ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The legend of Banirmaure

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 3 : The Abandoned Town & Sacrifice

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ค. 50


    Chapter 3 : The Abandoned Town & Sacrifice

     

    อือ.........   เสียงครางอย่างได้สติของชายหนุ่ม   เมื่อการพยายามลืมตาด้วยความยากลำบากแล้ว  ชายหนุ่มก็พบว่าตัวเองถูกล่ามโซ่มือและเท้าทั้งสองข้างไว้ติดกับผนัง   ดาบและกริชที่ติดกายอยุ่เสมอก็หายไป   ข้างๆกายคือหญิงสาวที่หลับไม่ได้สติอยู่ที่พื้น


                “
    แอร์แตนิเต้....ๆ  เฮ้! คุณ    ตื่นซักทีสิ


                    แต่หญิงสาวกลับไม่มีปฏิกริยาโต้ตอบใดๆเลย   แต่เมื่อสังเกตุดูดีๆแล้ว  หญิงสาวมีรอยแผลเหมือนถูกทุบด้วยของแข็งอยุ่เหนือคิ้ว  น่าแปลก.................ที่บาดแผลนั้นกลับค่อยๆ  จางหายไปทีละนิด


               ‘
    คุณเป็นใครกันแน่   แอร์แตนิเต้........

     
                    เวลาผ่านไปได้สักครึ่งชั่วโมงได้  เมื่อเสียงเปิดประตูเปิดดังขึ้น  พร้อมกับการมาถึงของเด็กหญิงคนเดิม   ดวงตาเจ้าเล่ห์สีม่วงที่มองมามันช่างต่างกับคราวที่พบกันจริงๆ 


                 “
    โอ๊ะ........โอ  ท่านหญิงแห่งเบนีมัวยังไม่ตื่นอีกหรือนี่  แหม๊แหม!  ไม่น่าเชื่อเลยว่าเวลาผ่านไปไม่กี่ปี  แทนที่จะสะสมพลัง  แต่กลับพลังถดถอยไปมากเลยนะนี่    ดูซิ  แค่เวทมนต์สะกดชั้นกลางก็สลบเหมือดไปหลายชั่วโมงแล้ว.......

                   
                “นี่!  หนูน้อย.......เธอจับพวกเรามาทำไม

                   
                 “ถามได้ดีนะคะพี่ชาย    แต่ว่าขอสงวนสิทธิ์ไม่ตอบนะ   เอาล่ะ    ในเมื่อเจ้าหญิงยังไม่ฟื้นก็คงต้องรอกันไปก่อนล่ะ    เด็กหญิงสะบัดหน้าเดินไปอย่างสนุกสนาน    ด้วยท่วงท่าราวกับเด็กได้ของเล่น   เมื่อประตูเหล็กหนาปิดลง  และเสียงฝีเท้าค่อยๆเบาลงเรื่องๆแล้ว  หญิงสาวก็ผุดลุกขึ้นมาทันที

                   
                 “อะ.......อ้าว   แอร์แตนิเต้  ตื่นแล้วเหรอ  เป็นยังไงมั่งล่ะคุณ  หลับสบายมั๊ย

                   
                  “บ้าเหรอ.........นี่มันไม่ใช่เวลามาล้อเล่นนะ     รีบช่วยกันหาทางออกจากที่นี่กันเถอะ   ก่อนที่จะถูกทำอะไรแปลกๆ

                   
                      
    ทำอะไรแปลกๆของคุณน่ะหมายถึงอะไรล่ะ  แอร์แตนิเต้  


                    “
    ก็อย่างเช่น  เอาไปบูชายัญ    เอาร่างไปเป็นหุ่นสต๊าฟอะไรประมาณนี้น่ะ  หญิงสาวพูดพลางพยายามถอดโซ่ที่ล่ามไว้ออก


                   “
    ฮ่าๆ  คิดได้ยังไงน่ะคุณ   ฮาชะมัดยาด   สมองซีกขวาคุณท่าจะหยักอย่างรุนแรงนะเนี่ย      ถึงได้คิดอะไรได้บรรเจิดขนาดนี้  ชายหนุ่มหัวเราะเสียดังลั่นห้องขัง


                  “
    เหรอ.........  งั้นคุณพอจะมีคำอธิบายเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นมั๊ย?


                  “
    ถ้ามีผมคงไม่ต้องถามคุณหรอก   แต่ว่านะ  โซ่นั่นน่ะ  คุณจะเอามันออกได้รึไง  ถึงได้พยายามดึงมันอยู่เนี่ย   ดูซิ.........  ข้อเท้าคุณแดงไปหมดแล้ว


                 “
    แล้วจะให้ทำยังไงล่ะ...........   ถ้ามัวแต่อยู่นิ่งๆ  มีหวังคงเสร็จกันพอดี


                 “
    แล้วเด็กคนนั้นมันอะไรกันล่ะนั่น...........  รู้สึกว่าเค้าจะรู้จักคุณด้วยนะแอร์แตนิเต้


                  “
    เด็กคนนั้นเป็นแม่มด ..............


                 “
    หะ.........หา?


                  “
    แม่มดยังไงล่ะ     แต่ไม่ใช่พวกที่เรียนมาอย่างแม่มดหรอกนะ    เป็นคนธรรมดาที่แอบฝึกเวทมนต์ต้องห้ามยังไงล่ะ    คนที่ทำอย่างนั้นจะทำให้ร่างกายหยุดโตไป   แล้วก็ต้องหาพลังงานชีวิตมาทดแทนเวทมนต์ที่ใช้ไปอยู่เรื่อยๆยังไงล่ะ     และคุณ............ก็เป็นหนึ่งในพลังงานที่ว่าซะด้วยสิ


                 “
    คุณรู้ได้ยังไ? หรือว่า............


                “
    ไม่ใช่ย่ะ  ........................!!   เลโอ!   ตามหาพวกเราเจอได้ยังไงน่ะ


                “
    ผมตามหาพี่ทั้งสองคนซะมั่วหมู่บ้านเลย   แต่ก็ไม่เจอ    จนมาเห็นต่างหูของพี่แอร์แตนิเต้หล่นอยู่หน้าบ้านหลังนี้  ผมถึงได้ตามมาดูยังไงล่ะครับ


                 “
    จริงสิ!  เลโอ นายไปแอบสำรวจที่นี่ให้หน่อย  อย่าให้ใครเห็นนะ   หายตัวให้แนบเนียนหน่อยล่ะ   แล้วก็ไปหาวิธีออกจากที่นี่มาอย่างด่วนเลยนะ


                  “
    รับทราบครับ  พี่ออดริค!”


                   “
    เดี๋ยว!  เลโอ  อย่าลืมหาทางสืบมาด้วยว่าคนในหมู่บ้านหายไปไหน  แล้วก็หาทางช่วยให้ได้มากที่สุดนะ  ................แล้วก็อย่าลืม.........ย้อนกลับมาด้วยล่ะ


                        เด็กชายที่กำลังจะตั้งท่าหายไปกับกำแพงหันมายิ้มให้กับหญิงสาวที่สำทับขึ้นมา  แล้วก็หายตัวไป


                 “
    เฮ้อ........  ดีนะที่เจ้าเลโอมันไม่ได้ถูกจับ  ไม่งั้นคงซี้แหงแก๋  ว่าแต่.................คุณยังไม่ได้ตอบคำถามผมเลยนะว่าคุณรู้ได้ยังไงแอร์แตนิเต้............


                    “
    .................................   ดวงตาไงยังไงล่ะออดริค  เด็กคนนั้นมีดวงตาสีม่วง    สีของเวทมนต์    แล้วก็ดูจากการที่เธอพาตัวชั้นมาที่นี่ยังไงล่ะ


                   “
    ..................?


                   “
    ก็.................หมายความว่า  ตามปกติแล้ว  คนที่แตะตัวชั้นมักจะตายลงอย่างไม่ทราบสาเหตุ   ส่วนรายละเอียดคุณไม่จำเป็นต้องรู้    แต่ว่าเด็กคนนี้กลับพาชั้นมาได้โดยที่ไม่เป็นอะไรเลย


                 “
    แล้วทำไมผมแตะตัวคุณแล้วถึงไม่เป็นอะไรเลย


               “
    เรื่องนั้นชั้นก็ไม่รู้เหมือนกันนั่นแหละ..................    ว่าทำไมคุณถึงไม่เป็นอะไรเลย


                “
    คุณเป็นใครกันแน่แอร์แตร์นิเต้ ............?  ชายหนุ่มถามหญิงวาวด้วยความพิศวง  แต่ก่อนที่จะได้ตอบอะไร  ประตูบานหนาก็เปิดขึ้นอีกครั้ง  พร้อมกับการมาถึงของเด็กหญิงคนเดิม


                    เด็กหญิงโน้มตัวลงถอนสายบัวอย่างงดงาม   แต่เมื่อเงยหน้าขึ้น   แอร์แตนิเต้ก็ต้องสบตากับดวงตาสีม่วงไร้ขอบเขตอีกครั้ง  เด็กหญิงแสยะยิ้มอย่างน่ากลัวพร้อมๆกับกล่าวทักทาย


                 “
    สวัสดีค่ะ  ท่านหญิงแอร์แตนิเต้..........   พอใจกับการต้อนรับของชั้นมั๊ยล่ะ   นี่น่ะ VIP เลยนะ    ก็รู้ๆกันอยู่ว่าไม่ค่อยจะมีใครที่ต้องลงเวทย์ไว้กับโซ่นั่นเลย     คุณน่าจะรู้สึกเป็นเกียรตินะ.........หึ!   ที่ในไม่ช้า  ก็จะได้เป็นส่วนหนึ่งของร่างกายนี้แล้ว หึๆ   อ้อจริงสิ  ยังไม่ได้แนะนำตัวเลย   .........เสียมารยาทต่อท่านหญิงจริงๆ    ชั้น เซซิล     มอร์ทดาวิลยินดีรับใช้ท่านหญิงแอร์แตนิเต้     ดิเยอร์   เรอเวอนอง


                    “
    ก่อนอื่นคงต้องขอให้ท่านหญิงตามมาก่อนแล้วล่ะ  เด็กหญิงยิ้มให้แอร์แตนิเต้พลางดีดนิ้ว  ทันใดนั้นโซ่ที่พันธนาการข้อเท้าเอาไว้ก็หายไป  แต่กลับปรากฏโซ่ที่ข้อมือแทนที่


                   “
    กันไว้ก่อนยังไงล่ะ  นี่เป็นโซ่สะกดพลัง  ทีนี้ก็หมดทางหนีอย่างไม่ต้องสงสัย...........หึหึหึ  พูดจบเด็กหญิงก็เดินนำแอร์แตนิเต้หายเข้าไปจากประตูบานหนานั้น


                  “
    เซซิล    เธอมีจุดประสงค์อะไรกันแน่   ตามความเป็นจริงแล้วเธอไม่สามารถดูดเอาพลังงานชีวิตจากชั้นได้อยู่แล้วนี่   แล้วเธอจะจับชั้นมาทำไม


                   “
    ...................เดี๋ยวก็ได้รู้................................  เด็กหญิงหันมาแสยะยิ้มให้  แล้วก็หันหลังเดินนำต่อไปโดยไม่ได้หันไปสนใจดวงตาสีมรกตที่กำลังครุ่นคิดอย่างหนัก


                    ‘
    เราจะหาทางหนียังไงดีนะ  แอร์แตนิเต้ได้แต่คิดอยู่ในใจ  และแล้วสายตาก็หันไปเจอกับใครคนหนึ่ง  เธอส่งสัญญาณทางสายตาด้วยความดีใจ     โอกาสหนีของเธอกับชายหนุ่มคงไม่ยากนักหรอก..........


                 “
    นี่!  มองอะไรอยู่ เด็กหญงผมแดงเอี้ยวตัวมาถามด้วยสายตาจับผิด


                 “
    ปะ.....เปล่าหรอก  เพียงแต่ว่าหุ่นตัวนี้น่าสนใจดีน่ะ เหมือนคนจริงๆเลย


                  “
    หึๆ  ก็คนจริงๆไงล่ะ  คนที่ถูกชั้นดูดพลังไว้ ดูเสร็จรึยังล่ะ  จะได้เดินต่อ

     
                “อืม......เสร็จแล้ว แอร์แตนิเต้ตอบพลางฝืนยิ้มเต็มที่ ในใจก็นึกเพียงว่า อย่าให้หลุดไปได้ละกัน  ยัยเด็กแก่แดด


                    ทั้งสองคนเดินผ่านทางเดิน  ประตู  แล้วเดินขึ้นลงบันได  ผ่านช่องทางหลายต่อหลายครั้ง   แทบจะนับได้ว่าเป็นเขาวงกตขนาดย่อมเลยทีเดียว  แอร์แตนิเต้สังเกตุได้ว่า   ทางเดินที่เธอเดินผ่านนั้นค่อยๆมืดแสงลงทุกที  จนในที่สุด  เด็กหญิงด้านหน้าก็มาหยุดอยู่ที่ประตูไม้ฮอกกานีสลักเสลาด้วยลายวิจิตรบานหนา  หญิงสาวได้กลิ่นธูปหอมและควันไฟจากในห้องนั้น  แล้วประตูก็เปิดขึ้นทีละนิด

     

    ................................................................................................................................................................................

                   

                เวลาผ่านไปพียงแค่ครึ่งชั่วโมง    แต่สำหรับชายหนุ่มที่ต้องรออย่างกระวนกระวายแล้วมันเหมือนกับผ่านไปเนิ่นนานเลยทีเดียว    สักพักชายหนุ่มก็สังเกตุเห็นว่าเลโอมาถึงแล้ว  

                   
                   
    ได้เรื่องว่ายังไงบ้างเลโอ ชายหนุ่มถามอย่างร้อนใจ

                   
                   
    คืองี้ครับพี่ออดริค   ยัยแม่มดนั่นจับคนในหมูบ้านไปเพื่อดูดเอาพลังงานชีวิตแล้วก็สต๊าฟกลายเป็นหุ่นเก็บไว้ในห้องใต้ดินที่อยู่ลึกมากๆจนผมเกือบหลงทางแน่ะ   ยังดีที่ผมเจอกับพี่แอร์แตนิเต้ระหว่างทาง...........  ต้องขอบคุณพี่เค้าจริงๆที่บอกวิธีแก้คำสาปให้ผมก่อนหน้านั้น   ผมเลยช่วยทุกคนในหมู่บ้านได้แล้ว  เพียงแต่พวกเค้าต้องหาทางออกจากปราสาทเองเนี่ยแหละ

                  
                    
    วิธีแก้คำสาป.............?งั้นเหรอ   อะไรน่ะเลโอ

                   
                    
    ก็ ย้อนกลับ  ไงล่ะครับ  ผมไปเจอห้องใต้ดินพร้อมกับคาถาประหลาดๆที่น่าจะใช้สะกดพลังและก็สะกดวิญญาณของพวกชาวบ้านไว้  ผมก็เลยฉุกคิดถึงคำพูดของพี่เค้าว่า  ย้อนกลับ  แล้วก็อ่านคาถาแบบภาษาอังกฤษย้อนกลับดู  ปรากฏว่าคาถาคลาย    ตอนนี้พี่เค้าคงกำลังจัดการกับยายแม่มดนั้นอยู่ล่ะมั้ง  เลโอยืดอกพูดด้วยความภูมิใจในที่ตัวเองดูเหมือนจะมีประโยชน์กับเค้าบ้าง   โดยไม่ได้สังเกตุเลยว่าชายหนุ่มมีสีหน้าซีดลงทุกครั้งที่ฟัง

                   
                    “ว่าไงนะ!!!!!!  นายจะบ้าเหรอเลโอ   จัดการอะไร  แอร์แตนิเต้เค้าโดนล่ามโซ่สะกดพลังอยู่   รีบหาทางเอาชั้นออกไปเร็วเข้า  ก่อนที่มันจะสายเกินไป

     

    ......................................................................................................................................................................................................

     

                    ขณะเดียวกัน...............อีกด้านหนึ่งของเมือง    หญิงสาวก็ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาหนักเลยทีเดียว   โซ่สะกดพลังนั้นถูกปลดแล้วก็จริง  แต่หญิงสาวกลับถูกดูดพลังเวทย์ไปพอสมควรเลยทีเดียว


                 “
    หมดน้ำยาแล้วหรือคะท่านหญิงแห่งเบนีมัว   แหมไม่นึกว่าผู้ที่มีวิญญาณของเจ้าหญิงหิมะแห่งเบนีมัวสิงสถิตอยู่จะมีน้ำยาเพียงแค่นี้   เด็กหญิงผมพองฟูกล่าวเยาะเย้ยกับร่างบอบบางที่อยู่แทบเท้า


                 “
    อย่าเพิ่งดีใจไปเลยเซซิล  เวทย์ของเจ้าที่สะกดพลังของชั้นก็คงอยู่ได้ไม่นานหรอก  แอร์แตร์นิเต้เงยหน้ามาพูดกับเซซิลด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มถึงแม้จะดูซีดเซียวก็ตามที


                    ทันใดนั้น  ห้องโถงที่กว้างขวางแลดูมั่นคงนั้นกลับสั่นไหวราวกับจะพังครืนลงมา   เซซิลถึงกับสะดุ้งเฮือกกับความรู้สึกเปลี่ยนแปลงภายในร่างกาย


                “
    ดูเหมือนว่าการพยายามใช้พลังเวทย์สะกดพลังชั้นไว้จะทำให้แบตเตอร์รี่ที่มีขีดไม่เต็มจะถูกใช้ไปจนหมดนะ


                “
    แก..........   แกทำอะไรกับคนพวกนั้นนะ  บอกมาว่าแกปล่อยพวกเค้าไปได้ยังไง …….“  ดูเหมือนว่าความโกรธแค้นจะทำให้อาการเสแสร้งของเด็กหญิงหายไป  แม้แต่สรรพนามที่ใช้เรียกก็เปลี่ยนไปด้วย   พลังเวทย์ที่สะกดพลังของแอร์แตร์นิเต้สลายไปแล้ว   


                     วงแหวนเวทสีแดงราวกับโลหิต ปรากฏอยู่รอบๆร่างกายของแอร์แตนิเต้   ก่อนที่ร่างกายของหญิงสาวจะส่องแสงเรืองรองจนทำให้คนที่มองอยู่รู้สึกตาพราไปชั่วขณะหนึ่ง


                     .............  กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
    !!!!   เสียงหวีดร้องดังก้องทั่วไปทั้งห้องโถงกว้างเมื่อผู้ที่ปรากฏตรงหน้าเด็กหญิงไม่ใช่หญิงสาวผมดำขลับนัยน์ตาสีมรกตเม็ดโต  แต่กลับเป็นหญิงสาวที่แลดูสวยอย่างเลือดเย็น   เส้นผมและดวงตาเป็นสีขาวใสมีประกายงดงามราวกับน้ำแข็งที่จับต้องไม่ได้


                    นั่นเป็นภาพสุดท้ายที่เซซิลได้เห็นก่อนที่ทุกอย่างจะขาวโพลนไปหมด

     

    ....................................................................................................................................................................................................

                   
                   
    เมื่อชายหนุ่มมาถึงห้องโถงตามการนำทางของเลโอก็พบเพียงแต่หญิงสาวนอนสลบอยู่ใจกลางห้องโถงใหญ่หน้าแท่นประกอบพิธีกรรม   เยื้องไปไม่ไกลคือซากร่างแห้งเหี่ยวที่ยังดูร้อนกรุ่นอยู่เพราะมีไอโชยขึ้นมาเป็นระยะ  เพดานสูงและเสาต้นใหญ่สั่นคลอน  พร้อมที่จะถล่มในไม่ช้า

      
                   
    ชายหนุ่มรีบวิ่งไปประคองอุ้มหญิงสาวที่ไม่ได้สติขึ้นมา  เมื่อเข้าไปใกล้กลับทำให้รู้ว่าไอที่พวยพุ่งมาจากซากนั้นไม่ใช่ไอความร้อนแต่เป็นความเย็นยะเยือกต่างหาก   แต่ทว่า.........  สถาพแวดล้อมในตอนนี้ไม่เอื้ออำนวยให้สงสัยหรือหาข้อมูลเกี่ยวกับหญิงสาวในอ้อมแขนมากนัก  ชายหนุ่มจึงตัดใจอุ้มหญิงสาวลัดเลาะมาตามทางเดิมพร้อมกับเลโอ

     
                   
    ระหว่างทางที่ต้องอุ้มหญิงสาวไว้แนบกับกาย  ชายหนุ่มกลับไม่ได้ยินหรือรู้สึกถึงชีพรจรของการมีชีวิตอยู่ทั้งๆที่ยังมีลมหายใจในตัวหญิงสาว   นั่น..........เป็นอีกหนึ่งในปริศนาในตัวของหญิงสาวที่เขาไม่มีวันเข้าใจ

     
                  
    คุณเป็นใครกันแน่แอร์นิเต้ ชายหนุ่มรำพันกับร่างในอ้อมแขน

     
                  
    ไม่มีคำตอบใดๆเล็ดลอดออกมา  แต่ทว่าร่างเล็กที่จมลงสู่ห้วงนิทรากลับมีประกายรื้นที่หางตา

    .................

    ขอโทษที่ดองนานไปหน่อยนะค๊า

    ช่วยเม้นหน่อยน๊า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×