้วนจัด แต่ก็เรียกรอยยิ้มขำจากคิมแทฮยองได้ไม่ยาก
เพราะเมื่อคนตรงหน้าพูดจบก็หันตัวไปอีกทาง ก้าวเร็ว ๆ เดินหนีไปอย่างไม่หันกลับมามอง
ร้อนให้คนถูกทิ้งต้องรีบเดินตามไปคว้าแขนเอาไว้ก่อน
“พี่...
เขินแล้วอย่าเดินหนีสิครับ”
“ลีลา” คราวนี้ร่างโปร่งหลุดหัวเราะออกมาทันที
พร้อม ๆ กับรั้งแขนของคนที่พยายามจะเดินหนีไปอีกครั้งไว้
ก่อนจะขยับเลื่อนลงมาเป็นการขับกระชับมือขาวไว้ทั้งสองข้าง
“พี่ยุนกิครับ...
เป็นแฟนกันนะครับ
เป็นแฟนผมนะ
ผมรู้ว่าพวกเราเจอกันมาได้ไม่กี่เดือน
แต่ยิ่งรู้จักผมก็ยิ่งอยากดูแลพี่ ถึงผมจะทำอาหารไม่ได้
อย่างน้อยก็ให้ผมเตือนให้พี่กินข้าวก็ยังดี… นะครับ”
น้ำเสียงทุ้มนั่นทอดแววหวานจนผู้ฟังทำตัวไม่ถูก
รู้สึกว่าตอนนี้หน้าต้องแดงมากแน่ ๆ เพราะรู้สึกร้อนไปหมดทั้ง ๆ ที่ในห้างสรรพสินค้าตอนนี้ก็เปิดแอร์เย็นฉ่ำ
ถอนหายใจออกมาสั้น
ๆ ก่อนจะกลั้นหายใจเงยหน้าขึ้นสบกับสายตาที่ทอดมองมาอยู่ก่อนแล้ว
มือของแทฮยองเองก็กำลังสั่นจนเขารู้สึกได้ เอาจริง ๆ ตอนนี้เขาเหมือนเห็นลูกหมากำลังตื่นเต้นเพราะรอคอยรางวัลจากเจ้าของอยู่
“แกอยากได้คำตอบว่าอะไร”
“ก็ต้องเป็นตกลงอยู่แล้วสิครับ!” พูดเสียงดังจนมินยุนกิต้องดึงมือตัวเองออกจากการเกาะกุมข้างนึงเพื่อดีดหน้าผากสวยของคนตรงหน้าซะหนึ่งที
“แกได้ตามที่ต้องการนั่นแหละ
ฉันตกล— เฮ้ย ทำอะไรของแก!?” คำว่าตกลงยังไม่ทันสิ้นสุด คนตัวเล็กก็โดนรั้งอุ้มขึ้นจากพื้นหมุนไปหมุนมาโดยคนที่กำลังดีใจอย่างคิมแทฮยอง
ก่อนที่จะค่อย ๆ วางลงแล้วกอดเอาไว้แน่น
“ขอบคุณนะครับ
ขอบคุณจริง ๆ”
“หึ
ฉันสิต้องขอบใจแก ขอบใจที่จะมาดูแลฉันนะ มา... นับหนึ่งไปด้วยกันนะคิมแทฮยอง”
...
ฟิคยังเหลืออีกห้าเล่มนะคับ ติดต่อได้ที่ @hgmerqury เล้ย ส่วนตอนพิเศษจากหกลงให้สามนะคะ เลิ้บ
ความคิดเห็น