คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ 8
มุกดารากำลังเตรียมตัวเพื่อจะเล่นละครเวทีสุดท้าย ซึ่งรอบนี้มีความสำคัญมากเพราะหนึ่งในรัฐมนตรีชื่อดังของเมืองไทยที่เป็นหนุ่มโสดเหมารอบการแสดงนี้
การแสดงละครเวทีในค่ำคืนนี้เป็นรอบสุดพิเศษนี้นางเอกสาวจึงทุ่มเทแรงกายแรงใจกับบทบาทที่ได้รับจนผู้ชมที่นั่งดูอยู่ที่หน้าเวที ต่างก็ลุกขึ้นปรบมือแสดงความชื่นชมกับบทบาทที่เธอแสดง ทีมงานวิ่งมาตะโกนหลังฉากให้เหล่านักแสดงออกไปที่หน้าเวทีอีกครั้ง
“โชว์ตัวอีกครั้งค่ะ คนดูยังปรบมือไม่เลิกเลย” มุกดารารู้สึกชื่นใจกับผลงานที่เธอได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ชม หลังจากที่เสร็จสิ้นทุกอย่างแล้ว หญิงสาวก็ได้รับคำเชิญพิเศษจากเจ้าภาพใหญ่ที่เหมาบัตรเข้าชมในรอบนี้
“นะคะ น้องมุก ช่วยพี่สักครั้งไปทานข้าวกับท่านหน่อย” ทีมงานคนเก่งอ้อนวอน
“มีอะไรเหรอคะ ทำไมต้องไปทานข้าวด้วย”
ปกติเธอเป็นนางเอกที่ไม่ค่อยอยากจะเกี่ยวพันกับใคร ที่จะทำให้ชื่อเสียงในวงการเสื่อมเสียสักเท่าไรนัก อีกทั้งเธอก็ไม่ได้รู้จักกับท่านรัฐมนตรีคนนี้มาก่อน
“ท่านบอกว่าชอบที่น้องมุกแสดงมาก เลยอยากจะเลี้ยงข้าวตอบแทน”
“ไปกันทุกคนสิคะ แค่สี่สิบกว่าชีวิตขนหน้าแข้งท่านคงไม่ร่วงหรอก”
มุกดาราพยายามพูดให้ดูตลกเข้าไว้ เธอไม่ไว้ใจในการไปทานข้าวครั้งนี้ ข่าวครึกโครมที่นางเอกไปทานข้าวกับผู้มีอำนาจดับอนาคตด้านการแสดงมานักต่อนักแล้ว หญิงสาวไม่มีวันยอมให้มันเกิดขึ้นกับตนเองแน่
“โธ่ น้องมุก ท่านอุตส่าห์เหมารอบนี้เพื่อมาดูน้องมุกคนเดียวเลยนะคะ” ทีมงานหน้าเศร้าที่กล่อมนางเอกสาวไม่สำเร็จ
“มุกเล่นได้โดนใจแบบนั้นก็เพราะคนอื่นส่งอารมณ์ให้ ถ้าไม่มีพวกเขามุกก็เล่นไม่ได้เหมือนกัน ฝากไปบอกว่าถ้าจะเลี้ยงก็ช่วยเลี้ยงทั้งหมดนะคะ” มุกดารายิ้มแล้วสะพายกระเป๋าหอบข้าวของส่วนตัวกลับออกไปทันที ทิ้งให้ทีมงานนั่งถอนหายใจว่าจะไปตอบคำถามอย่างไรดี
นางเอกคนดังลงมาที่ลานจอดรถพร้อมข้าวของที่พะรุงพะรัง ระหว่างที่เปิดท้ายจะเก็บของนั้นกระเป๋าสะพายที่ถือก็มีชายฉกรรจ์ชิงเอาไปหน้าตาเฉย
“ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย ขโมย” มุกดาราตะโกนร้องให้คนช่วย รีบวิ่งตามคนร้ายไปทันที
“ช่วยด้วยค่ะ กระเป๋าฉัน” นางเอกสาวขอความช่วยเหลือจากชายชุดซาฟารีสีดำที่กำลังเดินมา
“มีอะไร คุณ” พฤกษ์ได้ยินเสียงร้องของนางเอกสาวจึงรีบวิ่งมาดู
“มันเอากระเป๋าฉันไป” มุกดาราพูดพลางหอบ
“คุณรออยู่ที่รถผม เดี๋ยวผมมา” พฤกษ์รีบวิ่งตามไปทันที
เจ้าหัวขโมยจนมุมไม่มีทางไป มันหันรีหันขวางจะทำอย่างไรดี เสียงฝีเท้าที่ชายชุดดำวิ่งตามมาทำให้มันตัดสินใจวิ่งไปอีกทาง
“หยุดนะ!” พฤกษ์เห็นคนวิ่งผ่านตาไปด้วยความรีบร้อน “หยุด!” ทนายหนุ่มกระโจนถึงตัวหัวขโมย
สองคนประเคนหมัดศอกสู้กันอย่างไม่มีใครยอมใคร พฤกษ์โดนมันสวดกลับมาจนหน้าตาบูดบวม ในขณะที่มันก็เจ็บตัวไม่น้อย ชายชุดซาฟารีสีดำวิ่งตามมาสมทบและจัดการกับเจ้าหัวขโมยนั่นอีกแรง
กระเป๋าของมุกดาราหล่นจากมือหัวขโมย ชายชุดซาฟารีถือกระเป๋าไว้ได้ ในขณะที่หัวขโมยโดนพฤกษ์เล่นงานจนหมอบและถูกจับกุมได้ นางเอกสาววิ่งมาถึงที่เกิดเหตุพอดี เจ้าหัวขโมยเกิดฮึดขึ้นมาคว้ามีดคัตเตอร์หมายจะทำร้ายหญิงสาว
“ระวัง” พฤกษ์ร้องเรียกเสียงดังพร้อมกับกระชากนางเอกคนสวยให้พ้นจากคมมีด
“พฤกษ์” มุกดาราตกใจเมื่อเห็นที่แขนเขามีเลือดออก ชายชุดซาฟารีสีดำประเคนทั้งหมัดทั้งเท้าเล่นงานเจ้าหัวขโมยจนลงไปนอนจุกที่พื้น เสียงเอะอะที่เกิดขึ้นเรียกความสนใจจากคนที่อยู่บริเวณนั้นได้พอควร
“เกิดอะไรขึ้น” เสียงทรงอำนาจของชายหนุ่มวัยกลางคนถามขึ้น
“ขโมยครับนาย” ชายชุดซาฟารีสีดำตอบอย่างนอบน้อม
“กระเป๋าคุณผู้หญิงครับ” ชายคนเดิมตอบ เจ้าของกระเป๋าคือนางเอกคนดังที่ปฎิเสธการไปทานข้าวมื้อค่ำด้วย และตอนนี้กำลังประคองผู้ชายคนหนึ่งที่บาดเจ็บที่แขนอยู่
“จัดการทางนี้ให้เรียบร้อย พาคนเจ็บไปโรงพยาบาลก่อน” รัฐมนตรีหนุ่มสั่งการ
โชคดีที่บาดแผลของพฤกษ์ไม่ลึกเท่าไรทำให้ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล คุณหมอทำแผลให้และอนุญาตให้กลับไปพักฟื้นที่บ้านแต่ต้องมาล้างแผลทุกวัน
“ขอบคุณท่านมากนะคะ ที่เป็นธุระให้” มุกดารายกมือไหว้ขอบคุณท่านรัฐมนตรีหนุ่มที่เพิ่งรู้จักกันเป็นการส่วนตัวครั้งแรก
“ไม่เป็นไรครับ ผมทำตามหน้าที่” ท่านอำนาจยิ้มให้นางเอกสาวด้วยสายตาเป็นมิตร ตอนอยู่บนเวทีว่าสวยแล้วไม่คิดว่าได้อยู่ใกล้ๆจะสวยจับใจขนาดนี้
“คนเจ็บกลับบ้านได้ไหมครับ หรือว่าให้คนของผมไปส่ง” ท่านยังห่วงใยมาถึงทนายหนุ่ม
“ไม่เป็นไรครับ ผมกลับเองได้ ขอบคุณท่านมาก” พฤกษ์เกรงใจท่านรัฐมนตรี
“เดี๋ยวฉันไปส่งคุณเอง” มุกดาราอาสา อยากตอบแทนที่พฤกษ์ต้องมาเจ็บตัวเพราะตน
“ผมว่าให้คนของผมไปส่งดีกว่า เรื่องรถเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าผมจัดการให้รถคุณสองคนไปถึงที่ ถ้าไงนี่ก็ดึกมาแล้วไม่ต้องย้อนไปย้อนมาหรอกครับ ผมไปส่งทุกคนที่บ้านดีกว่า” ท่านรัฐมนตรีจัดการเสร็จสรรพ
รัฐมนตรีอำนาจไปส่งมุกดาราที่คอนโดก่อนเป็นคนแรก นางเอกสาวได้รับคำเชิญไปทานข้าวเป็นการตอบแทนสำหรับเรื่องวันนี้
“คราวนี้ผมคงไม่ต้องเลี้ยงอีกสี่สิบคนที่เหลือใช่ไหมครับ” รัฐมนตรีหนุ่มพูดติดตลก
“ค่ะ มุกต้องขอโทษด้วย แต่ถ้าไม่รู้จักมุกก็ไม่กล้าเสี่ยง” นางเอกสาวพูดตรงไปตรงมา
“แบบนี้เรียกว่ารู้จักได้หรือยังครับ” ท่านส่งสายตาแสดงความพอใจบางอย่างออกมา
“ขอบคุณนะคะ แล้วไว้มุกว่างจะติดต่อไป” มุกดาราไม่ตอบ ยกมือไหว้รัฐมนตรีหนุ่มอีกครั้งก่อนจะขอตัวกลับไปที่คอนโด
พฤกษ์รู้สึกแปร่งๆ กับท่าทางที่รัฐมนตรีอำนาจแสดงออกมากับนางเอกสาว หวังว่าคงไม่ใช่ประเภทที่เป็นข่าวซุบซิบตามหน้าบันเทิงเหมือนคนอื่นหรอกนะ ทนายหนุ่มกล่าวขอบคุณพร้อมแลกนามบัตรของตนทิ้งไว้กับคนที่มาส่ง
“ขอบคุณมากนะครับ” พฤกษ์ขอบคุณจากใจจริง
“ครับ คุณพฤกษ์ นิยมสุข โอ้ คุณศักดิ์ นิยมสุขคือ..” ท่านอำนาจแปลกใจกับนามสกุลที่คุ้นตานี้
“พ่อผมเองครับ ท่านรู้จักด้วยเหรอ” พฤกษ์กล่าวยิ้มๆ
“ทำไมจะไม่รู้จักฝ่ายการตลาดมือทองของเอเอสคอนสตรัคครับ แหม ไม่คิดเลยว่าโลกจะกลมขนาดนี้ คุณศักดิ์ดีลงานกับผมมาตั้งแต่ยังไม่เล่นการเมืองเลย”
พฤกษ์ยิ้มอยู่ในที ไม่ยักรู้ว่าบิดาก็รู้จักคนใหญ่คนโตกับเขาเหมือนกัน เห็นทีว่าการเจ็บตัวในวันนี้จะทำให้อะไรๆ ที่หวังง่ายขึ้นเสียแล้ว
“ถ้าแบบนี้ก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลกันแล้วล่ะครับ ไว้มีโอกาสเราค่อยนัดทานข้าวกัน ผมเองก็อยากเจอคุณศักดิ์อยู่เหมือนกัน” รัฐมนตรีหนุ่มพูดอย่างอารมณ์ดี
“ยินดีครับ แล้วพบกันใหม่” พฤกษ์ตอบรับทันที
รถคันหรูของรัฐมนตรีเนื้อหอมออกจากบ้านพักของชายหนุ่มไปแล้ว พฤกษ์ผ่อนลมหายใจตนเองออกมายาวๆ ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่าทำไมโลกนี้ช่างบังเอิญเหลือเกิน เขาอุตส่าห์หาบัตรละครเวทีรอบนี้เพื่อหาจังหวะทำความรู้จักกับนายอำนาจโดยหวังให้รุ่นพี่เป็นสะพานเชื่อมให้ กลายเป็นว่าไม่ต้องอาศัยสะพานเชื่อมไปทำความรู้จักกับรัฐมนตรีคนดัง แต่สถานการณ์ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น หวังว่าสิ่งที่คิดจะให้ท่านคนนี้ออกหน้าให้คงไม่ผิดหวัง
ใบหน้าหวานของนางเอกสาวซ้อนขึ้นมาทันที มุกดาราอาจช่วยเขาได้เพราะท่าทีสนใจนางเอกคนสวยอย่างออกนอกหน้าเป็นอีกทางหนึ่งที่พฤกษ์อาจจำเป็นต้องพึ่งในอนาคต
พฤกษ์เอาข่าวดีเรื่องรัฐมนตรีอำนาจไปเล่าให้อรพิมฟังแต่เช้าตรู่ หญิงสาวดีใจที่งานคืบหน้าแต่ก็อดเป็นห่วงที่ชายหนุ่มต้องเจ็บตัวเพราะช่วยเหลือมุกดาราไว้ไม่ได้
“ทีหลังอย่าเอาตัวไปเสี่ยงขนาดนี้” อรพิมกลัวว่าคราวหน้าจะไม่ใช่แค่คนวิ่งราวธรรมดา พฤกษ์อาจจะไม่เจ็บตัวแค่นี้
“ถ้าเสี่ยงแล้วได้งานก็คุ้ม” พฤกษ์ไม่ยี่หระกับบาดแผลแค่นี้
“แล้วพฤกษ์จะทำยังไงต่อไป”
“ก็รอ”
“รออะไร”
“รอเวลาที่สะพานจะทอดไปหาเป้าหมายน่ะสิ”
“พฤกษ์ ถ้าพบท่านได้นัดให้พิมด้วย พิมจะไปพบท่านด้วยตนเอง” อรพิมคิดว่าเรื่องนี้เธอควรไปเจรจาของความช่วยเหลือกับรัฐมนตรีอำนาจด้วยตนเอง จึงจะวางใจว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามแผน
“เฮ้ย อย่าดีกว่า ผมว่าให้ผมจัดการแทนดีกว่า” ชายหนุ่มบ่ายเบี่ยง
“ทำไม”
พฤกษ์ไม่รู้ว่าจะอธิบายให้เจ้านายสาวเข้าใจได้อย่างไร คนอย่างเขาถ้าจะพบใครหรืออยากรู้จักใคร ทนายหนุ่มมีเส้นสายที่สามารถรู้ลึกว่าคนๆ นั้นเป็นอย่างไร นิสัยใจคอหรือมีรสนิยมแบบไหน
รัฐมนตรีอำนาจเป็นบุคคลที่มีผลประโยชน์สำหรับเรื่องสำคัญที่กำลังทำ แต่เป็นตัวอันตรายสำหรับผู้หญิงทุกคนที่เข้าใกล้ จะมีก็แต่แม่นางเอกสาวที่น่าจะรับมือไหวเพราะพอจะมีประสบการณ์โชกโชนมาบ้าง
“อย่าดีกว่า เดี๋ยวคุณฉัตรเล่นงานผม” พฤกษ์เอาทรงฉัตรมาอ้าง
“เกี่ยวอะไรกับคุณฉัตร” อรพิมหน้าแดงเล็กน้อย เมื่อเอ่ยถึงผู้ชายที่เริ่มมีอิทธิพลในชีวิตเธอ
“อ้าว เขาคงไม่ชอบให้ภรรยาตัวเองถูกผู้ชายคนอื่นจีบต่อหน้ามั้ง เรื่องแบบนี้มันต้องให้คนมีฝีมือจัดการ คุณพิมรอฟังข่าวดีกว่า”
ทนายหนุ่มรู้ดีว่าอีกไม่ช้าเขาจะได้พบกับท่านรัฐมนตรีหนุ่มคนนั้นอีกเป็นแน่ และคนที่จะทอดสะพานให้ได้พบก็คงไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากมุกดารา แม่นางเอกตาใสที่เริ่มทำตัวเป็นประโยชน์ในสายตาพฤกษ์บ้างแล้ว
มุกดาราสำรวจความเรียบร้อยก่อนจะออกจากคอนโดไปพบนัดสำคัญในค่ำคืนนี้ หลังจากที่งาน ละครเวทีสิ้นสุดลงเธอก็ได้มีโอกาสพักร้อนให้ตัวเองหนึ่งสัปดาห์ก่อนจะเปิดกล้องละครเรื่องใหม่ที่รับไว้ ระหว่างนั้นอดคิดถึงคำพูดของคุณทิพย์ที่เพิ่งไปพบมาในวันนี้ไม่ได้
‘หนูมุกช่วยแยกตาฉัตรออกจากแม่นั้นหน่อย คราวนี้เอาแบบชัดเจนเลยแม่จะคอยสนับสนุน หรือถ้าหนูไม่รังเกียจจะย้ายจากคอนโดมาพักที่นี่ก็ได้นะ ทำยังไงก็ได้ให้เด็กนั้นมันกระเด็นออกไปจากชีวิตตาฉัตร พอมันไปแล้วหนูมุกกับลูกชายแม่ก็จะได้ลงเอยกันซะที’
แผนที่จะทำให้อรพิมกระเด็นออกไปจากชีวิตทรงฉัตร จากการวางแผนของคุณทิพย์ ทำให้มุกดารารู้สึกว่าหากทำตามที่คุณทิพย์ต้องการแล้ว ความเป็นมุกดาราที่วางตัวมาคงหมดสิ้นกันแน่ อีกทั้งงานนี้ก็ไม่เห็นทางที่จะได้รับความสำเร็จ มุกดารามองออกว่าทรงฉัตรและอรพิมมีเยื่อใยหัวใจต่อกันไม่มากก็น้อย
อีกทั้งความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนที่ยาวนานระหว่างเธอกับทรงฉัตร เป็นไปด้วยดีมาแต่ไหนแต่ไรและทำท่าว่ามันจะเป็นเช่นนี้ตลอดไปไม่มีวันเปลี่ยน มุกดาราไม่ใช่ผู้หญิงที่ใช้ตัวเองเป็นเครื่องแลกเปลี่ยน อีกทั้งความรู้สึกที่มีกับทรงฉัตร คือคำว่าเพื่อนอย่างแน่นอน
เสียงเคาะประตูห้องทำให้มุกดาราตื่นจากภวังค์ที่นั่งคิดเรื่องบ้านบริบูรณ์ปัญญา ลุกขึ้นสำรวจความพร้อมในกระจกอีกครั้ง ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าเรียกว่าความเป็นเธอกลับมาและเปิดประตูยิ้มหวานให้ผู้มาเยือนทันที
“สวัสดีค่ะ ฉันพร้อมแล้ว” นางเอกสาวชะงักหุบยิ้มทันที
“สวัสดี พร้อมทำอะไรเหรอ” พฤกษ์ก้าวเข้ามาโดยไม่รอเจ้าของห้องอนุญาตก่อน
“เข้ามาทำไม ฉันกำลังจะออกไปข้างนอก” มุกดาราเชิดหน้าใส่
“จะไปไหนเหรอ ผมไปด้วยสิ” เขาพูดหน้าตาเฉย
“ธุระส่วนตัวของฉัน คนอื่นไม่เกี่ยว” นางเอกสาวคว้ากระเป๋าถือเตรียมจะเดินออก
“นี่คุณ ระวังนะไปคนเดียวเดี๋ยวก็ได้มีข่าวหรอก” ชายหนุ่มพูดลอยๆ นั่งไขว่ห้างที่โซฟาหรูอย่างสบายอารมณ์
“นายพูดบ้าอะไร”
“พูดเรื่องจริงและพูดด้วยความหวังดี” น้ำเสียงพฤกษ์จริงจังจนนางเอกสาวชะงัก
“คุณไม่รู้จักรัฐมนตรีอำนาจเหรอว่าเป็นยังไง รับเดทเขาง่ายๆ มีข้อมูลเขาหรือเปล่าว่าหลังจากกินข้าวน่ะมันเป็นไงต่อ” ทนายหนุ่มมองหน้า
“ฉันไม่รู้”
หลังจากที่มีเรื่องเมื่อวันก่อน เลขาของรัฐมนตรีหนุ่มก็ขอนัดนางเอกสาวไปทานข้าวกับท่านในคืนนี้ที่โรงแรมหรู มุกดาราเห็นว่านายอำนาจเคยช่วยตนไว้ครั้งหนึ่งจึงคิดว่าแค่ไปกินข้าวมื้อเย็นด้วยคงไม่มีอะไรแน่ จึงตกลงรับปากอย่างไม่ลังเล
“ถ้าไม่รู้ก็ควรให้ผมไปด้วย” พฤกษ์เสนอตัวทันที
“เอานายไปทำไม” นางเอกสาวย้อนถามกลับ
“เพราะอย่างน้อยผมคงช่วยให้คืนนี้ คุณไม่ต้องไปสังเวยมิตรภาพบนเตียงนอนกับท่านแน่ หรือว่าอยาก” ฉาดใหญ่ที่มุกดาราตบหน้าพฤกษ์โดยไม่ต้องคิด อีตาบ้านี่เป็นอะไร ชอบพูดกับเธอในลักษณะดูถูกเสมอ
“ถ้าไม่รู้ว่าฉันเป็นยังไง อย่าเอาความคิดต่ำๆ ของตัวเองมาคิดว่าคนอื่นเขาจะเป็นแบบนั้น” นางเอกสาวตะโกนใส่หน้า
“ผมพูดด้วยความหวังดีกลัวว่าคุณจะเสียเปรียบ รสนิยมของท่านน่ะชอบคนเป็นงานเร่าร้อนกับเรื่องอย่างว่า สำหรับคุณแค่จูบยังเป็นเด็กอนุบาลแบบนี้ ถ้าคืนนี้คุณกับท่านจบลงอย่างที่ผมพูดจริงๆ รับรองว่าคุณถูกเขี่ยออกจากคอลเลคชั่นที่ท่านสะสมแน่”
“นายพฤกษ์” มุกดาราหน้าชาหมดความอดทนแล้ว นางเอกสาวอยากจะกรี๊ดใส่ให้มันสะใจ
พฤกษ์มีวิธีปิดปากไม่ให้เสียงกรี๊ดนั้นเล็ดรอดออกมาได้แม้แต่นิดเดียว มือไม้ของทนายหนุ่มเริ่มอยู่ไม่สุข ชุดราตรีสั้นแสนเซ็กซี่สีดำรัดรูปโชว์สัดส่วนว่าอะไรเป็นอะไรแบบนี้ เห็นที่ว่ารัฐมนตรีอำนาจคงไม่ปล่อยให้มุกดารารอดกลับมาอย่างปลอดภัยแน่ ไม่รู้ว่าคู่เดทเป็นคนยังไงยังจะกล้าแต่งตัวล่อเสือล่อตะเข้อีก
“นายพฤกษ์ ไอ้คนฉวยโอกาส”
มุกดาราทุบอกกว้างด้วยความโมโหหลังจากที่เรียวปากนุ่มเป็นอิสระจากจูบที่ไม่ได้ตั้งใจ ร้อนวูบวาบไปทั่วร่างกับจูบที่พฤกษ์มอบให้เมื่อครู่ เนื้อตัวพาลจะแตกเป็นเสี่ยงๆ เมื่อเขาลูบไล้ลงมาที่สะโพกสวย ทำไมนะหมอนี่ถึงชอบทำแบบนี้กับเธอนัก เห็นเธอเป็นอะไร ง่ายหรือไง
“โอ๊ย หยุด ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซะถ้าไม่อยากถูกลากขึ้นเตียงเป็นของหวานให้ท่านกินเล่น” พฤกษ์สะบัดมุกดาราออกห่าง เริ่มเจ็บกับแรงทุบที่หญิงสาวไม่ยั้ง
“ไม่เปลี่ยน ฉันจะใส่แบบนี้จะทำไม”
“ไม่เปลี่ยนก็ตามใจ ถ้าเกิดอะไรขึ้นผมจะไม่ช่วยคุณแน่” ทนายหนุ่มประกาศ
“ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือจากนายอยู่แล้ว ฉันดูแลตัวเองได้นายอย่าตามมาเด็ดขาด” นางเอกสาวเริ่มโมโหอีกครั้ง
“ตามใจ แต่ผมบอกก่อนว่าที่ขอไปด้วยไม่ใช่เพราะห่วงคุณหรอกนะ แต่เพราะท่านของคุณช่วยบริษัทคุณฉัตรได้” พฤกษ์เอาทรงฉัตรมาอ้าง
“เกี่ยวอะไรกับฉัตร” มุกดาราถามทันที
“ท่านอาจจะช่วยคุณฉัตรเรื่องเงินที่ลูกค้าโกงไปได้ การที่ผมไปพบท่านก็เพื่อขอร้องให้ออกหน้าเพราะผมกำลังจะฟ้องทางโน้น”
“ทำไมฉันต้องช่วยนายได้ ก็อรพิมเก่งไม่ใช่เหรอ” นางเอกสาวแขวะไปถึงเจ้านายเขา
“คุณพิมเก่ง คุณพูดถูกแต่อันนี้เป็นหน้าที่ผม ถ้าท่านยอมช่วยคุณพิมถึงจะไปพบด้วยตนเอง”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน” มุกดาราชำเลืองมองด้วยหางตา
“ก็คุณประกาศว่าเป็นแฟนคุณฉัตร คุณจะทนเห็นแฟนคุณโดนโกงไปต่อหน้าต่อตาได้เหรอ งานนี้คุณนั่นแหละต้องช่วยเต็มที่”
“ใครบอก อย่ามาเหมาแบบนี้ฉันกับฉัตรเป็นแค่เพื่อนกัน อรพิมเป็นภรรยาฉัตร เธอนั่นแหละควรเป็นคนไปพบท่านอำนาจ ไม่ใช่ฉัน” นางเอกสาวไม่ยอมเป็นตัวเชื่อมให้
“นี่แม่คุณ ใช้สมองคิดหน่อยอย่าเอาแต่อ่านบทจนชิน” พฤกษ์หันมาเจรจาดีๆ
“นี่นาย จะขอความช่วยเหลือคนอื่นปากเสียแบบนี้ ใครจะอยากช่วย” มุกดาราขึ้นเสียงตำหนิ
“โอเคๆ ผมผิด ผมขอโทษ พอไหม” ทนายหนุ่มมองเวลาตอนนี้เหลืออีกสิบนาทีที่คนขับรถของรัฐมนตรีหนุ่มจะมารับมุกดารา เขามีเวลาไม่มากไม่ควรต่อปากต่อคำอีก
มุกดารายังเมินหน้าใส่พฤษก์อยู่ ไม่ชอบขี้หน้าทนายปากเสียคนนี้แต่เรื่องทรงฉัตรเธอก็อยากช่วยหากว่าทำอะไรให้เขาได้บ้าง
“เอางี้นะ ผมจะไปกับคุณ พอเจอท่านอำนาจก็บอกแค่ว่าอยากเลี้ยงขอบคุณทั้งผมและท่าน ที่ช่วยคุณในวันนั้นเลยชวนผมมา” พฤกษ์บอกบท
“ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นด้วย” นางเอกสาวยังไม่หายโกรธที่พฤกษ์ทำให้โมโห
“เอาน่าไว้จะโกรธอีกตอนไหนก็ได้เดี๋ยวผมให้คุณด่าจนพอใจ แต่ตอนนี้เอาแบบนี้ก่อน ถือซะว่าช่วยคุณฉัตร อ้อ อีกเรื่องคุณยังไม่ได้ตอบแทนผมเรื่องวันก่อนเลย” ทนายหนุ่มทวงบุญคุณ
“ยังจะกล้าอีกเหรอ” มุกดาราถลึงตาใส่
“พอๆ ไม่กล้าก็ได้ เอ้า ผมแถมให้ค่าอาหารที่คุณต้องจ่ายแทนท่านคืนนี้เดี๋ยวผมเบิกบริษัทมาคืนให้” พฤกษ์พูดทีเล่นทีจริง
“ไอ้...” มุกดารายังไม่ทันพูดต่อ เสียงโทรศัพท์ที่โต๊ะก็ดังขึ้นขัดจังหวะก่อน
“เขามารับแล้ว คุณจะเติมปากหน่อยไหม มันจางลงตั้งแต่ที่เราจูบกันเมื่อกี้”
มุกดาราหน้าแดงอยากจะเข้าไปบีบคอคนพูดเหลือเกิน นางเอกสาวสำรวจตัวเองอีกครั้งเติมแป้งนิดลิปสติกหน่อยแค่นี้ก็สวยดั่งนางฟ้าแล้ว
“อย่าลืมที่ผมบอกนะ” น้ำเสียงและสีหน้าพฤกษ์เว้าวอนจนมุกดารารู้สึกสงสาร นางเอกสาวเปิดประตูเดินลงไปโดยไม่สนใจว่าชายหนุ่มจะเดินตามลงมาหรือไม่ แต่รู้สึกอุ่นใจที่มีทนายหนุ่มไปเป็นเพื่อน
รัฐมนตรีหนุ่มยิ้มเมื่อเห็นนางเอกสาวมาตามนัดที่ตกลงกันไว้ มุกดาราเป็นดาราเจ้าบทบาทที่ได้ชื่อว่าถือตัวเหลือเกิน เจ้าหล่อนอยู่ในวงการนี้ได้โดยที่มีแฟนคลับสนับสนุนและคนป้อนงานให้ตลอดด้วยฝีมือจริงๆ ชายหนุ่มชื่นชอบที่หญิงสาวรู้จักวางตัวและที่สำคัญไม่เคยเป็นข่าวในทางเสียหายกับใครทั้งสิ้น
“ยินดีที่นางเอกคนดังให้เกียรติมาเป็นเพื่อนทานข้าวกับผมในคืนนี้ครับ” ท่านอำนาจก้มศีรษะทักทาย
“แหม มุกต่างหากต้องขอบคุณ ที่ท่านยอมสละเวลามากินข้าวกับประชาชนธรรมดาอย่างมุก” มุกดาราส่งยิ้มหวาน
ท่านอำนาจหัวเราะเสียงดังอย่างมีความสุข นี่แหละหนา ดอกไม้งามมักมาพร้อมกับความหวาน มุกดาราทั้งสวยทั้งฉลาดอีกทั้งคำพูดวาจาก็มีเสน่ห์ ค่ำคืนนี้นางเอกสาวสวยจนเขาไม่อยากจะละสายตามองไปที่อื่น
“เชิญนั่งครับ”
“ขอบคุณค่ะ” มุกดารานั่งลงตรงข้าม
นางเอกสาวทำเป็นไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น พูดคุยกับท่านอำนาจไปตามปกติแต่สายตาคอยชำเลืองมองว่าพฤกษ์จะโผล่มาตอนไหน ทนายหนุ่มไม่ยอมนั่งรถคันเดียวมากับเธอแต่ขับรถตามมา เมื่อครู่เห็นที่หน้าห้องอาหารทำไมป่านนี้ยังไม่มีสักที
“ไวน์ไหมครับ คุณมุก” รัฐมนตรีหนุ่มรินไวน์ชั้นเลิศให้กับนางเอกสาว
มุกดาราคืนนี้สวยกว่าที่เขาเห็นในวันก่อน เธอดูมีเสน่ห์น่าค้นหากริยาท่าทางชวนให้เขาอยากสัมผัส อยากรู้ว่าท่าทางเย่อหยิ่งแบบนี้ยามถูกปลุกเร้าในแบบฉบับของตนจะเป็นอย่างไร หากเจ้าหล่อนโอนอ่อนผ่อนตามและว่าง่ายถูกใจ คนอย่างรัฐมนตรีอำนาจก็ยินดีจะตอบแทนอย่างคุ้มค่ากับความสัมพันธ์ที่ไร้ข้อผูกมัด
“ปกติคุณมุกนอนดึกไหมครับ” ท่านชวนคุยไปเรื่อยๆ อย่างสบายอารมณ์
รสชาติอาหารตรงหน้าอร่อยตามฝีมือโรงแรมระดับห้าดาว แต่ไม่สามารถดึงใจให้อยู่กับมันเท่ากับรสชาติความงามจากเรือนร่างนางเอกสาว และทำให้จินตนาการต่อไปว่าหากคืนนี้ มีมุกดาราคนสวยที่เร่าร้อนได้ใจอยู่ด้วยจะวิเศษแค่ไหน
“ไม่ค่ะ ตามงานมากกว่าถ้าไม่มีงานดึกมุกก็นอนหัวค่ำ”
มุกดารามองหาพฤกษ์ที่ไร้เงาจนเวลานี้
“ดีจัง ผมอยากนอนหัวค่ำแบบคุณมุกบ้าง” ท่านเอื้อมมือมากุมมือหญิงสาว ลูบไล้เบาๆ รอดูการตอบสนองจากอีกฝ่าย
“นอนหัวค่ำก็ดีต่อสุขภาพร่างกายได้พักผ่อนเต็มที่ ท่านก็ควรจะหาเวลาพักผ่อนเพื่อสุขภาพบ้างนะคะ” นางเอกสาวดึงมือออกอย่างนิ่มนวล ใบหน้ายังยิ้มแย้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่ในใจชักเริ่มกังวลกลัวว่าสิ่งที่พฤกษ์พูดไว้จะเป็นเรื่องจริง
“แล้วยามว่างพวกดาราชอบทำอะไรกันครับ คนสวยๆ อย่างคุณมุกคงชอบไปสปาอบตัวขัดผิวอะไรแบบนั้นหรือเปล่า”
“ก็มีบ้างค่ะ แต่ส่วนใหญ่มุกชอบนวดมากกว่า นวดไทยช่วยผ่อนคลายดี” จิตใจมุกดาราไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว พฤกษ์หายไปไหนทำไมไม่มาช่วยเธอ
“โอ้ดีเลยครับ แหม แสดงว่าข้อมูลที่มีคนให้ผมมาตรงกันมาก”
“ข้อมูลอะไรเหรอคะ” นางเอกสาวทำหน้าสงสัย
“มีคนบอกว่าคุณสนใจเรื่องนวดไทยอยากจะเปิดร้านพวกนี้ ไว้มีเวลาผมจะแนะนำคนมีฝีมือให้ รับรองว่าถ้าได้เทสต์มือแล้วจะติดใจ” ท่านอำนาจหาเรื่องพบกับนางเอกสาวต่อ
“เหรอคะ ขอบคุณมากค่ะ เดี๋ยวมุกขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” มุกดารายิ้มหวานลุกขึ้นจากโต๊ะไปทำธุระส่วนตัว
นางเอกสาวกดเบอร์โทรศัพท์หาทนายหนุ่ม แต่กดเท่าไรพฤกษ์ก็ไม่รับสาย หญิงสาวนึกโมโหที่พอถึงเวลาสำคัญเขาก็หายหัวไม่คิดจะช่วยเธอ อาหารคาวหมดแล้วจนอาหารหวานก็เพิ่งจะเก็บไป ตารัฐมนตรีบ้านั่นยังไม่ยอมเลิกคุยอีก เห็นทีมุกดาราคงต้องช่วยตนเองเสียแล้ว
มุกดาราออกมาไม่เห็นท่านอำนาจอยู่ที่โต๊ะ นางเอกสาวคิดว่าจะฉวยโอกาสนี้ชิ่งกลับก่อน ที่ไหนได้คนของรัฐมนตรีหนุ่มกลับเข้ามาพาเธอไปอีกสถานที่
“ท่านรออยู่ที่ห้องฟังเพลงครับ บอกว่าขอร้องให้คุณช่วยไปฟังเพลงเป็นเพื่อนหน่อย”
นางเอกสาวจำใจต้องเดินตามไปอย่างเสียไม่ได้ ฟังเพลงบ้าบออะไรกันตอนนี้เธอไม่มีอารมณ์จะสุนทรีย์ด้วยหรอก อีตาพฤกษ์บ้า รู้ทั้งรู้ว่าท่านเป็นยังไง ยังไม่คิดจะช่วยเธออีก มุกตื้นๆ ที่ชวนไปฟังเพลงหวังจะให้บรรยากาศและสถานที่ทำให้เธอเคลิ้บเคลิ้มไม่มีทางหรอก
สิ่งที่มุกดาราคาดการณ์ไว้เป็นเช่นนั้นจริงๆ ท่านอำนาจชวนเธอออกมาเต้นรำเพื่อหาโอกาสใกล้ชิด แม้ทำนองเพลงและบรรยากาศจะชวนให้โรแมนติก แต่นางเอกสาวกลับรู้สึกอึดอัดยิ่งได้เห็นสายตาที่รัฐมนตรีหนุ่มมองมาในเวลานี้
“คุณสวยมากรู้ตัวไหม มุกดารา” เขาดึงมือเธอขึ้นมาหอมเบาๆ
“ฉันรู้ค่ะ ฉันเป็นดารานี่คะ” นางเอกสาวพยายามพูดให้ตลกเข้าไว้
“แล้วถ้าไม่เป็นดาราล่ะ ไม่ต้องเหนื่อยไม่ต้องร้อน คุณจะทำอะไร” ชายหนุ่มโอบเอวสวยเข้ามาใกล้มากกว่านี้
“ฉันก็ยังไม่รู้ค่ะ แต่ตอนนี้ยังสนุกกับงานอยู่” มุกดาราพยายามขืนตัวไม่ให้แนบไปกับกายสูงที่พยายามจะเบียดรัดตัวเธอไว้อย่างจงใจ
“คุณกำลังทำให้ผมคลั่งนะรู้ไหม” ท่านโน้มใบหน้ามากระซิบข้างหู
“คุณทั้งสวยทั้งฉลาด เป็นผู้หญิงที่ผมตามหามานาน”
“ขอบคุณค่ะ แต่ท่านคงมีผู้หญิงแบบนั้นอยู่ข้างกายท่านแล้ว” มุกดาราเงยหน้าสบตาชายหนุ่ม
“ไม่ ผมยังไม่มีใคร ถ้าจะมีก็คือคุณ มุกดารา”
หากนี่เป็นฉากละครที่เธอสวมบทบาทเป็นนางเอก มุกดาราคงจะสะเทิ้นอายคำพูดของพระเอกที่เข้าฉากด้วยกัน และแน่นอนว่าการกอดจูบที่มีมุมกล้องช่วยก็ทำให้ฉากนี้สวยงามเรียกเรตติ้งได้เป็นอย่างดี
แต่ในความเป็นจริงเธอกำลังอยู่ต่อหน้ารัฐมนตรีอำนาจ ผู้ชายที่หวังจะ
เคลมเธอไปเป็นสาวในคอลเลคชั่น แม้มุกดาราไม่อยากเสวนาด้วยเท่าไรแต่เจ้าตัวก็ไม่กล้าทำอะไรผลีผลาม กลัวจะมีปัญหาตามมา
“ขอบคุณค่ะ เพลงจบแล้ว ขอมุกกลับบ้านได้ไหมคะ” มุกดาราถอยออกมาห่าง
“วันนี้เป็นวันพักผ่อนวันสุดท้าย พรุ่งนี้มุกต้องเปิดกล้องละครแต่เช้า ถ้ายังไงไว้โอกาสหน้าเราเจอกันใหม่นะคะ” นางเอกสาวส่งยิ้มหวาน
“อยู่คุยกันต่อไม่ได้เหรอครับ” ท่านอำนาจทำเสียงอาวรณ์
“ไว้คราวหน้านะคะ พรุ่งนี้มุกต้องหน้าเด้งรับสื่อ” มุกดาราหยิบกระเป๋าถือเตรียมพร้อมกลับบ้าน
“ถ้าคราวหน้าผมขอเวลาคุณมุกมาทานข้าวฟังเพลงแบบนี้อีกได้ไหมครับ” แม้รัฐมนตรีหนุ่มจะเสียดายที่ค่ำคืนนี้ไม่มีโอกาสได้สานสันพันธ์มากไปกว่านี้ แต่เชื่อว่ามันต้องมีวันต่อไป
“ถ้ามุกว่าง ก็ยินดีค่ะ” นางเอกสาวยิ้มหวานให้อีกครั้งก่อนจะเดินกลับไปโดยไม่หันมามองสายตาละห้อยที่แสนเสียดาย
ค่ำคืนนี้ไม่มีโอกาสได้ลิ้มลองชิมเนื้อหวานที่หมายมั่นปั้นมือ แต่เชื่อว่าครั้งต่อไปไม่ยากคืนนี้คงต้องให้ใครสักคนมาดับอารมณ์ผิดหวังนี้ไปแทนก่อนแล้วกัน
|
|
|
|
ความคิดเห็น