คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ลำดับตอนที่ 9
#4.50
พล็อตใหม่ๆมีได้ทุกวัน #ผิด
“อืม..ทีนี้นายเชื่อเรื่องดวงพวกนั้น? ก็เลยกำลังกังวลอยู่”
“อื้อ”
ผมตักเค้กชิ้นสุดท้ายที่เหลือในจานเข้าปาก
นี่คือของหวานหลังทานอาหารฝีมือชานยอล มันหน้าตาไม่ค่อยดีแต่รสชาตินี่อร่อยลิ้นสุดๆ >_<
เรามานั่งทานข้าวไปด้วย พูดคุยกันไปด้วยมาซักพัก ตอนนี้ก็ดึกพอสมควรแล้ว แต่เราก็ยังไม่มีทีท่าง่วงแต่อย่างใด
ชานยอลทำหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“จริงๆที่ฉันมาที่นี่ ฉันก็มีเหตุผลเหมือนกัน”
“เอ๋..?”
“ฉันมาช่วยคนๆหนึ่ง ,ฉันคนเดียวบนโลกที่ช่วยเขาได้”
ผมเอียงคอด้วยความงุนงง
ช่วยงั้นเหรอ? มันจำเป็นต้องบินมาจากต่างประเทศเลยเหรอ? แจ้งตำรวจหรือกู้ภัยไม่ได้เหรอ? #ไปกันใหญ่
“เขาเป็นผู้ชาย..”
“เนื้อคู่ของฉันก็ผู้ชาย แปลกดีเนอะผู้หญิงออกจะมีเยอะแยะไป =_=”
“ฉันก็เคยคิดแบบนั้น ฉันมีทางเลือกอยู่สองทาง ถ้าไม่มาช่วยเขาคนนั้นก็จะตาย แต่ถ้ามาฉันเองก็จะแย่เหมือนกัน”
“….เลือกยากน่าดูเลยสินะ”
“อืม..แต่สุดท้ายฉันก็มาอยู่ดีนั่นแหละ”
“เป็นคนดีจังนะ..แล้วนายจะไม่แย่เอาเหรอเนี่ยแบบนี้? คนๆนั้นอยู่ที่ไหนล่ะ ให้ช่วยตามหามั้ย?”
ผมออกปากช่วยเหลือ คิดว่าชานยอลที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศคงไม่รู้ว่าเกาหลีเปลี่ยนไปมากแค่ไหน
“คงไม่แย่นักหรอกมั้ง แล้วฉันก็เจอคนๆนั้นแล้วด้วย”
“เอ๋? ได้ไง นายอยู่กับฉันตลอดเลยไม่ใช่เหรอตั้งแต่มาทีนี่”
เอาเวลาทีไหนไปตามหาล่ะเนี่ย?
แยกร่างเรอะ -0- #บ้า
“ก็..คนนั้นๆอยู่ไกล้ฉันมากไงเลยไม่ต้องตามหาอะไรมาก”
แล้วบทสนทนาของเราก็สิ้นสุดลง
ผมนั่งคิดทบทวนเกี่ยวกับประโยคของชานยอล เขาบอกว่าเขาเจอแล้ว แถมอยู่ไกล้ๆเขาอีก มันทำให้ผมสงสัยว่าคนๆนั้นใช่ผมรึเปล่า แต่พอมาคิดอีกทีแบบนี้มันก็หมายความว่าผมไกล้ตายแล้วอ่ะดิ ได้ไงอ่ะ ผมสุขภาพแข็งแรงดีแถมเป็นคนน่ารักไม่เคยทำให้ใครหมั่นใส้นะ -0-
งั้น..มันคงไม่ใช่ผมหรอกมั้ง…
ชานยอลทำท่าจะเอาจานไปเก็บในครัว ผมรีบลุกและเดินตามเขาไปทันที
ตอนแรกผมก็ว่าจะขึ้นไปนอนก่อนเขา แต่ทันทีที่เท้าก้าวขึ้นบันใดก้าวแรกเสียงหมาหอนก็ดังขึ้นมา จำได้ว่าผมไม่มีหมา แถมบ้านผมก็เยกเดี่ยวไม่มีใครอยู่ไกล้ มาใครมาหอนฟะ!
คิดได้แค่นั้นผมก็วิ่งไปหาชานยอลทันทีเลย ทำไงได้ก็คนมันกลัวอะ -_-;;
ชานยอลดูงงๆเล็กน้อยที่เห็นผมเข้าไปหาในครัวทั้งๆที่ตอนแรกจะเข้านอนแล้วแท้ๆแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
พอชานยอลเก็บจานเสร็จ เขาก็ตรงไปดูทีวี ผมเลยนั่งปุ๊กลงข้างๆเขา
ผมโดนพี่ล้อบ่อยๆเรื่องกลัวผี พี่ชอบหาว่าผมไม่แมนบ้างล่ะ ตุ้ดบ้างหละ แต่เรื่องความแมนนี่มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับขวัญอ่อนขวัญไม่อ่อนเลยนะ
เพราะงั้นผมแมน แค่กลัวบางอย่างที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้
แค่นั้นเอง ;______;
“เป็นอะไร ตามฉันมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ”
ดูท่าทางเขาเริ่มหวาดระแวงผมซะแล้วแฮะ =___=
“เปล่านะ”
“-_-”
ชานยอลทำหน้านิ่งใส่
ไม่บอกก็รู้ว่านี่เป็นการเค้นคำตอบแบบใช้ อวัจนภาษา
ใช้สิ ไอ้คนหน้าโหด -.-
“คือ..มันมืด..แล้วแบบ..หมามันก็หอนอ่ะ…”
“แล้วไง หมาหอนมันเรื่องปกติป่ะ”
“ก็…แบบ…ฉันกลัวผีอ่ะพอใจยัง!”
ชานยอลหัวเราะดังหึ ก่อนจะคว้าตัวผมให้เข้าไปนั่งไกล้ๆกัน
ไม่รู้ว่าเขาแกล้งผมรึเปล่า ที่เปิดมาช่องรายการหนังผี นั่นทำให้ผมสะดุ้งเฮือก กลัวจนหัวใจตกไปที่ตาตุ่ม แต่เมื่อเห็นแบบนั้น ดูเหมือนเขาจะยิ่งพอใจ
จนสุดท้าย ผมต้องเอามือปิดหน้าไว้
ฮือ..อยากร้องไห้ T________T
“หึ.. เอาล่ะๆ ไม่แกล้งแล้ว เอามืออกมาเถอะ”
“;_________;”
“ฮ่าฮ่าฮ่า น้ำตาคลอชียว”
“ชานยอลบ้า! T^T”
“ฮ่าฮ่า ขี้แยชะมัด!”
โดนแบบนี้ใครไม่ร้องให้มันรู้ไปสิ
เดี๋ยวันหลังฉันแอบเอาแมลงสาปไปใส่รองเท้านายแล้วนายจะหนาววว ฮืออ ;__;
“ไปนอนได้แล้วมั้งแพคฮยอน”
ชานยอลบอกพร้อมสะกดตัวผมยิกๆ
จริงๆแล้วตอนนี้ผมนอนกลิ้งอยู่ในห้องของชานยอล ที่ปกติจะเป็นห้องของพี่
ไม่อยากกลับห้องเลยอ่ะ หมามันยังไม่หยุดหอนเลย หอนทีไรผมสะดุ้งทุกที *^*
“ก็หมามันหอนอ่ะ”
“ไม่เห็นเกี่ยวเลย -_-”
“ก็กลัวอ่ะ T^T ”
“-_-”
ชานยอลถึงกับเงียบไป ฮ่าฮ่าฮ่า
ร่างสูงนอนลงอีกฟากนึงของเตียง สายตาจ้องเขม็งมาที่ผม
ไม่นะ..ชานยอลโหมดหวงที่นอน คิกคิก
“ไม่เอา ไม่กลับห้องนะ กลัว ;___;”
“-____- จะนอนบนเตียงฉันงั้นสิ”
“อื้อ”
“งั้นเดี๋ยวไปนอนห้องนายเอง..”
“ไม่!”
ไม่อาววววววววว ไม่เด็ดขาด นายคิดว่าฉันมานอนห้องนอยเพื่อที่จะให้เราแลกห้องนอนกันรึไง
อยู่ด้วยกันหน่อยได้ม้ายย T^T
“นอนห้องเดียวกันนะ นะๆ กลัวจริงๆนะ”
“-___- เตียงมันนอนสองคนได้ตั้งแต่เมื่อไหร่”
“เออน่า ไม่เป็นไรหรอก ฉันก็ตัวเล็กอยู่ นายก็ทำตัวลีบๆเอาละกัน”
“=_____________________=”
“น้า…ชานยอล น้าๆๆๆ”
>_______<
“เออๆ ขยับไป ฉันจะนอนบ้าง รู้มัยว่าตัวเองน่ะอ้วน นอนคนเดียวมันปาไปครึ่งเตียงแล้ว -_-”
“ชานยอล -*-”
ขึ้นครับขึ้น
น้ำหนักเป็นเลขสองหลักที่ใครๆก็เอามาล้อไม่ได้ -.-
ศพที่แล้วก็พูดเหมือนชานยอลนี่แหละ #เย้ย
สุดท้ายแล้ว สงครามย่อมๆของเราก็จบลง
ผมหลับตาลงช้าๆ ปล่อยตัวเองไปกับความฝัน
และโดยไม่รู้ตัวผมเองก็หลับไป
นาฬิกาบอกเวลาตีหนึ่ง
ร่างสูงที่เคยหลับใหลลืมตาโพลงขึ้นมา
สายตาที่ไม่ต้องทำให้ชินกับความมืดกวาดไปทั่วห้อง…เขารู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย
ร่างสูงเดินไปรูดม่านบังหน้าต่างกระจกใบใหญ่ ในความมืดนอกบ้านชานยอลเห็นใคบางคนหลบซ่อนตัวอยู่ตรงเสาไฟหน้าบ้าน เขาเลือกที่จะทำเป็นมองไม่เห็น เพราะไม่อยากทำให้งูตื่น ถ้าคนๆนั้นจะบุกเข้ามาจริงเขาก็รับมือไหว
ร่างสูงกลับไปที่เตียงนอนอีกครั้ง ทันที่ที่ร่างเขาสัมผัสกับเตียงนุ่มนิ่ม แพคฮยอนที่หลับไม่ได้สติก็กวาดแขนมากอดช่วงเอวเขาเอาใว้
ชานยอลพยายามจะเอาแขนแพคฮยอนออกเพราะมันทำให้เขานอนไม่สบายเท่าใดนัก แต่พอจับดูแล้วตัวของแพคฮยอนเย็นเฉียบ เขาเลยเลือกกอดแพคฮยอนไปเลย
‘นี่คงจะเรียกว่าหนาวสินะ’
ร่างสูงดึงอีกคนเข้ามาใกล้ ถ่ายแทความอบอุ่นของร่างกายให้อีกคนรู้สึกสบายขึ้น
ไม่นานนักคิ้วที่ขมวดเป็นปมของแพคฮยอนก็คลายลง เหลือเพียงหนุ่มน้อยหน้าตาน่ารักที่ซุกกอดเหมือนเขาเป็นหมอนข้าง
ร่างสูงหัวเราะหึเล็กน้อยเมื่อนึกถึงบทสนทนาช่วงเย็น
“เป็นคนดีจังนะ..แล้วนายจะไม่แย่เอาเหรอเนี่ยแบบนี้? คนๆนั้นอยู่ที่ไหนล่ะ ให้ช่วยตามหามั้ย?”
“ฉันคงไม่ต้องตามหาหรอก ในเมื่อนายอยู่ไกล้แค่เอื้อมแบบนี้..”
ความคิดเห็น