คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 2 ( 100 ค่ะ )
"คุณอัลเฟรโด้ครับ" น้ำเสียงของคนที่เปิดประตูเข้ามาดูร้อนรนอย่างเห็นได้ชัด
สีหน้ายิ่งไม่ต้องพูดถึงทันทีที่รับโทรศัพท์คริสเตียนก็รีบบึ่งมารายงานข่าวสำคัญให้เจ้านายทราบ
"มีอะไรคริสเตียน
หรือว่านายสามารถเจรจาขอลดราคาจากสโมสรได้" ชายหนุ่มเงยหน้าถามอย่างอารมณ์ดี
หลายวันมานี้ท่าทีของอัลเฟรโด้ดูผ่อนคลายขึ้นกว่าเดิมมาก
หลังจากที่กลับจากไปพบโซเฟียตามคำขอของมารดา
และปฏิเสธการแต่งงานด้วยการขอเลื่อนเวลาออกไปอย่างไม่มีกำหนด
นางอนงค์รัตน์เงียบหายไม่มีการถามข่าวคราวใดๆ ทั้งสิ้น
ทำให้เข้าใจได้ว่าเรื่องการแต่งงานยุติลงแล้ว
หรือไม่มารดาสุดที่รักอาจเบนเข็มไปที่เป้าหมายพี่น้องคนอื่นก็เป็นได้
"ไม่ใช่ครับ
เมื่อกี้คนจากทางคฤหาสน์โทรศัพท์มาแจ้งผมว่า มาดามป่วยหนักมากไม่ยอมไปหาหมอไม่กินอะไรทั้งนั้น
ใครบอกอะไรก็ไม่ยอมฟังเอาแต่ร้องไห้อย่างเดียว"
"อะไรนะ"
หัวใจของท่านประธานหนุ่มวูบลงไปอยู่ที่ตาตุ่มทันทีที่รู้ข่าวว่า
นางอนงค์รัตน์ป่วยทั้งที่เมื่อไม่กี่วันมานี้
มารดายังไม่มีทีท่าว่าจะเป็นอะไรเลยสักหน่อย
"ทางโน้นบอกว่ามาดาม เอ่อ
มาดามเริ่มไม่สบายตั้งแต่วันที่ เอ่อ
วันที่คุณอัลเฟรโด้ขับรถไปส่งที่บ้านครับ" ผู้ช่วยคนเก่งถ่ายทอดคำบอกเล่าจากคนที่ส่งข่าวอย่าง
"เตรียมรถ ฉันจะกลับบ้าน"
อัลเฟรโด้อยู่เฉยไม่ได้แล้ว
ตัดสินใจทิ้งทุกอย่างเพื่อจะกลับไปพบหน้ามารดาที่ล้มป่วยลงกระทันหันด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความห่วงใยเต็มเปี่ยม
"ครับ"
คริสเตียนรับคำแล้วรีบไปทำตามคำสั่งทันที
อัลเฟรโด้กดโทรศัพท์หาพี่น้องคนอื่น เพื่อถามอาการป่วยของมารดาว่ามีสาเหตุมาจากเรื่องใด
และได้พาไปหาหมอแล้วหรือยัง แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีใครรับสาย
ทำให้เขาต้องรีบเดินทางไปดูให้เห็นกับตาว่ามารดาเป็นอย่างไรกันแน่
คฤหาสน์รอสเซลลินี
รถคันหรูยังไม่ทันจอดนิ่งสนิท
ร่างสูงโปร่งในชุดสูทราคาแพงก็ก้าวลงมาแล้วรีบตรงขึ้นไปยังห้องนอนของมาดามรอสเซลลินีโดยเร็ว
ทันทีที่เห็นสีหน้าซีดเซียวของมารดานอนเหม่อลอยอยู่บนเตียงนอนเพียงลำพัง
หัวใจของอัลเฟรโด้ก็มีเหมือนมีใครเอามีดมากรีดให้เจ็บปวดแทบทนไม่ได้
"แม่ครับ"
ลูกชายคนเล็กสุดของบ้านถลาลงไปที่ข้างเตียง กอดนางอนงค์รัตน์ไว้แน่นด้วยความรัก
"อัล..."
เสียงเรียกแผ่วเบาที่ไร้เรี่ยวแรงของมารดา ทำให้อัลเฟรโด้ยิ่งกอดนางแน่นขึ้นไปอีก
"แม่เป็นอะไรครับ ทำไมไม่ไปหาหมอ แล้วคุณพ่อล่ะครับ
คุณพ่อไปไหน ทำไมไม่มีใครอยู่กับแม่เลย"
อัลเฟรโด้แปลกใจเหลือเกินที่ไม่เห็นบิดาอยู่เคียงข้างมารดาเหมือนเคย
ตั้งแต่จำความได้เขาไม่เคยเห็นท่านทั้งสองอยู่ห่างกันโดยไม่จำเป็นเลยสักครั้ง
"คุณพ่อออกไปธุระจ้ะ อัลหิวหรือเปล่า
เดี๋ยวแม่ไปหาอะไรให้กินดีไหม" นางพยายามลุกจากเตียงนอนแต่ชายหนุ่มรีบห้ามไว้
"ผมไม่หิว แม่กินอะไรหรือยังครัย
นมอุ่นๆ สักแก้วไหมครับ เดี๋ยวผมไปจัดการให้"
อัลเฟรโด้ตั้งท่าจะลุกไปแต่นางอนงค์รัตน์ห้ามไว้
"ไม่เป็นไรจ้ะ แม่ไม่หิว
ว่าแต่วันนี้ไม่ยุ่งเหรอถึงได้มาหาแม่ได้" หญิงวัยกลางคนส่งเสียงไอเบาๆ
ติดกันสองสามครั้ง
"แม่ไปหาหมอหรือยังครับ
แล้วหมอว่าเป็นไงบ้าง" ชายหนุ่มถามด้วยความห่วงใย
"แม่ไม่เป็นไรมาก
พักสักสองสามวันก็หาย"
"นี่ยังไม่มีใครพาแม่ไปหาหมออีกเหรอครับ
ถ้างั้นผมพาแม่ไปเองดีกว่าหรือจะเรียกให้หมอมาตรวจที่นี่ดีไหม แม่ไม่สบายมากเลยนะครับ"
สีหน้าท่านประธานหนุ่มเคร่งเครียดมากขึ้น
เมื่อรู้ว่ามารดายังไม่ได้พบหมอเพื่อตรวจดูว่าป่วยเป็นอะไรกันแน่
"แม่ไม่เป็นอะไรหรอกจ้ะ
แม่เป็นอะไรไม่ได้ แม่ต้องอยู่ปกป้องลูกๆ ของแม่ก่อน เพียงแต่..." นางไอติดๆ
กันอีกสองสามครั้งแล้วพูดต่อว่า
"แค่กลัวว่าจะไม่ได้อยู่ถึงวันนั้น"
"แม่"
อัลเฟรโด้แทบไม่อยากได้ยินคำนี้เลยแม้แต่น้อย
"การพลัดพรากเป็นเรื่องจริงตามธรรมชาติตามที่พระท่านว่า
เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อไม่มีละเว้นแต่แม่ไม่อยากให้มันเกิดกับคนที่แม่รัก
กับลูกของแม่ทุกคน" นางอนงค์รัตน์พูดไปน้ำตาก็ไหลไปอย่างน่าสงสาร
"แม่"
ท่านประธานหนุ่มน้ำตาคลออย่างห้ามไม่ได้ เขาไม่อยากเห็นมารดาเป็นเช่นนี้เลย
ไม่อยากเห็นความทุกข์ใดๆ เกิดขึ้นกับนางอนงค์รัตน์แม้แต่น้อย
"ผมรักแม่นะครับ
พวกเราทุกคนรักแม่"
"จ้ะ แม่ก็รักลูก
แม่จะปกป้องลูกทุกคนจากทุกๆ อันตราย จะไม่ยอมให้เคราะห์ร้ายหรือใครมาทำอันตรายลูกแม้ได้แม้แต่ปลายเล็บ
แม่จะ..." เสียงไอที่ดังขึ้นติดๆ กันทำให้อัลเฟรโด้ต้องโผเข้ากอดมารดาไว้
การเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วนของนางอนงค์รัตน์ทำให้ท่านประธานหนุ่มใจเสีย
"ผมอยากให้แม่ไปหาหมอ"
ลูกชายคนเล็กเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนต่อไปว่า
"ผมจะหาหมอที่ดีที่สุด
ที่เก่งที่สุดมารักษาแม่"
"ไม่มีประโยชน์หรอกจ้ะ อัล
หมอที่ไหนก็รักษาแม่ไม่หาย แต่แม่จะไม่ยอมเป็นอะไรทั้งนั้น แม่จะอยู่คอยดูแลลูกๆ
ทุกคน"
"บอกผมได้ไหมครับ
แม่ทุกข์ใจเรื่องอะไรหรือว่าใครทำให้แม่ไม่สบายใจ หรือว่า..."
"ไม่มีใครทำอะไรแม่หรอกลูก"
น้ำเสียงหญิงวัยกลางคนสั่นเครือเล็กน้อย แก้มอิ่มมีหยดน้ำตาพรั่งพรูอีกครั้ง
"แต่แม่กลัว อัล แม่กลัวเหลือเกิน
แม่นอนไม่หลับเพราะแม่ฝันร้าย"
อนงค์รัตน์สะอื้นตัวสั่นในอ้อมกอดของลูกชายคนเล็ก
"แค่ฝันครับแม่
ไม่มีใครทำอะไรพวกเราได้ แม่สบายใจเถอะ"
อัลเฟรโด้พอจะเดาถึงสาเหตุของการเจ็บป่วยอย่างกระทันหันของมารดาแล้ว
คำทำนายของหลวงตาคงมีผลกับครอบครัวเขายิ่งนัก
โดยเฉพาะกับมารดาสุดที่รักด้วยแล้ว
คำพูดเหล่านั้นเปรียบเสมือนการชี้ชะตาทางเดินให้กับทุกคน
อัลเฟรโด้รู้ดีว่ายาตัวใดหรือหมอที่เก่งแค่ไหน ก็คงไม่อาจบรรเทาการเจ็บป่วยครั้งนี้ของนางอนงค์รัตน์ได้แน่
"มันไม่ใช่ความฝันลูก
แต่มันเป็นความจริงทุกอย่างเป็นจริง แม่จะไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรลูกของแม่
แม่จะปกป้องจนกว่า จนกว่าแม่จะไม่อาจปกป้องลูกได้"
น้ำตาแห่งความรักบนใบหน้าของหญิงวัยกลางคน ทำให้หัวใจของท่านประธานหนุ่มซาบซึ้งและสงสารจับใจ
"ให้แม่ตายเสียดีกว่าเห็นลูกของแม่คนใดคนหนึ่งเป็นอันตราย
ถ้าใครจะโชคร้ายเป็นอะไรก็ตามแต่ แม่จะขอเป็นผู้รับเคราะห์นั้นไว้เสียเอง
แม่ยินดีเจ็บ ยินดีตายแทนเพื่อลูกของแม่" น้ำตาของคนเป็นแม่พรั่งพรูไม่ขาดสาย
หัวใจของอัลเฟรโด้ปวดร้าวเหลือเกิน
จะทำอย่างไรถึงจะทำให้ความทุกข์ในหัวใจของแม่หมดไปเสียที
เขาไม่อยากเห็นแม่ร้องไห้
ไม่อยากเห็นแม่เป็นทุกข์ ไม่อยากเห็นแม่ไม่มีความสุข อยากให้แม่มีแต่รอยยิ้ม
อยากให้ทุกวันของแม่มีแต่ความสุข
อยากให้หัวใจแม่สดชื่นและมีชีวิตชีวาเหมือนดั่งเดิมอีกครั้ง
เพราะนั่นหมายถึงหัวใจของอัลเฟรโด้ด้วยเช่นกัน
แม่มีความสุขลูกชายอย่างเขาก็มีความสุขด้วยเช่นกัน
แม่มีความทุกข์หัวใจของอัลเฟรโด้ก็ทุกข์ไม่แพ้กัน
อัลเฟรโด้รู้ว่านางอนงค์รัตน์เชื่อในคำนายนี้
และเพียรพยายามหาทางออกให้กับลูกๆ ทุกคน เป้าหมายแรกพุ่งตรงมาที่เขา ด้วยกับพยายามจับคู่ให้กับคุณหนูคนสวยแห่งเบลลูชชี่
แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ง่ายอย่างที่คิด
และนี่คงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มารดาสุดที่รักล้มป่วยกระทันหัน
ท่านประธานหนุ่มคิดว่าคงต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อให้นางอนงค์รัตน์รู้สึกดีขึ้น
จึงตัดสินใจปลีกตัวออกมาต่อสายโทรศัพท์ถึงพี่ๆ น้องๆ และบิดา
เพื่อหวังจะช่วยกันคิดหาทางออกแต่ไม่มีใครรับสายนี้เลย
หัวใจอัลเฟรโด้ร้อนรุ่มยิ่งนัก ควรทำอย่างไรกับเรื่องนี้ดี
เขาไม่อยากเห็นน้ำตาและความทุกข์ใจของมารดาอีกต่อไปแล้ว
"เมื่อกี้หนูโซเฟียโทรศัพท์มาหาแม่"
นางอนงค์รัตน์เอ่ยเมื่ออัลเฟรโด้กลับเข้ามาหาอีกครั้ง
"โซเฟียว่าไงครับ"
ให้ตายเถอะ
หัวใจเขาไม่เคยรู้สึกสับสนหรือตัดสินใจอะไรยากเช่นนี้มาก่อนเลยในชีวิต
ใจหนึ่งก็รักแม่ ไม่อยากเห็นนางอนงค์รัตน์เป็นแบบนี้
แต่อีกใจก็คิดถึงชีวิตที่เหลือต่อจากนี้ไปของตัวเอง ถ้าเขาจะมีผู้หญิงอีกคนมาเคียงข้างกายไปตลอดชีวิต
นึกภาพไม่ออกจริงๆ ว่าการมีใครสักคนร่วมชีวิตด้วยมันเป็นเช่นไร
การแต่งงานไม่ใช่เรื่องเล็ก
ไม่ใช่แค่การบริหารโรงแรมนับร้อยสาขาที่อยู่ในการดูแลของเขา
มันไม่ใช่แค่การเข้าพิธีสาบานรักต่อหน้าคนนับร้อยนับพันที่มาเป็นแขก แต่มันคือ...
คืออะไรอัลเฟรโด้เองก็ไม่รู้ รู้แค่ว่าการแต่งงานคือการจำกัดอิสระของชีวิต
คือบ่วงที่ผูกตนกับผู้หญิงเพียงคนเดียวไปชั่วชีวิต
สำหรับโซเฟีย
ผู้หญิงที่แม่เลือกให้เป็นเจ้าสาวของเขา เธอคือผู้หญิงที่สวย
ชาติตระกูลดีและแน่นอนว่ามารดาสุดที่รักปรารถนาจะได้มาเป็นสะใภ้ ทว่าอัลเฟรโด้กลับรู้สึกว่า
เห็นโซเฟียทีไรเหมือนเห็นลอร่า ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะคุณหนูโซเฟีย
ลอร่ารวมทั้งเขา เคยเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่สมัยเด็ก
ก่อนจะแยกย้ายกันไปตามหาความฝันของแต่ละคนตามประสา
"ถามหาลูก
พอรู้ว่าแม่ไม่สบายก็ทำท่าจะมาเยี่ยม แต่แม่บอกว่าไม่เป็นไรมากไม่ต้องมาให้ลำบาก"
สีหน้าของหญิงวัยกลางคนเศร้าสร้อยลงไปอีกเมื่อเอ่ยถึงโซเฟีย
"ที่จริง แม่ก็อยากให้หนูโซเฟียมา
แต่ว่าแม่กลัวลูกจะอึดอัดใจ" นางอนงค์รัตน์ก้มหน้าเล็กน้อย
"แม่ครับ
ถ้าแม่อยากให้โซเฟียมาหาผมจะส่งคนไปรับเธอมาพบแม่ ดีไหมครับ"
เขาทำได้ทุกอย่างเพื่อให้อาการป่วยของมารดาดีขึ้นในเร็ววัน
"จริงเหรอลูก"
สีหน้าและท่าทางของนางตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย และสักพักก็กลับไปเป็นแบบเดิมอีก
"ไม่ต้องก็ได้
แม่ไม่อยากให้อัลรู้สึกอึดอัด"
"โธ่ แม่ครับ
ผมไม่รู้สึกอะไรแบบนั้นเสียหน่อย แค่แม่บอกมาคำเดียวผมทำให้ได้ทุกอย่าง"
ชายหนุ่มพยายามเอาใจและส่งรอยยิ้มที่แสดงว่าเต็มใจทำให้จริงๆ
"อย่าดีกว่าจ้ะ แม่ไม่รบกวนอัลดีกว่า
อีกอย่างแม่มีอะไรจะบอก" นางอนงค์รัตน์สบตามองลูกชายสุดที่รักแล้วพูดต่อว่า
"แม่อยากจะบอกอัลว่า
แม่ขอโทษที่เมื่อวันก่อนเร่งรัดลูกเรื่องแต่งงานกับหนูโซเฟีย แม่รู้ว่าลูกอึดอัดและไม่สบายใจเพราะแม่
ตอนนี้แม่คิดได้แล้วว่าเรื่องนี้ควรให้อัลของแม่ได้มีโอกาสตัดสินใจเอง
เพียงแต่...แม่กลัวจ้ะ กลัวว่าจะไม่ได้อยู่เห็นลูกๆ ของแม่มีใครสักคนเคียงข้าง
กลัวว่าจะเกิดเรื่องร้ายกับใครคนไหนอีก กลัวว่าจะเสียใครไป..." นางอนงค์รัตน์ร่ำไห้ออกมาอย่างสุดกลั้น
"แม่ครับ อย่าร้องไห้นะครับ"
บุตรชายคนเล็กสวมกอดมารดาเพื่อปลอบประโลมอีกครั้ง
เขาหนักใจเหลือเกินไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรกับเรื่องนี้ดี
อาการป่วยของนางอนงค์รัตน์มีสาเหตุมาจากเรื่องเดียว
คือกังวลกับชีวิตของลูกๆ ทุกคนจนล้มป่วย โดยเฉพาะตอนนี้เมื่ออัลเฟรโด้เคยพูดชัดเจนแล้วว่า
ยังไม่ต้องการแต่งงานและไม่ปรารถนาจะยินดีรับคุณหนูโซเฟียมาเป็นคู่ชีวิต
เรื่องนี้ก็คงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่สร้างความผิดหวังให้แก่นางอนงค์รัตน์จนล้มป่วยลงเช่นนี้
อัลเฟรโด้รู้ว่ามารดารักและเอ็นดูคุณหนูเบลลูชชี่มากแค่ไหน ดังนั้นเมื่อเขาปฎิเสธจึงทำให้นางเสียใจและล้มป่วยลงจนกระทั่งเป็นเช่นนี้
"อัลจ้ะ เรื่องหนูโซเฟีย
แม่จะโทรศัพท์ไปขอโทษหนูโซเฟียเอง ลูกจะได้ไม่ต้อง..."
"แม่ครับ"
ชายหนุ่มขัดขึ้นแล้วพูดต่อว่า
"ผมจะแต่งงานกับโซเฟียตามที่แม่ต้องการ"
อัลเฟรโด้ตัดสินใจแล้ว
เมื่อรู้ว่าหมอใดหรือยาขนานไหนก็รักษาอาการเจ็บป่วยของมารดาไปไม่ได้
นอกจากการทำให้ความทุกข์ในหัวใจหมดไปด้วยการยอมรับในสิ่งที่นางต้องการ
อัลเฟรโด้จึงเลือกที่จะขจัดความทุกข์ใหญ่ในหัวใจนางอนงค์รัตน์ให้หมดไปด้วยการตัดสินใจแต่งงาน
เขาไม่ได้รู้สึกรังเกียจใดๆ โซเฟียแม้แต่น้อย
เมื่อไม่ได้มีความรู้สึกลบอย่างน้อยก็พอจะยืนอยู่เคียงข้าง
ใช้พื้นที่หายใจร่วมกันได้อย่างไม่น่าอึดอัด
เรื่องความสัมพันธ์อื่นอัลเฟรโด้ยังไม่คิดอะไรทั้งสิ้น
คิดแค่ว่าจะทำอย่างไรที่จะสลายความทุกข์ในหัวใจของนางอนงค์รัตน์ให้หมดไปเท่านั้นพอ
"อัล" ใบหน้าที่ซีดเซียวคล้ายกับจะหมดแรงได้ทุกขณะ
เปลี่ยนเป็นแช่มชื่นด้วยรอยยิ้มในทันที เมื่อได้ยินประโยคสำคัญที่รอยคอยมาหลายวัน
"ลูกพูดจริงๆ นะ
ไม่ได้ล้อแม่เล่นใช่ไหม"
น้ำเสียงหญิงวัยกลางคนมีความตื่นเต้นดีใจอย่างเห็นได้ชัด
"ครับ ผมพูดจริงๆ ไม่ได้พูดเล่นๆ
ผมจะทำให้ฝันร้ายของแม่จบลงเสียที
ผมอยากเห็นแม่มีความสุขมีรอยยิ้มเหมือนเดิมเท่านั้นพอ"
อะไรก็ได้ที่แม่มีความสุข
ลูกชายอย่างเขาทำได้ทุกอย่าง แม้แต่เสียสละความสุขที่สุดในชีวิตเพื่อแม่
นาทีนี้ไม่มีอะไรจะสำคัญไปกว่า
การทำให้อาการป่วยนี้ดีขึ้นและหวังว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะทำให้เป็นเช่นนั้นได้
"โอ้ อัลจ๋า อัลเฟรโด้ลูกรักของแม่
ขอบใจนะ ขอบใจมาก ขอบใจที่ทำให้ความฝันของแม่เป็นจริง แม่รักลูกจ้ะ
ขอให้ลูกรู้ไว้ว่าที่แม่ทำไปทั้งหมดเพราะรักและหวังดีกับลูกจริงๆ
หนูโซเฟียจะทำให้ชีวิตของลูกแม่มีความสุขแน่ๆ"
สองแม่ลูกกอดกันแนบแน่น ใบหน้าของนางอนงค์รัตน์มีความสุขเฉิดฉายอย่างเห็นได้ชัด
ในที่สุดสิ่งที่นางปรารถนาก็เป็นจริงแล้ว คำทำนาย เคราะห์ร้าย
จะหมดไปจากลูกชายคนเล็กของนาง โชคดี สิ่งดีๆ และความสุขจะอยู่กับอัลเฟรโด้ตลอดไป
"แม่รักลูกจ้ะ"
"ผมก็รักแม่ครับ"
อัลโฟรโด้กอดรัดมารดามากขึ้นไปอีก เขามีความสุขที่ได้เห็นรอยยิ้มของแม่
และยินดีจะทำให้ฝันที่แม่ต้องการเป็นจริงให้จงได้
สองแม่ลูกพูดคุยกันถึงแผนการแต่งงานที่จะเกิดขึ้นอีกพักหนึ่ง
สีหน้าของนางอนงค์รัตน์ดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
และกินอาหารที่บุตรชายสุดที่รักป้อนได้จนหมด มันยิ่งตอกย้ำให้อัลเฟรโด้รู้สึกดีมากขึ้นไปอีก
และคิดว่าการตัดสินใจครั้งนี้เป็นเรื่องดีที่สุด
"แม่จะรีบจัดการงานแต่งของลูกแม่ให้ยิ่งใหญ่และสวยงามที่สุด
อัลอยากได้อะไรพิเศษไหม" นางอนงค์รัตน์ถามด้วยหน้าตาและน้ำเสียงที่สดใส
"แล้วแต่แม่เลยครับ
ผมยังไงก็ได้" อัลเฟรโด้เอ่ยเสียงเรียบ
เขาไม่มีภาพใดๆ ในหัวสมอง
คิดไม่ออกด้วยซ้ำว่าการแต่งงานในชีวิตของตัวเองจะออกมาเป็นเช่นไร
เคยแต่ชื่นชมหรือมีไอเดียในการจัดงานให้คนอื่นมามากมาย
แต่พอเป็นของตัวเองกลับไม่รู้สึกอะไรทั้งสิ้น
"แขกล่ะ ลูกคิดว่าจะเชิญใครบ้าง
หรือว่าอยากเชิญใครเป็นพิเศษไหม"
"แม่เห็นสมควรอย่างไรก็ตามนั้นครับ
ผมไม่มีปัญหา" ท่านประธานหนุ่มคิดไม่ออกจริงๆ ว่า
ใครที่จะต้องบอกให้รู้ว่าเขากำลังจะเข้าพิธีวิวาห์ในเร็วๆ นี้
"ของชำร่วยล่ะจ้ะ อยากได้แบบไหน
แม่ว่าให้หนูโซเฟียคุยกับลูกก่อนแล้วค่อยมาบอกแม่ดีไหมว่าอยากได้แบบไหน"
"แม่กับโซเฟียตัดสินใจไปเลยครับ
ผมยังไงได้หมด แม่ครับ เดี๋ยวผมมีนัดสำคัญกับลูกค้าต้องกลับไปที่โรงแรมก่อน
ไว้ผมจะมาเยี่ยมแม่อีกนะครับ"
"แม่ไม่เป็นอะไรแล้วจ้ะ
ลูกรีบกลับไปจัดการงานเถอะ อ้อ นี่ แล้วอย่าลืมเรื่องฮันนีมูนล่ะ
คิดหรือยังว่าอยากไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับหนูโซเฟียที่ไหน"
"เรื่องนั้นไว้ว่ากันทีหลังนะครับ
ผมต้องไปแล้ว"
ร่างสูงกล่าวลามารดาเพื่อกลับไปทำภารกิจของตนเองต่อ
แม้สีหน้าของท่านประธานหนุ่มจะดูเคร่งเครียดกว่าทุกวัน
แต่หัวใจของอัลเฟรโด้ก็บอกให้อดทนและทำเมื่อมารดาที่รัก
ถือว่านี่คือการตอบแทนความรักความเสียสละของแม่ที่มีต่อลูกชายคนนี้
ไม่มีใครรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต
คำทำนายของหลวงตาที่น่านับถือจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่
ท่านประธานหนุ่มก้าวขึ้นไปนั่งในรถแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ ที่แน่ๆ
และไม่ต้องรอดูว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร ก็คือชะตาชีวิตของเขา
ที่ไม่มีสิทธิ์เลือกหรือกำหนดเองได้ว่าผู้หญิงสักคนที่จะมาร่วมชีวิตกันนั้น
จะเป็นใครที่คนบนฟ้าส่งมาให้เจอ หรือเพราะการจับคู่ของมารดาสุดที่รัก
แต่เมื่อเลือกแล้วและตัดสินใจที่จะใช้การเลือกครั้งนี้แสดงความกตัญญู
ก็จะทำให้ดีที่สุดและหวังว่าบนความตั้งใจนี้ คนบนฟ้าจะเห็นใจและเมตตาให้การตัดสินใจครั้งนี้พบคำว่าความสุขบ้างสักนิดก็ยังดี
มาแล้ว อัพยาวๆ เลยค่ะ
ไปโหลดคุณอัลกันเยอะๆ นะคะ
สำหรับรูปเล่ม
ใครที่ยังไม่มี ขอเวลาพี่น้ำเคลียร์งานแป๊ป
จะจัดการให้แล้วจะมาแจ้งคนที่อยากได้นะคะ
ดีใจที่ติดตามผลงานกันค่ะ
ชอบไม่ชอบเม้นท์บอกกันนะคะ
รักทุกคนจ้า ... พี่น้ำเอง
ฝากลิงค์จ้า click
ความคิดเห็น