ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คำสั่งรักมาเฟียร้าย

    ลำดับตอนที่ #23 : ตอนที่ 9

    • อัปเดตล่าสุด 12 ส.ค. 66


    อัลเฟรโด้นั่งดูภาพเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิดในแต่ละสถานที่ที่คริสเตียนไปหามาให้ตามคำสั่ง ทุกอย่างปกติไม่มีอะไรน่าสงสัย แม้แต่มอร์เตอร์ไซค์ที่เกือบจะเฉี่ยวครองขวัญก็เช่นกัน เมื่อตรวจสอบเลขทะเบียนแล้วก็พบว่า เป็นรถเช่าที่มีอู่อยู่ไม่ห่างจากบริเวณนั้นเท่าไร และเจ้าของอู่ก็สามารถยืนยันตัวตนของคนที่เช่ารถไปในช่วงเวลาที่เกิดเรื่องได้

             "นี่คือร้านกาแฟครับ" ผู้ช่วยคนเก่งเปิดภาพร้านสุดท้ายให้เจ้านายดู

             ทุกอย่างปกติในร้านไม่มีใครที่น่าสงสัยหรือมีพิรุธแต่อย่างใด จนกระทั่งก่อนที่ครองขวัญจะลงไปประมาณครึ่งชั่วโมงนั้น มีความผิดปกติบางอย่างที่อัลเฟรโด้ต้องพิจารณาอย่างละเอียดอีกครั้ง

             "โซเฟียนี่" ใช่เธอแน่ๆ อัลเฟรโด้จำได้

             ในภาพโซเฟียใส่แว่นดำและมีผ้าคลุมไหล่โพกไว้ที่ศีรษะอีกชั้น ถ้ามองผ่านจะไม่เห็นอะไรแต่บังเอิญว่าหญิงสาวเลือกที่นั่งซึ่งกล้องวงจรปิดของร้าน สามารถบันทึกภาพได้อย่างชัดเจนและเมื่อเลื่อนเข้าไปดูใกล้ๆ อัลเฟรโด้ก็มั่นใจว่าใช่เจ้าสาวคนสวยที่หนีงานวิวาห์ไปแน่

             "โซเฟียมาทำอะไรที่นี่"

             เขาส่งคนค้นหาจนทั่วก็ไม่พบร่องรอยของหญิงสาวแม้แต่น้อย ที่ไหนได้โซเฟียกลับติดต่อกลับมาที่ครองขวัญ อัลเฟรโด้คิดว่าเรื่องนี้คนที่รู้ดีที่สุดน่าจะเป็นเธอ และจะต้องถามให้รู้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นแน่

             "นายยังให้คนตามหาโซเฟียอยู่หรือเปล่า" ชายหนุ่มหันมาถามผู้ช่วย

             "ครับ คนของเรายังตามข่าวคุณหนูโซเฟียอยู่ แต่ว่าไม่มีร่องรอยอะไรเลย ทุกครั้งที่ได้ข่าวพอไปถึงเราก็ไม่พบคุณหนูแล้วครับ"

             "แล้วทางบ้านล่ะ มีใครส่งข่าวไหมว่าโซเฟียกลับไปหรือเปล่า"

             "ทางโน้นยิ่งเงียบครับ มาดามอันนายังไม่ออกจากโรงพยาบาลด้วย ยิ่งไม่มีข่าวอะไรทั้งสิ้น"

             ไม่มีข่าว หาตัวไม่เจอ แต่กลับมาปรากฎตัวใกล้กับโรงแรม ไม่ผิดแน่ อัลเฟรโด้มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเรื่องนี้ ครองขวัญจะต้องรู้เรื่องเป็นอย่างดีแน่

             "ไม่มีอะไรแล้ว นายไปพักเถอะ" อัลเฟรโด้ลุกขึ้นเตรียมตัวจะกลับห้อง

             "นี่ครับ" คริสเตียนยื่นถุงบางอย่างให้

             "อะไร"

             "ยาที่คุณอัลเฟรโด้สั่งให้ผมหามาให้ไงครับ มีทั้งยากินและก็ยาทา จะให้ผมช่วยทายาให้เลยไหมครับ" คริสเตียนอาสา

             "ไม่ต้อง นายไปพักเถอะ เดี๋ยวฉันจัดการเอง" ว่าแล้วอัลเฟรโด้ก็คว้าถุงยาเดินกลับไปที่ห้องด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ท่ามกลางสายตามองตามด้วยความสงสัยของคริสเตียนที่แปลกใจกับท่าทีของเจ้านายตนเองเสียเหลือเกิน

     

             ครองขวัญพยายามติดต่อไปหาโซเฟียแต่ก็ไม่มีการตอบรับจากอีกฝ่าย เพื่อนสาวเงียบหายไปตั้งแต่ที่คลาดกันเมื่อตอนเกิดอุบัติเหตุ ในระหว่างที่รอการติดต่อครองขวัญพยายามไล่เรียงรายชื่อของคนที่รู้จักซึ่งอยู่แวดล้อมโซเฟียว่า มีใครที่มีชื่อและนามสกุลตรงกับตั๋วเครื่องบินอีกใบหรือไม่ แต่คิดเท่าไรก็คิดไม่ออกว่าเป็นใคร

             อัลเฟรโด้เปิดประตูเข้ามาพร้อมกับถุงยาที่คริสเตียนจัดการมาให้ ครองขวัญสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเห็นชายหนุ่มกลับเข้ามาในห้อง ท่าทีร้อนรนและโทรศัพท์ที่อยู่ในมือคือสิ่งผิดสังเกตที่เขาจับได้ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรเพราะเวลานี้มีเรื่องอื่นที่น่าสนใจมากกว่าเรื่องนี้

             "คุณดีขึ้นบ้างไหมคะ" ครองขวัญเอ่ยถามเป็นคำแรกเมื่อชายหนุ่มเข้ามาในห้อง

             "ยังเจ็บอยู่ แต่โชคดีที่ได้ยาหม่องของเธอวันนี้เลยนั่งทำงานไหว" เขาพูดด้วยรอยยิ้ม

             ครองขวัญร้อนผ่าวไปทั่วใบหน้าเมื่อคิดถึงยาหม่องที่ทาให้ที่หลังของอัลเฟรโด้ และที่ทำให้แก้มสาวแดงขึ้นมาก็เพราะคิดถึงวิธีดับพิษร้อนยาหม่อง ที่ทำให้เธอเกือบจะมอดไหม้เสียเองเพราะจูบที่แสนหวานของเขา

             "นี่ถุงยา คริสเตียนไปซื้อมาให้" เขาชูถุงในมือให้ดู

             "คุณไปอาบน้ำก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันทาให้" หญิงสาวรับถุงยาในมือเขามาดูว่ามีอะไรบ้าง และเตรียมพร้อมที่จะทำหน้าที่พยาบาลจำเป็นอีกครั้ง

             "เธอจะทายาให้เหรอ" แววตาของชายหนุ่มวาววับเป็นประกายในทันที เมื่อได้ยินว่าครองขวัญอาสาทายาให้

             "ค่ะ ฉันเป็นต้นเหตุที่ทำให้คุณต้องเจ็บตัว ยังไงฉันก็ต้องดูแลจนกว่าอาการคุณจะดีขึ้น"

             "งั้นรอแป๊ป เดี๋ยวฉันมา" อัลเฟรโด้หันหลังเดินเข้าห้องน้ำไปด้วยสีหน้าที่แช่มชื่นกว่าทุกวัน ดูท่าว่าวันนี้แผลที่เกิดจากอุบัติเหตุจะทำให้เขามีความสุขมากกว่าความทุกข์เสียกระมัง

     

             คนเจ็บเดินออกมาจากห้องน้ำโดยมีเพียงผ้าขนหนูพันกายผืนเดียวเท่านั้น ครองขวัญใจสั่นเมื่ออัลเฟรโด้เดินเข้ามาใกล้ๆ แล้วหยุดยืนมองหน้าเธอ ด้วยสายตาที่ทำให้หัวใจสาวน้อยแทบละลายลงเดี๋ยวนั้น

             "สะ ใส่เสื้อผ้าก่อนไหมคะ" ครองขวัญถามเสียงสั่น ก้มหน้ามองลงมาที่พื้นใจเต้นรัวมากขึ้นเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายก้าวเดินเข้าหยุดยืนห่างเพียงแค่คืบ

             "ไม่จะเป็นหรอก เธอจะได้ทายาได้ทั่วทุกที่ที่ฉันเจ็บไง" อัลเฟรโด้ใช้ปลายนิ้วเชยคางสวยขึ้นมาเพื่อสบตา

             "พูดเองไม่ใช่เหรอว่าจะดูแลจนกว่าฉันจะดีขึ้น"

             "ค่ะ คุณจะให้ฉันทายาตรงไหนก่อนดีคะ" ครองขวัญเรียกสติคืนกลับมา หัวใจเธอเต้นรัวราวกับกลองเพล ทำไมมันถึงได้รู้สึกตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูกขนาดนี้นะ

             "แล้วแต่เธอเลย"

             เขายกร่างกายตัวเองให้พยาบาลสาวคนนี้ดูแลตามชอบใจ อัลเฟรโด้เอนกายลงบนที่นอนอย่างสบายอารมณ์ สายตาจับจ้องมองครองขวัญที่กำลังเตรียมยาสำหรับการรักษาในค่ำคืนนี้

             "พร้อมหรือยัง ฉันอยากนอนแล้ว" อัลเฟรโด้เร่ง แค่ยาไม่กี่ชนิดในถุงไม่น่าใช้เวลานานขนาดนี้

             "มาแล้วค่ะ" หญิงสาวคว้าถุงยาและขวดยาหม่องที่เตรียมไว้เดินมาหา ครองขวัญพยายามบอกตัวเองว่าให้มีสติ ไม่ต้องตื่นเต้นกับสิ่งใดๆ ทั้งสิ้น แต่เอาเข้าจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น

             มือเล็กพยายามคลึงยาลงบนแผ่นหลังให้เบาที่สุด ถึงแม้จะไม่มีรอยช้ำที่แสดงให้เห็นชัดเจนนัก แต่ครองขวัญก็ไม่ได้วางใจทายากันไว้ในบริเวณที่คิดว่าอาจจะบอบช้ำ

             "ถ้าฉันทำให้เจ็บตรงไหนบอกได้นะคะ หรือว่าถ้าคุณเจ็บตรงไหนเป็นพิเศษก็บอกมา"

             "นวดเป็นไหม ฉันเมื่อยไปทั้งตัวเลย"

             อัลเฟรโด้กำลังรู้สึกสบายใจอย่างที่สุด โดยเฉพาะเมื่อเวลาที่ฝ่ามือของสาวน้อยลูบไล้เบาๆ บนเรือนร่าง ชายหนุ่มขยับเปลี่ยนท่ามาเป็นนอนหงายหลังจากที่ครองขวัญทายาให้จนทั่วแล้ว

             ครองขวัญทำตามคำขอของคนป่วย ตั้งใจว่าจะไม่ขัดใจเขาและทำด้วยความเต็มใจเพื่อไถ่โทษสำหรับการเป็นต้นเหตุการบาดเจ็บครั้งนี้ มือเรียวบีบยานวดลงบนปลายนิ้วแล้วค่อยๆ เคล้าคลึงลงที่หน้าอกไล้วนไปมาอย่างช้าๆ

             "เจ็บตรงไหนบอกนะคะ"

             เธอพยายามควบคุมอารมณ์ความรู้สึกไม่ให้หวั่นไหว ความใกล้ชิดที่เกิดขึ้นทำให้ครองขวัญร้อนวูบวาบไปทั่วทั้งร่าง ยิ่งยามที่ต้องคลายความเจ็บปวดของคนที่นอนสบายอยู่บนเตียง โดยมีตัวเธอโน้มลงไปเข้าหาเฉียดสัมผัสลมหายใจอุ่น หรือใกล้ชิดกับกายแกร่งบริเวณหน้าท้องที่แข็งแรง ปมผ้าขนหนูที่เฉียดมือไปมาอย่างไม่ตั้งใจ ไม่กล้ามองไม่กล้าคิดว่าเทพบุตรหนุ่มหล่อผู้นี้งดงามทั้งเรือนร่างเพียงไร

             "เสร็จแล้วค่ะ"

             อัลเฟรโด้ลืมตาขึ้นมามองเมื่อพยาบาลสาวแจ้งว่าการรักษาเสร็จสิ้น แก้มคนสวยแดงก่ำเป็นลูกตำลึงเม็ดเหงื่อผุดพรายขึ้นที่ไรผมทั่วใบหน้า เธอตื่นเต้นมากเขารู้และดูออก

             "ฉันร้อน" ท่านประธานหนุ่มลุกขึ้นมานั่ง

             อัลเฟรโด้ไม่ได้พูดโกหก ยาที่ครองขวัญทาเริ่มออกฤทธิ์อีกครั้ง และคราวนี้เนื้อตัวท่อนบนของเขาร้อนเพราะฤทธิ์ยาทั้งหน้าหลัง ในขณะที่ครองขวัญเองก็รู้สึกร้อนกับคำพูดของเขาด้วยเช่นกัน เมื่อเธอคิดถึงวิธีดับร้อนของชายหนุ่มในครั้งที่แล้ว

             "อีกสักพักคงหายค่ะ หรือว่าจะให้ฉันเอาเจลเย็นมาวางให้ไหมคะ" เธอกำลังจะลุกขึ้นไปหยิบเจลประคบเย็นซึ่งอาจจะช่วยได้

             "ไม่ต้อง" อัลเฟรโด้ร้องห้ามและดึงตัวเธอไว้ให้ล้มลงมานอนข้างๆ

             "ตอนนี้ฉันหนาว" เขาพูดหน้าตาเฉย

             "คุณไม่สบายหรือเปล่าคะ เดี๋ยวก็ร้อนเดี๋ยวก็หนาวแบบนี้ ไปหาหมอดีกว่าไหม" ครองขวัญเดาไม่ถูกเลยว่าอีกฝ่ายเป็นอะไรกันแน่

             "เธอทายานานเกินไป แอร์ในห้องก็เย็นยะเยือกขนาดนี้ไม่หนาวได้ไง"

             "เดี๋ยวฉันไปปรับแอร์ให้" สาวน้อยงงกับคนเจ็บอารมณ์แปรปรวนเหลือเกิน

             เมื่อวานก็พูดเองว่าชอบอาการเย็น เปิดเครื่องปรับอากาศในอุณหภูมิที่เย็นราวกับอยู่ในเมืองน้ำแข็ง แต่วันนี้กลับบอกว่าหนาวทั้งที่เพิ่งพูดหยกๆ ว่ายานวดออกฤทธิ์จนร้อนไปทั้งตัวแล้ว ตกลงว่าอัลเฟรโด้เป็นอะไรกันแน่

             "คุณจะทำอะไร ปล่อยนะ" ครองขวัญร้องเบาๆ เมื่อจู่ๆ อัลเฟรโด้ก็ดึงตัวเธอเข้าไปแนบอก กลิ่นยานวดที่ทาไว้บนตัวเขาโชยเข้าจมูกเธออย่างจัง หอมกลิ่นยาไปพร้อมๆ กับกลิ่นกายของคนที่กอด

             "คุณ" หญิงสาวขนลุกซู่ไปทั่วร่างเมื่อใบหน้าคมซุกลงมาที่ซอกคอ อัลเฟรโด้หลับตาพักผ่อนอย่างสบายใจ กอดก่ายครองขวัญไว้แนบแน่น

             "ลุกขึ้นก่อนแล้วไปใส่เสื้อผ้าซะ เดี๋ยวฉันไปปรับแอร์ให้" สาวน้อยพยายามดันตัวออกห่าง

             "ไม่ล่ะ ฉันง่วงแล้ว เหนื่อยเหลือเกิน นอนเถอะ ครองขวัญ" อีกฝ่ายโมเมไม่ยอมขยับซ้ำยังเอาตัวเองมาทาบทับครองขวัญไว้จนกระดิกตัวไปไหนไม่ได้

             "จะนอนก็ต้องไปใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย ฉันไม่นอนร่วมเตียงกับชีเปลือยเด็ดขาด" สาวน้อยยื่นคำขาด

             หัวใจครองขวัญกำลังจะวายเมื่อคนกึ่งเปลือยบดเบียดเนื้อตัวเข้ามามากขึ้น พ่อเทพบุตรสุดหล่อช่างไม่รู้เลยหรือว่า กำลังทำให้หัวใจของใครคนหนึ่งหยุดเต้น กลิ่นกายหอมมีอานุภาพมากกว่ากลิ่นยานวด เรือนกายของเขาเหมือนมีคลื่นไฟฟ้าที่สร้างปฏิกริยากับร่างกายเธอ แตะสัมผัสบริเวณไหนก็ร้อนรุ่มจนแทบจะทนไม่ไหว

             "ชีเปลือยเสียที่ไหน ฉันยังมีผ้าขนหนูอีกผืน หรือว่าอยากให้ฉันเปลือยจริงๆ แต่ว่าเราต้องเปลือยด้วยกันนะ" อัลเฟรโด้พูดทีเล่นทีจริง

             "คนบ้า ลามกที่สุด ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้นะคุณอัลเฟรโด้" ครองขวัญหน้าแดงก่ำเขินกับคำพูดเชิงล้อเล่นของเขาเสียเหลือเกิน ใครจะไปทำแบบนั้น

             "ถ้าขยับตัวมากกว่านี้ ผ้าขนหนูฉันอาจจะหลุดได้ แล้วเมื่อถึงตอนนั้นก็เท่ากับว่าเธอทำให้ฉันเป็นชีเปลือยจริงๆ นะ"

             ครองขวัญเหลือบมองไปที่หน้าท้องงดงามของชายหนุ่ม มันเป็นจริงอย่างที่เขาพูดเมื่อปมผ้าเช็ดตัวที่ผูกไว้เริ่มคลายออก และถ้าหากว่าขยับตัวอีกในที่สุดอัลเฟรโด้ก็จะได้เป็นชีเปลือยจริงๆ อย่างที่พูด

             "คนบ้า ลุกขึ้นไปใส่เสื้อ ไม่งั้นก็ปล่อยฉันจะไปหยิบเสื้อผ้ามาให้" หญิงสาวไม่ยอมเด็ดขาด เป็นตายร้ายดีอย่างไรคืนนี้ก็จะไม่ยอมนอนกับคนไม่นุ่งผ้าแน่

             "ระหว่างเสียเวลาเดินไปหยิบเสื้อผ้า กับฉันทำให้เธอเป็นแบบฉันในตอนนี้ ฉันว่าอย่างหลังน่าจะดีกว่านะ เพราะเราจะได้เสมอภาคกันและนอนเสียที ว่าไหม ครองขวัญ" แววตาท่านประธานหนุ่มเผยความเจ้าเล่ห์

             อัลเฟรโด้อดคิดในใจไม่ได้ว่าถ้าเรือนร่างงามใต้ชุดนอนของสาวน้อย อยู่ในอ้อมกอดของตนตลอดทุกค่ำคืนมันจะดีแค่ไหน เขานึกประหลาดใจตัวเองที่โหยหาแต่ผู้หญิงในอ้อมแขนคนนี้เพียงคนเดียวนับจากวันที่รู้จัก เธอต่างจากผู้หญิงอื่นที่เคยรู้จักหรือมีความสัมพันธ์ด้วย ความเป็นธรรมชาติที่ครองขวัญมีคือสิ่งที่ทำให้ท่านประธานหนุ่มได้รับการเติมเต็มที่หัวใจ

             "อย่าทำบ้าๆ นะ" ครองขวัญร้องห้ามเสียงสั่น

             "บ้าที่ไหนกัน" อัลเฟรโด้แกล้งแหย่

             "ถ้าคุณทำแบบนั้นฉันจะโกรธคุณไปจนตาย แล้วก็..."

             "แล้วก็อะไร" ปลายจมูกคมเริ่มซุกไซ้ที่ซอกคอหอม อัลเฟรโด้ไม่เคยปล่อยให้ตัวเองต้องอดทนกับใครมากขนาดนี้ เขาไม่คิดจะล่วงเกินหรือทำให้ครองขวัญมีราคี แม้ว่าความจริงแล้วปรารถนาเธอเพียงไร

             "นี่แน่ะ" ฝ่ามือน้อยๆ ทุบให้ที่แขน อัลเฟรโด้ร้องลั่นเมื่อถูกปลายนิ้วของครองขวัญหนีบซ้ำอีกที

             "โอ๊ย" ชีเปลือยจอมเจ้าเล่ห์ร้องลั่นแต่ไม่ยอมปล่อยคนในอ้อมแขนให้เป็นอิสระ

             "โอ๊ย" ท่านประธานหนุ่มร้องซ้ำ ร่างใหญ่งดคุดคู้สีหน้าแสดงความเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัด

             "จะ เจ็บตรงไหนคะ เป็นอะไรมากหรือเปล่า" ครองขวัญตกใจไม่น้อย

             "คุณอัลเฟรโด้ เป็นอะไรมากไหม เจ็บตรงไหนบอกฉันซิคะ" หญิงสาวชักใจคอไม่ดีเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบไป สีหน้าเจ็บปวดของอัลเฟรโด้ทำให้ครองขวัญต้องรีบดูว่าร่างกายเขาบาดเจ็บที่ตรงไหนอีกหรือเปล่า

             "ว้าย"

             อัลเฟรโด้ฉวยจังหวะที่ครองขวัญกำลังสำรวจเนื้อตัวของเขาว่ามีบาดแผลรอยฟกช้ำที่ไหนบ้างนั้น คนเจ้าเล่ห์ก็ลุกขึ้นพรวดพราดแล้วดึงร่างเล็กเข้ามาในอ้อมกอดก่อนจะล้มตัวลงไปนอนด้วยกันอีกครั้ง

             "คนบ้า ทำอะไรของคุณเนี่ย" คราวนี้ครองขวัญไม่กล้าทำอะไรรุนแรง เพราะเกรงว่าจะไปโดนบาดแผลเดิมของชายหนุ่ม

             "เธอทำฉันเจ็บ เธอต้องชดใช้" ท่านประธานหนุ่มคำราม

             "ชดใช้อะไร" สาวน้อยถามกลับด้วยความหวาดหวั่น

             "ฉันเหนื่อยอยากนอนพัก" จู่ๆ ท่าทีว่าจะเอาเรื่องก็หายไปกลายเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

             อัลเฟรโด้รั้งร่างเล็กเข้ามาแนบตัวชิดสนิทใกล้ แผ่นหลังของสาวน้อยสัมผัสความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน รูปสลักงดงามปานเทพบุตรที่ครองขวัญไม่มีโอกาสได้เห็น แต่ครอบครองตัวเธอไว้ราวกับเกราะคุ้มภัยที่แข็งแรง หัวใจหญิงสาวหวั่นไหวไปกับสิ่งที่เกิดขึ้น พยายามบอกตัวเองว่าไม่ให้รู้สึกใดๆ ต่อการกระทำในเวลานี้

             "หลับซะ สัญญาว่าจะไม่ทำอะไรมากไปกว่านี้" เขากระซิบที่ข้างหูแนบใบหน้าลงที่ต้นคอเนียน กระชับร่างเล็กไว้ในอ้อมกอดมากขึ้น

             อัลเฟรโด้หลับหรือเปล่าครองขวัญไม่รู้ รู้แต่ว่าเธอไม่อาจข่มตาให้หลับลงได้ ไม่ใช่เพราะกลัวว่าเขาจะไม่รักษาสัญญาตามที่พัด แต่เพราะสู้กับหัวใจที่กำลังหวั่นไหวต่อผู้ชายที่ชื่ออัลเฟรโด้คนนี้ต่างหาก

     

             โซเฟียติดต่อมาอีกครั้งในวันรุ่งขึ้นระหว่างที่อัลเฟรโด้กำลังเข้าห้องน้ำอาบน้ำอยู่ ครองขวัญพยายามทำเวลาในการสนทนากับอีกฝ่ายเพื่อไม่ให้ชายหนุ่มออกมาแล้วเกิดความสงสัย

             'ตอนนี้ฉันอยู่ที่นอกเมือง เธอหาทางมาได้ไหมขวัญ'

             'ฉันจะพยายาม ว่าแต่เธออยู่กับใคร' ครองขวัญพยายามตะล่อมถาม

             'ไว้เจอกันแล้วเราค่อยคุยกันนะ ตกลงเธอมาหาฉันได้ไหม ขวัญ' ครองขวัญยังไม่ทันตอบก็ต้องรีบวางโทรศัพท์ และอัลเฟรโด้ออกมาจากห้องน้ำแล้ว

             ท่านประธานหนุ่มทำเป็นไม่สนใจ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นติดๆ กันหลายครั้ง แต่ครองขวัญยืนนิ่งไม่ยอมหยิบมันขึ้นมา

             "ทำไมไม่ดูล่ะว่าวันนี้ใครส่งข้อความอะไรมา" อัลเฟรโด้เอ่ยอย่างอารมณ์ดี

             "เดี๋ยวค่อยดูก็ได้ค่ะ ว่าแต่คุณยังเจ็บตรงไหนอีกไหม"

             "ไม่เท่าไรแล้ว เมื่อคืนเธอนวดให้ฉันก็เลยไม่รู้สึกเจ็บเท่าไร แต่เดี๋ยวคงต้องให้ช่วยดูมือให้หน่อย" เขาหันมาส่งยิ้มแทนคำขอบคุณ

             "มือคุณเป็นอะไรคะ"

             "รับโทรศัพท์ก่อนเถอะ มันดังจนน่าหนวกหูแล้ว"

             ครองขวัญจำต้องรีบจัดกับโทรศัพท์ที่กำลังดังไม่ขาดสาย โซเฟียส่งข้อความมาหาอีกหลายข้อความ โดยระบุถึงที่อยู่ที่นัดพบพร้อมทั้งขอร้องให้มาให้ได้

             "คุณอัลเฟรโด้คะ ฉันอยากรู้ว่าที่มอนเดโลอยู่ไกลจากที่นี่ไหมคะ" ครองขวัญถามชายหนุ่ม

             "ถามทำไม"

             "ฉันเคยอ่านหนังสือบอกว่าที่นั่นมีอ่าวที่สวยงามมาก แล้วก็มีสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจหลายอย่าง ฉันอยากจะขออนุญาตไปดูได้ไหมคะ"

             "จะไปเมื่อไร สองสามวันนี้ฉันยุ่งมากคงไม่มีเวลาพาไป อาทิตย์หน้าก็ต้องต้อนรับลูกค้าสำคัญหลายคน น่าจะเลยจากนั้นไป"

             "ไม่ต้องพาฉันไปหรอกค่ะ เอ่อ ฉันหมายถึงไม่รบกวนคุณดีกว่า แค่บอกว่าอยู่ที่ไหนเดินทางไปอย่างไรก็พอ"

             ครองขวัญรอนานไม่ได้ขนาดนั้นโซเฟียก็เช่นกัน ตั๋วเครื่องบินระบุวันเดินทางไปประเทศไทยไว้ในสัปดาห์หน้า ดังนั้นโซเฟียจึงพยายามขอให้หญิงสาวเอาตั๋วมาให้โดยเร็วที่สุด

             "เธอไม่ใช่คนที่นี่ ยิ่งเป็นผู้หญิงด้วยเดินทางคนเดียวอันตรายมาก ถ้างั้นฉันให้คนพาไปแล้วพากลับดีกว่า อยากจะไปสักกี่วันล่ะ"

             อัลเฟรโด้ทำเหมือนไม่สงสัยในสิ่งที่ครองขวัญพูด การเดินทางท่องเที่ยวไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับคนที่ได้มีโอกาสมาเยือนสถานที่ที่มีความงดงามเช่นเกาะซิซิลีแห่งนี้ แต่ที่น่าแปลกก็คือว่าหญิงสาวนึกอย่างไรถึงได้อยากออกไปท่องเที่ยว ก็ในเมื่อข่าวคราวการหายตัวไปของโซเฟียยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ เลยสักนิด คนอย่างครองขวัญก็ไม่น่าจะมีอารมณ์อยากไปไหนนอกจากอยากได้ยินข่าวนี้มากกว่า

             "ฉัน เอ่อ ฉันว่าจะไปวันนี้ค่ะ มันไม่ไกลจากที่นี่มากใช่ไหมคะ เมื่อกี้ฉันลองเช็กระยะทางจากในอินเตอร์เนทเดินทางไม่ถึงชั่วโมงก็ถึงแล้ว"

             "ใช่ แล้วเธอจะอยู่ที่นั่นกี่วัน"

             "พรุ่งนี้สายๆ ฉันก็คงกลับแล้วค่ะ"

             "งั้นฉันเปลี่ยนใจแล้ว ขับรถพาเธอไปเองดีกว่า" จู่ๆ อัลเฟรโด้ก็เกิดใจดีขึ้นมา อาสาขับรถพาหญิงสาวไปเที่ยว

             "มะ ไม่ต้องค่ะ ฉันไปเองดีกว่าไม่ก็ให้คุณคริสเตียนพาไปก็ได้" หญิงสาวปฎิเสธพัลวัน

             "ทำไม ทำไมไปกับฉันไม่ได้ หรือว่าเธอมีอะไรปิดบังฉันอยู่" สายตาคมกริบของท่านประธานหนุ่มมองจ้องอย่างแน่วแน่ ครองขวัญหลบสายตาคู่นั้นด้วยหัวใจที่ว้าวุ่น

             "มองหน้าฉัน ครองขวัญ แล้วบอกความจริงมาว่าเธอกำลังปิดบังอะไรฉันอยู่หรือเปล่า" อัลเฟรโด้กดดันด้วยการก้าวเข้าไปหาใกล้ๆ

             ครองขวัญก้มหน้าไม่ยอมสบตาหรือตอบคำถามใดๆ ทั้งสิ้น สัญญาณโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้งต่างฝ่ายต่างเงียบไม่มีใครพูดอะไรออกมา

     

             เสียงโทรศัพท์ยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ครองขวัญไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามอง มันด้วยซ้ำ ในขณะที่อัลเฟรโด้ยังคงยืนรอฟังคำตอบ ที่ถามไปเมื่อครู่อย่างใจเย็น

             "รับโทรศัพท์ซิ แล้วบอกโซเฟียไปว่า เธอจะไปพบตามที่นัด"

             "คุณ" สาวน้อยเงยหน้าขึ้นด้วยท่าทีตกใจอย่างเห็นได้ชัด เขารู้ได้อย่างไรว่าการเดินทางครั้งนี้เป็นการนัดพบกันกับโซเฟีย

             "เธอโกหกไม่เก่ง เล่นละครไม่แนบเนียนแล้วก็ซื่อเกินไป ครองขวัญ" ท่านประธานหนุ่มเดินไปหยิบโทรศัพท์ของสาวน้อยขึ้นมาดู แล้วก็พบความจริงจากในนั้นว่า

             "ตั๋วเครื่องบินอะไร" เขาถามเสียงเข้ม ยกโทรศัพท์ชูหน้าจอที่เป็นการสนทนาระหว่างครองขวัญกับโซเฟีย

             "คุณอัลเฟรโด้คะ ฉันขอโทรศัพท์คืนด้วย" หญิงสาวยังไม่พร้อมจะอธิบายตอนนี้

             "ตอบคำถามฉันมา ครองขวัญ เมื่อวานเธอลงไปข้างล่างเพราะนัดเจอกับโซเฟียที่ร้านกาแฟใช่ไหม แต่เพราะเกิดอุบัติเหตุเสียก่อนเธอก็เลยไม่ได้เจอกัน แล้วนี่คือการนัดพบกันอีกครั้งกับตั๋วเครื่องบิน มันคืออะไร"

             ครองขวัญนิ่งเงียบไม่พูดอะไรทั้งนั้น โซเฟียขอร้องไม่ให้เธอบอกใครว่าอีกฝ่ายติดต่อมาโดยเฉพาะอัลเฟรโด้ นั่นแสดงว่าเพื่อนรักอาจมีบางอย่างที่ไม่ต้องการให้ใครรู้ แม้แต่คนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี

             "ขอฉันดูมือคุณหน่อยค่ะ" หญิงสาวเปลี่ยนเรื่องและพยายามเข้ามาดูมือของชายหนุ่ม

             "ครองขวัญ เธอเป็นคนบอกเองไม่ใช่หรือว่า เราไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นควรดูแลหรือใส่ใจคนที่อยู่รอบข้างให้ดี" เขาทวนคำพูดเมื่อวันก่อนที่เคยคุยกับหญิงสาว

             "มือคุณเจ็บตรงไหนคะ ฉันจะได้ทายาถูก" เธอทำหูทวนลมว่าไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูด แต่อัลเฟรโด้ไม่ยอมให้หญิงสาวทำเช่นนั้น

             "เรื่องของโซเฟียควรเป็นฉันที่รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับภรรยาของตัวเอง ยิ่งเธอเป็นเพื่อนสนิทก็ยิ่งควรให้ฉันได้เจอกับโซเฟียเร็วขึ้นซิ"

             หัวใจของครองขวัญเหมือนมีมีดมากรีดลึกลงเป็นรอยแผล น้ำใสคลอเต็มสองเบ้าเมื่อได้ยินคำพูดอ้างสิทธิ์การเป็นสามีภรรยา ซึ่งคือความจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของโซเฟียและอัลเฟรโด้

             เธอกำลังทำอะไรอยู่ กำลังจะแย่งสามีของเพื่อนเช่นนั้นหรือ ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่ของเธอ และเธอก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะครอบครองเขาแม้แต่น้อย โซเฟียซิ โซเฟียต่างหากที่มีสิทธิ์ในตัวอัลเฟรโด้อย่างแท้จริง

             ความรู้สึกผิดแล่นขึ้นมาจับในหัวใจ ครองขวัญพยายามกลืนน้ำตาแห่งความเสียใจลงไป แล้วตั้งสติอยู่กับปัจจุบันคิดทบทวนทุกอย่างใหม่หมด ความจริงข้อหนึ่งที่เป็นความจริงอย่างไม่มีวันเปลี่ยนได้ นั่นก็คือโซเฟียและอัลเฟรโด้เป็นสามีภรรยาที่ถูกต้อง

             อัลเฟรโด้พูดถูกในฐานะเพื่อนที่ดี ครองขวัญควรหาทางให้สามีได้พบกับภรรยาโดยเร็ว เรื่องบางเรื่องคนเป็นคู่ชีวิตกันเท่านั้นถึงจะคุยกันเข้าใจ อาจมีบางอย่างที่เธอไม่รู้ก่อนหน้า บางทีโซเฟียอาจจะมีปากเสียงถึงขั้นน้อยใจจนตัดสินใจหนีงานวิวาห์ไปหน้าตาเฉย และในวันนี้สามีแสนดีอย่างอัลเฟรโด้ก็พยายามทำทุกวิธีเพื่อตามหาภรรยาสุดที่รักคืนมา

             เธอทำอะไรอยู่ หลายวันที่อยู่กับเขา หัวใจของครองขวัญหวั่นไหวต่อการกระทำทั้งที่เต็มใจและไม่เต็มใจ ทั้งที่ไม่ควรเกิดขึ้นหรือแม้แต่สิ่งที่ประทับใจอย่างไม่มีวันลืม แต่ไม่ว่าจะมีอะไรก็ตามในระหว่างที่โซเฟียหายตัวไป นั่นไม่ใช่เหตุผลที่จะทำให้คนอย่างครองขวัญทรยศเพื่อนรักแสนดีได้

             "คุณอัลเฟรโด้คะ" หญิงสาวตัดสินใจแล้วที่จะพูดความจริง

             "ฉันขอสารภาพ" ครองขวัญพยายามไม่ให้น้ำเสียงที่พูดสั่นเครือ

             เธอกำลังร้องไห้ ร้องให้กับความรู้สึกผิดของตนเองที่มัวหลงอยู่กับความมัวเมาในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้จนเกือบทำในสิ่งที่ผิด

             "โซเฟียขอให้ฉันเอาตั๋วเครื่องบินเดินทางไปประเทศไทยไปให้ในวันนี้"

             "ตั๋วเครื่องบินเดินทางไปประเทศไทยงั้นหรือ" อัลเฟรโด้ทวนคำอย่างประหลาดใจ โซเฟียจะเดินทางไปที่ไหนทำไมกัน

             "ค่ะ ก่อนหน้าที่ฉันจะมาโซเฟียฝากให้จัดการเรื่องตั๋วเดินทางสองใบนี้"

             "ตั๋วสองใบ"

             ยิ่งฟังอัลเฟรโด้ก็ยิ่งแปลกใจมากขึ้นไปอีก เขากับโซเฟียไม่เคยคุยกันถึงเรื่องการเดินทางไปไหน เรียกว่าไม่เคยคุยกันเกินสิบคำด้วยซ้ำ แล้วตั๋วเดินทางอีกใบเป็นของใครกัน

             "เธอจะกลับเมืองไทยกับโซเฟียหรือเปล่า" หรือว่าตั๋วอีกใบเป็นของครองขวัญ ถ้าใช่แสดงว่าบางทีหญิงสาวอาจจะมีส่วนรู้เห็นในการหายตัวไปของโซเฟียแต่แรกก็เป็นได้

             "ไม่ใช่ค่ะ กำหนดเดินทางกลับของฉันยังไม่มี ทีแรกฉันคิดว่าจะกลับวันเดียวกัน แต่โซเฟียบอกว่าอย่าเพิ่งจองเผื่อเปลี่ยนใจอาจไม่ไปเมืองไทยแล้วก็ได้"

             "แล้วเรื่องการหายตัวก่อนงานแต่งล่ะ โซเฟียบอกเธอหรือเปล่าว่ามันจะเป็นแบบนี้" ไม่วายที่เขาจะวกกลับไปถามเรื่องเก่า

             "เรื่องนี้ฉันไม่รู้จริงๆ ค่ะว่าโซเฟียจะทำแบบนั้น อีกอย่างโซเฟียเพิ่งจะติดต่อฉันมาเมื่อวันก่อนและขอร้องว่าไม่ให้บอกใครแม้แต่คุณ"

             "บ้าจริงๆ แสดงว่าเมื่อวานที่เธออ้างว่าไปเดินเล่น ก็คือไปตามนัดของโซเฟียใช่ไหม" น้ำเสียงอัลเฟรโด้ดูหงุดหงิดเล็กน้อย ครองขวัญพยักหน้ารับเบาๆ ยิ่งพูดสาวน้อยก็ยิ่งรู้สึกผิดกับเขามากขึ้นไปใหญ่

             ความจริงแล้วเรื่องของโซเฟียควรให้อัลเฟรโด้จัดการถึงจะถูก เธอไม่ควรร่วมมือกับเพื่อนสาวให้เกิดความวุ่นวายต่างๆ ยิ่งคิดครองขวัญก็ยิ่งรู้สึกผิด

             "ฉันขอโทษค่ะ ฉันผิดเองที่เข้าข้างเพื่อน เพราะคิดว่าคุณอาจจะบังคับหรือเป็นคนทำให้โซเฟียหนีไป แต่ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว"

             ยิ่งเห็นท่าทีผิดหวังและหงุดหงิดของอัลเฟรโด้ ครองขวัญก็ยิ่งเข้าใจว่าความจริงแล้วนั้น ท่านประธานหนุ่มรักและห่วงใยโซเฟียมากแค่ไหน และยิ่งรู้สึกละอายที่เผลอคิดไปว่าเขาทำร้ายจิตใจเพื่อนรักจนต้องหนีเตลิด ทั้งที่ความจริงสุดหัวใจของอัลเฟรโด้ก็คือโซเฟียคนนี้

             "ฉันไม่เคยบังคับอะไรโซเฟียทั้งนั้น" ท่านประธานหนุ่มเอ่ยเสียงเข้มและพูดต่อไปว่า

             "คนเดียวที่จะช่วยโซเฟียได้ก็คือฉันเท่านั้น"

             "ค่ะ" หญิงสาวรับคำเสียงเบาตอกย้ำหัวตะปูลงไปในหัวใจว่า อัลเฟรโด้กับโซเฟียรักกันมากแค่ไหน

             "ตอบโซเฟียไปว่าเราจะไปตามนัด และไม่ต้องบอกให้โซเฟียรู้ว่าฉันจะไปกับเธอ" อัลเฟรโด้คืนโทรศัพท์ให้หญิงสาว ครองขวัญรีบรับมาและพิมพ์ข้อความไปตามที่เขาสั่ง

             "ฉันรู้แล้วแล้วค่ะ ว่าโซเฟียอยู่ที่ไหน"


     

    Thumbnail Seller Link
    คำสั่งรักมาเฟียร้าย
    อิ่มอุ่น
    www.mebmarket.com
    เขาไม่ดุหรือโหดเหี้ยมเฉกเช่นมาเฟียคนอื่น คำสั่งต้องเป็นคำสั่งและไม่มีคำว่าผิดพลาด แต่กับเธอคำสั่งไหนก็ไม่สำคัญเท่าคำสั่งหัวใจ สั่งให้รักทำไมไม่รักแล...
    Get it now
    Thumbnail Seller Link
    สะใภ้รับจ้าง
    อิ่มอุ่น
    www.mebmarket.com
         ชีวิตสาวลูกทุ่งมีความสุขกับความพอเพียง ต้นไม้และธรรมชาติ ต้องมาเปลี่ยนไปเพราะเดิมพันพิสดารของพ่อ    เรื่องอะไรเธอจะยอมเป็นรางวัลเดิมพัน ในเมื่อ...
    Get it now
    Thumbnail Seller Link
    จำนนรักจอมมาร
    อิ่มอุ่น
    www.mebmarket.com
    “ถ้าขืนพูดคำว่าจะหย่า ผมจะจูบแบบเมื่อคืนนะ รู้ไหม เอ๊ะ หรือว่าต้องทำให้ดูก่อนว่าเป็นไง” โมกข์กระซิบข้างๆ หูแล้วหัวเราะเบาๆ  ลมหายใจอุ่นๆ ร...
    Get it now
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×