ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    CHENtasy

    ลำดับตอนที่ #7 : Series II : Lady and The Beast:Let out the Beast

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.พ. 57


     

    Let out the Beast

     

     

     

    Kristina Part

     

    ฉันชื่อคริสติน่า ฉันเป็นลูกของนักการเมืองชินดง ผู้ครอบครองอำนาจและเงินทองมหาศาล ส่วนแม่ของฉัน ท่านได้จากไปตั้งแต่ฉันพึ่งเกิด ฉันจึงเชื่อฟังและตามใจคุณพ่อทุกอย่าง รวมทั้ง การแต่งงานกับคนที่ท่านหาให้

     

    ไม่รู้ว่าฉันทำอะไรเอาไว้เมื่อชาติก่อนกันนะ ชาตินี้ถึงได้อับโชคความรักเหลือเกิน โดนคนรักนอกใจ ถูกทิ้ง คบเพราะอยากได้ประโยชน์จากฉันและครอบครัว รวมถึงการโดนคลุมถุงชน แต่นั่นแหะฉันชินไปเสียแล้ว

     

    เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์มาแล้วที่ฉันมาอยู่ที่คฤหาสน์ปาร์ค ในฐานะนายหญิงคนใหม่ หนึ่งสัปดาห์ที่ฉันต้องเห็นคนที่ได้ชื่อว่าสามีของตนเองควงผู้หญิงคนอื่นมาที่บ้าน ไม่รู้เหมือนกันนะว่าทำไมฉันถึงไม่โมโห ไม่อาละวาดหรือกรีดร้องอย่างที่ผู้หญิงคนอื่นทำเวลาเห็นสามีตัวเองเอาผู้หญิงคนอื่นมานอนกกอยู่ที่บ้าน อาจเป็นเพราะว่าเหมือนมีบางสิ่งบอกว่าฉันต้องยอมเขา ยอมให้เขาทำร้ายจิตใจนี้ให้บอบช้ำหรือว่าอาจเป็นเพราะฉันไม่ได้รักเขาก็ได้

     

    ฉันรู้ว่าที่เขาทำไปต้องเพราะต้องยั่วโมโหฉัน ต้องการทำให้ฉันเจ็บใจ ทำให้ฉันร้องไห้ ถ้าพวกคุณสงสัย ทำไมเขาถึงกล้าทำไม่กลัวว่าพ่อเขาจะว่าได้หรือ คำตอบคือคุณลุงคังอินไม่อยู่บ้าน ท่านไปพักผ่อนที่เกาะฮาวาย นั่นจึงทำให้เขากล้าทำสิ่งพวกนั้น

     

    ฉันพยายามนิ่ง พยายามที่จะไม่สนใจ แม้ว่าจะได้ยินเสียงเขาทำกิจกรรมร่วมรักกับคู่ขาที่เขาควงมา แต่สิ่งที่ทำให้ความอดทนในวันนั้นของฉันมันต้องหมดลง คือการที่เขากล้าทำอะไรพวกนั้นพร้อมกันหลายคน นั่นคือสิ่งที่ฉันรับไม่ได้

     

    ชายหนึ่งหญิงสองทำกิจอย่างนั้นร่วมกัน ฉันรับไม่ได้ เขาเหมือนอสูรร้ายเหลือเกินในความคิดฉัน หากไม่ทำอะไรเลยฉันคงจะไม่ไหวแน่ๆ เหมือนเขาจะรู้ว่าวิธีนี้ทำให้ฉันไม่พอใจ พอวันนี้เขาจึงควงมาแค่คนเดียวแต่เป็นผู้ชาย ถึงคราวที่ฉันต้องทำให้เขารู้ว่าไม่ควรที่จะทำอย่างนั้นได้เสียที ถึงเวลาที่ต้องขับไล่อสูรร้ายได้แล้ว

     

     

     

     

    “เธอกำลังทำอะไรนะ”

     

    “ดิฉันมาเตรียมน้ำในอ่างให้คุณกับคู่ขาของคุณไงค่ะ ฉันจุดเทียนหอมให้คุณด้วย จะได้ผ่อนคลายก่อนที่จะทำกิจกรรมอันหนักหน่วงของพวกคุณ”

     

    “แหม คุณพี่ใจดีจังเลยนะครับ แต่ไม่ต้องห่วง ผมจะดูแลสามีของเราให้ดีทีเดียวหรือว่าคุณพี่จะเข้ามาร่วมด้วยก็ได้นะครับ”

     

    “ไม่เป็นไรค่ะ เชิญพวกคุณทั้งสองเถอะนะค่ะ ดิฉันขอตัวไปทำงานก่อน”

     

     

     

     

     

     

    ฉันเดินกลับเข้าห้องฉันผ่านทางประตูกลางที่เชื่อมต่อห้องของเขาและฉัน ฉันขอเอาไว้ตอนก่อนที่จะแต่งว่าขอแยกห้องส่วนตัวของฉันได้ไหม เพราะยังไม่ชิน คุณลุงคังอินไม่ขัดอะไรเพราะเข้าใจว่าฉันคงยังจะทำใจไม่ค่อยได้ที่ต้องนอนกับผู้ชายแม้ว่าจะเป็นสามีก็ตาม

     

    ถ้าเขาฉลาดพอเขาจะรู้ถึงสาส์นที่ฉันกำลังส่งไปให้เขา ฉันนั่งลงทำงานของฉันที่เลขาเอามาให้เมื่อตอนเย็น สักพักก็ได้ยินเหมือนคนทะเลาะกัน ไม่นานก็ยินเหมือนเสียงข้าวของแตกกระจาย ฉันรีบเปิดประตูกลางไปดูทันที

     

    นั่นไงอีกแล้ว นี่ผู้ชายคงนั้นคงพูดอะไรที่ไม่เข้าหูเขาแน่ๆ และต้องเป็นเรื่องปมในใจของเขาแน่นอนถึงขั้นได้อาละวาดแบบนี้ ข้าวของกระจัดกระจายไปทั่วห้อง

     

     

    “ใส่เสื้อของนายซะ แล้วรีบออกไปอย่ากลับมา ไปซะ”ฉันรีบโยนเสื้อคลุมให้คู่ขาของเขาเพราะภาพมันอุจาดตาที่จะดู

     

    “ไปแน่ แต่ว่าผมขอค่าจ้างของผมก่อน”

     

    “เอาไปซะ แล้วออกไป ห้ามพูดถึงเรื่องพวกนี้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นนายคงรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”ฉันรีบเซ็นเช็คให้ เหอะ เห็นแก่เงินจริงๆ

     

    “หึ ไอ้คุณตัว หน้าเงิน หึ แกมันก็แค่อยากได้เงินของฉันเท่านั้น  นังผู้หญิงแพศยา ออกไป”เขาเริ่มตระโกนอาละวาดอีกแล้ว

     

    “ไปแน่ ไม่อยู่หรอก นี่มันอสูรร้ายชัดๆ เชิญคุณนายอยู่กับสามีโรคจิตเถอะนะ เงินเยอะอย่างนี้ผมไม่โพนทะนาบอก”แล้วผู้ชายคนนั้นก็เดินออกไป ฉันพยายามเข้าไปหาเขา พยายามที่จะเข้าไประงับอารมณ์

     

    “อย่าเข้ามานะ นังแพศยาแกก็เหมือนไอ้ตัวนั้นใช่ไหม เห็นแก่เงิน ไม่เคยรักฉันเลยสักคน ออกไปนะ อย่ามาจับเนื้อตัวของฉัน แกไม่ใช่แม่ฉัน ออกไป ออกไป!!” ถึงเขาจะพยายามเอามือฉันออกแต่ฉันก็ไม่ยอมปล่อย ไม่อย่างนั้นเขาได้ทำร้ายร่างกายตัวเองเป็นแน่

     

    “ฮึก ฮึก แม่ครับอย่าทิ้งผมไป อย่าไป ฮึก อย่าทิ้งพวกเรา อย่าทิ้งผมกับพ่อเลยนะครับ ฮึก อย่าไป อย่าไป” อย่างนี้แหละเวลาที่ผู้ชายคนนี้อาละวาดต้องเกี่ยวกับแม่ของเขา ผู้หญิงที่ทิ้งเขากับพ่อในยามที่เกือบล้มละลาย

     

    “ไม่ไปไหน อยู่ที่นี้ อยู่นี้ไง ไม่ไปไหน อยู่ด้วยกัน ไม่ทิ้ง สัญญา”ฉันกอดและปลอบเขาเหมือนแม่ปลอบลูก เพราะบางทีมันอาจจะเป็นสิ่งที่เขาอยากได้แต่ว่าถูกซ่อนอยู่ในใจก็ได้

     

    “อยู่กับผมนะครับ ฮึก อยู่กับผม”หลังจากที่ฉันปลอบไปสักพัก เขาก็หลับไปด้วยความเหนื่อยจากการอาละวาด ฉันให้คุณพ่อบ้านใหญ่และเลขาของเขาช่วยแบกเขาขึ้นเตียงและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ ส่วนห้องนั้นฉันทำความสะอาดเอง จะได้ไม่ต้องไปรบกวนเมดที่เขาพักผ่อนแล้ว เฮ้อ คงต้องเฝ้าเด็กน้อยแล้วล่ะ พอหลับไปแบบนี้เขาก็เหมือนเด็กจัง ที่พออาละวาดเสร็จแล้วก็จะหลับไป วันนี้คงต้องหลับที่ห้องนี้เสียแล้ว

     

     

    วันรุ่งขึ้น

     

                “ก๊อก ก๊อก คุณหญิงค่ะ เปิดประตูให้นมหน่อยค่ะ”

     

    “จ๊ะ มีอะไรหรอจ๊ะ แม่มิยอน”

     

    “คุณซิ่วหมินเอาซุปไก่มาให้ค่ะ บอกว่าเป็นฝีมือคุณดีโอ ตระกูลคิมส่งมาให้เป็นของเยี่ยมไข้ แล้วก็ฝากบอกข้อความจากคุณจงแดมาให้คุณด้วยว่า วันนี้ไม่ต้องเข้าประชุมที่บอร์ดคะ แล้วนี่คุณหนูตื่นแล้วยังค่ะ”

     

    “คุณหนูของแม่มิยอนยังไม่ตื่นเลยจ๊ะ ซุปไก่ หญิงวานให้แม่มิยอนช่วยตั้งไฟต่อได้ไหมจ๊ะ จะได้อุ่นๆแล้วก็จะได้เปื่อยอีก” เฮ้อ จะเก้าโมงเช้าแล้วนะ เขายังไม่ตื่นเลย

     

    “จะให้นมอุ่นหม้อธรรมดาหรือหม้อตุ๋นค่ะ”

     

    “หม้อตุ๋นจ๊ะ ส่วนคุณหนูแม่มิยอน ถ้าตื่นแล้ว หญิงจะลงไปบอกนะ”

     

    “เมื่อวานคุณหญิงน่าจะให้นมช่วยเก็บของให้ เหนื่อยไหมค่ะ”

     

    “ไม่เหนื่อยเท่าไหร่หรอกค่ะ  แค่เก็บของที่คุณหนูของนมทำแตก ทำความสะอาดแค่นี้หญิงสบายมาก แต่หญิงเสียดายของที่แตกไปนะค่ะ บางอย่างเป็นของหายาก ไม่รู้ว่าจะซ่อมได้ไหม หญิงแยกของแล้วนะค่ะ โชคดีที่ว่าหญิงรู้จักช่างซ่อมและบางอย่างหญิงก็พอซ่อมเองได้อยู่บ้าง วันนี้ว่าจะลองไปถามช่างดู” ฉันเสียดายของจริงนะๆ ของบางอย่างมันสวยมาก

     

    “คุณหญิงลองไปถามคุณพ่อบ้านใหญ่เชวแล้วยังค่ะ  พ่อบ้านของที่นี้ทำงานได้หลายอย่างนะค่ะ พวกช่างฝีมือดีๆ เราก็มี เอาอย่างนี้ดีไหมค่ะ เดี๋ยวนมจะให้เขามาขนลงไปนะค่ะ”

     

    “ขอบคุณนะค่ะ แม่มิยอน ถ้าเขาตื่นเมื่อไหร่ ค่อยขนลงไปก็ได้ค่ะ”

     

    “ค่ะ คุณหญิง นมไปตุ๋นซุปไก่ก่อนนะค่ะ”เมื่อพูดจบแม่มิยอนก็ออกไป ฉันรีบมาดูแลเขาต่อ

     

    “เฮ้อ เมื่อไหร่จะตื่นค่ะ ตื่นมาเร็วๆสิค่ะ เจ้าชายอสูรของฉัน เดี๋ยวฉันมาไปอาบน้ำก่อนนะค่ะ ฉันลงไปทำข้าวต้มให้คุณยังไม่ได้อาบน้ำเลย รีบๆตื่นมากินข้าวต้มฝีมือฉันสิค่ะ”

     

    ฉันจับมือของเขามากุมเอาไว้แนบแก้มตัวเอง ฉันไม่เข้าใจ ทำไมถึงต้องยอมผู้ชายคนนี้นัก ฉันไม่ได้รักเจ้าชายอสูรที่แสนใจเอาแต่ใจคนนี้ใช่ไหม ก่อนที่ฉันจะไปอาบน้ำฉันจูบหน้าผากเขาเบาๆ ไม่รู้เหมือนกันทำไมถึงทำอย่างนั้นลงไป

     

    ฉันรีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะได้ดูแลเขาต่อ เมื่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ฉันก็เข้ามาในห้องของเขาและก็เห็นว่าเขานอนพิงพนักหัวเตียง เขาตื่นแล้ว

     

    “คุณตื่นแล้ว เดี๋ยวฉันไปยกข้าวต้มกับซุปไก่มาให้นะค่ะ ดีโอทำมาเป็นของเยี่ยมไข้ให้นะค่ะ”

     

    “ไม่ต้อง โทรเรียกก็พอ ผมอยากอาบน้ำ ช่วยเตรียมอ่างอาบน้ำให้ที”

     

    “ค่ะ เดี๋ยวฉันจัดการให้นะค่ะ” ฉันโทรลงไปข้างล่าง บอกให้แม่มิยอนช่วยยกข้าวต้มและซุปไก่มาให้ที เพราะว่าเขาตื่นแล้ว และช่วยบอกให้พ่อบ้านมายกข้าวของที่ฉันเก็บไว้ด้วย ฉันรีบไปเตรียมน้ำให้เขาอาบ คราวนี้ฉันจุดเทียนหอมกลิ่นส้มเพียงอย่างเดียว เขาจะได้สดชื่นขึ้น

     

    “ฉันเตรียมน้ำให้แล้วนะค่ะ คุณเข้าไปอาบได้เลย วันนี้คุณจะเข้าบริษัทไหมค่ะ”

     

    “ไม่ วันนี้ผมอยากพักผ่อน” ทันทีที่เขาเข้าไปในห้องน้ำ ฉันก็เตรียมชุดไว้ให้ แม่มิยอนยกอาหารมาให้แล้ว เหล่าพ่อบ้านก็ยกเอาข้าวของลงไป ฉันจัดยาแล้วเขียนโน้ตเอาไว้ให้ ถึงเวลาที่ฉันต้องทำงานของฉันแล้ว

     

    อีกสักครู่ คริสตัล เลขาของฉันก็จะมารับงานแล้วเอางานใหม่มาให้ วันนี้มีโทรศัพท์มากมายโทรเข้ามาหาฉัน ไม่ว่าจะเป็นคุณเชวมินโฮ ที่ขอให้บริษัทบัญชีของฉันช่วยตรวจสอบบัญชีให้ คุณนายแทยอนที่ขอให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์ของฉันช่วยจัดการอสังหาริมทรัพย์ให้ คุณนายเจสสิก้าที่โทรมาคุยเรื่องแฟชั่นโชว์การกุศล ขอให้ดีไซเนอร์ในแบรนด์เลดี้ของเราช่วยออกแบบชุดฟินนาเล่ให้ และสุดท้าย เฉิน เพื่อนฉันเอง ที่โทรมาบอกสรุปประชุมบอร์ดบริหารบริษัทใหญ่ที่พวกเราทั้งสองคนช่วยกันตั้ง

     

     

    “เป็นไงบ้าง เลดี้คริสติน่า สามีเธอสบายดีแล้วยัง”

     

    “เรียกซะเต็มยศเลยนะ คุณคิมจงแด คุณชานยอลสบายดีแล้ว ฝากบอกดีโอด้วยว่าขอบคุณสำหรับซุปไก่นะ”

     

    “ไม่เป็นไร อื้อที่ประชุมบอร์ดวันนี้ก็ไม่มีอะไรมากหรอกนะ แค่แจ้งผลการประกอบการของบริษัทลูกเท่านั้น นอกนั้นก็ไม่มีอะไรมากหรอก เราโทรมาบอกแค่นี้แหละ”

     

    “ขอบใจมากนะ เอาเป็นว่าวันนี้มาที่บ้านฉันสิ จะเลี้ยงอาหารเย็นเป็นการขอบคุณ”

     

    “โอ๊ย ไม่เอา ไม่อยากเป็น กขค. คู่รักข้าวใหม่ปลามัน เดี๋ยวให้คุณคริสตัลเอาจดหมายเชิญไปให้นะ เรื่องงานเลี้ยงที่ตาฮิตินะ แค่นี้นะ บาย”

     

    เฮ้อ ทำอะไรรวดเร็วเหมือนเคยเพื่อนฉัน อ่า งานเสร็จพอดี พอฉันลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจก็เห็นเขายืนอยู่ที่ประตูกลางพอดี

     

    “คุณมีอะไรหรือเปล่าค่ะ”

     

    “ทำงานเสร็จแล้วยัง”

     

    “เสร็จแล้วค่ะ”

     

    “ทำไมเธอไม่เคยบอกว่าเธอทำงานพวกนี้ด้วย ฉันคิดว่าเธอจบคหกรรมเสียอีก เห็นกลับมาที่บ้านกี่ครั้งพอถามเมื่อไหร่ ก็บอกว่าคุณผู้หญิงอยู่ในครัว”

     

    “ฉันคิดว่าคุณพ่อคังอินคงบอกคุณไปแล้ว เลยไม่ได้บอกค่ะ”

     

    “แล้วตกลงเธอจบอะไรมา”

     

    “ฉันจบโท MBA ค่ะ จบพร้อมจงแด พวกเราพาสชั้นเรียนนะค่ะ ที่ไม่ได้บอกไปเพราะบางสังคมคนบางคนไม่ได้ต้องการคนที่เกินกว่าหน้าตาเขานิค่ะ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องบอก บางสังคมบางคนชอบคนเก่งชอบคนมีความสามารถ เราก็บอกได้อย่างเต็มที่ หรือคุณคิดว่ามันไม่จริงค่ะ”

     

    “จริง แต่ว่าฉันชอบคนเก่งและแสดงฝีมือออกมา ไปเก็บเสื้อผ้าของเธอ เรามีที่ที่ต้องไปกัน”

     

    “ไปไหนค่ะ”

     

    “สามีจะพาภรรยาไปฮันนีมูนไม่ได้หรอไงครับ ที่รัก ฟอด~”เขาหอมแก้มฉัน  ฮันนีมูน ฮันนีมูนเหรอ อะไรกัน หรือว่าฉันจะขับไล่อสูรร้ายนั้นได้แล้ว ไม่หรอก แค่ชั่วคราว อย่างน้อยฉันก็ไล่อสูรตัวนั้นออกไปได้ชั่วคราว หวังว่าหลังจากนี้ความสัมพันธ์ของพวกเราจะดีขึ้นนะ

     

    เมื่อฉันลงมาก็เห็นว่าเขารออยู่ที่ข้างล่างแล้ว คริสตัลเลขาของฉันก็มารอรับงานแล้วเช่นกัน

     

     

    “คริสตัล นี่งานของเมื่อวานนะ ฉันเซ็นรับรองทุกอย่างแล้ว ขอโทษด้วยที่ต้องให้เธอมารับงานช้าไป”

     

    “ไม่เป็นไรค่ะ เอ๊ะ นี่เลดี้จะไปที่ไหนหรอกค่ะ”แต่ก่อนที่ฉันจะตอบ เขาก็เข้ามากอดเอวฉันพลางตอบแทน

     

    “ผมจะพาภรรยาของผมไปฮันนีมูน วานคุณคริสตัลช่วยยกงานเหล่านี้ให้รองประธานบริษัทดูแลก่อนนะครับ อ้อ ขอบัตรเชิญจากบริษัทคิมด้วยครับ พวกเราจะไปงานต่อจากที่เราฮันนีมูนเอง”

     

    “ค่ะ ขอให้เที่ยวอย่างมีความสุขนะค่ะ เลดี้ไม่ต้องห่วงงานนะค่ะ ดิฉันจะจัดการให้เอง”

     

    “จ๊ะ ยังไงก็ช่วยจัดการด้วยนะ”เขาโอบเอวบังคับให้ฉันต้องเดินตามหลังเขาไปกลายๆ เขาพาฉันมาที่ดาดฟ้าของโรงรถ ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ของตระกูลนั่นเอง

     

    “คุณเอาชุดราตรีมาสักชุดสองชุดหรือเปล่า”

     

    “เอามาค่ะ”

     

    “ผู้หญิงต้องพกของพวกนี้ไปทุกที่ที่เธอไปเลยหรอ”

     

    “เปล่าค่ะ แต่พอคิดออกมาน่าจะเอาไป เพราะวันจันทร์ที่จะถึงนี่คุณมีงานเลี้ยงที่โรงแรมลิตเติ้ล ปริ้นซ์ สาขาเซจู ส่วนงานเลี้ยงที่ตาฮิติ เรื่องพวกนี้ไม่มีปัญหาหรอกค่ะ ฉันจัดการได้”

     

    “รู้ได้ไงว่าผมมีงานเลี้ยงที่เซจู”เขาถามฉันขณะที่เรากำลังขึ้นเฮลิคอปเตอร์

     

    “ฉันมีตารางงานคุณค่ะ คุณพ่อสั่งให้คุณเลขาลีเอาให้ฉันทุกเดือน ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงก็ให้มาบอก”

     

    “เฮ้อ ให้ตายสิเหมือนได้แม่นมมาอีกคน”คิก คนอะไรตลกหน้าตายชะมัด ดูเขาสิมาว่าฉันเหมือนแม่มิยอนแม่นมคนที่เลี้ยงดูเขา

     

    ตลอดการเดินทางฉันไม่ได้พูดอะไรเพราะว่าง่วงอยากหลับเนื่องจากทั้งคืนฉันแทบไม่ได้นอนเลยคอยดูเขา ในที่สุดฉันก็หลับไป ตื่นมาอีกครั้งก็ถึงที่หมายของเรา พวกเราไม่ได้พักที่ลิตเติ้ลปริ้นซ์ แต่ว่าเขากลับมาพาฉันมาที่ที่หนึ่ง

     

    บ้านพักส่วนตัวเขาเอง มันอยู่ห่างจากลิตเติ้ลปริ้นซ์ สักประมาณสิบกิโลได้ เราเดินทางโดยรถที่ลิตเติ้ลปรินซ์จัดไว้ให้ บ้านสองชั้นน่ารักทาสีฟ้าอ่อนๆ ชั้นบนเป็นไม้ข้างล่างเป็นปูน ฉันชอบบ้านหลังนี้จัง

     

    “ชอบไหม อยู่ได้หรือเปล่า ถ้าเธออยู่ไม่ได้ ขับรถกลับที่ลิตเติ้ลปริ้นซ์ได้เลย ไม่ต้องห่วงผม”

     

    “อยู่ได้ค่ะ ฉันไม่รู้ว่าคุณมีบ้านพักส่วนตัวด้วย”ฉันหยิบเอากุญแจที่เขายื่นให้ไปเปิดประตูบ้าน

     

    “เป็นบ้านพักร้อนนะ ผมสร้างไว้นานแล้ว ผมชอบที่จะทำอะไรคนเดียวบ้าง เวลามาเที่ยวที่นี้เมื่อไหร่ผมก็มาพักที่นี้ทุกที ห้องคุณอยู่ทางด้านขวานะ เดี๋ยวผมเอากระเป๋าไปไว้ให้”

     

    “ขอบคุณค่ะ”ฉันมองไปรอบๆภายในบ้าน น่ารักจัง ตกแต่งแบบง่ายๆ เรียบๆ เห็นได้เลยว่าคนที่ตกแต่งเป็นคนอบอุ่น ชอบทะเล ธรรมชาติและตำนานของเอลฟ์ ดูท่าจะคุยกับจงแดได้ยากนะ เพราะจงแดเกลียดเรื่องพวกนี้มาก

     

    ฉันเข้าไปในครัวเปิดตู้เย็นก็เห็นว่ามีเครื่องดื่มและของสดอยู่เต็มตู้ สงสัยเขาคงจะสั่งให้คนมาจัดให้ก่อนหน้าที่พวกเราจะเดินทางมา ฉันได้ยินเสียงเขาเดินลงมาจึงจัดการยกน้ำไปให้

     

    “น้ำเย็นๆของคุณค่ะ”

     

    “ขอบใจ”

     

    “เมื่อกี้ฉันเปิดตู้เย็นเห็นของสดอยู่เต็มตู้ คุณอยากกินอะไรค่ะ นี่ก็เลยมื้อเที่ยงมานานแล้ว”

     

    “เส้นสปาเก็ตตี้ยังมีอยู่ไหม ถ้ามีผมอยากกินสปาเก็ตตีซีฟู้ด”

     

    “ค่ะ ซีฟู้ดแต่ไม่เอากุ้งใช่ไหมค่ะ คุณแพ้กุ้ง”

     

    “คุณรู้”

     

    “ก็ต้องรู้สิค่ะ เดี๋ยวเผลอทำของที่คุณแพ้เข้าจะแย่เอา ฉันรีบไปทำให้ก่อนนะค่ะ” นานแล้วนะที่ฉันไม่ได้ทำอาหารในที่แบบครัวแบบนี้ ปกติก็ทำในครัวของคฤหาสน์ซึ่งบางครั้งฉันยอมรับว่ามันก็ขาดบางอย่าง อาจเป็นเพราะครัวมันใหญ่ มีของครบครัน มีคนที่คอยช่วย พอได้มาทำครัวขนาดแบบน่ารักๆ ในบ้านหลังเล็กๆมันเลยทำให้ฉันดูมีความสุขและใช่ บ้านหลังใหญ่ไม่มีเขามาช่วยฉันแบบนี้

     

    “ไม่ต้องมาช่วยฉันก็ได้นะค่ะ คุณไปพักผ่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันยกไปให้”

     

    “มา ให้ผมช่วยหั่นของให้ จะได้เสร็จเร็วๆไง”

     

    “แต่ว่า”

     

    “ไม่มีแต่”แล้วเขาก็แย่งฉันทำ พอฉันผัดเขาก็แย่งทำ เอ๊ะ ตกลงใครทำกันนี่ ดูสิยังมาบอกอีก ฝีมือเขาหากินได้ยากนะ แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้เราสนิทกันมากขึ้น

     

    ฉันรู้สึกว่าเมื่ออยู่ที่นี้ฉันสามารถเป็นแสดงตัวตนจริงๆของฉันได้ สปาเก็ตตี้ฝีมือเขา อร่อยอย่างที่อวดจริงๆ วันนี้พวกเราไม่ได้ไปไหน เพราะเหนื่อยจากการเดินทางและเพราะว่าเขาพึ่งหายป่วยด้วย วันนี้จึงเป็นวันพักผ่อนจริงๆ

     

     

     

     

     

    วันรุ่งขึ้นหลังจากที่พวกเราทานอาหารเช้าและฉันทำความสะอาดบ้านเสร็จแล้ว เขาก็พาฉันไปที่หมู่บ้านชาวประมง ใกล้ๆกับบ้านของเรา ที่นั้นฉันได้เจอคนที่เคยเลี้ยงฉันตอนเด็กด้วย

     

    “ท่านหญิง มาที่นี้ได้ไงค่ะ ไม่ได้เจอกันตั้งนานนมคิดถึงท่านหญิงเหลือเกิน”

     

    “หญิงก็คิดถึงนม แล้วทำไมนมถึงได้ลาออกมาล่ะจ๊ะ”

     

    “นมมาดูแลพ่อของนมค่ะ แล้วนี่คุณหนูมากับคุณปาร์คได้อย่างไงค่ะ”

     

    “เออ นมจ๊ะ หญิงแต่งงานแล้ว หญิงแต่งกับคุณปาร์คน่ะ”

     

    “คุณจะเอาท่านหญิงมากล่อมพวกเราหรอค่ะ ยังไงพวกเราก็ไม่ขายที่เด็ดขาด”

     

    “ผมไม่รู้ว่า ติน่ามีความสัมพันธ์กับพวกคุณ ผมไม่ได้คิดจะเอาเธอมากล่อมพวกคุณแต่อย่างไร” ทำไมฉันถึงรู้สึกหน้าแดงกับคำที่เขาเรียกฉันว่าติน่าล่ะ

     

    “นมจ๊ะ หญิงไม่ได้มาเพื่อกล่อมนมและชาวบ้านหรอกนะ แต่ว่าเรื่องที่ดินที่เราจะสร้างบังกะโลนั้น ทำไมนมไม่ลองคิดดูล่ะ ว่ามันจะเป็นการสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนที่นี้เหมือนกัน

     

    ผู้ใหญ่บ้านค่ะ บังกะโลที่เราจะสร้าง เราสร้างโดยที่กระทบต่อทะเลและธรรมชาติให้น้อยที่สุด เพราะเราสร้างที่นั้นด้วยความคิดที่เป็นมิตรกับธรรมชาติและชุมชน เราไม่ได้มาซื้อที่ทำกินของชาวบ้านอย่างเดียวหากแต่เราจะเข้ามาพัฒนาชุมชนนี้ด้วย

    เราจะรับพนักงานที่เป็นลูกหลานของคนในชุมชนนี้  แล้วพวกเราก็ไม่ได้ซื้อที่ดินไปเสียหมด ดังนั้นที่ทำกินของชาวบ้านก็ยังมีอยู่ เราจะช่วยให้คนในชุมชนมีรายได้เสริมจากการประมง เช่น การทำของที่ระลึกขายแก่นักท่องเที่ยว

    และที่สำคัญหญิงยังคิดที่จะมอบทุนแก่เด็กที่เรียนดีเรียนเก่งให้ไปเรียนในโซลจะได้กลับมาพัฒนาที่นี้ได้ไงจ๊ะ นมจ๊ะ อีกไม่นานที่นี้จะมีโรงแรมมากมายผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ที่อื่นหากเขามาซื้อเขาจะไม่ทำเหมือนอย่างที่พวกเราทำหรอกนะ ผู้ใหญ่บ้านและนมลองเอาไปคิดดูนะค่ะ”

     

    “ถ้าพวกคุณกลัวว่าเราจะไม่รักษาคำพูด ผมยินดีที่จะทำสัญญาทุกอย่าง และยินดีที่จะให้พวกคุณมาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้สามารถดูแบบแปลน ตรวจสอบได้ ผมตั้งใจที่จะสร้างที่นี้ให้เหมือนกับว่ามันเป็นครอบครัวของพวกเรา ให้มันเป็นของทุกคน

     

    ต้องขอโทษแทนพวกนายหน้าพวกนั้นด้วยที่มาพูดจาข่มขู่พวกคุณ ไม่อย่างนั้นผมคงไม่ลงมาพูดด้วยตัวเอง เพราะเจตนาผมเป็นอย่างที่ภรรยาของผมพูดทุกอย่าง ผมตั้งใจที่จะมาสร้างเพื่อพัฒนาจริงๆ ไม่ได้มาเพื่อที่จะทำลาย ให้ทุกคนเป็นเจ้าของบังกะโล เพราะผมคิดที่จะให้พนักงานและทุกคนเป็นหุ้นส่วนของที่นี้ ยังไง ก็ขอให้ผู้ใหญ่บ้านลองเอาไปคิดดูนะครับ”

     

    “ท่านหญิงค่ะ บริษัทที่ออกแบบและสร้างใช่บริษัทของคุณและคุณเฉินหรือเปล่าค่ะ”

     

    “จ๊ะ บริษัทของหญิงและเฉินเอง”

     

    “ผู้ใหญ่บ้าน ถ้าเป็นบริษัทของท่านหญิง ฉันมั่นใจว่าเขาต้องทำได้ และท่านหญิงเองก็เป็นคนพูดคำไหนคำนั้น มันก็จริงอย่างที่ท่านหญิงพูดด้วย ลำพังแค่รายได้จากการประมงคงไม่พอสำหรับการส่งเสียลูกหลานของเราได้มีความรู้มากพอ หมู่บ้านของเรามีคนมีความรู้ไม่กี่คนเอง”

     

    “พวกคุณจะทำอย่างที่พวกคุณบอกใช่ไหม พวกคุณเตรียมเอกสารทำสัญญาซื้อที่ดินด้วยล่ะ เพราะชาวบ้านเป็นคนให้ผมตัดสินใจ อ้อ ที่พวกคุณบอกไปเมื่อกี้ก็ขอให้ทำสัญญาด้วย ผมจะขอให้ตำรวจมาเป็นพยานหวังว่าคุณจะไม่ขัดนะคุณปาร์ค และแน่นอนผมจะช่วยคุมการก่อสร้างแน่ ถ้ามันไม่เป็นไปตามที่คุณตกลงไว้พวกเราจะรื้อถอนทันที”

     

    “ตกลงครับ ผมจะให้เลขาทำเอกสารพวกนั้นให้เร็วที่สุด รวมทั้งการประเมินราคา คาดคิดว่าอีกประมาณสองสัปดาห์คงจะเสร็จ ขอบคุณนะครับที่วางใจพวกเรา”

     

    “ผมไม่ได้วางใจคุณหรอกนะคุณชานยอล แต่ผมวางใจท่านหญิงต่างหาก เธอเคยช่วยชุมชนพวกเราแม้ว่าจะไม่เคยเข้ามาเห็นสภาพมันจริงๆก็ตาม”

     

    “ขอบคุณนะค่ะพี่แทมิน ที่วางใจติน่า”

     

    “ไม่เป็นไร ไหนๆติน่าก็คงมาฮันนีมูนกันใช่ไหม อาหารสดมีพร้อมหรือเปล่า เดี๋ยวผมเอาของทะเลมาให้”

     

    “อย่าเลย ของซื้อของขาย”แต่ไม่ว่าฉันและชานยอลจะปฏิเสธอย่างไ งผู้ใหญ่บ้านยังหนุ่มอย่างแทมินก็ยังยัดเหยียดมาให้อยู่ดี ความจริงฉันก็รู้จักพี่แทมินมาตั้งแต่เด็กแล้ว เขาเป็นลูกชายของนมฉันเอง พวกเราทานอาหารเที่ยงกันที่หมู่บ้าน แล้วจึงขอตัวกลับมา ระหว่างที่พวกเราเดินกลับมา ฉันได้เห็นเขายิ้มอย่างดีใจ คงเป็นเพราะว่าโล่งใจเรื่องที่ดินแล้วมั้ง

     

    “คุณรู้แผนพัฒนาที่นี้ได้อย่างไรติน่า”

     

    “ฉันบอกแล้วไงค่ะ ว่าฉันมีตารางของคุณ แล้วคุณอย่าลืมสิค่ะ ว่าบริษัทที่ก่อสร้างและออกแบบคือบริษัทของฉันนะค่ะ เสียดายที่คุณไม่รู้จักใช้บริการเรื่องอสังหากับเรา ไม่งั้นได้สร้างนานแล้ว”

     

    “ติน่าพึ่งเพิ่มส่วนของอสังหานี้ไม่ใช่หรือไง แล้วจะบอกว่าจะได้สร้างตั้งนานได้อย่างไร”เขารู้ได้ไงว่าฉันพึ่งเพิ่มแผนกนี้นะ

     

    “แล้วคุณรู้ได้อย่างไงค่ะ ว่าฉันพึ่งเพิ่มของบริการส่วนอสังหา”

     

    “ก็แค่ผมบอกให้เลขาเอาประวัติของคุณมาให้ผม กริ๊งเดียวเท่านั้นแหละ ข้อมูลทุกอย่างก็อยู่ในมือผม”

     

    “คุณให้เลขาหาให้คุณ ในขณะที่ฉันหลับนะหรอค่ะ ร้ายกาจ”

     

    “ไม่งั้นผมจะเป็นเจ้าชายอสูรของคุณหรอ”อะไรกัน อย่าบอกนะว่าเขาได้ยินตอนที่ฉันพูดกับเขาตอนที่สลบไปนะ

     

    “วันนี้มื้อเย็นคุณอยากกินอะไรค่ะ”

     

    “ถ้าฝนไม่ตกไปเสียก่อน ผมว่าเราลองก่อเตาไฟปิ้งของทะเลกินไหม ของสดๆปิ้งกินอร่อยนะ”

     

    “ก็ดีค่ะ”

     

    ดังนั้นมื้อค่ำนี้พวกเราจึงจัดการกันที่นอกบ้าน นับว่าเป็นการกินที่บรรยากาศดีมาก ลมทะเล เสียงคลื่นที่กระทบฝั่งเป็นเสียงดนตรีคลอเบาๆชั้นเยี่ยม ของทะเลปิ้งที่เขาเป็นคนก่อกองไฟและน้ำจิ้มซีฟูดที่ฉันเป็นคนทำ พร้อมกับน้ำมะพร้าวหอมๆ

     

    แต่เราก็ได้ผิงกองไฟนานสักเท่าไหร่เพราะว่าฝนดันตกเสียก่อนจึงรีบเก็บข้าวของเข้าบ้าน ฉันไม่ค่อยชอบให้ฝนตกเลย ฉันกลัวเสียงฟ้าร้อง ยิ่งมาทะเลแล้วฝนตกลมแรงคลื่นแรงแบบนี้ฉันยิ่งไม่ชอบ ไม่รู้ว่าทำไมไม่ชอบ แต่ว่าฉันไม่ชอบและกลัวมากจริงๆ

     

    ฉันข่มตาลงนอนไม่ได้ เสียงฟ้าผ่าดังมากและสุดท้ายไฟก็ดับ ฉันตกใจกลัวร้องไห้ขึ้นมา ปกติเวลาฟ้าร้องฟ้าผ่าแบบนี้ฉันจะมีคุณพ่อคอยกอดปลอบแต่ตอนนี้ฉันไม่มีใคร ฉันไม่กล้าไปหาเขา สักพักก็มีเสียงเคาะประตูดังมา

     

    “ติน่า เปิดประตู เปิดประตูให้ผมหน่อย”ฉันรีบเปิดประตูให้เขา ทันทีที่เห็นเขาฉันก็โผเข้าไปกอด ฮึก ฉันกลัว เขาลูบหลังปลอบไม่ให้ฉันกลัว ฉันรู้สึกถึงสัมผัสร้อนแผ่วเบาที่ริมฝีปาก มันทำให้ฉันหยุดสั่นไป

     

    ชั่วขณะหนึ่ง สายตาของฉันสบกับสายตาของเขา เหมือนกับว่าเวลากำลังผ่านไปอย่างช้าๆ โดยที่พวกเราไม่รู้ตัว เหมือนมีแรงดึงดูดให้ริมฝีปากและร่างกายของพวกเราแนบชิดกันอีกครั้ง อีกครั้งและอีกครั้งราวกับว่าเราทั้งสองคนโหยหามันเหลือเกิน

     

    สัมผัสอันอ่อนโยนของเขามันทำให้ฉันต้องเผลอไผลอ่อนแรงคล้อยตามเขาไป ครั้งแรก ครั้งแรกของฉันคือเขา ครั้งแรกของเราในฐานะสามีภรรยา อ่อนโยน แต่ก็เร้าร้อนเหมือนกับว่าฉันถูกหลอมละลายให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของเขา เจ็บปวด แต่ก็มีความสุข หากต้องตายในสัมผัสนี้ฉันก็ยอม อา สวรรค์อยู่ตรงหน้าฉันแล้ว ก่อนที่เราจะหลับภายใต้อ้อมกอดของกันและกันเพราะความเหนื่อยอ่อน ฉันได้ยินคำที่ฉันอยากฟัง สัมผัสที่อยากได้

     

    “ผมรักคุณ ยอลรักติน่านะ จุ๊บ My lady

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    สัมผัสที่อ่อนโยนทำให้ฉันต้องลืมตาตื่นขึ้น อื้ม ปวดเหมื่อยตามร่างกายไปจนหมด

     

    “ตื่นแล้วหรอ นอนก่อนเถอะ ผมจะเช็ดตัวให้”ฉันรีบส่ายหัวปฏิเสธ กระชับผ้าห่มที่ห่อหุ้มร่างกายเอาไว้แน่น ไม่เอา ฉันอาย รู้สึกว่าตอนนี้ใบหน้าร้อนผ่าวแล้วล่ะ

     

    “เขินหรอ เขินทำไม ผมเห็นหมดแล้วนะ”

     

    “ไม่เอา ก็ตอนนั้นมันยังมืดอยู่นิ แต่ตอนนี้สว่างโร่แล้ว”

     

    “งั้นผมมุดเข้าใต้ผ้าห่มเช็ดให้ดีไหมแค่นี้ก็มืดแล้ว”

     

    “บ้า ฉันไปอาบน้ำเองได้ค่ะ”

     

    “แทนตัวเองว่าติน่าสิ เหมือนที่คุณแทนตัวเองอย่างเมื่อวานไง”

     

    “ไม่เอาค่ะ”

     

    “จะพูดไหม หรือจะให้ผมลงโทษ”เข้าโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้จนริมฝีปากเราจะชิดกันอยู่แล้ว

     

    “พูดแล้วค่ะ ติน่าอาบเองได้ คุณไม่ต้องเช็ดตัวให้ติน่าหรอก”

     

    “จุ๊ๆ ไม่เอาไม่เรียกผมว่าคุณ เรียกผมว่ายอลสิ เรียกผมอย่างเมื่อคืน ผมชอบให้เสียงหวานๆของคุณเรียกผมอย่างนั้นนะ”ฉันจะระเบิดตัวเองได้แล้วนะ แต่สายตาที่เขาจ้องมองมานี้สิ มันสะกดให้ฉันต้องทำตามที่เขาเรียกร้อง

     

    “ยอล”สัมผัสของเขา ริมฝีบากของเขา นี่เขาจะฆ่าฉันให้ตายตั้งแต่ตอนนี้หรือยังไง

     

     

    “มาเดี๋ยวยอลพยุงติน่าไปนะ ติน่าเดินเองไม่ไหวหรอก”อ่า หน้าฉันแดงอีกแล้ว แต่ก็ใช่ ถ้าไม่ได้เขาฉันคงเข้าห้องน้ำเองไม่ได้หรอก เรี่ยวแรงมันแทบไม่มีเลย

     

     

     

    ตอนนี้ฉันมีความสุขจริงๆ ฉันคิดว่าตอนนี้ฉันสามารถขับไล่อสูรไปได้อย่างถาวรแล้วล่ะ เห็นไหมเจ้าชายของฉัน หล่อไหมล่ะ อา ความรักเริ่มต้นตอนไหนไม่รู้เหมือนกัน รู้แต่ว่าตอนนี้ความรู้สึกนี้มันเรียกว่ารัก ที่เหลือคงต้องใช้เวลาเดินไปในเส้นทางแห่งนี้พร้อมกับอีกคนไปตลอดชีวิตแล้วล่ะ

     

    - END LADY PART-

     

     

    มาแล้ว ตอนใหม่มาแล้วค่ะ เป็นไงบ้างค่ะ สำหรับตอนนี้พอที่จะทำให้ฟินบ้างไหมค่ะ หนูน้อย คริส(ติน่า)น่ารักไหม 555 บอกตามตรงว่าตอนนี้เขียนได้ยากสุดๆทั้งที่น่าจะเขียนได้ง่ายนะเพราะคริส(ติน่า)เป็นผู้หญิง ตอนต่อไปเรามาลองอ่านในส่วนของยอลกัน ส่วนของอสูรร้ายดูสิว่าทำไหมเขาถึงได้กลายเป็นอย่างนั้นแล้วเพราะอะไรสุดท้ายอสูรถึงได้เปลี่ยนมาเป็นเจ้าชายได้ เจอกัน สัปดาห์หน้านะค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×