ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF EXO Café] Gentle Love รักละมุน

    ลำดับตอนที่ #1 : [EXO Café] ::Dark Chocolate Intro::

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 297
      0
      5 ธ.ค. 55

     

    Intro

     

    สายลมเอื่อยเฉื่อยแห่งฤดูใบไม้ร่วงในเกาหลีใต้ พัดผ่านกระทบผิวหนังของเด็กหนุ่มซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งใจกลางกรุงโซล หูทั้งสองข้างเสียบเฮดโฟนเอาไว้ ราวกับต้องการจะอยู่ภายในโลกส่วนตัวของตนเองเพียงลำพังเท่านั้น ดวงตาเรียวสอดส่ายสายตาไปมาในกลุ่มผู้คนตรงหน้าที่เดินขวักไขว่ในเวลาแห่งการเร่งรีบ เพื่อมองหาบุคคลที่นัดให้มารอเจอกันตรงม้านั่งเล็กๆ แห่งนี้  

     

    ไม่นานนัก เสียงหอบหายใจก็ดังขึ้นถี่ๆ ที่ตรงข้างหู แบคฮยอนค่อยๆ เอามือปลดหูฟังที่ตัวเองเสียบเอาไว้อยู่ออก พร้อมมองคนข้างตัวอย่างสงสัย

     

    "แบคฮยอนอ่า! แฮกๆ..."

     

    "ใจเย็นๆ คยองซู ค่อยๆหายใจก่อน นี่วิ่งมาตั้งแต่ตรงไหนเนี่ย แล้วชานยอลไปไหนซะล่ะ"

     

    แบคฮยอนรีบลุกขึ้นแล้วดึงเพื่อนตัวเล็กของเขาให้นั่งลงข้างๆทันที มือบางค่อยลูบหลังให้คนที่ตัวเล็กกว่าอย่างแผ่วเบา คยองซูค่อยๆผ่อนลมหายใจเข้าออกให้เป็นจังหวะ เมื่อจังหวะหายใจกลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ก็รีบละล่ำละลักตอบทันที

     

    "กำลังเดินตามมาล่ะมั้ง ฉันรีบวิ่งนำมาก่อนน่ะ แต่ฉันมีเรื่องสำคัญจะบอกนายนะ ไม่สนใจบ้างเลยเหรอ" ว่าพลางทำหน้างุ้มงออย่างน่าสงสาร จนคนที่ตัวสูงกว่าอดไม่ได้ที่จะเอามือไปดึงแก้มยุ้ยๆ นั่นเล่นเป็นการขอโทษที่ไม่ยอมใส่ใจในคำพูดของคนตัวเล็ก 

     

    "แหม เอาน่า มีอะไรก็ว่ามาสิ"

                     คนตัวเล็กกว่าดึงมือของอีกคนลงมากุมเอาไว้และพยายามบังคับเสียงตัวเองไม่ให้สั่น ซึ่งไม่รู้ว่าเกิดจากการเหนื่อยหอบเพราะวิ่งมาเป็นระยะทางหลายกิโล หรือเพราะตื่นเต้นกับสิ่งที่กำลังจะพูดออกไปกันแน่

     

    "คือ.... ฉันกับชานยอล....."

     

    ".................."

     

    "....เราคบกันแล้วนะ!"

     

    "................!!!"

     
     

     

    ..........ฉันมายินดีให้กับรักที่สดใส..........

     

    "แบคฮยอน! แบคฮยอนอ่า! แหม เป็นยังไงล่ะ อึ้งไปเลยล่ะสิ"

     

    ".................."

      

    "...แฮกๆ... นี่คยองซู ใครใช้ให้นายรีบวิ่งมาก่อนห๊ะ!"

     

    เสียงทุ้มต่ำ ขัดกับใบหน้าหวานๆ ดังขึ้นด้านหลัง เป็นสัญญาณให้รู้ว่าเจ้าของชื่อ ชานยอล วิ่งตามมาถึงที่หมายแล้ว

     

    "ก็นายเดินช้าอ่ะ ฉันตื่นเต้นเรื่องของเรานี่นา เลยอยากรีบวิ่งมาบอกแบคฮยอนก่อน"

     

    "จากหน้ามอมาตรงนี้มันไม่ใช่ใกล้ๆนะโว้ย บอกให้นั่งรถมาก็ไม่เชื่อ"  ชานยอลค่อยๆ เดินไปทรุดนั่งข้างๆคยองซู คนตาโตค่อยๆ เอามือเล็กๆ โบกพัดลมตรงหน้าให้คนตัวโตแต่ขี้บ่นง้องแง้งไม่เข้าท่า พร้อมกับปากที่ออกเสียงเถียงออกมาเป็นระยะๆ



     

    ..........ยินดีที่เธอได้พบเจอ คนที่ดี  คนที่ควรคู่รักของเธอ……….

     
     

    ..........คนที่เข้ากันมากกว่าฉัน……….



     

    "มาว้ง มาโว้ยอะไร แหกตาดูสิว่ารถมันติดแค่ไหน นั่งมามีหวังพรุ่งนี้ก็ไม่ถึงหรอก"

     

    "อย่ามาเวอร์เถอะไอ้เปี๊ยก..."

     

    "อย่าเรียกไอ้เปี๊ยก!...."

     

    "อะ..อะไรนะแบคฮยอน...?" ชานยอลค่อยๆ ชะโงกหน้าไปถามแบคฮยอนที่อยู่ๆ ก็โพล่งเสียงดังขัดบทสนทนาขึ้นมาอย่างงงๆ คนตัวเล็กที่เหมือนจะพึ่งรู้สึกขึ้นได้ว่าทำอะไรไม่เข้าท่าลงไป รีบส่ายหน้าปฏิเสธเป็นพัลวัน พร้อมทั้งยันกายให้ลุกขึ้นยืน แล้วพูดกับเพื่อนสนิททั้งสองคนโดยที่ยังหันหลังให้อยู่

     

    "เอ่อ... ไม่มีอะไรหรอก ฮะๆ แล้วที่คบกันฉันก็ยินดีด้วยนะ แต่ฉันพึ่งนึกขึ้นได้ว่ามีธุระน่ะ ขอตัวก่อนนะพรรคพวก ^-^" หันมายิ้มบางๆ ส่งให้ทั้งสองคน แล้วรีบสาวเท้าออกมาจากบริเวณนั้นทันที

     





    ****************************************

     





     

     

    นี่มันเรื่องตลกร้ายหรือเปล่า....?  หรือผมแค่กำลังฝันไป? ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็ช่วยตื่นซักทีเถอะ ก่อนที่ผมจะทนรับความเจ็บปวดนี้ไม่ไหว เพื่อนรักทั้งสองคนของผม....อย่างนั้นเหรอ? เพื่อนรักที่ผมแอบชอบมาจะครบสามปีแล้วอย่างนั้นเหรอ...

     

    ขาของผมพาตัวเองออกมาจากสวนสาธารณะนั้นอย่างยากลำบาก..... แต่ถ้าไม่ออกมา เขาทั้งสองคน คงจะได้เห็นน้ำตาของผมแน่ๆ ซึ่งมันคงไม่ใช่เรื่องที่ดีซักเท่าไหร่ใช่มั้ย?  ในเมื่อคยองซูและชานยอลดูจะมีความสุขขนาดนั้น ผมจะไปขัดความสุขของเพื่อนที่ผมรักมากๆ ทั้งสองคนได้อย่างไร?? 

     

    เมื่อขาสองข้างของผมพาตัวเองมาหยุดที่หน้าร้านกาแฟร้านประจำ ผมก็ค่อยๆ ยกมือปาดน้ำตาที่ยังคงไหลออกมาไม่หยุดให้ออกไปจากใบหน้า ไม่อย่างนั้นพี่ๆ ทุกคนในร้านคงจะได้เข้ามาซักถามไม่หยุดเป็นแน่ 

     

    เมื่อยืนหลบทำใจอยู่หน้าร้านซักพัก ผมก็ค่อยๆ เดินขึ้นบันไดเตี้ยๆ หน้าร้าน ซึ่งมีพุ่มไม้ตกแต่งประดับขนาบข้างทั้งซ้ายขวา ใช้มือที่ว่างอยู่ดันประตูกระจกใสเพื่อเข้าไปสู่คาเฟ่ที่ผมมาประจำจนสนิทกับทุกคนในร้านไปแล้ว 

     

    กรุ้งกริ้ง~

     

    "ยินดีต้อนรับสู่ 'เอ็กโซ คาเฟ่' ครับ~"

     

    เสียงต้อนรับดังมาจากด้านหลังเคาเตอร์พร้อมกับร่างบางของพี่อี้ซิงที่พึ่งจะหยิบผ้ากันเปื้อนขึ้นมาใส่ พอออกมาแล้วเห็นผม พี่เขาก็ทำหน้ามุ่ยทันที คงจะไปขัดเวลาที่พี่เขากำลังคิดสูตรเค้กอยู่แน่ๆ เลย

     

    "อะไรเนี่ย แบคฮยอนของพวกเราเองเหรอ พี่ก็ว่าแล้ว ร้านจะปิดอยู่แล้ว ใครเขาจะมาเอาป่านนี้นอกจากนาย ฮ่าๆ"

     

    พี่อี้ซิงพูดขึ้นพร้อมกับพาผมไปนั่งที่โต๊ะด้านในซึ่งติดกับเคาเตอร์ ผมได้แต่หัวเราะแหะๆ ตอบกลับไป ไม่ได้ต่อความยาวสาวความยืดอะไร เพราะอารมณ์ของผมตอนนี้แค่กลั้นน้ำตาเอาไว้ให้ได้ก็แย่พออยู่แล้ว

     

    "รับอะไรดีครับคุณลูกค้าวีไอพี แล้วเพื่อนๆ ไปไหนซะล่ะวันนี้ เห็นปกติอยู่ไม่ห่างกันเลยนะ"

     

    ผมสะอึกไปเล็กน้อยเมื่อพี่เขาถามมาแบบนั้น... จะให้ตอบอย่างไรดีล่ะครับเนี่ย... ผมกลืนน้ำลายเหนียวๆ ในคอเล็กน้อย ก่อนจะแอบไขว้นิ้วเอาไว้ใต้โต๊ะ และโกหกคำโตออกไป

                   

    "พวกนั้นนัดไปติวกันน่ะครับ ผมเบื่อๆ เลยแยกตัวออกมาหาอะไรทานก่อนกลับหอน่ะฮะ แล้วพี่ๆ คนอื่นกลับบ้านไปกันหมดแล้วเหรอครับ?" ว่าแล้วก็เปลี่ยนเรื่องซะเลย 

     

                    “มีแค่ลู่ฮานที่ช่วยพี่คิดสูตรเค้กอยู่หลังร้านน่ะ นี่มันจะหนึ่งทุ่มแล้วนะ พนักงานคนอื่นๆ เค้าก็กลับบ้านกันหมดแล้วล่ะ”

     

                    พี่อี้ซิงพูดอธิบายพลางส่งรอยยิ้มพิฆาตมาให้ผม ที่ต้องเรียกว่ารอยยิ้มพิฆาตเพราะว่าเวลาที่พี่เขายิ้ม จะมีลักยิ้มบุ๋มเป็นรอยเล็กๆ ตรงแก้มด้านขวา ซึ่งทำให้พี่เขาดูน่ารักขึ้นมาเป็นร้อยเท่าเลยล่ะฮะ 

     

                    ผมนั่งดูเมนูซักพักก็เลือกเป็นเค้กดาร์กช็อกโกแลตและนมอุ่นๆ หนึ่งแก้ว  พี่อี้ซิงพยักหน้ารับพร้อมกันที่พี่ลู่ฮานเดินเอาน้ำเปล่ามาเสริฟ และผมก็โดนแอทแทคด้วยรอยยิ้มหวานจากพี่ลู่ฮานอีกคน ทำเอาเกือบลืมเรื่องเมื่อตอนเย็นไปเลย

     

                    “ว่าไงแบคฮยอน ทำไมวันนี้มาซะเย็นเชียวล่ะ พวกพี่กำลังจะปิดร้านพอดีเลย”

     

                    “แหะๆ คือวันนี้มีติวกันน่ะครับ กว่าจะแยกตัวออกมาได้ก็นานอยู่”

     

                    ผมส่งรอยยิ้มบางๆ ไปให้พี่ลู่ฮานและโกหกคำโตออกไปอีกครั้ง  พี่ลู่ฮานพยักหน้ารับและเดินไปรับเค้กจากมือพี่อี้ซิงเอามาวางไว้ตรงหน้าผม พร้อมกับนมร้อนๆ ที่พี่อี้ซิงถือเดินตามมาวางลงมาเป็นลำดับถัดไป  ผมยิ้มขอบคุณพี่ๆ ทั้งสองคนแล้วหันมาสนใจเค้กตรงหน้า

     

    รสชาติขมฝาดลิ้นผสมกับความหวานนิดๆ แบบที่ผมหลงใหลทำให้ผมอารมณ์ดีขึ้นมาก มาคิดทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นดูก็คงจะเป็นเพราะผมเองที่มัวแต่แอบมองเขาและไม่คิดจะบอกความในใจออกไป จะไปโทษใครก็คงไม่ได้นอกจากโทษตัวเอง

     

    ....หวังว่าพวกนายทั้งสองคนจะมีความสุขมากๆ นะ.... รักแรกของฉัน.... ไอ้เปี๊ยกของฉัน.... โดคยองซู......



    To be continued.

     


     

    Penne’KBH Talk: ฝากไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ :)

    B B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×