คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : why i said ch.1 myungyeol
บทนำ
"พ่อฮะ......ผมกลับมาแล้ว" เปิดฉากแรกด้วยเสียงใสๆๆมาพร้อมกับร่างสูงของซองยอลดังขึ้นก่อนที่จะโยนกระเป๋านักเรียนไว้ที่ห้องนอนตัวเองก่อนจะเดินมานั่งบนเก้าอี้ตรงข้ามพ่อตัวเองที่ทำสีหน้าไม่ดีเท่าไหร่นัก
"ซองยอลพ่อมีเรื่องจะคุยกับลูก" คนเป็นพ่อกล่าวขึ้นสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่บรรยากาศในตอนนี้เลยตกอยู่ในสถานการณ์ที่ตรึงเครียสพอสมควร
"ระ ระ เรื่องอะไรครับ" ซองยอลถามเสียงสั่น
"เออ...พ่อเป็นหนี้ตระกูลคิม..."
"เอ่อ....ผมก็นึกว่าเรื่องอะไรซะอีกแล้วเงินมันเท่าไหร่ครับ ผมจะหามาให้ตระกูลคิมเอง" ซองยอลถอนหายใจยาวเยือกสีหน้าดูยิ้มแย้มขึ้นมาทันมีก็นึกว่าเรื่องอะไรก็แค่ติดหนี้มันจะเท่าไหร่กันเชียว
"ลูกหาไม่ได้หรอก......ตั้งสองล้าน พ่อขอโทดนะซองยอลที่ไม่บอกลูกก่อนหน้านี้" คนเป็นพ่อพูดพรางน้ำตาคลอเบ้ารู้สึกผิดต่อลูกขึ้นมาทันที
" ถ้าพ่อบอกลูกเร็วกว่านี้เรื่องมันก็คงไม่แย่ขนาดนี้หรอก "
"ห๊ะ!!! สะ สะ..สองล้านน แล้วเราจะทำยังไงฮะ เงินสองล้านใช่ว่าจะหามาง่ายๆแล้วพวกเค้ากำหนดให้คืนเงินวันไหนครับ" ซองยอลถึงกับตกใจเมื่อได้ยินที่พ่อพูดอยากตายให้ได้เลยสองล้านฆ่ากันให้ตายจะง่ายกว่าอีก
"อีกสองวันถ้าหามาไม่ได้บ้านเราจะถุกยึด "
" อีกแค่สองวันแล้วเราจะไปหามาจากไหนครับเนี่ย "
" แต่ก็ยังพอมีทางเลือกอยู่แต่มันจะเสี่ยง ..." คนเป็นพ่อพูดยังไม่ทันจบซองยอลก็ถามตัดบทขึ้นเสียก่อน
" อะไรเหรอครับพ่อผมทำได้ " ซองยอลพูดขึ้นแววตาดูมีความหวังเป็นอย่างมากเพื่อบ้านไม่ถูกยึดซองยอลคนนี้ทำได้หมด
" เออ....ลูกต้องไปเป็นคนใช้ให้บ้านตระกุลคิมในระยะเวลา3เดือนต้องให้คำตอบในพุ่งนี้เพื่อที่จะทำสัญญากับตระกูลคิม "
"พ่อครับ...ผมจะไปเป็นคนใช้ครับเพื่อครอบครัวเราพ่อไม่ต้องเป็นห่วงผมนะผมจะไม่ยอมให้พวกมันมาเอาบ้านเราไปหรอกพ่อเชื่อใจผมนะ" ซองยอลพูดขึ้นน้ำเสียงฟังดูหนักแน่นโดยไม่คิดอะไรเลยใจจริงแล้วไม่อยากไปเลยไม่รู้ทางข้างหน้าจะเป็นไงบ้างแต่มันก็ไม่มีทางเลือกไหนแล้วที่จะไม่ทำให้บ้านนี้ถูกยึด
" แต่พ่อเป็นห่วงหนิมันไม่อันตรายไปหน่อยเหรอซองยอลคิดดูให้ดีนะลูก..." คนเป็นพ่อพูดเพื่อที่จะให้ลูกกลับไปทบทวนเรื่องนี้อีกทีแต่ยังไงคำพูดของพ่อเองคงจะไม่เป็นผลเพราะซองยอลยืนกลางว่าจะไปอะไรก็ฉุดไม่อยู่
" ผมคิดดีแล้วครับมันไม่มีทางเลือกไหนอีกแล้วครับพ่อ.......ถ้าผมไม่ไปบ้านเราจะโดนยึดนะครับผมไม่ย่อมเด็ดขาดมันแค่สามเดือนเองหนิฮะ..ช่วงระยะสามเดือนพ่อก็หาเงินมาให้พวกนั่นผมเชื่อว่ามันต้องผ่านไปได้ดีแน่ๆพ่อเชื่อใจผมนะ"
" ถ้าลูกคิดดีแล้วพ่อก็จะไม่ห้ามลูก.......ถ้าพวกนั่นใช้งานหนักเกินไปก็ไม่ต้องทำพ่อจะให้มันยึดบ้านแล้วเราก๊ไปสร้างบ้านใหม่อยู่กัน " ถ้าคิดอย่างนี้มันก๊ง่ายแต่บ้านหลังนี้บรรพบุรุษของซอลยอลสร้างขึ้นมาและบ้านแบบนี้หาไม่ค่อยจะหาได้เพราะเป็นทรงดังเดิมเนื้อที่ก็กว้างและเป็นที่ต้องการของเศรษฐีทุกคนที่จ้องจะกินบ้านหลังนี้
"ครับพ่อยังไงผมก็ต้องทนให้ได้แค่ 3 เดือนเองสบายมากครับ^^!" เด็กหนุ่มยิ้มเเห้งๆให้ผู้เป็นพ่อยังไงเราต้องทนให้ได้ไม่ว่าเป็นตายร้ายดียังไง...
>>>>รุ่งเช้าของวันจันทร์ที่ซองยอลต้องไปเรียนตามปกติแต่วันนี้มันไม่เหมือนทุกๆเช้า.......ทุกวันซองยอลจะไปเรียนด้วยใบหน้าที่แจ่มใสดูร่าเริงแต่วันนี้ซองยอลกลับดูเศร้าๆไปก็วันนี้เป็นวันครบสัญญาที่ตระกูลคิมจะมารับตัวซองยอลไปขัดดอกซองยอลเองยังไม่ได้บอกใครเลยแม้กระทั่งเพื่อนตัวเองเมื่อคืนซองยอลแทบจะไม่ได้นอนเลยมั่วแต่คิดเรื่องนี้อยู่ยิ่งคิดก็ยิ่งกลุ้มนอนก็นอนไม่หลับยังไม่รู้เลยว่าเส้นทางข้างหน้าจะเป็นยังไงจะเลวร้ายซักแค่ไหนยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว
"เย็นนี้แล้วซินะ....."ซองยอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่หมดแรงเต็มทีเหมือนจะตายให้ได้เลย
พรึบ!!!!ร่างสูงเพียวล้มหมดสติลงราบไปกับพื้นซีเมนตรงหน้าร้านกาแฟอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากบ้านซองยอลเท่ไหร่ทำเอาคนที่อยู่แถวนั่นพากันมุงเต็มเลยแต่ไม่มีใครช่วยพาซองยอลสักคน(ใจดำกันชะมัด)
"คนมุงดูไรกันว่ะ!" เสียงของอูฮยอนพูดขึ้นที่นั่งจิบกาแฟอยู่ในร้านพลางส่องมองเหตุการณ์ผ่านกระจกใสภายในร้าน....ด้วยความที่อยากรู้อยากเห็นเหมือนคนอื่นเลยต้องถามพนักงานที่เดินผ่านมาพอดี
"ข้างนอกเค้ามีไรกันเหรอครับ?"
" อ่อ มีคนเป็นลมคะแต่ไม่มีใครช่วยเลยมีแต่ยืนดูชั้นว่าจะเอายาดมไปให้อยู่น่ะค่ะขอตัวก่อนนะคะ" พูดจบพนักงานก็เดินผ่านไปอย่างรีบร้อนอูฮยอนก็ไม่รอช้ารีบวิ่งออกจากร้านไปดูทันที(ด้วยความที่อยากรู้อยากเห็นเหมือนกัน)
" ขอทางหน่อยครับ " อูฮยอนว่าก่อนจะเดินเข้าไปดูใกล้ๆ
" เอ๊ย!! ซองยอล " อูฮยอนอุทานขึ้นถึงกับตกใจเมิ่อบุคคลที่เห็นตรงหน้านั่นเป็นซองยอลคนที่เขารู้จักนั่นเอง เป็นลมตรงนี้ได้ไงเนี่ย
" คุณรู้จักเขาด้วยเหรอคะ " ผู้หญิงคนหนึ่งถามขึ้น(ด้วยความอยากรู้อยากเห็น)
" อ่าครับน้องผมเอง....เออขอทางหน่อยนะครับ " อูฮยอนว่าก่อนจะเดินเข้าไปอุ้มร่างซองยอลขึ้นมาท่ามกลางคนที่มุ่งดูเป็นสิบๆคนก่อนจะพาร่างสูงตรงไปยังรถสปอร์ตสีดำคันหรูของตัวเองโดยเร็วเพราะตัวซองยอลหนักมากยังกะอะไรดี
" กรี๊ดด!!...แมนมากเลยอ่ะอ๊ายยผู้ชายอย่างนี้ล่ะชั้นชอบๆ^//^ " สาวเจ้าคนหนึ่งพูดขึ้น
" ใช่มั้ยแกเท่เป็นบ้า " และเพื่อนอีกคนก็พูดเสริม
"อ่ะ ตัวหนักชะมัด" อูฮยอนสบถเบาๆๆเบื้องหลังความเป็นสุภาพบุรุษต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวด" ซองยอลกินไรเข้าไปฟ่ะเนี่ยตัวแม่งโคตรหนักปวดหลังชะมัด " เจ้าตัวบ่นเป็นชุดเพื่อแลกกับการมีคนมาชมมันก้ต้องย่อมล่ะว่ะอูฮยอนคิดอยู่ในใจก่อนจะเดินไปเอายาดมจากพนักงานร้านกาแฟมาก่อนจะเดินมายังรถของตัวเองแล้วเอามาให้ซองยอลที่สลบอยู่ในรถ
"พี่คะชั้นว่าพี่พาเค้าไปที่อื่นก่อนดีกว่าคะคนมุงเต็มเลยเดี๊ยวคุนเค้าจะไม่มีอากาศหายใจเอาน่ะ" สาวเจ้าเอยขึ้นมันก็จริงที่เทอพูด
"เออ จริงด้วยขอบคุณนะครับที่ให้คำแนะนำพี่ไปแล้วนะครับ^^" อูฮยอนพูดก่อนจะโค้งให้สาวเจ้าก่อนจะปิดประตูรถฝั่งที่ซองยอลนั่งและวิ่งขึ้นรถไปส่วนสาวเจ้าก็ยืนโบกไม้โบกมือให้อูฮยอนส่วนผู้คนก็ต่างทะยอยพากันทำธุระของตัวเองต่อหลังจากสอดเรื่องชาวบ้านเสร็จ
เอี๊ยดดดดดดดดด!!!!เสียงเบรกของรถสปอร์ตของอูฮยอนมาจอดอยู่ตรงหน้ามหาลัยแทคยองถึงตอนนี้แล้วซอลยอลยังไม่ฟื้นเลยอูฮยอนเลยต้องเอายาดมให้ซองยอลดมตั้งหลายรอบจนปวดแขนไปหมดแล้ว
จะว่าไปแล้วนายก๊น่ารักดีเนอะได้เห็นน่าชัดๆก๊วันนี้แหละ อูฮยอนคิดอยู่ในใจ
" นี่เราคิดอะไรลงไปว่ะ " พูดแล้วก็เขิลกับตัวเองที่คิดอะไรเรื่อยเปรื่อย
" อื้อ อ่า เอ๊ะ!!! ที่นี่ที่ไหน0.0" หลังจากซองยอลลืมตาได้ซักพักเจ้าตัวก็ถามเป็นประโยคแรก ทำเอาอูฮยอนที่อยู่ข้างๆถึงกับสดุ้งโยงขึ้นด้วยความตกใจไม่น้อยคิดอะไรอยู่เพลินๆเล่นเอาจิตกลับเข้าร่างแทบไม่ทันเน๊ะ
"ฟื้นแล้วเหรอ?"อูฮยอนถาม
" คะ ครับ ที่นี่ที่ไหน? แล้วผมมาอยู่นี่ได้ไง? แล้วผมเป็นอะไรไปครับ?ล่ะแล้ว.."
"จะให้ชั้นตอบคำถามไหนดีก่อนนายเล่นถามเป็นชุดซะขนาดนี้" ซองยอลยังพูดไม่ทันจบอูฮยอนก็พูดตัดซะก่อนฝืนให้ซองยอลถามเสร็จอูฮยอนก็คงจำไม่ได้อยู่ดีเพราะเล่นถามเอาเป็นชุด
"ชั้นเห็นนายเป็นลมก็เลยพานายมาที่นี่ "อูฮยอนตอบ
"อ่อ ผมเป็นลมไปเหรอพี่อูฮยอน" ซองยอลถามด้วยสีน่า งงๆพรางเกาหัวตัวเองอย่าง งง
"นายเป็นไรเป็นไข้เหรอถึงไปเป็นลมอยู่ที่หน้าร้านกาแฟน่ะ" อูฮยอนถามพลางเอามือไปเตะ
หน้าผากซองยอลเบาๆแต่ทำเอาซองยอลถึงกับสดุ้งเฮือกขึ้นมาทันที
"อ่ะ อ่ะ เอ่อป่าวครับ..เออขอบคุณนะครับที่ช่วยผมไม่งั้นคงแย่งั้นผมไปเรียนก่อนนะครับ" ซองยอลลี่กล่าวอย่างมีมารยาทถึงแม้ซองยอลเองก็รู้จักอูฮยอนเป็นอย่างดีแต่ก็เกรงใจอูฮยอนอยู่เหมือนกัน
"เออเดี๊ยวซิ! ให้ชั้นไปส่งมั้ยเดี๊ยวเป็นลมเป็นแร้งไปอีกน่ะ" อูฮยอนพูดขัดซองยอลที่กำลังจะเปิดประตูรถออกไปจากรถทำเอาซองยอลต้องหยุดชะงักหันมามองอูฮยอนทันที
"ไม่เป็นไรครับผมแกล้งใจแค่นี้ก็เกรงใจจะแย่อยู่แล้ว^^ ผมไปก่อนนะครับไว้เจอกัน" ซองยอลยิ้มแห้งๆให้อูฮยอนก่อนขายาวๆจะก้าวลงรถไป
"เอ่ออออ...วันซวยไรว่ะ!!" ซองยอลบ่นเบาๆกับโชคชะตาตัวเองที่ต้องมาซวยแต่เช้าเลย
''
''
''
''
''
''
''
''
" เอ๊ยไอ่ยอลลี่มาแล้ว!!" เสียงที่ฟังดูคุ้นหูคุ้นตาของซองยอลดีจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากดงอูเพื่อนสนิทของเขานั้นเอง
" เอ๊ย!แม่งมาสายชิบ" ตามด้วยเสียงของโฮย่าเพื่อนสนิทอีกคน
" โทดทีว่ะวันนี้แม่งซวยแต่เช้า...วันนี้กุกลับแร็วนะเว๊ย " ซองยอลพูดขึ้นก่อนจะเดินมานั่งโต๊ะข้างๆแอลเพื่อนร่วมห้องที่จะไม่ถูกกันเลยแถบจะไม่คุยกันด้วยซ้ำ
" อ้าวไมว่ะ วันนี้ว่าจะพาไปฉลองซะหน่อย " โฮยาพูดขึ้นด้วยความผิดหวังอุส่าได้
" ชั้นต้องไปขัดดอกให้บ้านตระกลูคิมขอโทดด้วยนะเว๊ย"
" ตระกูลคิม!!!" โฮยากับดงอูพูดขึ้นพร้อมกันจนทำเอานักศึกษาต่างพากันหันมามองเป็นตาเดียว
" เอ๊ย!! เบาๆๆซิว่ะ" ซองยอลแยกเขี้ยวใส่เพื่อนรักทั้งสองคนทันที
" บ้านตระกูลคิมมันใช่บ้านของแอลมั้ยว่ะ" ดงอูถามเสียงที่แบ่วเบาเพราะแอลอยู่ข้างๆซองยอลแต่ดีที่แอลใส่สโมท๊อกฟังเพลงอยู่เลยไม่ได้ยิน
" ไม่หรอกมั้งโลกจะกลมไรขนาดนั้น " ซองยอลรีบพูดให้กำลังใจตัวเองทันทีขออย่าให้เป็นอย่างนั้นเลย
" เอ๊ย!!มันก็ไม่แน่นะไม่แน่เป็นตระกูลของแอลมันจริงๆแก่ได้เตรียมซื้อโรงไว้เลยลีซองยอล " โฮยาพูดทำเอาซองยอลถึงกับจะช็อกให้ได้เลยแค่ได่ยินชื่อก้แทบอยากจะดำดินให้ได้อยู่แล้วถ้าเป็นอย่างนั้นจริงคงไม่ต้องคิดภาพเลยแค่หน้ายังไม่อยากมองกันอยู่แล้ว
" กุไม่น่าเล่าให้พวกแกฟังเลย...ยิ่งทำให้กรูเครียสกว่าเดิม "
" อาน๊า...มันไม่เป็นจริงหรอก " โอยาพูดให้กำลังใจเพื่อนพลางตบหลังซองยอลเบาๆ
>>>หลังจากที่เรียนเสร็จซองยอลก็รีบกลับบ้านไปจัดกระเป๋าเตรียมตัวที่จะย้ายเข้าไปอยู่บ้านตระกูลคิมในฐานะคนขัดดอกทันทีซองยอลแทบจะไม่อยากไปจากที่นี่เลยแต่ก็ต้องไปเพื่อความอยู่รอดของเขาและพ่อ
" ซองยอลลูกดูแลตัวเองด้วยนะ พ่อคงอยู่ที่นี้ไม่ได้พ่อต้องไปหาเงินต่างประเทศอีกสามเดือนพ่อจะกลับมานะลูกให้อภัยพ่อคนนี้ด้วยนะซองยอล" คนเป็นพ่อกล่าวขึ้นใบหน้าดูเศร้าๆเล็กน้อยไม่แตกต่างจากซองยอลเลย
" ครับพ่อ...แล้วเราจะไม่ได้เจอกันเลยเหรอครับระยะสามเดือน " ซองยอลถามขณะที่เก็บของเสร็จแล้ว
" คงไม่น่ะลูกแต่พ่อจะโทรหาลูกบ่อยๆนะ" คนเป็นพ่อว่า
"ครับ^^!" ซองยอลยิ้มแห้งๆให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะเข้าส่วมกอดพ่ออันเป็นที่รักเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เขาจะไม่ได้เจอพ่ออันเป็นที่รักอีก3เดือนมันดูนานมากสำหรับซองยอล
"อื้ม ถึงเวลาแล้วที่ลูกต้องไปตระกูลคิมจะส่งรถมารับลูกหน้าบ้านป่านนี้คงมาแล้วลูกไปเถอะเดี๊ยวเขาจะว่าเอาได้ว่าไม่ตรงเวลา" ผู้เป็นพ่อบอกหลังจากกอดกันซะนาน
"ครับพ่อ ผมไปแล้วนะครับ" ซองยอลพูดก่อนที่จะถือกระเป๋าไปที่หน้าบ้านพอมาถึงรถตูคันหรูก็มาจอดอยู่ที่หน้าบ้าน
"ใช่ลูกชายเจ้าของบ้านหลังนี้ใช่มั้ย" ชายวัยกลางคนถาม
"ครับ" ซองยอลพูดเสียงสั่นนิดๆ
"ขึ้นรถ" คนวัยกลางคนสั่งก่อนจะมีคนเปิดประตูให้
"ครับ" ซองยอลได้แต่ครับแล้วก็ครับในใจก็รู้สึกแปลกใจว่าลูกน้องเจ้าหนี้ทำไมถึงได้แต่งตัวดีขนาดนี้ไม่เหมือนพวกที่ชอบใช้กำลังเหมือนในหนังเลย
เฮี๊ยดดดดดดดด
ไม่นานก็ถึงบ้านของตระกูลคิมแล้วซองยอลถึงกับตาโตเลยเพราะไม่หน้าเชื่อว่าบ้านรึวังทำไมมันใหญ่อย่างนี้
"ลงมาได้" ชายวัยกลางคนเปิดประตูรถออกก่อนจะเรียกซองยอลลงจากรถ
"ครับ" ที่นี่น่ะเหรอบ้านตระกลูคิม ซองยอลคิดอยู่ในใจนี่แค่นอกบ้านถ้าเข้าไปจะใหญ่ขนาดไหนเนี่ย
"ตามมาซิถือของมาด้วย" คนวัยกลางคนอีกคนหนึ่งพูดขึ้น
"ครับ" ซองยอลเดินตามผู้ชายวัยกลางคนเข้ามาในบ้านข้างในบ้านดูหรูหราตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์นำเข้าทั้งนั้น
" ท่านครับเด็กคนนี้มาแล้วครับ.." ผู้ชายวัยกลางคนพูดขึ้นก่อนที่ผู้ชายร่างสูงจะหันหน้ามามองซองยอลที่ก้มหน้าให้กับเขาท่าทางจะเป็นเจ้าของหฤหรรษ์หลังนี้ซะด้วยเพราะดูจากการแต่งตัวแล้วดูดีมีชาติตระกูล
"อื้ม...ดีมาก ชั้นชื่อคิมมุนซูเป็นเจ้าของบ้านนี้นายคงรู้แล้วซินะว่าชั้นให้นายมาทำอะไร " คิมมุนซูถามด้วยน้ำเสียงที่นิ่ง
" ระ ร ะรู้ครับ " ซองยอลตอบเสียงสั่น
"ไม่ต้องกลัวชั้นหรอกลีซองยอลชั้นไม่ทำไรนายหรอก...นายเป็นลูกของลีบยองจุนก็เท่ากับเป็นลูกของชั้นด้วยเช่นกัน" คิมมุนซูกล่าวขึ้น
"ท่านจะใช้อะไรผมเหรอครับ" ซองยอลถาม
" ไม่มีอะไรมากชั้นเห็นว่านายมีความรับผิดชอบดีชั้นก็เลยว่าจะให้นายมาเป็นคนดูแลเจ้าลูกชายชั้นให้หน่อยในระยะสามเดือนนายจะอยู่ที่นี้ในฐานะคนรับใช้ของลูกชายชั้น...เออ ลืมบอกไปลูกชายชั้นมี 2 คน ชั้นให้นายมาดูแลเจ้าลูกชายคนเล็กชั้นถ้ามันบอกไม่ฟังก็จัดการมันได้เลยแต่ขอบอกเจ้าคนนี้มันเป็นคนเย็นชาไม่สุ่งสิงกับใครยังไงก็ฝากด้วยล่ะกันนะ...เออที่พักของนานอยู่ชั้นบนชั้นจะให้คนใช้พาขึ้นไปล่ะกันนะ " คิมมุนซูร่ายซะยาวจนทำเอาซองยอลฟังแทบไม่ทัน
"ครับ" เอาเรามาดูแลลูกชายเนี่ยนะ....ง่ายมากเป็นเด็กอยู่แน่ๆเลยบอกไม่ฟังก็ไล่ฆ่าอย่างเดียว555555555ง่ายมาก ซองยอลคิดอยู่ในใจหารู้ไม่ว่าตัวเองจะมีภัยมาเยือน (555ยอลลี่ของเราได้ตกนรกทั้งเป็นแน่)
" วูริ....พาซองยอลไปดูห้องหน่อยซิ " คิมมุนซูเรียกสาวใช้ที่กำลัง ทำความสะอาดอยู่แถวๆนั่น
" มีอะไรให้ชั้นรับใช้คะ " สาวใช้ที่ชื่อวูริถามด้วยน้ำเสียงที่หวาน สาวใช้บ้านนี้มีแต่คนสวยๆทั้งนั่นแทบจะหาคนแก่ไม่ค่อยได้
" พาซองยอลขึ้นไปดูห้องทีซิ " คิมมุนซูตอบ
" คะ" สาวเจ้าตอบ"เชิญทางนี้คะ " ก่อนจะพาซองยอลขึ้นไปยังชั้นบนบันไดยาวมากไม่รู้กี่ชั้นๆกว่าจะไปถึงก็ทำเอาซองยอลลิ้นห้อยเลยทีเดียว
" นี่คะห้องของคุณ " สาวเจ้าพูด
" อ่อครับ...ขอบคุณมากนะฮะคุณ...? "
" วูริคะ^^ มีอะไรถามได้นะชั้นไปก่อนนะมีงานต้องทำเยอะ " สาวเจ้ายิ้ม ก่อนจะเดินจากไป
แอ๊ดดดดดดดดด ~~~~
ซองยอลค่อยๆเปิดประตูห้องออกช้าๆอย่างเบามือ
" ว้าวววว.....ห้องเราเหรอเนี่ย ไม่เหมือนห้องคนใช้สักนิดใหญ่ยังกะอะไร " ซองยอลพูดขึ้น ความฝันใช่มั้ยใครก็ได้หยิกผมที(เดี๊ยวไรเตอร์หยิกให้นะ=)
ตุบ!!! ร่างสูงว่างกระเป๋าที่แบกมาด้วยลงบนพื้นข้างๆเตียงก่อนจะนอนแผ่ อยู่บนเตียงหนานุ่มทันที
" เตียงก็นิ่มอีก...เออสบายจัง " ร่างบางนอนแผ่กับเกือกกลิ้งไปมาอยู่สักพักก็อดคิดถึงพ่อตัวเองไม่ได้
" ป่านนี้พ่อจะเป็นไงบ้างน๊า...ผมคิดถึงพ่อจังครับ "
ความคิดเห็น