ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF] EXO ALL x JONGDAE

    ลำดับตอนที่ #15 : รักในรอยแค้น [KrisChen]100 % ครบแล้ว

    • อัปเดตล่าสุด 23 ส.ค. 56



     

    KrisChen รักในรอยแค้น

     

                ผมเคยรักในสายฝน ไม่เคยกลัวกับเสียงฟ้าร้อง หากแต่วันนี้ผมกลับเกลียดสายฝน กลัวฝ้าผ่า เพราะผู้ชายคนนั้น ผู้ชายคนที่เข้ามาในชีวิตผมในวันที่สายฝนตกกระหน่ำ ชายผู้ประกาศิตชีวิตของผมเอาไว้
     

                “พี่ชายนายทำน้องชายฉันเจ็บปวดมากแค่ไหน ฉันก็จะทำให้นายเจ็บปวดมากกว่านั้นอีกเป็นพันเท่า”
     

                ทำไม เพราะอะไร เพราะว่าเขาเป็นน้องชายคนเดียวของคิมจุนมยอนหรือ ชีวิตเขาถึงได้ถูกทำร้ายอย่างนี้ ตลอดสามวันที่ผ่านมามันช่างโหดร้าย ผู้ชายคนนั้นทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจของเขาเสียจนไม่เหลือชิ้นดี ความบอบช้ำทางร่างกายยังไม่มากเท่าที่จิตใจได้รับ ทั้งคำดูถูก เหยียดหยาม ด่าทอ บังคับขู่เข็ญ เมื่อไหร่เรื่องราวทุกอย่างมันจะจบลงเสียที
     

                “ทำไมไม่กินข้าว”
     

                “ผมไม่หิว”
     

                “หึ ถ้านายไม่กิน แล้ววันนี้จะมีแรงให้ฉันเล่นได้อย่างไร คนสวย”
     

                นิ้วเรียวลูบไล้ใบหน้าหวานอย่างเบามือแต่ก็กลับมาบีบพวงแก้มให้ริมฝีบางอิ่มอ้าออกมาแล้วจัดการป้อนข้าวต้มใส่ไป ร่างเล็กที่ถูกป้อนข้าวให้สำลักออกมาเพราะความร้อน
     

                “แค่ก แค่ก”
     

                “รีบกินเถอะนะที่รัก คงรู้ว่าวันนี้จะโดนลงโทษอย่างไงที่ขัดใจฉัน” ฝ่ามือหนาลูบไล้ไปตามกายบางที่สั่นเทา ค่อยเคลื่อนไปที่จุดกลางตัวแล้วบีบอย่างแรงจนร่างเล็กต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บ
     

                “ฉันเกลียดนาย อู๋อี้ฟาน”
     

                “ดี ยิ่งเกลียดยิ่งดี เพราะนายจะได้รู้สึกเกลียดร่างกายตัวเองที่เป็นของฉัน โอ๊ะโอ พี่ชายที่แสนดีของนายจะเป็นอย่างไงถ้ารู้ว่าน้องของตัวเองต้องมาเป็นเมียฉัน นอนครางอยู่ใต้ร่างฉันทุกวัน  อ่า ฉันจะส่งวีดีโอนั้นให้พี่นายได้ดูดีไหม ว่าน้องของมันก็ร่านไม่แพ้กับพี่ชายเหมือนกัน”
     

                “แก ไอ้เลว”
     

                “จุ๊ๆ อย่าเรียกผัวตัวเองอย่างนั้นสิที่รัก รีบกินข้าว อาบน้ำ ขัดตัว รอนอนอ้าขาให้ผัวเอาสิจ๊ะ หึ”ร่างสูงผละร่างบางให้ล้มลงก่อนจะเดินออกไปอย่างไม่ใยดี ทิ้งให้ห้องทั้งห้องเต็มไปด้วยเสียงสะอื้นของร่างบางอย่างที่เป็นมาตลอดทั้งสามวัน
     

                “พี่จุน เมื่อไหร่จะมาช่วยผมสักที”

    ***********************************************************
     

                เช้าแล้วแต่ร่างบางก็ยังคงนอนอยู่บนเตียงนุ่ม ไม่ใช่เพราะนอนสบายจนไม่อยากลุก แต่ไม่มีแรงที่จะลุกต่างหากอีกครั้งวงแขนแกร่งที่กอดกักเอาไว้ไม่ให้หนีไปไหน เพียงแค่ดิ้นนิดเดียวก็รู้สึกได้ ผิวขาวเต็มไปด้วยร่องรอยสีแดงที่เกิดจากการลงโทษ บทลงโทษที่เขาได้รับแต่ละครั้งนั้นมีแต่ความรุนแรง โหดร้ายและป่าเถื่อนจนร่างกายที่บอบบางอยู่แล้วอ่อนแอมากกว่าเดิม สัมผัสเย็นเบาๆที่ไหล่เปลือยเปล่าทำให้เขารู้สึกตัวว่าอีกคนนั้นได้ตื่นแล้ว
     

                “จุ๊บ ตื่นแล้วหรือไง”ลมหายใจร้อนของอีกคนคลอเคลียอยู่ริมหูที่ตอนนี้เริ่มแดงแด้วยความอายเพราะมือหนาของอีกคนนั้นกำลังเล่นอยู่กับจุดที่อยู่กึ่งกลางร่างกายของเขา รับรู้ถึงความแข็งขืนของอีกคนในร่างกาย
     

    “คะ ครับ”
     

    “หัดพูดดีๆอย่างนี้สิ อ่า ฉันจะได้เมตตานายไง ขึ้นมาคร่อมตัวฉันสิ”นั่นสินะ บางทีเขาคงต้องยอมทำตามคำสั่งของคนคนนี้ หากแต่บางครั้งร่างกายก็ไม่ไหวพอที่จะทำตามได้
     

    “อืม คุณคริส ผมขอร้อง ผมไม่ไหวแล้วจริงๆ”
     

    “หืม ไม่ไหวอย่างนั้นหรอ”ร่างใหญ่จับให้ร่างบางขึ้นมาอยู่บนตัวของตัวเองโดยไม่สนใจคำขอของร่างบางเลย กระทำกับร่างบางเหมือนกับที่ทำมาทั้งคืนหากแต่คราวนี้อ่อนโยนขึ้นมากกว่าเดิมอาจเป็นเพราะร่างบางไม่ได้ขัดขืนเหมือนคราวที่แล้วมา ร่างบางที่เหมือนว่าจะหมดแรงโงนเงนลงมาซบบนอกเขา ร่างกายและลมหายใจที่เขาพึ่งสังเกตว่ามันร้อนมากไม่ใช่เพราะเหนื่อยจากกิจกรรมที่ทำกันแต่เป็นเพราะพิษไข้ที่กำลังเล่นงานอยู่ ทำเอาเขาต้องรีบถอนแก่นกายของตัวเองออกมาแล้วสั่งให้คนสนิทมาเช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ร่างบาง
     

    “ท่านคริส ผมรู้ว่าคุณหนูเล็กสำคัญแค่ไหนสำหรับท่าน สำหรับพวกเรา แต่ว่าคุณจงแดเธอไม่ได้เป็นคนทำ เธอไม่รู้เรื่อง ท่านควรปล่อยเธอ”
     

    “หึ เพราะคิมจงแดเป็นน้องของคนนั้นไงยิ่งควรที่ต้องทำลาย”
     

    “ท่านคริส แต่ว่าคุณจงแด เธอไม่ใช่คนนั้น คิมจงแดไม่ใช่คิมจุนมยอน ความเจ็บปวดมันไม่สามารถถ่ายทอดให้ใครได้ ท่านคิดอะไรกันแน่”
     

    “เพราะมันทำลายอาเทา มันที่ทิ้งอาเทาไปจนทำให้อาเทาต้องฆ่าตัวตาย เพราะมัน ผมจะทำให้มันได้รู้ถึงความเจ็บปวดที่ผมได้รับ ให้น้องมันรับรู้ยิ่งกว่าใคร เหมือนกับที่อาเทาเคยเป็น ความเจ็บปวดที่เห็นคนที่ตัวเองรักต้องตาย ผมจะทำให้มันเจ็บปวดยิ่งกว่า เมื่อเห็นคนที่รักเจ็บเจียนตาย”
     

    “ท่านคริส”         
                                                                                           

    “น้าหมินอย่าห้ามผมเลย ฝากน้าช่วยเช็ดตัวกับป้อนข้าวที ผมจะกลับไปบ้านใหญ่”
     

    “ระวัง อาจมีคนบอกเรื่องนี้กับคุณใหญ่”
     

    “ถ้าจะมีใครสักคนที่เป็นคนบอก คนๆนั้นคงเป็นน้า ผมขอตัวก่อนนะครับ”แล้วคริสก็เดินออกไปปล่อยให้ซิ่วหมินต้องยืนถอนหายใจคนเดียว
     

    “เฮ้อ หวังว่าคุณใหญ่พอจะช่วยพูดได้บ้างนะ”
     

    “มาพูดอะไรอยู่ตรงนี้คนเดียวหมิน แล้วท่านคริสไปไหน”
     

    “กลับบ้านใหญ่นะลู่ ลู่ว่าคุณใหญ่เธอจะช่วยพูดได้ไหม”
     

    “คุณใหญ่เธอเป็นพี่ อาจจะช่วยได้”
     

    “แค่พี่ ขนาดเราสองคนเป็นคนเลี้ยงท่านคริสมาเองกับมือ ท่านคริสยังไม่ฟังเลย”
     

    “หมินก็รู้ว่าท่านคริสเป็นคนอย่างไง ท่านคริสรักคุณหนูเล็กมาก ก็นะ ท่านเลี้ยงของท่านเอง คุณนายใหญ่เธอคลอดคุณหนูเล็กแล้วเธอก็ตาย ตอนนั้นคุณใหญ่เธอเรียนอยู่ต่างประเทศ ท่านคริสในตอนนั้นก็แค่อายุสิบห้า ท่านก็เลยต้องคอยดูแลคุณหนูเล็กกับพวกเรา ไม่แปลกที่ท่านจะแค้นมากหรอกนะหมิน”
     

    “ก็หวังว่า ท่านคริสจะฟังคุณใหญ่บ้าง คุณจงแดเธอจะได้ไม่เจ็บอย่างนี้อีก”
     

    “เรื่องของเขา เราเข้าไปยุ่งไม่ได้หรอกหมิน”ลู่ห่านสวมกอดภรรยาของตัวเองเป็นเชิงปลอบใจ ไม่มีทางเสียหรอกที่จะเปลี่ยนความคิดท่านคริสได้

    *******************************************************
     

    “อ้าว อี้ฟาน วันนี้ลมอะไรหอบให้กลับบ้านใหญ่ได้ งานที่ไร่เสร็จแล้วหรอ”ชายหนุ่มรูปร่างโปร่งบางที่ตอนนี้กำลังทำอาหารอยู่เอ่ยทักน้องชายของตน
     

    “ครับพี่อี้ชิง ผมคิดถึงฝีมือทำกับข้าวของพี่ไงครับ”คริสเดินเข้ามาอ้อนผู้เป็นพี่ชายของตนอย่างคนที่รู้ตัวว่าทำผิดอะไรมา
     

    “ไม่ต้องมาอ้อน ไปรอพี่อยู่ที่โต๊ะกินข้าวไป๊ พี่จะทำของโปรดของเราเพิ่มให้”
     

    “ขอบคุณครับ”
     

    “ยกอาหารขึ้นโต๊ะได้แล้ว เดี๋ยวฉันตามไป”
     

    “ค่ะคุณใหญ่”สักพักอี้ชิงก็เดินออกมา
     

    “ฝีมือพี่ยังอร่อยเหมือนเดิมเลยนะครับ”
     

    “ถ้าอร่อยก็กินเยอะๆ ของหวานพี่เตรียมวุ้นพีซเอาไว้กินเสร็จก็แข็งตัวพอดี”
     

    “ขอบคุณครับพี่”
     

    “มากินที่นี้ น้าหมินไม่งอนหรือไง”
     

    “พี่ก็ น้าหมินต่างหากที่ไล่ผมมากินที่บ้านนี้แทบทุกวัน”อี้ชิงหัวเราะเล็กน้อยกับคำบอกเล่าของน้องชาย
     

    “อี้ฟาน เรื่องเด็กคนนั้น”
     

    “เราจะไม่พูดเรื่องเด็กคนนั้นครับ”
     

    “อี้ฟานจะทำอะไร พี่ไม่เคยห้ามไม่เคยขัด แต่เรื่องเด็กคนนี้ พี่ขอได้ไหม”
     

    “น้าหมินหรือน้าลู่เป็นคนบอกครับ”
     

    “พี่เป็นคนถามน้าเขาเอง พี่ในฐานะที่เป็นแม่บ้านดูแลบ้าน พี่ก็ต้องรู้ว่ามีใครอยู่ในความปกครองของพี่ ดูแลทุกข์สุข อี้ฟานพี่ขอเถอะ อย่างน้อยก็ให้เด็กคนนั้นมาอยู่กับพี่”
     

    “ผมต้องขอโทษ แต่เด็กคนนั้นอยู่ในความปกครองของผม และเราจะหยุดพูดเรื่องนี้นะครับ” สักพักที่อี้ชิงเงียบไปก่อนที่จะเริ่มบทสนทนาใหม่
     

    “อี้ฟาน พี่ว่า”
     

    “เราไม่พูดเรื่องนี้กันอีกนะครับ”
     

    “ไม่ใช่เรื่องนั้น แต่พี่จะพูดเรื่องงานแต่งงาน อี้ฟาน นายก็สามสิบกว่าแล้วนะ ถึงเวลาที่ต้องแต่งงานได้แล้ว”
     

    “ผมยังไม่อยากแต่ง พี่เองต่างหากครับที่ควรแต่งได้แล้ว”
     

    “แต่งไปก็อย่างนั้น พี่ไม่สามารถให้ความสุขกับคนที่รักได้หรอกนะ แล้วถ้าเกิดว่าเขาไม่พอใจหล่ะ เขาจะไม่ไปหาใหม่หรอ นายรู้ดีว่าพี่ไม่ชอบการมีหลายผัวหลายเมีย ถึงพี่ให้ได้ แต่ก็มีลูกไม่ได้ นายก็รู้พี่เป็นธาลัสซีเมีย”
     

    “เห็นไหมพี่เองก็ไม่อยากแต่ง แล้วเรื่องอะไรต้องให้ผมแต่งด้วยครับ”
     

    “แต่ตระกูลอู๋ต้องการทายาท”
     

    “ก็มีแล้วนะครับตั้งหลายคน”
     

    “พี่หมายถึงทายาทสายหลักของคุณนายใหญ่ ไม่ใช่พวกนั้น”
     

    “ยังไงพวกเขาก็ลูกหลานคุณพ่อ มีสิทธิ์เหมือนกัน”
     

    “ตามใจพี่สักเรื่องได้ไหม”
     

    “ก็ได้ครับ”
     

    “วันพรุ่งนี้ตอนเย็น ขึ้นมากินข้าวกับพี่ หนูป๋ายเซียนจะมากินด้วย”
     

    “พี่ยังไม่เลิกจับผมกับป๋ายเซียนหรอครับ”
     

    “ป๋ายเซียนมีคุณสมบัติที่เพียบพร้อมทุกอย่าง แล้วเราเองก็เป็นคู่หมั้นคู่หมายกับเขานะ นี่ก็ผลัดเรื่องแต่งมากี่ครั้งจนฝ่ายนั้นเขาไม่พอใจก็หลายครั้งแล้ว อี้ฟานพี่ว่ารีบๆแต่งเถอะ”
     

    “โอเคครับ ผมจะมากินด้วย แต่เรื่องแต่งขอผมคิดก่อนนะครับ”

    ****************************************
     

    ร่างบางเริ่มรู้สึกตัวเพราะว่ารู้สึกได้ว่าที่หน้าผากนั้นเย็นๆและเปียกอยู่ ทำให้คนร่างอวบดีใจรีบเข้าไปหา
     

    “ตื่นแล้วหรอ หนูจงแด”
     

    “อ๊ะ น้าหมิน ผมเป็นอะไรไปครับ”จงแดที่ตอนนี้ได้สติดีแล้วค่อยๆลุกขึ้นมานั่งพิงหัวเตียงอย่างคนที่ไม่อยากนอนแล้ว
     

    “แค่ตัวร้อนเป็นไข้นะ รู้สึกดีแล้วยัง มาวัดไข้ดูหน่อยสิลดลงแล้วยัง”
     

    “ขอบคุณนะครับที่อยู่ดูแลผม”
     

    “รู้ไหมท่านคริสสั่งให้น้าดูแลเราเป็นอย่างดีเลยนะ”ซิ่วหมินพยายามพูดให้จงแดคลายเครียดจากสิ่งที่เกิดขึ้น
     

    “เขาคงแค่ อยากให้ของเล่นชิ้นนี้อยู่ได้นานๆให้เขาเล่นมั้งครับ ถึงได้สั่งอยากนั้น”แววตาของจงแดในตอนนี้มันทั้งเศร้าและไม่เหลือความสดใสใดๆอย่างที่เขาเคยเห็นในรูปของร่างบาง นัยน์ตาฉ่ำไปด้วยน้ำตาที่เจ้าตัวพยายามกลั้นมันเอาไว้
     

    “โธ่ หนูจงแด อยากร้องไห้หรอลูก ร้องมาเถอะน้าไม่ว่าอะไรหรอก”ซิ่วหมินเข้าไปกอดร่างบาง จงแดที่ได้รับสัมผัสอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยมาตลอดสามวันนี้ถึงขั้นทนไม่ไหวปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา ซิ่วหมินช่างเหมือนแม่ของเขาเหลือเกิน
     

    “ฮึก ผมคิดถึงบ้าน คิดถึงพี่จุน คิดถึงอินนี่ ไม่รู้ว่าคนที่บ้านใหญ่จะรู้แล้วยังว่าผมหายไป”
     

    “หมายความว่าไงลูก บ้านใหญ่ แล้วอินนี่เป็นใคร”
     

    “ผมออกมาอยู่คนเดียวได้สักพักแล้วครับ ไม่ได้อยู่กับคุณพ่อคุณแม่และพี่จุน ส่วนอินนี้ ก็คือคุณคิมจงอิน แฟนของผมเองครับ”
     

    “นี่หมายความว่าหนูมีแฟนหรือว่าคู่หมั้นคู่หมายแล้วหรือ”
     

    “ครับ ผมหมั้นแล้ว เพียงแต่ไม่ได้จัดอะไรใหญ่โต”
     

    “เอ๊ะ คิมจงอิน ใช่ ผู้บริหารคนสำคัญของบริษัทคิมหรือเปล่า”
     

    “ครับ คนนั้นแหละครับ”
     

    “ตายแล้ว ท่านคริส ช่างทำอะไรไม่รู้จักสืบให้ดีเสียจริง”
     

    “ทำไมหรอครับ คุณน้า”จงแดที่ตอนนี้เช็ดน้ำตาแล้วมองหน้าซิ่วหมินด้วยความไม่เข้าใจ
     

    “หนูจงแด น้าขอได้ไหม ถ้าคุณจงอินมาช่วยหนู หนูอย่าบอกว่าหนูโดนอะไรมาบางได้ไหม”
     

    “ทำไมครับ”
     

    “น้าไม่อยากให้บริษัทอู๋กับบริษัทคิม หมองใจกัน เราเป็นคู่การค้ากันนะ น้าไม่ได้เห็นแก่ตัวไปใช่ไหม”
     

    “ไม่ครับ คุณน้าไม่ได้เห็นแก่ตัว ถ้าเป็นผม ผมเองก็คงไม่กล้าบอกอินนี่เหมือนกัน”ไม่ใช่เพราะกลัวบริษัทคิมจะขาดคู่การค้าแต่เขาคงไม่กล้าบอก ไม่กล้าเผชิญหน้ากับอินนี่จริงๆ ผู้ชายที่ผ่านมือมาแล้วอย่างเขาไม่คู่ควรกับจงอินสักนิด
     

    “อย่าคิดมากไปเลยนะ หนูจงแด”
     

    “คุณน้าซิ่วหมิน ผมถามได้ไหมครับ”
     

    “ถามมาเลย ถ้าน้าตอบได้น้าจะตอบ”
     

    “ทำไมคุณน้าพูดเกาหลีชัดจังเลยครับ”
     

    “โถ่ น้านึกว่าอะไร น้าเป็นคนเกาหลีเหมือนกัน เพียงแต่พอแต่งงานกับคุณลู่ฮานที่เป็นน้าชายแท้ๆของท่านคริส น้าก็ย้ายมาอยู่ที่นี้ ความจริงน้าชื่อคิมมินซอก”ซิ่วหมินหัวเราะน้อยๆกับท่าทางขี้สงสัยของจงแด แหม น่ารัก เธอมีแต่ลูกชายด้วยสิ อยากได้ลูกสาวมาตลอดแต่ก็ไม่มี พอเจอแบบนี้ก็อดเอ็นดูเข้าไม่ได้
     

    “อ๊ะ คุณน้าก็ตระกูลคิมเหมือนกัน ผมดีใจที่ได้รู้ว่ามีคนเกาหลีอยู่ที่นี้” ซิ่วหมินอดคิดในใจไม่ได้เมื่อเห็นรอยยิ้มแรกของจงแดเมื่อมาอยู่ที่นี้ เด็กคนนี้เหมาะกับรอยยิ้มมากกว่าน้ำตา ท่านคริสไม่ควรพรากรอยยิ้มนี้เลย
     

    “มีอะไรปรึกษาน้าได้นะลูก”
     

    “ขอบคุณครับ”
     

    “อ๊ะ กินข้าวก่อนนะ น้าต้มข้าวต้มให้ กินไหวไหม ให้น้าป้อนให้หรือเปล่า”
     

    “ขอบคุณครับ ผมกินเองได้”
     

    “งั้นกินข้าวแล้ว กินยาด้วยนะ น้าจัดไว้ให้แล้ว นี่ก็เย็นแล้ว เดี๋ยวน้าจะไปดูแลความเรียบร้อยของบ้านก่อน พักผ่อนนะ มีอะไรก็โทรลงไปข้างล่าง น้าเขียนเบอร์ไว้ใกล้ๆกับโทรศัพท์ภายใน”
     

    “ครับ”
     

    เมื่อซิ่วหมินออกไปจงแดก็จัดการกินข้าวทานยา ฝืนร่างกายเข้าไปอาบน้ำแต่งตัว พออาการดีขึ้นและร่างกายได้ถูกชำระ สมองก็เหมือนว่าโปร่งโล่งพลางนึกถึงคำพูดของซิ่วหมินได้ในห้องนี้มีโทรศัพท์ พอนึกได้ร่างบางก็รีบกดโทรไปหาจงอินทันที
     

    “ทำไมยังไม่รับสายอีกนะ มีประชุมอยู่หรือเปล่า”
     

    “โทรไปหาใคร”แล้วเสียงของคนที่ไม่อยากจะเจอก็ดังขึ้นมาราวกับนกรู้ว่าเขากำลังทำอะไร
     

    “ผม ผมแค่จะโทรลงไปหาน้าซิ่วหมิน”
     

    “จะเอาอะไรบอกฉันมาสิ แล้วก็วางสายได้แล้ว”จงแดจำใจต้องวางสายไป
     

    “หึ รู้ไหมโทรข้ามประเทศนะมันแพง”
     

    “คะ คุณ พูดอะไร”
     

    “หึ จะโทรไปหาชู้ให้มาช่วยเหรอไง อย่าหวังไปเลย”
     

    “จงอินไม่ใช่ชู้ เขาเป็นแฟนผม”
     

    “นั่นไง พูดออกมาแล้วว่าจะโทรไปหาใคร ผัวเธอก็อยู่ตรงนี้แล้ว ไอ้ที่โทรไปนะชู้ หรือต้องให้ย้ำอีกว่าเธอเป็นเมียใคร”คริสเข้ามาบีบข้อมือของจงแดแน่นจนร่างบางต้องเบ้หน้าเพราะความเจ็บ
     

    “ออกไป ถ้ากลัวผมจะหนี ก็เอาโทรศัพท์ออกไปซะ”
     

    “เอาออกไปแน่ ไม่ต้องบอก แต่ก่อนจะออกไปฉันคงต้องย้ำว่าเธอเป็นของใคร”แล้วบทลงโทษอย่างที่เคยถูกกระทำมาก็โดนอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่าไปทั่วทั้งคืน แม้ร่างบางจะพยายามขัดขืนแต่ก็ไม่สามารถต้านทานแรงโกรธจากอีกฝ่ายได้ น้ำตาที่ไหออกมาเพราะความเจ็บก็ไม่สามารถร้องขอให้อีกฝ่ายหยุดการกระทำเหล่านั้น ร่างกายก็ไม่รักดีแม้ใจจะรังเกียจแค่ไหนแต่ร่างกายกลับต้องการ บางทีเขาอาจจะร่านอย่างที่อีกฝ่ายด่าไว้ก็ได้
     

    “ทำไมถึงได้ขัดใจฉันนัก รู้อยู่ว่าว่าถ้าขัดใจจะเป็นอย่างไร แต่ทำไมถึงทำ”
     

    “เพราะผมเกลียดคุณ เกลียดร่างกายตัวเองที่ถูกคุณสัมผัส  ฮึก เกลียดที่ตัวเองที่เป็นอย่างนี้ เกลียด เกลียดทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้ผมต้องเจอกับคุณ ได้ยินไหมว่าผมเกลียด ฮึก ร่างกายผมถูกทำลายไปมากเท่าไหร่ หัวใจของผมก็ถูกทำลายไปมากกว่านั้นเป็นพันเท่า ทำไมไม่ฆ่าผมให้สมกับความแค้นของคุณ ฮึก น้องชายคุณเขาเป็นอย่างไงก็ทำกับผมแบบนั้นสิ ทำเลย จะได้หมดกันเสียที จะได้หลุดพ้นเสียที ฮึก”
     

    “หึ ถ้าฉันฆ่านายมันก็ไม่สมกับความแค้นฉันสิ ถ้าฉันฆ่านายมันก็ไม่สมกับที่น้องฉันถูกพี่ชายนายทำเอาไว้ ถ้านายยังไม่รู้ว่าพี่ชายนายทำอะไรไว้ ฉันจะสงเคราะห์เล่าให้นายฟังเอง น้องฉัน อาเทา น้องชายที่ฉันเลี้ยงมากับมือ น้องชายที่ฉันถะนุถนอมยิ่งกว่าอะไร แต่พี่ชายนายกลับเห็นความรักของน้องชายฉันเป็นของเล่น ตอนแรกก็ตามจีบน้องฉันทุกวันจนอาเทาใจอ่อนยอมคบ หึ แต่ที่ไหนได้ มันกลับหวังหลอกฟันน้องฉันเล่นๆ เหมือนที่ฉันกำลังทำกับนายอยู่ใน หึ พอน้องฉันท้องมันกลับไม่เชื่อ แถมซ้ำยังบอกถ้าท้องจริงก็ให้เอาเด็กออก อีกทั้งยังบอกเลิกอาเทา แต่มันขี้ขลาด ไม่กล้ามาบอกเอง ฝากจดหมายให้คนอื่นเอามาให้ หึ แล้วหายหน้าหายตาไป น้องฉันร้องไห้เสียใจทุกวัน รู้ไหมฉันต้องเห็นน้องฉันร้องไห้ทุกวันเพราะไอ้หน้าตัวเมียพี่ชายของนาย จนอาเทาทนไม่ไหว ฆ่าตัวตาย ได้ยินไหมน้องชายฉันฆ่าตัวตายก็เพราะพี่ชายของนาย”
     

    “ไม่ ไม่จริง พี่จุนไม่ใช่คนแบบนั้น ไม่จริง”
     

    “หึ ไม่เชื่องั้นหรอได้”คริสลุกขึ้นจากที่นอนสวมเสื้อคลุมแล้วเดินออกไป สักพักก็กลับมาในมือมีจดหมายฉบับหนึ่งยื่นมาให้เขา
     

    “ไม่ ไม่จริง พี่จุนไม่ใช่คนแบบนี้ ไม่จริง ไม่ใช่ ไม่ใช่ พี่จุนเป็นหมอ พี่ต้องไม่ทำอย่างนี้ ฉันไม่เชื่อ”
     

    “หลักฐานเห็นอยู่ตำตายังจะไม่เชื่ออีกหรือไง”คนร่างเล็กผุดขึ้นมานั่งจ้องจดหมายตาไม่กระพริบ ทำเอาร่างสูงที่กำลังเครียดก็เบือนหน้าหนี เพราะไม่ว่าจะยามไหนร่างกายของอีกคนก็กระตุ้นความต้องการของเขาเสมอ
     

    “ไม่ มันไม่ใช่ลายมือพี่จุน ผมแน่ใจ”โดยไม่รู้ตัวร่างบางก็กระเถิบเข้าหาร่างสูง พยายามชี้ว่าจุดไหนที่มันแปลกไปโดยที่คำบอกเล่านั้นไม่ได้เข้าหูของร่างสูงเลย ตลอดหลายวันที่ผ่านมาสีหน้าและท่าทางที่เขาได้รับจากร่างเล็กมันเต็มไปด้วยแต่ความเกลียดชัง ความกลัวและน้ำตาที่นองหน้า พอได้เห็นอีกมุมหนึ่งทำไมมันถึงได้กระตุกในใจเขา คราวนี้ร่างบางหยุดพูดเพราะรู้สึกว่าถูกมองอยู่ ใบหน้าขึ้นสีเพราะนึกได้ว่าตอนนี้ร่างกายของตนกำลังเปลือยเปล่าอยู่และใกล้ชิดกับร่างสูงเหลือเกิน และเป็นคนร่างสูงเองที่ผละออกไป
     

    “นายไปอาบน้ำแล้วหลับได้แล้ว เอาไว้ฉันจะให้ชานยอลลองไปสืบดู ตอนนี้ตีสองแล้วพอจะหลับได้สักงีบ”แล้วคริสก็เดินจากไปพร้อมกับจดหมาย และความหวังที่เกิดขึ้นในใจเล็กๆของจงแด
     

    บางที คนๆนี้อาจไม่ได้เลวร้ายไปอย่างที่คิด

    ************************************************
     

    “หืม หอมจัง น้าหมินทำอะไรหรอครับ”จงแดที่ตอนนี้ดูจะสดใสขึ้นกว่าเดิม อาจเพราะร่างกายได้รับการพักผ่อนไม่เหมือนวันอื่นๆที่แล้วมาและความหวังที่ว่าร่างสูงอาจจะเปลี่ยนใจปล่อยตนไป
     

    “สบายดีแล้วหรือหนูจงแด น้าทำข้าวต้มและก็ตุ๋นไก่ดำ ไม่รู้ทำไมอยู่ดีๆท่านคริสก็ป่วยขึ้นมา ไก่ดำตุ๋นยาจีนเป็นของบำรุงร่างกายอย่างดี น้าตั้งใจทำเอาไว้ให้หนูจงแด แต่ตอนนี้คงต้องเพิ่มท่านคริสไปอีกคน”
     

    “สงสัยที่เคยได้ยินมาถ้าจะจริง หึ สมน้ำหน้า”จงแดบ่นเบาๆกับตัวเองแต่ก็ไม่พ้นหูคนแก่กว่าได้
     

    “หนูจงแดเคยได้ยินอะไรมาลูก”
     

    “ก็ที่ว่าถ้าป่วยเป็นไข้ เป็นหวัดแล้วมีคนมาจูบจะหาย ส่วนไข้กับหวัดก็จะไปอยู่ที่คนที่มาจูบเองไงครับ”
     

    “ท่านคริสน่าตี หนูจงแดป่วยอยู่แท้ๆยังจะทำอีก ป่วยเองก็ดีจะได้รู้สึกบ้าง”
     

    “ใช่ไหมฮะ สมน้ำหน้า”จงแดหัวเราะออกมาพลางช่วยซิ่วหมินทำข้าวต้ม
     

    “วันนี้อารมณ์ดีเกินไปหรือเปล่า มีอะไรอยากบอกน้าไหม”
     

    “เมื่อวานผมได้เห็นจดหมายที่คุณคริสอ้างว่าเป็นจดหมายจากพี่จุน แต่ผมดูแล้วมันไม่ใช่ลายมือพี่ ผมก็เลยบอกไป คุณคริสก็เลยรับปากว่าจะให้คุณชานยอลลองไปสืบดูใหม่อีกครั้ง”
     

    “มิน่าตอนเช้าขนาดป่วยก็ยังสั่งงานชานยอลเสียยืดยาว อืม หนูจงแดลองชิมซุปไก่ดูสิลูก อยากเพิ่มอะไรไหม”
     

    “อืม อร่อยแล้วครับ เฮ้อ น้าหมินเหมือนคุณแม่ของผมจัง เวลาที่ผมป่วยท่านก็มักที่จะทำซุปไก่ตุ๋นอย่างนี้ให้กิน รสชาติคล้ายกันมาก อ้อมกอดของคุณน้าเมื่อวานก็เหมือนคุณแม่เหลือเกิน”ท่าทางจงแดดูเศร้าลงเมื่อพูดถึงผู้เป็นแม่ ทำเอาซิ่วหมินที่อยากมีลูกสาวต้องออกปากไป
     

    “งั้นน้าเป็นแม่ให้หนูจงแดได้ไหม ให้นึกเสียว่าที่นี้ก็เป็นบ้านของหนู มีแม่หมินกับพ่อลู่ น้าอยากมีลูกสาว แต่ก็มีตาชานยอลคนเดียว”
     

    “ได้จริงๆหรอครับ น้าหมินจะเป็นแม่ให้ผมหรอครับ”จงแดเข้าไปกอดคนร่างอวบด้วยความดีใจ
     

    “ได้สิ น้าจะเป็นให้ ดูสิ เช็ดน้ำตาออกซะ หนูยิ้มสวยนะ นี่ แม่มีส้มด้วย เห็นไหม ท่านคริสบอกไว้ว่าหนูชอบส้มไม่ใช่หรอ”จงแดชะงักไปนิดนึงคริสรู้ได้ไงว่าเขาชอบส้มคงสืบประวัติเขามาละมั้ง
     

    “ครับ ผมชอบส้มมาก ผมขอคั้นน้ำส้มได้ไหมครับ เดี๋ยวจะคั้นเผื่อคนป่วยด้วย แล้วก็ขอทำเค้กส้ม คุณแม่ทำเป็ดปักกิ่งเป็นไหมฮะ ผมอยากทำ เคยเห็นเมนูเป็ดปักกิ่งราดซอสส้มอยากทำจังเลย คุณแม่สอนผมทำนะครับ”ซิ่วหมินหัวเราะกับอาการของลูกชายคนใหม่ตน ดูท่าจะชอบส้มมากจริงๆ
     

    “อืม เป็ดปักกิ่ง ให้พ่อลู่สอนดีกว่าไหม คุณพ่อเป็นคนปักกิ่ง ทำอร่อยมาก เจ้าของสูตรมาเองเลยนะ แป้งทำขนม เดี๋ยวแม่จะเอาที่บ้านใหญ่มาให้ เอ๊ะ หนูขึ้นไปทำที่นู้นเลยไหม จะได้ไปกราบคุณใหญ่เธอด้วย”
     

    “บ้านใหญ่ คุณใหญ่เธอเป็นใครฮะ”
     

    “บ้านใหญ่ก็คือตัวคฤหาสน์ใหญ่ ส่วนคุณใหญ่ก็คือคุณอี้ชิง เธอเป็นพี่ชายของท่านคริส  เมื่อวานท่านขอหนูกับท่านคริสให้ไปอยู่เรือนใหญ่ หนูควรไปกราบท่าน เพราะอย่างน้อยท่านก็พยายามช่วยหนูแล้ว”
     

    “คุณแม่เป็นคนไปบอกหรอฮะ”
     

    “เธอพอสังเกตเห็น ก็เลยเรียกแม่ไปถาม แม่ก็ตอบไปตามความเป็นจริงก็เท่านั้น”
     

    “ถ้าอย่างนั้นผมควรคั้นน้ำส้มไปฝากเธอดีไหมฮะ”
     

    “ที่บ้านใหญ่คั้นทุกวันอยู่แล้ว”
     

    “คุณแม่ฮะ พอมีลูกพลับกับไก่ไหมฮะ”
     

    “มีอยู่นะ จะเอาไปทำอะไรลูก”
     

    “ผมทำอาหารเกาหลีไปฝากท่านดีกว่า ถึงแม้ว่าของจะเป็นของท่านก็ตาม”
     

    “งั้นก็เอาข้าวต้มไปให้ท่านคริสก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยลงมาทำ”
     

    “ฮะ”แล้วจงแดก็จัดการเทน้ำส้มใส่แก้ว แล้วส่งให้ซิ่วหมินเป็นคนจัดสำรับก่อนจะถือถาดตามไปที่ห้องของคริส
     

    “ก๊อก ก๊อก ท่านคริส น้าเอง”
     

    “เข้ามาได้เลยครับ”จงแดเดินตามเข้ามา ภายในห้องของคริสดูเป็นระเบียบเรียบร้อยดี ตกแต่งแบบง่ายๆแต่ก็หรูหรา
     

    “น้าทำข้าวต้มหมูให้ แล้วก็ซุปไก่ตุ๋น ส่วนน้ำส้มหนูจงแดเป็นคนคั้น”
     

    “ขอบคุณครับ เดี๋ยวผมกินเอง น้าไม่ต้องห่วง ฉันกำลังสั่งให้ชาลยอลสืบให้อยู่ คงต้องรอสักสัปดาห์เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ”ประโยคหลังคริสหันไปบอกจงแดที่ตอนนี้ยนอยู่ข้าวซิ่วหมิน
     

    “ผมเข้าใจครับ”
     

    “แล้วก็ ขอบใจสำหรับน้ำส้ม”โชคดีที่ตัวเองเป็นคนเก็บอาการเก่งไม่อย่างนั้นร่างบางคงได้เห็นคนที่เขาเคยบอกว่าเกลียดกำลังเขินอยู่

    “ถ้าในบ้านมันน่าเบื่อจะไปเที่ยวในไร่ก็ได้ แต่ควรบอกให้น้าหมินพาไป”

     

    “วันนี้จะไปทำเค้กส้มที่บ้านใหญ่ แล้วก็จะไปกราบคุณใหญ่ คุณแม่จะพาไป”จงแดตอบด้วยเสียงเบาๆ เพราะกลัวคนตรงหน้าอาจไม่ชอบแล้วจะเปลี่ยนใจมาทำแบบเดิมๆกับเขาอีก
     

     “พอดีหนูจงแดบอกว่าอยากทำเค้ก น้าเห็นว่าไปทำที่บ้านใหญ่จะสะดวกกว่า ก็เลยคิดว่าจะให้ไปทำที่นั้นแล้วจะได้เข้าไปกราบคุณใหญ่ด้วย แล้วอีกอย่างน้ารับหนูจงแดมาเป็นลูกอีกคน ท่านคริสคงรู้เหตุผลนะ”
     

    “ครับ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เป็นไรครับ ฝากบอกพี่อี้ชิงด้วยว่าผมคงไม่สามารถไปตามนัดได้ แล้วถ้าเกิดพี่เรียกให้จงแดไปอยู่บนบ้านใหญ่ก็ให้ย้ายไปนะครับ ฝากน้าหมินช่วยจัดการด้วย ยังไงก็ตกลงเป็นแม่เป็นลูกกันแล้ว”
     

    “แล้วน้าจะบอกคุณใหญ่ให้ ลู่ฝากดูแลท่านคริสด้วยนะ แล้วตอนเย็นช่วยมาสอนลูกทำเป็ดปักกิ่งด้วย ลูกอยากทำ”
     

    “อืม แล้วตอนเย็นพ่อจะไปสอนให้นะ”
     

    “ขอบคุณครับคุณพ่อ”จงแดยิ้มให้ผู้เป็นพ่ออีกคนก่อนที่จะเดินออกจากห้องตามหลังซิ่วหมินไป
     

    “เด็กคนนั้นเหมาะกับรอยยิ้มมากกว่าน้ำตานะครับท่านคริส”
     

    “ก็คงอย่างนั้น”แม้ปากจะบอกไปอย่างนั้นแต่ความจริงแล้วหัวใจของร่างใหญ่กลับกำลังเต้นรัวเพราะรอยยิ้มที่ได้เห็นของจงแด
     

    บ้าไปแล้ว ที่ไปใจเต้นให้เด็กคนนั้น”

    *******************************************************
     

    “ขอบใจนะที่ทำอาหารมาฝาก ทำเป็นด้วยหรือเรา”
     

    “พอทำเป็นบางอย่างครับ”
     

    “ใช้ครัวตามสบายเลยนะ จะเอาอะไรถามคนในครัวก็ได้ว่าอยู่ที่ไหน แล้วนี่พอพูดจีนได้ไหม”
     

    “พอได้นิดหน่อยครับ”
     

    “อืม น้าหมินช่วยอยู่ด้วยนะครับ เผื่อบางทีจะติดขัดเรื่องการสื่อสาร แล้วก็วันนี้ในครัวอาจยุ่งนิดหน่อยพอดีตอนเย็นหนูป๋ายเซียนจะมากินข้าวด้วย”
     

    “น้าจะช่วยดูให้ อ้อ คุณใหญ่ ท่านคริสไม่สบายนะ คงจะมาตามนัดไม่ได้แล้ว”
     

    “เอ๊ะ ป่วยได้อย่างไร ปกติป่วยยากจะตายไป ทำไมอยู่ดีๆก็เป็น ป่วยการเมืองละมั้ง หาเรื่องหนีไม่มาอีกจนได้ เบี้ยวอีกแล้วนะอี้ฟาน”
     

    “คุณคริสป่วยจริงๆครับคุณใหญ่ ติดจากผมเองครับ”
     

    “ตาอี้ฟานนี่นะ แม้แต่คนป่วยยังทำได้ลงคอ แล้วเรานะหายดีแล้วใช่ไหม”
     

    “หายดีแล้วครับ”
     

    “น้าหมิน ผมว่าเราคิดชื่อจีนให้จงแดสักชื่อดีไหม จะได้เรียกง่ายๆ เอาแบบชื่อเล่นก็ได้ คนอื่นๆจะได้ไม่นึกว่าแปลกแยก”
     

    “อืม ก็ดีนะ จงแดชอบกินส้ม งั้นก็ เฉิน เสี่ยวเฉิน เพราะเป็นลูกน้า ดีไหมคุณใหญ่”
     

    “เอิ่มก็ดีเหมืนกัน แล้วตัวละชอบไหมชื่อนี้”
     

    “ชอบครับ เฉิน เฉินเฉิน น่ารักดีนะครับ”
     

    “ถ้าคุณป๋ายเซียนถาม ก็บอกว่าเป็นลูกน้า แต่ว่าไปโตไปเรียนที่เกาหลี คงไม่เป็นอะไรมั้งคุณใหญ่”
     

    “เอาตามนั้นเถอะครับ นี่ผมต้องหาข้อแก้ตัวให้ทางนั้นอีกแล้ว เฮ้อ”
     

    “ถ้าอย่างนั้น น้าขอตัวพาเฉินไปที่ห้องครัวก่อนนะ”
     

    “ครับ ยังไงก็ถ้าทำเสร็จ เอามาให้ชิมด้วยนะ วันนี้จะไปอยู่ที่ศาลาบุปผาทั้งวันว่าจะไปปักผ้าต่อ ยังไงถ้าว่าง อยากจะลองปักบ้างก็ไปที่ศาลานะ”
     

    “ครับคุณใหญ่”จงแดส่งยิ้มไปให้อี้ชิงแล้วขอตัวออกมา
     

    เฮ้อ หวังว่าตาอี้ฟานจะไม่หลงรักเด็กคนนี้หรอกนะ ไม่อยากจะนึกถึงเลย

    *****************************************************************
     

    “ก๊อก ก๊อก คุณคริส ผมเอง”
     

    “เข้ามา”พอจงแดเข้ามาในห้องก็พบว่าคนป่วยกำลังนั่งพิงหมอนบนเตียงอ่านเอกสาร
     

    “คุณควรที่จะหยุดทำงาน แล้วพักผ่อน ไม่อย่างนั้นคุณจะยิ่งป่วยแล้วจะไม่ได้ทำงาน นมอุ่นๆคุณแม่วานให้ผมเอามาให้คุณ”
     

    “เอาวางไว้ตรงนั้นแหละ เดี่ยวฉันก็จะหยุดแล้ว ผลไม้กับรังนก ถ้าอยากกินเอาไปได้เลย”  ผลไม้และรังนกที่คริสพูดถึงคือของเยี่ยมไข้จากป๋ายเซียน ที่ให้คนเอามาให้ จงแดหยิบเอาเท่าที่ตัวเองอยากกินแต่พอการ์ดที่เขียนอวยพรมานั้นตกลงมากางออกทำให้เห็นข้อความนั้นก็ทำเอาจงแดต้องตกใจ
     

    “คุณคริส ผมขอจดหมายนั้นหน่อยได้ไหม”
     

    “อยู่ในกล่องไม้สีขาวที่อยู่ในลิ้นชักโต๊ะข้างหัวเตียงด้านที่นายนั่งอยู่นะ” พอคริสเห็นว่าอีกคนนั้นเงียบเกินไปจึงหยุดอ่านเอกสารแล้วเข้าไปนั่งใกล้ๆ
     

    “มีอะไร ทำไมสีหน้าถึงเป็นอย่างนั้น ไม่สบายหรือเปล่า”
     

    “เปล่า คุณคริส ผมถามหน่อยจดหมายนี่คุณได้จากใคร”
     

    “ฉันเห็นมันในห้องของอาเทา มันตกอยู่บนเตียง”
     

    “คุณคริส คุณว่าแปลกไหม ผมที่เห็นตอนแรกไม่ได้คิดอะไรมากนะ แต่ผมพึ่งนึกได้ พี่จุนไม่ใช่คนที่จะเขียนจีนได้ดีขนาดนี่ พี่พูด อ่าน ฟังความออก แต่พี่จุนไม่ได้เขียนจีนเก่งอย่างนี้ ในขณะที่ผมเรียนมันตั้งแต่เด็ก ใช้ก็บ่อย ตอนแรกที่ผมอ่าน ผมเลยไม่ได้เอ๊ะใจอะไร นอกจากลายมือ แต่พอเห็นการเขียนหลักไวยากรณ์ต่างๆแล้ว นี่มันคนที่อยู่กับมันเกือบตลอดชีวิตเขียนชัดๆ ผมจบอักษรจีนนะคุณคริส ผมพอที่จะรู้เรื่องพวกนี้บาง แล้วลายมือนี้มันก็คุ้นตาผมจริงๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหน แต่ผมไม่เคยเจอคุณป๋ายเซียน แถมเขายังเป็นคนจีนอย่างนี้อีก ไม่มีทางจะที่เคยเห็นลายมือเขาได้ แต่ทำไมถึงรู้สึกคุ้นล่ะ”
     

    “ป๋ายเซียนเป็นคนเกาหลี”
     

    “อะไรนะครับ คุณป๋ายเซียนเป็นคนเกาหลี แล้วคุณจำได้ไหมว่าเขาชื่ออะไร บางทีอาจได้ข้อมูลเพิ่มเติม”
     

    “จำไม่ได้ ฉันไม่ได้ใส่ใจข้อมูลของเด็กคนนั้น”
     

    “เด็กคนนั้น เอ๊ะ คุณป๋ายเซียนอายุเท่าไหร่”
     

    “น่าจะเท่าๆนาย”
     

    “ยี่สิบสอง แล้วคุณคริสอายุเท่าไหร่เนี่ย”
     

    “ไม่รู้หรือไงก็ถามเรื่องอายุมันไม่สุภาพ”
     

    “อิอิ หมายความว่าคุณต้องแก่แล้วแน่ๆ แถมยังพูดว่าเด็กคนนั้น แบบนั้นนะคนแก่เขาพูดชัดๆ บอกหน่อยสิ แก่กว่าผมกี่ปี”จงแดไม่รู้ตัวเองเลยว่าเผลออ้อนคนตัวสูงไปและทำปากเป็ด ท่าทางที่อีกคนเผลอคิดไปว่ามันน่ารักนัก
     

    “ฉันได้สิบห้า อาเทาก็เกิด อาเทาอ่อนกว่านายไปสองปี บวกลบเอาเอง”
     

    “เทาอ่อนกว่าผมไปสองปี งั้นก็ยี่สิบ คุณแก่กว่าเทาไปสิบห้าปี งั้นก็ สามสิบห้านะสิ แก่ แก่จริงๆ อิอิ ตาแก่”
     

    “หืม แก่แล้วไง แล้วใครกันหึที่บอกว่าแรงเกินไป จนหมดแรงไปก็มาก”สายตาคริสตอนนี้มันช่างกรุ้มกริ่มเสียจนจงแดต้องเบือนหน้าออกไปไม่กล้าสบสายตา บ่นอุบอิบอยู่คนเดียว
     

    “พอแล้ว ผมจะกลับไปห้องของตัวเอง ง่วง คุณเองก็ควรที่จะดื่มนมแล้วก็หลับได้แล้ว”คริสเอื้อมมือมาหยิบแก้วไปดื่มก่อนที่จะวางไว้ที่เดิม แล้วล้มตัวลงนอนกับเตียงใหญ่พลางดึงให้อีกคนลงมานอนด้วย
     

    “อะไรเนี่ย คุณจะดึงให้ผมนอนทำไมเนี่ย”
     

    “ง่วงไม่ใช่หรือไง นอนที่นี้แหละ”
     

    “ไม่ ผมต้องเอาแก้วลงไปข้างล่างก่อน แล้วผมก็จะนอนห้องตัวเองด้วย”
     

    “อย่าขัดใจฉันได้ไหม ปิดไฟ แล้วมานอนที่นี้”
     

    “เผด็จการ บ้าอำนาจ”แต่ถึงจะพูดอย่างนั้นจงแดก็ลุกไปปิดไฟในห้อง แล้วล้มตัวนอนชิดขอบเตียงอยู่ห่างจากคริสไปไกล
     

    “เข้ามาอีก”แต่จงแดก็เขยิบเข้าไปเพียงนิดเดียว
     

    “กลัวหรือไง เขยิบเข้ามาอีก อย่าขัดใจฉัน”จงแดจำใจต้องเขยิบเข้าไปใกล้คริสอีก แต่ก็ไม่ได้ดั่งใจจนคริสต้องดึงร่างบางให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของตัวเอง
     

    “คุณคริส ปล่อยผมนะ เดี๋ยวก็ติดไข้กันอีก”
     

    “อย่าขัดใจฉัน อยากโดนลงโทษหรือไง”แน่นอนจงแดเงียบทันทียอมให้อีกฝ่ายนอนกอด ดีกว่าโดนลงโทษกว่าตั้งเยอะ อ้อมกอดที่ได้รับมันทำเอาจงแดก็ต้องเผลอใจเต้นไป มันทั้งอ่อนโยนและก็อบอุ่นไปพร้อมๆกัน สัมผัสที่คิดถึง ไม่ได้นะ ต้องห้ามคิดอะไรไปไกล เรายังมีจงอินอยู่นะและอีกอย่างคนๆนี้คือคนที่ทำร้ายเรา  แค่เขาทำดีให้นิดหน่อย อย่าใจอ่อนเด็ดขาด
     

                   เสียงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอทำให้คริสรู้ว่าอีกคนได้หลับสนิทไปแล้ว มือหนาค่อยๆปลดกระดุมชุดนอนของร่างบางออก แสงจากโคมไฟทำให้เห็นผิวขาวเนียนที่มีร่อยรอยฟกช้ำไปตามตัว นี่เขาทำร้ายร่างบางรุนแรงขนาดนี้เลยหรือไง นิ้วเรียวค่อยๆแต้มยาแก้ฟกช้ำที่ตั้งใจจะเอาไปให้เมื่ออ่านเอกสารงานต่างๆเสร็จแล้ว แต่เพราะร่างบางเข้ามาเสียก่อน เลยถือวิสาสะบังคับให้นอนกับตนแล้วทาให้เสียเอง มือหนาปลดกางกางของอีกคนออกเบาๆ ช่องทางสีหวานที่ถูกเขาเข้าไปเป็นคนแรกแดงช้ำเสียจนน่ากลัว นิ้วเรียวค่อยๆแตะทายาให้เบาๆ เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะตื่นขึ้น เสียงหวานจากอีกคนที่เผลอครางออกมาปลุกให้อารมณ์ที่ซ่อนเอาไว้ภายในต้องลุกโชนขึ้นมา ไหนจะผิวนุ่มที่สัมผัสอีก ข่มใจเอาไว้ก่อนคริส พอทายาให้เสร็จก็รีบสวมเสื้อผ้าให้ร่างบางเหมือนเดิม ไม่ไหว ร่างกายของอีกคนมีอิทธิพลต่อร่างกายและหัวใจเขามากไปแล้ว จำเอาไว้สิคริส พี่ชายของเขาทำให้น้องของนายต้องตาย พอคิดถึงเรื่องนี้คริสก็ลุกขึ้นจากเตียงแล้วไปที่ห้องทำงานที่อยู่ถัดจากห้องนอนเพียงแค่ประตูกั้นแล้วโทรไปสั่งลูกน้องคนสนิทเพราะกลัวว่าเสียงพูดคุยจะรบกวนคนที่นอนหลับไปแล้ว
     

    “ชานยอล ไปตามสืบเรื่องของป๋ายเซียนกับอาเทา ฉันต้องการรู้ทุกเรื่อง เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ เอามาให้ฉัน ต่อให้ต้องลองเสี่ยงกับพรรคหงส์แดงก็ต้องทำ”
     

    “ท่านคริสคิดดีแล้วหรอครับ ถ้าเกิดว่าคุณป๋ายเซียนมีส่วนเกี่ยวจริงๆ ท่านจะทำอย่างไร ท่านอย่าลืมบุญคุณที่ท่านเฉินหลงที่มีต่อพรรคมังกรทองของเรา”
     

    “ฉันเชื่อว่าท่านเฉินหลงท่านเป็นคนมีเหตุผลพอ ท่านคงจะรับฟังเหตุผลต่างๆได้”
     

    “ครับ ผมจะรีบสืบให้ทันที ท่านจะให้ผมสืบไปถึงความสัมพันธ์ของคุณป๋ายเซียนกับคุณจุนมยอนหรือเปล่าครับ”
     

    “ถ้าหาได้ ก็หามาด้วย อ้อ พรุ่งนี้เอาแฟ้มข้อมูลของป๋ายเซียนมาให้ด้วย ฉันต้องการรู้ข้อมุทุกอย่างของป๋ายเซียน”
     

    “แฟ้มข้อมูลคุณป๋ายเซียนอยู่ที่ชั้นแฟ้มในห้องทำงานเล็กของท่านครับ ในหมวดของข้อมูลบุคลากรอื่นๆ”
     

    “โอเค ขอบใจ วันพรุ่งนี้ค่อยหาก็ได้นะชานยอล ฉันแค่จะโทรสั่งไว้ก่อน”
     

    “ครับท่าน”คริสวางสายก่อนที่จะเดินไปหยิบแฟ้มของป๋ายเซียนออกมา เรื่องอะไรจะเกิดก็คงต้องปล่อยให้มันเกิดไป
     

    อาเทา เฮียอยากจะรู้จริงๆเพราะอะไร เพราะใคร ทำไมถึงต้องตัดสินใจทำแบบนั้น อาเทา เฮียคิดถึงอาเทา

    *********************************************************
     

     “อ๊าก คุณคริสนั่นมันของผมนะ เอามาเดี๋ยวนี้เลย”จงแดพยายามคว้าเอาแก้วที่ใส่วุ้นพีซกับลูกพลับของคุณใหญ่ที่ทำมาให้เขากับคริสที่กำลังตรวจดูงานของสำนักงานเก็บผลผลิตที่ได้จากฟาร์มของตระกูลอู๋ที่มีทั้งไร่ผลไม้ สวนพืชผัก ฟาร์มโคนม ปศุสัตว์ทั้งหลายรวมทั้งสวนดอกไม้ด้วย หนึ่งสัปดาห์หลังจากที่พวกเขาเริ่มได้เบาะแสแล้ว จงแดก็ถูกคริสใช้งานให้มาเป็นเลขาส่วนตัวชั่วคราวแทนชานยอลที่ตอนนี้กำลังทำงานสำคัญอยู่ และนั่นทำให้เขาได้รู้ว่าความจริงแล้วเขากำลังอยู่ในดงมาเฟีย ใช่ คนของตระกูลอู๋ล้วนเป็นมาเฟียทั้งนั้นยกเว้นคนงานในไร่และบรรดาคนใช้ แต่พวกที่อยู่ในสำนักงานใหญ่ บอดี้การ์ด รวมทั้งลู่ฮานและซิ่วหมินนั้นก็เป็นมาเฟียเหมือนกัน
     

    “หึ ไม่ให้หรอกเด็กน้อย”นี่ก็อีกอย่าง พอโดนเรียกว่าตาแก่ เจ็บใจใช่ไหม ถึงได้มาเรียกกันว่า เด็กน้อย ชิ ไม่น้อยแล้วนะ ยี่สิบสองแล้ว
     

    “ก็คุณใหญ่เอามาผมเหมือนกันนะ ดูสิ คุณคริสกินไปตั้งสามแก้วแล้วนะ แก้วนั่นนะ เอามาให้ผมเลย ผมยังไม่ได้กินสักคำ”ดูสิ เด็กน้อย งอนแล้วไงวิญญาณเป็ดเข้าสิงอีกแล้ว ปากเป็ด น่ารัก
     

    “อ้าปากสิ”
     

    “ห๊ะ อะไรนะ”
     

    “อ้าปากสิ”จงแดอ้าปากตามคำสั่ง เพราะยังไม่อยากถูกลงโทษแม้ว่าช่วงนี้บทลงโทษจะลดลงไปมาก แต่มันก็ทำให้เขาใจเต้นอยู่ไม่น้อย ไม่ชินกับการถูกคนตัวโตจูบอยู่ดี
     

    “เอ้า อร่อยไหม”คริสป้อนวุ้นสีสวยเข้าปากบางที่เขาชักเริ่มจะชอบชิมรสแล้วสิ
     

    “อื้ม อร่อย มิน่าคุณคริสถึงได้ติดกินนักหนา ก็คุณใหญ่ทำขนมซะอร่อยขนาดนี้ ถ้าผมไปขอให้คุณใหญ่สอนทำ คุณใหญ่จะสอนผมไหมอ่ะ”
     

    “น่าจะสอนอยู่นะ ปกติพี่ใจดีอยู่แล้ว ว่าแต่ผ้าปักทำเสร็จแล้วยัง ตอนไปทำผ้าปักก็ลองขอให้พี่สอนสิ”
     

    “จริงด้วยสิ ขอบคุณนะฮะคุณคริส นี่ไงผ้าปัก เสร็จแล้ว”รอยยิ้มกว้างของจงแดทำหัวใจของคริสเต้นแรงขึ้น สงสัยคงเป็นอย่างที่น้าหมินบอกกับเขาจริงๆ
     

    ท่านคริส ตกหลุมรักหนูเฉินแล้ว
     

    แต่รักแล้วอย่างไง เขาคงจะยื้อคนๆนี้ไว้ได้อีกไม่นาน จงแดมีคู่หมั้นอยู่แล้ว อีกไม่นานหลังเรื่องทุกอย่างจบไป จงแดก็คงจะกลับไปเกาหลี กลับไปเพื่อยืนอยู่เคียงข้างกับใครที่ไม่ใช่เขา เมื่อถึงวันนั้นเขาคงต้องปล่อยมือจงแดไป
     

    “คุณคริส คิดอะไรอยู่ ทำไมถึงเงียบๆไป”
     

    “อ้อ เปล่าหรอก นี่ก็สิบโมงแล้ว ใกล้เวลานัดแล้วล่ะ งานเสร็จแล้วใช่ไหม”
     

    “เสร็จเรียบร้อย อีกเดี๋ยวคุณป๋ายเซียนก็มาแล้ว”ไม่ทันขาดคำก็มีเสียงเคาะประตูพร้อมทั้งคำรายงานของเลขาหน้าห้อง
     

    “ท่านคริสค่ะ คุณป๋ายเซียนขอเข้าพบค่ะ”
     

    “เชิญ” เมื่อป๋ายเซียนเข้ามา จงแดก็ถึงกับอึ้ง เพราะไม่คิดว่าจะเป็นคนๆนี้
     

    “แบคฮยอน”
     

    “จงแด นาย มาอยู่ที่นี้ได้อย่างไง”ป๋านเซียนที่ตอนนี้เองก็อึ้งไม่แพ้กัน เพราะไม่คิดว่าเพื่อนสนิทเก่าแก่ของตัวเองจะมาอยู่ที่นี้ได้
     

    “นาย นายคือป๋ายเซียนเองหรอแบค นายคือป๋ายเซียน”
     

    “ใช่ ฉันคือป๋ายเซียน เปี้ยนป๋ายเซียนคือชื่อจีนของฉัน แล้วนาย นายมาอยู่ที่นี้ได้อย่างไร จงแด นายมาอยู่ที่ตระกูลนี้ได้อย่างไร จงอินรู้หรือเปล่า เขาตามหานายอยู่”แล้วก็เป็นจงแดเองที่หลบสายตาของแบคฮยอน คำถามที่เขาไม่อยากตอบ จะให้ตอบว่าอย่างไง ถูกลักพาตัวมาอย่างนั้นหรอ
     

    “นั่งลงก่อนสิป๋ายเซียน”คริสที่เห็นถ้าว่าจะไม่ดีจึงเปลี่ยนเรื่อง
     

    “ขอบคุณครับ คริสเกอเก่อ”
     

    “ป๋ายเซียน พี่มีเรื่องจะถาม”คริสนั่งลงพลางดึงให้จงแดนั่งลงข้างๆ
     

    “มีอะไรครับ”
     

    “นายเคยเห็นจดหมายนี้ไหม จดหมายของอาเทา นายเป็นคนสุดท้ายที่อยู่กับอาเทาใช่ไหม”
     

    “จะ จดหมาย จดหมายอะไรครับ ผมไม่เคยเห็น อาเทาไม่ได้เอามาให้ผมดู”เสียงของแบคที่ดูจะสั่นๆในตอนแรกนั้นไม่ได้รอดพ้นจากการสังเกตของคริสไปได้
     

    “งั้นหรอ แล้วคนที่ชื่อซูโฮหรือคิมจุนมยอนหล่ะ นายรู้จักไหม”เพราะสายตาของจงแดที่มองมาทำให้แบคฮยอนต้องพูดออกไป
     

    “รู้จักครับ เขาเป็นพี่ชายของจงแด ผมกับจงแดรู้จักกันตั้งแต่เด็ก สนิทกันมาก็นาน ไม่แปลกที่จะรู้จักกัน”
     

    “งั้นหรอ แล้วนายรู้ไหม ว่าอาเทากับจุนมยอนคบกัน”
     

    “ผม ผมไม่ทราบ อาเทาไม่เคยบอก”
     

    “แน่ใจนะ ป๋ายเซียน ว่าไม่รู้จริงๆ”
     

    “แน่ใจครับ”
     

    “แล้วทำไมในจดหมายนี้ ถึงได้มีชื่อนายด้วยล่ะ พร้อมกับการกล่าวถึงว่านายรู้ว่าพวกเขาคบกันอยู่”
     

    “มะ ไม่จริง ผมไม่รู้ ไม่รู้”แบคฮยอนแทบจะตระโกนใส่หน้าคริส
     

    “เปี้ยนป๋ายเซียน บอกความจริงมา”
     

    “ผมบอกแล้วไงว่าไม่รู้ ไม่รู้จริงๆ อาเทาคบกับใคร ผมจะรู้ได้อย่างไง ผมไม่ใช่พี่เขา ไม่ใช่เพื่อนเขา แล้วผมจะรู้ได้อย่างไง”
     

    “ทั้งๆที่อาเทาเห็นนายเป็นพี่ชายที่สนิทมากๆคนหนึ่งนะหรือ เขาปรึกษานายมากกว่าฉันซะอีก แล้วเรื่องแค่นี้นายจะไม่รู้ได้อย่างไง เว้นแต่ว่า นายจงใจที่ไม่อยากจะฟังจะรับรู้เรื่องนี้ เปี้ยนป๋ายเซียน”
     

    “ไม่รู้ ผมไม่รู้”
     

    “ถ้าอย่างนั้นนายก็ดูสิ ว่าทำไม ลายมือมันถึงได้เหมือนกันอย่างนี้ ระหว่างบัตรที่เขียนมาอวยพรฉัน กับจดหมายนี้” หึ จบแล้ว จบแล้ว
     

    “หึ คำสัญญา คำสัญญาของสองตระกูล ทั้งๆที่พวกเรากำลังจะทำให้มันเป็นจริงมาได้อยู่แล้ว แต่ทุกอย่างมันกลับต้องพังลงเพราะผู้ชายคนนั้น เพราะผู้ชายคนนั้น! คิมจุนมยอน
     

    ฮึก ทำไม ทำไมผู้ชายคนนี้ต้องตามมาหลอกหลอนฉัน ทิ้งฉันยังไม่พอ ทำไม ทำไมต้องมาแย่งคนรักฉันอีก ฮึก ทำไม ทำไมต้องทำให้อาเทาเป็นอย่างนั้น ในเมื่อฉันไม่ได้อาเทา ก็อย่าหวังว่าใครจะได้ครอบครองเขา ใช่ ฉันเป็นคนเขียนมันเอง จดหมายนั่นฉันเป็นคนเขียนมันเอง ใช้อิทธิพลของพ่อเล็กน้อย ก็ทำให้พวกหนูหิวเงินพวกนั้นให้ทุนจุนมยอนไปเรียนต่อที่สหรัฐ ให้เปลี่ยนเบอร์โทรติดต่อ ให้คนแฮกโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างๆทั้งของอาเทาและมัน ทำให้มือถืออาเทาต้องเสีย ทำให้ติดต่อกันไม่ได้ ใช่ทำให้ติดต่อกันไม่ได้ ยกเว้นจดหมายไง แต่พี่จุนไม่รู้บ้านเลขที่ของตระกูลอู๋นี่ อีเมลล์ก็ติดต่อไม่ได้ ในเมื่อฉันเป็นคนแอบเปลี่ยนรหัสผ่านของอาเทา และให้คนแฮกลบอีเมลล์ที่อาเทาส่งให้มัน และมันส่งให้อาเทา และในเมื่อฉันเองก็เป็นคนรู้ว่าพวกมันคบกันอยู่ ถ้าเป็นฉันที่เอามาให้อาเทาโดยอ้างว่ามันฝากมาให้ แค่นี้ก็ไม่น่าสงสัยแล้ว แต่ทุกอย่างกลับผิดคาด ฉันแค่หวังว่าอาเทาจะตัดใจจากมันได้ แค่หวังว่าอาเทาจะเลิกยุ่งกับมัน แล้วฉันก็จะเข้ามาปลอบอาเทา เสียบแทนมัน แต่ไม่คิด ฮึก ไม่คิดว่าอาเทาจะรักมันมากจนยอมฆ่าตัวตายพร้อมกับลูก ทั้งๆ ทั้งที่ฉันคิดไว้อยู่แล้วไม่ว่าอาเทาจะเป็นอย่างไงฉันก็ยังจะรักเขา รักลูกของเขา ฮึก สุดท้ายคนที่ทำให้อาเทาต้องตายก็คือมัน  คนที่ทำให้อาเทาตายก็คือมัน!!
     

    “ไม่จริง คุณเทาต้องตายก็เพราะนาย เพราะนาย แบค ถ้านายไม่ทำเรื่องพวกนั้น คุณเทาก็ไม่ตาย ใช่ ในวันที่เทาบอกกับพี่ชายฉันว่าท้อง วันนั้นตอนที่พี่กลับมาพี่บอกฉันว่าเร็วๆนี้พี่อาจจะได้เป็นพ่อคน พี่ตื่นเต้นและดีใจมาก ฉันถามพี่ว่าแล้วแม่ของเด็กเป็นใคร แล้วพี่จะพาเขามาให้พบพ่อแม่เมื่อไหร่ พี่จุนบอกแค่ว่า เขาเป็นคนจีน พี่บอกว่าจะพามาให้พ่อกับแม่รู้จักวันพรุ่งนี้ ฉันถามพี่ว่าแล้วพอพี่รู้ว่าพี่กำลังจะเป็นพ่อคนพี่รู้สึกอย่างไง พี่บอกแฟนพี่อย่างไง พี่จุนตอบว่า พี่บอกว่าพี่ได้แต่อึ้งจนเงียบ และถามอีกครั้งว่าท้องแน่จริงเหรอ นายก็รู้ว่าผู้ชายที่ท้องได้นะ มันหายากแม้แต่หมอสูติฯอย่างพี่ยังไม่เคยเจอเคสแบบนี้ พอเจอเข้ากับตัวเองพี่ถึงกับมึนและเหมือนช็อคไปจนวิ่งหนีออกมา ตอนนั้นฉันก็รู้สึกแล้วล่ะว่ามันอาจจะเกิดเรื่องยุ่งยากตามมา ฉันเลยบอกให้พี่ติดต่อคุณเทาเพราะกลัวจะเข้าใจผิด แต่กลับติดต่อไม่ได้ พี่ตั้งใจที่จะติดต่อคุณเทาให้ได้เพราะตั้งใจว่าจะพากันไปอยู่ที่สหรัฐด้วยกัน แต่ว่าพี่กลับถูกเร่งให้บินไปอย่างเร็วด่วน  นี่เป็นเพราะวันนั้น เหตุการณ์วันนั้นใช่ไหม ที่นายใช้เป็นช่องโหว่ในการคิดและลงมือทำแผนต่างๆ แบคบอกมาได้ไหมสัญญาที่นายว่านั้นเป็นสัญญาอะไร”
     

    “ไม่ อาเทาไม่ได้ตายเพราะฉัน สัญญา สัญญาระหว่างตระกูลพยอนกับตระกูลอู๋ จะได้เป็นจริง เพราะพ่อของฉันมีบุญคุณกับตระกูลอู๋ พ่อของคุณคริสเลยสัญญาว่าจะให้ลูกชายของเขาแต่งกับลูกชายของผู้มีพระคุณ พอฉันเกิดมาก็ถูกจับให้หมั้นกับพี่คริส เคยถามฉันบ้างไหม ว่าฉันอยากหมั้นหรือเปล่า ฮึก ทำไม ทำไมอาเทาไม่เกิดเร็วกว่านี้ ฉันที่อยู่เกาหลีตั้งแต่เด็ก เพราะไม่อยากถูกจับให้แต่งงานฉันเลยไม่ยอมกลับมาที่จีน จนกระทั่งวันที่พี่จุนบอกเลิกฉัน ทั้งๆที่กำลังจะหลีกหนีจากคำสัญญานั้นแล้วแท้ๆ แต่พี่ชายนายก็บอกเลิกฉัน ฉันทำใจไม่ได้ ฉันเลยตัดสินใจย้ายไปเรียนที่จีนทั้งที่ตอนนั้นก็อยู่เกรด11แล้ว โรงเรียนที่ฉันอยู่ คือโรงเรียนที่อาเทาเรียน ที่นั้นทำให้เราสองคนสนิทกัน ฮึก อาเทาที่แสนอ่อนโยน เขาปลอบฉัน ฉันรักเขาไปแล้วสิ แต่เพราะรู้ดีว่าฉันหมั้นกับใคร พวกเราเลยต้องแอบคบและฉันก็นึกออก ใช่นิ สัญญาไม่ได้กำหนดว่าเป็นลูกชายคนไหน บางทีพวกเราอาจจะทำให้พวกเขาเปลี่ยนคนหมั้นหมายได้ ในเมื่ออาเทาก็เป็นลูกชายตระกูลอู๋เหมือนกัน แต่เหมือนว่าแม่จะรู้ว่าฉันแอบคบกับเทา ฉันรู้ว่าแม่อยากให้ฉันแต่งงานกับพี่คริสแค่ไหน แม่เลยบังคับให้ฉันมาเรียนมหาลัยที่เกาหลี ฉันขัดใจไม่ได้ จำยอมต้องมาเรียนที่เกาหลี มันทำให้ฉันกับเทาต้องห่างกัน แต่มันก็ทำให้เรารักกันมากยิ่งขึ้น จนเมื่อ อาเทาเองก็ย้ายมาเรียนที่เกาหลีเหมือนกัน ฉันไม่รู้ว่าอาเทาเจอกับพี่จุนได้อย่างไร ฉันไม่เคยรู้เลยว่าพี่จุนพยายามจีบแฟนฉันอยู่ คนรักเก่ากำลังจีบคนรักใหม่ของฉัน จนเมื่อฉันรู้ มันก็ทำให้ฉันแทบบ้า ฉันกลายเป็นคนขี้โมโห เหวี่ยง วีน คอยตามเช็คดูตลอดเวลาว่าอาเทาอยู่ที่ไหน อยู่กับใคร ฉันกลัว กลัวว่าอาเทาจะไม่รักฉันเหมือนเดิม กลัวว่าจะต้องหมั้นกับพี่คริส แต่นั้นกลับยิ่งทำให้ฉันห่างกับอาเทามากขึ้นทุกวัน จนกระทั่งอาเทายอมใจอ่อนคบกับพี่ชายนาย วันที่อาเทาบอกเลิกฉัน ทุกอย่างเหมือนพังทลายลง ฮึก ความหวัง ความหวังของฉันหายไปกับตา แล้วยิ่งวันที่ฉันรู้ว่าอาเทาท้อง ฮึก ทำไมต้องท้อง ทำไม วันนั้น วันนั้นอาเทากลับมาบ้านด้วยหน้าตาซีดๆ เขามาปรึกษากับฉัน เขาบอกว่าเขาไปบอกพี่จุนแล้วว่าเขาท้องแต่ทำไมพี่จุนต้องทำหน้าเหมือนว่าไม่เชื่อ ถามเขาซ้ำว่าจริงๆเหรอ ทำไมพี่จุนต้องวิ่งหนีเขา ฉันเลยยุเขาเอง บอกเขาว่ามันไม่ต้องการเขาหรอกวิ่งหนีไปอย่างนั้นนะ ใช่ แล้ววันนั้นฉันก็คิดแผนการทุกอย่างออก ในที่สุด ฉันก็จะได้อาเทากลับคืนมาแล้ว สัญญาก็จะเป็นสัญญา เพราะฉันรู้ดีว่าพี่คริสรักอาเทามากแค่ไหน ถ้าอาเทาขอ พี่คริสต้องให้แน่ๆ แม้แต่คู่หมั้นพี่คริสก็ต้องให้แน่ๆ แต่อาเทากลับฆ่าตัวตาย ฮึก อาเทากลับฆ่าตัวเองตาย ความหวังของฉันพังลงมาอีกครั้ง ฉันไม่ผิด ฉันไม่ผิด ฉันไม่ได้ทำให้อาเทาตาย ฉันไม่ได้ทำให้อาเทาตาย!!”สภาพของแบคตอนนี้ในตอนนี้เหมือนกับคนเสียสติคนหนึ่ง นั้นทำให้จงแดสังเวชใจกับเรื่องที่เกิดกับเพื่อนสนิทเก่าแก่ของตัวเอง ทำไมเขาถึงไม่เคยรู้เรื่องพวกนี้เลย ทำไมแบคไม่มาปรึกษากับเขาบ้าง
     

    “หึ นายทำให้อาเทาฆ่าตัวตายป๋ายเซียน นายไม่ได้รักอาเทาจริงๆเลย นายแค่หวังว่าเขาจะทำให้นายพ้นจากการแต่งงานกับฉัน ทำไมไม่มาบอกับฉันตรงๆล่ะว่าไม่อยากแต่งงานกับฉัน ถ้ารู้ว่าฉันตามใจอาเทาเสมอ ทำไมไม่มาขอถอนหมั้นกับฉันล่ะ ฉันพร้อมให้ถอนเสมอ เพราะฉันเองก็ไม่ได้ต้องการจะแต่งกับนาย แต่จะไปขอถอนหมั้นก็ไม่ได้เพราะบุญคุณที่ท่านเปี้ยนมันค้ำคออยู่ ใช่ ถ้าพวกนายหัดมาบอกฉันตั้งแต่ตอนนั้น ฉันจะไม่ห้ามไม่ขัดเลยแม้แต่นิดเดียวจะไปขอนายให้อาเทาทันทีกับท่านเปี้ยน ท่านเปี้ยนเป็นคนที่มีเหตุผลเสมอ หรือนายไม่รู้จักพ่อของนายเอง เปี้ยนป๋ายเซียน”
     

    “ฮึก ไม่จริง ไม่จริงผมไม่ได้ทำให้อาเทาตาย ผมไม่ได้เห็นอาเทาเป็นครื่องมือนะ ผมรักอาเทาจริงๆ ฮึก ที่ผมไปบอกไม่ได้ เพราะคุณแม่ ฮึก เพราะคุณแม่อยากได้พี่คริสเป็นลูกเขย แค่ลูกชายของท่านอู๋ไม่เพียงพอหรอก แต่ต้องทายาทที่สืบทอดอำนาจของท่านอู๋ นั้นแหละที่คุณแม่ต้องการ ฮึก คุณแม่ต้องการให้ผมเป็นคุณนายใหญ่ครอบครองอำนาจเด็ดขาดทุกอย่างในคฤหาสน์ตระกูลอู๋ เพราะนั่นหมายถึงท่านเองก็จะมีอำนาจในตระกูลเปี้ยนมากขึ้น”
     

    “ไม่มีวันที่ภรรยาของฉันจะมีอำนาจเด็ดขาดในคฤหาสน์ตระกูล เพราะตอนนี้คนที่ครองมันอยู่คือพี่อี้ชิง ไม่ว่าฉันจะแต่งงานกับใคร แต่คนที่มีอำนาจเด็ดขาดทุกอย่างภายในคฤหาสน์อู๋คือพี่อี้ชิง ยกเว้นแต่พี่จะตายอำนาจนั้นถึงจะกลับมาที่คุณนายใหญ่อีกครั้ง ถ้าคุณนายรองของตระกูลเปี้ยนจะรู้ เธอจะไม่มีวันบังคับให้นายแต่งกับฉันแน่นอน”
     

    “ไม่ แม่รู้ดี ของฝากที่ฝากมาให้พี่อี้ชิงมักจะมีบางสิ่งบางอย่างเคลือบมาด้วยเสมอ นั่นคือความจริงที่ผมพึ่งรู้ได้ไม่นาน ดังนั้นทุกครั้งที่แม่จะเอาอะไรให้คุณอี้ชิง ผมจะสั่งให้คนสนิทของผมทำเลียนแบบแล้วสลับกัน ผมอยากบอกพ่อ แต่ทำไม่ได้”
     

    “คุณนายรอง!!”จงแดรีบบีบมือให้สติคริส
     

    “คุณคริส อย่าทำให้เรื่องมันเลวร้ายไปกว่าเดิม”
     

    “แต่...”
     

    “เรื่องนั้นมันเป็นความผิดของคุณ ผมว่าถึงเวลาแล้วคุณที่ควรจะให้อิสระกับแบคจากสัญญาพวกนั้น”จงแดรีบพูดเมื่อเห็นว่าคริสเกือบจะพูดเรื่องของพวกเขาต่อหน้าแบคฮยอนที่รู้ดีว่าเขาหมั้นกับจงอิน
     

    “ป๋ายเซียน สารภาพกับท่านเปี้ยนซะ ไปขอถอนหมั้นฉันกับท่านเปี้ยน แล้วฉันจะช่วยพูดคุยให้ ท่านเปี้ยนเป็นคนที่มีเหตุผลพอ รวมทั้งคลิปเสียงในวันนี้ จดหมาย การ์ดอวยพร ทุกอย่างจะเป็นพยานให้นายเอง”
     

    “พี่คริสช่วยแม่ได้ไหม ช่วยคุณแม่ของผมได้ไหม”ดูเหมือนว่าพอแบคได้ระบายสิ่งที่อึดอั้นตันใจมาตลอดมันก็พอทำให้แบคสงบสติสติทุกอย่างได้
     

    “เรื่องนี้พี่รับปากไม่ได้ แล้วแต่ท่านเปี้ยนจะตัดสิน”
     

    “ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อน แด จงอินรู้หรือเปล่าว่านายอยู่ที่นี้ เขาตามหานายอยู่นะ นายควรโทรไปบอกจงอินได้แล้ว หวังว่าเราคงจะได้เจอกันอีกที ตอนงานแต่งของนายกับจงอิน”เขาพอดูออกว่าทำไมจงแดถึงได้มาอยู่ที่นี้ อีกทั้งเรื่องลายมือ เขากับจงแดเรียนด้วยกันตั้งแต่เด็ก เห็นลายมือก็บ่อย เขาไม่ได้ตั้งใจจะให้จงแดเครียด แต่เขาพอมองสายสัมพันธ์ของจงแดและคริสออก เขาแค่ไม่อยากให้เพื่อนตัวเองต้องเจอสภาวะคล้ายๆกัน จงแดฉันคงจำเป็นต้องบอกหากจงอินถามว่านายอยู่ไหน ฉันขอโทษนะ แต่ฉันไม่อยากให้มันเกิดเรื่องอย่างที่ฉันเคยทำ

    *********************************************************************
     

    “คิดอะไรอยู่เด็กน้อย”คริสคลุมผ้าคลุมไหล่ให้เด็กน้อยของเขาที่ตอนนี้กำลังยืนห่อไหล่เพราะความหนาว ภายในสวนดอกไม้ที่ตอนนี้ดอกไม้ราตรีกำลังแข่งกันส่งกลิ่นหอม
     

    “ท่านเปี้ยนเป็นคนมีเหตุและผลดีนะครับ ท่านดู ตัดสินอย่างเป็นธรรมดี ท่านเป็นมาเฟียใช่ไหมครับ”
     

    “ใช่ ท่านเป็นมาเฟีย แต่ท่านไม่เคยค้าของเถื่อน หรือติดสินบนอะไรใคร ท่านมีอิทธิพลโดยตัวท่านเอง ท่านเป็นแบบอย่างของฉัน”
     

    “สงสารคุณนายรองนะครับ โดนท่านเปี้ยนกักบริเวณอยู่ในห้องนั่น”
     

    “นั่นนะน้อยไปกับเธอทำด้วยซ้ำ แต่เพราะเธอคือคุณนายรอง จะอย่างไงก็ยังมีอำนาจในพรรค ถึงได้โดนแค่นั้นไม่อยากนั้น คนที่ถือหางเธอคงไม่อยู่นิ่งแน่ๆ”
     

    “แต่ที่คิดไม่ถึงก็คือ ยอลรู้เรื่องทุกอย่าง แต่มันก็ถูกของเขานะครับ ก็คุณไม่ถามเขาเอง เมื่อไม่ถาม ก็ไม่ต้องบอก”
     

    “มันก็น่าตลกดี คนที่รู้เรื่องทุกอย่างกับเป็นคนที่อยู่ใกล้ตัวมาก ฉันก็พึ่งรู้ว่าทำไมยอลถึงได้ให้ตรวจสอบของฝากของที่มาจากที่อื่นทุกครั้งโดยเฉพาะของที่ส่งตรงมาให้พี่อี้ชิง”
     

    “เพราะรักไงครับ เพราะยอลรักแบคมาก แต่ก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้เพราะแบครักคุณเทา และต้องแต่งกับคุณ เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะไปห้ามความคิดแบค แต่เขายังพอขัดขวางเท่าที่เขาจะทำได้ เพราะคุณใหญ่คือคนที่เขาเคารพ คือญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งของเขา สำหรับเรื่องคุณเทากับแบค ที่เขาไม่บอกก็เพราะว่าถ้าบอกคุณไป คุณอาจจะบอกยกเลิกก็ได้ แบคอาจจะสมใจ แต่นั่นมันก็หมายถึงการขัดแย้งระอย่างสองตระกูลรวมทั้งเรื่องบุญคุณด้วย เขารักตระกูลอู๋มากนะครับ ชีวิตของเขาคงจะยกให้คุณ ยอลคือคนกลางที่น่าสงสาร คือคนที่รับรู้ทุกอย่าง”คนตัวเล็กฉลาด มองคนเป็น ถ้าได้คนๆนี้มาอยู่ข้างกาย เขาคงจะโชคดี แต่น่าเสียดายที่มีเจ้าของแล้ว
     

    “แล้วป๋ายเซียนในความคิดของนาย”
     

    “แบคเป็นคนน่าสงสารครับ ตั้งแต่เด็กแล้ว แววตาของแบคไม่เคยสดใส น้อยครั้งที่แบคจะยิ้มทั้งปากและแววตา ตอนที่พี่จุนบอกเลิคแบค ผมจำได้ดี ในแววตานั้นมีทั้งความเสียใจ น้อยใจ ตัดพ้อ และแค้น แบคเป็นคนที่รักมาก เกลียดมาก และแค้นฝังใจ กับสิ่งที่เขาต้องเจอมาตลอดจึงไม่แปลกที่แบคจะทำถึงขนาดนั้น เพราะตอนนั้นคุณเทาคงเป็นที่พึ่งของทุกสิ่งทุกอย่างของแบค”
     

    “ทั้งๆที่เขาทำให้นายต้องเจอกับเรื่องแย่ๆนะหรอ”
     

    “แบคเปล่าทำนะ คุณต่างหาก ถ้าคุณใจเย็นอีกนิด สืบเรื่องราวให้ดีๆอีกหน่อย คุณนะมีเรื่องไม่ชอบพี่ชายผมอยู่แล้วหรือเล่า ถึงได้ตั้งประเด็นมาที่พี่จุนอย่างเดียว”นั่นไงฉลาดจริงๆ ใช่ เขากับจุนมยอนมีเรื่องไม่ถูกกันอยู่แล้ว เพราะสัญชาติญาณมันบอกเขาว่าผู้ชายคนนั้นจะนำเรื่องอันตรายมาสู่น้องชายเขา แล้วมันก็ใช่ คุณนายรองสารภาพว่าเป็นคนแนะนำอาเทาให้จุนมยอนรู้จัก เพราะว่าพยายามแยกอาเทากับป๋ายเซียนให้ได้ และสุดท้ายทั้งสองคนนั้นก็รักกันจริงๆอย่างที่คุณนายรองหวังไว้
     

    “ฉันคงผิดไปเองจริงๆ”
     

    “รู้ตัวด้วย รอยฟกช้ำนั่นนะ คุณเป็นคนทายาให้ผมใช่ไหม หายเยอะมากเลย”
     

    “รู้ด้วยหรอเด็กน้อย”
     

    “ผมโตแล้ว คุณต่างหากที่แก่เกินไป ตาแก่”
     

    “ตาแก่งั้นหรอ แก่งั้นหรอ”แล้วคริสก็จั๊กกะจี้เอวของอีกคนเพราะรู้ว่าจงแดบ้าจี้ตรงนั้น
     

    “ปล่อยนะ อย่าจี้ตรงนั้น ไม่เอา”แต่เสียงหัวเราะก็อยู่ไม่นานเมื่อชานยอลเดินเข้ามา
     

    “ท่านคริสครับ คุณคิมจงอิน ขอเข้าพบครับ”
     

    “ให้เข้ามา”สักพักก็มีชายหนุ่มผิวสีแทนเดินเข้ามา
     

    “ไค”
     

    “แด แดมาอยู่ที่นี้ได้อย่างไร”
     

    “แด แด”จงแดกระอักกระอ่วนจะตอบจงอินอย่างไงดี
     

    “ผมเชิญคุณจงแดมาช่วยเรื่องอาเทาเล็กน้อยนะครับ คุณจงอิน”
     

    “หรอครับ คุณคริส ตอนนี้เสร็จแล้วใช่ไหมครับ”
     

    “ครับ เสร็จแล้วเรียบร้อย”
     

    “ถ้าอย่างนั้นผมคงต้องขอตัวแดกลับด้วย แดกลับเกาหลีกับไคนะ แดมีข้าวของที่ต้องเอากลับไหม”จงแดเหลือบไปมองคริส สายตาที่ส่งมามันอ้อนวอนให้เขาอยู่ต่อ แต่เขาจะอยู่ในฐานะอะไรล่ะ ในเมื่อเหตุการณ์ทุกๆอย่างก็จบลงไปแล้ว อาจจะถึงเวลาที่เขาต้องกลับบ้านแล้ว
     

    “ไม่ แดไม่มีอะไรที่ต้องเอากลับ เดี๋ยวแดไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ”
     

    “กลับชุดนี้ก็ได้แด ไม่ได้น่าเกลียดอะไร เครื่องบินส่วนตัว”
     

    “ผมต้องขอตัวกลับก่อนนะครับ คุณคริส หวังว่าครั้งหน้าเราจะเจอกันกันในที่ประชุม หรือไม่ก็ในงานแต่งของผมกับแด”
     

    คุณคริส ผมขอโทษ

    **********************************************************************
     

    “แด คิดอะไร อยู่ๆร้องไห้ทำไม”จงอินค่อยๆเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าที่เขาแสนรัก เขาไม่ชอบให้แดร้องไห้เลย แดยิ้มแล้วน่ารักกว่าเยอะ
     

    “เปล่าหรอก แดไม่ได้คิดอะไร แค่ดีใจนะที่จะได้เป็นแม่คนแล้ว อีกหกเจ็ดเดือนแม่ก็จะได้เห็นหน้าลูกแล้วนะ อย่าดื้อนะลูก”จงอินที่ตอนนี้ยิ้มเศร้าๆเพราะเห็นจงแดฝืนยิ้มออกมา แดไม่เคยบอก ไม่พูดเรื่องที่เกิดขึ้น แม้เขาจะขอแดแต่งงานแดก็ยังขอผลัดไปก่อน จนกระทั่งวันนี้เขาเห็นแดสลบในห้องน้ำรีบพาไปโรงพยาบาลด่วน แล้วก็ได้รู้ว่า ตอนนี้แดกำลังท้อง แค่นี้เขาก็รู้แล้ว ว่าแดเจออะไรมาบ้าง
     

    “แดคิดถึงเด็ก หรือแดคิดถึงพ่อของเด็กกันแน่”
     

    “ไค ไม่ใช่นะ แดคิดถึงลูกจริงๆ”
     

    “งั้นก็แต่งงานกับไคสิ แด เมื่อไหร่แดจะยอมเป็นเจ้าสาวให้ไคอย่างที่เราสัญญากันเอาไว้ล่ะ”
     

    “ไค แต่ว่าแดนะ แดนะไม่เหมาะสมกับไคแล้วนะ แถมซ้ำตอนนี้แดยังท้องอีก ไคจะรักเด็กคนนี้ได้หรอ”
     

    “แด  อย่าคิดมากสิ ลูกของแดก็คือลูกของไค ไม่ว่าเด็กคนนั้นจะเกิดจากแดกับใคร แต่ไคก็จะรักเขาเหมือนอย่างที่ไครักแม่ของเขามากไง”
     

    “ไค ไค แต่ แต่ว่า...”
     

    “พอเถอะแด กลับไปหาเขาเถอะ แดรู้ตัวบ้างไหม หนึ่งเดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่แดกลับมาแดก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว แดเหม่อบ่อยขึ้น บางครั้งไคเรียกแดดังมาก แต่แดก็ไม่ได้ยิน แดไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยยิ้ม ถึงยิ้มไคก็ดูออกว่ามันเสแสร้ง แดกลับมาแต่ตัว แต่หัวใจแดยังอยู่ที่นั้น กลับไปหาเขาเถอะแด”
     

    “ไค แด ขอโทษ แด ขอโทษ ฮึก แดรักเขา รักเมื่อไหร่ แดไม่รู้ ทั้งๆที่แดควรเกลียดเขาแต่แดกลับรักเขา ไค แดขอโทษ ฮึก”
     

    “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ไครู้แล้ว รู้ตั้งแต่พาแดกลับมา กลับไปหาเขาซะ ไปหาหัวใจของแด ไครักแดเสมอนะ ไม่ว่าแดจะรักใคร แต่ไคก็ยังรักแด เป็นของแดเสมอ”
     

    “ขอบคุณ ขอบคุณนะไค แต่ว่า เขาจะรักแดหรือเปล่า ถ้าเขารู้ว่าแดท้อง เขาจะให้แดแท้งหรือเปล่า แดไม่รู้ ไม่รู้ ฮึก”
     

    “คุณคริสรักแดมาก ตอนปลายเดือนที่เขาต้องกลับมาที่เกาหลี เขาพยายามที่จะถามไค เขาเคยแอบดูแด เพราะเขากลัวว่าถ้าแดเห็นเขา แดจะตัดใจจากเขาไม่ได้ เพราะฉะนั้นแดกลับไปบ้านหลังนั้นเถอะ กลับไปหาเขาซะ”
     

    “อืม ถ้าแดจะให้ไคเป็นพ่อทูนหัวของลูกแด ไคว่าอะไรไหม แดจะให้ไคตั้งชื่อลูกแด”
     

    “ยินดีเสมอ ว่าที่คุณนายอู๋ แล้วไคจะคิดชื่อไว้รอลูกแด”
     

    คุณคริส พรุ่งนี้ผมจะไปหาคุณ ผมจะกลับไปบ้านของเรา
     

    ********************************************************

    “เป็นอะไรไปหมิน เห็นถอนหายใจอยู่ได้”
     

    “คิดถึงหนูเฉิน เห็นส้มยิ่งคิดถึง ไม่รู้ตอนนี้เป็นไงบ้าง”
     

    “ครั้งสุดท้ายที่ไปเกาหลี ลู่ก็ลองถามคุณจงอินแล้วนะ เห็นว่าสบายดี อาจจะจัดงานแต่งเร็วๆนี้”
     

    “ลู่ หมินคิดถึงหนูเฉินจริงๆนะ ตั้งแต่เธอไปท่านคริสก็โหมงานตลอดจนหมินละห่วงว่าจะป่วยอีก วันนี้หมินเห็นท่านคริสอ้วก ไม่รู้เป็นอะไร สงสัยจะเครียด เอ๊ะ ลู่ เป็นอะไร ทำไมถึงทำหน้าอย่างนั้น”
     

    “หัน กะ กลับไปข้างหลังสิหมิน”
     

    “มันมีอะไรหรอลู่”แล้วซิ่วหมินก็รู้ว่าทำไมลู่ฮานถึงได้ตกใจขนาดนั้น
     

    “คุณแม่ คุณคริสเป็นอะไร ทำไมถึงอ้วก คุณคริสอยู่ไหน”
     

    “หนูเฉิน มาได้ไงลูก หรือคุณจงอินมาด้วย”
     

    “เปล่าครับ ผมมาคนเดียว ว่าแต่คุณคริสเป็นอะไรทำไมถึงอ้วกล่ะครับ”
     

    “แม่ก็ไม่รู้ แล้วหนูมาได้อย่างไร คุณจงอินไม่ว่าอะไรหรือลูกที่มาที่นี้”
     

    “คุณแม่ ผมอยากเจอคุณคริส ขอผมได้เจอคุณคริสก่อนได้ไหมครับ แล้วผมจะเล่าทุกอย่างให้ฟัง”
     

    “ตามมาสิลูก ท่านคริสอยู่ที่สำนักงานพืชผล”ระหว่างการมาที่สำนักงานเขารู้สึกวิงเวียนอยากจะอ้วกก็หลายครั้ง สงสัยอาการแพ้ท้องจะกลับมา พอได้กลิ่นผลไม้บางอย่างมันก็พาลวิงเวียน ส้ม อยู่ดีๆก็เกลียดกลิ่นส้มขึ้นมา แต่พอผ่านส้มไปอาการก็ดีขึ้น หืม ลูกพลับ อยากกินลูกพลับ เห็นแล้วก็เปรี้ยวปาก แต่ไม่ได้อดไว้ก่อน ต้องคุยกับคุณคริสให้รู้เรื่องก่อน
     

    “ก๊อก ก๊อก ท่านคริสนี่น้าเองนะ ขอเข้าไปหน่อยได้ไหม”
     

    “เข้ามาเลยครับน้าหมิน”แต่พอคริสเงยหน้ามาดูกลับเจอคนเขาทั้งไม่อยากเจอและอยากกอดมากที่สุด
     

    “เฉินเฉิน”
     

    “คุณคริส”
     

    “น้าหมิน ช่วยพาคุณคิมจงแดกลับด้วย”จงแดเมื่อได้ยินคริสเรียกอย่างนี้ก็ทำเอาน้ำตาจะไหลด้วยความน้อยใจ คนอะไรอุตส่าห์เดินทางมาหา อยากจะอ้วกเพราะแพ้ท้องก็หลายครั้งไหนจะอาการเมาเครื่องบินอีก ทำไมถึงเรียกกันได้ห่างเหิน แถมยังขับไล่ไสส่งกันอย่างนี้อีก
     

    “คุณแม่ ขอผมคุยกับท่านคริสของคุณแม่หน่อยนะครับ ช่วยล็อคประตูจากข้างนอกให้ด้วย”ซิ่วหมินได้แต่หันซ้ายหันขวาจะฟังคำสั่งใครดี แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะออกไปแล้วล็อคประตูไว้ บางทีลูกชายอีกคนของเธอคงกำลังจะง้อเด็กน้อยของเธอ
     

    “คุณมาทำไม คุณคิมจงแด”
     

    “ฮึก คนใจร้าย เกลียดผมมากใช่ไหมถึงได้ขับไล่ไสส่งกันอย่างนี้ ฮึก ไม่รักผมแล้วใช่ไหมถึงได้เรียกกันห่างเหินอย่างนี้ ฮึก ไม่คิดถึงผมเลยหรือไง ฮึก รู้ไหมผมอดทนเดินทางมาหาคุณทั้งๆที่เมาเครื่องบิน อยากอ้วกเพราะแพ้ท้องก็หลายครั้ง ฮึกคนใจร้าย ทำไมผมต้องคิดถึงคุณ ฮึก ทำไมผมต้องรักคุณ ฮึก”จงแดเอาแต่ร้องไห้และทุบไหล่คริสไปมา ทำเอาคริสต้องยืนอึ้ง เพราะประโยคหลายประโยคจากปากของร่างบาง
     

    “เฉินเฉิน หยุดร้องไห้ก่อน เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะ”
     

    “ฮึก ทำไมผมต้องรักคุณ”
     

    “ก่อนหน้านั้นอีก”
     

    “ฮึก ทำไมต้องคิดถึงคุณ”
     

    “ก่อนหน้านั้นอีก”     
                                                                                                                             

    “ฮึก บ้า คนบ้า ผมท้อง เข้าใจไหม ท้อง ท้องกับคุณ รู้ไหมผมเมาเครื่องบินแค่ไหน ยิ่งท้องอีก แพ้ท้องก็แพ้ เมาเครื่องบินก็เมา คุณยังจะใจร้ายขับไล่ไสส่งผมอีกหรอ”
     

    “ห๊ะ คุณท้อง ท้องจริงๆเหรอ ท้องลูกของเรานะหรอ”คริสแทบจะเขย่าตัวจงแดเมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังจะเป็นพ่อ
     

    “คุณคิดว่า ผมจะลืมคุณหรือไง คุณคิดว่าผมจะไปมีอะไรกับจงอินหรือไง ฮึก คนบ้า คุณรู้ไหมหนึ่งเดือนที่ผ่านมาผมคิดถึงคุณแค่ไหน หนึ่งเดือนที่ผมเหมือนคนโง่ที่ทิ้งหัวใจตัวเอง ฮึก  ตาแก่ ผมรักคุณเข้าใจไหม ฮึก ผมรักคุณ”คริสดึงให้จงแดอยู่ในอ้อมกอดตัวเองพลางลูบหลังปลอบให้ ใบหน้าซุกเข้ากับซอกคอบางสูดกลิ่นกายของคนที่เขาคิดถึงที่สุด รักที่สุดเอาไว้
     

    “แล้วเด็กน้อยคิดว่าผมไม่คิดถึงคุณหรือไง ทั้งๆที่รู้ว่าคุณอยู่อีกห้องแต่ผมก็ไม่กล้าเข้าไปหา กลัวเห็นหน้าคุณแล้วจะตัดใจไม่ได้  คุณคิดถึงผมเท่าไหร่คูณมันไปพันเท่าล้านเท่า นั้นแหละความคิดถึงที่ผมมีให้คุณ ผมแทบบ้าตอนที่ไม่มีคุณ แล้วผมก็รู้ตัวเสมอว่ารักคุณ เฉินเฉิน กลับมาอยู่กับผมนะ กลับมาอยู่กับผมแล้วห้ามหายไปไหนอีก อยู่ที่นี้ สามคน พ่อแม่ลูก”
     

    “อืม ผมจะอยู่กับคุณคริส จะอยู่เป็นครอบครัวเดียวกัน”
     

    “แต่งงานกันนะ”
     

    “อืม แต่ง แต่งกับตาแก่”
     

    “รักนะเด็กน้อย”
     

    “รักเหมือนกันครับ ตาแก่”
     

    - End 33 -

     

     

    ก่อนปิดม่าน
     

    “คยองไม่อยากกลับจีน ไม่เอา คยองจะอยู่กับอาจงอิน”เด็กน้อยน่ารักวัยเจ็ดขวบกำลังงอแงกับผู้เป็นแม่ เหตุเพราะไม่อยากจากคุณอาที่รักไป
     

    “ไม่ได้นะลูก จะเปิดเทอมแล้ว หนูต้องเรียนที่จีนนะลูก”คุณแม่คนสวยพยายามที่จะกล่อมให้ลูกชายกลับกับตนให้ได้ เพราะรู้ฤทธิ์เดชดี ขืนให้อยู่กับคนเป็นเพื่อนละก็ งานนี้จงอินคงต้องมีลูกลิงห้อยติดตัวแน่
     

    “ม่ายยยย คยองจะอยู่กับอาจงอิน คยองจะอยู่เกาหลี คยองไม่อยากกลับจีน ฮืออออออ”เด็กน้อยร้องไห้ออกมาเพราะโดนคุณแม่ขัดใจ ไม่เอา ไม่ว่าจะทำยังไงคยองซูคนนี้ก็จะไม่กลับจีน
     

    “คยองซู อย่าดื้อกับคุณแม่สิครับ ไม่น่ารักเลยนะลูก”จงอินถึงขั้นต้องกุมขมับกับภาพตรงหน้า ก็เข้าใจอยู่นะว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่จงแดกลับมาที่เกาหลี หนูน้อยคยองซูต้องตามมาด้วยและทุกครั้งนั้นหนูน้อยจะอยู่ติดกับเขาแจ เรียกได้ว่าช่วงนั้นเขาต้องขนของไปนอนที่บ้านของจงแดเพราะไม่อยากนั้นหนูน้อยจะโวยวายไม่ยอมกินข้าว ไม่ยอมนอน แน่นอนเขาตามใจหลานคนนี้เสมอ ตามใจทุกอย่าง
     

    “คยองครับ ทำไมไม่ยอมกลับจีนกับคุณพ่อคุณแม่หล่ะครับ อางานเยอะมากนะ ไม่ค่อยมีเวลาเล่นกับหนูหรอก”จงอินถามหลายชายพลางเข้าไปอุ้ม เพราะดูท่าแล้ว อาจเกิดมวยระหว่างคุณแม่กับลูกชายได้
     

    “ก็คยองอยากอยู่กับอาจงอิน คยองไม่ชอบให้พี่สาวพวกนั้นอยู่ใกล้อาจงอิน คยองไม่ชอบ คยองหวง”
     

    “ตายแล้ว โอ๊ย ลูกใครเนี่ย”
     

    “ลูกพ่อคริส กับแม่เฉิน ไงฮะคุณแม่”
     

    “หลานอาจงอินด้วย”
     

    “ไม่ คยองจะเป็นเจ้าสาวให้อาจงอิน”เด็กชายพูดพลางบิดตัวเขินไปมา ช่างแก่แดดเสียจริง
     

    “โอ๊ย ดื้อ ซน เถียงพ่อเถียงแม่แบบนี้ อาจงอินไม่เอาเป็นเจ้าสาวหรอกคยอง”จงแดพูดพลางหัวเราะในความแก่แดดของลูกตัวเอง
     

    “คุณแม่!”ดูท่าเด็กน้อยเริ่มโกรธแล้วล่ะ
     

    “เอาอย่างนี้สิครับ ถ้าคยองอยากเป็นเจ้าสาวของอา คยองต้องกลับไปที่จีน ไปเรียนหนังสือให้เก่งๆ อาชอบเจ้าสาวสวยๆ เรียบร้อย ทำงานบ้าน อาหารเป็น ถ้าคยองอยากเป็นเจ้าสาวของอา คยองต้องทำให้ได้นะครับ”จงอินเริ่มหลอกล่อให้เด็กน้อยกลับบ้านแม้ว่าจะได้สายตาของคนหวงลูกก็ตาม
     

    “โอเคครับ คยองจะกลับจีน คยองจะเป็นเจ้าสาวของอาจงอินให้ได้ อาจงอินห้ามเบี้ยวนะ”หนูน้อยยกนิ้วก้อยขึ้นมาเป็นเชิงให้ชายหนุ่มสัญญา
     

    “ครับสัญญา”ภาพที่สองคนอาหลานเกี่ยวก้อยสัญญากัน มันทำให้จงแดต้องนึกถึงเรื่องในอดีตของตน ตอนนั้นเมื่อเขายังเด็ก เพราะจงอินไม่ค่อยสนใจเรียน เขาจึงหลอกว่าถ้าจงอินเรียนได้เกรดดีๆ ช่วยคุณลุงคิมทำงานดีๆ แล้วเขาจะยอมเป็นเจ้าสาวให้ จงอินยังจำมันได้ดี ทุกครั้งๆที่ผลสอบออกจงอินจะถามว่ามันดีพอแล้วยัง เมื่อไหร่จะยอมเป็นเจ้าสาวให้ จนกระทั่งนานวันเข้าความสัมพันธ์จากเพื่อนจึงกลายเป็นคนรัก คยองเป็นคนจำแม่น จำนาน จำฝังใจ โดยเฉพาะคำสัญญา หวังว่าคยองกับไคอาจจะเป็นเหมือนอย่างเขาก็ได้ มันคงทำให้ความรู้สึกผิดที่อยู่ในใจเขาลดลงได้บ้าง แต่หากไคมองคยองเป็นแค่ตัวแทนของเขาล่ะ เฮ้อ
     

    “จงอินแยกได้น่า ผมเชื่ออย่างนั้น”คริสดูเหมือนจะรู้ดีว่าภรรยาคิดเรื่องอะไรอยู่
     

    “ก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น”
     

    “มันเป็นเรื่องในอนาคตอย่าพึ่งคิดมากเลยนะ แต่ตอนนี้เรามีความสุข จงอินมีความสุข คยองมีความสุข เราควรที่จะเก็บมันไว้ให้นานที่สุดไม่ใช่หรือไงหึ เด็กน้อย”
     

    “อืม รักนะคนแก่”
     

    “ถ้ารัก วันนี้ก็ทำน้องให้คยองเล่นสิ คยองถามตลอดเลยว่าเมื่อไหร่จะมีน้อง”
     

    “บ้า รอก่อนได้ไหม อีกเจ็ดเดือน”จงแดตอบเสียงอ้อมแอ้มจนคนเป็นสามีแทบจะไม่ได้ยิน
     

    “หืม อะไรนะ”คริสถามจงแดอย่างเสียงดังจนสองอาหลานต้องหันกลับมาดู
     

    “เบาๆหน่อยสิ รออีกเจ็ดเดือนไม่ได้หรือไง”
     

    “หมายความว่า ว่า...”ดูเหมือนว่าตอนนี้คริสจะเริ่มติดอ่างแล้วล่ะ
     

    “ก็ท้องนะสิ พึ่งรู้ รอหน่อยนะครับ คุณคริส”
     

    “คยอง อีกเจ็ดเดือนคยองจะมีน้องให้เล่นแล้วนะครับ”
     

    “เอ๊ะ คุณพ่อบอกว่าอะไรนะครับ”
     

    “อีกเจ็ดเดือน คยองจะได้น้อง คุณแม่ท้องน้องอยู่ไงครับ”
     

    “เย้ คยองจะได้น้องแล้ว อาจงอินได้ยินไหม คยองจะได้น้องแล้ว”
     

    “ยินดีด้วยนะแด จะได้ตัวเล็กอีกคนแล้ว จะดื้อเหมือนคยองไหมเนี่ย”
     

    “ไม่ น้องไม่ดื้อ คยองไม่ดื้อ”
     

    “ครับ คยองไม่ดื้อ อย่าลืมนะครับ ตั้งใจเรียน เป็นเด็กดีของคุณพ่อคุณแม่นะครับ เดี๋ยวเดือนหน้า อาไปหานะครับ”
     

    “อาจงอินห้ามลืมนะ อาจงอินบอกกับคยองแล้วนะ เดือนหน้าอาจงอินต้องมาหาคยองนะ”คยองซูจับมือเขาซะแน่น ก็หลานอาน่ารักอย่างนี้จะลืมได้ไง
     

    “คยอง ขึ้นรถได้แล้วลูก เดี๋ยวจะไม่ทันขึ้นเครื่อง อาจงอินก็มีงานอีกตั้งเยอะ”
     

    “อาจงอิน คยองจะตั้งใจเรียน จะเป็นเด็กดี จะทำงานบ้าน ทำอาหารให้เก่งๆเหมือนคุณแม่ อาจงอินสัญญาแล้วนะว่าจะให้คยองเป็นเจ้าสาวของอาจงอิน อาจงอิน ห้ามลืมนะ เดือนหน้าห้ามลืมมาหาคยองนะ”ดูเหมือนว่าเด็กน้อยจะยังไม่แน่ใจในคำพูดของคนเป็นอา จึงได้พูดย้ำอีกครั้ง
     

    “ครับ อาไม่ลืมแน่นอน รีบขึ้นรถเถอะนะครับ คุณพ่อคุณแม่รอนานแล้ว”
     

    “จุ๊บ ไปก่อนนะครับ อาจงอิน บายๆ”คยองซูหอมแก้มจงอินก่อนที่จะขึ้นรถไปนั่งระหว่างจงแดกับคริสที่ดูเหมือนว่าจะเริ่มหวานไม่สนใจลูกอีกแล้ว
     

    “บายๆครับ เฮีย แด เดินทางปลอดภัยนะ ดูแลตัวเล็กในท้องให้ดีๆด้วย เดี๋ยวเดือนหน้าไปหา เจอกัน”
     

    “บาย ไค เดือนหน้าเจอกัน อย่าทำงานหนักนะ ฉันไปก่อนบาย”จงแดโบกมือลาจงอินก่อนที่จะปิดประตูแล้วออกจากคฤหาสน์คิมเพื่อไปสนามบินกลับไปบ้านของตัวเอง
     

              จงอินมองตามรถที่ออกไปจากตัวคฤหาสน์ ในรถคนนั้นมีคนที่เขารักทั้งสองคน
     

              แด ที่ไคยังไม่แต่งงานไม่ใช่เพราะไคยังลืมแดไม่ได้ แต่เป็นเพราะความรักที่ไคมีให้แดมันมากเกินไปจนมองหาใครไม่ได้อีกแล้ว หากเมื่อถึงวันนั้นถ้าคยองยังยืนยันที่จะเป็นเจ้าสาวของไค ไคก็จะทำให้มันเป็นจริง ไม่ใช่ว่าไคจะเห็นคยองเป็นตัวแทนของแดหรอกนะ แต่ขอเด็กคนนี้ให้ไคได้ไหม หากแดเกิดมาเพื่อเป็นรักแรกของไค บางทีคยองอาจจะเกิดเพื่อมาเป็นรักสุดท้ายของไคก็ได้ แดคงไม่โกรธไคหรอกนะหากความรักทั้งหมดที่ไคเคยมีให้แด ไคจะให้เด็กคนนี้
     

              คยองซู ชื่อนี้ อาตั้งให้หลานเอง เพราะคยองคือคยองซูของอา คยองซู ซารางเฮ





    คุยกับตูน

    ฟิคนี้มอบให้แก่ทุกคนที่รีเควสขอ อพค.เลวๆ Minny_DAOVii  ppm และพี่นีน  อยากบอกว่าช่วงนี้ยุ่งมาก ของดรับรีเควสคู่นะค่ะ ยังย้ำว่าจะมาลงให้ทุกวันอาทิตย์ รอหน่อยเหนาะฟิคนี้ คิดว่าอีกสองสามวันจะมาอัพต่อให้จบ
    ปล.จะมีคนฆ่าเราไหมที่ทำเอาพี่หมินและพี่ลู่แก่ 5555


    23/8/2013

    โอ๊ย ไม่ไหว 31 หน้า สุดๆ ยาวที่สุด พอแต่งเสร็จแล้วรีบเอามาลงให้ทันที รอกันนานไหมค่ะ ตอนกลางเรื่องถ้ามึนไปบ้าง มีคำผิดไปบ้าง อภัยให้กันด้วยเนอะ เขียนตอนมึนๆ เป็นฟิคที่แบบ ทำให้ตูนหลับคาโน๊ตบุ๊คก็หลายวัน ล่าสุด วันนี้จ้า สะดุ้งตอนตีสามครึ่ง ฮ่วย ว่าจะเอาลงวันนี้เลยปั่นทันที แล้วก็ดันลื่นด้วยนะเออ เป็นฟิคที่เขียนตอนต้น ตอนจบแล้วค่อยมาเขียนตรงกลาง 555 เจอกันวันไหน ไม่รู้ เม้นท์ตอนนี้ให้เค้าด้วยนะ ทุ่มกับมันจริงๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×