คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : FEB ; VALENTINE'S DAY
มินยุนกิไม่เคยสนใจเทศกาลของเหล่าคู่รัก
เขารู้สึกว่ามันงี่เง่าสิ้นดีที่ประเทศนี้คลั่งไคล้เทศกาลแบบนี้กันเหลือเกิน
ในความคิดของเขาน่ะ
เวลาที่เอาไปทำกิจกรรมคู่อย่างการเดท ดูหนัง หรือเดินเล่น สู้เอาไปทำงาน แต่งเพลงที่ค้างไว้เพื่อหาเงินใช้ชีวิตยังดีกว่ากันตั้งเยอะ
และเขาก็คิดแบบนี้ทุกเทศกาล
ไม่เว้นแม้แต่ Valentine’s
Day อย่างวันนี้
แต่การที่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว
มันเป็นไปได้เหรอที่จะไม่สนใจวันที่ขึ้นชื่อว่าเป็นวันแห่งความรักอย่างเป็นทางการเช่นวันนี้
มินยุนกิตื่นขึ้นมาเพราะแรงสั่นและเสียงเตือนจากโทรศัพทืมือถือที่ชาร์ตเอาไว้โต๊ะข้างเตียง
แขนขาวขยับไปหยิบมาดู
และพบว่ามันเป็นข้อความยกเลิกนัดทำงานวันนี้เพราะคนนัดอย่างบังยงกุกเพิ่งโดนคิมฮิมชานผู้เป็นแฟนลากไปฉลองวาเลนไทน์ที่ประเทศญี่ปุ่น
อา...
เอาจริงๆว่าถ้าพี่ยงกุกไม่ยกเลิก ก็คงจะเป็นเขาเองนี่แหละที่โทรไปยกเลิกนัด
ร่างเล็กไถดูโนติฟิเคชั่นอีกสักพัก
ก่อนจะคว่ำหน้าจอโทรศัพท์ลงกับโต๊ะ แล้วพลิกหันกลับมาหาคนที่หลับอยู่ข้างๆเพราะเวลาตีสี่มันยังเช้าเกินกว่าที่มนุษย์เงินเดือนจะตื่นไปทำงาน
มือขาวถูกยกขึ้นมาเกลี่ยผมหน้าม้าสีอ่อนนั่นสักพัก
ก่อนจะดีดที่หน้าผากสวยเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว
แทฮยองตอนหลับน่ะ
น่ารักไม่เบาเลยล่ะนะ
ไม่เห็นจะเป็นตัวยุ่งแบบตอนตื่นเลยสักนิด
เขาไม่เคยแม้แต่จะคิดว่าวันหนึ่งคนแรกที่เห็นเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาจะเป็นผู้ชายที่เด็กกว่าเขาไปสองปี
พนักงานไอทีที่ทำผมสีเดียวกับโปเกมอนอีวุยร่างต้น
เจ้าของรอยยิ้มสี่เหลี่ยมที่ดูสดใส
และเจ้าของความอบอุ่นที่เผื่อแผ่มาถึงเขาเสมอไม่ว่าจะเมื่อไหร่
เขาน่ะ… ดีใจที่ได้รู้จักกับแทฮยอง
และเขาดีใจ...
ที่ตัวเองตัดสินใจตอบ
ตกลง กับแทฮยองไป มันเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดในชีวิตของเขา
จากเลขในนาฬิกาโทรศัพท์
บอกให้รู้ว่ามีเวลาอีกนานกว่าจะถึงเวลาตื่นของคนมีงานประจำ มินยุนกิขดตัวเข้าหาความอบอุ่นข้างกาย
แล้วหลับตาลงอีกครั้ง
…แล้วค่อยมาสวัสดีวันวาเลนไทน์กันตอนเช้านะคิมแทฮยอง
ถ้าเขาตื่นเช้าน่ะนะ
เหมือนยุนกิจะกะเวลาตื่นของตัวเองได้ค่อนข้างผิดพลาด
เพราะตอนที่เขาลืมตาขึ้นมา แทนที่จะเป็นตอนที่แทฮยองออกไปทำงานแล้ว มันกลับเป็นตอนที่คนเด็กกว่าเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับเสื้อเชิร์ต
กางเกงแสลคที่ชื้นน้ำเพราะเช็ดตัวไม่แห้ง กลิ่นสบู่ฟุ้งไปทั่วห้อง
พร้อมกับไออุ่นๆที่ลอยออกมา
“อ้าว
ทำไมวันนี้ตื่นเช้าจังครับ” เสียงทุ้มทักอย่างแปลกใจ
เพราะปกติแล้วเวลานี้คนตัวเล็กจะยังคงนอนขดอยู่ในผ้านวมผืนหนา
ไม่ใช่ลุกขึ้นมานั่งขยี้ตางัวเงียอย่างน่าเอ็นดูแบบนี้
“อืม...”
เลือกที่จะงึมงำในลำคอ แต่ไม่ตอบอะไรออกมาเพราะยังไม่ตื่นดี
สมองยังทำงานไม่เต็มที่เท่าไหร่ แต่แทนที่จะล้มตัวนอนต่อ มินยุนกิก็ตระหนักได้ว่า
วันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ เพราะฉะนั้นเขาควรจะทำอะไรให้มันพิเศษขึ้นมาหน่อย
ร่างเล็กเดินเตาะแตะไปทางห้องครัวโดยที่มีสายตาสงสัยของแทฮยองมองตาม
เพราะมินยุนกิไม่ได้พูดอะไรเลยหลังเดินลงจากเตียง
โปรดิวเซอร์มือทองจัดการเอากระทะเล็กขึ้นมาตั้งบนเตาแก๊ส
แล้วหยิบไข่สองฟองจากตู้เย็นออกมาวางข้างๆ
ไส้กรอกที่แทฮยองซื้อมาเติมเรื่อยๆกับเบคอนก็ถูกหยิบมาคู่กัน บวกด้วยมะเขือเทศ
พริกหวานสามสี แครอทและหอมใหญ่
มินยุนกิกำลังจะทำในสิ่งที่เขาเองก็ไม่ค่อยได้ทำให้ตัวเองเท่าไหร่
อาหารเช้า
ใช้เวลาไม่ถึงยี่สิบนาที
พอดีกับที่แทฮยองเดินออกมาด้วยชุดเรียบร้อย ออมเล็ต เบค่อนและไส้กรอกทอด
กับขนมปังปิ้งก็เสร็จเรียบร้อย จนเรียกสีหน้างุนงงปนตกใจจากคนเด็กกว่าได้ไม่ยาก
เพราะมันนานๆครั้งจริงๆที่มินยุนกิคนขี้เกียจจะลุกขึ้นมาเข้าครัว (--แม้จะทำอาหารอร่อยมากก็เถอะ)
“นี่มันอะไรกันครับ”
“สวัสดีวันวาเลนไทน์
เฮ้ย!”
เสียงหวานติดจะแหบพูดสั้นๆ
ก่อนจะอุทานออกมาอย่างตกใจเมื่อคนฟังเดินตรงเข้ามากอดเขาเอาไว้ทั้งตัวจนใบหน้าของเขาฝังอยู่กับลำคอที่กรุ่นกลิ่นน้ำหอมที่เขาเป็นคนซื้อให้เมื่อวันเกิดที่ผ่านมา
“ขอบคุณนะครับ
ตกใจหมดเลย ผมนึกว่าพี่ไม่สบาย” คนตัวเล็กถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะจงใจเหยียบเท้าอีกคนเต็มแรงเพื่อให้แขนที่รัดเอวเขาไว้ปล่อยออก
และมันก็เป็นอย่างที่คิดเมื่อคิมแทฮยองสะดุ้งถอยหลัง
ก่อนจะหัวเราะออกมาเมื่อเห็นสีหน้าเอือมระอาของมินยุนกิ
“แต่ขอบคุณจริงๆนะครับพี่
ผมต้องยิ้มทั้งวันจนไอ้จีมินด่าว่าบ้าอีกแน่ๆเลย”
“ก็เป็นคนบ้าไม่ใช่เรอะ
เฮ้ย ไอ้เด็กบ้า หยุดแล้วไปกินข้าวเลยนะ”
เสียงห้าวโวยวายลั่นเมื่อแทฮยองเดินเข้ามากอดเขาไว้อีกที
ก่อนจะก้มลงมาฟัดแก้มเขาทั้งซ้ายและขวาจนน่ารำคาญ
และต้องบังคับให้ไปกินอาหารที่เขาอุตส่าห์ทำสักที ไม่งั้นคงได้ไปทำงานสายแน่ๆ
“เย็นนี้พี่อยากกินที่ไหนไหมฮะ”
เอ่ยถามขึ้นมาหลังจากที่จัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว
โดยที่มินยุนกิเป็นคนบอกว่าจะล้างจานทั้งหมดเองเพราะมันใกล้เวลาเต็มที
“แล้วแต่แก”
“ถ้าแล้วแต่ผม...
พี่ก็คงต้องเหนื่อยหน่อยแล้วล่ะครับ” มินยุนกิเลิกคิ้วกับคำพูดนั้น ก่อนที่คนเด็กกว่าจะพูดต่อเพื่อทำให้มันกระจ่างมากขึ้น
“ผมอยากกินฝีมือพี่อีก”
คนฟังหัวเราะออกมาเบาๆแล้วเดินเข้าไปหาอีกฝ่าย
ร่างเล็กๆเงยหน้าขึ้นแตะจูบแผ่วเบาที่ริมฝีปาก
แล้วตอบด้วยประโยคที่แทฮยองอยากจะโทรไปลางานเสียเดี๋ยวนั้น
“วันนี้ฉันตามใจแกทุกอย่างนั่นแหละ”
เมื่อแทฮยองออกไปแล้ว
คนตัวเล็กก็ได้เวลาทำความสะอาดซากที่ทำไว้เมื่อตอนเช้าแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นฮีทเทคคอเต่าแขนยาว
เสื้อเชิร์ต และเสื้อไหมพรมตัวหนา เพราะวันนี้อากาศติดลบจนเขาแทบไม่อยากออกจากห้อง
แต่เพราะมันเป็นวาเลนไทน์...
และเพราะมันเพื่อเด็กคนนั้น...
ให้ตายเถอะ
นี่เขากำลังทำอะไรอยู่กันนะ
สถานที่ที่มินยุนกิเลือกที่จะมาคือซุปเปอร์มาเก็ตขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้ที่พัก
วันนี้วันวาเลนไทน์ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เขาจะมาเลือกซื้อคืออุปกรณ์ทำขนมให้อีกคน
ของที่เขาต้องการมีไม่เยอะ ตั้งใจจะทำไม่กี่อย่าง
เพราะพวกขนมหวานเขาเองก็ไม่ค่อยกิน มีแต่แทฮยองนั่นแหละที่ชอบกินอะไรพวกนี้
ไวท์ช็อกโกแลตหนึ่งกิโลกรัม
สีผสมอาหารแบบน้ำ เรนโบว์ไว้ตกแต่งขนม ขนมปังกรอบแท่งและอัลมอนด์หนึ่งถุง
ของทั้งหมดถูกซื้อและขนขึ้นไปบนห้องพักอย่างทุลักทุเลนิดหน่อย
คนตัวเล็กวางอุปกรณ์ไว้ในห้องครัว เดินไปเปิดฮีทเตอร์ที่พื้น
และเปลี่ยนเป็นชุดอยู่บ้านสบายๆ
ก่อนจะเดินมาเริ่มต้นทำช็อกโกแลตวาเลนไทน์ให้คนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนตัวเอง
ละลายไวท์ช็อกโกแลตใส่ถ้วย
ใส่สีผสมอาหาร ก่อนจะหยอดลงไปในพิมพ์รูปหมาที่เขาซื้อมาได้สักพักแล้ว
เมื่อหยอดครบทุกช่องก็จัดการเอาพิมพ์เข้าตู้เย็นให้เรียบร้อย
เป็นอันเสร็จหนึ่งอย่าง ส่วนไวท์ช็อกโกแลตที่เหลือ
ยุนกิค่อยๆเอาขนมปังกรอบแบบแท่งที่ซื้อมาจุ่มลงไป
แล้วตามด้วยโรยเกล็ดเรนโบว์สีสันสดใส
แม้มันจะยุ่งยากหลายขั้นตอน
แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเหนื่อยหรืออยากเลิกทำเลยแม้แต่น้อย
หรือถ้าให้บอกตรงๆ...
มันเป็นการทำอาหารที่เขามีความสุขที่สุดเท่าที่เคยทำมาเลยทีเดียว
เพราะมันได้ทำให้ใครสักคน...
และคนๆนั้นก็คือคิมแทฮยอง
พนักงานบริษัทกลับมาถึงห้องชุดของคุณมินพีดีตอนหกโมงกว่า
เพราะวันนี้รถไฟฟ้าใต้ดินดูเหมือนจะแน่นขนัดไปด้วยเหล่าคู่รักที่ออกมาเฉลิมฉลองวันวาเลนไทน์ตามสถานที่ต่างๆ
ทำให้กว่าจะได้ขึ้นก็นานพอสมควร
และภาพแรกของคุณแฟนตัวเล็กที่ได้เห็นหลังจากเปิดประตูห้องเข้ามาคือ
ร่างบางนอนขดอยู่บนโซฟาโดยที่มีผ้าห่มผืนหนาคลุมอยู่ ที่หน้าจอโทรทัศน์กำลังฉายหนังจาก
Netflix ที่คนบนโซฟาเปิดทิ้งไว้
แต่เหมือนจะไม่ได้สนใจเสียแล้วดูจากตาเรียวที่หลับพริ้ม
และการหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ
แต่ว่าการนอนตอนหกโมงมันคงไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่...
นอกจากนั้นแล้ว
ของในมือเขามันก็คงไม่มีประโยชน์ ถ้าไม่มีผู้รับมัน
“พี่ยุนกิครับ”
เอ่ยปลุกเสียงเบา แต่คราวนี้แปลกเมื่อคนโดนปลุกลืมตาขึ้นมาทันที
ทั้งๆที่ปกติจะเป็นคนตื่นยาก และสิ่งแรกที่ได้เห็นหลังจากลืมตาก็คือ...
ช่อดอกอัลมอนด์สีชมพูในมือของคิมแทฮยอง
“สุขสันต์วันวาเลนไทน์ครับ
ผมดูแลมันอย่างดีเลยนะเนี่ย กว่ามันจะกลับมาได้โดยไร้ร่องรอยการบอบช้ำแบบี้อะ”
พูดกลั้วหัวเราะ
ก่อนจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเมื่ออีกคนค่อยๆยื่นมือออกมารับมันไปถือไว้
“ขอบใจนะ”
“สำหรับพี่ผมเต็มใจเสมอนั่นแหละครับ”
อาหารวันวาเลนไทน์ที่ยุนกิทำขึ้นมานั้นไม่ได้ซับซ้อนอะไร
ใช้วัตถุดิบที่มีอยู่แล้วในตู้เย็นเสียส่วนใหญ่
เพราะตอนนี้ของสดมันเยอะมากจนเขาเริ่มกลัวจะกินไม่ทัน บนโต๊ะอาหารขนาดกำลังพอดีในห้องครัวมีเพียงหมูผัดซอส
ไข่ตุ๋น ซุปเต้าเจี้ยว ข้าวผัดกิมจิใส่ไข่ปลา และผักเคียงเท่านั้น
“พี่ยุนกิทำอาหารอร่อยอะ
ทำให้ผมกินบ่อยๆสิครับ” คิมแทฮยองพูดพลางยิ้มกว้างจนปากเป็นรูปสี่เหลี่ยม
แต่ก็ต้องทำสลดเมื่อคนทำอาหารทำหน้าเมื่อยแล้วตอบกลับมาสั้น
“ขี้เกียจ”
“โธ่พี่...
แต่มันอร่อยจริงๆนะ” มินยุนกิพยักหน้ากับคำชมและการตื่นเต้นจนเหมือนลูกหมาคอร์กี้วัยกำลังซนนั้น
ก่อนจะก้มลงกินข้าวต่ออย่างไม่สนใจ
หลังจากกินข้าวเสร็จ
ครั้งนี้เป็นตาแทฮยองที่ต้องล้างจานชามมากมายชดใช้กรรมที่กินเข้าไป
รวมไปถึงอุปกรณ์ทำอาหารที่ยุนกิเหลือวางทิ้งไว้สองสามชิ้น
โดยที่คุณแฟนตัวเล็กเดินแยกไปเปิดเช็คช็อกโกแลตของตัวเองที่แช่อยู่ในตู้เย็น
ช็อกโกแลตในพิมพ์เป็นรูปเป็นร่างเรียบร้อยเหลือเพียงแกะออกมาแล้วจัดให้สวยๆ
มันก็จะเหมือนช็อกโกแลตราคาแพงที่ขายตามท้องตลาด
ร่างเล็กเหลือบมองคนที่ยังง่วนกับการล้างจานจนไม่ได้สนใจอย่างอื่น
ก่อนจะหยิบช็อกโกแลตออกมาแกะใส่จานให้เรียบร้อย พร้อมกับเดินไปเอาขนมกินเล่นอย่างขนมปังแท่งชุบช็อกโกแลตมาวางไว้ด้วยกัน
“ล้างจานเสร็จยัง”
เสียงหวานติดจะแหบถามขึ้นมาเบาๆ ก่อนที่แทฮยองจะพยักหน้า
และเช็ดมือกับผ้าที่แขวนอยู่ข้างซิงค์ล้างจาน
ร่างสูงหันกลับมาหมายจะพูดอะไรบางอย่าง
แต่ก็ต้องชะงักเมื่อจานใส่ขนมถูกยื่นมาในระดับสายตา
“สุขสันต์วันวาเลนไทน์”
ตาคมเบิกกว้าง
สมองว่างเปล่าคิดอะไรไม่ออก เพราะตอนนี้นอกจากขนมอันน่าตกใจตรงหน้า
คนถือขนมเองก็กำลังหน้าแดงก่ำไม่ยอมสบตาจนน่าเอ็นดู
มินยุนกิจะน่ารักเกินไปแล้วจริงๆ
“พี่...
ทำไมถึง...”
“จะซื้อช็อกโกแลตให้มันก็ไม่ดีใช่ไหมล่ะ...
ก็เลยทำเองเลย มันก็ไม่ได้ยากอะไร ส่วนขนมนี่อยากลองทำเล่นเพราะมันน่ารักเฉยๆ...
แท! เดี๋ยวขนมตก!”
คนตัวเล็กขึ้นเสียงสูงอย่างตกใจเมื่อคิมแทฮยองจับเอาจานใส่ช็อกโกแลตไปวางไว้ข้างๆ
แล้วเกี่ยวเอวบางเข้ามาใกล้แทน
“พี่น่ารักเกินไปแล้วนะครับ...”
น้ำเสียงทอดแววหวานปนเหนื่อยใจเพราะกลัวตัวเองจะต้านทานความน่ารักของมินยุนกิไม่ไหวจนอาจจะขาดใจตายไปได้สักวัน
“พี่อะ...
ทำให้ผมรักพี่มากขึ้นทุกวันแบบนี้ ถ้าผมไม่มีพี่สักวันนึงผมจะทำยังไงเนี่ย
พี่จะน่ารักเกินไปแล้วจริงๆนะครั—“ ไม่ทันได้จบประโยคมินยุนกิก็จัดการหยิบเอาช็อกโกแลตรูปน้องหมาหนึ่งอันขึ้นมาใส่ปากแทฮยองเป็นเชิงให้หยุดพูด
เพราะเขินจนทนไม่ไหวแล้วจริงๆ คนถูกป้อนยิ้มจนตาหยี
ค่อนๆละเลียดความหวานนั้นเข้าไปจนเกือบหมด
ก่อนจะก้มลงจูบที่ริมฝีปากสีสดของอีกคนที่ไม่ทนได้ตั้งตัว
ช็อกโกแลตว่าหวานแล้ว...
แต่จูบนี้หวานกว่าหลายเท่า...
หวาน...
จนใจสั่นไปหมด...
หวาน...
จนต้องการมากกว่านี้
“พี่ยุนกิ...
รักนะครับ”
“อือ...
ก็รักเหมือนกัน” เสียงห้าวตอบกลับเบาหวิวจนเหมือนพึมพำกับตัวเอง
แต่แทฮยองที่อยู่ใกล้ไม่ถึงสิบเซนติเมตรก็ได้ยินมันอย่างชัดเจน
ร่างสูงหัวเราะในลำคอแผ่วเบา
ก่อนจะพูดต่อโดยที่ไม่ได้สนใจเลยว่าใบหน้าขาวๆของอีกคนจะแดงแค่ไหน
“ผมอยากกอดพี่จัง
พี่น่ารักเกินไปแล้วจริงๆอะ”
“ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอ...
วันนี้ฉันตามใจแกทุกอย่างนั่นแหละ
ทำสิ่งที่นายอยากทำเถอะคิมแทฮยอง”
...
เทอๆ วันนี้วันวาเลนไทน์ กรี๊ด เขียนทันด้วย ฮือออออ
ขอให้เป็นวันแห่งความรักที่ดี ได้เงินตรุษจีนกันเยอะๆนะคะ ร้าก
#วีก้า14 เด้อ เลิ้บสุดมาก
@hgmerqury หากมีสิ่งใดสงสัยคับ
รักทุกคนเลยจีง อะซารางแฮโย่ว
ความคิดเห็น