ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF] EXO ALL x JONGDAE

    ลำดับตอนที่ #44 : Gentleman and Chentleman 30%

    • อัปเดตล่าสุด 20 เม.ย. 57


    Gentleman and Chentleman                                                                                                    

     

                “อายุ วรรณะ สุขะ พลัง”

     

                “สาธุ”

     

                ร่างบางค่อยๆลุกขึ้นหลังจากที่ทำกิจวัตรยามเช้าเสร็จสิ้น ยกถาดที่เคยมีข้าวของเต็มให้เด็กในบ้านเอาไปเก็บ ใบหน้าหวานเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มหวานที่ใครเห็นก็ต้องหลงใหล

     

                พี่ชายช่างสง่างาม มิน่าคุณน้าถึงดีใจ

     

                “พระท่านบิณฑบาตเสร็จแล้วหรอค่ะ คุณจงแด”

     

                “ครับคุณน้า หลวงพี่ท่านรับเสร็จแล้วครับ พึ่งแจวเรือกลับไปนี่เองครับ”

     

                “น้าเสียดาย ไม่ได้มาใส่บาตรพระใหม่ โรคประจำตัวผู้หญิงเนี่ยมันมาโดยไม่รู้ตัวเสมอสินะ ทั้งๆที่คิดว่ายังไม่มาซะอีก”

     

                “มันบังคับกันได้ซะที่ไหนครับคุณน้า แต่ยังไงคุณน้าก็อย่าลืมไปตรวจด้วยนะครับ เพราะบางทีมันอาจเป็นสัญญาณของโรคก็ได้ มาไม่ตรงตั้งสี่เดือนแล้วไม่ใช่หรอครับ เห็นน้องบ่นอยู่ว่าคุณน้าไม่ยอมไปตรวจ”

     

                “ยัยกุ้งนี่ เอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาเล่าให้คุณจงแดฟัง เดี๋ยวน้าต้องไปบ่นเสียหน่อย”

     

                “น้องคงเป็นห่วงคุณน้ามากนะครับ เมื่อวานคุณพ่อบอกว่าอยากรับเครื่องว่างจีน ผมเลยสั่งให้เขาซื้อของมา ยังไงถ้าวันนี้คุณน้ายังพอไหว รบกวนมาช่วยผมด้วยนะครับ ฝีมือขนมจีบของคุณน้าผมสู้ไม่ไหวหรอก”

     

                “เดี๋ยวน้าทำเองค่ะ คุณจงแดทำงานของคุณท่านอย่างสบายใจเลยนะค่ะ เดี๋ยวงานในบ้าน น้าทำเอง”

     

                “งานอะไรครับ”

     

                “เดี๋ยวคุณท่านจะบอกคุณจงแดเองค่ะ น้าขอตัวไปดูในครัวก่อนนะค่ะ”

     

                “ครับ”จงแดรับปากก่อนที่จะเดินไปที่ศาลาในสวนดอกไม้นานาชาติที่คุณพ่อสั่งให้ทำเป็นของขวัญเมื่อตอนบรรลุนิติภาวะ

     

     

     

     

     

                จงแดย้ายมาอยู่ที่ไทยได้เกือบสามปีแล้ว ความจริงก็ไปกลับไทย-เกาหลี ประเทศอันเป็นบ้านเกิดบ้านเกิดประมาณห้าปี เพราะว่าพ่อของจงแดนั้นแต่งงานใหม่กับคนไทย และหลงเสน่ห์สยามเมืองยิ้ม จึงสร้างบ้านที่ไทยและย้ายมาอยู่ที่นี้ ส่วนตัวเขา ตอนนั้นยังเรียนมัธยมอยู่ ไม่ได้ย้ายมาอยู่ด้วยจะกลับมาก็ตอนปิดเทอมเท่านั้น พอเรียนจบถึงได้ย้ายมาอยู่ที่นี้

     

    แม่ของจงแดนั้นพอคลอดเขาได้ไม่นานก็ตายไป คุณพ่อจึงเป็นคนที่เลี้ยงดูเขามาตลอด ท่านใจดี ไม่เคยด่า หรือว่ากล่าวจงแดเลยสักครั้ง ตอนที่แนะนำคุณน้าให้รู้จัก จงแดในตอนนั้นที่อายุได้สิบสองปีก็พอรู้อยู่ว่าคุณพ่อรักกับคุณน้า เพียงแต่ท่านไม่กล้าพูด เพราะเกรงใจเขา กลัวจะรับไม่ได้ แต่ก็เป็นตัวเขาเองที่บอกคุณพ่อว่ารับได้ ไม่ต้องเป็นห่วง ดังนั้นปัญหาลูกเลี้ยงกับแม่เลี้ยงในครอบครัวของเขาจึงไม่เกิดขึ้น

     

    แม่ใหม่ของเขา น้าดวงพร หรือที่คุณพ่อแนะนำให้เขาว่า คิมลีนา มีลูกติดอยู่สองคน คือ ชโลธรหรือกั้ง แก่กว่าเขาไปหนึ่งปี และ ชลาธร หรือกุ้ง อ่อนกว่าเขาไปสองปี  ทั้งสองคนดีกับเขามาก เสียแต่ชอบเรียกว่าคุณ นั่นก็เพราะคุณน้าสอนลูกทุกคนให้เคารพเขาที่เป็นลูกของคุณพ่อและคุณแม่ที่ตายไป ไม่ให้ทำตัวเสมอ

     

    แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นคุณน้ามีลูกให้คุณพ่อคนหนึ่ง ที่ถือว่าเป็นน้องชายสายเลือดเดียวกันกับเขานั่นก็คือ คิมจงอิน หรือชื่อไทยที่คุณน้า ตั้งให้ว่า คงไค หรือตาไก่ แต่พอเจ้าตัวไปเรียนที่เกาหลีตั้งเสียใหม่ว่า ไค

     

                “คุณจงแดค่ะ แม่บอกว่ายกสำรับขึ้นแล้วค่ะ”

     

                “ยายกุ้ง ถ้าเธอยังเรียกพี่แบบนี้อีก พี่ไม่ช่วยพูดกับคุณน้าแล้วนะ”

     

                “แต่ว่า คุณแม่สอนมาอย่างนั้น และเราก็ตกลงกันแล้วด้วย”

     

                “แต่ที่นี้มันที่ส่วนตัว พูดธรรมดากับพี่ก็ได้ พี่พูดอย่างนี้มาเกือบแปดปีแล้วแต่เธอก็ยังไม่เลิกสักที”

     

                “ค่ะ ขอบคุณนะค่ะที่ช่วยพูดกับคุณแม่ ไม่อย่างนั้น แม่คงไม่ยอมไปตรวจแน่”

     

                “แล้วนี่เราพึ่งลงวอร์ดมาหรอยายกุ้ง”

     

                “ค่ะ หมดวอร์ดอีอาร์ เดี๋ยววันนี้ตอนบ่ายกุ้งก็ต้องขึ้นวอร์ดสูติแทน เฮ้อ เหนื่อยจริงๆค่ะพี่ แต่พออยู่วอร์ดสูติคงสบายขึ้น”

     

                “เอาน่า ใกล้จะจบแล้วทนหน่อยนะ สบู่ห้องกุ้งหมดแล้วหรือยัง ถ้าหมดแล้วไปลองกลิ่นใหม่ดูนะ หรือจะเอาไปใช้เลยก็ได้ เมื่อวานพี่พึ่งได้กลิ่นใหม่กลิ่นลูกจัน กว่าจะทำได้ยากชะมัด”

     

                “คุณจงแดทำได้แล้วหรอค่ะ เดี๋ยวกุ้งเอาไปใช้วันนี้เลยค่ะ”หญิงสาวรีบเปลี่ยนสรรพนามทันทีเมื่อเข้าไปในเขตเรือน

     

                “อืม เมื่อวานเอง ต้องลองทดสอบกลิ่น ความคงทน แล้วก็การแพ้ ถ้าผ่าน พี่ว่าจะเอาขึ้นเป็นกลิ่นซิกเนอเจอร์”

     

                “ยังไงก็ผ่านอยู่แล้วละค่ะคุณจงแด”

     

                “ชวนคุณจงแดคุยอะไรนะยายกุ้ง ดูสิคุณท่านรอนานแล้ว”

     

                “อย่าไปดุน้องเลยครับคุณน้า ผมชวนน้องคุยเอง ขอโทษนะครับคุณพ่อที่ให้รอ”

     

                “ไม่เป็นไรหรอก กินกันเถอะ จงอินจ้องไก่จนตาจะถลนออกมาแล้ว”

     

                “ครับคุณพ่อ”

     

    **************************************

     

               

                “จงแด พ่อคิดว่าจะทำบุญบ้านในส่วนของตากั้ง จะทำทั้งงานไทยและงานเกาหลี เพราะอย่างไงพ่อถือว่ากั้งเป็นลูกพ่อ จงแด ลูกว่าอย่างไง”

                                                                                                                        

                “ผมไม่ว่าอะไรหรอกครับ เพราะอย่างไงพี่กั้งก็เป็นพี่ผมเหมือนกัน เป็นครอบครัวของผม แต่ว่าปกติวัฒนธรรมเกาหลีเราไม่มีอย่างนี้นะครับ แต่ถ้าเป็นวันแต่งงานก็ว่าไปอย่าง”

     

                “นั่นสินะ แต่พ่ออยากได้อาหารเกาหลีด้วยนะ อยากให้ญาติ เพื่อน คนสนิท ครอบครัวของเราที่อยู่เกาหลีมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา พ่ออยากกินข้าวด้วยกัน”

     

                “ถ้าอย่างงั้นก็เชิญมาเที่ยวซิครับ เชิญมาเฉยๆ ไม่ได้มีโอกาสวาระพิเศษอะไร ก็แค่อยากกินข้าวด้วยกัน ก็เท่านั้น คุณพ่อจะเชิญใครมาบ้างหล่ะครับ”

     

                “ความคิดดีนะ แค่ครอบครัวและเครือญาติของเรา ครอบครัวของเพื่อนสนิทพ่อ แค่นั้นแหละ อ้อ เพื่อนลูกก็ได้นะจงแด บอกไปเลยว่าพ่อจะซื้อตั๋วเครื่องบินให้ ค่าใช้จ่ายพ่อจะออกให้เอง”

     

                “ครับ ผมจะจัดการให้”

     

                “เรื่องอาหารเกาหลีลูกทำไหวไหม ถ้าไม่ไหว พ่อจะให้พวกออแกไนเซอร์พวกนั้นทำก็ได้นะลูก”

     

                “ไหวอยู่แล้วครับ เดี๋ยวผมจะเรียกคยองซูกับชานยอลมาช่วยด้วย เพราะของบางอย่าง ผมก็ต้องสั่งให้ทางนั้นซื้อมาเหมือนกัน พ่อไม่ต้องเป็นห่วงครับ ส่วนงานไทยคงต้องให้คุณน้าช่วยเป็นแม่งาน”

     

                “เรื่องงานไทย น้า ยายกุ้ง แล้วก็คนในบ้านจะจัดการเองค่ะ ส่วนพิธีการทางสงฆ์นั้นคงให้พระช่วยจัดการให้ เดี๋ยวจะให้ตาไก่ไปบอกพระ ตาไก่ไปหาพระก่อนเพลนะลูก แม่จะฝากให้เอาอาหารไปถวายเพลด้วย”

     

                “ครับแม่”

     

                “คุณน้าครับ ผมขอจงอินไปช่วยงานด้วยนะครับ ตานี่รู้จักเพื่อนสนิทคุณพ่อมากกว่าผมเสียอีก ลูกเขาตานี่รู้จักแล้วก็สนิทด้วยทุกคน”

     

                “เอาไปเถอะค่ะ อยู่กับน้าก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอก นอกจากเผาถ่าน ไปเอาความดำมาจากใครเนี่ยลูกฉัน”แล้วเสียงหัวเราะก็ดังไปทั่วบ้าน

     

                “แม่!

     

    *******************************************************

     

                “คิดถึงนายจังเลยจงแด”

     

                “กอดฉันแน่นไปแล้วแบคฮยอน”

     

                “นายนี่ไม่ยอมกลับไปเยี่ยมหากันบ้างนะ ต้องให้พวกฉันถ่อสังขารมาหานายทุกปี”ใช่มาทุกปีจนฟังและพูดภาษาไทยได้เป็นบางคำ

     

                “แล้วใครกันที่จ่ายค่าเครื่องบินให้พวกนายทุกปีห๊า ชานยอล ไปพักไปเที่ยวก็ฟรี ของฝากยังเยอะมากมายแล้วก็ฟรี ใครกันแน่ที่ถ่อสังขารหาเงินให้พวกนายมา ขนาดอ้อนวอนพระเจ้าแล้วยังไม่ปรานีเนี่ย”

     

                “อิอิ ช่วยไม่ได้นะจงแด อีกอย่างแค่นี้ขนหน้าแข้งนายหลุดหรอก พ่อคนหน้าตาดี พ่อรวยแถมตัวเองก็รวยด้วย”

     

                “ไม่ต้องมายอฉันเลยคยองซู กระเป๋านะยกกันมาเองเลยนะ แค่ฉันเป็นคนมารับนายเองแค่นี้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว”ถึงจะบ่นงุงงิ้งอย่างไง พวกเขาก็รู้ดีว่าอีกคนก็แค่บ่นไปเท่านั้น ความจริงจงแดนะคิดถึงพวกเขาเหมือนกันนั่นแหละ ไม่งั้นคงไม่ออกค่าใช้จ่ายให้ทุกปีหรอก

     

     

                ***********************************************

     

                “อันยอง กรุณาเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนี้ด้วยนะขอรับเพราะคุณลูกจันสั่งมา ถ้าใส่ไม่ได้หรือกลัวมันจะหลุดก็เรียกผมได้นะครับ ผมจะรออยู่ที่ชานเรือนนะขอรับ”

     

                “พวกเรารู้แล้วน่าคุณสมคริส”พอชายหนุ่มออกไปทั้งสามคนก็ปล่อยก๊ากออกมาทันที สมคิดหรือที่พวกเขาชอบเรียกว่าสมคริส เป็นเหมือนพ่อบ้านส่วนตัวของจงแดเวลาอยู่ที่เมืองไทย เป็นคนที่พอพูดภาษาเกาหลีได้ และนั่นทำให้เจ้าตัวภูมิใจมากถึงแม้ว่าสำเนียงจะเพี้ยนๆไปหน่อยก็เถอะ

     

                ส่วนคุณลูกจัน คิดแล้วยิ่งน่าขำ มันเป็นชื่อจงแดที่คนในบ้านเรียกกัน เพราะตอนแรกที่จงแดมาอยู่ที่นี้ เจ้าตัวเจอลูกจันที่ตกอยู่พื้นดินก็เก็บไปดมจนติด จนต้องเก็บมาดมทุกวัน ประกอบกับนิสัยที่คล้ายๆกัน คือ กลิ่นหอมนุ่มๆแต่ถ้าดมนานๆไปก็จะฉุนขึ้นนิดๆ ซึ่งจงแดนั้นถ้าคนที่พึ่งเจอ พึ่งรู้จักก็จะคิดว่าจงแดนั้นน่ารัก เรียบร้อย นุ่มนวล แต่ถ้ารู้จักนานๆสนิทเหมือนกับพวกเขาจะรู้ได้เลยว่าความจริงแล้วจงแดซ่อนความแสบซนมากแค่ไหน พ่อของจงแดที่เห็นอย่างนั้นก็เลยเรียกและล้อลูกตัวเองว่าลูกจัน จนคนในบ้านก็พากันเรียกตามอย่างนั้นเพราะชื่อจงแดนั้นเขาว่ามันไม่คุ้นลิ้นเรียกคุณลูกจันง่ายกว่าเยอะ

                ส่วนเสื้อผ้าที่พวกเขาต้องเปลี่ยนนั้นเป็นกางเกงผ้าแพรที่หอมนุ่มใส่สบาย ใส่แล้วเย็น และเสื้อคอกลมเนื้อบางที่ใส่แล้วก็เย็นอีกตามเคย เข้ากับอากาศไทยที่ร้อนๆ โดยไม่ต้องเปิดพัดลมหรือแอร์ เพราะเพื่อนตัวดีคงจะกลัวว่าถ้าขืนใส่ยีนส์หล่ะก็ได้ร้อนตับแตกไปเสียก่อนแม้ว่าที่นี้ก็ปลูกต้นไม้และอากาศถ่ายเทดีแค่ไหนก็ตาม

     

                รอบบ้านนั้นเต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้หอมของไทย ตัวเรือนก็เป็นเรือนไทยที่จงแดเคยบอกว่าเป็นเรือนไทยภาคกลาง ทำให้เข้ากับสภาพอากาศของที่นี้ ครั้งแรกที่พวกเขามาที่นี้ ยังนึกอยู่เลยว่าหลงเข้าไปยุคไหนหรือเปล่า เพราะคนในบ้านหลังนี้นุ่ง อะไรนะ โจงกระเบน ใส่เสื้อยืดขาว โอ้ นี่ถ้าใส่ เอ่อ ผ้าแถบด้วย เขาคิดว่าคงหลงมาอยู่ในยุคโบราณอย่างในละครไทยย้อนยุคที่จงแดเคยเอาให้ดู อะไรนะ two world (ทวิภพ)กระมัง

     

     

     

                “สวัสดีครับคุณลุง”

     

                “ยินดีต้อนรับนะ คยองซู แบคฮยอน ชานยอล ขอบใจนะที่มาช่วยจงแดทำอาหาร ถ้าจะให้ทำคนเดียวกลัวจะทำไม่ไหว”

     

                “ไม่เป็นไรหรอกครับ เพราะผมเองก็ได้ของตอบแทนไม่น้อยเหมือนกัน”

     

                “จะเอาอะไรก็บอกจงแดหรือสมคิดเขาก็ได้เลยนะ พักกันเสียหน่อย แล้วค่อยไปเที่ยว”

     

                “ขอบคุณครับ”

     

                “น้ำมะตูมค่ะ ของว่างขนมจีบไทย”ไอ้น้ำมะตูมนะเคยได้กินเมื่อปีที่แล้ว แต่ไอ้อะไรไทยๆนี่ไม่เคยไม่กิน แต่หน้าตาเป็นนกสวยจนไม่อยากกิน จนจงแดแอบกระซิบบอกนั้นแหละถึงพอลองหยิบมาชิมดู

               

    “มาชิตะ อร่อยมากครับคุณน้า สวยด้วย สวยจนผมไม่กล้ากินเลยครับ”

               

    “ถ้าชอบก็กินกันเยอะๆเลยนะค่ะ หรืออยากกินอะไรก็บอกน้าได้”

     

                “ถ้าได้ข้าวแช่อย่างปีก่อนเยี่ยมเลยครับคุณน้า”

     

                “เดี๋ยวก่อนเถอะแบคฮยอน กินของเก่าให้หมดก่อนเลย”

     

                “ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณจงแด ข้าวแช่นะมันใช้เวลาทำสองสามวันก็จริง แต่ว่า น้าทำไว้แล้วค่ะเหลือแต่เครื่องเคียง คิดอยู่ว่าถ้ามากันคงอยากกิน ก็เลยเตรียมให้ไว้แล้ว ค่อยรับตอนบ่ายเอานะค่ะ ตอนนั้นอากาศจะร้อนกินตอนนั้นจะดีกว่า”

     

                “ขอบคุณครับ”ชายหนุ่มทั้งสามรีบยกมือไหว้ ด้วยว่าจะได้ของชอบ

     

                “ถ้าอย่างนั้นก็พักผ่อนกันเถอะ กับข้าวกับปลา ขนมของว่าง จะให้คนยกไปให้ ข้าวของอะไรที่นั้นก็มีครบ ถ้าขาดเหลืออะไรก็บอก อยากกินอะไรเป็นพิเศษหรืออยากทำเองก็บอก ครัวไทยครัวเกาหลีใช้ได้เลยนะ หรือถ้าอยากอยู่ที่บ้านเกาหลีก็ได้จะให้คนย้ายให้”

     

                “ขอบคุณคุณลุงมากครับ แต่พวกผมอยากอยู่ที่เรือนไทยมากกว่า มาไทยทั้งทีก็ต้องอยู่เรือนไทย กินอาหารไทย พวกผมขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะครับ รบกวนคุณลุงมากแล้ว กราบลาครับ”

    ************************************

     

                “โอ๊ย ทีหลังชวนมาฤดูอื่นบ้างนะ มาเมื่อไหร่หน้าร้อนทุกที แต่ก็ดีเหมือนกัน ที่นั้นยังหนาวๆอุ่นๆอยู่เลย เสื้อผ้าที่นายให้ใส่ช่วยได้มากเลย ขืนใส่ยีนส์ หืย ร้อน”

     

                “พรมน้ำอบก่อนไหม ปะแป้งด้วยจะได้เย็นขึ้น”

     

                “จัดมา ปรนนิบัติพี่แบคหน่อยน้องลูกจัน”พอพูดอย่างนั้นแบคฮยอนเลยได้ค้อนวงโตจากจงแดที่ตอนนี้เดินไปหยิบน้ำอบกับแป้งร่ำมาให้ จัดการปะพรมให้เพื่อนได้เย็นสบายตัว

     

                “ง่วง ขอนอนสักตื่นเถอะ น้องไก่กุ๊ก ขอหมอนให้พี่ยอลหน่อย”บุคคลที่ถูกกล่าวถึงแทนที่จะไปหยิบมาให้ กลับหันไปมองหน้าพี่ชายแทน ก็แหม ชื่อนี้นะ นอกจากคนในครอบครัวเขาก็ไม่อยากให้ใครเรียก

     

                ฝ่ายจงแดที่เห็นสีหน้าน้องก็พยักหน้าให้ พลางเป็นสัญญาณไม่ให้ไปถือสาเพื่อนตัวเองที่ริอาจจีบเด็กที่อ่อนกว่าไปตั้งรอบหนึ่ง

     

                “ไปหยิบสมุดงานตัวเองมาด้วยนะจงอิน”

     

                “ครับพี่”

     

                พอน้องชายออกไปจงแดก็รีบดุเพื่อนตัวเองทันที

     

                “ชานยอล ล้อน้อง”

     

                “ก็สีหน้าจงอินเวลาแกล้งมันน่ารัก”

     

                “น้องฉันอ่อนกว่านายไปรอบหนึ่ง อย่าทำอะไรประเจิดประเจ้อนัก มันไม่งามคนไทยถือ ถึงแม้ตอนนี้จะมีน้อยคนก็เถอะ แต่บ้านนี้เขาถือ อย่าไปแซวน้องฉันมาก ถ้าจะทำก็ที่เกาหลีนู้น”

     

                “คร้าบบบ คุณแม่หวงลูก”

     

                “เดี๋ยวจะโดนตี”ก่อนที่ชานยอลจะโดนตีอย่างคำขู่จงอินก็กลับมาก่อน จงแดส่งหมอนให้เพื่อนตัวเองก่อนที่จะสอบถามงานกับน้องไปร้อยมาลัยไป

     

                “นี่เป็นรายชื่อแขกที่คอนเฟิร์มแล้วว่าจะมา ผมเขียนห้องพักที่พวกเขาต้องการไว้แล้วนะครับ อาหารที่กินไม่ได้ ของที่แพ้ ส่วนการเดินทางมีแต่ครอบครัวของเราครับที่ต้องจ่ายค่าเดินทางให้”

     

                “อืม ขอบใจนะจงอิน ข้าวของที่สั่งมาจงอินเอาไปเก็บที่ห้องเก็บเสบียงแล้วใช่ไหม ไม่มีอะไรขาดเหลือนะ”

     

                “ครับ นอกจากเนื้อทุกอย่างก็ครบแล้ว ที่ฟาร์มบอกว่าจะเอาเมื่อไหร่ก็ขอให้สั่งล่วงหน้าก่อนหนึ่งวันจะได้ชำแหละให้ ของจะได้สด”

     

                “อืม วันนั้นเราปิดรีสอร์ท ส่วนใครอยู่ห้องไหน จงอินช่วยสำเนาข้อมูลอันนี้ไปให้สมคิด ช่วยติดต่อด้วยหล่ะ ทั้งที่พักและอาหาร ส่วนครอบครัวลุงซีวอนให้ไปพักที่เรือนไทยรับรอง”

     

                “ครับ”

     

                “จงแด ฉันว่าเราน่าจะต้มน้ำซุป ทำพวกทาลคัลบี เพราะของพวกนี้ต้องอาศัยเวลา นายช่วยสั่งเนื้อหน่อยได้ไหม”

     

                “ได้ซิ งั้นนายจดให้ฉันหน่อยได้ไหมคยอง”คยองซูรีบจดของที่ต้องการให้จงแด

     

                “พี่คิดครับ ผมวานให้ติดต่อกับรีสอร์ทด้วยนะครับ สำเนาเรื่องอาหารให้พี่เรไรด้วย เอารายการพวกนี้ไปที่ฟาร์มด้วย สั่งให้คนไปทำความสะอาดเรือนไทยรับรองด้วยนะ ทางนั้นแจ้งว่าจะมาอีกสองวัน”

     

                “ครับคุณลูกจัน กระผมจะรีบไปจัดการให้ครับ”





    --------------------------------------- 30%------------------------------------

    แฮ่ เขียนยังไม่เสร็จเลยค่ะ แต่เราอยากลงอิอิ ตุนคงจะอัพช้านะค่ะ เพราะว่าช่วงนี้ยุ่งกับการเรียนมากๆ อาทิตย์หน้าปฐมนิเทศน์หนึ่งสัปกาห์ อาทิตย์ในสอบ มสธ. ต่อจากนั้นด้วยการเรียนปรับพิ้นฐานที่วิดลัย โอ๊ย มันเยอะดังนั้นเราคงจะอัพช้า อีกอย่างฟิคเรื่องนี้เราอยากแต่งไปเรื่อยๆ สบายๆ

    ขอให้มีความสุขในทุกๆวันนะค่ะ บาอิ้ง

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×