คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1 ( 100 ค่ะ )
หญิงวัยกลางคนซึ่งยังคงเค้าความงามไม่เปลี่ยนแปลง
คือสุภาพสตรีเพียงหนึ่งเดียวในโลกที่กุมหัวใจของอัลเฟรโด้
และกุมหัวใจของทุกคนในตระกูลรอสเซลลินีไว้ทั้งหมด ตระกูลมาเฟียอันดับหนึ่งแห่งเมืองนาโปลี
ซึ่งทรงอิทธิพลและเป็นที่เกรงขามของทุกคนมาอย่างยาวนาน
ใครจะรู้บ้างว่าเบื้องหลังแล้วสตรีนางนี้คือผู้ชี้เป็นชี้ตายของทุกคนในครอบครัว
ธุรกิจที่ครอบครัวรอสเซลลินีครอบครองเจริญก้าวหน้า และมีผลกำไรมหาศาล
ถึงแม้ว่าจะก้าวขึ้นมาผงาดในฐานะมาเฟียก็ตามแต่
แต่มาเฟียตระกูลนี้ยึดถือความซื่อสัตย์และจริงใจในการทำธุรกิจ
จึงเป็นที่ยอมรับและได้รับความเชื่อถือจากผู้คนมากหน้าหลายตา
ที่สำคัญธุรกิจของพวกเขาคือสีขาวที่ถูกต้องการกฎหมายและศีลธรรม
นอกจากนี้ในบางโอกาสยังคืนกำไรสู่สังคมอีกด้วย
"แม่จะมาทำไมไม่บอกผมก่อนล่วงหน้า
ผมจะได้..." อัลเฟรโด้รีบลุกขึ้นไปรับหน้านางสิงห์แห่งรอสเซลลินีที่เพิ่งเดินทางมาถึง
การปรากฎตัวของมารดาไม่ใช่เรื่องปกติแต่และเขาก็พอจะเดาสาเหตุที่ทำให้นางอนงค์รัตน์ต้องมาด้วยตัวเองได้ไม่ยาก
"จะได้หนีแม่ไปตรวจงานที่อื่นใช่ไหมจ้ะ"
อนงค์รัตน์ยิ้มหวานดักทางหนีทีไล่ของลูกชายสุดที่รักไว้ได้
โดยที่เจ้าตัวทำได้แค่ยิ้มหวานประจบแล้วก้มลงหอมแก้มมารดาฟอดใหญ่ แล้วประคองนางไปนั่งลงที่โซฟามุมห้อง
ซึ่งสามารถมองเห็นทัศนียภาพที่งดงามของเมืองได้
"มาเหนื่อยๆ อยากดื่มอะไรไหมครับ วันนี้เรามีน้ำผลไม้สูตรพิเศษที่กำลังเป็นที่นิยมของแขกที่มาพัก
แม่จะรับสักแก้วไหมครับ"
เขารู้
แค่เห็นสายตาที่จ้องมองมาด้วยความรักของนางอนงค์รัตน์แล้ว
อัลเฟรโด้ก็เสียวสันหลังวาบขึ้นมาทันที
นี่พี่ชายและน้องสาวของเขาอยู่ที่ไหนกันบ้าง
และมีใครที่มารดาสุดที่รักแวะเวียนไปหาบ้างแล้วหรือเปล่า
หรือมีใครที่ยอมทำตามใจแม่บังเกิดเกล้าแล้วบ้าง
ไม่ต้องถามอัลเฟรโด้ก็พอเดาได้ไม่ยากว่า
นาทีนี้คงไม่มีใครกลับบ้าน จูเซปเป้ รอสเซลลินี พี่ชายสุดที่รักก็คงวุ่นวายอยู่กับการดูแลกิจการเรือเดินสมุทรทุกประเภทจนไม่มีเวลากลับบ้าน
ส่วนน้องสาวคนเล็กสุดรายนั้นยิ่งไม่ต้องพูด
ลอร่าเป็นสาวน้อยอ่อนหวานน่าเอ็นดูที่ใครอยู่ใกล้ต่างก็พากันหลงรัก
แต่รับรองว่าเรื่องนี้เธอจะเป็นคนสุดท้ายที่ถูกมารดาจับคู่
และก็ไม่ต้องสงสัยอีกว่า ทายาทสาวคนสุดท้ายจะไม่มีวันยอมให้เกิดการคลุมถุงชนง่ายๆ
แน่
ส่วนเขาน่ะเหรอ อัลเฟรโด้เริ่มรู้ตัวแล้วว่าคิดช้าเกินไป
เพราะมัวแต่วุ่นวายกับงานในโรงแรมจนแทบไม่มีสมองคิดเรื่องอื่น
นอกจากนั้นก็เรื่องกิจการใหม่ที่มาจากความชอบส่วนตัว
ถึงความสนใจและเวลาที่เหลือจากงานโรงแรมไปจนหมดสิ้น
เรียกว่าลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท และเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าควรคิดหาทางหลบหลีกป้องกันตัวเองให้พ้นจากความปรารถนาที่เป็นไปไม่ได้ของมารดาเสีย
แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะสายไปจริงๆ
"อัลจ๋า
ลูกรู้ใช่ไหมว่าแม่กินไม่ได้นอนไม่หลับเลย
นับตั้งแต่วันรู้ว่าลูกของแม่กำลังมีเคราะห์ ลูกรู้ไหม แม่กลัวมากแค่ไหน
กลัวว่าลูกของแม่จะโชคร้าย กลัวทุกอย่าง กลัวว่าครอบครัวเรา..."
นางอนงค์รัตน์เริ่มเรื่องสำคัญอย่างไม่รีรอ
นางปล่อยให้ลูกทุกคนได้มีเวลาไปครุ่นคิดถึงเรื่องที่บอกไป
และผลตอบรับที่ได้ก็คือการหายหน้าไปอย่างพร้อมเพรียงกันของทุกคน
ดังนั้นเพื่อไม่ให้เรื่องนี้เนิ่นนานจนแก้ไขอะไรไม่ได้ และเพื่อไม่ให้ลูกคนใดคนหนึ่งต้องถูกเคราะห์ร้ายนี้แผ้วพาน
นางจึงตัดสินใจแล้วว่าจะต้องกางปีกปกป้องลูกๆ ทุกคนให้รอดพ้นจากโชคร้ายครั้งนี้
ด้วยวิธีที่เชื่อว่าจะสามารถผ่านเคราะห์และสิ่งไม่ดีคราวนี้ไปได้ด้วยการแต่งงาน
และคนแรกที่นางสิงห์แห่งรอสเซลลินีหมายมั่นปั้นมือที่จะทำให้เข้ารูปเข้ารอยโดยเร็ว
ก็คือลูกชายคนเล็กที่ดูจะพูดง่ายและเชื่อฟังแม่มากที่สุดคนนี้
"เชื่อผมซิว่าเราทุกคนจะต้องปลอดภัย
แม่เป็นคนสอนเองไม่ใช่เหรอว่าทำดีก็ต้องได้ดี
ทุกวันนี้ครอบครัวเราไม่ได้ทำอะไรในทางเสื่อมเสียหรือทำให้ใครเดือดร้อนไม่ใช่เหรอครับ
ผมว่าแม่ทำใจให้สบายและยิ้มหวานๆ ให้พวกเราเห็นบ่อยๆ จะดีกว่า"
อัลเฟรโด้ปลอบขวัญมารดาด้วยน้ำเสียงที่แสนอ่อนโยน
"แต่ว่าอัลจ้ะ แม่กลัวจริงๆนะ"
สีหน้านางอนงค์รัตน์หวั่นวิตกกัลเรื่องนี้อย่างเห็นได้ชัด
แม้สิ่งที่อัลเฟรโด้พูดจะเป็นเรื่องจริงแค่ไหน
ว่าครอบครัวของนางไม่เคยทำความเดือดร้อนให้ใครหน้าไหนต้องทุกข์ใจ
และเชื่อในเรื่องการทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วมาโดยตลอดก็ตามแต่
กระนั้นนางก็อดที่จะคิดคำนึงถึงฝันร้ายและคำทำนายที่เป็นทางออกเพื่อให้เกิดความสบายใจนั้นไม่ได้
ถ้าฝันร้ายไม่ใช่เรื่องจริง
ไม่มีลูกคนใดที่จะมีเรื่องร้ายแรงในชีวิต จะว่าไปการแต่งงานก็เป็นสิ่งที่สมควรแก่เวลาแล้วไม่ใช่หรือ
ในเมื่อทุกคนมีหน้าที่การงานมั่นคงและรับผิดชอบได้เป็นอย่างดี
ก็เหมาะสมที่จะสร้างครอบครัวกับผู้หญิงดีๆ สักคนเพื่อมีหลานน้อยๆ
มาให้นางและสามีได้ชื่นใจ
จะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ช่างเถอะ
นางอนงค์รัตน์คิดเพียงแค่ว่า การแต่งงานจะทำให้ลูกๆ พ้นเคราะห์
และสิ่งที่ได้เป็นของแถมนั่นก็คือศรีสะใภ้และเขยขวัญที่น่ารัก รวมไปถึงชีวิตน้อยๆ
ที่จะลืมตามาดูโลกในอีกไม่ช้า
"หลวงตาไม่เคยทำนายอะไรพลาด
ลูกจำได้ไหมตอนที่ลูกห้าขวบแม่กับพ่อพาลูกไปกราบหลวงตาครั้งแรก
ท่านบอกมาว่าลูกจะมีน้องซึ่งตอนนั้นพ่อกับแม่ยังคิดกันอยู่เลยว่า
หรือเราจะรับเด็กมาอุปการะสักคนเพื่อให้ลูกมีเพื่อน
แต่สุดท้ายลอร่าก็กลายมาเป็นน้องสุดท้องของบ้านเรา" นางอนงค์รัตน์เท้าความในอดีต
และเอ่ยต่อไปอีกว่า
"แล้วยังจะเรื่องของจูเซปเป้อีก
ลูกรู้ไหมใจแม่แทบจะขาดเมื่อรู้ข่าวว่าลูกชายตัวเองถูกลอบทำร้าย
คำทำนายของหลางตาไม่เคยพลาด แล้วแบบนี้จะให้แม่วางใจนอนหลับได้อย่างไร"
"แต่ว่าแม่ครับ
เรื่องพี่เซปเป้เกิดจากความเข้าใจผิด อีกอย่างผู้หญิงคนนั้นก็ยืนยันว่าเข้าใจผิด
ไม่มีอะไรน่ากลัวเลยสักนิด" ท่านประธานหนุ่มปลอบใจ
เมื่อสองสัปดาห์ก่อนที่พี่ชายคนโตของบ้าน
ขอใช้สถานที่ในโรงแรมเรียกประชุมทีมงานทั้งหมดเกี่ยวกับเรื่องการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการบริหาร
เพื่อให้เหมาะกับสภาพเศรษฐกิจในยุคปัจจุบัน
ในระหว่างพักเกิดความเข้าใจผิดระหว่างจูเซปเป้กับแขกสาวชาวไทยที่เข้าพักที่โรงแรม
เป็นเหตุให้พี่ชายสุดที่รักถูกสาวเจ้าที่เพิ่งเห็นหน้าเป็นครั้งแรก
ฝากรอยไว้ด้วยกำปั้นหมัดหนักเข้าให้ที่เบ้าตา
และเกือบเป็นเรื่องราวใหญ่โตดีที่จูเซปเป้จัดการอธิบายความจริงจนแม่สาวคนนั้นยอมเลิกรา
แต่นั่นก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ย้ำความกังวลใจของมารดามากขึ้นไปอีกว่า
ลูกๆ ทุกคนของนางกำลังมีเคราะห์
และจะผ่านเคราะห์นี้ไปได้ด้วยการแต่งงานเพียงเท่านั้น
อัลเฟรโด้รู้ดีว่ามารดาเคารพพระภิกษุนามว่าหลวงตาคงมากแค่ไหน
ทุกคนในครอบครัวล้วนเคยพบและประสบมาด้วยตนเองกับคำทำนายที่ขอเรียกว่า
ไม่เชื่ออย่าหลบหลู่ เพียงแต่ว่าครั้งนี้มันออกจะสร้างความลำบากใจให้กับทุกคนเป็นอย่างยิ่ง
"อัลจ้ะ ถือว่าแม่ขอร้องได้ไหม
ทำเพื่อแม่สักครั้งได้ไหมลูก" อนงค์รัตน์ขยับตัวออกจากอ้อมกอดของบุตรชาย
แล้วเอ่ยต่อไปว่า
"แม่รักลูกทุกคนยิ่งกว่าชีวิต
แม่คงอยู่ต่อไปไม่ได้ถ้ามีใครคนใดคนหนึ่งเกิดเรื่องร้าย อัลเชื่อแม่สักครั้งได้ไหม
เห็นแก่แม่คนนี้แม่ที่ไม่อาจทนเห็นลูกของตนต้องพบเคราะห์ร้าย
แม่ไม่อยากเห็นใครต้อง..." น้ำเสียงมารดาสั่นเครือเล็กน้อย
จนอัลเฟรโด้ต้องรีบเอื้อมมือมากุมมือของนางไว้เพื่อปลอบประโลมใจ
"แม่ครับ" อัลเฟรโด้พูดไม่ออก
ยิ่งเห็นมารดาน้ำตาคลอเบ้าสีหน้าซีดเซียวแสดงให้เห็นว่าไม่มีความสุขเลยแม้แต่น้อย
ความทุกข์ของแม่ที่ปรากฏตรงหน้าทำให้เขาทุกข์ใจไม่แพ้กัน
"แม่ทำใจให้สบายดีกว่า ยิ้มหวานๆ ให้ผมดูหน่อยนะครับ"
ลูกชายสุดหล่อส่งเสียงออดอ้อน
"แม่ยิ้มไม่ออกจ้ะ"
นางอนงค์รัตน์ส่ายหน้าแล้วถอนหายใจออกมาดังๆ ด้วยความกลัดกลุ้ม
"ทำเพื่อแม่ไม่ได้สักครั้งเหรอ
อัล"
"แม่ครับ
เรื่องแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ นะครับ
อีกอย่างตอนนี้ผมไม่ได้คบใครเป็นจริงเป็นจริงทั้งนั้น
แล้วถ้าพูดเรื่องแต่งงานมันก็คงเป็นไปไม่ได้"
ท่านประธานหนุ่มตัดสินใจพูดตามความจริง
ใครๆ ก็รู้ว่าอัลเฟรโด้หวงความโสดแค่ไหน
ในบรรดาพี่น้องของตระกูลรอสเซลลินี เขานี่แหล่ะที่เป็นข่าวเรื่องผู้หญิงน้อยที่สุด
หรือแทบจะไม่มีเลยก็ว่าได้จนครั้งหนึ่งเคยเกือบทำให้พี่ชายคนโตต้องพิสูจน์แล้วว่า
น้องชายสุดที่รักเป็นอะไรกันแน่
ผู้หญิงสวยใครจะไม่ชอบ
สเปคเนื้อนมไข่อวบอิ่มอึ๋มอั๋นแบบนั้นเป็นใครก็ต้องอยากเข้าใกล้
แต่เขาอาจจะแตกต่างจากพี่น้องคนอื่น
ตรงที่ผู้หญิงที่จะเข้าหาหรือขึ้นเตียงมีความสุขด้วยจะต้องรับกฏเหล็กข้อหนึ่งให้ได้
นั่นก็คือ ไม่เรียกอย่ามาให้เห็น ไม่จำเป็นไม่ต้องมาหา คิดถึงจะให้คนพามา
และคงต้องบอกลาเมื่อล้ำเส้นกัน นี่ต่างหากคือเหตุผลที่ว่า
ทำไมถึงไม่มีข่าวเรื่องผู้หญิงมากเหมือนคนอื่น
"เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง
แม่รู้ว่าอัลเฟรโด้ของแม่เป็นคนอย่างไร ถ้ารอให้ลูกเจอเองแม่ว่ามันอาจจะไม่ทันเวลา
แต่ถ้าเป็นคนที่รู้จักกันมาบ้างแล้วและปรับตัวเข้ากันอีกสักนิด
แม่เชื่อว่าลูกชายแม่จะต้องมีความสุขมากๆ แน่"
นางหมายถึงผู้หญิงที่ตั้งใจจะจับคู่ให้กับอัลเฟรโด้
ไม่ใช่ใครอื่นลูกสาวของเพื่อนรักที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับบุตรชายมากที่สุด
"ผมรู้ว่าแม่หมายถึงโซเฟีย
แต่ผมกับโซเฟียไม่ได้เจอกันร่วมสิบปี ต่างคนต่างมีชีวิต
เธออาจจะมีคนรักอยู่แล้วก็ได้ ที่สำคัญผมเห็นเธอเป็นน้องเหมือนลอร่าอีกคน"
อัลเฟรโด้พูดตามความจริง
เมื่อนึกถึงคู่หมายที่มารดากำลังจะชักนำให้มาเป็นคู่ชีวิตตามคำนายที่ได้รับมาก่อนหน้า
"ถ้าลูกเห็นโซเฟียอีกครั้ง
ลูกจะต้องเปลี่ยนความรู้สึก เปลี่ยนความคิดใหม่แน่จ้ะอัลเฟรโด้
เพราะโซเฟียไม่ใช่เด็กหญิงตัวน้อยๆ ที่วิ่งเล่นกับลอร่าเหมือนตอนเด็กๆ
อีกต่อไปแล้ว ตอนนี้โซเฟียโตเป็นสาวและสวยมากด้วย"
"แต่ว่าแม่ครับ ผมไม่ได้คิด..."
"แม่บอกคุณพ่อแล้วว่าเรื่องการซื้อสโมสรทีมฟุตบอลที่กำลังประสบปัญหาเรื่องขาดทุนเป็นสิ่งที่ไม่ควรอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะเศรษฐกิจแบบนี้กับกิจการใหม่ที่เราไม่เคยลงทุนมาก่อนด้วยแล้ว
ยิ่งไม่เหมาะสม"
"แม่"
อัลเฟรโด้รู้ตัวแล้วว่ากำลังจะถูกบีบ
คนทั้งบ้านรู้ดีว่าเขาชอบฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ
และมีความใฝ่ฝันที่อยากจะมีสโมสรฟุตบอลเป็นของตนเองสักทีม
ทันทีที่เรียนจบอัลเฟรโด้ได้รับมอบหมายจากบิดาให้ดูแลกิจการด้านการโรงแรมและการท่องเที่ยวของครอบครัว
ซึ่งแน่นอนว่าตลอดหลายปีที่ผ่าน
ผลกำไรที่มากมายมหาศาลจากน้ำพักน้ำแรงของตนเป็นที่ยอมรับของทุกคน
ต้นปีที่ผ่านมาสโมสรฟุตบอลที่อัลเฟรโด้ชื่นชอบประสบปัญหาเรื่องสภาพคล่องทางการเงิน
เขาให้คริสเตียนผู้ช่วยคนสนิทจัดการสืบจนเหลือเพียงแค่การเจรจารอบสุดท้าย
และเมื่อหลายวันก่อนชายหนุ่มเพิ่งปรึกษากับบิดา
เรื่องการลงทุนซื้อทีมฟุตบอลนี้มาบริหารภายใต้ปีกตระกูลรอสเซลลินี
ซึ่งแม้ว่าจะเป็นธุรกิจตัวใหม่แต่ทุกคนก็ลงความเห็นชอบด้วย
เพราะเชื่อมั่นในฝีมือว่าลองถ้าลงมือทำอะไรแล้วย่อมสำเร็จแน่นอน
"อย่าทำแบบนี้ซิครับ
ปกติแม่ไม่เคยบังคับลูกไม่ใช่เหรอ"
อัลเฟรโด้ขยับตัวเข้าไปหากุมมือมารดาขึ้นมาจูบเบาๆ แล้วเอ่ยต่อไปว่า
"มันคนละเรื่องกันนะครับ
นี่มันเป็นธุรกิจที่จะทำรายได้มหาศาลให้เราต่อไปในอนาคต"
"แต่ต้องหลังจากที่ลูกแต่งงานกับโซเฟียแล้วจ้ะ"
มารดายื่นคำขาดด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่จริงจังอย่างเห็นได้ชัด
"แค่ดูแลงานโรงแรมลูกชายของแม่ก็กินนอนไม่เป็นเวลา
ดูซิเนี่ย ซูบลงไปตั้งเยอะ ถ้าขืนซื้อทีมฟุตบอลมาบริหาร มีหวังว่าต่อไปเราสองคนแม่ลูกคงไม่ต้องได้เห็นหน้าค่าตากันแล้วมั้ง
เพราะมัวแต่ไปคิดหาวิธีว่าจะทำอย่างไรให้ไอ้ลูกกลมๆ พวกนั้นมีกำไรกลับมา"
"โธ่ แม่ครับ
มันไม่เป็นอย่างนั้นหรอก ยังไงผมก็รักแม่ คิดถึงแม่เสมอ" ท่านประธานหนุ่มโอดครวญ
"ถ้าอัลรักแม่จริงอย่างที่พูด
ก็ต้องยอมทำตามที่แม่ขอ แต่งงานกับโซเฟียซะ
แล้วเรื่องทีมฟุตบอลอีกกี่สิบทีมแม่จะพูดกับคุณพ่อให้
หรืออยากจะลงทุนทำอะไรอีกก็บอกแม่จะจัดการให้ทุกอย่าง
แต่ต้องหลังจากที่มีการแต่งงานของลูกกับโซเฟียแล้ว"
"เรื่องทีมฟุตบอลกับเรื่องโซเฟียคนละเรื่องกันนะครับ
แม่" ชายหนุ่มถอนหายใจดังๆ ด้วยความอึดอัดเมื่อถูกยื่นคำขาดเช่นนี้
"ใครบอกล่ะ มันเรื่องเดียวกันต่างหาก
ถ้าอัลจะลงทุนงานใหม่ที่ใช้เงินมหาศาลอย่างนั้น ทำไมไม่ให้หนูโซเฟียมาช่วยดูแลล่ะ
งานเยอะแต่มีภรรยามาช่วยดูแลจะได้รู้จักแบ่งเวลาและไม่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ"
นางอนงค์รัตน์ดึงทุกเรื่องให้มาเป็นเรื่องเดียวกันได้หมด
"แต่ว่า..."
อัลเฟรโด้กำลังจะพูดต่อ ก็ถูกนางอนงค์รัตน์ขัดขึ้นว่า
"ไม่มีแต่จ้ะ
การแต่งงานครั้งนี้นอกจากจะช่วยให้เคราะห์ร้ายในคำทำนายหมดไป
หนูโซเฟียจะมาเป็นนางฟ้านำโชคในชีวิตของลูกแม่
จะมาช่วยดูแลสร้างครอบครัวให้อัลของแม่มีความสุขไปตลอดชีวิต เห็นไหม
มีแต่เรื่องดีๆ ทั้งนั้น ถ้าอัลรักแม่จริงอย่างที่พูด
และอยากเห็นแม่มีความสุขล่ะก็ นี่คือเรื่องเดียวที่แม่อยากได้"
มารดายิ้มหวานในขณะที่คนฟังลอบถอนหายใจเบาๆ ด้วยความกลัดกลุ้ม
ไม่มีครั้งไหนที่อัลเฟรโด้อยากจะขัดใจมารดาเท่าครั้งนี้มาก่อน
แต่งงานกับผู้หญิงที่แม่เลือกให้เพื่อแลกกับทีมฟุตบอลที่ตนเองปรารถนา และทำให้ฝันร้ายที่ทำให้อนงค์รัตน์ไม่สบายใจทุกคืนวันหมดไป
ในฐานะลูกสุดที่รักที่รักแม่คนนี้สุดหัวใจ
เขาควรโอนอ่อนตามที่ขอมาและยินดีทำตามโดยเร็วที่สุด
แต่ในฐานะอัลเฟรโด้ รอสเซลลินี
ผู้ชายที่เกลียดการผูกมัดที่สุดในชีวิต เขาควรทำอย่างไรดี
ระหว่างตามใจตัวเองแต่เห็นแม่สุดที่รักเป็นทุกข์ หรือทำๆ ไปตามคำขอให้มันจบ
ด้วยการผูกมัดผู้หญิงที่ไม่ได้รักไว้กับชีวิต เพียงแค่คำว่ารักแม่เท่านั้น
เอาอย่างไหนดีล่ะคะทีนี้
ติดตามกันต่อค่ะ
สำหรับสายอีบุ๊คไม่ต้องรอ
ตอนนี้มีให้โหลดแล้วจ้า
รักษาสุขภาพนะคะ
พี่น้ำเอง
ฝากลิงค์ค่ะ คำสั่งรักมาเฟียร้าย
ความคิดเห็น