คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 7
ชมพูนุชกลับมานั่งทำงานที่โต๊ะด้วยใจที่ไม่เป็นสุข คอยชำเลืองมองไปที่ประตูว่าจะมีใครตามเข้ามาอีกหรือไม่ แต่ดูเหมือนว่าเคราะห์ร้ายของสาวน้อยจะยังไม่หมด เมื่อผู้จัดการฝ่ายบุคคลเรียกเธอเข้าไปพบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“คุณชโยดมมีคำสั่ง ให้คุณนุชขึ้นไปช่วยงานคุณศิวนาถตั้งแต่ตอนนี้เลยค่ะ”
“อะไรนะคะ” ชมพูนุชอุทานเสียงดังด้วยความตกใจ
“คือพี่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นนะคะ แต่คุณศิวนาถจะส่งคนลงมารับคุณนุช และกำชับว่าถ้าไม่ขึ้นมาภายในห้านาทีจะ เอ่อ...”
“จะทำไมคะ”
“จะลงมารับคุณนุชด้วยตัวเองค่ะ พี่ว่าคุณนุชขึ้นไปเถอะนะคะ พี่ไม่อยากมีปัญหา”
คนทั้งบริษัทรู้ดีว่าสองพี่น้องนี้ตั้งใจทำงานและรักกันมาก แต่ทุกคนก็รู้ดีว่านิสัยของทั้งคู่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ชโยดมอบอุ่นและเยือกเย็นกว่า
ในขณะที่ศิวนาถเด็ดขาด ว่องไวและลุยถึงที่สุด สิ่งหนึ่งที่คุณเล็กของทุกคนโดดเด่นก็คือ ความใจร้อนเอาเรื่องที่ไม่มีวันยอมแพ้ใครต่างหากที่ทุกคนกลัว
ศิวนาถไม่ดุด่าหรือลงโทษอย่างคนเอาแต่ใจ เพียงแต่คำถามที่ต้องหาเหตุผลมาดีๆ มาตอบ เพื่อให้ได้รับความกระจ่าง นี่ต่างหากคือเรื่องยากสำหรับทุกคน เพราะพ่อเจ้าประคุณไล่บี้เอาคำตอบที่กระจ่างชัดเจนถึงที่สุด
หากใครคิดแย้งหรือมีความเห็นต่าง ศิวนาถหรือชโยดมพร้อมรับฟัง ทว่ามันต้องมีคำอธิบายที่เรียกว่าขั้นเทพเถียงไม่ออกหรือไร้ความผิดพลาด ไม่เช่นนั้นแล้วอย่างหวังว่าจะผ่านไปได้ง่ายๆ
สำหรับสาวน้อยหน้าหวานนี้ ทุกคนในฝ่ายบุคคลรู้ดีว่าเป็นเด็กเส้นของคุณหญิงประภา และน่าจะเป็นเส้นพิเศษที่ไม่มีใครกล้ายุ่งด้วย
สำหรับวันนี้การที่ศิวนาถต้องการตัวเธอ และระบุมาชัดเจนว่าถ้าไม่ขึ้นมาเองโดยเร็ว เขาจะลงมารับนั้น ไม่มีคำถามจากทุกคนในฝ่ายบุคคลว่าเพราะอะไร นอกจากรีบให้ชมพูนุชไปให้เร็วที่สุด เพื่อจะได้ไม่ต้องเจอกับพายุร้ายของคุณเล็กนั่นเอง
“นุชต้องขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้ทุกคนตกใจ เดี๋ยวนุชจัดการเรื่องนี้เองค่ะ” ชมพูนุชพนมมือไหว้ขอโทษผู้จัดการฝ่ายบุคคลแล้วรีบลุกขึ้นเดินออกมาทันที
ชมพูนุชอยากจะบ้าตาย ศิวนาถอาละวาดไม่หยุดและพลอยทำให้คนอื่นเดือดร้อน เขาต้องการอะไรจากเธอกันแน่ ไม่เข้าใจจริงๆ สาวน้อยเก็บของที่โต๊ะให้เร็วที่สุด
เริ่มรู้สึกอึดอัดกับสิ่งที่เกิดขึ้น นึกเสียใจว่าไม่น่ายอมทำตามที่ชโยดมขอร้องเลย น่าจะเห็นแก่ความรู้สึกของตนเองมากกว่า คือไปจากที่นี่ซะ จะได้ไม่ต้องเจออะไรบ้าๆ เช่นนี้อีก
ชมพูนุชรู้สึกว่าตนเองเหมือนนักโทษอย่างไรอย่างนั้น เพราะคนของศิวนาถเดินขนาบข้างซ้ายขวาไม่ให้กระดิกไปทางไหน เมื่อมาถึงก็ส่งเธอเข้าห้องเจ้านายที่นั่งหน้าบึ้งรออยู่ก่อนแล้ว
“ทำบ้าอะไรของคุณ รู้ไหมว่าคนอื่นต้องวุ่นวายกันไปหมด” ชมพูนุชต่อว่าเขาก่อน ด้วยสีหน้าที่แสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจน
“แล้วเธอวิ่งหนีฉันทำไม” ชายหนุ่มย้อนถามลุกขึ้นเดินมาหา
“มีธุระอะไรกับฉันอีก”
“ฉันอยากจะถามเรื่องเมื่อวานนี้”
ความจริงแล้วเขาแค่ต้องการอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชมพูนุชเมื่อวานนี้กันแน่ เพราะเมื่อคิดทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นก็ชวนให้มีจุดสงสัยหลายอย่าง
อีกทั้งถ้าได้สาเหตุที่ทำให้หญิงสาวเปลี่ยนไปจนเกิดเรื่อง ก็อาจจะเป็นการป้องกันภัยร้าย ที่อาจจะเกิดขึ้นในครั้งต่อไปกับพนักงานหรือใครคนหนึ่งคนใดก็ได้
“เธอไปทำอีท่าไหน ถึงได้โดนดีเข้าให้”
“คุณศิวนาถ” ชมพูนุชโกรธจัดตะโกนเรียกชื่อเขาเสียงดังลั่น
“ทำไมต้องโมโหด้วย ฉันถามเพราะอยากรู้ว่าสาเหตุมาจากอะไร ถ้าไม่ได้มาจากเธอทำตัวเอง ต่อไปฉันจะได้เตือนพนักงานให้ระวังตัวไว้ ก็เท่านั้น”
“ฉันไม่รู้”
“ถ้างั้นก็แสดงว่ารนหาที่เอง บอกมาหมายตาคนไหนไว้ แล้วมันทำอะไรกับเธอ”
“ฉันไม่ได้หมายตาใครทั้งนั้น แล้วฉันก็ไม่รู้ด้วยว่ามันเกิดอะไรขึ้น คุณไม่ต้องมาถามฉันเรื่องนี้อีก” ชมพูนุชไม่อยากจะคิดถึงมันอีกแล้ว
เรื่องเมื่อคืนเป็นความไม่รู้ของเธอเอง ชมพูนุชไม่โทษใครทั้งนั้น เพียงแต่ไม่อยากจะพูดหรือนึกถึงมันอีก โดยเฉพาะคนที่ร่วมในชะตากรรมนี้ ยิ่งไม่ต้องการพบหรือเจอหน้าเลยด้วยซ้ำ อย่างอยู่ในความทรงจำที่ไม่ยอมลบเลือน
“ตกลงไม่อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นใช่ไหม”
ศิวนาถย้อนกลับไปที่ร้านอาหารแห่งนั้นอีกครั้ง และเรียกเจ้าของร้านมาพบ เพื่อขอดูกล้องวงจรปิดในร้านในช่วงเวลาที่มีงานเลี้ยง
ภาพจากกล้องตัวหนึ่งทำให้เขารู้ว่าลูกค้าหน้าใหม่ที่มากลับกลุ่มลูกค้าเก่า สั่งน้ำพันช์สีสวยให้ชมพูนุชเสียดายที่ไม่สามารถมองเห็นชัดเจนว่าหมอนั่นใส่อะไรลงไปในแก้ว ก่อนจะนำมาให้หญิงสาวดื่ม และที่ทำให้แน่ใจก็คือเมื่อชมพูนุชดื่มไปแล้วและขอตัวกลับ หมอนั่นคือคนที่เดินตามออกไปจนศิวนาถมาเจอนั่นเอง
ถือเป็นความโชคร้ายของชมพูนุชก็ว่าได้ ซึ่งเรื่องนี้ศิวนาถเห็นใจและถ้าทำได้ก็อยากจัดการไอ้คนที่คิดร้ายคนนั้นด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่เขาต้องคิดต่อก็คือ
เรื่องที่มารดาหมายปองให้พี่ชายแต่งงานกับผู้หญิงที่เพิ่งเปลี่ยนสภาพ กลายเป็นผู้หญิงของศิวนาถเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ปัญหานี้ต่างหากจะจัดการอย่างไรดี
“แล้วเธอจะจัดการกับชีวิตตัวเองยังไงต่อไป จะทำตามข้อตกลงเดิมของคุณแม่ หรือมีทางออกอื่น”
“ชีวิตฉัน ฉันจัดการเองได้ คุณไม่ต้องมายุ่งและอยู่ห่างๆ ฉันไว้จะขอบคุณมาก”
ชมพูนุชไม่ตอบอะไรทั้งนั้น คว้ากระเป๋าที่วางอยู่บนโซฟามาถือหันหลังจะเดินออกไป แต่ศิวนาถไม่ยอมกระชากตัวเธอให้หันกลับมา กระเป๋าหลุดจากข้อมือหญิงสาว เอกสารในนั้นร่วงหล่นหนึ่งอันที่สะดุดสายตาชายหนุ่มก็คือ สมุดบัญชีเงินฝาก
“นี่อะไร” ชายหนุ่มคว้าสมุดเล่มเล็กที่หล่นอยู่บนพื้นขึ้นมาเปิดดู
“เอาของฉันคืนมานะ” ชมพูนุชเข้ามาแย่ง แต่ช้าไปเสียแล้วเมื่อศิวนาถเปิดดูหน้าสุดท้ายที่มียอดเงินในบัญชีทั้งหมด
“เงินห้าล้านนี้มาจากไหน”
ศิวนาถไม่อยากจะคิดในทางร้ายว่าเงินจำนวนนี้มาจากคนในครอบครัวของตัวเองอีกหรือไม่ หรือว่าเจ้าเพื่อนรักหน้าโง่ที่เงียบหาเข้ากลีบเมฆไปอย่างจรัญหาประเคนมาให้ หรือว่าเจ้าหล่อนใช้วิธีสกปรกในแบบฉบับที่ตัวเองถนัดหามา
“ฉันถามว่าเงินก้อนนี้มาจากไหน”
“เอาสมุดบัญชีฉันคืนมานะ คุณไม่มีสิทธิ์มายุ่งกับเรื่องส่วนตัวของฉัน” ชมพูนุชไม่ตอบแต่ยื้อแย่งจะเอาสมุดคืนมาให้ได้
คำว่าไม่มีสิทธิ์มายุ่งเรื่องส่วนตัว กับยอดเงินจำนวนห้าล้านในสมุดบัญชีปลุกไฟโทสะของศิวนาถให้ลุกขึ้นโชนได้อย่างรวดเร็ว
เขาหรือไม่มีสิทธิ์
ถ้าเป็นสิทธิ์โดยชอบตามกฎหมายแน่นอนว่าไม่มี
แต่ถ้าสิทธิ์ในฐานะที่ครอบครองเจ้าหล่อน หรือที่ภาษาชาวบ้านเรียกว่าสามีนั้น ชมพูนุชต้องตอบคำถามเรื่องนี้
“ฉันขอถามอีกครั้งว่าเงินห้าล้านก้อนนี้มาจากไหน” ชายหนุ่มไม่ยอมคืนสมุดบัญชี และหันมาคาดคั้นหาคำตอบที่ต้องการ
“มันอยู่ในบัญชีชื่อฉัน ก็ต้องเป็นของฉันซิ”
“แล้วที่มาของเงินมาจากไหน พูดง่ายๆ เธอทำอย่างไรถึงมีเงินห้าล้านในบัญชี”
“มันเรื่องของฉัน เอาคืนมานะ เลิกยุ่งกับฉันเสียที” หญิงสาวไม่ตอบ นาทีนี้ชมพูนุชต้องการสมุดบัญชีคืนและไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดเท่านั้น
“บอกฉันมา ถ้าบอกแล้วจะคืนให้”
“ฉันขอสมุดบัญชีของฉันคืนค่ะ คุณศิวนาถ” ชมพูนุชเอ่ยชื่อเขาเต็มยศ
“ไม่ให้” ศิวนาถตอบชัดถ้อยชัดคำ
ชมพูนุชสุดจะทนกับความเอาแต่ใจของเขา เรื่องสมุดบัญชีไม่คืนก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวเธอจะไปจัดการดำเนินตามกฎหมายทำสมุดใหม่ก็ได้
สาวน้อยคว้ากระเป๋าขึ้นมาอย่างไม่ไยดีคนที่จ้องมองอยู่ ร่างเล็กหันหลังก้าวขาเดินออกไปถึงประตู ยังไม่ทันจะเอื้อมมือคว้าลูกบิด เจ้าของห้องก็จัดการล็อกประตูด้วยมือตัวเอง แล้วกระชากตัวเธอให้เข้ามาหา
“ปล่อยนะ” ชมพูนุชพยายามจะดิ้นให้หลุดจากอ้อมแขนที่โอบรัด
“ทำมาดีดดิ้น ทีเมื่อคืนไม่เห็นพูดว่าปล่อย มีแต่ร้องให้ฉันเข้าไปหาใกล้ๆ ยิ่งใกล้ก็ยิ่งดีไงล่ะ” ศิวนาถไม่พูดเปล่า ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ จงใจเฉียดแก้มสาวที่แสนหอมเสียด้วย
“คนเลว” หญิงสาวเค้นไรฟันต่อว่า
ดวงตาคู่สวยมีน้ำใสคลอเต็มสองเบ้า คิดถึงเรื่องนี้ทีไรหัวใจมีแต่ความเจ็บช้ำ ยิ่งเห็นใบหน้าคมมีรอยยิ้มที่บ่งบอกถึงความยินดีด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ชมพูนุชช้ำในอกมากขึ้นไปอีก
“ปล่อยนะ”
“ไม่ปล่อยจะทำไม” ศิวนาถรั้งร่างเล็กเข้ามาแนบตัวมากขึ้น
ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ยิ่งชมพูนุชโมโหศิวนาถก็ยิ่งกอดรัดมากขึ้น
คนหนึ่งดันออกอีกคนดันเข้า ต่างฝ่ายต่างใช้กำลังห่ำหั่นกัน
แต่สุดท้าย ... คนที่มีกำลังน้อยกว่าก็ถูกโอบแนบไปกับเรือนกายแกร่งจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน
ศิวนาถพยายามข่มความต้องการในหัวใจตัวเองไว้ ให้ตายซิ เจ้าหล่อนมีมนต์คาถาหรือลงเวทมนตร์อันใดไว้ที่เรือนร่างนี้
ถึงได้ทำให้เขาแทบอยู่ไม่เป็นสุข โหยหาอยากสัมผัส ปรารถนาลึกๆ ในหัวใจอยู่ตลอดเวลา จนทำให้ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ชมพูนุชมาอยู่กันเพียงลำพัง
ชมพูนุชยอมรับว่าอ้อมกอดที่โอบล้อมตัวเธอในเวลานี้ คืออ้อมกอดแรกและอ้อมกอดเดียวที่เกิดขึ้นในชีวิตสาว ศิวนาถคือผู้ชายคนแรกที่ก้าวล่วงทุกสิ่ง เธอเป็นของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย เพียงแต่...
มันเป็นแค่อุบัติเหตุในชีวิต มันไม่ได้มีเยื่อใยใดๆ นอกจากแรงราคะในธรรมชาติมนุษย์ มันไม่มีจุดเริ่มต้นแต่มีจุดจบที่สมควรแล้วอย่างที่สุด
ชมพูนุชไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นซ้ำสอง หรือมีครั้งต่อๆ ไปเป็นแน่ เธอต้องหาทางให้ตัวเองหลุดให้พ้นจากวังวนตรงนี้ จากเขา จากผู้ชายที่ไม่มีวันลืมไปจากหัวใจ
“ปล่อย” ชมพูนุชพยายามดันตัวออกห่าง
ใบหน้าคมก้มลงมาสบตาสาวน้อย ก่อนที่ศิวนาถจะเคลื่อนริมฝีปากของตนลงมาที่หน้าผากนวล ไล่เรื่อยลงมาจนถึงแก้มอิ่ม และหมายตรงลงมาที่เรียวปากที่เคล้าเคลียมาตลอดทั้งคืน
“ยะ...”
ไม่ทันเสียแล้ว ชมพูนุชห้ามไม่ทันเสียแล้ว ศิวนาถเคลื่อนริมฝีปากของตนมาแนบกับเรียวปากสวยที่เผยอเปิดปากห้าม ซ้ำยังรุกรานอย่างรวดเร็วราวกับคนที่หิวโหยมาอย่างยาวนาน
ปลายลิ้นที่ร้อนแรงรุกไล่โรมรันอย่างมีจังหวะ ทุกการเคลื่อนไหวแสดงชัดเจนว่ามีความเร่าร้อนมากแค่ไหน ศิวนาถไม่เคยปรารถนาใครเท่านี้มาก่อน เขาบดขยี้ริมฝีปากนั้นด้วยความรุนแรงคล้ายกับจะลงโทษให้รู้ว่าขัดใจมากเพียงไร
ไม่เพียงแค่จูบที่บดขยี้ให้ชมพูนุชแทบละลายเท่านั้น มือไม้ที่โอบรัดแน่นข้างหนึ่งก็รั้งร่างเล็กให้แนบชิดมากขึ้นอีก ข้างหนึ่งก็ลูบไล้เรือนร่างเนียนที่ไม่เคยลืมเลือน ปลุกเร้าความเร่าร้อนแห่งเพลิงเสน่หาให้ลุกขึ้นท่วมกันอีกครั้ง
ชมพูนุชไม่มีโอกาสปฏิเสธและปัดป้องสัมผัสที่เขามอบให้ เวลานี้เธอทำได้แค่พยุงตนเองเพื่อครองสติไว้ก็ยากเต็มที่ เมื่อการรุกรานที่มาพร้อมการปลุกเร้าเพลิงเสน่หา กระตุ้นให้ร่างกายนี้ตอบสนองในทันทีด้วยความยินดี และความหวานหอมจากเพลิงเสน่หานี้ปลดสติที่พยายามมีให้หมดสิ้นไปแทบไม่มีเหลือ
ริมฝีปากของศิวนาถคืนให้ชมพูนุช แต่ไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น เมื่อเขาโน้มใบหน้าลงมาที่ซอกคอหอม และแสนจะขัดใจเมื่อเจ้าหล่อนสวมใส่เสื้อผ้าที่ปกปิดเนื้อเนียนที่ตนปรารถนา
“หยุดนะ” เสียงเล็กร้องห้ามแหบพร่า
ชมพูนุชพยายามดันตัวเองออกให้เร็วที่สุด เสียงหัวใจเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ ร่างน้อยฉวยโอกาสตอนที่เขาพยายามจะรุกรานต่อผลักตัวเองออกห่าง หันหลังยืนสงบสติอารมณ์เรียกความเป็นตัวเองคืนกลับมา
“เธอจะทำอย่างไรต่อไป” เสียงศิวนาถดังขึ้นทำลายความเงียบในห้อง
เมื่อคืนสติกลับมาเป็นตัวเอง ศิวนาถก็รีบถามเรื่องที่ต้องการอยากรู้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้เปลี่ยนสถานการณ์ทุกอย่างโดยสิ้นเชิง
เขาอยากรู้ว่าชมพูนุชยังยืนยันที่จะแต่งงานกับชโยดมเหมือนเดิมหรือเปล่า ในเมื่อสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้บ่งบอกชัดเจนว่าเธอเป็นของใคร
“ยังจะแต่งงานกับพี่ใหญ่ตามที่คุณแม่ต้องการหรือเปล่า”
ชมพูนุชยืนนิ่งไม่ตอบคำถามของเขา แต่มีคำตอบกับตัวเองแล้วว่า เธอไม่อาจทนเห็นหน้าผู้ชายที่ชื่อศิวนาถได้ตลอดชีวิต ไม่ว่าในฐานะใดก็แล้วแต่ และไม่ปรารถนาที่จะทำตามความต้องการของคุณหญิงประภามาตั้งแต่ต้น เพียงแต่...
ชมพูนุชไม่ต้องการบอกเรื่องนี้ให้ศิวนาถรู้ เพราะตั้งใจแล้วว่าทุกก้าวต่อจากนี้ไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เธอจะจัดการมันด้วยตัวเองเพียงคนเดียวเท่านั้น และเขาจะต้องไปให้พ้นจากชีวิตของเธอโดยเร็วที่สุด
“ฉันถามทำไมไม่พูด” น้ำเสียงคนถามเริ่มจะไม่พอใจอีกครา
ศิวนาถไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมชมพูนุชชอบทำอะไรให้ขวางหูขวางตาเขาเสียทุกสิ่ง
นาทีนี้เจ้าหล่อนควรจะหันหน้ามาขอความเห็นใจหรือขอความช่วยเหลือ จากเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ ไม่ใช่เอาแต่หนีหรือทำให้โมโหอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้
“ชมพูนุช ฉันถามว่าเธอจะเอาไงกับเรื่องครอบครัวฉัน” ศิวนาถทนไม่ไหว กระชากคนที่ยืนหันหลังให้หันมาพูดกันให้รู้เรื่อง
“เลิกยุ่งกับชีวิตฉัน ฉันทำอย่างไรมันก็เรื่องของฉัน”
“คิดว่าอยากจะยุ่งมากหรือไง ถ้าไม่เพราะเมื่อคืนนี้ฉันคงไม่...”
“มันไม่มีอะไรเกิดขึ้น คุณไม่ต้องห่วงและไม่ต้องถาม เราต่างคนต่างอยู่ดีที่สุด” ใบหน้าหวานเชิดขึ้น
ชมพูนุชเข้าใจแล้วว่า ทำไมศิวนาถถึงได้ลากตัวเธอมาที่นี่ คงเพราะเรื่องนี้นี่เอง เขาคงอยากรู้ว่าเธอจะเรียกร้องสิ่งใดหรือไม่
เข้าใจผิดแล้ว ชมพูนุชไม่มีวันเรียกร้องขอความเห็นใจใดๆ จากเขาสักนิดเลย ไม่ว่าวันนี้หรือวันไหนก็ตามแต่ จะไม่มีวันที่ศิวนาถจะมาเกี่ยวข้องด้วยอีกเป็นอันขาด
หัวใจศิวนาถหล่นวูบอย่างไม่มีสาเหตุ เมื่อได้ยินคำว่า เราต่างคนต่างอยู่ดีที่สุด ความจริงแล้วมันควรเป็นเช่นนั้น เพราะระหว่างเขาและชมพูนุชไม่ควรมีอะไรที่ต้องเกี่ยวข้องกันอีก
เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความโชคร้ายของเจ้าหล่อน แต่ดันดึงคนอื่นเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยต่างหาก สำนึกผิดชอบชั่วดีในใจของคำว่าพี่น้อง ทำให้ศิวนาถไม่อาจบอกตัวเองให้ต่างคนต่างอยู่ได้
ถ้าชมพูนุชยืนกรานว่าจะก้าวเข้ามาเป็นพี่สะใภ้ของบ้านประวันวิทย์ แต่งงานกับชโยดมตามความต้องการของคุณหญิงประภา ด้วยเงื่อนไขเงินสิบล้านที่ครอบครัวจ่ายไปแล้วนั้น เขาต้องขัดขวางให้ถึงที่สุดและไม่มีวันยอมให้มันเกิดขึ้นแน่ๆ
ศิวนาถไม่ต้องการให้พี่ชายแสนดีถูกผู้หญิงใจร้ายคนหนึ่งหลอก และถ้าโชคร้ายไปกว่านั้นก็คือ เกิดเจ้าหล่อนท้องมีเด็กติดไปเพราะเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ล่ะก็
ศิวนาถไม่ยอมให้เกิดขึ้นแน่ ลูกของเขาจะเรียกพี่ชายตนว่าพ่อ และมีแม่ที่มีสามีสองคนซ้ำเป็นพี่น้องท้องเดียวกันด้วย
ไม่มีวัน ไม่มีวันเกิดขึ้นเด็ดขาด…
“ถ้าเธอต้องการอย่างนั้นฉันก็ยินดี เพราะเรื่องเมื่อคืนนี้ฉันไม่ใช่คนเริ่มก่อน เป็นเธอต่างหากที่ทำให้มันเกิดขึ้นแล้วลากฉันเข้าไปรับชะตากรรมด้วย” ศิวนาถเอ่ยเสมือนคนไร้เยื่อใยใดๆ ชมพูนุชฟังแล้วยิ่งช้ำ น้ำตารื้นขึ้นมาอีกคราแต่ก็ฝืนพูดต่อไปด้วยความทระนงว่า
“ฉันรับรองว่าคุณจะไม่มีปัญหาเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นแน่ พอใจหรือยังคะ ฉันไปได้แล้วใช่ไหม” สักนาทีเธอก็ไม่อยากเห็นหน้าเขา
อย่างน้อยชมพูนุชก็รู้สึกดีที่ไม่ต้องการความรับผิดชอบใดๆ จากผู้ชายที่ผ่านค่ำคืนเร่าร้อนมาด้วยกัน ศิวนาถและเธอจะเป็นเส้นขนานที่ไม่มีวันบรรจบไปตลอดชีวิต
เขาจะไม่ได้เห็นหน้าเธออีก และเธอก็จะไม่มีวันคิดถึงเขาเช่นกัน
“เดี๋ยวก่อน” ชายหนุ่มร้องเรียกเธอไว้
ศิวนาถหยิบสมุดบัญชีที่ยึดมาจากชมพูนุชแล้วเดินกลับไปที่โต๊ะทำงาน เปิดลิ้นชักหยิบของบางอย่างขึ้นมาแล้วลงมือเขียนก่อนจะนำทั้งสองสิ่งมามอบให้
“สมุดบัญชีของเธอ แล้วนี่เช็คเงินสดสิบล้าน”
ร่างเล็กชาวาบไปทั่วทั้งร่าง ใบหน้าหวานแดงก่ำด้วยความโมโห สมุดบัญชีที่เป็นชื่อของตนเองคือสิ่งที่ชมพูนุชหยิบกลับคืนมา แต่เช็คเงินสดที่ศิวนาถยื่นให้คือสิ่งที่เธอไม่ไยดี
“ทำไมไม่รับเช็ค” เขาถามเสียงกระด้าง เมื่อเห็นชมพูนุชรับคืนไปแค่สมุดบัญชีเท่านั้น
“อย่าหยิ่งนักเลย ฉันรู้ว่าเธอจำเป็นต้องใช้มัน”
“เงินสิบล้านที่พ่อกับแม่ให้เธอไปก่อนหน้า คงจะพอแลกกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ แม้มันจะผิดฝาผิดตัวไม่ใช่พี่ใหญ่ แต่บังเอิญมาเป็นฉันก็คงคุ้มกันแล้ว ส่วนเงินสิบล้านที่ให้วันนี้คือค่าจ้างให้เธอไปจากพวกเราทุกคนซะ โดยเฉพาะพี่ใหญ่ อย่าเอาตัวสกปรกของเธอมายุ่งเกี่ยวกับคนดีๆ อย่างพี่ชายฉัน”
ไม่มีครั้งไหนในชีวิตที่ชมพูนุชจะอ่อนแอเท่าตอนนี้มาก่อน เขารู้เรื่องเงินสิบล้าน ที่เป็นเหตุผลของการก้าวเข้ามาสู่ครอบครัวประวันวิทย์ และใช้มันแลกกับชีวิตที่ตกนรกทั้งชีวิตของเธอหน้าตาเฉย
เท่านั้นยังไม่พอ ยังใช้เงินจำนวนมหาศาลฟาดหัวให้เดินออกมาอีกด้วย นี่ ชมพูนุชยังมีค่าความเป็นคนหลงเหลือให้ภูมิใจอีกหรือไม่
“รับไปซิ ถือว่าเป็นกำไรก็ได้”
ค่าความเป็นคนที่ถูกตีค่าเป็นเงินกลายเป็นกระดาษชิ้นเล็กชิ้นน้อยต่อหน้าคนให้ ชมพูนุชฉีกเช็คใบนั้นต่อหน้าศิวนาถอย่างไร้ความเสียดาย สาวน้อยพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลไม่แสดงความเศร้าเสียใจอ่อนแอออกมาให้เห็น
“ฉันไม่ต้องการกำไรหรือขาดทุนอะไรทั้งนั้น ขอแค่ต่อไปนี้เราไม่ ต้องเจอกันตลอดชาติ”
ชมพูนุชเขวี้ยงเศษกระดาษเหล่านั้นใส่เจ้าของ แล้วหันหลังวิ่งออกไปทันที ทิ้งให้ศิวนาถยืนอึ้งพูดไม่ออกอยู่ตรงนั้น
|
|
|
ความคิดเห็น