คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 6
ทรงฉัตรรีบไปประชุมแต่เช้า เขาอ้อยอิ่งไม่อยากจะไปทำงานเหมือนเช่นทุกวัน ถ้ารู้ว่าแต่งงานมีภรรยาแล้วมันดีแบบนี้ ชายหนุ่มคงไม่ปล่อยให้เวลาล่วงเลยผ่านนานนับเดือน เสียเวลาไปกับการทะเลาะเบาะแว้งด้วยเรื่องไร้สาระแน่
“ไปเถอะค่ะ เดี๋ยวสาย” อรพิมเบี่ยงหน้าหนีเมื่อชายหนุ่มโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้เป็นรอบที่ห้า
“ขอหอมก่อนไม่ได้เหรอ” ทรงฉัตรพูดตรงไปตรงมาจนเธอหน้าแดง
“เข้าประชุมสายไม่ดีนะคะ” หญิงสาวเอามือดันอกเขาไว้ เห็นแววตากรุ้มกริ่มของสามีตนเองก็ทำให้รู้สึกวูบวาบที่ใบหน้า
เมื่อคืนนี้ทรงฉัตรทั้งกอดทั้งจูบเนื้อนิ่มแทบทั้งคืน เขาทั้งอ่อนโยนและแสนดีเปลี่ยนจากผู้ชายที่ยั่วโมโหและปากร้าย มาเป็นคนช่างฉอเลาะเอาใจและมีคำหวานออกมาไม่ขาดสาย มันยังใหม่หรือนี่เป็นตัวจริงกันแน่
“ผมอยากจะลางานจะตาย”
ทรงฉัตรกะลิ้มกะเหลี่ยเข้ามากอดจากด้านหลังแล้วก้มลงหอมที่ต้นคอขาว ตรงไหนของอรพิมก็หอมไปหมด ให้ตายเถอะ เจ้าหล่อนมีแรงดึงดูดให้เขาอยู่ใกล้ได้เพียงนี้เชียวหรือ ไม่คิดเลยว่าจะมีวันนี้ที่ตนเองรู้สึกหวงแหนผู้หญิงที่พ่อใส่พานมาให้
“ไม่ได้นะคะ คุณฉัตร ถ้าทำแบบนี้พิมโกรธจริงๆ ด้วย” อรพิมทำเสียงดุใส่
“จ้า จะรีบไปทำงานหาเงินแล้วก็รีบกลับมาหาเมีย ดีไหม”
อรพิมหน้าแดงเมื่อได้ยินคำว่ากลับมาหาเมีย ใบหน้าสาวน้อย
ระเรื่อขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด เธอรู้สถานภาพของตนดีว่าเป็นอะไรกับ
ทรงฉัตร สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือตอนนี้เป็นคนของครอบครัวบริบูรณ์ปัญญาไปแล้วเต็มตัว
“ผมไปนะ แล้วจะรีบกลับ” ทรงฉัตรฉวยโอกาสหอมแก้มสาวอีกครั้ง
“คุณฉัตร อย่าทำแบบนี้บ่อยๆ สิคะ” อรพิมรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ
“ทำไมล่ะ ผัวเมียกันก็ต้องทำแบบนี้” เขาแปลกใจจิงๆ ผู้หญิงทั่วโลก ทรงฉัตรมั่นใจว่าทุกคนอยากให้สามีตนเองทำแบบนี้ทั้งนั้น แล้วภรรยาคนสวยไม่เหมือนคนอื่นหรือไง
“พิมรู้ค่ะ แต่นั่นพวกเขาไม่เหมือนเรา” หญิงสาวก้มหน้าน้ำตาคลอขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้
เรื่องของเธอกับทรงฉัตรมันเกิดจากอารมณ์พาไปทั้งคู่ ไม่มีคำว่า รัก เป็นตัวนำ แล้วจะมั่นใจได้อย่างไรว่าความสัมพันธ์นี้จะยืดยาวแค่ไหน สิ่งที่จะเกิดตามมาหากว่ามีลูก เด็กที่ขาดพ่อและแม่ ว้าเหว่แค่ไหนอรพิมรู้ดีที่สุด และหวังว่าจะไม่เกิดเรื่องเหล่านี้ตามมา
“ไม่เหมือนตรงไหน พูดมาสิ” ทรงฉัตรเชยคางภรรยาสาวขึ้น เขาเห็นแววตาคู่สวยมีน้ำใสคลอก็ยิ่งแปลกใจ อรพิมกำลังคิดอะไรอยู่ เสียใจที่ตกเป็นของเขาเมื่อคืนนี้หรือ
“พิมเสียใจอะไรบอกผมได้ไหม” ชายหนุ่มอยากรู้เหลือเกินว่าเธอร้องไห้ทำไม
“เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร คุณฉัตรไปทำงานเถอะ สายแล้ว” หญิงสาวตัดบทพยายามฝืนยิ้มให้ชายหนุ่ม เธอไม่มีเวลามาเสียเวลาคิดเรื่องพวกนี้ งานที่ต้องสะสางรออยู่ที่ห้องทำงานของคุณทรงพุ่ม ตั้งใจว่าวันนี้จะทำให้เสร็จและพรุ่งนี้จะจัดการให้พฤกษ์ดำเนินการณ์ต่อทันที
ทรงฉัตรไม่เข้าใจอารมณ์ของอรพิมตอนนี้ แต่ไม่มีเวลาที่จะซักถามเพราะต้องรีบเข้าประชุม ชายหนุ่มดึงร่างบางเข้ามากอดอีกครั้งแล้วหอมที่เรือนผมนิ่มก่อนจะยอมตัดใจหันหลังเดินออกไปทำงาน
ประตูห้องปิดลงอรพิมทรุดตัวลงนั่งที่เตียงนอนทันที ยิ่งเห็นรอยจางสีแดงบนผ้าปูที่นอนยิ่งทำให้หญิงสาวเสียใจมากขึ้น เรื่องเมื่อคืนนี้มันหอมหวานจนยากตัดใจและยอมรับว่าแพ้เพลิงเสน่หาที่ทรงฉัตรสอน
หญิงสาวคิดถึงคุณดลยาจับใจ อยากจะบอกน้าสาวคนสวยว่าเธอทรมานกับความรู้สึกในหัวใจตอนนี้เหลือเกิน อยากจะรักแต่ก็ไม่กล้าอยากจะตัดใจจากทุกสิ่งและมุ่งไปที่งานสำคัญ อรพิมก็รู้สึกเหมือนหัวใจจะสลาย ถ้านี่คือความรู้สึกของผู้หญิงที่กำลังเรียนรัก มันคงเป็นพิษรักที่แสนจะเจ็บปวด หายาอะไรมารักษาคงไม่หาย เธอควรทำอย่างไรกับความรู้สึกนี้ดี จะเปิดใจรักทรงฉัตรอย่างภรรยารักสามี หรือควรจะเฉยชาใส่ความสัมพันธ์แสนหวานเมื่อคืนนี้ ฝังมันไว้ก้นบึ้งของหัวใจและไม่ยอมให้มันเกิดซ้ำสองอีก
คุณทิพย์เข้ามาดูอาการป่วยของอรพิมเป็นวันที่สอง นางแปลกใจที่หญิงสาวรื้อผ้าปูที่นอนปลอกหมอนออกมากองไว้ข้างเตียง ทั้งๆ ที่เมื่อวานเพิ่งจะให้เด็กเปลี่ยน รอยน้ำเป็นวงกลางผ้าปูทำให้แม่สามีช่างสังเกตเกิดความสงสัย
“พิมทำน้ำหกค่ะ เลยต้องเปลี่ยนใหม่” อรพิมหาทางออกให้กับคำถามนี้
“เดี๋ยวให้เด็กมาเปลี่ยนแล้วผื่นหายหรือยัง ข้อเท้าเดินไหวแล้วใช่ไหม” คุณทิพย์ดูจากเนื้อตัวที่ไม่มีรอยผื่นเหมือนเมื่อหลายวันก่อน เมื่อวานนางให้สาวใช้ชโลมยาไปทั่วตัวก็น่าจะหายแล้ว
“เดี๋ยวฉันทาให้เอง เธอไปอาบน้ำซะ”
อรพิมพยายามบ่ายเบี่ยงว่าอาการผื่นของเธอหายดีแล้ว ไม่ต้องรบกวนให้ใครมาดูแลแต่เมื่อเห็นสายตาดุของแม่สามีที่มองมา ทำให้หญิงสาวต้องจำใจทำตาม
สายตาของคุณทิพย์มองอย่างจับผิดเมื่อเห็นรอยแดงที่เนินอกและเกือบจะทั่วตัว คนที่อาบน้ำร้อนมาก่อนมองรู้ว่านี่ไม่ใช่ผื่นจากการแพ้อาหาร นางระงับอารมณ์บางอย่างไม่ให้อรพิมรู้ว่าตนรู้ทันว่าเกิดอะไรขึ้น แม่สามีทายาให้โดยไม่ปริปากพูดอะไรสักคำ ยิ่งทำให้หญิงสาวรู้สึกไม่สบายใจ
“ขอบคุณค่ะ” อรพิมยกมือไหว้ขอบคุณอย่างนอบน้อม
“ผื่นไม่มีแล้วอาการป่วยก็หาย ต่อไปก็ต้องรู้จักดูแลตัวเองดีๆ อย่าทำอะไรตามอารมณ์หรือตามใจชอบเพราะสุดท้ายคนที่เสียใจที่สุดก็คือเรา”
อรพิมสะอึก รู้ดีว่าคุณทิพย์หมายถึงอะไร หญิงสาวก้มหน้ามองพื้นไม่กล้าสบตากับแม่สามี
“ร่างกายมันก็มีศักดิ์ศรี อย่าเอาร่างกายไปใช้พร่ำเพรื่อจนไม่มีศักดิ์ศรีเหลืออยู่ โดยเฉพาะศักดิ์ศรีที่ลูกผู้หญิงควรมี เธอเองก็ควรรู้ว่าความจริงคืออะไร ถ้าอารมณ์มันพลั้งเผลอก็พอจะให้อภัยได้ แต่ถ้าตั้งใจแล้ววันหนึ่งไม่เหลืออะไรอย่าโทษใครก็แล้วกัน”
อรพิมหน้าชากับคำพูดของแม่สามี คุณทิพย์ไม่ได้เจาะจงพูดเรื่องอะไรหนำซ้ำยังสอนเธอทางอ้อมด้วยซ้ำ น้ำตาของหญิงสาวร่วงหล่นเปรอะแก้มนวลอย่างห้ามไม่ได้ อารมณ์มันพาไปจริงอย่างที่นางพูด ตกหลุมพรางของรสเสน่หาจนลืมความจริง ความจริงที่เธอกับทรงฉัตรอยู่กันบนผลประโยชน์ และเขามีมุกดาราเป็นคู่ที่เหมาะสม ส่วนเธอถ้าสามารถเอาเงินคืนบริษัทได้ก็จะเป็นอิสระกับการแต่งงานไร้หัวใจนี้ หญิงสาวปาดน้ำตาข้างแก้มสวยเช็ดมันให้แห้งสนิท สูดลมหายใจเรียกความเป็นอรพิมกลับมา ยืนบนสองขาเพื่อคำสั่งที่ได้รับมอบหมาย
เสร็จงานเมื่อไรเธอจะขออิสระให้หัวใจและร่างกายตัวเองทันที
ทรงฉัตรกระวีกระวาดเก็บงานบนโต๊ะทุกอย่างให้เรียบร้อย ประชุมเมื่อเช้ามีเรื่องด่วนหลายเรื่องที่ต้องรีบจัดการ พรุ่งนี้อรพิมกลับมาทำงานคงต้องยุ่งวุ่นวายแน่ ชายหนุ่มสั่งให้ช่างมาปลดล็อกประตูเชื่อมที่เคยถูกปิดด้วยคำสั่งหญิงสาว เพื่อให้เขาสามารถเดินเข้าไปหาเธอได้ตลอดเวลา จากนี้ไปจะไม่มีอะไรมากั้นในความสัมพันธ์ที่แสนหวานนี้ได้
เขานึกขึ้นได้ว่ามีเรื่องต้องบอกพฤกษ์ให้รับทราบ เพราะวันนี้ทนายคนเก่งไม่ได้เข้าประชุมด้วย ทรงฉัตรให้เลขาต่อสายไปที่โต๊ะทำงานของเขา ปรากฎว่าพฤกษ์ไม่อยู่ที่นั่น ออกไปไหนตั้งแต่ตอนบ่ายก็ไม่รู้
ทรงฉัตรไม่ได้ติดใจอะไรเขาฝากโน๊ตให้ทนายหนุ่มสั้นๆ แล้วรีบบึ่งรถกลับบ้านไปหาอรพิมด้วยความคิดถึง คนเพิ่งมีเมียคิดต่างๆ นานาว่าถ้าเจอหน้าหวานใจจะทักทายอย่างไรเป็นคำแรก จะกอดหรือหอมหรือจูบให้หายคิดถึงดี
คุณทิพย์จัดเตรียมตั้งโต๊ะอาหารเย็นโดยมีมุกดารามาช่วย วันนี้นางเอกสาวไม่มีคิวที่ไหนจึงแวะมาหามารดาของทรงฉัตร ถึงได้รู้ว่าอรพิมไม่สบายเพิ่งจะหายและรับฟังความทุกข์ใจบางอย่างของนาง พร้อมทั้งคำขอร้องที่นางเอกสาวไม่รู้ว่าจะปฏิเสธอย่างไรดี
“อ้าว ฉัตร กลับมาแล้วเหรอคะ” มุกดาราเหลือบไปเห็นชายหนุ่มกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาในบ้าน
“มุก มาได้ไงครับ วันนี้ไม่มีคิวเหรอ” ทรงฉัตรแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นหญิงสาวอยู่ที่บ้านในเวลานี้
“ไม่มีค่ะ ละครเวทีเริ่มพรุ่งนี้ มุกว่างแค่วันนี้เลยแวะมาหาคุณแม่กับฉัตร ทานข้าวสิคะ ตั้งโต๊ะเสร็จพอดี” มุกดารายิ้มหวาน
“เดี๋ยวผมขอตัวขึ้นไปข้างบนก่อนนะ เดี๋ยวมา” ทรงฉัตรอยากเห็นหน้าอรพิมใจจะขาด เขายิ้มให้นางเอกสาวแล้วรีบขึ้นไปตามที่หัวใจเรียกร้อง
หัวใจของทรงฉัตรแฟ่บลงทันทีในห้องนอนไม่มีอรพิมอยู่ โต๊ะทำงานที่หญิงสาวเคยนั่งก็ไม่มีคอมพิวเตอร์และกองเอกสารอันตรธานหายไปหมด อรพิมไปไหน หรือว่าจะลงไปที่ห้องทำงานของบิดา
ทรงฉัตรรีบลงไปดูที่ห้องทำงานของคุณทรงพุ่ม บิดากำลังอ่านหนังสือเล่มโปรดอยู่เพียงลำพังไร้เงาของอรพิมอีกเช่นกัน
เมียหาย... เมียสุดที่รักหายไปไหน
“พ่อครับ พิมล่ะ” ชายหนุ่มละล่ำละลักถาม
“หนูพิมไม่อยู่” บิดาตอบสั้นๆ
“ไปไหนครับ เพิ่งหายแล้วไปไหน ทำไมพ่อให้ไป” ลูกชายถามเป็นชุดจนคุณทรงพุ่มเงยหน้ามองด้วยความแปลกใจ
“ไปถามแม่แกโน่น เขาอนุญาตกัน พ่ออยู่ในนี้รู้อีกทีหนูพิมก็ไปแล้ว” ทรงฉัตรไม่ถามต่อ เขาเดินตรงไปที่โต๊ะอาหารทันที
“แม่ครับ พิมไปไหน” น้ำเสียงเขาดูเหมือนจะไม่พอใจเล็กน้อยที่กลับมาไม่เห็นหวานใจตัวเองอยู่ที่บ้าน ความระแวงว่ามารดาไม่ชอบหน้าอรพิมเป็นทุนเดิม อาจทำให้นางแกล้งสุดที่รักเขาอีกเป็นได้
“ออกไปข้างนอก”
“ไปไหนครับ” เขาถามเสียงห้วนอย่างลืมตัว
คุณทิพย์เงยหน้ามองชายหนุ่มด้วยสีหน้าเรียบเฉย ทำให้ทรงฉัตรรู้สึกตัวขึ้นมาเล็กน้อย เขาพยายามปรับน้ำเสียงและท่าทางให้เป็นปกติที่สุด
“ออกไปกับพฤกษ์ แต่อย่าถามว่าไปไหนเพราะไม่ได้บอกไว้” คุณทิพย์เอ่ยเสียงเรียบ
“แล้วแม่ให้ไปได้ไงครับ พิมเพิ่งหายดี” ชายหนุ่มโวยวายเสียงดัง ออกไปกับพฤกษ์ไปไหนกัน ทำไมป่านนี้ยังไม่กลับ
“นี่ ตาฉัตร เด็กนั่นมีขาจะไปไหนมาไหนแม่จะห้ามได้ไง” คุณทิพย์เสียงสั่นเล็กน้อย ความน้อยใจที่ทรงฉัตรเสียงดังใส่ทำให้นางเสียใจเหลือเกิน เห็นผู้หญิงดีกว่าแม่ของตัวเอง
“ฉัตร เสียงดังทำไมคะ คุณแม่ตกใจหมด” มุกดารารีบเข้ามาห้าม รู้สึกผิดปกติกับอารมณ์ของทรงฉัตรเช่นกัน
“ช่างเถอะ หนูมุกทานข้าวดีกว่า ใครไม่กินก็อย่ากิน” นางคว้ามือนางเอกสาวนั่งลงที่โต๊ะทานข้าว
“เสียงดังอะไรเจ้าฉัตร” คุณทรงพุ่มเดินเข้ามาพอดี
“ทานข้าวค่ะ คุณพี่” คุณทิพย์เรียกสามีให้นั่งลงที่โต๊ะอาหาร
“ไม่กินข้าวเหรอ เจ้าฉัตร” บิดาแปลกใจที่ชายหนุ่มยืนหน้าบึ้งไม่พูดไม่จา
“คุณพี่ทานเถอะค่ะ ใครไม่ทานก็ช่าง ข้าวบ้านนี้คงไม่อร่อยแล้ว” คุณทิพย์ประชดทรงฉัตรในที
มุกดารามองหน้าคุณทิพย์ที มองหน้าทรงฉัตรที นางเอกสาวลุกขึ้นไปจับแขนชายหนุ่มแล้วกระซิบให้ได้ยินกันสองคนเท่านั้น
“ฉัตรคะ เดี๋ยวคุณพิมก็มา ทานข้าวเถอะ เดี๋ยวคุณแม่โมโหนะนั่งก่อน”
ทรงฉัตรถอนหายใจยาวแล้วเดินตามมุกดารามานั่งที่โต๊ะอาหาร ชายหนุ่มก้มหน้าก้มตากินข้าวไม่พูดไม่จากับใคร ในใจเขาคิดแต่ว่าเมื่อไรอรพิมจะกลับ หญิงสาวออกไปไหนกับพฤกษ์ไปตั้งแต่เมื่อไรและไปเรื่องอะไร
บรรยากาศบนโต๊ะมีแต่ความเงียบจนมุกดารารู้สึกอึดอัด คุณทรงพุ่มทานข้าวแล้วก็แยกตัวไปเตรียมพักผ่อน ทรงฉัตรขึ้นห้องไปรออรพิมข้างบน เหลือเพียงมุกดารากับคุณทิพย์ที่ช่วยกันเก็บโต๊ะอาหาร
นางเอกสาวสังเกตว่าคุณทิพย์เงียบไม่พูดไม่จา ใบหน้านางมีความเศร้าอย่างเห็นได้ชัด นางเอกสาวรู้ดีว่านางทุกข์ใจเรื่องอะไร จึงได้แต่ปลอบใจไม่ให้คิดมาก
“คุณแม่คะ อย่าโกรธฉัตรเลย บางทีฉัตรอาจจะกลัวว่าคุณพิมยังไม่หายดี ออกไปข้างนอกไม่สบายก็ต้องดูแลกันอีก” มุกดารากุมมือนางไว้
“ตาฉัตรเปลี่ยนไป แม่บอกแล้วว่าหนูมุกอย่าเปิดโอกาสให้สองคนนั้นได้ใกล้ชิดกัน เด็กนั่นมันรู้จักหว่านเสน่ห์มันเหมือนน้ามัน ถนัดนักเรื่องปั่นหัวผู้ชาย” คุณทิพย์เค้นเสียงพูดด้วยความโมโห
“คุณแม่คะ เขาเป็นสามีภรรยากันก็ต้องห่วงกันธรรมดา มุกว่า คุณแม่ทำใจให้สบายดีกว่า เรื่องบางอย่างเราก็ต้องปล่อยไปตามธรรมชาตินะคะ” นางเอกสาวพยายามให้คุณทิพย์ปล่อยวางเรื่องของทรงฉัตรกับอรพิมลง
มุกดาราเห็นความเปลี่ยนไปของชายหนุ่มเมื่อครู่ เข้าใจเองว่าทรงฉัตรเกิดอาการหวงเมียตัวเองที่ออกไปกับคนอื่น ยิ่งคิดก็นึกตำหนิทนายปากเสียนั่น พฤกษ์สั่งห้ามไม่ให้คนอื่นเป็นมือที่สามแต่ตัวเองเป็นซะเองแบบนี้ ถ้าครอบครัวทรงฉัตรกับอรพิมจะพังก็เพราะความจุ้นไม่เข้าเรื่องของพฤกษ์นั่นแหล่ะ
“ขอบใจมากนะ พฤกษ์” อรพิมขอบคุณพฤกษ์ที่มาส่งตนในเวลาค่ำมืดเช่นนี้
“พรุ่งนี้คุณพิมจะประชุมก่อนหรือบอกคุณทรงพุ่มก่อน” ทนายหนุ่มถามถึงขั้นตอนต่อไป ทั้งคู่เพิ่งจะสะสางงานสำคัญเสร็จไประดับหนึ่ง และเตรียมจะทำต่อในขั้นตอนต่อไป
“พรุ่งนี้พฤกษ์มาที่นี่ตอนเช้านะ พิมจะปรึกษาท่านพรุ่งนี้” พฤกษ์รับคำแล้วรีบช่วยอรพิมหอบกองเอกสารกลับเข้าบ้าน เขาชะงักฝีเท้าเมื่อเห็นนางเอกสาวยืนอยู่ข้างหลังทรงฉัตรที่มีสีหน้าบึ้งตึงอย่างเห็นได้ชัด ทนายหนุ่มเมินหน้าหนีมุกดาราแล้วหันไปทักทายชายหนุ่มแทน
“หวัดดีครับ คุณฉัตร” พฤกษ์ทักทายด้วยรอยยิ้ม
“ฉัตร ไปช่วยคุณพิมถือของสิคะ” มุกดาราสะกิดเตือนชายหนุ่ม
ทรงฉัตรแทบอยากจะอุ้มทั้งคนทั้งของขึ้นไปชำระความบนห้องเดี๋ยวนี้ แต่ติดที่คุณทรงพุ่มกำลังคุยกับพฤกษ์อยู่ที่ห้องรับแขก มารดาของเขานั่งหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ที่โซฟาด้วย
คุณทิพย์ไม่พอใจที่เห็นท่าทีบุตรชายยืนคุมอรพิมแจไม่ยอมห่าง อีกทั้งลูกสะใภ้นางก็เอาแต่พูดเรื่องงานที่ฟังดูเหมือนให้ตนเองดูดี จนใครๆ ที่อยู่ในห้องต่างก็ต้องนิ่งฟังอย่างเดียว ยิ่งนานก็ยิ่งรู้สึกหมั่นไส้จนต้องทำอะไรสักอย่าง
“คุณพี่คะ ดึกแล้ว ไปนอนเถอะค่ะ วันนี้น้องเหมือนไม่สบายคุณพี่จะเข้าพร้อมน้องไหม” คุณทิพย์ตัดบทไม่อยากฟังเรื่องอะไรทั้งสิ้น และไม่อยากเห็นหน้าใครในตอนนี้โดยเฉพาะเจ้าลูกชายตัวดีที่กำลังไม่ทำตามคำสั่ง
“อ้าว คุณไม่สบายตรงไหน ไปหาหมอหรือเปล่า” คุณทรงพุ่มหันมาถามอาการป่วยของศรีภรรยา
“คุณแม่ไม่สบายตรงไหนคะ มุกพาไปหาหมอไหม” มุกดาราถามด้วยความห่วงใยอีกคน
“ไม่เป็นไรมากหรอกจ้ะ หนูมุก แค่เบื่อบ้านอยากไปพักผ่อนที่อื่นสักสองสามวันเผื่อไม่เห็นหน้าคนแล้วมันจะสบายใจ” คุณทิพย์แขวะทั้งลูกชายและสะใภ้
“เอาสิ เราไปที่เพชรกันไหม ผมว่าจะไปดูที่ของเราที่หัวหินสักหน่อย คุณอยากไปวันไหนล่ะ” คุณทรงพุ่มเห็นดีเห็นงามด้วย
“น้องแล้วแต่คุณพี่ค่ะ แต่ไปเร็วก็ยิ่งดีเบื่อคนไม่ทำตามคำสั่ง พวกชอบใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล”
อรพิมก้มหน้าในขณะที่ทรงฉัตรรู้ตัวว่ามารดากำลังตำหนิตน ไว้มีโอกาสเขาจะอธิบายว่าอะไรมันเป็นอะไรไปถึงไหนต่อไหนแล้ว คุณทิพย์อาจจะไม่ชอบอรพิมในตอนแรกแต่ตอนนี้เจ้าหล่อนเป็นเมียเขาโดยสมบูรณ์ ปัญหาแม่ผัวกับลูกสะใภ้คงมีบ้าง แต่เชื่อว่าไม่นานถ้ามีหลานออกมาสักคน ขี้คร้านคนใจดีอย่างคุณทิพย์จะลืมความหมั่นไส้ที่มีต่อเมียสุดที่รัก
“งั้นผมลาก่อนนะครับท่าน พรุ่งนี้ผมจะมาแต่เช้า” พฤกษ์ยกมือไหว้ลาคุณทรงพุ่มและคุณทิพย์ ทรงฉัตรฟังแล้วแปร่งหูว่าทนายหนุ่มจะมาทำไมแต่เช้าอีก
“พฤกษ์มาแล้วไปเจอที่ห้องทำงานเลย ฉันจะรอที่นั่น” คุณทรงพุ่มพยักหน้ารับคำ
ทนายหนุ่มขอตัวลากลับไปก่อน นางเอกสาวคนสวยก็ลากลับบ้าง มุกดารารีบขับรถตามหลังพฤกษ์ไปติดๆ ผู้ใหญ่ทั้งสองกลับเข้าห้องนอนคุณทรงพุ่มประคองภรรยาไปพักผ่อน ความเอาใจใส่ที่มีต่อคุณทิพย์ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
อรพิมเปิดประตูห้องนอนเข้ามาได้ก็รีบตรงเข้าไปอาบน้ำทันที วันนี้เธอใช้สมองมากกับเรื่องงานที่เร่งด่วนและพรุ่งนี้ก็ต้องจัดการแต่เช้า คืนนี้เธออยากพักและต้องพักให้มากที่สุด จะไม่มีใครมากวนเวลานอนอันแสนมีความสุขได้อีก
“พิม” ทรงฉัตรถลาเข้าไปกอดรัดร่างนิ่มเข้ามาแนบกายเมื่ออรพิมเปิดประตูห้องน้ำออกมา
“อย่าค่ะ ปล่อย พิมเหนื่อย” อรพิมพยาพยามผลักเขาออกจากตัว
“คิดถึง”
คำหวานที่ทรงฉัตรอยากบอกพร้อมกับปลายจมูกที่ซุกไซ้สูดดมซอกคอขาว มือไม้ลูบไล้ทั่วแผ่นหลังเรื่อยลงมาถึงสะโพกสวย อรพิมร้อนรุ่มไปทั่วทั้งตัวที่ชายหนุ่มสัมผัสแต่เธอต้องฝืนไม่ทำตามอารมณ์ความปรารถนาเด็ดขาด
“ดึกแล้ว พรุ่งนี้พิมมีงานรออีกเยอะ นอนเถอะค่ะ” หญิงสาวฝืนใจพูดเสียงสั่น ปลายจมูกคมดอมดมลงมาที่เนินอกอิ่ม สองมือกอบกุมทรวงสวยปลายยอดกำลังเติบโตตามการปลุกเร้า
“ไม่ค่ะ คุณฉัตร ปล่อยพิม” อรพิมผลักหน้าคมที่ก้มลงมางับยอดอกอิ่ม แม้มันจะมีชุดนอนขวางอยู่แต่ก็รับรู้ได้ว่ามันกำลังเล่นกับปลายลิ้นร้อนที่เย้าแหย่อย่างคุ้นเคย
“อย่าทำแบบนี้ คุณฉัตร” หญิงสาวห้ามเสียงพร่า ต้องไม่ยอมทำตามอารมณ์แรงปรารถนา ไฟเสน่หาต้องไม่เผาสติให้คล้อยตาม
“ผมคิดถึงพิมรู้ไหม” ทรงฉัตรกระซิบที่ข้างหู ความคิดถึงมีมากเหลือ แค่ไม่ถึงวันชายหนุ่มก็แทบคลั่งจนต้องเอางานมาดับความโหยหา กลับมาอยากจะชื่นใจสุดที่รักให้หายเหงา เจ้าหล่อนก็ทิ้งเขาออกไปกับคนอื่น ต้องลงโทษเสียให้เข็ดกับที่ปล่อยให้รอคอยนานขนาดนี้
“อย่านะคะ พิมขอ ปล่อยพิมเถอะ” อรพิมกำลังจะตายเพราะทรงฉัตรกำลังหาทางเอาชุดนอนตัวสวยออกจากร่าง เธอต้องสู้กับเรี่ยวแรงที่กำลังเอาชนะเชือกที่ผูกปมไว้ ในขณะที่จิตใจต้องสู้กับไฟรักที่เริ่มจะแผดเผาจนเกือบทนไม่ไหว
“ผมปล่อยพิมแน่ แต่ไม่ใช่ตอนนี้” ทรงฉัตรหน้ามืดเหมือนคนเอาแต่ใจ ในที่สุดเขาก็ทำสำเร็จ ปมที่ผูกไว้แน่นหนาหลุดออกได้ง่ายดาย เผยความงามที่ชายหนุ่มเป็นเจ้าของเพียงผู้เดียวไว้ตรงหน้า
“ไม่นะ คุณฉัตร” อรพิมรวบรวมกำลังสะบัดตัวออกทันที
“พิม เป็นอะไร” เขาชะงักเมื่อหญิงสาวยกมือสองข้างปิดกันทรวงอกอิ่ม
อรพิมหลุดจากการกอดรัดของชายหนุ่มได้แล้ว เธอหอบหายใจสะท้านพยายามลดแรงเสน่หาที่กำลังคุกกรุ่นให้หมดไป เรียกสติกลับคืนมาไม่ยอมตกเป็นทาสของอารมณ์อีก
“พิมง่วงจะนอน คุณฉัตรอย่ารบกวนนะคะ” หญิงสาวดึงชุดนอนกลับให้เข้าที่ รีบแทรกตัวลงบนที่นอนหันหลังให้ชายหนุ่ม เธอคงต้องหาวิธีไม่ให้ทรงฉัตรได้เข้าใกล้ประชิดตัวได้อีก ต้องหาทางกลับไปบ้านหาทางห่างจากเขาให้เร็วที่สุด ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป ก่อนที่หัวใจของอรพิมจะยอมรับสามีคนนี้เต็มหัวใจ
ท่าทีเหินห่างเย็นชาของอรพิมทำให้ทรงฉัตรแปลกใจยิ่งนัก เขาล้มตัวลงนอนตามแล้วเขยิบเข้าไปใกล้ พยายามจะพลิกตัวเธอให้เข้ามาหา แต่หญิงสาวใจแข็งพยายามห้ามใจตนเองไม่ให้โอนอ่อนไป จนในที่สุดทรงฉัตรทำได้แค่กอดไว้แนบตัวแล้วหลับไปด้วยกันเท่านั้น
ทนายหนุ่มกำลังจะถึงบ้าน เขาเห็นรถสปอร์ตสีแดงที่ขับตามหลังมาติดๆ ไม่บอกก็รู้ว่าเป็นรถของนางเอกสาวที่ออกมาจากบ้านของทรงฉัตรคล้อยหลังกันนิดเดียว พฤกษ์แปลกใจว่าทำไมมุกดาราไม่ขับตรงไปที่คอนโดแต่กลับตามเข้ามาจนถึงบ้าน
ทนายหนุ่มหาทางซอกแซกจนหลุดจากการตามของมุกดาราได้ เขาจอดรถไว้หน้าบ้านตามปกติโดยไม่ได้ใส่กุญแจ คาดเดาว่านางเอกสาวต้องหาทางตามจนเจอแน่ และก็เป็นเรื่องจริงเมื่อมุกดาราจอดรถนอกรั้วทันทีที่เห็นรถของพฤกษ์
“หนอย หลอกให้หลงไปอีกทาง คิดว่าคนอย่างฉันตามไม่เจอหรือไง” มุกดาราโมโหกับเล่ห์กลลวงของทนายหนุ่ม
นางเอกสาวคนสวยไม่ทันเฉลียวใจว่าทำไมประตูรั้วบ้านจึงเปิดเข้าไปได้ง่ายๆ และยังจะประตูบ้านที่เหมือนจะรอเธอเข้าไปติดกับบางอย่างกับแผนที่ทนายหนุ่มวางไว้
บ้านของพฤกษ์อยู่หลังสุดท้ายซอย ถ้ามาตอนกลางวันมุกดาราคงได้เห็นความร่มรื่นของต้นไม้นานาพันธุ์ที่ชายหนุ่มปลูกไว้ แต่ตอนนี้เกือบเที่ยงคืนเธอจึงมองไม่เห็นอะไรนอกจากแสงไฟในบ้าน และรสนิยมพอเพียงตามประสาชายโสดที่บ้างานมากกว่าเรื่องอื่น รูปถ่ายวันรับปริญญาที่มีอรพิมและชายสูงวัยอีกคนอยู่ขนาบข้าง ดูจะเป็นสิ่งเดียวที่ดูดีสุดในห้องรับแขกชั้นล่าง
“ตามผมมาทำไม” พฤกษ์เอ่ยถาม
“นายไปแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อน ฉันไม่อยากคุยกับชีเปลือย”
มุกดาราเมินหน้าไม่มอง ตอนนี้พ่อหนุ่มนุ่งผ้าขาวม้าผืนเดียวออกมาจากห้องน้ำมีผ้าขนหนูผืนเล็กซับน้ำบนศีรษะ ทนายหนุ่มยักไหล่ไม่แคร์ จะสนใจทำไมที่นี่บ้านเขา อยากทำอะไรก็สิทธิ์ของเขา
“คุณตามผมมาทำไม ว่ามาเลยดีกว่า” พฤกษ์นั่งลงที่หน้าคอมพิวเตอร์ คืนนี้เขามีงานด่วนต้องสะสางอีกมาก คงเสียเวลากับนางเอกสาวได้ไม่นาน
“นายพฤกษ์” มุกดาราเรียกชื่อเขาเต็มยศ
“อืม ว่าไง” ชายหนุ่มลงมือทำงานหน้าคอมต่อ ไม่สนใจว่าตอนนี้นางเอกสาวมีเรื่องอยากจะคุยด้วยหรือไม่
“นายมาคุยกับฉันให้รู้เรื่องเดี๋ยวนี้” เธอออกคำสั่งเสียงดังลั่น
“นี่คุณนางเอกครับ ที่นี่บ้านผม เวลานี้ธรรมดาก็ไม่รับแขกแล้ว คุณมีอะไรก็รีบพูดมาผมจะทำงาน”
“แต่นายต้องมาคุยกับฉันให้รู้เรื่อง ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้” มุกดาราสั่งเป็นครั้งที่สอง
พฤกษ์ถอนหายใจ ลุกขึ้นอย่างเสียไม่ได้ เดินลงมาหาดาราสาวที่ยืนหน้าบึ้งอยู่กลางห้องรับแขก
“มีอะไรว่ามา” เขาเท้าสะเอวเอามือเช็ดผมต่ออย่างสบายอารมณ์
“ฉันจะมาเตือนนายด้วยความหวังดี”
“เรื่องอะไร”
“เรื่องนายกับคุณพิม” ทนายหนุ่มชะงักหรี่ตามองหน้านางเอกสาว มุกดารามาไม้ไหนกันแน่ แล้วมีเรื่องอะไรถึงต้องมาเตือนเขากับอรพิม
“ทำไม”
“ถ้านายไม่อยากให้คุณพิมมีปัญหากับบ้านฉัตร เลิกไปวุ่นวายกับเธอได้แล้ว”
“ทำไม ผมไปทำอะไรให้คุณพิมเดือดร้อน” พฤกษ์อยากจะหัวเราะ จู่ๆ แม่นางเอกคนดังก็ทำเป็นหวังดีมาขับรถตามมาเพื่อพูดเรื่องนี้
“ตอนนี้อาจจะไม่ แต่ต่อไปไม่แน่”
“ผมไม่เข้าใจ คุณขับรถตามมาซะไกลแค่เรื่องนี้เหรอ”
“ฉันพูดแค่นี้ล่ะ ไม่เชื่อก็ตามใจแต่ถ้าวันหนึ่งสองคนนั้นมีปัญหาหรือคุณพิมไม่มีความสุข จงรู้ไว้ว่าทั้งหมดก็เพราะนาย” มุกดาราไม่อยากพูดกับพฤกษ์แล้ว หญิงสาวหันหลังเตรียมจะเดินกลับไป
“เดี๋ยว” เขาดึงข้อมือเธอไว้
“พูดอะไรไม่รู้เรื่อง อธิบายสิว่าเพราะอะไร ทำไมคุณพิมจะมีปัญหา คุณรู้อะไรหรือคุณกับแม่คุณฉัตรเตรียมจะทำอะไรอีก” พฤกษ์ซักไซ้ด้วยความระแวง
“ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น ทุกอย่างที่พูดเพราะดูจากสถานการณ์ ถ้านายอยากให้คุณพิมมีความสุขก็ควรตัดใจจากเธอซะ ให้เธอกับฉัตรปรับตัวเข้าหากันทุกอย่างจะได้ลงเอยด้วยดี”
เธอพอมองออกว่าทรงฉัตรแคร์อรพิมแค่ไหนจากเรื่องวันนี้ และพอจะเดาจากอาการเสียใจของคุณทิพย์ว่าทั้งคู่คงกำลังพัฒนาความเป็นสามีภรรยากันไปแล้ว ดังนั้นสิ่งที่เธอปลอบคุณทิพย์ให้ยอมรับความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติที่เกิดจากคนสองคนรักกัน พฤกษ์ก็ไม่ควรทำตัวเทียวไล้เทียวขื่อใกล้ชิดอรพิมจนเกินงามในช่วงนี้ อีกทั้งถ้าอ้างเรื่องงานที่ทำให้สนิทกันก็ควรแยกเวลาส่วนตัวกับงานให้ออก ซึ่งทนายหนุ่มเองก็ควรจะให้เวลาอรพิมได้อยู่กับทรงฉัตรมากกว่าจะอยู่กับเขา
“แล้วคุณไม่เสียใจเหรอที่คุณฉัตรจะไปเป็นของคนอื่น หรือว่ารับได้ที่ต้องเป็นสอง” พฤกษ์เริ่มยียวนกวนประสาทอีกครั้ง
มุกดารากำมือแน่นอยากจะฟาดปากคนปากเสียให้หนำใจ แต่พอคิดว่าวันนั้นพฤกษ์ทำอะไรไว้กับเธอก็ทำให้นางเอกสาวไม่กล้า ไม่อยากให้คนพาลมาถูกเนื้อต้องตัวเช่นครั้งที่แล้ว
“ฉันจะเสียใจหรือไม่ก็เรื่องของฉัน แต่ที่ตามนายมาก็เพื่อบอกให้รู้ ถ้าเก่งแต่เห่าหอนหรือตำหนิคนอื่นก็หยุดซะ แล้วหันมาใช้สมองคิดบ้างว่าที่ทำอยู่ถูกต้องไหม” นางเอกสาวสะบัดมือ หันหน้ากลับไปทันที
ร่างสมส่วนของนางเอกเจ้าบทบาทถูกกระชากกลับเข้ามาหาทนายหนุ่มที่ตาวาวกับคำพูดประชดประชดแดกดันของเธอ มุกดารารีบยันตัวเขาไว้ไม่ให้เข้าใกล้ หญิงสาวไม่มีวันยอมให้พฤกษ์รังแกอีกเป็นครั้งที่สอง
“ผมทำอะไรรู้ตัวดีคุณไม่ต้องมาสอน และที่ผมกับคุณพิมทำร่วมกันมันคือเรื่องงานที่นางเอกตาใสอย่างคุณไม่มีวันเข้าใจ” พฤกษ์พูดชัดเจนทุกคำ ให้ตายเถอะ ได้อยู่ใกล้ๆ มุกดาราสายตาของชายหนุ่มก็เอาแต่จับจ้องมองไปที่ริมฝีปากแดงของเจ้าหล่อน ทนายหนุ่มพยายามควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ให้นึกถึงวันนั้นที่เขาจูบเธออย่างบ้าคลั่ง
“ถ้ารู้ตัวก็ควรรู้ว่าสังคมไทยเรียกคนที่เดินตามเมียชาวบ้านไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรว่าชู้ และคุณกำลังทำให้คนอื่นมองคุณพิมว่าเป็นแบบนั้น”
คำว่าชู้ ทำให้พฤกษ์โกรธจนหน้าแดง มือเขาบีบไปที่ข้อแขนเล็กจนเจ้าตัวร้องว่าเจ็บ แต่ทนายหนุ่มก็ยังไม่ยอมปล่อย
“ชู้เหรอ แล้วที่นางเอกคนดังของวงการไปโผล่บ้านผู้ชายเวลาที่เมียเขาทำงานงกๆ นั่นน่ะเรียกว่าอะไร แบบนั้นไม่เรียกชู้แล้วเรียกว่าอะไร เมียน้อยที่กินน้ำใต้ศอกคนอื่นเขาใช่ไหม”
คราวนี้มุกดาราทนไม่ไหวสะบัดมือออกจากการจับกุมฟาดฝ่ามือใส่หน้าพฤกษ์รวดเดียวสองครั้ง ทนายหนุ่มหน้าชาไปทั้งแถบมุมปากมีเลือดซิบเจ่อขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด หญิงสาวตกใจเล็กน้อยไม่คิดว่าจะทำให้เขาเจ็บจนเลือดออก เธอไม่อยากเถียงกับคนที่พูดคนละภาษาแบบนี้อีก
“ปล่อย พูดกับนายก็ไม่เข้าใจ เชิญไปเห่าไปหอนคนเดียวแล้วกัน” มุกดาราสะบัดหน้าเดินหนี เร่งฝีเท้าเพื่อออกจากบ้านของพฤกษ์ให้เร็วที่สุด
“มาตบหน้าผมถึงในบ้านแล้วจะไปง่ายๆ ไม่จ่ายค่าทำขวัญให้ผมหรือไงคุณมุกดารา” พฤกษ์กระชากตัวเธอมาใกล้
“อย่าคิดว่าจะรังแกคนอื่นด้วยการใช้กำลังได้นะ ถ้านายทำอะไรฉันแม้แต่นิดเดียวฉันจะแจ้งความทันที” มุกดาราขู่เสียงเขียว
“เอาสิ พรุ่งนี้คุณได้ขึ้นหน้าหนึ่งว่าบุกเข้าบ้านผู้ชายยามวิกาล แล้วพอเขาจูบก็ทำเป็นสะดีดสะดิ้ง อยากดังแบบนั้นไหมล่ะ” ทนายหัวหมอเหลี่ยมจัดกว่า
“นายมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย ไอ้พฤกษ์หมาบ้า ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ” นางเอกสาวรู้ตัวแล้วว่าตกเป็นรอง
“ไม่ใช่ลูกผู้ชาย หมาบ้า ชู้ แต่ละคำที่ให้เครดิตผมเนี่ยดีๆ ทั้งนั้นเลยนะ แม่นางเอกจอมลวงโลก” พฤกษ์ยั่วประสาทเข้าไปอีก
“อึ้ย ไอ้บ้า ไอ้คนบ้า กล้าดียังไงมาว่าฉันลวงโลก นายล่ะสิ ไอ้คนไม่มีหัวคิด ไอ้...”
ทุกอย่างหายเข้าไปในลำคอของมุกดาราหมดสิ้น เมื่อพฤกษ์อดใจไม่ไหวประกบริมฝีปากเข้าหาปากแดงที่เคยได้ลองลิ้มชิมรสมาแล้วครั้งหนึ่ง มือที่ทุบลงบนหน้าอกแกร่งของทนายหนุ่มจากที่รัวไม่ยั้งกลายเป็นร่วงหล่นข้างลำตัวหมดแรงสู้ไปทันที
มุกดาราไม่รู้ว่าเพราะอะไรเธอจึงยอมให้พฤกษ์ฉกจูบได้อีกเป็นครั้งที่สอง แถมครั้งนี้ดูเธอจะให้ความร่วมมือด้วยเป็นอย่างดี จนเรียกว่าโอนอ่อนผ่อนตามกัน สองมือของชายหนุ่มลูบไล้ต่ำลงมาที่สะโพกสวยได้รูป เนื้อนิ่มใต้ชุดสวยกำลังตื่นเต้นกับการทักทายของเขา
พฤกษ์กล้าที่จะสอดมือเข้าไปในเสื้อเพื่อสัมผัสเนื้อจริงที่แสนเนียนนุ่มเพราะได้รับการดูแลอย่างดี ตะขอบราเซียร์ตัวสวยหลุดออกตอนไหนไม่ทันได้สังเกต มือหนาที่เข้าไปกอบกุมทรวงอิ่มกำลังพอดีบีบเคล้นและเริ่มทักทายมัน
นางเอกสาวอึดอัดหายใจไม่ออกเมื่อพฤกษ์โน้มใบหน้าลงมาที่อกแสนหวงคู่นั้น มันไม่เคยมีใครได้เห็นหรือสัมผัสใกล้ชิดขนาดนี้ ปลายลิ้นที่โลมไล้อย่างใจเย็นทำให้มุกดาราวาบหวามจนเผลอตอบสนองด้วยการแอ่นรับการกระทำนั้น
พฤกษ์ย่ามใจขึ้นไปอีกสอดมือเข้าไปใต้กระโปรงตัวสวย มือไม้ของเขาตรงไปที่สิ่งที่ซ่อนอยู่ ยิ่งเห็นมุกดารากำลังระทวยในสิ่งที่ตนทำทนายหนุ่มก็ยิ่งได้ใจ ฝ่ามือที่ลูบสัมผัสความงามที่ยังไม่ได้เห็นด้วยตา ทำให้นางเอกสาวหอบหายใจสะท้านมากขึ้น แต่แล้ว...
มุกดาราเหมือนตกจากสวรรค์ เนื้อตัวที่กำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ เพราะเสน่หาที่ไม่มีใครเคยมอบให้ เสื้อตัวสวยที่เลิกขึ้นเปิดให้เห็นยอดอกสวยจนพฤกษ์ต้องแอบกลืนน้ำลายตัวเอง กระโปรงที่ถูกร่นขึ้นไปจนเผยให้เห็นโคนขาขาว ทุกอย่างหยุดชะงักไปดื้อๆ มีเพียงแค่เสียงหัวเราะในลำคอที่ทนายหนุ่มทำให้หญิงสาวได้สติ
“แค่นี้เองเหรอ” น้ำเสียงพฤกษ์เย้ยหยันมองร่างงามที่เริ่มคืนสติอย่างดูแคลน
“นายพฤกษ์” มุกดาราเค้นเสียงเรียกชื่อเขา น้ำตานางเอกคนสวยรื้นเต็มสองตา เกิดมาไม่เคยมีใครกระทำแบบนี้ ไม่เคยถูกใครดูถูกด้วยสีหน้าและน้ำเสียงเช่นนี้ พฤกษ์เป็นผู้ชายที่เธอจะจดจำไปจนวันตาย
“ผมพอจะสู้ผู้ชายที่ผ่านๆ มาของคุณได้ไหม” เขาถามหน้าตาเฉย
มุกดาราตัวสั่นด้วยความโกรธ นางเอกสาวรีบแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนจะเชิดหน้าขึ้นแล้วใช้สายตาและน้ำเสียงที่แสดงการดูถูกคนตรงหน้าให้จมดินที่สุด
“ก็งั้นๆ นายสู้ฉัตรไม่ได้สักนิด มีปัญญาแค่นี้รับรองว่าคุณพิมทิ้งนายแน่ เตรียมตัวเป็นได้แค่ชู้ที่เขาเขี่ยทิ้งให้ดีเถอะ” นางเอกสาวสะบัดหน้าวิ่งหนีออกไปทั้งน้ำตา ทิ้งให้พฤกษ์ยืนตาค้างอ้าปากหวอไม่คิดว่าจะได้รับคำตอบที่แสบทรวงจากปากของมุกดารา กว่าจะรู้สึกตัวและวิ่งออกไปเสียงสตารท์รถของหญิงสาวก็ดังขึ้นไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
พฤกษ์โมโหตัวเองที่ปล่อยมุกดาราไป เขาน่าจะจัดการทำอะไรสักอย่างให้หญิงสาวรู้เสียบ้างว่าไม่ควรใช้วาจาดูถูกตนเช่นนี้ แต่กลับกลายเป็นว่าชายหนุ่มใจดีไม่คิดฉวยโอกาสผู้หญิงแม้ทุกอย่างจะอำนวย สุดท้ายเขาทั้งเจ็บตัวและเจ็บใจกับคำดูถูกของเจ้าหล่อน มุกดารา ผู้หญิงคนนี้ สาบานได้ว่าเขาต้องเอาคืนอย่างสาสม
ความหวังดีของตัวเองทำให้มุกดาราได้รับความอับอายอย่างที่สุด นางเอกสาวถึงคอนโดแล้วจัดการวิ่งเข้าห้องน้ำ เปิดฝักบัวชำระล้างทุกอย่างที่คิดว่ามีร่องรอยของพฤกษ์บนตัวเธอ
ทำคุณบูชาโทษแท้ๆ อยากไปเตือนให้รู้ว่าอรพิมกับทรงฉัตรท่าทางกำลังไปได้ดี ทนายหนุ่มไม่ควรเอาตัวไปพัวพันถ้าอยากให้อรพิมมีความสุข สุดท้ายเธอได้รับคือการดูถูกว่าเป็นผู้หญิงที่ผ่านผู้ชายมานับไม่ถ้วน คอยดูเถอะ สักวันเธอจะทำให้เห็นว่าเขาต้องเข้ามาอ้อนวอนขอโทษกับการกระทำในวันนี้
|
|
|
ความคิดเห็น