คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 7
พฤกษ์มาพบคุณทรงพุ่มที่ห้องทำงานในตอนเช้าพร้อมกับอรพิมตามที่นัดไว้ ทรงฉัตรเดินเป็นหนูติดจั่นอยู่ที่ห้องอาหาร เขาอยากจะเข้าไปฟังการสนทนาในห้องว่าเกี่ยวกับเรื่องอะไร มีเรื่องสำคัญอะไรหนักหนาทำไมไม่มีใครบอกอะไรให้รู้เลย
เมื่อคืนนี้เขากอดอรพิมไว้อย่างหวงแหน หญิงสาวใจแข็งไม่ยอมหันหน้ามาแม้แต่นิดเดียว ไม่ว่าทรงฉัตรจะเพียรพยายามอ้อนวอนก็แล้ว หรือแม้แต่เพียรจูบง้องอนในความผิดที่ติดอยู่ในใจของเจ้าหล่อน แต่สุดที่รักของเขาก็ไม่ยอมหันมาท่าเดียว ชายหนุ่มตั้งใจว่าเช้านี้จะถามไถ่ให้
รู้เรื่องว่ามีอะไรเกิดขึ้น แต่ก็ยังไม่มีโอกาสเพราะพฤกษ์มาเสียก่อน
“ตาฉัตร ทานข้าวแล้วไปทำงานซะ” คุณทิพย์สั่งลูกชายเสียงห้วน
นับวันทรงฉัตรยิ่งแสดงอาการชัดเจนขึ้นว่าให้ความสำคัญกับอรพิมเหลือเกิน มารดาชำเลืองมองท่าทางของบุตรชายที่ลุกลี้ลุกลนมองไปแต่ทางห้องทำงานของคุณทรงพุ่ม ไม่แตะข้าวต้มในชามที่เป็นของโปรดของตนแม้แต่นิดเดียว
“เดี๋ยวก็คงคุยกันเสร็จ ฉัตรไม่ต้องห่วงหรอก กินข้าวแล้วไปทำงานซะ” มารดาสั่งซ้ำ
“ทำไมพ่อต้องเรียกมาแต่เช้าด้วย แล้วทำไมไม่เรียกผมเข้าไปฟัง ถ้าเป็นเรื่องที่บริษัทก็ควรให้รู้ด้วย” ชายหนุ่มบ่นพึมพำ
“คงไม่เกี่ยวกับลูก กินข้าวแล้วไปทำงานซะ” คุณทิพย์สั่งเป็นครั้งที่สาม
ทรงฉัตรเปลี่ยนมานั่งที่ห้องรับแขก ยังไม่มีใครออกจากห้องทำงานของคุณทรงพุ่มแม้แต่คนเดียว ใกล้เวลาที่ชายหนุ่มควรจะไปทำงานได้แล้ว คุณทิพย์เดินออกมาจากในครัวเห็นบุตรชายนั่งงอเป็นม้าหมากรุกอยู่ที่โซฟายังไม่ยอมไปทำงานอีก
“ตาฉัตร นี่ยังไม่ไปทำงานอีกเหรอ” คุณทิพย์เริ่มไม่พอใจมากขึ้นที่ทรงฉัตรเอาแต่คิดจะเฝ้าอรพิมอยู่แบบนี้
“อีกสักพักก็ได้ครับ ผมรอพิมก่อนจะได้ไปพร้อมกัน” เขาอยากมีเวลาอยู่กับเมียตามลำพังบ้าง
“จะมากไปแล้วตาฉัตร ไปทำงานซะ” คุณทิพย์เริ่มโมโห
“แม่ครับ บริษัทเราเอง ไปตอนไหนก็ได้” ชายหนุ่มยังไม่ยอมลุกจากเก้าอี้
“ตาฉัตร ลูกกำลังทำให้แม่ผิดหวังมาก ลูกไม่เคยทำตัวแบบนี้ไม่เคยแสดงท่าทีแบบนี้ ลูกกำลังเห็นคนอื่นสำคัญกว่าแม่ตัวเองใช่ไหม” คุณทิพย์ตาแดงเสียงเครือขึ้นมาทันที
“แม่ครับ ทำไมแม่พูดแบบนั้น” ทรงฉัตรตกใจรีบเข้าไปโอบกอดมารดาทันที
“ฉัตรทำให้แม่ผิดหวัง ทำให้แม่เสียใจ ฉัตรกำลังจะทำให้แม่ตายทั้งเป็นรู้ไหม อยากเห็นแม่ตายมากใช่ไหม” น้ำตาแห่งความน้อยใจของมารดาร่วงพรูจนเขาตกใจทำอะไรไม่ถูก
“แม่ครับ แม่” ทรงฉัตรผวาเข้ากอดคุณทิพย์ไว้แน่น
“แม่ร้องไห้ทำไม ผมทำอะไรให้แม่โกรธ ผมขอโทษแม่อย่าร้องไห้นะครับ”
คุณทิพย์รู้สึกอบอุ่นใจขึ้นเมื่อได้ยินคำปลอบใจของบุตรชาย นางดันร่างสูงออกมามองให้เต็มตา ตอนนี้ทรงฉัตรคือทรงฉัตรคนเดิมที่รักแม่คนนี้มากที่สุดแล้ว
“ฉัตร เลิกยุ่งกับเด็กนั่นได้ไหม แม่ขอร้อง อะไรที่ผ่านแล้วก็ให้ผ่านไป แม่ขอ ฉัตรทำได้ไหมลูก” น้ำเสียงมารดาอ้อนวอนจากใจ
“แม่ ทำไมแม่พูดแบบนี้ครับ แม่กำลังทำให้ผมลำบากใจ”
ทรงฉัตรจับมือมารดาขึ้นมากุมไว้
“แม่คือคนที่ผมรักและบูชาที่สุด พิมคือคนที่ผมต้องดูแลไปตลอดชีวิต แม่เลิกอคติกับเมียผมได้ไหมครับ” บุตรชายเว้าวอนขอความเห็นใจ
คุณทิพย์อึ้งไปทันทีไม่คิดว่าทรงฉัตรจะเรียกอรพิมว่าเมียได้เต็มปากเต็มคำ แสดงว่าสิ่งที่นางสงสัยเป็นเรื่องจริง คุณพระช่วย อะไรทำให้ลูกชายสุดที่รักกับสะใภ้ที่นางไม่ต้องการลงเอยแบบนี้
“พิมเป็นเมียผมและผมต้องดูแลเธอ บางทีไม่แน่เราอาจจะมีหลานให้แม่อุ้ม แม่ไม่ดีใจเหรอครับ” เขาอมยิ้มคิดฝันอยู่คนเดียว
“ฉัตรรักเด็กนั่นเหรอ ไปรักกันตอนไหน” คุณทิพย์ถามเสียงสั่น นี่นางกำลังจะเสียทรงฉัตรไปให้อรพิมจริงๆ หรือ
“ผมก็ไม่แน่ใจว่ามันคือความรักหรือเปล่า แต่ว่าตอนนี้ผมรู้แต่ว่าต้องรับผิดชอบพิมเท่าชีวิต แม่ครับ บางทีมันอาจจะไม่เลวร้ายอย่างที่เราคิดแต่ต้น แม่ลองมองพิมใหม่บางทีแม่อาจจะเห็นความน่ารักน่าเอ็นดูในตัวพิมก็ได้” เหมือนที่เขาเห็น อรพิมน่ารักอ่อนหวานเป็นผู้หญิงคล่องแคล่วทำอะไรเองได้แต่ก็ไม่พ้นที่จะมีผู้ชายอย่างเขาดูแล
“ตาฉัตร” คราวนี้มารดาเขาร่ำไห้หนักกว่าเดิม
“ลูกผิดสัญญากับแม่ ฉัตรกำลังทำให้แม่ใจสลาย ทำให้แม่ทุกข์ที่สุดในชีวิต”
“แม่” ทรงฉัตรตกใจรีบคว้าตัวนางมากอด แต่คุณทิพย์สะบัดตัวหนี
“ฉัตรไปรักเด็กนั่นทั้งๆ ที่รู้ว่ามันเป็นศัตรูของแม่ ฉัตรเห็นคนอื่นดีกว่าแม่ตัวเองใช่ไหม” นางฟูมฟายด้วยความเสียใจ
“ผมไม่มีวันเห็นใครดีไปกว่าแม่แน่ แต่พิมเป็นเมีย แม่สอนผมเองว่าเป็นลูกผู้ชายต้องรับผิดชอบ จะให้ผมเป็นผู้ชายที่ไม่ไยดีลูกเมียตัวเองหรือไงครับ” ทรงฉัตรพยายามเอาเหตุผลมาคุย
“แต่ต้องไม่ใช่เด็กนั่น ทำไม ทำไมไม่ใช่หนูมุก หนูมุกต่างหากที่ฉัตรต้องรับผิดชอบ” คุณทิพย์อ้างชื่อนางเอกสาว
“ผมกับมุกเราเป็นเพื่อนที่คบกันอย่างบริสุทธิ์ใจ และผมก็ไม่เคยล่วงเกินทำอะไรให้เธอเสื่อมเสีย แม่เลิกพยายามจะจับคู่เราสองคนเถอะครับ ผมยอมรับว่าเมื่อก่อนมุกเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดและทุกวันนี้ก็ยังเป็นแบบนั้นอยู่ แต่ผมมีเมียและแต่งงานแล้วคนที่ผมควรดูแลคือพิมไม่ใช่เหรอครับ” ทรงฉัตรพูดตรงไปตรงมาตามความถูกต้อง
“ตาฉัตร” คุณทิพย์อยากจะเป็นลมเมื่อได้ยินคำพูดจากลูกชายสุดที่รัก
“แม่ครับ ผมขอแม่อย่าอคติกับเมียผม ถ้าเราหันหน้าพูดกันดีๆ ผมว่าแม่จะมีสะใภ้ที่น่ารักคนหนึ่งเลย” ทรงฉัตรไม่อยากเถียงกับมารดาแล้ว เขาคว้ากระเป๋าทำงานเดินออกไปทันที ทิ้งให้คุณทิพย์ยืนซับน้ำตาด้วยความเสียใจ นางคงต้องหาทางทำอะไรสักอย่างแยกสองคนนี้ออกจากกัน ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
อรพิมเปิดประตูห้องทำงานเข้ามาในตอนบ่าย หญิงสาวทิ้งตัวลงที่เก้าอี้ตัวใหญ่ เพิ่งออกมาจากการประชุมที่แสนเครียดตั้งแต่เช้า ขอพักสายตาสักครู่เดี๋ยวก็จะต้องออกไปตะลอนนอกบริษัทอีก
หลังจากที่รายงานสรุปโปรเจคสำคัญให้คุณทรงพุ่มฟังพร้อมทั้งฟังพฤกษ์เสนอแผนการณ์ที่จะหาทางเอาเงินมาคืนบริษัทให้ได้ พ่อสามีเธออนุญาตให้ทำตามขั้นตอนที่ทนายหนุ่มบอกมาทุกอย่าง พร้อมกำชับให้หญิงสาวโอนงานที่รับผิดชอบให้ทรงฉัตรช่วยดูแลไปพลางก่อน เพราะขั้นตอนเร่งด่วนที่ต้องรีบทำตอนนี้คือการไปเจรจาให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหลายยอมเป็นพยานให้กับบริษัทหากเกิดการฟ้องร้อง
ทรงฉัตรแง้มประตูเชื่อมเข้ามาดูเห็นอรพิมนั่งหลับตาอยู่ที่เก้าอี้ ท่าทางเหน็ดเหนื่อยของหญิงสาวทำให้เขาอยากจะเข้าไปกอดให้กำลังใจสักฟอด แถมจูบให้อีกเพื่อบอกความคิดถึงและรอนานมากแค่ไหน
เมื่อเช้าออกมาจากบ้านก่อนทั้งที่ตั้งใจว่าจะรออรพิมเพื่อมาทำงานพร้อมกัน แต่เพราะไม่อยากเถียงกับคุณทิพย์ ทำให้ทรงฉัตรตัดสินใจมารอหญิงสาวที่บริษัท ยังไม่ทันได้พูดพล่ามทำเพลงหวานใจก็หายตัวเข้าห้องประชุมไปตั้งแต่มาถึง และเพิ่งจะกลับออกมาเมื่อครู่นี้ รอจนใจจะขาดแล้วขอเข้าไปชื่นใจสักฟอดแล้วจะไม่งอแงอีกเลย
ลมหายใจอุ่นๆ ที่รดข้างแก้มสาวทำให้อรพิมเบี่ยงหน้าหนี ริมฝีปากสวยถูกประกบจูบพร้อมกับมีปลายลิ้นฉกเข้ามาเกี่ยวรัดกระตุ้นให้หญิงสาวลืมตาตื่น ทรงฉัตรกำลังจูบเธออย่างโหยหา อรพิมไม่มีโอกาสได้ผลักไสเพราะชายหนุ่มใช้สองมือประคองแก้มนวลไว้คอยท่าไม่ยอมให้กระดุกกระดิกไปไหน แต่จะว่าไปเธอเองก็รู้สึกหอมหวานกับการกระทำที่เขาแสดงออกในตอนนี้ มันทำให้รู้สึกมีเรี่ยวมีแรงกระชุ่มกระชวยที่จะทำงานหนักได้ต่อไป
“อย่าค่ะ คุณฉัตร” อรพิมร้องห้ามเมื่อเขายอมละจากปากอิ่มอย่างเสียดาย รีบลุกขึ้นยืนทันที
“พิม ผมคิดถึง” มากกว่าคิดถึงที่อยากจะบอกแต่ไม่ใช่ตอนนี้ ทรงฉัตรดึงร่างนิ่มเข้ามาสวมกอด แรงคิดถึงของชายหนุ่มทำให้อรพิมใจอ่อนยอมยกมือกอดตอบเช่นกัน
“เมื่อเช้าทำไมคุยกันนานจัง ผมรอจนเกือบทะเลาะกับคุณแม่เลยเผ่นมาก่อน ตั้งใจว่าจะรอพิมนะ” เขาซุกหน้าที่ซอกคอหอมดอมดมด้วยความเสน่หา
“คุณลุงคุยกับพฤกษ์นานค่ะ ของพิมเรียบร้อยตั้งนานแล้ว” เธอบอกให้เขารู้ว่าเพราะอะไร
“ต่อไปผมต้องบอกพ่อแล้วว่ามีอะไรห้ามคุยนาน ถ้านานขนาดนี้ต้องให้ผมเข้าไปด้วย” เขาตัดพ้อด้วยสายตาหวาน
“คิดถึงเมียใจจะขาด มีใครรู้บ้าง”อรพิมหน้าแดงก่ำ ในขณะที่ทรงฉัตรยิ้มกริ่มอย่างอารมณ์ดี เขาชอบเวลาที่เธอทำท่าเขินไม่ประสากับการถูกบอกความรู้สึก
“ไปทานข้าวกัน ผมหิวแล้ว”
ชายหนุ่มจับมือเธอไว้พร้อมจะพาไปทานข้าว ตั้งแต่แต่งงานกันมาเขาละเลยการเอาใจใส่ดูแลเรื่องพวกนี้ แต่ต่อไปไม่อีกแล้วทุกเรื่องของอรพิมสำคัญสำหรับทรงฉัตรเสมอ
“เอ่อ คุณฉัตรคะ ไม่เป็นไร เดี๋ยวพิมต้องออกไปข้างนอก” อรพิมรั้งแขนเขาไว้
“จะไปไหนก็ต้องไปกินข้าวก่อน กองทัพต้องเดินด้วยท้อง” ชายหนุ่มจูงมือเธอเดิน
“เดี๋ยวพฤกษ์มาค่ะ” หญิงสาวตัดสินใจบอก
ทรงฉัตรชะงักหันมามองหน้าอรพิม สายตาของชายหนุ่มมีความไม่พอใจเล็กน้อย นายพฤกษ์มาทำไมเจอกันเมื่อเช้าก็แล้ว ไม่มีงานมีการทำหรือไง ไหนว่าตอนนี้ฝ่ายกฎหมายงานยุ่งแล้วทำไมทนายหนุ่มยังมีเวลาไปมาหาสู่เมียเขาได้อีก
“คือเราสองคนจะไปหาลูกค้าที่อยุธยาด้วยกัน พิมเลยบอกให้พฤกษ์รีบกลับไปจัดการสั่งงานไว้แล้วก็ออกไปเลย” หญิงสาวไม่สบายใจที่เห็นคิ้วขมวดของชายหนุ่ม
“แล้วไม่กินข้าวกันหรือไง” ทรงฉัตรถามเรื่องเดิม
“พฤกษ์บอกว่าเดี๋ยวแวะทานระหว่างทานค่ะ พิมก็ยังไม่หิวเท่าไร ถ้าคุณฉัตรหิวพิมไปเป็นเพื่อนก็ได้แต่คงแป๊ปเดียวนะคะ” อรพิมพยายามรักษาน้ำใจชายหนุ่มที่เป็นห่วงเรื่องข้าวเที่ยงของเธอ
“กินข้าวกับคนอื่นได้แต่กับสามีตัวเองหมดสิทธิ์”
นี่เป็นครั้งแรกที่อรพิมเห็นทรงฉัตรงอน ผู้ชายตัวใหญ่ทำหน้าน้อยใจทิ้งตัวเองนั่งลงอย่างหมดอาลัยตายอยากในชีวิตที่โซฟารับแขก หญิงสาวเห็นแล้วก็อดสงสารไม่ได้พักนี้เธอเป็นอะไรสนใจความรู้สึกของทรงฉัตรไปซะทุกเรื่อง
“เอางี้นะคะ พิมจะรีบไปรีบกลับแล้วจะมาทานข้าวเย็นด้วย เจอกันที่บ้านนะคะ” อรพิมเอ่ยเสียงหวาน ทรงฉัตรนั่งนิ่งไม่พูดไม่จาอะไร เขายังทำหน้าเศร้าเหมือนคนหมดแรง จนอรพิมชักใจคอไม่ดี
“คุณฉัตรคะ พิมไปทำงาน มันไกลนะคะถ้า...”
“ผมเหงา ไม่มีแรง เมียไม่สนใจ” น้ำเสียงชายหนุ่มท้อแท้เหลือเกิน
“คุณฉัตร” อรพิมรู้สึกผิดขึ้นมาทันที “อย่าคิดมากค่ะ เรามีเวลาทานข้าวด้วยกันอีกหลายมื้อ”
“แต่มื้อนี้ผมตั้งใจพาพิมไปร้านที่ชอบ ผมเสียใจ” ชายหนุ่มก้มหน้าคอตกอีก
“จะให้พิมทำยังไงคะ คุณฉัตรถึงจะรู้สึกดี” อรพิมก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน แต่เล็กจนโตไม่เคยต้องง้อใครทั้งสิ้น ทรงฉัตรเป็นคนแรกที่หญิงสาวต้องปวดหัวคิดหาวิธีให้เขาสบายใจ มันยากกว่าการหาข้อสรุปในที่ประชุมเสียอีก
“ผมหิว” เขาเอ่ยเสียงเบาเหมือนจะหมดแรง
“หิวก็ไปทานเลยค่ะ ไม่ต้องรอพิมเดี๋ยวโรคกระเพาะถามหา” หญิงสาวออกแรงฉุดให้เขาลุกขึ้น แต่ทว่าเธอกลับลอยละลิ่วไปนั่งบนตักของทรงฉัตร อรพิมตกใจรีบคว้าต้นคอเขาไว้เป็นที่ยึดซึ่งเข้าทางชายหนุ่มพอดี
“ผมหิวพิม” ทรงฉัตรโน้มใบหน้าลงมาแนบริมฝีปากสวยอีกครั้ง แระเล็มริมฝีปากอย่างอ้อยอิ่งแล้วจู่โจมฉกจูบอย่างดุเดือดอีกครั้ง อรพิมอ่อนระทวยให้ชายหนุ่มหาความหวานจากริมฝีปากจนพอใจ และให้ความร่วมมือตอบรับการกระทำที่ทรงฉัตรต้องการ
“คุณฉัตร” อรพิมนัยน์ตาปรือเมื่อเขาถอนจูบออกมา
“รีบกลับบ้านนะ ผมจะหิ้วท้องรอ” เขาจูบเบาๆ ที่เรียวปากนุ่มอีกครั้งแล้วดึงเธอเข้ามากอดอย่างทะนุถนอม
อรพิมอิ่มเอมใจอย่างบอกไม่ถูก ยินยอมให้เขากอดและตัวเองก็กอดตอบไปเช่นกัน มันอบอุ่นหัวใจจนไม่รู้จะอธิบายอย่างไร บางครั้งอยากจะทำในสิ่งที่ใจเรียกร้องแต่ไม่กล้า พอฝืนก็กลับทรมานจนทนไม่ไหว ไม่เข้าใจว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นเรียกว่าอะไร รู้แต่ว่ามีความสุขที่มี
ทรงฉัตรอยู่ใกล้และอยากให้ดีกับเธอเช่นนี้ตลอดไป
อรพิมชำเลืองดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือบ่อยจนพฤกษ์รู้สึกผิดสังเกต ตอนนี้เกือบสามทุ่มแล้วหญิงสาวบอกว่าอยากรีบกลับบ้าน เพราะอยากจะไปรายงานสิ่งที่คืบหน้าในวันนี้ให้คุณทรงพุ่มรู้ เขาจึงแทบจะเหาะไปส่งเจ้านายสาวจากอยุธยาทันที
“หิวข้าวไหม คุณพิม เมื่อกลางวันกินแซนด์วิชไปอันเดียวเอง” พฤกษ์ถามด้วยความเป็นห่วง
“พิมไม่หิว เรารีบกลับบ้านกันเถอะ” ตอนนี้ใจของหญิงสาวคิดถึงแต่ทรงฉัตร เขาจะหิ้วท้องรอเธอทานข้าวหรือเปล่า ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงชายหนุ่มคงหิวข้าวมากแน่
รถเลี้ยวเข้าบ้านบริบูรณ์ปัญญายังไม่ทันจอดนิ่งสนิทดี อรพิมก็รีบเปิดประตูรถหอบเอกสารลงไปทันที ทำให้พฤกษ์แปลกใจมาก เกิดอะไรกับชีวิตคู่ของเธอหรือเปล่า วูบหนึ่งของทนายหนุ่มคิดถึงคำพูดของนางเอกสาวที่ต่อว่าเรื่องความใกล้ชิดระหว่างตนกับหญิงสาว หรือเพราะเหตุนี้ทำให้อรพิมดูระมัดระวังรีบร้อนไปหมดทุกอย่าง
“งามหน้าจริงนะ ดึกป่านนี้เพิ่งกลับบ้าน” เสียงคุณทิพย์ดังขึ้น อรพิมชะงักยืนนิ่งอยู่ที่บันได
“ควรรู้บ้างว่าอะไรเป็นอะไร ฉันบอกเธอแล้วใช่ไหมว่าให้ใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์”
“พิมเพิ่งกลับจากอยุธยาค่ะ ไปหาลูกค้ามา” อรพิมตอบตามจริง
“ทำงานประสาอะไรกลับค่ำๆ มืดๆ ตะลอนไปกับผู้ชายอื่น รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั้น คนอื่นที่เขาทำงานไม่เห็นกลับแบบนี้” เสียงคุณทิพย์ดังขึ้น
อรพิมก้มหน้านิ่งไม่พูดจาใดๆ ทั้งสิ้น ไม่คิดจะอธิบายหรือแก้ตัวเพราะพูดไปตั้งแต่ต้นแล้ว ยิ่งไม่โต้ตอบก็ยิ่งทำให้คุณทิพย์รู้สึกหมั่นไส้
“ถ้าอยากกลับดึกก็คงต้องไปหาที่อยู่ใหม่ ที่นี่ไม่ต้องการผู้หญิงที่กลับบ้านมืดๆ ค่ำๆ โดยเฉพาะการไปกับผู้ชายสองต่อสอง เพราะลับหลังฉันคงไปตามดูไม่ได้ว่าเธอทำอะไรกัน”
“พิมกับพฤกษ์ไปทำงานให้บริษัทนะคะ เรื่องนี้คุณลุงก็รู้”
“ฉันแก่หัวหงอกขนาดนี้แล้ว รู้ดีว่าอะไรคือทำงานอะไรคือไปเที่ยว บอกแล้วไงถ้าอยากกลับดึกก็ไปหาที่อยู่ใหม่หรือจะกลับไปอยู่บ้านเธอก็ได้ จะกลับกี่โมงไปกับใครคงไม่มีใครว่า”
“แม่อย่าโกรธพิมเลยครับ เรื่องนี้ผมอธิบายได้” เสียงทรงฉัตรแทรกขึ้นกลางคัน
ชายหนุ่มได้ยินเสียงรถเข้ามาในบ้าน มองจากหน้าต่างเห็นอรพิมวิ่งลงมาจึงรออยู่ในห้อง แต่ก็แปลกใจว่าทำไมตั้งนานยังไม่ขึ้นมาคิดว่าเธอแวะคุยกับคุณทรงพุ่มที่ห้องทำงานจึงเดินลงมาตาม และได้ยินที่มารดากำลังตำหนิภรรยาของตนพอดี
“พิมบอกแล้วว่าจะกลับค่ำ แล้วเรื่องไปอยุธยาผมก็รู้จากบริษัทแล้วว่าไปกับพฤกษ์ นี่ถือว่ากลับเร็วนะครับแสดงว่าพฤกษ์คงเหยียบเต็มที่” ชายหนุ่มส่งยิ้มให้ภรรยาสาวพร้อมกับโอบไหล่เธอไว้หลวมๆ เป็นการปลอบใจ
คุณทิพย์เมินหน้าไม่สนใจฟังคำแก้ตัวแทนของทรงฉัตร นางไม่อยากเห็นการแสดงความห่วงใยของสามีภรรยาต่อหน้า ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยอมรับอรพิมเป็นสะใภ้ สักวันต้องหาวิธีให้หญิงสาวกระเด็นออกชีวิตบุตรชายไปให้ได้
“ขึ้นข้างบนเถอะ ท่าทางพิมเหนื่อยนะ กู๊ดไนท์ครับแม่” ทรงฉัตรแยกทั้งคู่ออกจากกัน ประคองอรพิมขึ้นไปข้างบนทันที
อรพิมจับมือของทรงฉัตรไว้แน่น รู้สึกปลื้มใจที่เขาเข้าใจในสิ่งที่เธอกำลังทำ และออกรับคำต่อว่าของคุณทิพย์แทนทุกอย่าง หัวใจของหญิงสาวไม่อาจจะเฉยชาได้อีกต่อไป
“พิมหิวหรือเปล่า ผมพาไปทานข้าวไหม” ทรงฉัตรถามเป็นคำแรกเมื่อเข้ามาในห้อง
“พิมขอโทษค่ะ พิมทำให้คุณฉัตรรอ” อรพิมรู้สึกผิดที่ไม่รักษาสัญญาที่จะกลับมาทานข้าวกับเขาได้ตามที่บอก
“ครั้งนี้ยกโทษแต่ครั้งหน้าผมงอนจริงๆ ด้วย” ชายหนุ่มอมยิ้มที่มุมปากเมื่อเห็นสีหน้าวิตกกังวลของสุดที่รัก
“พิมล่ะ กินข้าวหรือยัง” เขาประคองแก้มนวลให้เงยสบตา อยากจะจูบใจจะขาดแต่เห็นท่าทางเหนื่อยล้าแล้วอดเป็นห่วงไม่ได้ เธอจะกินข้าวหรือยัง เหนื่อยมากหรือเปล่า มีอะไรเกิดขึ้นในระหว่างเดินทางไหม สารพัดที่ชายหนุ่มจะห่วง
“ยังค่ะ พิมทานแซนด์วิชไปอันเดียวเองตั้งแต่กลางวัน” หญิงสาวรู้สึกหิวข้าวขึ้นมาทัน สามทุ่มกว่าแล้วถ้าจะกินคงต้องออกไปข้างนอก
“พิมอาบน้ำรอเลย เดี๋ยวผมจัดการให้” เขากระวีกระวาดดันเธอไปที่ห้องน้ำ
“คุณฉัตรทานหรือยังคะ” อรพิมยังติดใจเรื่องนี้
“เมื่อเย็นลูกค้าโทรมานัดขอดูแบบก่อน ผมก็เลยแวะเอาไปให้เลยต้องกินข้าวกับเขาเรียบร้อยแล้ว ผมก็ผิดสัญญาที่ไม่ได้รอพิมกินข้าว”
อรพิมค่อยรู้สึกสบายใจที่ไม่ต้องทำให้ทรงฉัตรรอ หญิงสาวยิ้มออกมาได้อย่างสบายใจ
“อย่ายิ้มแบบนี้” ทรงฉัตรห้าม
“ทำไมคะ”
“เพราะมันจะทำให้ผมไม่อยากลงไปทำอะไรให้พิมทาน แต่อยากจะอยู่กับพิมแบบนี้แทน” ชายหนุ่มเขยิบเข้ามาใกล้
“รู้ไหม ถ้าเราไม่มัวเถียงกันตั้งแต่แต่งงาน ป่านนี้เราคงมีเจ้าตัวน้อยแล้ว”
“พิมอาบน้ำก่อนนะคะ” อรพิมเอ่ยเสียงสั่น หญิงสาวหลบตาไม่กล้ามองเขา รีบพาตัวเองหายเข้าไปในห้องน้ำทันที
หัวใจของอรพิมเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่ออยู่ในห้องน้ำเพียงลำพัง เกิดอะไรขึ้นในชีวิตแต่งงานที่ไม่ได้เต็มใจแต่แรก ทำไมตอนนี้หญิงสาวไม่รู้สึกต่อต้านหรืออยากห้ามใจไม่ให้เข้าใกล้ทรงฉัตรแม้แต่น้อย ในสมองและความรู้สึกมีเพียงสิ่งเดียวที่ต้องการ อยากอยู่ใกล้ๆ เขาแบบนี้ตลอดไป
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปใส่ไข่และใส่หมูสับเป็นข้าวเย็นให้อรพิมหายหิวได้เป็นอย่างดี ทรงฉัตรกลับขึ้นมาพร้อมกับนมอุ่นอีกหนึ่งแก้วใหญ่ เขานั่งมองเธอกินอาหารที่ทำให้อย่างเอร็ดอร่อยแล้วมีความสุข
“พิมไปไหนมาบ้างวันนี้” ชายหนุ่มชวนคุยหลังจากที่เธอนั่งลงที่โต๊ะทำงานอีกรอบ
“พิมไปพบผู้รับเหมารายใหญ่ที่ทำงานให้โปรเจคนั้นค่ะ ตอนนี้เขาไปรับงานที่นั่น คุณลุงให้พิมไปคุยกับเขาเรื่องเป็นพยาน”
“พยานอะไร” ทรงฉัตรแปลกใจ
“พิมคิดว่าจะฟ้องเอาเงินห้าสิบล้านคืน แต่การฟ้องเป็นวิธีสุดท้ายที่พิมจะทำค่ะ” หญิงสาวยื่นเอกสารบางอย่างให้ชายหนุ่มดู
“ผู้รับเหมาคนนี้พูดเหมือนคุณลุงว่าถ้าจะให้เป็นพยาน เราต้องคุยทุกคนที่อยู่ร่วมในโปรเจคที่สำคัญเราควรมีใครสักคนที่หนุนหลังอยู่”
“เรื่องนี่คุณพ่อคงช่วยได้ พิมไม่ต้องห่วงหรอก ว่าแต่มีอะไรให้ผมช่วยไหม” ทรงฉัตรถามพลางคืนเอกสารให้
“ฝ่ายออกแบบถูกกันเป็นพยานของเรา บางทีอาจจะต้องรบกวนไปให้ปากคำกับศาล”
“เรื่องนั้นสบายมากโปรเจคนี้ผมเป็นเขียนแบบเองกับมือ รับรองว่าให้หลับตาพูดยังได้เลย”
อรพิมยิ้มให้ทรงฉัตรแล้วเปิดคอมพิวเตอร์ทำงานต่ออีก มีข้อความเด้งขึ้นมาจากหน้าจอเป็นข้อความจากพฤกษ์ที่ส่งมาหาเธอเพื่อรายงานบางอย่าง
“พฤกษ์นี่ไวจริงๆ” อรพิมเอ่ยชมผู้ช่วยจากใจ ไม่ว่าเรื่องอะไรชายหนุ่มทำให้ได้ดั่งใจเสมอ
“พฤกษ์ทำอะไรเหรอ” ทรงฉัตรอยากรู้
เขาเดินมาที่หน้าจอคอมเห็นการแชทระหว่างภรรยาสาวกับทนายหนุ่ม แม้จะรู้สึกหวงนิดๆ แต่สายตาไล่ตามอ่านข้อความที่คุยกันก็แน่ใจว่าเป็นเรื่องงานล้วนๆ ชายหนุ่มรู้สึกชื่นชมที่พฤกษ์ทุ่มเทให้กับงานเหลือเกิน
“จะให้รัฐมนตรีอำนาจช่วย พิมคิดดีแล้วเหรอ” ทรงฉัตรหันมาขอความเห็นหญิงสาว
“คุณลุงก็แนะนำว่ารัฐมนตรีอำนาจคนนี้น่าจะช่วยเราได้ เพราะอดีตเป็นหัวหน้าของคนที่จ้างเราสร้างตึกนั่น ถ้าเราขอให้เขาออกหน้าก่อนพิมว่าบางทีเราอาจจะไม่ต้องฟ้องให้เสียเวลา” อรพิมพูดตามที่คุณทรงพุ่มแนะนำ
“แต่เท่าที่รู้ท่านอำนาจคนนี้ไม่เคยช่วยใครฟรีๆ แล้วก็เข้าถึงตัวยากด้วย พฤกษ์จะทำยังไง”
ทรงฉัตรพอรู้กิตติศัพท์ของผู้มีอำนาจท่านนี้มาบ้าง ไม่มีใครไม่รู้จักรัฐมนตรีอำนาจ อวยชัย หนุ่มเนื้อหอม รับตำแหน่งรัฐมนตรีตั้งแต่วัยเพียงสามสิบห้าปี มีหน้าตาหล่อเหลา เป็นที่สนใจของสาวๆ ในแวดวงไฮโซ รวมไปถึง สาวแก่แม่หม้ายทั้งหลายอีกด้วย
“เดี๋ยวพฤกษ์คงหาวิธีจัดการได้ค่ะ” อรพิมอ้าปากหาว อยากจะนอนแต่งานก็ยังต้องทำ
“นอนเถอะพิม”
“คุณฉัตรปล่อยค่ะ พิมยังไม่ได้ปิดคอม”
“เดี๋ยวปิดให้” เรื่องปิดไฟปิดคอมง่ายมาก ไม่ถึงนาทีทุกอย่างก็ดับสนิทเหลือเพียงไฟที่หัวเตียงที่เปิดไว้มองทางเท่านั้น
“พิมจ๋า”
ทรงฉัตรรอเวลานี้มานาน อรพิมมองตาของชายหนุ่มแล้วรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วใบหน้า เริ่มเรียนรู้ว่าจากนี้ไปอะไรจะเกิดขึ้น ทุกอย่างในร่างกายมันตื่นตัวไปหมดขนาดว่าเขายังไม่แตะต้องตัวแม้แต่นิดเดียว
“ดึกแล้ว นอนเถอะค่ะ” อรพิมพยายามบ่ายเบี่ยงด้วยคำพูดแสนหวาน
“ไม่ง่วง หิวด้วย” ทรงฉัตรกระแซะเข้ามาใกล้อีก ใบหน้าคมโน้มเข้ามาหาส่งจุมพิตอ่อนหวานมาทักทายที่หน้าผากเนียนก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นก็เป็นหน้าที่ของริมฝีปากที่ค่อยๆ พรมความคิดถึงไล่ลงมาเรื่อย สองมือของทรงฉัตรหาทางจัดการกับชุดนอนของอรพิม และแล้วก็ทำได้เรือนร่างเกือบเปลือยเปล่าปรากฏชัดต่อหน้าต่อตาเขา
“ไม่เอาค่ะ พรุ่งนี้มีงาน นอนนะคะ” อรพิมพยายามห้ามใจและห้ามไม่ให้ทรงฉัตรทำอะไรเธอมากไปกว่านี้ แค่เขามีการกระทำที่แสนดีมอบให้ หัวใจก็หวั่นไหวจนแทบจะไม่เหลือความเป็นอรพิมที่แสนเย็นชาแล้ว ถ้าขืนถูกเล่ห์เสน่หาผูกรัดอีกเห็นทีจะอยู่ต่อไปไม่ได้แน่
“คิดถึง คิดถึงมากแค่ไหนรู้ไหม” ทรงฉัตรแสดงให้เห็นว่าเขาคิดถึงอรพิมจนไม่อาจจะห้ามใจได้ ยอดอกสวยถูกงับเบาๆ ก่อนจะปลดชุดชั้นในที่เป็นปราการกั้นเหลือเพียงเนื้อแท้ ที่ชายหนุ่มไม่รอช้า รีบกระโจนเข้าไปหาดอมดมสูดความหอมอย่างเต็มที่ สองมือกอบกุมพร้อมกับทักทายด้วยริมฝีปากร้อน
“คุณฉัตร คุณฉัตรคะ” อรพิมหมดแรงต้าน ร่างกายกับหัวใจประสานเป็นความรู้สึกเดียวคือต้องการเขา ต้องการทรงฉัตรเพียงคนเดียวเท่านั้น แผ่นหลังเนียนลอยเหนือที่นอนเพื่อผลักดันให้รับสัมผัสจากการครอบครองของริมฝีปากได้อย่างเต็มที่ มือข้างหนึ่งของชายหนุ่มนำทางการสำรวจผิวกายสวยมายังหน้าท้องแบนราบ
ใบหน้าคมก้มลงมาพร้อมกับจูบฝังรอยไว้ทุกที่ ทรงฉัตรอยากให้มันมีปาฎิหาริย์เกิดขึ้น จะมีเจ้าตัวน้อยมารอพบหน้าในเร็ววันนี้หรือไม่ เขาอยากมีโซ่คล้องใจที่ผูกมัดอรพิมไว้กับตนตลอดไป
วิชารักที่ทรงฉัตรพร่ำสอนแทบทำให้อรพิมเกือบหมดลมหายใจ กายสาวเปลือยเปล่านอนหอบหายใจสะท้าน นัยน์ตาหวานชวนฝันที่มองคนตัวโตปลดกระดุมเสื้อนอนตัวเองเม็ดสุดท้ายแล้วสลัดทุกอย่างบนกายกำยำทิ้ง ค่อยๆ ทาบทับลงมาบนร่างเนียน
อรพิมถูกการปลุกเร้าที่ธรรมชาติมอบให้ตอบสนองไฟรักที่
ทรงฉัตรเป็นผู้จุดได้อย่างไม่อาย คำตำหนิที่คุณทิพย์เคยพูดไว้ไร้ประโยชน์เมื่อหญิงสาวยอมรับกับหัวใจตัวเองว่า สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่อารมณ์พาไปแต่เป็นความจริงที่ว่า บัดนี้เธอเป็นภรรยาของทรงฉัตรทั้งกายและใจ และชายหนุ่มคือผู้ที่กำลังทะลายกำแพงบางอย่างเข้าไปนั่งกลางใจเป็นเจ้าของทั้งชีวิตของหญิงสาว
แรงขับเคลื่อนที่ทรงฉัตรส่งมาให้อรพิมช่างแสนหนักแน่นทุกจังหวะ คนเพิ่งริเรียนรักอาศัยความไม่รู้เรื่องรู้ราว ทำตามทฤษฎีหัวใจตอบสนองจนชายหนุ่มแทบคลั่ง มันไม่เหมือนบทเรียนในตำราที่เธอสอบได้คะแนนเต็มร้อย หากแต่มันเป็นวิชาที่เธอต้องเหนื่อยในการทุ่มทำให้คนที่ร่วมทำข้อสอบด้วยมีความสุขกลับไปเช่นกัน
นาทีนี้คงไม่มีใครจะสุขสมในหัวใจเท่ากับทรงฉัตรและอรพิมอีกต่อไปแล้ว ทั้งสองร่วมท่องไปในดินแดนที่มีเพียงเราสอง ไม่มีใครสามารถล่วงล้ำสู่ดินแดนแห่งความสุขที่ทั้งคู่เป็นเจ้าของร่วมกัน กายสาวลอย
ละลิ่วเบาเหมือนขนนก โดยมีจูบที่แสนหวานรองรับไปตลอดกาล เธอขยับเข้าไปในอ้อมแขนของทรงฉัตรด้วยความเต็มใจ คืนนี้อรพิมอ่อนหวานไปทั้งตัวจนชายหนุ่มไม่อยากจะทอดทิ้งให้ห่างไกล เขาเป็นสุข
อิ่มเอมในไฟรักที่เพิ่งมอดดับไปเมื่อครู่ แรงเสน่หามีอำนาจเชื่อมใจคนทั้งสองให้คล้อยไปในทิศทางเดียวกัน
“พิม พิมจ๋า” ทรงฉัตรเรียกชื่อภรรยาเสียงหวาน
“ขา คุณฉัตร” ปากอิ่มแดงเจ่อเพราะถูกระดมจูบไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ขานรับเสียงหวาน
“ต่อไปพิมจะไม่เย็นชากับผมแล้วใช่ไหม เรามาเริ่มกันใหม่เริ่มสร้างครอบครัวของเราด้วยกันนะ” เขาจูบรับขวัญที่ข้างแก้ม อรพิมถูกดึงเข้าไปแนบชิดกับร่างกำยำ
“อย่าคิดมากเรื่องงานทุกอย่างต้องผ่านได้ เชื่อผมนะ”
อรพิมซบหน้าลงบนอกแกร่งเป็นที่พึ่ง หลับตาลงอย่างมีความสุขเมื่อได้ยินคำรำพันสัญญาหวาน ต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร หญิงสาวก็คงต้องเดินหน้าทำทุกอย่างให้ดีที่สุด หวังว่าสักวันหนึ่งชีวิตครอบครัวที่เพิ่งเริ่มสร้างจะเติบโตขึ้นท่ามกลางความยินดีของคนที่ไม่เห็นด้วยอย่างคุณทิพย์ในเวลานี้
|
|
|
ความคิดเห็น