คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : 二
7.00 at Beijing
“มึง...เคยตกหลุมรักใครทั้งที่รู้ว่าเขามีเจ้าของแต่ก็ยังรักป่ะว่ะ”
วันนี้จงอินแต่งตัวเสร็จแล้วกว่าปกติ รวมถึงรีบรบเร้าให้คุณแม่ทำอาหารเช้าให้ทานไวไวด้วย เพราะอะไรนะหรอ? เพราะเขากลัวจะไปโรงเรียนพร้อมพี่ลู่หานไม่ทันนะสิ เหตุผลก็มีแค่นี้แหละครับ
พอทานอาหารเช้าเสร็จก็ล่ำลาคุณแม่ ก่อนเดินไปเอาจักรยานสีแดงสดที่จอดไว้ตรงลานหน้าบ้านแล้วรีบขี่มารอที่ประตูรั้วหน้าบ้านทันที อ่า...พี่ลู่หานออกมาล่ะ จงอินปลดล๊อกประตูรั้วบ้านก่อนจะหยุดชะงักไปเมื่อเห็นผู้ชายที่ชื่อเซฮุนเดินตามพี่ลู่หานออกมาพร้อมจูงมือมาที่รถBMWคันงามที่จอดอยู่ตรงประตูรั้วหน้าบ้านก่อนที่ทั้งคู่จะขึ้นรถแล้วขับออกไป จงอินมองตามรถยนต์ยี่ห้อหรูไปสุดสายตาด้วยความรู้สึกที่หน่วงๆอยู่ในอก
ถ้าพี่จะไม่ไปโรงเรียนพร้อมผมแต่แรก...พี่ก็ไม่ควรให้ความหวังผมแบบนั้นนะครับ
จงอินยืนถอนหายใจก่อนจะรีบขี่จักรยานไปโรงเรียนทันที เมื่อมาถึงหน้าโรงเรียนก็เห็นรุ่นพี่ข้างบ้านที่คุ้นเคยยืนอยู่ตรงหน้าประตูทางเข้า จงอินลงจากจักรยานแล้วเดินจูงผ่านหน้าไปโดยไม่ทักทายลู่หานสักนิด ลู่หานหันหลังมองตามก่อนอดคิดไม่ได้ว่าจงอินเป็นอะไร หรือว่าจะไม่พอใจที่เมื่อเช้าเขามากับเซฮุน อ่า ต้องใช่แน่ๆเลยก็ลู่หานจำได้ว่าเขาเองเป็นคนชวนเด็กคนนี้ให้มาโรงเรียนพร้อมกันและเป็นคนเขาเองที่ผิดสัญญา เมื่อคิดได้อย่างนั้นลู่หานก็รีบวิ่งตามเด็กหนุ่มตัวสูงไปทันที
“จงอินอา วันนี้ไม่ทักทายพี่ลู่เลย พี่ลู่เสียใจนะ” ลู่หานวิ่งไปยืนข้างๆก่อนเอ่ยทักทายด้วยเสียงใสๆตามฉบับของเจ้าตัว
“ขอโทษครับ ผมไม่เห็น” จงอินตอบเรียบๆก่อนจูงจักรายานไปจอดตรงที่จอดจักรยานโดยเฉพาะ ลู่หานยื่นมือออกไปดึงแขนจงอินไว้ก่อน
“นี่พี่ลุ่ขอโทษนะที่เมื่อเช้าพี่ลู่มาพร้อมกับเซฮุนอ่ะ ก็เซฮุนเขาอยากมาส่งพี่ลู่น่ะพี่ลู่ก็เลย...”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมไม่ได้โกรธอะไร” หรอ...
“ไม่ได้โกรธที่ไหนล่ะจงอินเมินพี่ลู่เลยนะทั้งที่พี่ลู่ยืนอยู่ตรงหน้าแท้ๆ จงอินยังไม่ยอมหมองน้าพี่ลู่เลย” ลู่หานเถียงขึ้นมา เจ้าเด็กบ้า! โกรธก็บอกว่าโกรธสิ
“ผมเปล่า...”
“คิมจงอิน!”
“เฮ้อ ก็ได้ครับผมโกรธ พี่ลู่พอใจยัง” จงอินยกมือเป็นเชิงยอมแพ้แล้ว
“ก็แค่นี้แหละ พี่ลู่ขอโทษนะ ดีกันๆ” ลู่หานยื่นนิ้วก้อยมาตรงหน้าก่อนจะยิ้มกว้างเมื่อจงอินยื่นนิ้วก้อยของตัวเองมาเกี่ยวไว้กับคนตัวเล็ก
ยอมแล้ว! คิมจงอินยอมแพ้ลู่หานแล้ว
“จงอินน่ารักที่สุดเลย ตั้งใจเรียนนะวันนี้” ลู่หานว่าก่อนจะเขย่งตัวยีหัวเด็กหนุ่มตรงหน้า แล้วเดินเข้าอาคารเรียนไป จงอินยืนมองตามพร้อมยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
“อ่ะแฮ่ม! ยิ้มหวานอะไรครับเพื่อนมึง” จื่อเทาเดินเข้ามาทักทายเมื่อเห็นเพื่อนซี้ยืนยิ้มหวานอยู่หน้าอาคารเรียน
“.............” มันไม่ตอบเอาแต่ยืนยิ้ม ท่าจะบ้า!
“เฮ้ย มึงเป็นไรป่ะเนี่ย” จื่อเทาเขย่าตัวจงอินอย่างแรงเพื่อให้ได้สติ
“มึง...เคยตกหลุมรักใครทั้งที่รู้ว่าเขามีเจ้าของแต่ก็ยังรักป่ะว่ะ” จงอินเอ่ยถามเพื่อนซี้ขึ้นมา
“เคยดิ ก็อี้ชิงไง มึงถามทำไมว่ะ”
“แล้วมึงรู้สึกยังไงว่ะตอนที่เขาอยู่กับแฟนของเขาตรงหน้ามึง โดยมองข้ามหัวมึงไป”
“ก็เจ็บดิว่ะ แอบรักเขามีแต่เจ็บกับเจ็บอยู่แล้ว” จื่อเทาตอบก่อนจะนึงถึงใบหน้าหวานของอี้ชิงยามยิ้มหัวเราะตอนที่อยู่กับแฟนของเจ้าตัว เมื่อไรจะเลิกกัน! นี่แช่งด้วยความรักอยู่ทุกวันเลยนะนี้
“นั้นสินะ กูแม่.งโคตรเจ็บเลยว่ะ” จงอินพูดก่อนจะแค่นยิ้มให้ตัวเองอย่างสมเพช
“มึงแอบชอบใครว่ะ ห้ามบอกว่าเป็นอี้ชิงนะเว้ย กูไม่ให้!” จื่อเทาโวยวาย
“ไม่ใช่ดิ รุ่นพี่ข้างบ้านกูนะ” จงอินรีบตอบก่อนที่จื่อเทาจะโวยวายมากกว่าเดิม
“อ้อแล้วไป เขามีแฟนแล้วหรือไงมึงถึงได้รู้ตัวว่าตัวเองอกหักตั้งแต่ยังไม่เริ่มจีบเนี่ย”
“กูเห็นเขาอยู่ด้วยกันในบ้านหลังเดียวกัน ชัดพอมั้ย”
“ชัดแจ่มแมวไปเลยเพื่อน เอ่อะ..กูก็ไม่รู้จะช่วยมึงยังไงนะเพราะกูก็สถานการณ์เดียวกับมึงเนี่ย” จื่อเทาพูดก่อนจะเกาหัวแกร็กๆอย่างจนปัญญา
“เออช่างแม่.งเห่อะ ถ้าทำอะไรไม่ได้ก็แค่แอบรักเขาต่อไป”
“โอ้โหว คมชิบหายยืมไปหั่นผักที่บ้านหน่อย”
“หั่นผักเชี่ยไรมึง ไปเรียนไป๊” จงอินว่าก่อนจะเดินหนีขึ้นอาคารเรียน
“อ้าวไอ้ดำรอกูด้วย”
หลังจากคาบเรียนช่วงเช้าผ่านพ้นไป เวลาพักกลางวันก็มาถึงนักเรียนทุกคนรีบกรูกันออกจากห้องเรียนไปช่วงเวลาพักกลางวันเป็นช่วงเวลาที่เด็กนักเรียนรอคอยพอๆกับช่วงเวลาเลิกเรียนจะให้พลาดไปแม้แต่นาทีเดียวก็ไม่ได้ สองเพื่อนซี้เดินมาที่โรงอาหารแวะซื้อของกินเล็กน้อยก่อนนจะเดินไปหาที่สงบๆกินเพราะโรงอาหารมีขนาดเล็กมากเมื่อเทียบกับจำนวนนักเรียนที่มีอยู่ในโลกเรียนนี้
“เชี่ยคนเยอะตั้งแต่กูเรียนมอต้นยันขึ้นมอปลายแล้ว ผอ.นี้ไม่เคยคิดอยากจะพัฒนาโรงอาหารมั้งไงว่ะ เงินบริจาคก็ได้เยอะแยะ” จื่อเทาบ่นโวยวายก่อนกัดขนมปังคำโตแล้วดื่มนมตาม
“เขาอาจจะเอาเงินไปพัฒนาส่วนอื่นอยู่หรือป่าว”
“พัฒนาอะไรล่ะ กูอยู่ตั้งแต่สนามฟุตบอลเป็นหญ้ารุ่งริ่งแม่.งทุกวันนี้ก็ยังเป็นแบบนั้น กูไปเตะบอลที่นี้แทบกินฝุ่นแทนข้าวล่ะ”
“มึงนี้ขี้บ่นจริง ฮ่าๆ” จงอินส่ายหัวให้กับความขี้บ่นของเพื่อนตัวเขียวที่กินขนมปังไปบ่นไปไม่หยุด
“ก็มันจริงนี้หว่า”
“รีบๆกินเห่อะว่ะจะถึงเวลาเรียนแล้ว”
“อะไรว่ะ เรียนอีกแล้วหรอ โอ๊ยกูอยากกลับบ้าน”
"ให้มันกลับจริงเห่อะบ้านอ่ะไม่ใช่ไปเฝ้าอี้ชิงซ้อมเต้นต่อ”
"ไม่เว้ย วันนี้อี้ชิงไม่มีซ้อมเต้นกูไปถามเขามาล่ะ”
“อ่อ สงสัยเขาไปเดทกับแฟนแน่เลย โอ๊ยย เตะกูทำไมเนี่ย” จงอินร้องเมื่อถูกจื่อเทาเตะเข้าให้ที่น่องขา
“ไอ้เชี่ยดำ ปากมึงอ่ะ มานี้เลย อย่าหนีดิว่ะ” จื่อเทารีบวิ่งตามเมื่อจงอินวิ่งหนีขึ้นอาคารเรียนไป
เมื่อคาบเรียนช่วงบ่ายใกล้เริ่มขึ้นเด็กนักเรียนก็พากันทยอยมานั่งที่ให้เรียบร้อย จื่อเทาและจงอินนั่งแยกกันตามลำดับเลขที่ที่ถูกจัดไว้ให้นั่นทำให้จื่อเทาไม่พอใจเป็นอย่างมากเพราะเจ้าตัวอยากจะนั่งกับเพื่อนซี้นะสิ
ครูนี้ไม่มีเพื่อนสนิทหรือไงในชีวิต!
แอ๊ดดด
เสียงเปิดประตูเรียนเปิดกว้างออก เป็นคุณครูผู้ชายผิวขาว หน้าตาดีเดินเข้ามาแทนที่จะเป็นครูผู้ชายอ้วนลงพุงที่พวกเขาเรียนอยู่ด้วย ใบหน้าหวานสวยมองไปรอบๆห้องก่อนจะไปหยุดที่เด็กหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังฟุบหลับบนโต๊ะนักเรียน
“คิมจงอิน นี้มันเวลาจะเรื่มเรียนแล้วนะ มานอนได้ยังไง”
หื้อ! เสียงคุ้นๆ จงอินลืมตามองก่อนจะเบิกตากว้างอย่างตกใจ พี่ลู่หาน ทำไมมาอยู่ที่ห้องเรียนของพวกเขา
“พี่ลู่...” จงอินพึมพำเบาๆ
“โย่ว! สวัสดีนะเด็กๆ วันนี้พี่ลู่จะมาสอนแทนอ.หลี่ที่ลาขาดไปเพราะมีธุระ เอาล่ะวันนี้มีเรียนภาษอังกฤษกันใช่ไหม เอาหนังสือขึ้นมาเลย” ลู่หานว่าก่อนจะเปิดหนังสือเรียนของตัวเองแล้วเดินไปเขียนอะไรบางอย่างบนกระดานดำ
‘What is Love?’
“ความรักคืออะไร? ไหนใครจะเป็นคนแรกที่จะตอบพี่ลู่ได้ครับ” ลู่หานพูดแล้วยิ้มหวานส่งให้เด็กๆที่พากันหน้านิ่วคิ้วขมวดหาคำตอบกันใหญ่
“ผมขอตอบ” เป็นจงอินที่เป็นหน่วยกล้าตายตอบก่อนคนแรก
“ไหนตอบมาครับ เป็นภาษาอังกฤษด้วยนะ” ลู่หานพยักหน้ารับเมื่อเห็นจงอินเป็นคนขอตอบ
“Love Is Pain. Love Is Blind. Love is when you keep hurting me but I’m still love you.” จงอินตอบด้วยสำเนียงภาษาอังกฤษอย่างชำนาญ ก็แน่ละเขาเป็นลูกนักการทูตนี้
‘ความรักทำให้เจ็บปวด ความรักทำให้คนตาบอด ความรักคือเมื่อคุณทำให้ผมเจ็บแต่ผมก็ยังรักคุณอยู่’
ลู่หานก้มหลบสายตาของจงอินที่มองตรงมาอย่างสื่อความหมาย
“จงอินเอาไปห้าคะแนน ส่วนคนอื่นกลับไปเขียนมาเป็นการบ้านให้พี่ลู่ด้วยนะครับ แล้วเอามาส่งภายในวันพรุ่งนี้นะ ใครมีอะไรสงสัยไหม” ลู่หานถามแต่ไม่มีนักเรียนคนไหนยกมือสักคน
“งั้นวันนี้แค่นี้นะครับ พี่ลุ่ไปล่ะ” แล้วลู่หานก็เก็บหนังสือ ลบกระดานแล้วเดินออกจากห้องไป
“ดีจัง พี่ลู่อะไรนี้มาไวไปไวดีแฮะ น่าจะย้ายมาสอนห้องเราเลยนะเนี่ย” จื่อเทาพูดอย่างอารมณ์ดี
“อื้อ” จงอินขานรับอย่างเห็นด้วย ถ้าพี่ลู่หานย้ายมาสอนห้องเขา จงอินก็จะได้เห็นพี่ลู่หานทุกวันโดยไม่ต้องคอยแอบมองจากห้องนอนตัวเอง
เมื่อเวลาเลิกเรียนมาถึงนักเรียนคนอื่นก็กรูออกจากห้องไปโดยทันที แน่นอนว่าไอ้เพื่อนซี้อย่างจื่อเทาอีกคนที่เป็นแบบนั้นยิ่งมันนะแทบจะติดปีกวิ่งไปเลยทีเดียวเพื่อไปตามดูอี้ชิงของมันว่าวันนี้เจ้าตัวไปไหนถึงไม่ยอมไปซ้อมเต้น บางทีก็คิดนะว่าอี้ชิงทนได้ไงไม่รำคาญบ้างหรอขนาดเขาที่เป็นเพื่อนมันยังเบื่อเลยก็เล่นบ่นถึงอี้ชิงให้ฟังสามเวลาหลังอาหารแบบนี้
จงอินขี่จักยานกลับแบบไม่รีบร้อนอะไรนัก เขาขี่ไปอย่างช้าๆแล้วมองวิวรอบๆบริเวณข้างทาง ขี่ผ่านผู้คนที่เดินกันอย่างขวั่กไขว้ไปมา พลางนึกถึงตอนที่ได้เดินมาเรียนและกลับบ้านพร้อมพี่ลู่หาน จงอินยังจำได้ว่าพี่ลู่หานติดมือถือมากขนาดไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาจากหน้าจอเลยทีเดียว ไม่รู้ในนั้นมีอะไรน่าสนใจทั้งๆที่เดินอยู่กับเขาแท้ๆ แต่จงอินก็ไม่รู้สึกโกรธหรือน้อยใจอะไรทั้งนั้น เขารับที่พี่ลู่หานเป็นแบบนี้ได้ แต่เมื่อเช้านี้เขายอมรับว่าน้อยใจนิดหน่อยที่พี่ลู่หานเลือกที่จะไปกับคนที่ชื่อเซฮุนมากกว่าเขาที่สัญญาเอาไว้ ว่าจะไปโรงเรียนพร้อมกัน แต่ทำไงได้เขามันก็เป็นแค่คนข้างบ้านกันอย่างที่พี่ลู่หานว่านั้นแหละ
เพราะคิดอะไรเพลินๆโดยไม่สังเกตทางให้ดี จักรยานที่จงอินขี่เลยไปทิ่มเข้ากับตะปูตัวหนึ่งที่อยู่บนริมถนน ทำให้ล้อจักรยานแบนทันทีแต่ดีที่จงอินไม่ได้ขี่เร็วมากนักเลยไม่ได้เป็นอะไรแค่เพียงตกใจเล็กน้อย
“บ้าจริง มายางแบนอีก เฮ้อ” จงอินก้มลงดูล้อจักยานที่แบนแฟ่บไปแล้ว ไม่มีทางเลือกล่ะคงต้องจูงกลับบ้าน พรุ่งนี้ค่อยเอาไปเปลี่ยนเพราะยังไงพรุ่งนี้เขาก็ไม่มีเรียนอยู่แล้วเพราะเป็นวันหยุด จงอินเดินจูงจักรยานไปเรื่อยๆจนกระทั่งมีรถBMWคันงามที่คุ้นเคยตามาจอดตัดหน้าเขาเอาไว้ จงอินเพ่งมองคนที่อยู่บนรถแต่มองไม่เห็นเพราะรถติดฟิล์มดำเอาไว้ จงอินจูงจักรยานเข้าไปใกล้ๆก่อนจะตกใจเมื่อคนที่ลงมาจากรถคือ ‘เซฮุน’
“รถจักรยานนายเป็นอะไรหรอ” เซฮุนเอ่ยถามเด็กตรงหน้า
“ยางแบนนะครับ” จงอินตอบอย่างไม่เต็มเสียงนัก เขาไม่เข้าใจว่าเซฮุนจะจอดรถลงมาคุยกับเขาทำไมกัน
“อ่อ เอาจักรยานขึ้นหลังรถสิ เดี๋ยวฉันไปส่งที่บ้าน” เซฮุนว่าก่อนกดฝาหลังรถให้เปิดออกแล้วเดินมาดึงจักรยานสีแดงสดขึ้นหลังรถ แต่จงอินดึงเอาไว้ก่อน
“ไม่เป็นหรอกครับ อีกแค่นิดเดียวจะถึงบ้านผมแล้ว ผมจูงไปเองดีกว่า”
“เอาหน่า ทางผ่านไปบ้านฉันพอดี เดี๋ยวฉันไปส่งนะ” เซฮุนยังคงตื้ออยู่
“ถ้างั้นก็รบกวนด้วยนะครับ” จงอินโค้งขอบคุณก่อนจะพารถจักรยานขึ้นไปไว้บนหลังรถBMWของเซฮุน
“เอาล่ะ ขึ้นรถสิ” เซฮุนว่าก่อนเดินขึ้นฝั่งคนขับ จงอินมองก่อนจะเปิดประตูรถอีกฝั่งแล้วขึ้นไปนั่ง
บรรยากาศบนรถเป็นไปอย่างน่าอึดอัดแต่มันก็เป็นแค่จงอินที่รู้สึกไปคนเดียว เพราะเซฮุนขับรถไปแล้วก็ฮัมเพลงไปอย่างอารมณ์ดี มีบางครั้งที่เหลือบมามองจงอินบ้าง
“ไม่ต้องกลัวฉันหรอก นั่งตามสบายนะ บ้านนายไปทางไหนแล้ว” เซฮุนหันมาถามเมื่อมาถึงทางสี่แยก
“เลี้ยวทางซ้ายมือครับ” จงอินชี้บอกทาง
“ไปทางเดียวกับบ้านฉันเลยแฮ่ะ” เซฮุนว่าก่อนขับรถไปตามทางเรื่อยๆ
“ผมอยู่บ้านฝั่งตรงข้ามกับคุณ”
“จริงหรอ?อ่า...จริงสิ ฉันลืมสังเกตนายให้ดีเลยนายเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกับที่ลู่หานเป็นคุณครูนี้หน่า”
“ครับ แต่ว่าผมไม่ได้เรียนห้องที่พี่...เอ่อ...ครูลู่หานสอนหรอกครับ” จงอินยั้งปากไว้ได้ทันก่อนที่จะหลุดเรียกชื่อพี่ลู่หานออกมาอย่างสนิทสนม
“งั้นหรอ นายชื่ออะไรน่ะ”
“ผมคิมจงอินครับ”
“หื้ม นายเป็นคนเกาหลีหรอ? เหมือนฉันเลย” เซฮุนแสดงความแปลกใจที่ได้รู้ว่าเด็กข้างบ้านเป็นคนเกาหลีเหมือนเขา ก็ว่าอยู่ทำไมพูดภาษาจีนแปร่งๆออกสำเนียงไปทางเกาหลีมากกว่า
“ครับ ผมเป็นคนเกาหลี เกิดที่เกาหลีแล้วย้ายตามคุณพ่อมาเรื่องงานของคุณพ่อนะครับ” จงอินอธิบายให้ฟัง
“อ่อ ยินดีที่ได้รู้จักนะจงอิน ฉันชื่อโอเซฮุน ฉันเป็นรุ่นพี่นายแล้วล่ะฉัน26แล้ว” เซฮุนแนะนำตัวเองพลางยักคิ้วให้
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมปีนี้16ปี”
“โหวเด็กกว่าสิบปีเลยอ่ะฮ่าๆ”
“เอิ่ม..ครับ” จงอินเกาท้ายทอยแก้เขิน
เด็ก16แล้วไง
“นายคงรู้จักลู่หานแล้วใช่มั้ย ภรรยาฉันก็26เท่าฉันเลยฮ่าๆ” เซฮุนพูดอย่างติดตลกก่อนจะจอดรถเมื่อมาถึงหน้าบ้านของตัวเอง
“ภรรยา...หรอครับ” เกือบหนึ่งนาทีที่จงอินนิ่งเงียบไปก่อนเอ่ยปากถามออกมา
“อื้อ ลู่หานภรรยาฉันเอง เราแต่งงานกันเมื่อสองปีที่แล้วน่ะ อ่ะ ถึงบ้านแล้วนะจงอิน” เซฮุนบอกก่อนลงจากรถไปยกรถจักรยานมาวางไว้ให้หน้าประตูรั้วบ้านของจงอิน
นานเกือบสิบนาทีกว่าจงอินจะตั้งสติได้ก่อนจะเดินลงจากรถมาหยุดอยู่ที่หน้าบ้านของตัวเอง
“เป็นอะไรหรือป่าวจงอิน ดูแปลกๆไปตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ” เซฮุนทักก่อนโบกมือไปตรงหน้าจงอินเพื่อเรียกสติเด็กหนุ่มตรงหน้าที่ยืนนิ่งไป
“เอ่อผมไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมากนะครับที่มาส่ง” จงอินโค้งขอบคุณทันทีก่อนรีบจูงจักรยานเข้าบ้านไป
เมื่อเข้ามาในบริเวณบ้านจงอินก็รีบจอดจักรยานแล้วรีบวิ่งขึ้นห้องนอนทันที ทำเอาคุณแม่ที่นั่งดูโทรทัศน์หันมามองด้วยความแปลกใจ
“จงอินเป็นอะไรหรือเปล่าลูก” คุณนายคิมเดินตามมาหาลูกชายที่ห้องนอน แต่ก็พบว่าลูกชายของเธอล๊อคประตูห้องไว้
“เปล่าครับ ผมไม่เป็นไร” จงอินตะโกนตอบออกมาเพื่อให้คุณแม่ของเขาสบายใจ
แม่ครับ...ผมเจ็บมากเลย แอบรักเขาทำไมเจ็บขนาดนี้ครับแม่
ลู่หานภรรยาฉันเอง เราแต่งงานกันเมื่อสองปีที่แล้วน่ะ
ประโยคนี้วนอยู่ในหัวจงอินเป็นพันๆครั้งจนเขาจำได้ขึ้นใจ นี้มันยิ่งกว่าแอบชอบรุ่นพี่ข้างบ้านสักอีก เขาเหมือนคนที่บาปหนามาก เพราะเขากำลังตกหลุมรักภรรยาของคนอื่น พระเจ้าจะให้อภัยเขาหรือเปล่า...
ตอนนี้จงอินไม่ได้ช้าไปแค่สิบปีหรอก แต่จงอินช้าไปทั้งชีวิตแล้ว
มีเพลงฉันเหมือนโดนยิงมั้ย...
แอบรักข้างเดียวว่าเจ็บอีกแล้ว...
แต่นี้แอบรับเมียคนอื่นอะไรเจ็บยิ่งกว่า..คำตอบคือ คิมจงอิน
เอ็นจอยรีดดิ้งค่า ^^
19.10.14
O W E N TM.
ความคิดเห็น