คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 5 : Confession
Chapter 5 : Confession
บาดแผลของชายหนุ่มไม่ลึกมากนัก เพียงแค่คืนเดียว อาการของชายหนุ่มก็ดีขึ้นจนสามารถเดินทางต่อไปได้ เพียงแต่......
“คุณช่วยพยุงผมหน่อยสิแอร์แตนิเต้ ผมลุกไม่ค่อยไหว”
“ไหนบอกว่า หายดีแล้วไง ถึงได้ชวนกันเดินทางต่อน่ะ”
“ก็...............” มันคงจะเป็นการโกหกที่แนบเนียนมากสำหรับเลโอ หากออดริคไม่หันมาสบตากับวิญญารตรงหน้าแล้วยิ้มที่มุมปาก แถมมียักคิ้วเผล่อย่างมีความหมาย
หากใครได้มาเห็นก็คงหัวเราะกันจนปวดท้อง กับภาพชายหนุ่มตัวโตที่บ่นโอดครวญกับหญิงสาวร่างแบบบางที่ต้องแบกรับน้ำหนักกับอาการออดอ้อนจนคนถูกอ้อนแทบจะเอาหัวจนเจ็บทุ่มไปกับพื้น
ทั้งๆที่เมื่อคืนยังจะทะเลาะกันแทบจะเป็นจะตาย เลโอคิดพลางนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืน
............................................................................................................................................................................
“แม่!!!! แม่ครับ พ่อ.......... อย่า! อย่าไปเลย มันอันตราย กลับมาเถอะครับ!!!!!!! อย่า!!!!!!!!”
เสียงไฟที่ลั่นปะทุอยู่ข้างตัวทำให้ชายหนุ่มลืมตาตื่นมาอย่างรวดเร็ว แต่ก็ต้องบ่นปวดระงมไปตลอดเพราะบาดแผลตามเนื้อตัวโดยมีเสียงหัวเราะของร่างบางดังตามออกมาทุกครั้ง
“เราสลับตำแหน่งกันแล้วนะ ซินญอเร............” หญิงสาวที่กลับมาอารมณ์ดีอีกครั้ง กล่าวยั่วเย้าชายหนุ่มอย่างสนุกปาก ก็ในเมื่อคนเจ็บตรงหน้าขยับไม่ได้ เธอก็ปลอดภัยหายห่วงล่ะ!
“หัวเราะเข้าไปเถอะคุณ............. ว่าแต่คุณแบกผมมาที่นี่ได้ยังไงน่ะ”
“ไม่ยากนักหรอก ก็ช่วยๆกันกับเลโอน่ะ”
“เหรอ............อืมม์”
“เป็นอะไรไปน่ะ ออดริค คุณดูเหม่อๆนะ ไข้ขึ้นรึเปล่าเนี่ย” หญิงสาวสังเกตุเห็นอาการไม่ค่อยดี ก็เคลื่อนกายเข้ามาหาชายหนุ่ม มือเล็กเรียวสัมผัสที่หน้าผากเพียงผ่าวเบาพลางบ่นไปตามเรื่องตามราว
“ผมหายดีแล้วน่า รับรองได้”
“แต่บาดแผลมันทำให้คุณไข้ขึ้นนะ ชั้นว่าคุณพักผ่อนก่อนดีกว่า เมื่อกี้คุณก็ละเมอเพ้อด้วย”
เพียงเท่านั้นแหละ ดวงตาสีชาก็แทบจะถลนออกมานอกเบ้า ราวกับตวาดด้วยสายตา
“ผมไม่............ไม่ได้! ช่างมันเถอะ! พรุ่งนี้ต้องเดินทางต่อ”
ชายหนุ่มกล่าวสบถกับตัวเองอย่างคนที่อารมณ์ยังไม่มั่นคงนัก แถมยังไม่ยอมสบตาคนที่พูดด้วยอีกต่างหาก นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ร่างบางจับสังเกตุอะไรได้
“จำเลยออดริคมีอะไรปิดบังศาลอยู่รึเปล่า?” หญิงสาวพยายามตะล่อมถามด้วยเสียงราวกับไนติงเกล
“ปะ.........เปล่านี่ ไม่มีอะไร”
“อ้อ.......ไม่มีเหรอ? ดีนี่ เพิ่งเข้าใจนะว่าคนเรามันไม่มีความเชื่อใจกันเลย”
“เหมือนกับว่าคุณให้ความเชื่อใจกับผมมากงั้นสิ ท่านหญิงแอร์แตนิเต้!!!!! ในเมื่อคุณเองยังไม่ไว้ใจและเชื่อใจใคร มันจำเป็นด้วยหรือที่ผมต้องไว้ใจคนที่ไม่เชื่อใจผมน่ะ”
ชายหนุ่มถึงกับฉุนกึกกับคำพูดเพียงคำเดียวของหญิงสาว ถึงกับตวาดและฉุดข้อมือบางนั้นให้ผู้พูดหันหน้ามามอง แอร์แตนิเต้ถึงกับตะลึง
ดวงตาสีเขียวมรกตส่อแววตกใจ ตาสบตา...............ไม่มีใครยอมหลบตากัน จนในที่สุดชายหนุ่มก็เป็นคนที่รู้สึกตัวก่อนและมีสีหน้าสำนึกผิด ยังที่ไม่ทันจะเอ่ยปากอะไรเสียงของหญิงสาวก็ดังขึ้นแทรกเสียก่อน
“ขะ..............ขอโทษ ที่พูดอะไรออกไปไม่ค่อยยั้งคิด ชั้น.....ไม่นึกว่าคุณจะโกรธขนาดนี้น่ะ แค่จะแหย่คุณเล่นเฉยๆน่ะ” พูดจบก็ช้อนตามองคนโกรธอย่างลุแก่โทษ
คนเงียบเข้าปกคลุมการสนทนาของทั้งสองได้เพียงชั่วครู่ ท่านผู้พิพากษาก็ดันแทรกขึ้นมากลางวงเสียเฉย
“ใจเย็นๆก่อนสิ โจทก์กับลูกขุนมาทะเลาะกันแบบนี้ก็แย่น่ะสิครับ พี่แอร์แตนิเต้ พี่ออดริค”
“เดี๋ยวเถอะ! เลโอ อยากโดนเขกกระโหลกหรือไงไอ้เด็กเวร!”
ยังไม่ทันขาดคำที่ชายหนุ่มจะสาวเท้าเข้าไปเขกกระโหลกของวิญญาณเด็กน้อยที่สวมบทผู้พิพากษา ก็ดันทรุดฮวบเพราะพิษไข้ตั้งแต่ทำท่าจะลุก
แอร์แตนิเต้ปราดเข้าไปช่วยพยุงกลับไปนอนที่กองฟางเหมือนเดิม พร้อมทั้งบ่นพึมพำของการดื้อมุทะลุไปทะเลาะกับเด็กของชายหนุ่ม เลโอได้แต่มองภาพนั้นแล้วยิ้มอย่างมีแผนการ
วิญญาณน้อยลอยไปหาแอร์แตนิเต้อย่างประจบ แถมขอตัวไปเดินเล่นข้างนองสูดอากาศบริสุทธิ์ ฝากดูแลชายหนุ่มเสร็จสรรพราวกับไม่อยากจากไปไหนแต่ดันสิ่งยิ้มมีเลศนัยไปให้ชายหนุ่มทันทีที่หญิงสาวหันหลัง
‘ผมช่วยได้เท่านี้แหละ ที่เหลือก็ช่วยตัวเองละกันนะครับ พี่ออดริค’
คิดเองเออเองเสร็จสรรพก็ลอยหายไป ( ความจริงไม่ได้ไปไหน แอบดูเค้าซะงั้น )
ส่วนทางด้านสองหนุ่มสาว...........................
“คุณพักซักหน่อยเถอะ ไข้จะขึ้นมากกว่าเดิมเพราะบาดแผลของคุณนะ”
“อืมม์.......”
เพียงไม่นาน ลมหายใจของคนเป็นไข้หมาดๆ ก็ทอดยาวอย่างสม่ำเสมอ หญิงสาวลอบมองอย่างระแวดระวัง คนเป็นไข้ก็ไม่ได้ให้ความร่วมมือกับเธอเลย ร่างสูงนอนกระสับกระส่าย ปัดผ้าคลุมออกจากตัวไปอย่างรำคาญ อากัปกริยานั้นพาลทำให้คนที่ต้องมาคอยดูแลรำคาญไปด้วยเหมือนกัน
“นี่คุณ! อย่าปัดผ้าออกสิ”
“อืมม์ ..........ร้อนจัง คันคอด้วย ฟางนี่มันตำคอผม”
“โอ๊ย! ป่วยแล้วยังเรื่องมากอีกแน่ะ คราวก่อนชั้นนอนไม่เห็นจะคันอะไรเลย ............................มานี่!” หญิงสาวก้าวไปทางกองฟาง จัดการดันศีรษะของคนป่วยหนุนบนตักของตัวเอง
“...................................................................... รู้ไหม แอร์แตนิเต้ บางครั้งผมก็คิดว่าถึงจะอธิษฐานไปก็รู้ว่าไม่มีวันเป็นจริง คุณเองก็คงมีบาดแผลที่ลบเลือนไม่ได้ บางทีผมก็อาจจะเป็นอย่างนั้นด้วย .....................จริงสิ วันนั้น ก็เงียบอย่างคืนนี้เช่นกัน วันนั้นเป็นวันพระจันทร์เต็มดวง ตอนนั้นผมอายุแค่ 12 มันเป็นคืนที่สงบ... สงบมากเกินไป เพียงไม่นานที่เสียงเกรี้ยวกราดระคนกับเสียงกรีดร้องโหยหวน ผมทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากหลบอยู่ในที่ซ่อนของปราสาทที่ท่านแม่พาผมมาซ่อน ได้แต่ตัวสั่นอยู่อย่างนั้น................................. แล้ว......... ก็เพราะเจ้าพวกนั้น ที่ทำให้คืนพระจันทร์เต็มดวงเป็นคืนที่ไม่อยากจดจำ”
“.......................................................”
“ผมจำไอ้พวกที่ฆ่าพ่อแม่ผมไม่ได้หรอก จำได้เพียงแต่คมดาบที่อาบเลือดเท่านั้น.............. พอรู้ตัวอีกที มือของผมก็เปื้อนเลือดเหมือนกับพวกมันไปแล้ว ผมฆ่าทุกคนที่พยายามเข้ามาใกล้ตัวผมมากจนเกินไป อาชีพของผมไม่ต่างจากรับจ้างฆ่า ............................. ความทรงจำที่นานที่สุดที่จำได้ก็คือผู้หญิงคนนึงที่ผมฆ่าไป ผมรู้สึกเหมือนกับว่าเคยเจอเธอมาก่อน เคยเจอเมื่อนานแสนนานมาแล้ว ผู้หญิงคนนั้นเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่มีแววตาอาฆาตแค้นเหมือนคนอื่นๆเลย เธอส่งยิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยนแล้วหยิบสร้อยลอกเกตออกมาไว้ในมือผม เธอบอกกับผมพร้อมๆกับร่างที่ชโลมด้วยเลือด
‘ออดริค....... เลือดและตราบาปทีคุณสร้างขึ้นน่ะ ไม่ใช่ความแข็งแกร่งที่แท้จริงหรอกนะ คุณจะไม่มีวันตาย........จนกว่าคุณจะหาคำตอบให้กับตัวเองได้ว่า คุณมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร อย่าลืมนะ.......ออดริค โลกนี้.....ตราบาปที่ไม่มีวันลบเลือนนั้นมีอยู่จริง แต่คนที่รักคนอื่นไม่เป็นน่ะ ไม่มีหรอกนะ................... หาคำตอบให้ได้ล่ะ แล้ววันนึง เราจะได้พบกันอีกครั้ง ’
นั่นล่ะ คำพูดสุดท้ายที่ผมได้ยินจากปากของเธอ ........ผม....ฆ่าพี่สาวของตัวเอง......
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผมก็ออกเดินทางเร่ร่อนไปเรื่อยๆ ย้ายจากที่นึงไปยังอีกที่นึง .......... ทุกๆครั้งที่มีบาดแผลหนักจนเจียนตาย ผมจะตื่นขึ้นพร้อมๆกับที่ไม่เหลือบาดแผลเลยซักรอย เพื่อชดใช้บาปที่ได้ก่อลงไป และหาคำตอบของสิ่งที่พี่ พูดทิ้งท้ายเอาไว้ บางอย่างบอกกับผมว่า คุณจะสามารถทำให้ผมรู้คำตอบนั้นได้ .......แอร์แตนิเต้ .......................................................”
หลังจากที่เรื่องราวจบลงคนที่เล่าเป็นน้ำไหลไฟดับก็หลับลงอย่างง่ายดาย อีกครั้งที่ลมหายใจของร่างสูงทอดยาวสม่ำเสมอ แอร์แตนิเต้ ทอดสายตามองคนที่หลับไม่ได้สติด้วยสายตาเศร้าสร้อย
“ขอบคุณ ขอโทษ และก็ราตรีสวัสดิ์นะ ..............ออดริค”
.....................................................................................................................................................................................
แล้วการลำลึกความหลังของเลโอก็ต้องจบลง เพราะคนที่ถูกรำลึกถึงดันเรียกขัดตาทัพซะก่อน
“เลโอ มานี่เร็วๆเข้า รีบๆเข้าแล้วก็ออกจากป่าเถอะ รีบเดินทางก่อนที่มันจะมืดดีกว่า”
“อ๊ะ.......... คร้าบบบบบบ!!!!!!!!! เดี๋ยวๆ พี่ออดริค นี่มันป่าที่ผมกับพี่แอร์แตนิเต้ หลงอยู่ข้างในนี่นา ไปทางอื่นไม่ได้เหรอ”
“นี่พวกเราก็อยู่ในป่านั้นแหละ เราเดินทางเข้าป่ามาตั้งหลายวันแล้วนะ เพียงแต่ว่าจะไปหลงอยู่ส่วนไหนของป่าต่างหาก มาเถอะ” ชายหนุ่มเดินนำทั้งหมดเข้าไปในส่วนที่เป็นป่าทึบ
“แหมๆ พี่ออดริคเนี่ยล่ะก็............ เมื่อคืนพูดอะไรออกไปบ้างก็ไม่รู้ ทำเป็นเสียงเข้มเชียววันนี้”
“อะไรของนายเลโอ อย่ามากวนประสาทแถวนี้ เดี๋ยวพ่อฆ่าซะหรอก”
“เพราะพิษไข้ ทำให้เผลอพูดสิ่งที่เก็บเอาไว้ในใจล่ะสิ “
“เลโอ นาย............”
“พอเถอะทั้งสองคน เลิกทะเลาะกันซักที จะได้ผ่านป่านี้ไปเร็วๆ”
“คร้าบบๆ”
เป็นเวลากว่าสามชั่วโมงที่พวกเขาเดินผ่านป่าทึบ แต่กลับไม่พบสัตว์ประหลาด หรือแม้แต่สัตว์ป่าซักตัวเลย ชายหนุ่มที่รู้สึกถึงความประหลาดตั้งแต่เดินมาได้ชั่วโมงกว่าๆกลับไม่พูดอะไรเลย
ในที่สุดความอดทนของผู้ร่วมเดินทางก็หมดลง แอร์แตนิเต้ เปรยขึ้นมาอย่างเหลืออด
“นี่คุณ! เราเดินเข้าป่ามาตั้งสามชั่วโมงแล้ว แต่ไม่เห็นจะมีวี่แววสัตว์ซักตัวเลยนะ คุณไม่แปลกใจอะไรเลยรึไง”
“รู้สึกสิ ผมรู้สึกแปลกใจมาตั้งนานแล้ว เพียงแต่ไม่พูดเท่านั้นเอง แต่นอกเหนือจากนั้น........... กลิ่นพวกนี้.............”
“กลิ่น?...............”
“ใช่ กลิ่นของดอกไม้...................... มาจากทางนั้น” ชายหนุ่มชี้ไปทางป่าที่ดูรกชัดยิ่งกว่าบริเวณที่อยู่
ที่นั่น....................
อะไรบางอย่างกำลังรอพวกเขาอยู่
?!?!?!
ความคิดเห็น