คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 5
ชมพูนุชทำสำเร็จและถือเป็นข่าวดีสำหรับชโยดมไม่น้อย เมื่อเธอสามารถเจรจากับคุณหญิงประภาและเจ้าสัวบรรพต ถึงเรื่องการแต่งงานที่ขอให้เลื่อนออกไปอีกสักสามเดือน โดยใช้ข้ออ้างเรื่องการทำความรู้จักให้มากขึ้นกว่านี้
‘นุชอยากมีเวลามากกว่านี้ค่ะ อีกอย่างโปรเจคใหญ่ที่บริษัทกำลังจะขึ้น นุชอยากช่วยคุณใหญ่ให้เต็มที่ก่อน เสร็จงานแล้วค่อยว่ากันดีกว่า’
เมื่อจัดการทางผู้ใหญ่เสร็จเรียบร้อย ชโยดมกับชมพูนุชก็วางแผนว่าจะทำอย่างไรให้ญาดาเข้าใจความจริง และช่วยกันคิดหาทางว่าจะบอกคุณหญิงประภาและเจ้าสัวบรรพตเรื่องนี้อย่างไรจึงจะดูดีที่สุด
เช้าวันรุ่งขึ้นชโยดมมาทำงานตามปกติ ชมพูนุชไม่กลับไปที่ห้องของศิวนาถอีกเลยและนำงานส่วนตัวที่เคยขออนุญาตมานั่งทำในห้องทำงาน เป็นการฆ่าเวลาไปพลางๆ อีกด้วย
“ญาดาไม่มาทำงาน โทรศัพท์ไปก็ไม่รับสาย” น้ำเสียงและท่าทีของชโยดมดูร้อนใจอย่างเห็นได้ชัด
“อีกสักพักคงจะมามั้งคะ คุณญาดาบอกว่าวันนี้จะมาเก็บของที่เหลือไม่ใช่เหรอ อาจจะมาสายๆ ก็ได้” ชมพูนุชปลอบ
“แต่ปกติไม่เคยปิดมือถือ” ชโยดมถอนหายใจออกมาดังๆ ด้วยความกังวล ถ้าไม่ติดว่าวันนี้เขามีหน้าที่สำคัญที่จะต้องดูแลลูกค้าแล้วล่ะก็ รับรองได้ว่าต้องไปหาถึงที่แล้ว
“หรือว่าคุณใหญจะไปที่บ้านเธอคะ” ว่าไปชมพูนุชเองก็ห่วงญาดาไม่น้อย จากสีหน้าท่าทางเมื่อวานก็บอกให้รู้ว่าระทมทุกข์มากแค่ไหน
“ผมติดรับรองลูกค้าตั้งแต่บ่าย ถ้าวันนี้ไม่มีอะไรผมไปแน่ครับ” ชายหนุ่มพูดพลางกดเบอร์โทรศัพท์ไปหาปลายสาย ที่ยังติดต่อไม่ได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ชมพูนุชไม่รู้ว่าจะช่วยอย่างไรดีจึงได้แต่ให้กำลังใจ
ศิวนาถไม่เห็นชมพูนุชตั้งแต่เช้า เข้าใจว่าเจ้าหล่อนคงล่าถอยไปเรียบร้อยแล้ว เพราะกริยาจาบจ้วงที่กระทำเมื่อวาน แต่เอาเข้าจริงกลับได้ยินพนักงานซุบซิบกันว่า วันนี้ญาดาไม่มาทำงานและในห้องของท่านประธานมีสาวน้อยหน้าหวานคนเดิมอยู่ในนั้น
ศิวนาถเดินไปดูให้เห็นกับตาว่าสิ่งที่พนักงานซุบซิบกันเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ญาดาไม่อยู่ที่โต๊ะหน้าห้อ หน้าจอคอมพิวเตอร์ปิดสนิทเป็นไปได้ว่าเลขาคนสวยไม่ได้มาทำงานในวันนี้ ดังนั้นจึงเดินเข้าไปในห้องและก็พบว่าชมพูนุชนั่งอยู่ในห้องของชโยดมจริงๆ
“นายเล็ก” เจ้าของห้องเงยหน้าขึ้นมาเห็นน้องชายคนเล็กยืนอยู่ สีหน้าของคนที่กำลังเดินเข้ามาเคร่งขรึมเล็กน้อย
“ญาดาไปไหน วันนี้ลาเหรอครับ” ศิวนาถแกล้งถามถึงเลขาหน้าห้องคนเก่งของพี่ชาย
แต่สายตาชำเลืองมองสาวน้อยหน้าหวาน ที่กำลังก้มหน้าก้มตาอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ โดยไม่สนใจเขาเลยแม้แต่น้อย
“น่าจะอย่างนั้น นายมีธุระอะไรหรือเปล่า”
“เดี๋ยวนี้จะมาห้องนี้ต้องมีธุระด้วยเหรอครับ หรือว่าพี่ใหญ่ต้องการความเป็นส่วนตัว”
คนพูดปรายตามองไปที่ใครอีกคนซึ่งนั่งก้มหน้าก้มตาทำทีว่าไม่สนใจตนแม้แต่น้อย ท่าทีเช่นนี้ยิ่งทำให้ศิวนาถเดือดดาลมากขึ้น แต่ก็ต้องเก็บอารมณ์ไว้ไม่แสดงพิรุธออกมา
“พูดบ้าอะไรของนาย อ้อ เย็นนี้ไปด้วยกันหรือเปล่า”
“ไปไหนครับ” น้องชายตัวดีทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามพี่ชายสุดที่รัก และชำเลืองมองไปที่สาวน้อยในห้องเป็นระยะ
“กินข้าวกับลูกค้าไง นายไปแทนพี่ได้ไหม พี่มีธุระต้องไปจัดการ” ชโยดมไม่มีอารมณ์อยากไป หัวใจเขาคิดถึงและอยากจะไปหาญาดาใจจะขาด
“ผมมีประชุมตอนห้าโมงเย็น เสร็จแล้วจะรีบตามไปแล้วกัน ว่าแต่ที่ไหนครับ” ชโยดมบอกสถานที่และเวลาให้น้องชายรู้ พร้อมกำชับว่าให้รีบตามไปให้เร็วที่สุด เพราะว่าตนเองมีธุระสำคัญต่อจากนั้น
“แล้วมีใครไปบ้าง”
“ก็มีพี่ มีนาย ทีมที่จัดงานแล้วก็คุณนุชอีกคน”
“มีพี่มีผมแล้วก็พนักงานที่เกี่ยวข้องไปก็พอแล้ว คนอื่นจะพ่วงไปทำไมให้เกะกะ ค่าหัวในการเลี้ยงอาหารที่นั่นไม่ใช่ถูกๆ นะครับ สิ้นเปลืองโดยจำเป็นเปล่าๆ เพราะว่าไม่ได้ทำอะไรให้เกิดประโยชน์ หรือว่าจะต้องไปเพื่อป่าวประกาศให้โลกรู้ว่าตัวเองคือใคร” ศิวนาถตั้งใจกระแทกสาวน้อยที่ไม่สนใจเขา หวังให้ชมพูนุชลุกขึ้นมาต่อกรกลับบ้าง
แต่เปล่าเลย
หญิงสาวยังคงนิ่งเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มีเพียงชโยดมเท่านั้นที่รู้สึกได้ว่าวันนี้น้องชายดูแปลกไป
“พูดอะไรของนาย”
“ไม่เข้าใจน่ะดีแล้วครับ เพราะถ้าเข้าใจและคิดตามพี่ใหญ่อาจจะย้อนถามก็ได้ว่า คนประเภทนี้มีในโลกด้วยเหรอ” สายตาศิวนาถจ้องไปที่หญิงสาว จังหวะนั้นชมพูนุชเงยหน้าขึ้นจากจอคอมพิวเตอร์ จึงประสานสายตาที่จ้องมองอยู่ก่อนแล้วพอดี
“คนประเภทที่ไม่รู้จักบาปบุญคุณโทษ ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำน่ารังเกียจแค่ไหนในสายตาคนอื่น พวกที่ชอบสบายแล้วใช้การหลอกล่อคนอื่นเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการไปวันๆ พวกสวะ ไร้ค่า น่ารังเกียจ”
ชมพูนุชสะอึกกับคำพูดและแววตาของศิวนาถ ที่เผยออกมาอย่างชัดเจนแจ่มแจ้งว่าหมายถึงใคร
เธอพยายามสะกดอารมณ์ไม่ให้ตอบโต้ หรือแม้แต่จะเอ่ยคำใดๆ ออกมา ปล่อยให้เขาฟาดงวงฟาดงาด่าว่าตามอำเภอใจ เพราะคิดแล้วว่าต่อให้พูดหรืออธิบายเหตุผลเรื่องเงินสิบล้านก้อนนั้น ชายหนุ่มก็คงไม่เข้าใจอยู่ดี
สู้หาทางหาเงินก้อนนั้นมาคืนให้เร็วที่สุด และไปให้พ้นจากเรื่องบ้าๆ นี้เสียที มันคงจะดีกว่าการพยายามอธิบายความจริงกับคนที่ไม่เคยเข้าใจคนอื่น
“นายว่าใคร อารมณ์เสียมาจากที่ไหน ถ้าไม่มีอะไรแล้วพี่ทำงานก่อน แล้วเย็นนี้อย่าลืมตามไปให้เร็วด้วยล่ะ” ชโยดมกำชับแล้วก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ
ชมพูนุชรู้ดีว่าสายตาพิฆาตคู่นั้นยังจับจ้องมองอยู่ไม่วางตา แต่สิ่งเดียวที่ทำได้และดีที่สุดคือการก้มหน้าทำงานอีกคนโดยไม่พูดอะไรออกมา
และมันก็ได้ผล เมื่อฝีเท้าของใครบางคนเดินออกจากห้องไปด้วยท่าทีเหมือนโกรธใครมาร้อยปีอย่างไรอย่างนั้น
สิ้นเสียงปิดประตูดังปัง เธอจึงค่อยเงยหน้าขึ้นมองอย่างโล่งอก บอกกับตัวเองว่าถ้าเป็นไปได้อยู่ให้ไกลจากศิวนาถเป็นดีที่สุด
งานเลี้ยงคืนนี้ชโยดมแทบไม่มีกะจิตกะใจจะไปสักเท่าไร ญาดาเงียบหายไปตลอดทั้งวันไม่สามารถติดต่อได้ เพราะหน้าที่และความรับผิดชอบทำให้ต้องฝืนใจไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ ชมพูนุชเข้าใจความรู้สึกของชายหนุ่มเป็นอย่างดี
“คุณใหญ่ปลีกตัวไปเลยก็ได้ค่ะ” ชมพูนุชกระซิบเมื่องานเลี้ยงเริ่มขึ้นได้สักพักใหญ่แล้ว
ร้านอาหารกึ่งผับที่ใช้เป็นสถานที่รับรองลูกค้าอยู่ไม่ไกลจากบริษัทสักเท่าไรนัก ชโยดมและชมพูนุชตลอดจนทีมงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันดูแลลูกค้าเป็นอย่างดี
และขณะนี้มีวงดนตรีที่ทางร้านจัดมาเพื่อขับกล่อมให้กับแขกพิเศษของค่ำคืนนี้กำลังเริ่มต้น เป็นจังหวะดีที่ชโยดมจะปลีกตัวออกมาเพื่อไปหาคนที่คิดถึง
“คุณนุชจะกลับอย่างไรครับ ผมไปส่งก่อนไหม” ชายหนุ่มพะว้าพะวงพอสมควร รู้สึกเกรงใจที่ต้องปล่อยให้ชมพูนุชอยู่ที่นี่ต่อโดยที่ตัวเองไปจัดการธุระส่วนตัว
“นุชกลับได้ค่ะ คุณใหญ่รีบไปเถอะเดี๋ยวจะดึก อีกสักพักนุชก็กลับแล้วค่ะ”
“งั้นผมฝากด้วย ตอนนี้ลูกค้าคงไม่มีอารมณ์จะคุยเรื่องงานกับเราแล้ว โน่น...”
พนักงานของบริษัทรู้จักวิธีเอ็นเตอร์เทนลูกค้า ด้วยการหาเครื่องดื่มดีๆ มารองรับ เพลงเพราะๆ ที่ฟังสบายและรู้สึกผ่อนคลาย พิเศษคือพนักงานบริการสาวสวยหน้าตาดีที่คัดมาเฉพาะ แน่นอนว่าไม่มีใครอยากคุยเรื่องงานนอกจากหาความสุขจากสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
“คุณใหญ่รีบไปเถอะค่ะ ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็โทรศัพท์บอกนุชนะคะ ขอให้ทุกอย่างราบรื่นค่ะ” ชมพูนุชอวยพร
“ขอบคุณครับ” ชโยดมหวังว่ามันจะเป็นเช่นนั้น ชายหนุ่มหาจังหวะดีๆ ปลีกตัวออกมาจากความสนุกสนานที่ยังคงดำเนินต่อไป
ชมพูนุชช่วยดูแลลูกค้าต่ออีกสักพักใหญ่ ศิวนาถตามมาสมทบเพราะรับปากกับชโยดมไว้ หญิงสาวเห็นเขาก้าวเข้ามาในร้านจึงคิดจะปลีกตัวกลับ แต่ติดที่ลูกค้ายังคงต้องการคุยกับเธอต่อ
ศิวนาถเห็นชมพูนุชนั่งอยู่ที่โต๊ะกับลูกค้า แต่ตัวเขายังไม่มีโอกาสเดินทางไปทักทายลูกค้าที่โต๊ะนั่น เพราะติดลูกค้าที่เคยรู้จักซึ่งมาดูงานของบริษัทเมื่อครั้งที่แล้วชวนคุยอยู่
ชมพูนุชเห็นว่าดึกมาแล้วและตอนนี้ทุกคนกำลังสนุกกับกิจกรรมร้องเพลง และความสนุกสนานที่พนักงานสาวสวยนำมามอบให้ หญิงสาวกล่าวลาคนที่นั่งอยู่ใกล้ที่สุด สุภาพบุรุษคนดังกล่าวเสียดายที่เธอบอกลากลับก่อน
“แล้วพบกันใหม่ค่ะ” หญิงสาวอำลาด้วยรอยยิ้ม
แต่ยังไม่ทันจะลุกจากโต๊ะ ลูกค้าคนเดิมก็ขอให้เธออยู่ต่อเพื่ออำลาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปเคาน์เตอร์เครื่องดื่มของร้านและสั่งเครื่องดื่มพิเศษมอบให้
“แด่มิตรภาพของเรา”
เขาส่งแก้วในมือให้ชมพูนุชแล้วยกที่ถือแก้วอีกข้างชูขึ้น ชมพูนุชจำต้องรับมาถือไว้แล้วยกชูชนแก้วเพื่อรักษามารยาท ก่อนจะจิบเครื่องดื่มพิเศษนั้นจนหมด
“ขอบคุณนะคะ” ชมพูนุชกล่าวขอบคุณอีกครั้ง
น้ำพันช์สีสวยรสชาติไม่เลว ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที สุภาพบุรุษคนเดิมส่งยิ้มแล้วกล่าวคำอำลาเช่นกัน
หญิงสาวส่งยิ้มลาทุกคนก่อนจะขอตัวกลับในที่สุด ชมพูนุชรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ เหมือนจะเป็นไข้ จึงแวะเข้าห้องน้ำที่อยู่ด้านนอกก่อนจะเรียกรถแท็กซี่ให้ไปส่งที่บ้าน ศิวนาถรีบเดินตามออกมาเมื่อหันมาเห็นชมพูนุชออกมานอกร้าน
ชมพูนุชรู้สึกมึนศีรษะขึ้นมากะทันหัน พยายามจะเรียกสติประคองตัวเองออกมาจากห้องน้ำให้ได้ เพียงแค่ก้าวพ้นห้องน้ำร่างเล็กก็คล้ายกับจะหมดแรงเดินต่อ ดีที่มีอ้อมแขนของใครบางคนมารองรับไว้ทัน
“คุณ”
ลูกค้าคนเดิมตามเธอมาที่ห้องน้ำ เขายิ้มเมื่อเห็นท่าทีอ่อนระโหยโรยแรงของชมพูนุช หญิงสาวถูกประคองเดินมาถึงริมถนนหน้าร้านเพื่อเตรียมจะขึ้นแท็กซี่ แต่ยังไม่ทันไรศิวนาถก็ตามมาเสียก่อน
“ขอโทษนะครับ” ศิวนาถเอ่ยถ้อยคำภาษาอังกฤษอย่างสุภาพ ก่อนจะดึงตัวชมพูนุชมาจากลูกค้าคนดังกล่าว
“เธอเป็นพนักงานของผม เดี๋ยวผมจะไปส่งเธอที่บ้านเอง”
แน่นอนว่าทุกอย่างจบลงแค่นั้น ลูกค้าคนดังกล่าวยักไหล่เบาๆ แล้วเดินกลับเข้าไปในร้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ศิวนาถหันมามองคนในอ้อมแขนที่เริ่มจะมีอาการผิดปกติมากขึ้นเรื่อย ใบหน้าหวานแดงก่ำคล้ายกับคนเป็นไข้ สองมือไขว่คว้าหาร่างกายเขาราวกับพิศวาสเสียเต็มประดา
ทีแรกศิวนาถตั้งใจว่าจะพาชมพูนุชไปส่งบ้านตามที่พี่ชายโทรศัพท์มาสั่งไว้ แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้วมันไม่สามารถเป็นเช่นนั้นได้ นอกจากจะถามไถ่บอกทางกันไม่รู้เรื่องแล้ว แม่เจ้าประคุณยังมีมือเป็นหนวดปลาหมึก ที่ทั้งล้วงทั้งควักเนื้อตัวเขาจนแทบจะขับรถไม่ตรงทางอยู่แล้ว
“เป็นบ้าอะไรเนี่ย” ศิวนาถสบถลั่นรถ เอามือดันร่างที่ยิ้มยั่วและโผเข้าตลอดเวลาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เจ้าหล่อนเป็นอะไร หรือนี่เป็นวิธีการอ่อยเหยื่อแบบที่ถนัด ใช้กับคนอย่างเขาไม่สำเร็จหรอก แต่เมื่อพิจารณากันจริงๆ แล้ว ศิวนาถชักเริ่มรู้สึกว่านี่ไม่ใช่เรื่องปกติของชมพูนุชแน่ และที่สำคัญเธอไม่ได้ทำไปเพราะความเมา
ชมพูนุชควบคุมตัวเองไม่ได้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้ท้องไส้ปั่นป่วนไม่ใช่ความผิดปกติของโรคร้าย แต่มันเหมือนมีคลื่นลมพายุอยู่ภายในตัวเธอ ที่เปลี่ยนให้ชมพูนุชกลายเป็นอีกคนที่มีความกล้าในสิ่งที่ไม่เคยกระทำมาก่อน และให้ความรู้สึกที่แสนสุขในสิ่งที่กำลังกระทำในเวลานี้ ตรงกันข้ามหากไม่ได้รับสัมผัสมันทรมานเสียจนแทบขาดใจ
“เลิกยั่วฉันสักที” เขาตะโกนลั่นรถ เมื่อเจ้าหล่อนดึงมือไปวางไว้ที่หน้าขาขาว ชุกแซกสั้นสีชมพูขับผิวรั้งขึ้นมาจนแทบจะเห็นสิ่งที่อยู่ใต้ร่มผ้าชัดเจนแล้ว
“คุณเล็กขา” ชมพูนุชเรียกชื่อเขาเสียงพร่า ยิ้มหวานเอนตัวมาก่ายกอดแนบสนิท วางมือกลางอกแล้วไล้วนเบาไปมาจนศิวนาถขนลุก
“โธ่โว้ย”
ไม่ได้การณ์แล้ว ป้ายโรงแรมม่านรูดอยู่ตรงหน้า ศิวนาถเลี้ยวรถเข้าไปโดยไม่ต้องคิดอะไรทั้งสิ้น
เพียงแค่เปิดประตูห้องเข้าได้ ชมพูนุชก็แปลงร่างกลายเป็นแมวน้อยยั่วสวาท เจ้าหล่อนโผเข้ากอดศิวนาถดันตัวเขาไปแนบกับประตูและไม่ให้ไปไหน เบียดร่างกายอรชนเข้าหาแนบแน่นราวกับว่าไม่อยากห่างไปไหน ริมฝีปากอิ่มจูบพรมไปทั่วเท่าที่จะทำได้ สองมือเคล้าเคลียร่างกำยำอย่างโหยหา
“ชมพูนุช ทำบ้าอะไรเนี่ย” ศิวนาถดันตัวเธอออกห่าง
“อย่าไล่นุชซิคะ” เธอประท้วงเสียงหวาน แล้วโผเข้ามาซุกไซ้ที่ซอกคอเขาด้วยริมฝีปากอีกครั้ง
ทีแรกไม่เข้าใจว่าเจ้าหล่อนเป็นอะไร แต่พอสังเกตจากท่าทางที่แสดงออกและคิดทบทวนว่าเกิดอะไรขึ้นในร้านอาหาร เขาจำได้ว่าก่อนที่ชมพูนุชจะออกมา ลูกค้าคนหนึ่งส่งเครื่องดื่มให้เธอ เป็นไปได้หรือไม่ว่าในแก้วนั้นมีบางอย่างที่ทำให้กลายร่างเป็นนางแมวยั่วสวาทในเวลานี้
“จะทำไงดีวะ”
ชายหนุ่มคิดหาวิธีที่จะทำให้เจ้าสิ่งที่กำลังออกฤทธิ์สงบลงให้ได้ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ทันการณ์เสียแล้ว เมื่อชมพูนุชเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนไม่รู้ เหวี่ยงคนตัวโตเช่นศิวนาถลงไปนอนแอ้งแม้งบนเตียงได้
เธอโถมทับลงไปทันทีด้วยเสียงหัวเราะแสนหวาน และรุกรานคนที่อยู่ใต้ร่างอย่างมีความสุข แม้ไม่รู้ว่าต้องทำเช่นไรให้เขาร่วมมือด้วย แต่ก็ทำทุกทางเพื่อระบายความทรมานของร่างกายตนเองออกมา
เนื้อเนียนเสียดสีกับร่างกำยำ พยายามใช้เรียวปากจูบสัมผัสไปทั่วร่าง สองมือก็ไม่เว้นเคล้าเคลียลูบไล้ไม่ยอมปล่อย ทำเท่าที่จะทำได้และที่กำลังจะทำมากกว่านั้นก็คือ หาทางใกล้ชิดให้มากที่สุด
ลำพังแค่หลบหลีกสัมผัสของเจ้าหล่อนนั้น ศิวนาถก็ว่ายากแล้วเพราะในเวลานี้แม่เจ้าประคุณคนดีลุกขึ้นมานั่งคร่อมสะโพกของเขาไว้ แล้วยิ้มยั่วแววตาเป็นประกาย ริมฝีปากอิ่มนั้นเผยอราวกับจะยั่วยวนให้เข้ามาหา
“ลงไปเดี๋ยวนี้เลยนะ” ศิวนาถเอ่ยเสียงเข้ม
ร่างกายเขามันกำลังจะทนไม่ไหวแล้ว เนื้อนิ่มที่นั่งอยู่กลางตัวไม่นั่งเฉยๆ แต่บิดส่ายไปมาตลอดเวลา เท่านั้นยังไม่พอจงใจเสียดสีให้ความอดทนสิ้นขีดจำกัดอีกด้วย
“คุณเล็กขา” ชมพูนุชยิ้มหวานยั่ว
เธอทำในสิ่งที่ศิวนาถไม่คาดคิด นั้นก็คือถอดชุกแซกสีหวานออกจากตัวภายในเวลาอันรวดเร็ว โยนมันทิ้งไปอย่างไม่ไยดี ผมเผ้าที่มัดไว้เรียบร้อยก็ปลดสยายลงมาถึงกลางหลัง
ศิวนาถกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น เขาไม่ใช้พระอิฐประปูนที่มองเห็นความงามของผู้หญิง คือรูปปั้นงานประติมากรรมอันจับต้องไม่ได้
เรือนร่างที่ปรากฏเต็มสองตางดงามราวกับนางฟ้าก็ไม่ปาน อกอิ่มเต่งตึงคู่นั้นทำให้เขาหัวใจแทบหยุดเต้น ผิวเนียนราวไข่ปอกเคลื่อนไหวเข้ามาใกล้ ศิวนาถหนอ ศิวนาถ เขาจะทานทนได้อีกสักกี่น้ำ
ชมพูนุชปลดชุดชั้นในที่ปกปิดยอดอิ่มโยนเหวี่ยงไปไกลตัว ยิ้มหวานยั่วก่อนจะแนบตัวลงเกลือกกลั้วกับคนที่นอนอยู่บนเตียง การได้สัมผัส ได้จูบ ได้เคล้าเคลีย คือการระบายความทรมานที่อยู่ภายในให้ลดน้อยลง แต่มันถึงจุดที่เธอต้องการมากกว่านั้น ต้องการให้เขาปลดเปลื้องความทรมานนี้ให้หมดไปโดยเร็วที่สุด
“คุณเล็กขา” เสียงหวานแหบพร่าร้องเรียก
เธอทรมานกับความรู้สึกในเวลานี้เหลือเกิน ชมพูนุชพยายามจะทำให้ศิวนาถร่วมมือด้วย แต่ดูเหมือนว่าเขาจะยังเฉย การเฉยนี้ทำให้เธอต้องพยายามมากขึ้นไปอีก
วินาทีที่ความต้องการมีมากขึ้นเรื่อย ชมพูนุชทำทุกทางให้ความต้องการที่เอ่อล้นสำเร็จ ร่างเล็กเย้ายวนอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน ทั้งกอด ทั้งจูบ ทั้งลูบ ทั้งคลำ พยายามจะทำให้อีกฝ่ายมีความต้องการเดียวกันกับตน
ริมฝีปากสวยพรมจูบไปทั่วใบหน้า ศิวนาถพยายามหลบหลีกเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา แต่ชมพูนุชไม่อาจหยุดความต้องการของตัวเองได้ เธอใช้สองมือประคองใบหน้าคมให้อยู่นิ่ง แล้วแนบริมฝีปากประกบไปอย่างไม่ประสา
แม้เขาจะไม่ตอบสนองจูบนั้นแต่ชมพูนุชก็ไม่ลดละ สองมือที่ประคองใบหน้าคมเคลื่อนมา ทำหน้าที่ผู้นำพาให้สองมือแกร่งสัมผัสกับเต้างามที่กลางอก
มันเหมือนไฟที่โลมเลียไปทั่วร่างเพราะได้ดั่งใจ มือของศิวนาถจะลงน้ำหนักที่เต้าอิ่มหรือไม่ไม่รู้ แต่แค่สัมผัสและครอบครองมันตามน้ำหนักมือของหญิงสาว ก็ทำให้รู้สึกปลดปล่อยความทรมานนี้ออกมาได้ในระดับหนึ่ง
“ชมพูนุช หยุดได้แล้ว ทำบ้าอะไรอยู่ รู้ตัวไหม” ชายหนุ่มดันร่างเปลือยงามออกห่าง พยายามลุกขึ้นจากเตียงนั้นให้ได้ แต่ชมพูนุชผวาเข้ากอดและวิงวอนขอด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
“นุชทรมานค่ะ ช่วยนุชด้วย คุณเล็กขา”
ความทรมานมีกำลังมากกว่าสติที่แทบไม่หลงเหลือ ชมพูนุชเบียดตัวเองเข้าไปหาเขาอย่างตั้งใจ พยายามใช้ริมฝีปากพรมจูบไปทั่ว แต่ศิวนาถเบือนหนีและพยายามผลักไสซึ่งไม่เป็นผล
เจ้าหล่อนจงใจยั่วยวนมากขึ้นด้วยการโถมทับร่างเปลือยลงบนตัวเขา และเคลื่อนอกอิ่มมาวางไว้ที่ใบหน้าคม ให้ปลายยอดงามสัมผัสที่ผิวเนื้อใกล้ริมฝีปากให้มากที่สุด
“ชมพูนุช ตั้งสติ” เขาร้องบอกเสียงแหบพร่า
รสหวานของอกอิ่มที่แตะริมฝีปากไปมาอย่างยั่วเย้า กลิ่นกายสาวที่สัมผัสชัดเจนในเวลานี้ ปลุกความเป็นชายให้ร้อนแรงขึ้นด้วยสัญชาติญาณ ศิวนาถกำลังทนไม่ไหวเมื่อปลายอกงามคู่นั้นถูกบรรจงมอบใส่ริมฝีปากของตน และเขาต้อนรับมันด้วยปลายลิ้นแห่งความเป็นชายชาตรี
ปลายลิ้นของศิวนาถตวัดไล้เลียยอดงามรสหวานอย่างรวดเร็ว ชายชาตรีที่ไม่ยอมให้ใครมาหยามเกียรติ จำต้องตั้งรับกับเพลิงอิสตรีที่มอมเมาตนด้วยเสน่หา
แรงลิ้นว่องไวและรวดเร็วปานใด เสียงครางหวานหูก็ดังขึ้นไม่ขาดสาย อกงามบิดส่ายแอ่นขึ้นรับด้วยความทุรนทุราย สองแขนแข็งแรงโอบกอดแผ่นหลังเนียนไว้ ก่อนจะกดใบหน้าคมลงมาฟอนเฟ้นอกอิ่มคู่นั้นอย่างเต็มใจ
“คุณเล็กขา” เสียงหวานขานรับ กระตุ้นให้สติที่ถูกล่อลวงค่อยๆ เลือนหาย
นาทีความร้อนแรงของเลือดในกายศิวนาถเป็นผู้ประท้วง หากว่าเขาหยุดการเชยชมความงดงามที่อยู่ตรงหน้า ศิวนาถพยายามช่วยให้ชมพูนุชได้รับการปลดปล่อยเท่าที่สามารถทำได้ และพยายามไม่ทำอะไรให้เกิดการผูกมัดระหว่างคนสองคน เวลานี้เขาและเธอเสมอกัน ต่างฝ่ายต่างไร้เสื้อผ้าใดๆ ปกปิด และเคล้าเคลียไม่ห่างกันสักวินาที
เขาจูบที่ยอดอกงามซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดูดกลืนมันไว้ในริมฝีปากและให้ปลายลิ้นปลดปล่อยความร้อนแรงออกมา ชมพูนุชกรีดร้องซ้ำๆ อย่างมีความสุข กับความซาบซ่านแรกสาวที่เพิ่งเคยพบ ยิ่งวาบหวามมาก เท่าไร ความต้องการก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น
อกอิ่มแอ่นบิดส่ายไปมา ใบหน้าหวานแดงก่ำด้วยความสุขสม ริมฝีปากงามพรบจูบบนใบหน้าของศิวนาถ ปรารถนาให้เขาทำมากกว่านี้อีกเป็นร้อยเท่า
แววตาคู่สวยของสาวน้อยสบประสานกับศิวนาถ ริมฝีปากเจ้าหล่อนบวมเจ่อเพราะถูกจูบซ้ำแล้วซ้ำเล่า อกงามยิ่งไม่ต้องพูดถึงมีรอย แดงจากไรฟันที่ขบเม้มและสองมือที่บีบเคล้นไม่ห่าง แต่ชมพูนุชก็ ปรารถนาอยากได้รับการปลดปล่อยที่มากขึ้นกว่านี้
“คุณเล็ก ช่วยนุชด้วย” เธอวิงวอนขอเสียงแหบพร่า นัยน์ตานั้น เปล่งประกายเจิดจรัสโดยไม่ต้องอธิบาย
สติของศิวนาถหมดไปกับการเร้าของเจ้าหล่อน เมื่อชมพูนุชจับสองมือของเขามาแนบประกบที่กลางอกงามอีกครั้ง ก่อนที่สองมือของ เธอจะเคลื่อนลงมาที่กลางกายงาม และลูบสัมผัสตัวตนที่เริ่มตื่นตัวของ ชายหนุ่ม
“ชมพูนุช” ศิวนาถคำราม เมื่อเจ้าหล่อนเย้ายั่วด้วยการลูบไล้ด้วยสัมผัสที่แสนเร่าร้อน
|
|
ความคิดเห็น