คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 3 ( มาเพิ่มค่ะ )
"ลักพาตัวงั้นเหรอครับ"
"ทำไมคุณป้าถึงคิดว่าจะเป็นการลักพาตัวล่ะครับ"
อัลเฟรโด้ถามกลับไปด้วยความสงสัย
"โซเฟียไม่มีทางออกไปเดินเล่นข้างนอกทั้งที่รู้ว่าจะมีงานในอีกไม่กี่นาทีนี้แน่
มันต้องมีใคร พวกไหนมาจับตัวโซเฟียของป้าไปแน่ๆ" นางร่ำไห้ออกมาดังๆ อีกครั้ง
อัลเฟรโด้งงไปหมดแล้ว
ทำไมถึงมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้
การลักพาตัวเจ้าสาวไปในวันงานทั้งที่รู้ว่างานวิวาห์ในวันนี้เป็นของสองตระกูลใหญ่
ซึ่งไม่ควรมีใครกล้าท้าทายอำนาจของมาเฟียแห่งนาโปลีได้
และเขาก็ไม่คิดว่าจะมีใครกล้าทำเช่นนี้
"ไม่มีร่อยรอยหรือความผิดปกติใดๆ
ในงานครับ แขกที่มามีแค่ญาติหรือคนที่อยู่ในรายชื่อเท่านั้น ไม่มีคนนอก"
คริสเตียนเข้ามารายงานว่ามีใครผิดปกติเข้าออกในงานหรือไม่
"สั่งคนปิดท่าเรือทุกแห่ง
เช็กเรือทุกเที่ยวตั้งแต่เช้าจนตอนนี้ว่ามีใครเห็นโซเฟียบ้าง ทำเงียบๆ
อย่าให้มีใครรู้" อัลเฟรโด้กำชับ
"เธอล่ะ เป็นใคร"
ชายหนุ่มหันมาไล่บี้คนอื่นต่อ
โดยเริ่มจากสาวน้อยหน้าหวานที่ดึงดูดสายตาของอัลเฟรโด้เมื่อครู่
"ฉัน เอ่อ ฉันเป็นเพื่อนเจ้าสาวของโซเฟียค่ะ"
ครองขวัญแนะนำตัวเอง แล้วรีบก้าวเข้ามายืนใกล้ๆ นางอันนาที่ยังไม่หยุดร่ำไห้
"เธออยู่กับโซเฟียครั้งสุดท้ายเมื่อไร"
เขาเริ่มการสอบสวนเธอเป็นคนแรก พร้อมทั้งจ้องมองใบหน้าหวานอย่างไม่วางตา
"ก่อนหน้านี้ครึ่งชั่วโมง
โซเฟียบอกให้ฉันไปหาอะไรอุ่นๆ มาให้รองท้อง พอฉันออกไปหาแล้วกลับเข้ามาโซเฟียก็ไม่อยู่แล้ว"
ครองขวัญพูดตามความจริง
"ระหว่างนั้นโซเฟียอยู่กับใคร"
เขาไล่บี้ต่อกวาดตามาหาช่างแต่งหน้าทำผมที่ยืนก้มหน้าไม่กล้าพูดอะไรทั้งสิ้น
"คุณโซเฟียบอกว่าขอไปหาอะไรดื่มหน่อย
รอคุณครองขวัญไม่ไหวแล้วและสัญญาว่าจะเข้ามาให้ทันสวมผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวค่ะ"
ช่างแต่งหน้าคนหนึ่งกล่าว
อัลเฟรโด้มืดแปดด้านเมื่อได้ฟังคำอธิบายจากปากของทุกคนอย่างละเอียด
"เมื่อกี้คุณป้าบอกว่าเป็นการลักพาตัว
ทำไมถึงคิดว่าเป็นการลักพาตัวครับ" อัลเฟรโด้หันมาถามนางอันนาต่อทันที
"เพราะเมื่ออาทิตย์ก่อนป้าได้รับจดหมายฉบับหนึ่ง
ขู่ว่าจะทำร้ายเราทุกคนในครอบครัว ถ้าหากว่าพวกมันไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ"
"พวกมัน พวกมันพวกไหนครับ
แล้วเบลลูชชี่มีศัตรูที่ไหนหรือเปล่า" ชายหนุ่มถามเสียงเข้ม
อัลเฟรโด้ไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับครอบครัวของว่าที่เจ้าสาวเลยแม้แต่น้อย
ในขณะที่ครองขวัญเองก็สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับโซเฟียกันแน่
และใครเป็นคนทำมีเป้าหมายและจุดประสงค์เพื่ออะไร
"เราไม่เคยมีปัญหากับใคร
จะมีก็แต่..." นางอันนานึกอะไรขึ้นมาได้
"ใครครับ/คะ"
ครองขวัญและอัลเฟรโด้ถามขึ้นมาพร้อมๆ กัน ทั้งคู่สบตากันเล็กน้อย
ก่อนที่ชายหนุ่มจะเอ่ยถามซ้ำว่า
"มีเรื่องอะไร พูดความจริงกับผมได้ไหมครับ
เราจะได้ช่วยกันแก้ปัญหา"
"ถ้าจะมีปัญหาก็คือพวกมอนโตริโว่เท่านั้น
พักหลังเห็นว่าพยายามจะเรียกค่าคุ้มครองริมหาดที่ทางเราดูแลอยู่
ถ้าเป็นพวกนี้ล่ะก็ โซเฟียคง..."
นางอันนาสะอื้นอีกครั้งเมื่อคิดถึงว่าหากบุตรสาวตกอยู่ในมือของพวกมอนโตริโว่แล้วล่ะก็
จะมีสภาพเช่นไร
"อย่าเพิ่งคิดมากนะคะคุณแม่
อาจจะไม่ใช่อย่างนั้นก็ได้" ครองขวัญกอดปลอบประโลมนางอันนาไว้ให้เสียขวัญ
เธอเองก็อดเป็นห่วงไม่ได้เช่นกันว่าป่านนี้โซเฟียเป็นอย่างไรบ้าง
"ถ้าโซเฟียไม่กลับมาภายในเวลาที่จะต้องทำพิธี
เราจะทำอย่างไรกันดีครับ" อัลเฟรโด้คิดถึงเรื่องสำคัญอีกเรื่อง
ซึ่งก็น่าห่วงไม่แพ้เรื่องที่เจ้าสาวหายตัวไปเช่นกัน
บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยความอึดอัด
เสียงร้องไห้ของนางอันนาทำให้ทุกคนยิ่งเครียดและคิดอะไรไม่ออก อัลเฟรโด้สั่งให้ทุกคนปิดปากเรื่องการหายตัวไปของโซเฟียให้สนิท
และคิดเร่งหาทางออกกับการหายตัวไปอย่างกระทันหันของเจ้าสาวในเวลานี้
"ผมจำเป็นต้องมีเจ้าสาว"
อัลเฟรโด้เอ่ยเสียงเข้ม สีหน้าจริงจังอย่างเห็นได้ชัด
เขาจะไม่มีวันยอมให้งานแต่งงานในวันนี้ล้มเลิกเป็นอันขาด
ถึงแม้ว่าความจริงแล้วในใจจะลิงโลดแค่ไหนกับการมีปัญหาในนาทีสุดท้าย แต่เมื่อคิดถึงว่ามารดาสุดที่รักจะเป็นอย่างไรหากว่าเจ้าสาวแสนสวยที่เลือกเองกับมือ
หนีการแต่งงานไปเสียแล้ว ดังนั้นไม่ว่าอย่างไรงานวิวาห์ในวันนี้จะต้องไม่ล้มเลิก
และอัลเฟรโด้จะต้องมีเจ้าสาวเข้าพิธีด้วย
"คุณควรห่วงเรื่องการหายตัวของโซเฟียเป็นอันดับแรกนะคะ"
ครองขวัญเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเล็กน้อย
ว่าที่เจ้าบ่าวห่วงภาพลักษณ์ในงานวิวาห์มากกว่าการหายตัวไปของเจ้าสาว
ซึ่งไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรในเวลานี้
เขาควรติดตามสืบหาและห่วงความปลอดภัยเหนือสิ่งอื่น
ไม่ใช่มาเรียกร้องว่าจะต้องมีเจ้าสาวเพื่อให้งานแต่งงานดำเนินไปต่อได้
"ไม่รู้เรื่องอะไรอย่าพูดมาก"
ท่านประธานหนุ่มกำราบคนพูดด้วยสายตาแข็งกร้าว
ซึ่งทำให้ครองขวัญจำต้องหุบปากไว้ไม่พูดอะไรอีก
"คุณป้าจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร
ถ้างานล้มทุกคนจะต้องรู้ว่าโซเฟียหายตัวไป
และถ้าข่าวการหายตัวไปของโซเฟียแพร่ไปให้คนอื่นรู้มันคงไม่ดีแน่ใช่ไหมครับ"
ท่านประธานหนุ่มรอฟังคำตอบจากนางอันนาด้วยท่าทีที่สงบนิ่ง
"เราพักเรื่องแต่งงานไว้แล้วตามหาโซเฟียดีไหมคะ
คุณป้า" ครองขวัญคุกเข่าลงข้างหญิงวัยกลางคนที่กำลังคิดหาทางออกของเรื่องนี้
"ไว้หาตัวโซเฟียเจอ
รู้ว่าใครที่เป็นคนทำเรื่องนี้ จัดการทุกอย่างจบแล้วเราค่อยจัดงานแต่งใหมก็ได้นี่คะ"
หญิงสาวห่วงความปลอดภัยของเพื่อนรักมากกว่าอย่างอื่น
ถ้าโซเฟียออกไปเดินเล่นหรือหาอะไรรองท้อง
แล้วกลับมาก่อนเวลาเข้าพิธีที่จะเริ่มขึ้นในอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงนี้ได้ตามกำหนดทุกอย่างก็จบ
แต่ในความจริงหรือเจ้าสาวหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยและไม่มีใครหาพบ
สิ่งแรกที่ควรทำคือตามหาคนที่ไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร
มากกว่ามานั่งถามว่างานแต่งงานจะดำเนินต่อไปอย่างไร
ก็ในเมื่อเจ้าสาวไม่อยู่เข้าพิธี
เจ้าบ่าวอย่างเขาก็ต้องล้มเลิกงานแต่งไปโดยปริยายไม่ใช่หรือ
"ถ้าคนอื่นรู้ว่าโซเฟียหายตัวไปในวันนี้
คงมีอีกหลายเรื่องที่จะตามมาและแน่นอนว่าความปลอดภัยของโซเฟียก็จะอันตรายขึ้น"
อัลเฟรโด้เอ่ยพลางสบสายตากับนางอันนาแล้วพูดต่อว่า
"แต่ถ้างานดำเนินต่อไปจนเสร็จสิ้น
เราค่อยหาตัวโซเฟียว่าไปอยู่ไหนและจัดการเอาตัวกลับมาเงียบๆ
คุณป้าว่าดีกว่าไหมครับ"
"คุณอัลเฟรโด้ต้องหาโซเฟียให้เจอ
ก่อนที่ ก่อนที่พวกมันจะ..." นางอันนาสะอื้นเล็กน้อย
คิดถึงลูกสาวสุดที่รักซึ่งไม่รู้ว่าเวลานี้ไปอยู่ที่ไหน
"ผมสัญญาว่าจะพาโซเฟียกลับมาให้เร็วที่สุด
ส่วนเรื่องแต่งงาน..."
"หนูขวัญ"
หญิงวัยกลางคนหันมาหาครองขวัญ
"คะ คุณแม่"
ครองขวัญตกใจเมื่อได้ยินเสียงเรียก
และยิ่งตกใจมากขึ้นเมื่อนางอันนาจับมือเธอให้เดินมาหาเขาแล้วพูดว่า
"เป็นเจ้าสาวแทนโซเฟียได้ไหม"
"คุณแม่"
ครองขวัญอุทานด้วยความตกใจ ดวงตาคู่สวยเงยหน้าขึ้นสบตากคนที่กุมมือเธอไว้
คล้ายกับจะบอกให้เขาพูดคำว่าไม่ออกมา
"เราควรรีบหาโซเฟียไม่ใช่มาคิดเรื่องการแต่งงาน"
สาวน้อยยืนยันคำเดิมอย่างที่พูดแต่แรก
แต่เมื่อเห็นดวงตาคู่คมนั้นเปล่งประกายแสดงความไม่พอใจออกมาก็ทำให้ต้องรีบหยุดพูดและก้มหน้าหนีทันที
"การแต่งงานต้องเกิดขึ้น
ต้องไม่มีใครรู้ว่าโซเฟียหายไป ถ้าไม่อยากนั้นทุกอย่างอาจจะเลวร้ายมากกว่านี้"
น้ำเสียงหญิงวัยกลางคนสั่นสะอื้นเล็กน้อย
"ช่วยเราสักครั้งได้ไหม"
นางอันนาขอร้อง
ช่วยเราในที่นี้ หมายถึงช่วยใครกันแน่
ชื่อเสียงของตระกูลเบลลูชชี่หรือว่า ความต้องการของหมอนั่น
ครองขวัญไม่มีเวลาได้ตัดสินใจใดๆ ทั้งสิ้น เพราะอัลเฟรโด้สั่งให้ช่างแต่งหน้าและช่างทำผม
จัดการเนรมิตรตัวเธอให้เป็นเจ้าสาวภายในเวลาสิบนาทีสุดท้ายที่เหลืออยู่
โดยมีคำพูดประโยคสุดท้ายที่ท่านประธานหนุ่มกระซิบที่ข้างหูให้ได้ยินกันเพียงสองคนก็คือ
"ถ้ายังอยากเห็นหน้าเพื่อนเธออีกครั้งจงสวมชุดแต่งงานเข้าพิธีกับฉันเสีย
ไม่อยากนั้นรับรองได้เลยว่าเธอจะไม่เห็นแม้แต่เศษเสื้อผ้าที่โซเฟียสวมใส่
เพราะฉันจะไม่ตามหาผู้หญิงที่ทิ้งงานแต่งงานหนีไปแน่ๆ"
แล้วจะทำไงต่อไปดีคะ
พรุ่งนี้มาติดตามกันค่ะ ฝากลิงค์อีบุ๊คด้วยจ้า คลิ๊ก ค่า
ความคิดเห็น