ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    -รวมเล่ม- 14 th ☀ㅣ#vga

    ลำดับตอนที่ #12 : MAR ; WHITE DAY

    • อัปเดตล่าสุด 14 มี.ค. 61


    B
    E
    R
    L
    I
    N
              

    14th Mar

     

    มินยุนกิไม่เคยสนใจเทศกาลของเหล่าคู่รัก เขารู้สึกว่ามันงี่เง่าสิ้นดีที่ประเทศนี้คลั่งไคล้เทศกาลแบบนี้กันเหลือเกิน

     

    ในความคิดของเขาน่ะ เวลาที่เอาไปทำกิจกรรมคู่อย่างการเดท ดูหนัง หรือเดินเล่น สู้เอาไปทำงาน แต่งเพลงที่ค้างไว้เพื่อหาเงินใช้ชีวิตยังดีกว่ากันตั้งเยอะ

     

    และเขาก็คิดแบบนี้ทุกเทศกาล ไม่เว้นแม้แต่ White Day อย่างวันนี้

     

    ใช่ ถึงแม้ว่าเขาจะมีแฟนแล้วเป็นเด็กที่อายุห่างกันสองปี และเขาก็ไม่ค่อยจะได้มีโอกาสลืมวันแห่งความรักพวกนี้ เพราะมีคนคอยเตือนอย่างคิมแทฮยอง แต่อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วงานของเขามันก็ยังสำคัญที่สุดอยู่ดี ด้วยความที่เป็นโปรดิวเซอร์มือทอง ทำให้แต่งเพลงครั้งนึง ค่าลิขสิทธิ์ที่ได้ก็เยอะมากพอที่จะอยู่อย่างสบายใจไม่ต้องพะวงกับค่าใช้จ่าย แต่นั่นก็ทำให้มินยุนกิกดดันตัวเองในแต่ละครั้งว่าต้องทำมันออกมาให้ดีที่สุด

     

    ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ที่ส่งศิลปินออกมามากหน้าหลายตา โด่งดังทั้งในประเทศและต่างประเทศได้มาติดต่อมินยุนกิ หรือ AGUST D คนเก่งให้ช่วยแต่งเพลงคัมแบ็คให้กับศิลปินคู่หนึ่งที่เพิ่งกลับมาจากการเข้ากรม

     

    โจทย์จะว่าง่ายก็ง่าย หรือจะว่ายาก ก็ยาก มันอาจจะง่ายกว่าการแต่งเพลงให้เหล่ารุคกี้วงใหม่ๆ เพราะเป็นวงที่มีแนวเพลงอยู่แล้ว แต่ที่มันยาก ก็อาจจะเพราะว่าเขาเป็นเหมือนความหวังที่จะเรียกกระแสของวงนี้ให้กลับมาอีกครั้ง

     

    เส้นตายคือประมาณกลางเดือนเมษา จริงๆแล้วเขายังไม่ต้องรีบก็ได้ แต่เมื่อไม่กี่วันก่อนเขาเพิ่งได้ไอเดียบางอย่าง ทำให้ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม เขาก็ขังตัวเองไว้ในห้องทำงานไม่ไปไหนเหมือนทุกทีที่ต้องแต่งเพลงอย่างจริงจัง คิมแทฮยองเข้าใจตรงจุดนี้ดี และมันไม่ใช่ครั้งแรกที่เจอสถานการณ์แบบนี้ ทำให้ปรับตัวได้เร็วกว่าครั้งแรกที่เข้ามาเจอมินยุนกิอดข้าวมาเป็นวัน พนักงานไอทีของบริษัทใหญ่แจ้งหัวหน้าไว้ว่าจะไม่ทำโอทีไปอีกเป็นเดือน ซึ่งหัวหน้าก็ไม่ได้ทัดทานอะไร จะมีก็แต่เพื่อนสนิทตัวดีที่หรี่ตามองอย่างน่ารำคาญ

     

    “วันนี้ก็จะรีบเก็บของกลับไปหาพี่ยุนกิอีกแล้วเหรอ” ปาร์คจีมินถามขึ้นมาหลังจากมาหยุดยืนดูเพื่อนตัวเองที่กวาดของทุกอย่างลงกระเป๋า และชัตดาวน์คอมพ์อย่างรวดเร็วตั้งแต่ยังไม่ถึงเวลาเลิกงานดี คนถูกทักเลิกคิ้วมองเล็กน้อย ก่อนตอบ

     

    “ใช่สิ แล้ววันนี้จะไปฉลองกับน้องจองกุกที่ไหนเหรอ” ถามกลับ แต่คำตอบที่ได้กลับมากลับเป็นการถอนหายใจสั้นๆ พร้อมคำตอบ

     

    “น่าจะโอทีถึงดึก แต่เดี๋ยวน้องจะมาหา” แทฮยองหัวเราะในลำคอเล็กน้อย แล้วเดินมาตบไหล่เพื่อนเบาๆเป็นเชิงปลอบใจ

     

    พวกเขาก็ทำงานกันแล้ว จะให้ไปใช้เวลาเดท หรือทำกิจกรรมแบบคู่รักทุกวันมันก็ออกจะยากเกินไปเพราะภาระหน้าที่ แต่ถ้าได้เจอคนที่เข้าใจ มันก็ถือว่าเป็นโชคดีน่ะนะ

     

    ร่างสูงขับรถกลับไปที่บ้านก่อนเพื่อเอาของไปเก็บและเปลี่ยนเป็นชุดลำลอง ใบหน้าหล่อขยับยิ้มเมื่อเห็นว่าแม่เขาเตรียมข้าวผัดกิมจิใส่กล่องใหญ่เอาไว้ให้หลังจากเมื่อวันก่อนเขาบอกไปแล้วว่าต้องไปเฝ้าแฟนทำงาน คิดไม่ผิดเลยจริงๆที่ชวนพี่ยุนกิมาฉลองปีใหม่กับที่บ้านตอนปีใหม่ที่ผ่านมา เพราะพ่อแม่เขานั้นชอบความน่ารักของยุนกิจนแทบจะขอให้มาอยู่ด้วยกัน

     

    จัดของอยู่สักพักก็ตัดสินใจโทรหาคนที่น่าจะกำลังทำงานอยู่อย่างมุ่งมั่นจนลืมกินข้าว เอาจริงๆ พนันด้วยอะไรก็ได้ วันนี้ทั้งวัน มินยุนกิคงยังไม่ได้กินอะไรเลยนอกจากอเมริกาโน่หนึ่งแก้วแน่นอน

     

    -“คุยได้ห้านาที”- เสียงติดจะแหบปลายสายค่อนข้างห้วน แต่คิมแทฮยองก็ไม่ได้ถือสาอะไร เพราะรู้ว่ายุนกิคงกำลังจริงจังกับเพลงตรงหน้า

     

    “ยังไม่กินข้าวใช่มั้ยครับ อยากกินอะไร ให้ซื้ออะไรไปให้ไหม” แทฮยองยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อได้ยินอีกคนถอนหายใจลอดสายมา เขาแทบจะจินตนาการหน้าเบื่อโลกกับปากเป็นขีดของมินยุนกิได้ในหัว

     

    -“อือ ยังไม่ได้กิน ลืมอะ... อยากกินจูกุมี กับเทนจังจีกเย แล้วก็... ซื้ออเมริกาโน่มาให้อีกสักแก้วสองแก้ว เอาของ Paris Baguette นะ แล้วเจอกัน”- พูดรัวจนเหมือนจะแร็พ ก่อนจะกดตัดสายไปทันทีเหมือนอยู่ดีๆก็นึกอะไรออก เพราะแทฮยองทันได้ยินเสียเคาะแป้นพิมพ์ก่อนที่เสียงจะหายไป

     

    แทฮยองตามหาของต่างๆที่อีกฝ่ายอยากกินเกือบชั่วโมง วันนี้ร้านค้า ร้านอาหาร โดยเฉพาะร้านขนมหวานเต็มไปด้วยคู่รักที่ออกมาฉลองกันเยอะไม่แพ้วันวาเลนไทน์ทำให้เสียเวลาไปไม่น้อย แต่สุดท้ายแล้วเขาก็มาถึงสตูดิโอของมินยุนกิได้ในเวลาหนึ่งทุ่มกว่าๆ

     

    ร่างสูงมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องทำงานของโปรดิวเซอร์คนเก่งที่ดูจะปิดกั้นทุกคนตั้งแต่ประตูสองชั้น ป้ายบอกให้กดกริ่ง ยันพรมเช็ดเท้าที่เขียนอย่างชัดเจนว่า Go Away แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรเพราะแน่นอนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มาที่นี่ หลังจากกดกริ่งไม่ถึงนาที ประตูก็เปิดออกพร้อมกับใบหน้าเหนื่อยๆของคนที่เขาคิดถึง

     

    “เหนื่อยไหมครับ” เอ่ยถามออกไปพร้อมกับถอดหมวกไหมพรมของคนตรงหน้าออกแล้วจัดให้ใหม่ มินยุนกิส่ายหน้าดุ๊กดิ๊ก แล้วแบมือเหมือนจะขออะไรบางอย่าง

     

    “อเมริกาโน่ฉันล่ะ”

     

    “ไม่ให้กินแล้วครับ หลายแก้วแล้วไม่ใช่เหรอ มากินข้าวก่อนครับ” ไม่พูดเปล่า แทฮยองเดินมาทางโต๊ะเล็กที่ตั้งคู่กับโซฟา ค่อยๆแกะเอาข้าวผัดกิมจิของแม่กับของที่คนตัวเล็กสั่งมาจัดให้พร้อมกิน เจ้าของห้องมุ่ยหน้าเมื่อไม่ได้กินคาเฟอีนอย่างที่อยากกิน แต่ก็ยอมมานั่งที่โซฟาแต่โดยดีเพราะทนความหิวที่เพิ่งรู้สึกเมื่อได้กลิ่นอาหารไม่ไหว

     

    ข้าวผัดกิมจิในกล่องใหญ่ หมึกผัดซอสหรือจูกุมีโรยด้วยไข่ปลา แล้วยังซุปเต้าเจี้ยว เทนจังจีกเยเต็มโต๊ะ แต่คิมแทฮยองกลับทำเพียงนั่งเท้าคางมองคนที่ตักนู่นตักนี่กินทั้งๆที่สีหน้าไม่เปลี่ยนไปจากหน้าเฉยเมยจนดูเหมือนคนกินอะไรก็ไม่อร่อย

     

    “อร่อยไหมครับ”

     

    “แกไม่กินเหรอ” ตอบคำถามด้วยคำถาม และเมื่อเห็นคนเด็กกว่าส่ายหน้าก็จัดการใช้ช้อนที่กินอยู่ตักปลาหมึกมาใส่ข้าวผัดแล้วยื่นไปจ่อปากแทฮยองที่เลิกคิ้วเล็กน้อย

     

    “กิน” เพราะคำบังคับที่น่าเอ็นดูนั่นทำให้คนข้างๆอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา ก่อนจะอ้าปากรับข้าวที่อีกฝ่ายป้อนมา รสเผ็ดนิดๆติดหวานที่ปลายลิ้นอวลไปทั่วปาก อร่อยจนเข้าใจว่าทำไมคนถึงต่อแถวกันล้นร้าน ยุนกิเห็นใบหน้าพอใจนั้นทำให้หลังจากช้อนนั้นคนตัวเล็กก็กินไปป้อนไปจนอาหารทั้งหมดที่แทฮยองซื้อมาหมดลง

     

    “จะกลับเลยมั้ย” เสียงหวานติดจะแหบถามพลางเก็บกล่องข้าวที่กินหมดแล้วไปทิ้ง ส่วนกล่องพลาสติกที่ใส่ข้าวผัดมาก็จัดการเช็ดให้เรียบร้อยแล้วเก็บใส่ถุงเหมือนเดิม คนถูกถามส่ายหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปหยิบอะไรบางอย่างในถุงที่ซื้อมา

     

    “สุขสันต์ไวท์เดย์ครับ” พูดพร้อมรอยยิ้มและยื่นให้ มินยุนกิเลิกคิ้วเล็กน้อยแต่ก็ยอมยื่นมือมารับไปแต่โดยดี เมื่อหยิบขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นนิวเทล่าที่มาพร้อมกับแท่งขนมปังแครกเกอร์ให้จิ้มในกล่อง เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็พบกับรอยยิ้มกว้างจนปากเป็นรูปสี่เหลี่ยมของลูกหมาตัวโต

     

    “คือ ตอนแรกผมก็อยากทำขนมให้ตอบแทนที่พี่ยุนกิทำให้ตอนนั้นแต่ว่า...”

     

    “ไม่ต้องหรอกดีแล้ว” คนตัวเล็กชิงพูดตัด เพราะการปล่อยแทฮยองเข้าครัวไปคนเดียวนั้นคงไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไหร่ จากเหตุการณ์ที่วัตถุดิบเกือบทั้งหมดเสียไปเมื่อตอนที่แทฮยองพยายามจะทำอาหารฉลองวันเกิดให้มินยุนกิเมื่อวันที่ 9 ที่ผ่านมา คนถูกพูดแทรกหัวเราะออกมาเบาๆแก้เก้อ ก่อนจะพูดต่อ

     

    “นั่นแหละครับ... ผมก็เลยซื้อขนมมาให้แทน.... คิดว่าพี่ยุนกิคงชอบ” แก้มขาวของคนอายุมากกว่าขึ้นสีแดงระเรื่อ มือขยับเปิดฝาขนม ก่อนจะหยิบแท่งขนมปังขึ้นมาหนึ่งแท่ง จิ้มด้านหนึ่งลงไปที่ช็อกโกแลตนิวเทล่าข้นๆ แล้วสลับเอาอีกด้านจิ้ม

     

    “กินด้วยกันมั้ย?”

     

    “เอาสิครับ”

     

    คนตัวเล็กงับปลายด้านหนึ่งของขนมปังกรอบเอาไว้ ก่อนจะเขย่งเพื่อส่งอีกด้านให้คนเด็กกว่างับ ทำให้ดวงตาสองคู่ประสานกันอย่างช่วยไม่ได้ แววหวานในตาของแทฮยองทำให้ยุนกิหลุบสายตาหลบ ความกล้าที่จะทำอะไรแบบนี้หายไปพร้อมๆกับระยะห่างที่น้อยลงทุกทีเพราะแทฮยองค่อยๆแทะขนมปังกรอบมาจากปลายอีกด้าน แขนยาวกอดเอวบางไว้แน่นไม่ให้หนีไปไหน

     

    และสุดท้ายแล้ว... ริมฝีปากสองคู่ก็สัมผัสกัน

     

    สัมผัสนุ่มหยุ่นหวานยิ่งกว่ารสชาติของช็อกโกแลตนิวเทล่าเมื่อครู่ เทียบไม่ได้เลยสักนิด และดูเหมือนจะชวนให้เสพติดมากกว่าช็อกโกแลตเพราะมันเป็นมินยุนกิ

     

    มินยุนกิคนที่ทำให้เขาหลงรักได้ตลอดเวลา ซ้ำแล้วซ้ำอีก...

     

    “นี่... ขอโทษนะที่ทำงานในวันแบบนี้ ขอโทษนะที่ไม่มีเวลาให้แก...” เสียงหวานติดจะแหบเอ่ยขึ้นเบาๆหลังจากอีกฝ่ายถอนจูบออกไป ใบหน้าน่ารักฝังลงกับลาดไหล่แล้วกระชับกอดที่เอวสอบให้แน่นขึ้น ยุนกิได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอเล็กน้อย ก่อนจะรู้สึกได้ถึงฝ่ามือที่จับลงมาบนหัวแล้วลูบเบาๆ

     

    “พวกเราไม่ได้อยู่ด้วยกันไวท์เดย์ปีนี้ปีเดียวนี่ครับ ปีหน้าพวกเราก็ยังอยู่ด้วยกัน และปีต่อๆไปผมก็ยังอยากให้เหมือนเดิม... ไว้เรามาฉลองไวท์เดย์กันใหม่ก็ได้ครับ”

     

    มินยุนกิถอยตัวห่างออกมา ก่อนที่จะเขย่งตัวขึ้นเพื่อจูบอีกคนแผ่วเบาเป็นการแทนความรู้สึก พร้อมกับรอยยิ้มหวานจนเห็นเหงือก ตาหยีที่นานๆทีจะได้เห็น

     

    “ขอบใจนะ ฉันดีใจจริงๆที่มีแก ขอบใจ ขอบใจจริงๆ”

     

    “พี่ยุนกิจะขอบใจผมทำไมครับ ผมเต็มใจทำทุกอย่างนั่นแหละ นี่มันเป็นหน้าที่ของแฟนที่ดีไม่ใช่เหรอครับ” ยุนกิหัวเราะออกมาบ้างเมื่อแทฮยองหัวเราะ แต่ความรู้สึกดีๆก็ยังไม่หายไปไหน คนตัวเล็กนิ่งไปสักพักก่อนที่จะตัดสินใจและพูดออกมา

     

    “วันนี้ฉันกลับบ้านดีกว่า” ไม่พูดเปล่า ยุนกิผละออกจากอ้อมกอดของแทฮยองเพื่อเดินไปเดินมารอบห้องเพื่อเก็บของ กดปิดคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ถึงสิบนาทีก็เดินมาพร้อมกระเป๋าเป้หนึ่งใบที่แทฮยองรับไปถืออย่างงงๆ

     

    “งานเสร็จแล้วเหรอครับ...” เสียงทุ้มทอดเสียงถามอย่างไม่แน่ใจ เพราะปกติแล้วถ้างานไม่เสร็จ ยุนกิก็จะกินนอนอยู่ที่ทำงานนั่นแหละ คนถูกถามเลิกคิ้วพลางเดินผ่านแทฮยองไปทั้งๆที่ยังยิ้มอยู่

     

    “ยัง แต่อยากกลับไปอยู่กับแกวันนี้ กลับบ้านกันนะ”

     

     


     



    หวีด

    จบทัลค่ะ พล็อตมาวันสุดท้ายมากเวอร์ แง

    เราอยากกินนิวเทล่า อยากกินเทนจังจีกเย อยากกินหมึกผัด อยากกินทุกสิ่งอย่างเลยค่ะ แง แต่ในไทยยังหาร้านเกาหลีที่เป็นเกาหลีจริงๆจังๆไม่เจอเลยค่ะ... ใครแนะนำบอกเราได้ในแท็กนะคะ #วีก้า14 55555555555555555555555555555555555555555555

     

    และถ้ามีคนสังเกต ก็อาจจะเห็นแล้วว่า มันมีบางเหตุการณ์ที่พูดถึง แต่ยังไม่มีเนื้อหา

    ใช่แล้วค่ะ

    มันคือสิ่งที่เป็นตอนพิเศษในเล่มค่ะ

     

    เปิดจองแล้วนะคะ #วีก้า14

    รักน้องกันด้วยนะคะ แง รายละเอียดอยู่ในลิงค์เลยค่ะ

    https://goo.gl/forms/NutPvdvUpHlJN3GI2


     

    ถ้าหากมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่ @hgmerqury หรือ #วีก้า14 เลยเด้อ เลิ้บเลิ้บเลิ้บ เลิ้บมากๆ แง

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×