ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แรงรักเพลิงเสน่หา

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1

    • อัปเดตล่าสุด 17 ส.ค. 66


    โรงแรมหรูย่านใจกลางกรุงเทพมหานคร

    ทั้งกลิ่นทั้งหน้าตาของอาหารที่อยู่บนโต๊ะ ล้วนยั่วยวนเรียกน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร ให้ทำงานในมื้อเที่ยงของวันนี้เสียเหลือเกิน แต่สีหน้าของสาวน้อยที่นั่งร่วมโต๊ะ และเป็นคนสำคัญของอาหารมื้อนี้ เต็มไปด้วยความรู้สึกอึดอัดแต่ไม่สามารถพูดหรือแสดงออกได้ ถึงแม้จะมีอาหารรสเลิศราคาแพงอยู่ตรงหน้า ก็ไม่ทำให้รู้สึกดีขึ้นมาได้ตรงกันข้าม มันกลับทำให้รู้สึกแย่มากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก เมื่อได้ฟังการสนทนาของผู้ใหญ่ที่ร่วมโต๊ะด้วยในเวลานี้

    อย่าว่าแต่อาหารราคาแพงที่เธอได้มีโอกาสมานั่งมองมันตรงหน้าในเวลานี้เลย ต่อให้เป็นร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า หรือร้านที่ขึ้นชื่อในเรื่องรสชาติและราคาแล้วล่ะก็ ถ้าเป็นเมื่อก่อนชมพูนุชคงจะไม่ลังเลใจที่จะเข้าไปลองลิ้มชิมรส ไม่ว่าจะราคาแพงแค่ไหนก็ตามแต่หากว่าพึงพอใจแล้ว สามารถจะเดินเข้าออกได้ตลอดสามมื้อเลยด้วยซ้ำ

    แต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยน ไม่ใช่แค่ความรู้สึกนิดคิดเท่านั้นที่เปลี่ยน โอกาสที่จะได้ทำในแบบเดิมก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ถึงแม้จะไม่ลำบากถึงขึ้นกินข้าวแกงข้างถนน หรือต้องกลายเป็นยาจกขอทานใครเพื่อยังชีพ

    แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในครอบครัวเวลานี้นั้น การเก็บเงินไว้สำหรับค่าน้ำค่าไฟและยามเจ็บป่วยได้ไข้ น่าจะเหมาะสมกว่าการไปจ่ายเงินค่าอาหารราคาแพงในแต่ละมื้อ

    “ตกลงตามนี้นะหนู” ชายวัยเจ็ดสิบปีหันมาหาชมพูนุชด้วยรอยยิ้มแห่งความเมตตา หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อยรีบปรับสีหน้าและความรู้สึกส่งยิ้มทักทายกลับไปทันที

    “เราสองครอบครัวมาเป็นทองแผ่นเดียวกัน เรื่องอื่นๆ จะได้ง่ายตามไปด้วย” ชายวัยกลางคนกล่าว พลางมองหน้าสาวน้อยที่ตนชอบใจด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความยินดี

    “หนูไม่มีปัญหาใช่ไหมจ้ะ” สตรีวัยกลางคนเอ่ยถามอีกคราเพื่อให้แน่ใจว่า ข้อตกลงที่ทุกคนตกลงทำร่วมกันโดยไม่เอ่ยถามชมพูนุชสักคำไม่ผิดพลาดแน่

    การแต่งงานกับบุตรชายคนโตของครอบครัวประวันวิทย์ คือหน้าที่สำคัญสำหรับชมพูนุชที่จำต้องแบกรับไว้ เพื่อให้ทุกอย่างในครอบครัวของตนมีลมหายใจต่อไป การแต่งงานที่ไร้ความเต็มใจและความยินดี

    การเสียสละในฐานะลูกสาวคนโตของบ้าน ความกตัญญูที่จะต้องมีต่อผู้พระคุณผู้ให้กำเนิด อีกร้อยเหตุผลมากมายที่ทำให้ชมพูนุช พิมพ์รักษาไม่มีข้อโต้แย้งใด นอกจากยอมทำตามแต่โดยดีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

    “ลูกนุชเต็มใจค่ะ” มารดาเลี้ยงของชมพูนุชเอ่ย นางรตีหันมาสบตากับลูกเลี้ยงสาว เพื่อบอกให้รู้ว่าควรเจรจาเช่นไรกลับไป

    “เอาเป็นว่าตกลงตามนี้ เรื่องฤกษ์ยามทางเราจะจัดการหาโดยเร็วที่สุด ดีไหมคะ” คุณหญิงประภาหันหน้ามาหารือกับผู้เป็นสามี

    “ดีๆ ว่าแต่จะพาหนูนุชไปหาเจ้าใหญ่เมื่อไร”

    เพราะบุตรชายทั้งสองยังไม่มีทีท่าว่าจะลงเอยแต่งงานเป็นเรื่องเป็นราวเสียที ทำให้สองสามีภรรยาต้องหันหน้ามาปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรกับปัญหานี้  

    ชโยดมบุตรชายคนโตเป็นคนแรกที่ถูกบิดามารดาใช้แผนการคลุมถุงชนให้ และถือเป็นโชคดีอีกชั้นที่ไม่ต้องไปไขว่คว้าหาเจ้าสาวไกลที่ไหน เพราะจู่ๆ อดีตเพื่อนร่วมธุรกิจในสมัยรุ่นบุกเบิก บิดาของชมพูนุชติดต่อมาเพื่อขอความช่วยเหลือเรื่องธุรกิจ

    บิดาของหญิงสาวมาพบเจ้าสัวบรรพตและคุณหญิงประภาที่บ้าน ชมพูนุชติดสอยห้อยตามมาด้วยทำให้มีโอกาสได้พบกับประมุขของบ้านประวันวิทย์ ทั้งคู่ถูกชะตาและจดจำสาวน้อยได้ว่าเคยพบเมื่อครั้งวัยเยาว์

     สองสามีภรรยาครอบครัวประวันวิทย์ยินดีให้ความช่วยเหลือโดยไม่ต้องการอะไรตอบแทนทันทีที่รู้จุดประสงค์การพบกัน ชายวัยกลางคนเกิดความคิดบางอย่างเมื่อได้พบหน้าชมพูนุช จึงปรึกษากับภรรยาเรื่องที่ลูกชายทั้งสองยังไม่มีใครลงเอยเรื่องครอบครัว

    ความคิดเรื่องการทาบทามหาเจ้าสาวให้จึงเริ่มต้นที่ชมพูนุช ครอบครัวของชมพูนุชเกรงใจในความช่วยเหลือ แม้บิดาและมารดาเลี้ยงจะยกการตัดสินใจเรื่องนี้ให้เจ้าตัว แต่ชมพูนุชรู้ดีว่าคำตอบนี้ชี้เป็นชี้ตายให้กับครอบครัวเลยทีเดียว

    ดังนั้นถึงแม้ว่าจะไม่ยินยอมพร้อมใจเท่าไร แต่เมื่อคิดถึงอาการป่วยของบิดา สถานะทางครอบครัวในเวลานี้แล้ว นี่เป็นครั้งแรกของชีวิตที่ชมพูนุชยอมทำอะไรที่ฝืนใจตัวเองที่สุด

    “เร็วเท่าไรยิ่งดีเลยค่ะ ให้ทำความรู้จักคุ้นเคยกันเอาไว้แต่เนิ่นๆ รับรองว่าตาใหญ่ต้องชอบหนูนุชแน่ๆ คุณคิดเหมือนกันไหมคะ” สองสามีภรรยาหัวเราะอย่างมีความสุข จินตนาการไปว่าบุตรชายของตนจะลงเอยกับชมพูนุชด้วยการแต่งงาน และมีหลานตัวน้อยๆ มาให้อุ้มในเร็ววัน

    ในขณะที่ชมพูนุชได้แต่เก็บความขมขื่นใจไว้เพียงลำพัง แล้วก้มหน้ารับโชคชะตาที่ไม่สามารถเลี่ยงได้

     

    เสียงดนตรีสากลบรรเลงแว่วเข้ามาในหู ปลุกเขาให้รู้สึกตัวและลืมตามองไปรอบๆ พยุงตนเองลุกขึ้นมานั่งบนเตียงด้วยสีหน้างุนงง แม้จะรู้แล้วว่าอยู่ในสถานที่ใดแต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า เทวดาองค์ใดอุ้มมาส่งยังวิมานฉิมพลีที่นี่ ให้มีที่ซุกหัวนอนผ่านค่ำคืนที่โหดร้ายมาได้

    “ตื่นแล้วเหรอ”

    เสียงทักทายดังขึ้นทำให้คนที่อยู่บนเตียงหันไปมอง ร่างสูงสมส่วนเดินเข้ามาใกล้ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม กลิ่นเหงื่อที่กายบ่งบอกให้รู้ว่า เจ้าของห้องเพิ่งจะออกกำลังดูแลสุขภาพเรียบร้อยเมื่อไม่นานนี้

    “ฉันมาอยู่นี่ได้ไงวะ”

    คำถามแรกจากปากของคนที่เพิ่งสร่างเมา เจ้าตัวเลิกผ้าห่มแล้วลุกขึ้นเดินหายเข้าไปในห้องน้ำเพื่อจัดการธุระส่วนตัว ก่อนจะตามออกมานั่งเล่นที่ระเบียงด้านนอก เพื่อชมธรรมชาติอันบริสุทธิ์พร้อมกับกาแฟดำแก้วใหญ่เพื่อช่วยให้หายจากอาการเมาค้างเมื่อคืนนี้

    “แกไปรับฉันมาหรือไง นายเล็ก” เขาถามผู้เป็นเจ้าของเรือนเล็กแห่งอาณาจักรประวันวิทย์ ทายาทลำดับที่สองของพีวีมอลล์กรุ๊ปและห้างสรรพสินค้าในเครืออีกมากมาย

    “ฉันต้องถามมากกว่าว่าทำไมไปเมาหัวราน้ำอยู่ที่นั่น เด็กที่มาส่งบอกว่าแกไปนั่งตั้งแต่ร้านเปิดจนเกือบปิด ซัดไปคนเดียวสองขวดเต็มๆ ไม่พูดไม่จา ถ้าเมื่อคืนเจ้าของร้านไม่ใจดีให้เด็กมาส่งที่บ้านล่ะก็ แกได้นอนตากยุงข้างถนนแน่” ใบหน้าคมหันมาสบตากับเพื่อนรักด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย

    ปกติแล้วจรัลไม่ใช่นักดื่ม หรือคนสำมะเลเทเมาที่หัวราน้ำไม่ เลือกที่ ตรงกันข้ามเป็นผู้ชายขยันขันแข็งตั้งใจทำงานเก็บเงิน เรื่องเที่ยว เรื่องกินนี่แทบจะนับครั้งได้

    แต่สภาพที่ศิวนาถเห็นเพื่อนรักเมื่อคืน ตอนที่พนักงานในร้านของเพื่อนอีกคนมาส่ง จรัลเมาจนไม่มีสติเนื้อตัวอาบไปด้วยกลิ่นน้ำ อำพันคละคลุ้งไปหมด ดีที่คนงานในบ้านมาช่วยกันเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้า ให้ จึงพอทำให้ร่วมเตียงกันได้ตลอดคืน

    “ขอบใจแกมาก ก็คงมีแกนี่แหล่ะ ที่เข้าใจและอยู่กับฉันทุก สถานการณ์” น้ำเสียงจรัลเบาลงสีหน้าเศร้าหมองตามไปด้วย

    ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยาวนานมาตั้งแต่สมัยเรียนปีหนึ่งในรั้วมหาวิทยาลัยชื่อดัง ทำให้จรัลเข้านอกออกในบ้านหลังนี้เสมือนสมาชิก คนหนึ่งเลยก็ว่าได้ เขาได้รับความรักความเมตตาจากบุพการีทั้งสองตลอดจนพี่ชายใหญ่ของเพื่อนรักไม่น้อย แม้ว่าจะเรียนจบแยกย้ายกันไปทำงานตามสายงานที่จบมา แต่ทั้งคู่ก็ยังคบหาเป็นเพื่อนไปมาหาสู่กันตลอด

    หนำซ้ำเจ้าของเรือนเล็กที่จรัลมาอาศัยนอนตลอดคืน ยังเป็นเพื่อนตายเพียงคนเดียวก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าเรื่องอะไรในชีวิตเขาจะสุขหรือทุกข์ ศิวนาถเป็นผู้รับรู้และช่วยให้คำปรึกษามาโดยตลอด ทั้งคู่มีความเป็นมิตรและห่วงใยกันเสมอ

    “เฮ้ยๆ เป็นอะไร ไม่พูดไม่อธิบายทำตัวเป็นคนอกหักรักคุดไปได้” ศิวนาถพูดทีเล่นทีจริงแหย่เพื่อน แต่สงสัยว่าคำแหย่จะไปกระทบใจจรัลเข้าให้อย่างจัง เจ้าตัวถึงได้ถอนหายใจดังๆ ออกมาด้วยความกลัดกลุ้ม

    “อย่าบอกนะว่าที่กลุ้มจนเมาขนาดนี้ เพราะน้องนุชสุดสวาทของแกทำพิษเข้าให้เสียแล้ว” ศิวนาถเดาไปเรื่อย แต่เป็นการเดาที่ถูกต้องเสียด้วย

    “เรื่องอะไรล่ะ ปกติไม่เคยเห็นแกกับน้องนุชสุดสวาทมีปัญหากันเลยนี่หว่า”

    เขาพอจะรู้ว่าจรัลพึงพอใจผู้หญิงที่ชื่อน้องนุชคนนี้มาก เทียวไล้เทียวขื่อไม่สนใจมองสาวใดเป็นเวลาหลายปี และดูเหมือนว่าน้องนุชคนนี้ก็จะให้คะแนนความพึงพอใจในตัวเพื่อนรักกลับมาเช่นกัน

    เห็นได้จากเทศกาลสำคัญที่ทั้งคู่มักไปกินข้าวหรือมีกิจกรรมพิเศษร่วมกันบ่อยๆ ศิวนาถยังอดดีใจไปกับเพื่อนไม่ได้ว่า ได้ลงเอยกับผู้หญิงที่รักโดยไม่ต้องเรียนรู้คำว่าผิดหวัง 

    ต่างจากเขาที่ประสบการณ์เรื่องรักๆ ใคร่ๆ พวกนี้ มันจะไม่ลง เอยด้วยความสุขอย่างถาวร แต่เป็นสุขที่เรียกว่าสุขข้ามคืนบ้าง หรือไม่ก็ สุกๆ ดิบๆ ตามประสาคนโสดที่ไม่ชอบการผูกมัด ศิวนาถไม่ยุ่งกับคนมีเจ้าของแล้ว หรือใครก็ตามที่ไม่ได้ตัวเปล่าเล่าเปลือยมีพันธะค้างคาอยู่  

    เขาชอบผู้หญิงที่ไม่ผูกมัด ไม่วิ่งไล่ตาม ไม่ซอกแซก ไม่ถามโน่นนี่ ให้น่ารำคาญ ผู้หญิงของศิวนาถคือแค่ชอบ ชื่นชม เชยชมความงามตามประสาที่โลกสร้างให้ผู้หญิงและผู้ชายคู่กัน แต่ยังไม่คิดจริงจังเหมือนจรัล ที่เฝ้าฝันจะสร้างครอบครัวกับคนที่ตนเองรัก

     ไอ้อาการแบบที่เป็นนั้น หัวใจมันต้องรู้สึกเช่นไร โหยหาหรือ ปรารถนามากแค่ไหน ถึงขั้นที่เรียกว่าไม่เห็นหน้าสักวินาทีก็จะขาดใจเลย หรือไม่

    จะมีสักคนไหม ที่สามารถจะทำให้หัวใจของศิวนาถรู้สึกเช่นนั้น ชาตินี้หรือชาติหน้าคงได้แต่ร้องเพลงรอไปก่อนแน่

    “เอ้า ไม่พูด นั่นจะทำอะไร”

    จรัลไม่พูดไม่จาใดๆ ทั้งสิ้น แต่เดินกลับเข้าไปในห้องเปิดตู้เย็นเล็กที่อยู่ด้านข้างของเตียงนอน หยิบเบียร์กระป๋องเย็นๆ มาย้อมใจให้ชุ่มชื่นแต่เช้าตรู่

    “อะไรของเอ็ง ไอ้จรัล พูดสักคำให้รู้เรื่องได้ไหม” ชายหนุ่มไม่เข้าใจอารมณ์เพื่อนรักเลยจริงๆ

    “หรือว่าไม่ได้มีปัญหา แต่มีเรื่องให้ต้องคิด หรือว่าเอ็งกับน้องนุชสุดสวาททำเรื่องเข้าให้แล้ว แหมๆ เห็นเงียบๆ ที่แท้ก็...” ศิวนาถเดาไปกันใหญ่แล้ว

    “ไม่ใช่อย่างที่แกคิด นายเล็ก” จรัลส่ายหน้า จิบเบียร์รวดเดียวหมดกระป๋อง จึงมีกะจิตกะใจเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังอย่างละเอียด

    ศิวนาถนั่งฟังด้วยอาการสงบปล่อยให้เพื่อนรักระบายความอึดอัดใจที่มีอยู่ออกมา จรัลเล่าเรื่องทุกอย่างโดยละเอียดไม่ปิดบัง บางครั้งก็สะอื้นร่ำไห้เบาๆ ด้วยความผิดหวังเสียใจ บางครั้งก็โทษโชคชะตาโทษลมโทษแล้งไปตามเรื่อง ที่ทำให้ความรักที่บ่มเพาะมาเป็นเวลาหลายปีมีอันต้องจบลงเพราะคำว่าเงินเพียงคำเดียว

    “แกไม่ต้องเสียใจเลย จรัล” ศิวนาถเอื้อมมือมาตบบ่าเพื่อนเบาๆ

    “ดีแล้ว ที่แกไม่ต้องอยู่กับผู้หญิงหน้าเงินคนนั้นไปทั้งชีวิต”

    “แต่ฉันรักน้องนุช รักมากแกเข้าใจไหม ฉันไม่เข้าใจว่าทำไม ทำไมน้องนุชต้องเอาตัวเองไปแบกรับเรื่องเงินสิบล้านนั่นด้วย ทุกคนในครอบครัวควรมีส่วนร่วมกับเงินจำนวนนี้ ไม่ใช่ให้น้องนุชเป็นคนแก้ปัญหา” จรัลฟูมฟาย

    เรื่องหนักอกที่ทำให้ถึงกับต้องเมาหัวราน้ำเมื่อวานนี้ เรียกว่าฟ้าถล่มแผ่นดินทลายสำหรับชีวิตของจรัลเลยก็ว่าได้ เขาไม่เพียงแพ้อำนาจเงินเพียงเท่านั้น แต่ยังสูญเสียผู้หญิงแสนดีที่เฝ้าหมายปองมาเป็นเวลาหลายปีไปจากชีวิตอีกด้วย

    จรัลหวนคิดถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไปเมื่อวานนี้ สาวน้อยหน้าหวานที่เขาพึงพอใจ ปฏิเสธไมตรีที่มอบให้ด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์ และบอกข่าวร้ายในชีวิตให้รับรู้ว่า

    นุชรับน้ำใจของพี่จรัลไม่ได้ค่ะ ขอบคุณสำหรับสิ่งดีๆ ที่พี่จรัลทำ ให้นุชมาตลอด ตอนนี้นุชมีภาระมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบมากมายเกินกว่า ที่จะมาคิดเรื่องความรักหรือการแต่งงานค่ะ

    น้องนุช

    นุชจำเป็นต้องหมั้นกับลูกชายคนโตของครอบครัวที่ยื่นมามือ ช่วยบ้านนุช ขอโทษนะคะพี่จรัล

    มันเหมือนฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนจรัลก็ว่าได้ เขาอึ้งพูดอะไร ไม่ออกได้แต่มองหน้าสาวน้อยที่บอกข่าวร้ายให้รับรู้ ไม่เพียงแค่นั้นมันจุก จนพูดไม่ออก กับคำว่าเงินสิบล้านที่พ่ายแพ้อย่างไม่เป็นท่า

    “ทำไมไม่คิดบ้างว่าน้องนุชของแก อาจจะเต็มใจเป็นคน แก้ปัญหาเรื่องนี้เองก็ได้ น้องนุชของแกทั้งสวยทั้งน่ารัก ก็ไม่แน่ว่าอาจจะมีคนแก่ตัณหากลับเงินหนายื่นมือมาช่วย แล้วน้องนุชของแกก็อาจจะไม่อยากให้ตัวเองหรือครอบครัวลำบาก ก็เลยตัดสินใจทำแบบนี้” ศิวนาถวิเคราะห์ตามเนื้อเรื่องที่ได้ยินมา

    เงินสิบล้านแลกกับการแต่งงาน มันเป็นเรื่องตลกสิ้นดี ลองถ้าเอาตัวเข้าแลกได้ก็ไม่ต้องพูดอะไรมากแล้ว น้ำใจแม่สาวคนงามของจรัลคนเห็นน้ำเงินเป็นใหญ่มากกว่าสิ่งอื่นแน่ แบบนี้ไม่ต้องเสียดายหรือเสียใจให้เสียเวลาด้วยซ้ำ

    “น้องนุชไม่ใช่คนแบบนั้น ฉันรู้ดีว่าน้องนุชเป็นคนอย่างไร แต่ที่ฉันเจ็บใจก็คือ ทำไมถึงไม่มีปัญญาหาเงินสิบล้านมาได้ ถ้าตอนนี้ฉันมีเงินสิบล้านอยู่ในมือ รับรองว่าน้องนุชจะต้องไม่ตัดเยื่อใยฉันแบบนี้แน่”

    ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บใจ ที่พ่ายแพ้ต้องน้ำเงินมูลค่ามหาศาลก้อนนั้น ลำพังเงินเดือนเขาทั้งปีก็ยังไม่ได้เศษเสี้ยวของเงินก้อนนี้เลย จรัลโทษความผิดหวังนี้ว่าเป็นเพราะเงินตัวเดียว

    “ถ้ามันเป็นแบบนี้แกก็คงทำอะไรไม่ได้นอกจากมองดูอยู่ห่างๆ เงินสิบล้านนะโว้ยไม่ใช่สิบบาท อีกอย่างถึงแกจะมีเงินให้สิบล้านแต่ก็ไม่แน่ว่ามันจะพอสำหรับครอบครัวน้องนุช หรือไม่บางทีน้องนุชอาจจะไม่ได้ต้องการเงินจากแก แต่ต้องการผู้ชายรวยๆ เอาไว้พยุงครอบครัวตัวเองก็ได้ ตัดใจเสียเถอะ” ศิวนาถปลอบใจ

    “ฉันทำใจไม่ได้ ฉันรักน้องนุช รักมาก รักที่สุดในชีวิต ฉันทนไม่ได้ถ้าจะต้องเสียน้องนุชไปให้คนอื่น” จรัลคร่ำครวญอย่างน่าสงสาร

    “เอาเถอะๆ สักวันก็คงทำใจได้เอง ตอนนี้ก็อย่าเพิ่งคิดอะไรมาก ไม่แน่บางทีน้องนุชของแกอาจจะแก้ปัญหาเรื่องเงินสิบล้านได้แล้วก็ได้”

    “ไม่มีทาง” จรัลส่ายหน้า เขาคิดถึงใบหน้าหวานที่แฝงความเศร้าหมองไว้เมื่อเล่าถึงทางออกของปัญหาเรื่องนี้

    “น้องนุชต้องยอมไปเป็นคู่หมั้นลูกชายของไอ้เจ้าสัวนั่น เพื่อแลกกับเงินสิบล้านที่จะมาช่วยครอบครัว แกคิดว่าคนที่ทั้งสวยและน่ารักอย่างน้องนุชจะรอดมือไปได้หรือ นายเล็ก”

    จรัลแสนเสียดายผู้หญิงที่สวยทั้งรูปและงดงามทั้งจิตใจเช่นชมพูนุช หลายปีที่เขารู้จักและเฝ้าแวะเวียนขายขนมจีบ สาวน้อยวางตัวดีและมีน้ำใจกับคนรอบข้าง เข้าใจและเห็นใจคนอื่นก่อนตัวเองเสมอ คนดี คนน่ารัก ที่ต้องเสียไปจากชีวิต ยิ่งคิดก็ยิ่งเศร้า

    “โธ่เอ๊ย ไอ้จรัล แล้วแกจะทำไง เงินก็ไม่มีให้ ผู้หญิงก็ตัดสัมพันธ์” ศิวนาถสงสารเพื่อนจริงๆ

    “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ข้าอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีน้องนุช ข้าอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีน้องนุช เอ็งเข้าใจไหมไอ้นาถ เข้ารักน้องนุช ได้ยินไหมข้ารักน้องนุชที่สุดในโลก” จรัลฟูมฟายอีกครั้ง

    “เออๆ เข้าใจ แล้วจะทำอย่างไรต่อไป”

    “ข้าจะขึ้นเชียงใหม่” จรัลบอกความตั้งใจของตนเอง

    “เอ็งจะไปทำอะไรที่เชียงใหม่” ศิวนาถอยากรู้

    “มีโปรเจคพิเศษขึ้นที่นั่น ข้าตอบรับจะไปทำอย่างน้อยเงินค่าตัวที่ได้อาจจะมาช่วยน้องนุชได้ทันเวลา อีกอย่างข้าทนอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ไหว หัวใจข้ามันช้ำเหลือเกิน เอ็งเข้าใจไหม นายเล็ก”

    ศิวนาถไม่เข้าใจหรอกว่า ความเสียใจเพราะเสียคนที่รักไปให้คนอื่นเป็นเช่นไร เพราะไม่เคยมีประสบการณ์ แต่เข้าใจความรู้สึกของเพื่อนดีว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน กับการถูกคนที่ทุ่มไปทั้งหัวใจปฏิเสธมาเพียงเพราะคำว่าเงินตัวเดียวแท้ๆ

    อยากรู้จริงๆ ว่าไอ้หน้าโง่คนไหนที่ทุ่มเงินสิบล้านตัดเส้นทางรักของเพื่อนไปหน้าตาเฉย คนๆ นั้นจะรู้หรือไม่ว่าผู้หญิงที่ชื่อน้องนุชคนนี้ไม่ได้มีหัวใจใดๆ ให้เลย นอกจากคำว่าเงินคำเดียวเท่านั้นเอง

               หวังว่าจะชอบนะคะ ...อิ่มอุ่น

              มีอีบุ๊คแล้วนะคะ 


    Thumbnail Seller Link
    แรงรักเพลิงเสน่หา
    อิ่มอุ่น
    www.mebmarket.com
    เธอเข้ามาด้วยเงื่อนงำที่น่าสงสัย เขาจึงต้องใช้ไฟเสน่หาค้นความจริง ทว่าสุดท้ายไม่ว่าจะแรงรักหรือเพลิงเสน่หา ก็ไม่อาจต้านหัวใจรักของเขาและเธอได้&ldq...
    Get it now
    Thumbnail Seller Link
    โซ่หัวใจอสูร
    อิ่มอุ่น
    www.mebmarket.com
    ‘ผู้หญิงที่ใช่ ถูกสเปค ตรงจริต ไหนเลยควรปล่อยให้หลุดมือไปง่ายๆต้องทำทุกทางหาทุกวิธี ให้เธอเป็นของเราให้จงได้!’“ปูเป้” ...
    Get it now
    Thumbnail Seller Link
    ซาตานทวงรัก
    อิ่มอุ่น
    www.mebmarket.com
    ไม่มีใครรู้หรอกว่า “ความหวง” รุนแรงแค่ไหน “ความห่วง” คือทุกข์ที่เผาใจให้อยู่ไม่เป็นสุข “ความห่าง” คือความทรมาน...
    Get it now
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×