คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1
1 ปีก่อนหน้านี้
“แต่งงาน”
เสียงอุทานดังขึ้นในห้องนอนของพรตในเช้าวันหยุดพักผ่อนที่แสนมีความสุข
เขากลับมานอนบ้านเพราะถูกตามตัวโดยพี่ชายสุดที่รัก
ที่เพิ่งจะบอกเหตุผลที่ให้กลับมาเมื่อครู่นี้
“ใช่ และเพื่อความปลอดภัยในชีวิตของนาย ก็ไม่ควรขัดขืนทำตามคำสั่งนี้แต่โดยดี
เพราะนายไม่มีวันปฏิเสธคุณย่าได้แน่” พล
พี่ชายที่มีอายุห่างกว่าพรตห้าปีเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
เขาพูดไม่ผิดหรอกเพราะถึงเจ้าน้องชายตัวดีจะอิดออดบิดพลิ้วอย่างไรก็ช่าง
แต่ไม้ตายเด็ดที่คุณย่าเตรียมไว้ล้อมคอกหลานชายคนเล็กให้อยู่ในโอวาท
ยอมทำตามสิ่งที่ต้องการดีๆ โดยไม่ให้มีการเสียเลือดเนื้อสักหยดนี่ซะ
เด็ดกว่าไม้ตายไหนๆ ที่คุณย่าเคยใช่มา
ก็แน่ล่ะ
การดูแลเด็กผู้ชายสองคนที่อยู่ในช่วงวัยหัวเลี้ยวหัวต่อให้กลายเป็นคนมีความรับผิดชอบ
เรียนจบและมีคุณค่าความเป็นคนเต็มเปี่ยมด้วยคำสอนที่แสนดีที่เคี่ยวเข็ญปากเปียกปากแฉะกันมานาน
มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่หญิงชราวัยหกสิบกว่าจะประคองมาได้จนถึงวันนี้
เขาคือพล พิราธัส
หลานชายคนโตของคุณย่าปรานี พิราธัส
พี่ชายคนเดียวของไอ้น้องตัวแสบที่กำลังนั่งงงอยู่บนเตียงนอน
พระเอกของพวกคุณมีชื่อเต็มๆ ว่า พรต พิราธัส ตำแหน่งรองผู้จัดการบริษัทพีอาร์ที
ดีเวลลอปเม้นท์ ฝ่ายการตลาด
พีอาร์ที
ดีเวลลอปเม้นท์เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่อันดับต้นๆ
ของเมืองไทยประกอบธุรกิจด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มาตั้งแต่รุ่นคุณปู่ที่ล่วงลับไปนานหลายปีแล้ว
และปัจจุบันคุณย่าปรานีก็ดำรงตำแหน่งประธานบริษัท
โดยมีหลานอย่างพลมาช่วยดูแลด้านการลงทุนต่างๆ
ส่วนพรตเมื่อเรียนจบปริญญาโทจากสหรัฐอเมริกาก็กลับมาช่วยงานด้านการตลาด
“พี่พล พี่จะบ้าหรือเปล่า แต่งงานนะโว้ย
ไม่ใช่หายอดขายให้ทะลุไตรมาส” พรตลุกขึ้นจากเตียงมาบิดขี้เกียจ
“พี่เตือนแกด้วยความหวังดี ทำตามที่คุณย่าต้องการดีกว่า”
พลพูดชัดถ้อยชัดคำอีกครั้ง
“แล้วทำไมคุณย่าต้องให้ผมทำ
มีเหตุผลอะไร” น้องชายตัวดีถามด้วยความกังขา
“เรื่องนี้แกต้องไปถามคุณย่า
แต่พี่บอกได้แค่ว่าถ้าแกไม่อยากถูกตัดออกจากกองมรดก
แกไม่ควรปฏิเสธารแต่งงานครั้งนี้”
“เฮ้ย ถึงขั้นจะตัดหลานออกจากกองมรดกเลยเหรอ
เกินไปหรือเปล่าคุณย่า” คราวนี้พรตโวยวายเสียงดังลั่น
ส่วนพลได้แต่อมยิ้มแล้วเดินออกไป
“เดี๋ยวพี่
แล้วคุณย่าจะให้ผมแต่งกับใคร” พรตนึกขึ้นได้จึงรีบถาม
“คุณวี
หลานสาวคุณย่าอุมารินทร์ที่เสียไป” พี่ชายตอบสั้นๆ แล้วเดินออกไปทันที
ให้ตายเถอะ หลานสาวคุณย่าอุมารินทร์
เพื่อนสนิทของคุณย่าปรานี ผู้หญิงเชย เฉยชา ไม่มีอะไรน่าดึงดูดใจเลยสักนิด
ทำไมต้องเป็นยายไม้เสียบผีไร้เสน่ห์น่ามองคนนี้ด้วย
พรตคิดว่าตนไม่ควรหาเหตุและผลของการแต่งงานอีกต่อไป เพราะพอจะเดาได้ว่ามาจากอะไร
แต่ควรคิดหาทางหนีทีไล่ที่จะไม่ต้องแต่งงานหรือทำยังไงให้ช้าที่สุดเท่าที่จะช้าได้ดีกว่า
1 เดือนต่อมา
พิธีแต่งงานของพรตและเมธาวีเกิดขึ้นท่ามกลางหมู่ญาติพี่น้อง
เพื่อนสนิทและพนักงานของบริษัทที่มาร่วมยินดี
พรตในชุดเจ้าบ่าวที่ไม่ยินดียินร้ายกับการแต่งงานในวันนี้
เช่นเดียวกับเมธาวีที่มีสีหน้าเรียบเฉยไม่รู้สึกรู้สาใดๆ
กับพิธีในวันนี้เช่นเดียวกัน
นายอำเภอจัดการเรื่องทะเบียนสมรสเรียบร้อยและประกาศให้ทั้งคู่เป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย
แม้เมธาวีจะคงไว้ซึ่งนามสกุลเดิมของตนและไม่เปลี่ยนคำนำหน้านางก็ตามที
เมื่อพิธีส่งตัวบ่าวสาวมาถึง คุณย่าปรานีซึ่งถือเป็นผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายก็อวยพรด้วยถ้อยคำมงคลในชีวิตคู่
บ่าวสาวก้มลงกราบรับพรด้วยสีหน้าเรียบเฉยเช่นเคย และเมื่อทุกคนออกจากห้องหอไปแล้ว
เมธาวีกับพรตก็นั่งนิ่งๆ สักพักเหมือนให้แน่ใจว่าหน้าห้องไม่มีใครอยู่
ก่อนที่พรตจะเป็นฝ่ายลุกขึ้นเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินออกจากห้องหอไป
โดยทิ้งท้ายถ้อยคำแรกในชีวิตสามีภรรยาไว้ให้เมธาวีว่า
“อยู่ไปให้สบาย
และหวังว่าจะไม่สร้างความวุ่นวายให้ชีวิตฉันนะ”
เมธาวีไม่มีน้ำตาสักหยดหรือรู้สึกเสียใจต่อการกระทำของพรตสักนิด
ตรงกันข้ามเธอโล่งใจที่ไม่ต้องอยู่ใกล้เขามากกว่า ตั้งแต่ที่รู้ว่าต้องแต่งงานกับพรตเพื่อให้คุณย่าได้จากไปอย่างสงบ
เมธาวีก็รู้อยู่แล้วว่าจะต้องเผชิญกับอะไรบ้าง
แต่เอาเถอะในเมื่อไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่านี้
เธอก็จะอดทนและรอให้ถึงวันที่คิดว่าสมควรที่จะเรียกร้องคำว่าอิสระจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี
1 ปีต่อมา
“หย่า”
พรตเสียงดังลั่นเมื่อหญิงชราบอกเรื่องสำคัญให้รู้
“ใช่ หย่าซะจะได้จบเรื่องจบราว”
นางปรานีเอ่ยอย่างหนักแน่น
“คุณย่าครับ ผมว่ามันตลกนะ
นึกจะแต่งก็แต่ง นึกจะหย่าก็หย่า หลานสะใภ้คุณย่าคนนี้มีปัญหาอะไรหรือเปล่า
ทำไมถึงไม่มีความคิดเป็นของตัวเองเลยสักนิด คนอื่นว่าไงก็ทำตามง่ายๆ”
ถึงพรตจะโล่งใจที่ได้ยินคำหย่า
แต่เขาก็อดคิดไม่ได้ว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกอะไรบ้างหรือไม่
“ฉันไม่ได้เป็นคนบอกให้หย่า
หนูวีเป็นมาขอหย่ากับแกเอง”
“หา ยายนั่นเป็นคนขอหย่าผม” พรตทวนคำอย่างประหลาดใจ
“ใช่ หนูวีไม่ต้องการสินสมรสใดๆ นอกจากใบหย่าเท่านั้น”
นางปรานีเอ่ยสั้นๆ
พรตนิ่งไปเล็กน้อยและคิดว่านี่เป็นเรื่องแปลกมากๆ
ผู้หญิงที่จะหย่าขาดจากสามีตัวเองแต่ไม่ต้องการสินสมรสเพื่อไปดูแลชีวิตหลังแต่งงาน
ซ้ำบอกเพียงแค่ว่าต้องการหย่าเพื่ออิสรภาพเท่านั้น น่าแปลกเกินไป
“แต่ฉันเห็นว่าวันมะรืนจะมีงานเลี้ยงใหญ่ของบริษัท
แล้วใครๆ ส่วนใหญ่ก็รู้ว่าแกกับหนูวีแต่งงานกันแล้ว
ฉันก็เลยอยากรักษาหน้าตาของแกเอาไว้ ด้วยการขอให้หนูวีมางานวันมะรืนก่อน
จบงานแล้วค่อยหย่าก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”
“รักษาหน้าผม คุณย่าครับ
การหย่านี้ยายนั่นเป็นฝ่ายเสียหายนะ ไม่ใช่ผมซิ” พรตส่ายหน้า
“แกจะมาห่วงอะไรหนูวี
ถ้าแกห่วงและคิดถึงความรู้สึกคนอื่นบ้าง แกจะไม่ทำตัวเหลวไหลแบบนี้
มีอย่างที่ไหนตั้งแต่แต่งงานมาจะครบปีแกแทบไม่เคยกลับมานอนบ้าน ถ้าจำเป็นจริงๆ
ชนิดที่เรียกว่าย่าไม่บังคับแกก็ไม่มา แกเคยทำหน้าที่สามีที่ดีเหมือนคนอื่นไหม เพราะฉะนั้นแกไม่ต้องคิดว่าหนูวีจะเสียหาย
แต่คิดเถอะว่าตัวเองจะเสียอะไรบ้าง”
“ผมจะเสียอะไรครับคุณย่า
ก็ไหนเราตกลงกันแล้วว่า ถ้าผมแต่งงานตามคุณย่าสั่ง
อยู่ได้หรือไม่ได้คุณย่าก็จะไม่ตัดผมออกจากกองมรดกไง” ชายหนุ่มทวนสัญญาที่ให้ไว้
“แกเป็นหลานฉัน ฉันก็คงไม่ใจดำตัดแกออกเพราะเรื่องแค่นี้แน่
แต่ที่ฉันบอกให้แกคิดก็คือ แกจะเสียครอบครัว เสียผู้หญิงดีๆ
เสียคนที่จะมาเป็นแม่ของลูกแกไหม นี่ต่างหากที่ฉันอยากให้แกคิด”
นางปรานีอดโมโหไม่ได้
“โอ๊ย คุณย่าครับ
ไอ้เรื่องพวกนี้ไม่ต้องห่วง รับรองว่าผมหาหลานสะใภ้ที่มีคุณสมบัติครบตามที่คุณย่าต้องการได้แน่”
“ย่ะ
หวังว่าคงไม่ใช่คนที่แกควงด้วยตอนนี้นะ” หญิงชราหมายถึงลินดา
ซึ่งเป็นแม่ม่ายทรงเสน่ห์ที่เลิกรากับสามีมาก่อนที่พรตจะแต่งงาน
และจนตอนนี้ทั้งคู่ก็ยังพัวพันกันจนกลายเป็นข่าวซุบซิบ
“รับรองว่าคุณย่าจะชอบและปลื้มกับหลานสะใภ้คนนี้ครับ”
พรตยืนยันแข็งขัน
“ตามใจ
เอาเป็นว่าหลังงานเลี้ยงบริษัทแกกับหนูวีก็จัดการเรื่องหย่าให้เรียบร้อย
เข้าใจไหมเจ้าพรต”
“ได้ครับ
เสร็จงานแล้ววันรุ่งขึ้นผมพร้อมหย่าทันที คุณย่าบอกหลานสะใภ้ได้เลยว่าผมพร้อมเสมอ”
พรตเอ่ยอย่างอารมณ์ดี ในขณะที่นางปรานีได้แต่ถอนหายใจ
พรุ่งนี้เจอกันตอนต่อไปนะคะ
|
|
|
ความคิดเห็น