ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    :. { shortfic exo } ◦ Galaxy of Us ♡ KrisYeol

    ลำดับตอนที่ #1 : ♡ MY DANDELION 1/2

    • อัปเดตล่าสุด 23 พ.ย. 57


    MY DANDELION

    Every love story is beautiful

    But ours is my favorite

    I just wanna be with you

     

     




     

    กึก!

     

     

    กล่องอาหารที่ภายในบรรจุแซนวิชหน้าตาน่ารับประทานอัดแน่นอยู่เต็มกล่องถูกวางลงตรงหน้าชายหนุ่ม อี้ฟานเอ่ยขอบคุณคนตรงข้ามเบา ๆ โดยที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามอง

     

     

    ก็รู้ ๆ กันอยู่ว่าใคร



     

    "วันนี้ทำอะไรมาให้ฟ่านมันกินหรอชานยอล" ลู่หานเพื่อนสนิทในกลุ่มของอู๋อี้ฟานเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงปกติ ดูจะเป็นภาพที่ชินตาของบรรดาเหล่าเพื่อน ๆ ไปแล้วที่ทุก ๆ วันจะเห็นร่างโปร่งเจ้าของใบหน้าหล่อปนหวานที่ตอนนี้ผมหน้าม้ายาวลงมาทำให้เจ้าตัวยิ่งดูน่ารักเข้าไปใหญ่เทียวไปเทียวมาระหว่างตึกภาควิชาตัวเองกับภาควิชาของพวกเขาเพื่อที่จะเอาข้าวกล่องและขนมน่ากิน ๆ มาให้ไอ้คุณชายตัวดีอยู่ทุกวัน



     

    "วันนี้เรารีบมาอ่ะเลยทำแค่แซนวิชแฮมชีสกับแซนวิชทูน่ามาให้คริส คริสทานได้ใช่ไหม" ชานยอลตอบลู่หานก่อนที่ท้ายประโยคจะหันไปถามคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม



     

    "อือกินได้ ความจริงถ้ารีบก็ไม่ต้องทำมาให้ก็ได้นะ" ชานยอลยิ้มให้กับคำตอบของอี้ฟาน ใบหน้าหวานส่ายไปมาเบา ๆ



     

    "ไม่เป็นไรเราเต็มใจหรือว่าคริสเบื่อแล้ว?" เจ้าของร่างโปร่งถามด้วยน้ำเสียงใสซื่อในเนื้อความไม่มีแววประชดแต่อย่างใด เจ้าของตำแหน่งเดือนคณะวิศวะส่ายหน้าให้เป็นคำตอบ



     

    "ก็เปล่า แค่กลัวว่าจะเหนื่อย" คำตอบของคนตรงหน้าทำให้ชานยอลยิ้มหวาน แก้มกลมรู้สึกร้อน ๆ จนต้องยกมือขึ้นมาปิด



     

    "อ่ะ..เอ่อ..งั้นเราไปเรียนก่อนนะ บาย" ชานยอลเอ่ยลาทุกคนก่อนจะเดินไว ๆ กลับตึกภาคตัวเองไปด้วยความเขินอาย อี้ฟานยิ้มขำกับท่าทางนั้นจนเพื่อน ๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์อดแซวไม่ได้



     

    "ไงวะใจอ่อนแล้วอ่ะดิ" อี้ชิงนั่งเงียบมองอยู่นานเอ่ยถามขึ้นน้ำเสียงติดจะล้อเลียนเล็กน้อยส่วนพวกที่เหลือก็ยิ้มกรุ้มกริ่ม



     

    "หึ! ยังหรอก" อี้ฟานไหวไหล่เล็กน้อยก่อนจะก้มลงทำงานของตัวเองต่อโดยไม่ลืมที่จะแกะกล่องแซนวิชหยิบออกมากินด้วยหนึ่งชิ้น



     

    "อ้าว อะไรของมึงเนี่ย ก็พวกกูเห็นว่าคนนี้นานกว่าคนอื่นแล้วมึงก็ยอมให้เขาทำโน่นนี่ให้ไม่ว่าอะไรซักคำแถมยังไม่รำคาญด้วย" คราวนี้จื่อเทาถามบ้าง ก็เห็นอยู่ว่าเพื่อนสนิทยอมให้คนน่ารักประจำภาควิชาวิศวกรรมเหมืองแร่และปิโตรเลียมเข้ามาวนเวียนใกล้ตัวได้อยู่ตั้งนาน แถมไอ้เพื่อนสนิทของเขาก็ดูจะเต็มใจให้เจ้าของรอยยิ้มน่ารักคนนั้นทำให้เสียด้วย ก็นึกว่าจะตกลงปลงใจคบหากันไปแล้ว ที่ไหนได้ไหงเพื่อนเขามันปฏิเสธอย่างนี้



     

    "ก็เขาอยากดูแลกูก็ไม่ได้ว่าอะไรหรือมึงว่าไม่ดีหรอคอยมีคนหาข้าวหาน้ำมาให้ดูแลนั่นโน่นนี่แล้วอีกอย่างนะเขาเต็มใจที่จะทำกูก็ไม่รู้ว่าจะห้ามไปทำไม"



     

    "คำพูดมึงแลดูเห็นแก่ตัวยังไงก็ไม่รู้ว่ะฟ่าน มึงยอมให้เขาเข้ามาในโลกของมึงขนาดนี้แต่กลับไม่ยอมระบุความสัมพันธ์เนี่ยนะ" อี้ชิงขมวดคิ้วพูดกับเพื่อนด้วยน้ำเสียงจริงจังจนลู่หานต้องโอบไหล่บางลูบไปมาให้ใจเย็นลง ใคร ๆ ในกลุ่มต่างก็รู้ว่า จาง อี้ชิงรักความถูกต้องและขี้สงสารมากแค่ใน



     

    โดยเฉพาะกับคนน่ารัก ๆ อย่างชานยอล



     

    "แล้วยังไงก็เขาไม่เคยขออะไรนอกจากขอดูแลกูและอีกอย่างนะกูก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเขาจะทนกับกูได้อีกนานแค่ไหน ถ้าเหนื่อยเดี๋ยวก็เลิกไปเองแหละน่า"



     

    อยากจะรู้เหมือนกันว่าสุดท้ายแล้วปาร์ค ชานยอลจะเหมือนกับทุก ๆ คนที่เข้ามาไหม



     

    "มึงแม่ง!" อี้ชิงทำท่าจะลุกขึ้นไปตบหัวเพื่อนตัวดีสักป้าบแต่ดีที่ลู่หานรั้งไว้ก่อน



     

    "ใจเย็น ๆ น่าชิงรอดูกันไปแต่กูเชื่อนะว่าชานยอลต้องไม่ธรรมดา" ลู่หานลูบหลังบอกกับอี้ชิงอย่างใจเย็น อี้ฟานหันไปหาคนพูดพลางเลิกคิ้วถาม



     

    "ไม่ธรรมดายังไง" ลู่หานยกคิ้วเบะปากยักไหล่กวน ๆ ก่อนจะฉุดอี้ชิงให้ลุกขึ้นตาม



     

    "ไม่ธรรมดาตรงที่ในตอนจบเขาจะจบไม่เหมือนกับทุก ๆ คนของมึงน่ะสิ"



     

    "หึ! กูก็อยากรู้เหมือนกัน" อี้ฟานพูดกับตัวเองเบา ๆ ก่อนจะก้มหน้าลงทำงานต่อ พลางย้อนคิดกลับไปถึงเรื่องวันนั้นที่คนน่ารักภาคปิโตรใจกล้าเดินเข้ามาสารภาพรักกับเขา



     

    "คริสเราขอเวลาคริสห้านาทีได้มั้ย" เสียงทุ้มหวานเรียกความสนใจจากบรรดาเด็กภาคโยธาได้เป็นอย่างดี มันดีชนิดที่ว่าทุกคนหยุดการกระทำเพื่อหันมามองคนพูดอย่างสนใจ



     

    "ฉันหรอ" อี้ฟานชี้นิ้วเข้าหาตัว ร่างโปร่งพยักหน้าขึ้นลงเร็ว ๆ ริมฝีปากเม้มเป็นเส้นตรงเพราะกลั้นยิ้มเอาไว้แก้วตากลมโตเป็นประกาย ทำให้หลาย ๆ คนที่มองอยู่เคลิ้มไปกับความน่ารัก



     

    "อื้อ ไปคุยกันหน่อยได้ไหม" ชานยอลยังคงมีรอยยิ้มฉาบบนใบหน้า อี้ฟานพยักหน้าตกลงก่อนจะลุกเดินนำอีกคนไปในที่ ๆ เงียบกว่านี้ไม่วายให้ไอ้พวกเพื่อนตัวดีส่งเสียงแซวกันเสียยกใหญ่



     

    "มีอะไรหรอ" อี้ฟานเอ่ยทำลายความเงียบขึ้นมาเมื่อเขาทั้งคู่เดินมาถึงด้านหลังของตึกที่ไร้ผู้คน



     

    "เราชอบคริส!"



     

    ปาร์คชานยอลโพล่งออกมาเสียงดังคนตัวบางกว่าหลับหูหลับตาพูดจนคนที่ยืนมองอยู่อมยิ้มขำ ก็นะ...มันดูน่ารักน้อยซะที่ไหนล่ะ



     

    "แล้ว? จะคบกันหรอ"



     

    อี้ฟานถามด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ ก็ปาร์คชานยอลไม่ใช่คนแรกเสียหน่อยที่เดินมาสารภาพรักกับเขาแบบนี้ คนที่เท่าไหร่เขาก็ไม่เคยนับแหละนะและไอ้ท่าทีเขินอายแบบนี้ใช่ว่าเขาจะไม่เคยเจอ อู๋อี้ฟานเจอมาทุกรูปแบบแล้วเพียงแต่คนนี้ท่าทางช่างน่าดูชมกว่าคนอื่น ๆ ก็แค่นั้นเอง



     

    "เปล่า ๆ ไม่ได้จะขอคบ เราแค่...อยากดูแลคริสก็แค่นั้นและเราก็ไม่อยากเก็บความรู้สึกนี้ไว้คนเดียวด้วยก็เลยตัดสินใจบอกแค่นั้นเอง"



     

    น้ำเสียงของชานยอลกลับมาปกติอีกครั้งเมื่อเจ้าตัวเริ่มปรับอารมณ์ได้ อี้ฟานได้ยินดังนั้นถึงกับไปไม่เป็น เขาเคยเจอเสียที่ไหนมาแบบนี้



     

    มาขอดูแลเฉย ๆ



     

    โดยไม่หวังอะไรเนี่ยนะ



     

    มีที่ไหนกัน



     

    "ขอดูแล? ดูแลเฉย ๆ อ่ะนะ ไม่คบ? ไม่ระบุความสัมพันธ์อย่างนี้น่ะเหรอ"



     

    และคำตอบที่อี้ฟานได้จากคนหน้ารักตรงหน้าคือการพยักหน้าขึ้นลงพร้อมกับรอยยิ้มหวาน



     

    "อื้อ ขอเราเป็นเพื่อนก็ได้คริสไม่ว่าอะไรใช่ไหม"



     

    อี้ฟานถอนหายใจช้า ๆ ยอมรับเลยว่ารู้สึกแปลก ๆ มันรู้สึกเสียเซล์ฟด้วยแหละมั้งก็เคยเจอเสียที่ไหนสารภาพรักกับเขาแต่ไม่อยากคบกันแถมไม่พอยังขอเป็นเพื่อนเฉย ๆ ด้วย



     

    เพื่อนเขารู้สึกแบบนี้กันหรือปาร์คชานยอล



     

    "ก็...ถ้านายไม่ลำบากอะไรก็ตามใจเลย"



     

    คำตอบของอี้ฟานเรียกรอยยิ้มหวานกว้างเสียจนเต็มหน้า ชานยอลขยับเข้ามาใกล้คว้ามือใหญ่เข้าไปเขย่าไปมาแรง ๆ



     

    "ขอบคุณมาก ๆ นะ ขอบคุณจริง ๆ"



     

    และเรื่องของเขากับปาร์คชานยอลก็เริ่มขึ้นตั้งแต่วันนั้นแหละ ทุก ๆ วันอี้ฟานจะได้เจอคนหน้าหวานไม่หนึ่งก็สองครั้ง ชานยอลจะเอาพวกข้าวและขนมที่เจ้าตัวทำเองมาให้เขาได้ทานเสมอ รสชาติอาหารที่ถูกปากทำให้คริสยอมรับเลยว่าเขาติดรสมือของชานยอลไปแล้ว



     

    แต่ด้วยสถานะที่คลุมเครือคริสเลยไม่รู้ว่าควรทำตัวกับชานยอลแบบไหนส่วนคนแสนดีคนนั้นก็ไม่เคยปริปากว่าอะไรสักคำเมื่อเห็นเขาควงคนอื่น ไม่มีแม้แต่แววตาตัดพ้อซึ่งคริสก็แอบหวังให้คน ๆ นั้นรู้สึกสักนิดก็ยังดีเพราะเขาจะได้ทำอะไรให้ชัดเจนยิ่งขึ้น



     

    ปาร์ค ชานยอลแสนดีเกินไปแล้ว



     

    "กูหิวอ่ะอู๋ขอกินแซนวิชของชานยอลมั่งดิ"



     

    จื่อเทาไถลตัวราบไปกับโต๊ะมือยาวค่อย ๆ คืบคลานไปหากล่องแซนวิชหน้าตาน่ารับประทานช้า ๆ ทว่าอีกเพียงนิดเดียวเท่านั้นที่มือจะได้สัมผัสกับอาหารเลิศรสปีศาจในคราบเจ้าชายก็แย่งเอาสมบัติล้ำค่าของจื่อเทาไป



     

    "เขาทำมาให้กูคนเดียวนะได้ข่าว"



     

    อี้ฟานดึงเอากล่องแซนวิชไปวางบนตักของตัวเองแล้วบอกจื่อเทาด้วยน้ำเสียงกวน ๆ จื่อเทาเบ้ปากแต่ก็ยังไม่ยอมแพ้



     

    ก็จื่อหิวอ่ะ! จื่อจะกิน!



     

    "เขาไม่ได้ทำมาให้มึงกินคนเดียวซะหน่อย ชานยอลใจดีจะตายเขาคงทำมาเผื่อกูด้วย"



     

    "กูจำไม่เห็นได้ว่ามีชื่อมึงอยู่ในประโยคตอนชานยอลเดินเอามาให้"



     

    "มึงหูไม่ดีเอง"



     

    "ไอ้ขี้มั่ว"



     

    "ไอ้ขี้หวง!"



     

    ทั้งสองคนโต้ตอบกันอย่างไม่มีใครยอมใครจนสุดท้ายมินซอกที่นั่งเงียบอยู่นานลุกขึ้นคว้าคอจื่อเทาลากออกไปจากโต๊ะท่ามกลางความมึนงงของทั้งอี้ฟานและจื่อเทา



     

    "โอ๊ยไอ้เป๊าาาา มึงจะลากกูไปไหน"



     

    "ไปแดกข้าว! กูรำคาญเถียงกันเป็นเด็ก ๆ อยู่ได้มือมีตีนมีทำไมไม่เดินไปหาแดกเองห๊ะจะไปแย่งของเพื่อนทำไม! มึงเองก็เหมือนกันเชี่ยฟ่านจะหวงอะไรนักหนาชิ้นสองชิ้นแบ่งให้เพื่อนบ้างไม่ได้รึไง พวกมึงนี่! ฮึ่ย! กูขัดใจ!"



     

    ทั้งสองได้แต่กระพริบตาปริบ ๆ ฟังมินซอกร่ายยาวไม่ทันที่อี้ฟานกับจื่อเทาจะได้เอ่ยอะไรมินซอกก็จัดการลากจื่อเทาไปโรงอาหารเสียแล้ว อี้ฟานยกมือขึ้นเกาศีรษะอย่างงง ๆ ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ



     

    ขอโทษนะเพื่อน กูแบ่งให้ใครไม่ได้จริง ๆ



     

    ครืด...ครืด...



     

    ด้วยความที่เวลาทำงานอยู่อี้ฟานจะเปิดระบบสั่นไว้และมันก็ทำหน้าได้ดีเสียจนเกินไป เล่นสั่นซะโต๊ะสะเทือนทำเขาสะดุ้งสุดแรงดีนะแถวนั้นไม่มีใครสนใจไม่อย่างนั้นได้ขายหน้าแย่ มือใหญ่หยิบเครื่องมือสื่อสารขึ้นมาดูริมฝีปากจุดรอยยิ้มบางเมื่อเห็นว่าคนที่ทักมาเป็นใคร



     

    Real_pcy: อย่ามัวแต่ทำงานจนลืมทานข้าวนะ



     

    Galaxy_FanFan: กำลังทานอยู่เลย



     

    Real_pcy: อร่อยมั้ย?



     

    Galaxy_FanFan: ก็เหมือนทุกวัน



     

    Real_pcy: เหมือนทุกวันแล้วมันอร่อยมั้ยเล่า!



     

    มาถึงประโยคนี้เดือนคณะวิศวะหลุดหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดีพลางนึกถึงใบหน้าน่ารักที่ตอนนี้คงกำลังอมลมเต็มแก้มไม่ก็ทำปากยื่นอยู่แน่ ๆ



     

    Galaxy_FanFan: ถ้าไม่อร่อยฉันจะกินทุกวันหรอ



     

    Real_pcy: คริส!!! ทำไมชอบทำเราเขิน >////////////<



     

    Galaxy_FanFan: แล้วชานยอลชอบทำตัวน่ารักทำไมล่ะ



     

    Real_pcy: ไม่คุยด้วยแล้ว ไปเรียนดีกว่าตอนบ่ายเจอกันนะ



     

    Galaxy_FanFan: ครับผม อย่าลืมทานข้าวเช้าด้วยนะแค่นี้ก็ผอมจะแย่แล้ว



     

    Real_pcy: ค้าบบบบบบผม



     

    ชานยอลนั่งมองโทรศัพท์แล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่จนเพื่อนสนิททั้งสามมองหน้ากันด้วยความหมั่นไส้และคนที่หยุดมือตัวเองไว้ไม่อยู่ก็คือ โด คยองซู คนตัวเล็กผลักหัวเพื่อนจนหน้าคะมำหัวแทบจะกระแทกกับโต๊ะ



     

    ผลักขนาดนี้ตบกูเลยมั้ยคยองชานยอลลูบหัวตัวเองป้อย ๆ แต่ใบหน้าหวานยังอมยิ้มอยู่



     

    อ่าวทำได้ใช่มั้ยกูจะได้ไม่เกรงใจคยองซูทำท่าจะเข้าไปตบหัวชานยอลอีกรอบแต่คนตัวสูงไวกว่ารีบขยับหลบด้านหลังเซฮุนที่นั่งหัวเราะอยู่ข้าง ๆ



     

    มึงนี่ก็ยุขึ้นจริง ๆ ใช่ซี่กูไม่ใช่พี่แบคหล่อสาดดดดดของมึงนี่ชานยอลตัดพ้อเพื่อนสนิทพร้อมทั้งพาดพิงไปยังแฟนหนุ่มของเจ้าตัว คยองซูถลึงตาใส่ชี้หน้าคาดโทษเพื่อนตัวสูง เซฮุนต้องรีบยกมือขวางห้ามทัพ



     

    มึงดีกว่าพี่ป๋ายมันหลายขุมแล้วชานยอล เพราะรายนั้นคยองมันเลี้ยงด้วยลำแข้งสิ้นคำพูดของเซฮุนทั้งโต๊ะก็ระเบิดหัวเราะดังลั่นรวมทั้งคนที่ถูกพาดพิงอย่างคยองซูด้วย



     

    “ใครจะไปเหมือนมึงล่ะเซฮุนสิงกันตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเนี่ย ถามจริงพวกมึงไม่เบื่อกันบ้างหรอฮะจงอิน" ต้นประโยคคยองซูจิกกัดเพื่อนรักตัวขาวไปทีนึงก่อนท้ายประโยคจะหันมาถามแฟนหนุ่มของเพื่อนพ่วงด้วยตำแหน่งเพื่อนสนิทในกลุ่มอีกหนึ่งคน จงอินและเซฮุนหันมองหน้ากันก่อนที่ทั้งสองจะหันมามองคยองซูแล้วส่ายหน้า



     

     "ไม่หนิ พวกกูมีความสุขดีที่ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้" จงอินเป็นคนตอบคำถามแล้วซบหัวลงบนไหล่เซฮุน ชานยอลมองคู่เพื่อน"รัก"ยิ้ม ๆ ต่างจากคยองซูที่ทำหน้าเหม็นเบื่อ



     

     "มึงไม่ลองให้พี่แบคฮยอนมันอยู่กับมึงยี่สิบสี่ชั่วโมงบ้างล่ะ" เซฮุนเสนอ คนถูกแนะส่ายหัวพรืดอย่างรวดเร็ว เรื่องอะไรคยองซูจะยอมให้ไอ้แฟนบ้ากามนั่นอบู่กับเขายี่สิบสี่ชั่วโมงกันล่ะ แค่เจอหน้ากันวันละสองสามครั้ง ไปนอนที่ห้องอาทิตย์ละสามวันคยองซูก็เปลืองตัวจะแย่แล้ว



     

     ก็ไอ้พี่บ้านั่นหื่นจะตายชัก!



     

    "กลัวลุกมาเรียนไม่ไหวล่ะสิ"



     

     ป้าบ!



     

    สิ้นคำพูดหัวทุย ๆ ของจงอินก็หล่นจากไหล่เซฮุนทันทีด้วยแรงตบที่ไม่เบานัก หากแต่คนถูกทำร้ายกลับหัวเราะถูกใจไม่มีทีท่าโกรธสักนิด



     

    "มึงนี่เขินแรงตลอด ฮึฮึ" จงอินลูบหัวตัวเองป้อย ๆ เสียงทุ้มขึ้นจมูกแซวเพื่อนตัวเล็กที่ตอนนี้หน้าแดงไม่รู้แดงเพราะเขินหรือโกรธกันแน่



     

     "เงียบปากไปเลยไอ้ดำ!" เพื่อน ๆ ต่างพากันหัวเราะคยองซูเสียยกใหญ่ เจ้าตัวหน้าแดงเป็นลูกตำลึงเพราะเขินอายต้องรีบเปลี่ยนเรื่องก่อนที่เขาจะอายไปมากกว่านี้



     

     "ว่าแต่มึงเถอะชานยอล เมื่อไหร่จะคบ ๆ กันซะที"



     

     เมื่อเห็นว่าตัวเองโดนเยอะไปแล้วคยองซูจึงเปลี่ยนเป้าหมายมาที่เพื่อนตัวสูงที่ตอนนี้สถานะระหว่างเจ้าตัวกับเดือนคณะยังดูคลุมเครือเสียเหลือเกิน จะว่าคบก็ไม่แต่จะว่าไม่มีใจก็ไม่ถูก คนถูกถามเพียงแค่ยักไหล่น้อย ๆ



     

    "จะคบไปทำไมอ่ะทุกวันนี้ก็มีความสุขดี"



     

     ทั้งสามเห็นท่าทีไม่ทุกข์ร้อนอะไรของชานยอลก็ได้แต่ถอนหายใจไปตาม ๆ กัน ชานยอลมองเพื่อนทั้งสามตาแป๋ว ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำหน้าระอากับเขาเสียขนาดนั้น



     

     จะคบไปเพื่ออะไรในเมื่อคริสไม่คิดจะผูกมัดตัวเองไว้กับใคร



     

     จะอยากเป็นเจ้าของไปทำไมถ้าหากว่าคน ๆ นั้นไม่ได้ต้องการมีบ่วงมาคล้องคอ



     

    ปาร์ค ชานยอลก็แค่อยากจะ "รัก" อู๋อี้ฟานแบบนี้ไปเรื่อย ๆ โดยไม่ต้องเจ็บปวดก็แค่นั้นเอง



     

     "มีด้วยหรอวะรักที่ไม่ต้องการเป็นเจ้าของ" เป็นเซฮุนที่ทนไม่ได้ คนตัวขาวเท้าคางจ้องมองไปที่ชานยอลอย่างสงสัยใคร่รู้ เซฮุนขยับตัวเล็กน้อยเพื่อให้วงแขนของจงอินเกี่ยวรัดรอบเอวของตัวเองได้ถนัดขึ้น จมูกโด่งกดจูบบนไหล่ขาวเบา ๆ แล้วเกยคางบนไหล่เซฮุนจ้องไปที่ชานยอลอย่างรอคำตอบเช่นกัน



     

    ชานยอลส่ายหน้าช้า ๆ พร้อมรอยยิ้มบาง "ไม่รู้สิ กูแค่รู้สึกว่าตอนนี้กูยังมีความสุขดีอยู่ สำหรับกูแค่ได้ดูแลคริสไปแบบนี้ก็พอใจแล้ว"



     

     "มึงแม่งนางเอกสัด ๆ" คยองซูอดไม่ได้ที่จะจิกกัดเพื่อนตัวดี เห็นชานยอลเป็นแบบนี้เขายิ่งหงุดหงิด ใช่ว่าเพื่อนของเขาจะน่ารักน้อยเสียเมื่อไหร่ล่ะ ชานยอลน่ะเห็นเฉย ๆ แบบนี้คนแอบชอบมันเต็มไปหมดแต่เพราะว่าคุณเพื่อนเจ้าของใบหน้าหล่อปนหวานนี่พุ่งความสนใจไปที่คน ๆ เดียว จึงไม่สนใจคนดี ๆ ที่พยายามเข้ามาเลยสักนิด



     

     "คริสมันดีอะไรขนาดนั้นหรอวะชานยอลมึงถึงได้รักมันขนาดนี้ โอเคมันหล่อโคตรพ่อกูยอมรับแต่นอกเหนือจากนั้นล่ะ ควงผู้หญิง ผู้ชายไม่ซ้ำหน้า ไม่เห็นจะจริงจังกับใครเลย มึงเลือกได้ดีกว่านี้เยอะนะชานยอลคนดี ๆ หล่อ ๆ พอ ๆ กับคริสมันก็มีนะทำไมไม่มองดูบ้าง" ชานยอลหรี่สายตามองเพื่อนตัวเล็กอย่างจับผิด



     

     "ถ้าที่มึงพูดมาทั้งหมดเพียงเพราะต้องการโยงเรื่องไปหาพี่จงซอกมึงหยุดความคิดนั้นเลยนะโดคยองซู" เมื่อถูกเพื่อนจับได้คยองซูก็ได้แต่ฟึดฟัดทำปากยื่นอย่างขัดใจ



     

    "ทำไมอ่ะพี่จงซอกของกูเขาไม่ดีตรงไหน เดือนคณะสองปีก่อน กัปตันทีมบาสมหาลัย นักศึกษาดีเด่น นิสัยดี บ้านมีฐานะ โอ๊ยสารพัดจะดีอ่ะชานยอลลลลลลลทำไมมึงไม่ชอบพี่เขาว้า" คยองซูได้แต่คร่ำครวญเขย่าแขนเพื่อนจนทั้งสามคนหัวเราะกับท่าทางเด็ก ๆ ของเพื่อนตัวเล็ก



     

    "คยองซูมึงฟังกูนะ คนที่ดีกับคนที่รักอ่ะมันต่างกัน คนที่เรารักไม่จำเป็นต้องดีแค่กูรู้ว่ากูรักเขามันก็พอแล้ว"



     

    "มึงอ่ะแม่งกูไม่คุยด้วยเล่าไปหาแบคฮยอนดีกว่าอ่ออย่าลืมกินยาแก้ไข้ด้วยนะมึงตัวมึงร้อน ๆ" ว่าจบคนตัวเล็กก็เดินสะบัดก้นไปทางคณะบริหารทันทีแถมก่อนไปยังสั่งชานยอลเสียเสร็จสรรพ ทั้งสามมองตามขำ ๆ และก็เป็นจงอินที่เอ่ยขึ้นมาเรียกเสียงหัวเราะจากชานยอลเซฮุนได้เป็นอย่างดี



     

     "กูเชื่อเลยว่าพี่แบคแม่งต้องน่วมหงุดหงิดทีไรพี่มันโดนตลอดทั้งทุบทั้งตีบางทีกูก็งงนะว่านั่นแฟนหรือกระสอบทราย" จงอินกล่าวกลั้วหัวเราะ



     

     "แต่พี่แบคฮยอนก็ยอมคยองซูตลอดนะ" เซฮุนพูดขึ้นมาบ้าง ชานยอลพยักหน้าเห็นด้วย



     

     "ก็เขารักของเขานี่" ชานยอลตอบก่อนจะรั้งให้คู่รักต่างสีลุกขึ้นเพื่อไปเรียนในคาบบ่าย



     

    บ่ายนี้ภาคปิโตรมีเรียนวิชาเครื่องกลเบื้องต้นซึ่งผองเพื่อนในกลุ่มลงความเห็นว่าเป็นวิชาที่ชานยอลดูจะกระดี๊กระด๊าอยากเรียนที่สุด เพราะอะไรน่ะหรือก็เพราะว่าพวกเขาได้เรียนรวมกับภาคโยธาซึ่งมีเดือนคณะขวัญใจของชานยอลมันเรียนด้วยน่ะสิ เมื่อเข้ามาภายในห้องก็เห็นพวกคริสนั่งกันอยู่ก่อนแล้วโดยมี จื่อเทานั่งติดผนังง่ายต่อการงีบหลับถัดมาเป็นมินซอกที่ใส่เฮดโฟนในมือถือหนังสือการ์ตูนนารูโตะตัดขาดตัวเองจากโลกภายนอก ข้างมินซอกเป็นอี้ชิงกับลู่หานที่ฟุบหลับกันอยู่โดยแชร์หูฟังกันคนละข้าง



     

     แล้วก็เป็นคริสที่นั่งอ่านอะไรบางอย่างอยู่



     

    ใบหน้าหล่อละจากหนังสือในมือขึ้นมามองยังร่างโปร่งกับเพื่อนที่ยืนอยู่ตรงประตู มุมปากจุดยิ้มบางก่อนที่มือใหญ่จะกวักเรียกให้ชานยอลเดินเข้าไปนั่งข้าง ๆ ร่างโปร่งค่อย ๆ ก้าวเข้าไปนั่งอย่างระมัดระวังท่ามกลางสายตาล้อเลียนของเพื่อนอย่างจงอินและเซฮุน



     

     "ทานข้าวรึยัง" เสียงทุ้มเอ่ยถามทันทีเมื่อชานยอลนั่งลงข้าง ๆ



     

     "ทานแล้วคริสล่ะ"



     

     "ทานแล้วเหมือนกันเป็นอะไรรึเปล่าหน้าซีด ๆ" ไม่พูดเปล่ามือใหญ่ถูกส่งขึ้นไปอังหน้าผากสวยอย่างอ่อนโยน ชานยอลชะงักกับการกระทำของอี้ฟานเล็กน้อย แก้มกลมขึ้นสีเรื่อน่ามอง



     

     "มะ...ไม่เป็นอะไรมากหรอกแค่ปวดหัวนิดหน่อย"



     

    "ตัวอุ่น ๆ เมื่อวานตากฝนใช่ไหม" อี้ฟานเอ่ยถามคิ้วเข้มขมวดเข้าหากัยอย่างเคร่งเครียด เพราะเมื่อวานเขาติดธุระกับที่บ้านเลยต้องรีบกลับไม่ทันได้รอไปส่งคนที่เลิกเรียนทีหลังแถมเมื่อวานฝนยังตกหนักเสียด้วย



     

    "ก็..."



     

    "ตากฝนใช่ไหม" อี้ฟานถามเสียงเข้ม ชานยอลพยักหน้ารับหงอย ๆ จนคนที่ทำท่าจะดุใจอ่อน คริสถอนหายใจช้า ๆ ก่อนจะเอื้อมตัวไปสะกิดมินซอก



     

    "เปากูขอยืมหมอนน้อยมึงหน่อย" มินซอกพยักหน้าก่อนจะก้มลงไปหยิบหมอนใบเล็กรูปซาลาเปาขึ้นมาส่งให้เพื่อนตัวสูง คริสเอ่ยขอบคุณก่อนจะวางมันลงตรงหน้าชานยอลและกดหัวทุยลงบนหมอน ชานยอลทำตามอย่างงง ๆ



     

     "นอนพักซะเดี๋ยวจดแล็กเชอร์แทนเองแล้วนี่กินยารึยัง" อี้ฟานเอ่ยบอกคนที่มองหน้าเขาตาปริบ ๆ อดไม่ได้ที่จะบีบจมูกโด่งอย่างหมั่นเขี้ยว



     

    "กินแล้วครับแต่เราไม่ได้เป็นอะไรมากนะ"



     

     "นอนไปเลยอย่าดื้อ" คนถูกหาว่าดื้อได้แต่ยื่นปากอย่างน่ารักก่อนจะทิ้งตัวนอนราบไปกับโต๊ะเรียนตามคำสั่งของคนตัวสูงกว่าอย่างว่าง่าย เซฮุนและจงอินผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดหันมามองหน้ากันยิ้ม ๆ



     

     อย่างน้อยเพื่อนเขาก็ไม่ได้คิดไปเองฝ่ายเดียว



     

    อี้ฟานมองคนที่เขาสั่งให้นอนหลับเงียบ ๆ คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันยังไม่คลาย เขาจ้องอีกฝ่ายเหมือนมีอะไรติดอยู่ในใจ ก่อนที่จะเลิกคิ้วอย่างนึกขึ้นได้ ก็คน(ที่ดูเหมือน)ป่วยใส่เพียงแค่เสื้อยืดคอกลมบาง ๆ มาเรียนเท่านั้น ก็รู้ว่า ปาร์ค ชานยอลเป็นคนขี้ร้อนแต่ในสถานการณ์ที่สุขภาพตัวเองไม่ค่อยจะดีทำไมไม่รู้จักใส่เสื้อให้หนา ๆ กันนะ ว่าแล้วอี้ฟานก็ถอดเสื้อช็อปของตนเองที่เพิ่งจะซักไปเมื่อวานออกมาคลุมให้คนตัวบางชานยอลขยับตัวเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ลืมตาขึ้นมาดูแต่สองคนที่เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบแบบเซฮุนและจงอินนี่กลั้นยิ้มกันจนปวดแก้ม



     

    โดยเฉพาะเซฮุนที่บีบมือจงอินกลั้นฟินจนแน่น ใบหน้าน่ารักยิ้มจนตาหยีจนจงอินอดไม่ได้ที่จะโน้มตัวไปสูดความหอมแก้มนิ่มฟอดใหญ่ จะปล่อยให้อีกคู่หวานเกินหน้าเกินตาได้ไงล่ะ เขากับเซฮุนก็หวานเหมือนกันนะ



     

    อี้ฟานนั่งอ่านหนังสืออยู่เงียบ ๆ จนกระทั่งเพื่อนร่วมภาคของเขาเดินเข้ามาแจ้งว่าอาจารย์ติดประชุมด่วนแต่สั่งงานให้ทำส่งท้ายคาบ ชานยอลที่ตื่นเพราะเสียงเพื่อน ๆ เฮลั่นที่อาจารย์ไม่เข้ากำลังจะลุกขึ้นนั่งดี ๆ แต่อี้ฟานก็เอามือใหญ่กดศีรษะเขาให้นอนลงเหมือนเดิม



     

    "นอนต่อไปเถอะ"



     

    "แต่อาจารย์สั่งงานนะ" ชานยอลตอบเสียงอ้อมแอ้ม แก้มกลมเห่อร้อนเพราะมือใหญ่ที่กดศีรษะเขาในตอนแรกกำลังลูบหัวเขาอยู่ในตอนนี้



     

    คริสคนบ้าทำไมถึงชอบอ่อนโยน >♡<



     

    "นอนไปเถอะเดี๋ยวทำให้"



     

    "แต่....อ๊ะ"



     

    "บอกว่าเดี๋ยวทำให้ไงครับ ชานยอลนอนไปเถอะอย่าดื้อเข้าใจไหม"



     

    ชานยอลกำลังจะบอกว่าตัวเขาไม่ได้เป็นอะไรมากต้องชะงักเมื่อใบหน้าหล่อที่ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจชานยอลไม่ปกติโน้มตัวลงมาจนปลายจมูกสัมผัสกันแถมเสียงทุ้มที่เอ่ยบอกราวกับเป็นคำสั่งที่ผู้ใหญ่สั่งเด็กไม่ให้ดื้อไม่ให้ซนยิ่งทำให้ชานยอลเขินจนหน้าแดงเป็นลูกตำลึง



     

    คริสยิ้มขำเมื่อเห็นว่าอีกคนเขินเขาจนหูแดงหน้าแดงไปหมดแต่เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่ามันน่ารักน่าแกล้งมากทีเดียว ยิ่งได้อยู่ใกล้จนได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากตัวชานยอลพาลให้เขาอยากจะลองจรดจมูกลงบนแก้มกลมตรงหน้าดูสักครั้ง



     

    จะนิ่มและหอมขนาดไหนกันนะ



     

    "คะ..คริสเอ่อเอาหน้าไปไกล ๆ หน่อยก็ได้" เสียงทุ้มหวานอ้อมแอ้มตอบ ชานยอลพยายามขยับหน้าออกห่างแต่คนขี้แกล้งรีบรั้งท้ายทอยเอาไว้



     

    "ทำไมครับ หืม?"



     

    โอ่ย มาหงมาหืมอะไรใกล้ ๆ คริสนะคริสรู้ว่าเขาเขินก็ชอบแกล้งเสียจริง แก้มกลมเริ่มพองริมฝีปากสีเชอร์รี่ยื่นอย่างเง้างอน แกล้งมาก ๆ เดี๋ยวเขาก็โกรธซะนี่ ก็ทำได้แค่คิดเพราะเอาเข้าจริงชานยอลก็ทำใจโกรธคริสไม่ลงอยู่ดี



     

    "..อย่าแกล้งสิ" ทำใจดีสู้เสือตอบไปพยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่นแต่ทำไมมันทำได้ยากเช่นนี้นะ



     

    "ฮะฮะ โอเคครับ ๆ ไม่แกล้งแล้วนอนพักซะ" เสียงทุ้มเจือเสียงหัวเราะเอ่ยบอกอีกคนอย่างอารมณ์ดี มือใหญ่ขยี้กลุ่มผมนุ่มเบา ๆ ด้วยความเอ็นดูก่อนจะหันหน้ากลับมาทำงานที่อาจารย์สั่ง ชานยอลนอนมองคริสทำงานพร้อมรอยยิ้มหวาน คนน่ารักประจำภาคปิโตรเอ่ยพึมพำก่อนที่จะเข้าสู่ห้วงนิทราอีกรอบเพราะพิษไข้



     

    "ขอบคุณครับคริส"



     

    ถ้าเพียงแต่ชานยอลหลับตาช้ากว่านี้สักนิดคงได้เห็นรอยยิ้มและสายตาสื่อความหมายบางอย่างจากร่างสูงข้างกาย








    TBC...




    รบกวนติด #MYดดลอ นะคะ เรื่องสั้นต้อนรับวันเกิดน้องกาง ที่ตอนเดียวไม่จบมันยาวเกินปายยยย

    ©
    t
    h
    e
    m
    y
    b
    u
    t
    t
    e
    r
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×