ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คำสั่งรักมาเฟียร้าย

    ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 3 ( มาเพิ่มค่ะ )

    • อัปเดตล่าสุด 17 ส.ค. 62


    "ลักพาตัวงั้นเหรอครับ"

            "ทำไมคุณป้าถึงคิดว่าจะเป็นการลักพาตัวล่ะครับ" อัลเฟรโด้ถามกลับไปด้วยความสงสัย

            "โซเฟียไม่มีทางออกไปเดินเล่นข้างนอกทั้งที่รู้ว่าจะมีงานในอีกไม่กี่นาทีนี้แน่ มันต้องมีใคร พวกไหนมาจับตัวโซเฟียของป้าไปแน่ๆ" นางร่ำไห้ออกมาดังๆ อีกครั้ง

            อัลเฟรโด้งงไปหมดแล้ว ทำไมถึงมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ การลักพาตัวเจ้าสาวไปในวันงานทั้งที่รู้ว่างานวิวาห์ในวันนี้เป็นของสองตระกูลใหญ่ ซึ่งไม่ควรมีใครกล้าท้าทายอำนาจของมาเฟียแห่งนาโปลีได้ และเขาก็ไม่คิดว่าจะมีใครกล้าทำเช่นนี้

            "ไม่มีร่อยรอยหรือความผิดปกติใดๆ ในงานครับ แขกที่มามีแค่ญาติหรือคนที่อยู่ในรายชื่อเท่านั้น ไม่มีคนนอก" คริสเตียนเข้ามารายงานว่ามีใครผิดปกติเข้าออกในงานหรือไม่

            "สั่งคนปิดท่าเรือทุกแห่ง เช็กเรือทุกเที่ยวตั้งแต่เช้าจนตอนนี้ว่ามีใครเห็นโซเฟียบ้าง ทำเงียบๆ อย่าให้มีใครรู้" อัลเฟรโด้กำชับ

            "เธอล่ะ เป็นใคร" ชายหนุ่มหันมาไล่บี้คนอื่นต่อ โดยเริ่มจากสาวน้อยหน้าหวานที่ดึงดูดสายตาของอัลเฟรโด้เมื่อครู่

            "ฉัน เอ่อ ฉันเป็นเพื่อนเจ้าสาวของโซเฟียค่ะ" ครองขวัญแนะนำตัวเอง แล้วรีบก้าวเข้ามายืนใกล้ๆ นางอันนาที่ยังไม่หยุดร่ำไห้

            "เธออยู่กับโซเฟียครั้งสุดท้ายเมื่อไร" เขาเริ่มการสอบสวนเธอเป็นคนแรก พร้อมทั้งจ้องมองใบหน้าหวานอย่างไม่วางตา

            "ก่อนหน้านี้ครึ่งชั่วโมง โซเฟียบอกให้ฉันไปหาอะไรอุ่นๆ มาให้รองท้อง พอฉันออกไปหาแล้วกลับเข้ามาโซเฟียก็ไม่อยู่แล้ว" ครองขวัญพูดตามความจริง

            "ระหว่างนั้นโซเฟียอยู่กับใคร" เขาไล่บี้ต่อกวาดตามาหาช่างแต่งหน้าทำผมที่ยืนก้มหน้าไม่กล้าพูดอะไรทั้งสิ้น

            "คุณโซเฟียบอกว่าขอไปหาอะไรดื่มหน่อย รอคุณครองขวัญไม่ไหวแล้วและสัญญาว่าจะเข้ามาให้ทันสวมผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวค่ะ" ช่างแต่งหน้าคนหนึ่งกล่าว อัลเฟรโด้มืดแปดด้านเมื่อได้ฟังคำอธิบายจากปากของทุกคนอย่างละเอียด

            "เมื่อกี้คุณป้าบอกว่าเป็นการลักพาตัว ทำไมถึงคิดว่าเป็นการลักพาตัวครับ" อัลเฟรโด้หันมาถามนางอันนาต่อทันที

            "เพราะเมื่ออาทิตย์ก่อนป้าได้รับจดหมายฉบับหนึ่ง ขู่ว่าจะทำร้ายเราทุกคนในครอบครัว ถ้าหากว่าพวกมันไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ"

            "พวกมัน พวกมันพวกไหนครับ แล้วเบลลูชชี่มีศัตรูที่ไหนหรือเปล่า" ชายหนุ่มถามเสียงเข้ม

            อัลเฟรโด้ไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับครอบครัวของว่าที่เจ้าสาวเลยแม้แต่น้อย ในขณะที่ครองขวัญเองก็สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับโซเฟียกันแน่ และใครเป็นคนทำมีเป้าหมายและจุดประสงค์เพื่ออะไร

            "เราไม่เคยมีปัญหากับใคร จะมีก็แต่..." นางอันนานึกอะไรขึ้นมาได้

            "ใครครับ/คะ" ครองขวัญและอัลเฟรโด้ถามขึ้นมาพร้อมๆ กัน ทั้งคู่สบตากันเล็กน้อย ก่อนที่ชายหนุ่มจะเอ่ยถามซ้ำว่า

            "มีเรื่องอะไร พูดความจริงกับผมได้ไหมครับ เราจะได้ช่วยกันแก้ปัญหา"

            "ถ้าจะมีปัญหาก็คือพวกมอนโตริโว่เท่านั้น พักหลังเห็นว่าพยายามจะเรียกค่าคุ้มครองริมหาดที่ทางเราดูแลอยู่ ถ้าเป็นพวกนี้ล่ะก็ โซเฟียคง..." นางอันนาสะอื้นอีกครั้งเมื่อคิดถึงว่าหากบุตรสาวตกอยู่ในมือของพวกมอนโตริโว่แล้วล่ะก็ จะมีสภาพเช่นไร

            "อย่าเพิ่งคิดมากนะคะคุณแม่ อาจจะไม่ใช่อย่างนั้นก็ได้" ครองขวัญกอดปลอบประโลมนางอันนาไว้ห้เสียขวัญ เธอเองก็อดเป็นห่วงไม่ได้เช่นกันว่าป่านนี้โซเฟียเป็นอย่างไรบ้าง

            "ถ้าโซเฟียไม่กลับมาภายในเวลาที่จะต้องทำพิธี เราจะทำอย่างไรกันดีครับ" อัลเฟรโด้คิดถึงเรื่องสำคัญอีกเรื่อง ซึ่งก็น่าห่วงไม่แพ้เรื่องที่เจ้าสาวหายตัวไปเช่นกัน

     

            บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยความอึดอัด เสียงร้องไห้ของนางอันนาทำให้ทุกคนยิ่งเครียดและคิดอะไรไม่ออก อัลเฟรโด้สั่งให้ทุกคนปิดปากเรื่องการหายตัวไปของโซเฟียให้สนิท และคิดเร่งหาทางออกกับการหายตัวไปอย่างกระทันหันของเจ้าสาวในเวลานี้

            "ผมจำเป็นต้องมีเจ้าสาว" อัลเฟรโด้เอ่ยเสียงเข้ม สีหน้าจริงจังอย่างเห็นได้ชัด

            เขาจะไม่มีวันยอมให้งานแต่งงานในวันนี้ล้มเลิกเป็นอันขาด ถึงแม้ว่าความจริงแล้วในใจจะลิงโลดแค่ไหนกับการมีปัญหาในนาทีสุดท้าย แต่เมื่อคิดถึงว่ามารดาสุดที่รักจะเป็นอย่างไรหากว่าเจ้าสาวแสนสวยที่เลือกเองกับมือ หนีการแต่งงานไปเสียแล้ว ดังนั้นไม่ว่าอย่างไรงานวิวาห์ในวันนี้จะต้องไม่ล้มเลิก และอัลเฟรโด้จะต้องมีเจ้าสาวเข้าพิธีด้วย

            "คุณควรห่วงเรื่องการหายตัวของโซเฟียเป็นอันดับแรกนะคะ" ครองขวัญเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเล็กน้อย

            ว่าที่เจ้าบ่าวห่วงภาพลักษณ์ในงานวิวาห์มากกว่าการหายตัวไปของเจ้าสาว ซึ่งไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรในเวลานี้ เขาควรติดตามสืบหาและห่วงความปลอดภัยเหนือสิ่งอื่น ไม่ใช่มาเรียกร้องว่าจะต้องมีเจ้าสาวเพื่อให้งานแต่งงานดำเนินไปต่อได้

            "ไม่รู้เรื่องอะไรอย่าพูดมาก" ท่านประธานหนุ่มกำราบคนพูดด้วยสายตาแข็งกร้าว ซึ่งทำให้ครองขวัญจำต้องหุบปากไว้ไม่พูดอะไรอีก

            "คุณป้าจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร ถ้างานล้มทุกคนจะต้องรู้ว่าโซเฟียหายตัวไป และถ้าข่าวการหายตัวไปของโซเฟียแพร่ไปให้คนอื่นรู้มันคงไม่ดีแน่ใช่ไหมครับ" ท่านประธานหนุ่มรอฟังคำตอบจากนางอันนาด้วยท่าทีที่สงบนิ่ง

            "เราพักเรื่องแต่งงานไว้แล้วตามหาโซเฟียดีไหมคะ คุณป้า" ครองขวัญคุกเข่าลงข้างหญิงวัยกลางคนที่กำลังคิดหาทางออกของเรื่องนี้

            "ไว้หาตัวโซเฟียเจอ รู้ว่าใครที่เป็นคนทำเรื่องนี้ จัดการทุกอย่างจบแล้วเราค่อยจัดงานแต่งใหมก็ได้นี่คะ" หญิงสาวห่วงความปลอดภัยของเพื่อนรักมากกว่าอย่างอื่น

            ถ้าโซเฟียออกไปเดินเล่นหรือหาอะไรรองท้อง แล้วกลับมาก่อนเวลาเข้าพิธีที่จะเริ่มขึ้นในอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงนี้ได้ตามกำหนดทุกอย่างก็จบ แต่ในความจริงหรือเจ้าสาวหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยและไม่มีใครหาพบ สิ่งแรกที่ควรทำคือตามหาคนที่ไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร มากกว่ามานั่งถามว่างานแต่งงานจะดำเนินต่อไปอย่างไร ก็ในเมื่อเจ้าสาวไม่อยู่เข้าพิธี เจ้าบ่าวอย่างเขาก็ต้องล้มเลิกงานแต่งไปโดยปริยายไม่ใช่หรือ

            "ถ้าคนอื่นรู้ว่าโซเฟียหายตัวไปในวันนี้ คงมีอีกหลายเรื่องที่จะตามมาและแน่นอนว่าความปลอดภัยของโซเฟียก็จะอันตรายขึ้น" อัลเฟรโด้เอ่ยพลางสบสายตากับนางอันนาแล้วพูดต่อว่า

            "แต่ถ้างานดำเนินต่อไปจนเสร็จสิ้น เราค่อยหาตัวโซเฟียว่าไปอยู่ไหนและจัดการเอาตัวกลับมาเงียบๆ คุณป้าว่าดีกว่าไหมครับ"

            "คุณอัลเฟรโด้ต้องหาโซเฟียให้เจอ ก่อนที่ ก่อนที่พวกมันจะ..." นางอันนาสะอื้นเล็กน้อย คิดถึงลูกสาวสุดที่รักซึ่งไม่รู้ว่าเวลานี้ไปอยู่ที่ไหน

            "ผมสัญญาว่าจะพาโซเฟียกลับมาให้เร็วที่สุด ส่วนเรื่องแต่งงาน..."

            "หนูขวัญ" หญิงวัยกลางคนหันมาหาครองขวัญ

            "คะ คุณแม่" ครองขวัญตกใจเมื่อได้ยินเสียงเรียก และยิ่งตกใจมากขึ้นเมื่อนางอันนาจับมือเธอให้เดินมาหาเขาแล้วพูดว่า

            "เป็นเจ้าสาวแทนโซเฟียได้ไหม"

            "คุณแม่" ครองขวัญอุทานด้วยความตกใจ ดวงตาคู่สวยเงยหน้าขึ้นสบตากคนที่กุมมือเธอไว้ คล้ายกับจะบอกให้เขาพูดคำว่าไม่ออกมา

            "เราควรรีบหาโซเฟียไม่ใช่มาคิดเรื่องการแต่งงาน" สาวน้อยยืนยันคำเดิมอย่างที่พูดแต่แรก แต่เมื่อเห็นดวงตาคู่คมนั้นเปล่งประกายแสดงความไม่พอใจออกมาก็ทำให้ต้องรีบหยุดพูดและก้มหน้าหนีทันที

            "การแต่งงานต้องเกิดขึ้น ต้องไม่มีใครรู้ว่าโซเฟียหายไป ถ้าไม่อยากนั้นทุกอย่างอาจจะเลวร้ายมากกว่านี้" น้ำเสียงหญิงวัยกลางคนสั่นสะอื้นเล็กน้อย

            "ช่วยเราสักครั้งได้ไหม" นางอันนาขอร้อง

            ช่วยเราในที่นี้ หมายถึงช่วยใครกันแน่ ชื่อเสียงของตระกูลเบลลูชชี่หรือว่า ความต้องการของหมอนั่น ครองขวัญไม่มีเวลาได้ตัดสินใจใดๆ ทั้งสิ้น เพราะอัลเฟรโด้สั่งให้ช่างแต่งหน้าและช่างทำผม จัดการเนรมิตรตัวเธอให้เป็นเจ้าสาวภายในเวลาสิบนาทีสุดท้ายที่เหลืออยู่ โดยมีคำพูดประโยคสุดท้ายที่ท่านประธานหนุ่มกระซิบที่ข้างหูให้ได้ยินกันเพียงสองคนก็คือ

            "ถ้ายังอยากเห็นหน้าเพื่อนเธออีกครั้งจงสวมชุดแต่งงานเข้าพิธีกับฉันเสีย ไม่อยากนั้นรับรองได้เลยว่าเธอจะไม่เห็นแม้แต่เศษเสื้อผ้าที่โซเฟียสวมใส่ เพราะฉันจะไม่ตามหาผู้หญิงที่ทิ้งงานแต่งงานหนีไปแน่ๆ"

     

    แล้วจะทำไงต่อไปดีคะ พรุ่งนี้มาติดตามกันค่ะ ฝากลิงค์อีบุ๊คด้วยจ้า คลิ๊ก ค่า


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×