คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : # 4.00
LIGHTER
#3.50
“-_-”
“-_-+”
“-_-;”
“-_-+”
“นายจะจ้องหน้าฉันอีกนานมั้ยแพคฮยอน -_-;”
บุคลนิรนาม ที่ชื่อว่าชานยอล?
นี่น่ะเหรอเพื่อนพี่ผม?
ตั้งแต่ออกจากสนามบินผมก็เอาแต่จ้องเขาอยู่อย่างนั้นล่ะครับ ก็มันไม่เหมือนเพื่อนพี่ผมเลยนี่นา
เพื่อนพี่ผมส่วนใหญ่จะมาแนวหนวดเครารกรุงรังทั้งนั้น
แล้วตาชานยอลนี่คืออะไร หน้าตาใสกิ้ง ผิววิ้งสไตล์เกาหลี(?) ไหนว่ามาจากต่างประเทศ? อีกอย่างไม่มีหนวดเคราอะไรเลย มีแต่แว่นแฟชั่นกรอบใหญ่ปิดบังใบหน้าไว้บางส่วน
รึว่าพี่ผมจะเปลี่ยนแนวคบเพื่อน?
พี่ผมเป็นคนอินดี้ครับ ก่อนแต่งงานพี่แกไว้ผมยาวด้วยซ้ำ
เพื่อนๆแกก็มีแต่คนอินดี้จัด หายากนะเพื่อนที่เหมือนมนุษย์มนา
เออ จริงๆแล้วก็ไม่เหมือนนี่นา เล่นเดินมาหาช้างแบบนั้น -_-;;;;
“-_-;;;”
ชานยอลที่ทำหน้าที่เป็นคนขับรถกิตติมศักดิ์ของผมในวันนี้ทำหน้าเนือยๆ
ก่อนที่จะกลับไปสนใจถนนต่อ
ผมเห็นว่าบรรยากาศมันเงียบๆเลยตั้งคำถามแก้เบื่อขึ้นมา
“นายอายุเท่าไหร่?”
“บอกว่าสี่หมื่นล้านปีจะเชื่อมั้ย”
“เอาดีๆดิ”
“-_- ยี่สิบหก”
“นายเป็นพี่ฉันตั้งสองปีแน่ะ!”
“ใช่ เพราะงั้นก็เปลี่ยนสรรพนามคำว่านายเป็นคำว่าพี่ซะ”
ผมยู่ปาก
“ไม่เอาอ่ะ”
“งั้นคำว่าเฮีย”
“ไม่เอา -3-”
“-_-*”
“ขอเรียกว่าชานยอลเฉยๆนะ >____<”
______________________________________
ไม่รู้ว่าผมรู้สึกไปเองรึเปล่า ผมรู้สึกว่าเย็นวันนี้มันเหงา มันหนาวกว่าทุกวัน
บรรยากาศอึมครึมเพราะไม่มีแสงอาทิตย์ยิ่งทำให้รู้สึกเหงาจับใจ..
คิดถึงจงอิน..
ผมคิดถึงเขา จนไม่เป็นอันทำอะไร แล้วก็เลยลืมหน้าที่อันสำคัญยิ่งไป นั่นคือการดูแลเพื่อนของพี่ชาย
ตอนนี้ชานยอล ที่รู้ภายหลังว่าชื่อ ปาร์ค ชานยอล กำลังทำตัวเป็นพ่อครัวหัวเห็ด หยิบจับทำอาหารอยู่ในครัว โดยมีผมนั่งเป็นตัวไร้ประโยชน์อยู่ไม่ไกล
ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่า ผมลืมเติมน้ำมันรถน่ะสิ ตั้งแต่ออกจากสนามบินผมรู้สึกเหมือนวิญญาณหายออกไปจากร่าง ทั้งหัวใจมันติดปีกตามอีกคนไปญี่ปุ่น จนละเลยเรื่องนี้ไป
แล้วสุดท้ายเป็นไง ก็ต้องมานั่งทำกับข้าวเองเพราะไปไหนไม่ได้ -_-
ช่วยไม่ได้นี่นะ ก็บ้านผมมันอยู่ห่างจากสังคมซักหน่อย
จะให้เดินเท้าไปซื้อข้าวตอนกลางคืนแบบนี้ก็กระไรอยู่ ชานยอลก็เลยจำเป็นต้องลงมือลงแรงเอง
ถ้าเป็นเวลาแบบนี้…จงอินต้องเลี้ยงไอติมผมที่ไหนซักที่ในเมือง..
ผมกับจงอินมีลักษณะเป็นคนเมืองเต็มรูปแบบครับ
พวกเราทำอาหารไม่เป็น มากสุดไข่เจียว อาหารทุกมื้อของผมและเขาจึงเป็นการกินข้าวนอกบ้าน
แตกต่างกับชานยอล เขาดูชำนาญมากเหมือนทำกินเองทุกมื้อ
“ชานยอล…นายมีแฟนมั้ย?”
“-_- ฉันบอกแล้วว่าอย่าเรียกนาย ฉันเป็นพี่ไม่ใช่รึไง”
เขาบ่นถึงความไม่เคารพของผม
แต่ช่างเหอะ ตอนนี้มีอารมณ์เคารพใครซะเมื่อไหร่
“ฉันถามว่ามีแฟนมั้ย?”
เมื่อชานยอลเห็นว่าผมไม่มีทีท่าจะเรียกเขาว่าพี่ เจ้าตัวก็เลยทำเหมือนลืมๆแล้วทำอาหารต่อไป
หน้าตาเขาดูเย็นชาชะมัด เหมือนคนไม่มีความรู้สึก แถมพูดน้อยด้วย
แต่ว่า…ไม่นับที่เขาพูดว่า ช้างกูอยู่ไหน นะ -_-;
“ไม่มี”
เขาไม่มีก็ไม่น่าแปลกเนอะ ดูท่าทางจะเป็นคนเย็นชาขนาดนั้น นิ่งเสียยิ่งกว่าอะไรดี
“สมมุติว่ามี”
“อืม แล้วไง?”
“อือ แล้วถ้าแฟนนายต้องไปที่ไกลๆๆๆๆ ไกลมากๆ แถมนายตามไปด้วยไม่ได้ นายจะรู้สึกยังไงอ่ะ?”
“ไม่รู้สิ..คงกังวลมั้ง”
.ใช่..ผมเองกำลังกังวลอยู่เหมือนกัน
คำทำนายของหมอดูนั่นผมยังจำได้ มือที่สามที่จะแยกเรา..
“แฟนนายเหรอ?”
ชานยอลถาม
“จริงๆแล้วเรากำลังจะแต่งงานกัน”
“หืม?”
ชานยอลดูประหลาดใจมาก เขาตักอาหารพักใส่จานก่อนจะคุยกับผมจริงๆจัง
นั่นทำให้ผมนึกได้ว่า ทำไมผมเอาเรื่องนี้มาคุยกับคนที่เพิ่งรู้จักเป็นครั้งแรกแบบนี้นะ?
อาจจะเพราะผมรู้สึกวางใจก็ได้..
ชานยอลคนนี้ ถึงแม้จะดูนิ่งๆ เฉยชา แต่เหมือนมีบรรยากาศหนึ่งล้อมรอบเขาเอาไว้ บรรยากาศที่ทำให้ผมรู้สึกวางใจ..
“เอางี้ดีกว่า จะเล่าให้ฟังทั้งหมดเลย แต่ว่าห้ามบอกพี่แบคบอมนะ…”
และผมก็เริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดให้เขาฟัง
นับตั้งแต่เรื่องดูดวง..
________________________________________
Talk T
หิวแบ้ว อยากกินบ้างอ่ะชยอล ;__;
ความคิดเห็น