ShortFic KHR Kiss in Christmas day [R27] - ShortFic KHR Kiss in Christmas day [R27] นิยาย ShortFic KHR Kiss in Christmas day [R27] : Dek-D.com - Writer

    ShortFic KHR Kiss in Christmas day [R27]

    ในวันที่หิมะโปรยปราย..ฉันกับนายได้เจอกันเป็นครั้งสุดท้าย... คริสต์มาสอีฟได้เริ่มต้นขึ้น..ในวันเดียวกับที่ฉันสูญเสียนายไป...

    ผู้เข้าชมรวม

    2,950

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    9

    ผู้เข้าชมรวม


    2.95K

    ความคิดเห็น


    27

    คนติดตาม


    60
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  7 ต.ค. 55 / 15:23 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

     Warning !!!

    เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับ Boy love Boy หรือ ชายรักชาย นะคะ 

    ใครไม่ชอบก็ขอให้กด x ที่มุมขวาบนค่ะ _ _

    เรื่องนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องจริงที่ อ.อามาโนะ อากิระ แต่งขึ้น

    และเป็นเรื่องก่อนที่จะเกิดศึกในโลกอนาคตขึ้นที่อาจจะจบไปนาน(มาก)แล้วก็ตาม 

    ไรท์เตอร์ก็แต่งนิยายไม่ค่อยเก่ง เพราะฉะนั้นถ้าไม่สนุกไรท์เตอร์หรือสร้างความไม่พอใจก็ขออภัยทุกท่านนะคะ 


    ขอบคุณทุกท่านที่สละเวลาเข้ามาอ่านฟิคเรื่องนี้นะคะ 
                
    MusicPlaylist
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      cinnamon

       

      คริสต์มาส วันที่ทุกคนมีความสุข

       

      วันที่หิมะสีขาวบริสุทธิ์เริ่มโปรยปราย

       

      วันที่ทั่วทั้งเมืองเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้ม

       

      และเป็นวันที่พวกเราจูบกันด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข.. เป็นครั้งสุดท้าย

       

       

      วันนั้น เป็นวันที่ผมได้เห็นหิมะที่ถูกย้อมด้วยสีแดงฉานของโลหิต… ’

       

      …………………………………

       

      ………………..

       

      เหลือเวลาอีกหนึ่งวัน.. ระฆังสีทองแห่งคืนคริสต์มาสจะดังขึ้น

       

      สัญญาณ..เริ่มต้นของคริสต์มาสอีฟ

       

       

      วันที่ 23 เดือนธันวาคม..

       

      รุ่นที่ 10 วันนี้ดูมีความสุขจังนะครับ

       

      อะ เอ๋ ทำไมโกคุเทระคุงจู่ๆพูดแบบนั้นล่ะ !?เสียงหวานจากนภาแห่งวองโกเล่ดังขึ้น หลังจากได้ยินสิ่งที่มือขวาของเขาเอ่ย ริมฝีปากเรียวยกยิ้มบางๆเมื่อเห็นท่าทางกระวนกระวายของบอสตน

       

      ก็วันนี้น่ะรุ่นที่ 10 ยิ้มทั้งวันเลยนี่ครับ แม้แต่ในตอนนี้ที่พวกเรากำลังประชุมกันอยู่ รุ่นที่ 10 ยังทำท่าเหม่อลอยและอมยิ้มตลอดด้วย ใครไม่รู้ก็แปลกแล้วล่ะครับ ^^ ” พวงแก้มนวลแดงจัดหลังสิ้นประโยค และยิ่งเมื่อเห็นรอยยิ้มจากใบหน้าคมคายของผู้พิทักษ์วายุแห่งวองโกเล่หรือคนอื่นๆที่อยู่ในห้องประชุม แม้แต่เมฆาผู้นิ่งสนิทหรือบอสแห่งวาเรียที่อมยิ้มนิดๆ สึนะโยชิก็อายแทบจะมุดแผ่นดินหนี

       

      มะ ไม่ได้ดีใจอะไรสักหน่อย ฉะ ฉันไม่ได้ทำหน้าแบบนั้นเลยนะ นี่ อย่าหัวเราะกันซี่ !! ” ทุกคนภายในห้องหัวเราะคิกคักเมื่อได้ยินเสียงหวานตะโกนปิดบังความอาย ซึ่งตอนนี้ภายในห้องประกอบไปด้วย วองโกเล่ แฟมิลี่ วาเรีย คาบัคโรเน่ แฟมิลี่ จิสโรเนโร่ แฟมิลี่ อัลโกบาเลโน่ทั้ง 6 หรือแม้แต่ บาจิล และที่พวกเขามารวมตัวกันในวันนี้ก็เพราะบอสแห่งวองโกเล่ รุ่นที่ 10 มีกำหนดการประชุม นัดพบแฟมิลี่พันธมิตรเพื่อปรึกษากันเกี่ยวกับเรื่องระหว่างแก็งค์ ซึ่งในเดือนหนึ่งจะมี  1 ครั้ง

       

      คิกคิก คุณซาวาดะไม่ต้องอายไปหรอกค่ะ พรุ่งนี้คุณมีนัดเดทกับคุณลุงรีบอร์นใช่ไหมล่ะคะ ยูนิรู้นะ ^^ ” นภาแห่งจิสโรเนโร่และอัลโกบาเลโน่เอ่ยเสียงใส ยูนิที่มาทำหน้าที่เป็นบอสแทน อาเรีย มารดาที่เสียไปแล้วของเธอ เธอหันไปยิ้มให้กับ แกมม่า บุรุษที่ยืนข้างกาย เรียกให้ใบหน้าคมของชายหนุ่มขึ้นสีจัดอย่างเลี่ยงไม่ได้

       

      ทะ ทำไมพวกเธอรู้ล่ะ เอ้ย ไม่ใช่สิ ฉันไม่ได้ดีใจเพราะเรื่องนั้นนะ !! ” สึนะโยชิยังพยายามทักท้วงกับคำกล่าวหาของเด็กสาว แต่ก็โดนหนึ่งในอัลโกบาเลโน่พูดแทงใจดำออกมาเสียก่อย

       

      หน้าแดงขนาดนั้นไม่มีใครเชื่อหรอกนะ ซาวาดะ แหม นานๆทีคนรักจะกลับมานี่นะ ใครก็ต้องดีใจอยู่แล้วล่ะ ~~ ” อัลโกบาเลโน่ไม่สมประกอบ รัล มิลจิ เอ่ยยียวนสึนะโยชิ จนอีกฝ่ายถึงกับจุกอกทรุดตัวลงไปนั่งบนเก้าอี้ตามเดิม ก่อนจะกระแอมไอเบาๆ

       

      อะแฮ่ม นอกเรื่องกันมากไปแล้วนะ เรื่องนั้นก็ไว้ทีหลังสิ ตอนนี้มาคุยเรื่องงานกันก่อน เฮ้ๆ บอกแล้วไงว่าอย่าหัวเราะ โธ่ คุณฮิบาริก็เป็นไปกับเขาด้วย มุคุโร่ โคลม แซนซัส เป็นไปกันหมดเลย หยุดหัวเราะเถอะ  ทุกคน ได้โปรด !! ” สึนะโยชิกุมขมับพร้อมกับฟุบหน้าลงไปบนโต๊ะพลางร้องโอดครวญ เมื่อเห็นท่าทางแบบนั้นของร่างเล็กคนสำคัญ  ยิ่งทำให้เสียงหัวเราะดังขึ้นไปอีก แม้แต่บุคคลที่สึนะโยชิเอ่ยชื่อ เวลเด้ สคัล มาม่อน(ไวเปอร์) เบล ฟราน สควอลโล่หรือเหล่าลูกน้องยังแอบอมยิ้มนิดๆกับท่าทีนั้น

       

          9 ปีกว่าๆที่ผ่านมา สายสัมพันธ์ระหว่างวองโกเล่และแฟมิลี่พันธมิตรเพิ่มขึ้นมาก เพราะที่ผ่านมาสึนะโยชิจะคอยไปเยี่ยมเยียนแฟมิลี่ต่างๆแม้แต่เหล่าอัลโกบาเลโน่ที่คลายคำสาปแล้วอยู่ในหุบเขาของพวกเขา รวมถึงช่วยขอร้องวินดีเช่ให้ปล่อยตัวผู้พิทักษ์สายหมอกของตนออกมาได้บางครั้งบางคราว และด้วยเหตุที่วองโกเล่รุ่นที่ 10 เป็นคนที่มีมนุษย์สัมพันธ์ดี ทำให้แฟมิลี่ต่างๆยอมรับในตัวของเขารวมถึงแฟมิลี่ที่เคยเป็นศัตรูอย่างวาเรียด้วย  ถึงแม้เวลาจะผ่านไปเนิ่นนาน แต่ความรู้สึกของพวกเขาที่มีต่อร่างบางก็ยังไม่แปรเปลี่ยน

       

      ความรู้สึกที่เห็นคนคนนี้เป็นคนสำคัญ

       

      ความรู้สึกที่อยากจะปกป้องคนคนนี้ไปจนวันตาย

       

             ในช่วงเวลานั้นอาจารย์หนุ่มของสึนะโยชิก็ได้สารภาพความรู้สึกที่มีต่อลูกศิษย์น้อยของตนออกไป สึนะโยชิที่มีความรู้สึกดีๆต่อรีบอร์นเช่นกันก็ได้ตอบตกลงและทั้งสองก็ได้คบกันในฐานะ คนรัก  แน่นอน ตอนแรกที่ทุกคนรู้เรื่องนี้ก็ถึงขั้นคัดค้านและพยายามขัดขวางพวกเขาสองคนทุกวิถีทาง แต่เมื่อได้เห็นรอยยิ้มของสึนะโยชิยามที่เขาอยู่กับรีบอร์นก็เริ่มใจอ่อน เพราะรอยยิ้มนั้น..เป็นรอยยิ้มที่ดูสดใสมากกว่าครั้งไหนๆ

       

      รอยยิ้มที่สดใสและเบิกบาน

       

      จะปรากฏออกมายามอยู่กับคนสำคัญของเขา

       

            แต่ว่าเพราะภารกิจของรีบอร์นเลยไม่ใช่บ่อยครั้งนักที่เขาจะมาที่คฤหาสน์วองโกเล่แห่งนี้ ทำให้เวลาที่ทั้งสองจะอยู่ด้วยกันนั้นช่างแสนสั้น เมื่อไปถามบอสแห่งวองโกเล่รุ่นที่ 10 ก็ได้คำตอบกลับมาว่า มันเป็นงานนี่นา ช่วยไม่ได้หรอก  ถึงแม้ตอนที่เขาตอบจะตอบพร้อมรอยยิ้ม แต่ในดวงตาสีมะฮอกกานีนั้นแฝงความเศร้าที่เจ้าตัวพยายามปิดเอาไว้  อาจารย์หนุ่มที่ได้ยินคำตอบนั้นจากอัลโกบาเลโน่เพื่อนพ้องจึงพยายามเจียดเวลามาหาสึนะโยชิให้มากที่สุดและเมื่อวานรีบอร์นก็ได้ติดต่อมาหาร่างบางเพื่อจะมานัดไปเที่ยวหรือเดทในวันคริสต์มาสหรือก็คือวันที่ 24 แต่ตอนนี้เขาติดงานอยู่เลยยังกลับมาไม่ได้ ซึ่งแน่นอนข่าวนี้ก็แพร่หลายไปอย่างรวดเร็ว

       

      แหมๆ ครึกครื้นกันจังเลยนะ ~~ ” เสียงทุ้มที่ขัดเสียงหัวเราะของทุกคนดังขึ้นมาพร้อมกับการปรากฏตัวของชายสวมชุดสูทสีขาวที่ยืนอยู่ตรงประตูของห้องประชุม เรียกให้ทุกสายตาหันไปทางต้นเสียง

       

      “ !!!?

       

      เบียคุรัน !!!! ” หลากหลายเสียงตะโกนชื่อของผู้ที่เพิ่งปรากฏตัวพร้อมกัน ทุกคนตั้งท่าจะหยิบอาวุธของตนขึ้นมา แต่ชายหนุ่มที่มีฐานะเป็นศัตรูตรงหน้ากลับแย้มยิ้มและชี้นิ้วไปที่ร่างบอบบางของบอสแห่งวองโกเล่

       

      ฮืม ~ วันนี้ฉันไม่ได้มีธุระกับพวกเธอหรอกนะ แต่ฉันมีกับสึนะโยชิคุงต่างหากล่ะ ~~ ”

       

      ธุระอะไร คุยกับพวกฉันได้ไม่ต้องถึงมือรุ่นที่ 10หรอก !!! บอสแห่งเจสโซ่แฟมิลี่ เบียคุรัน ถอนหายใจแต่รอยยิ้มที่ดูใสซื่อยังคงประดับบนใบหน้าของเขา ลูกน้องของเขาทำท่าจะเข้าไปจับตัวพวกโกคุเทระแต่ชายหนุ่มกลับยกมือห้ามไว้เสียก่อน

       

      ถ้าโกคุเทระคุงพูดแบบนั้นก็ช่างเถอะ สึนะโยชิคุง ฉันแค่จะมาบอกว่า มะรืนนี้ฉันจะนัดเจอกับเธอที่ตึกของเจสโซ่แฟมิลี่ในช่วงบ่ายนะ เธอว่างใช่ไหมล่ะ ~~ ”

       

      แล้วทำไมวองโกเล่ต้องไปพบคุณด้วยล่ะครับ คุณเบียคุรันแรมโบ้ อดีตวัวบ้าขี้แย ที่ปัจจุบันโตมาเป็นชายหนุ่มที่มีใบหน้าหล่อเหลาแตกต่างจากสมัยเด็กโดยสิ้นเชิงกล่าวพลางหรี่ตามองเบียคุรัน

       

      แหมๆ ~ จะไม่มาพบก็ได้นะ แต่ฉันก็ไม่รับรองชีวิตของพ่อกับแม่ของเธอล่ะนะ สึนะโยชิคุง ~~ ”

       

      “ !!!?

       

      อะไรนะ พ่อกับแม่ น่ะเหรอ !!! ” ทุกร่างรวมถึงผู้ที่มีฐานะเป็นบุตรของนานะและอิเอมิสึต่างเบิกตากว้างกับคำพูดของบอสแห่งเจสโซ่ แฟมิลี่ แต่เบียคุรันเพียงยิ้มน้อยๆกับปฏิกิริยาของพวกเขา  

       

      ทำไมคุณถึงพูดแบบนั้นหรือว่าคุณท่านกับท่านนานะ !!?

       

      ฮืม ~ ไม่ต้องห่วงไปหรอก บาจิลคุง พวกเขายังไม่ได้เป็นอะไร แต่ก็เฉพาะตอนนี้น่ะนะ ~ ถ้าเกิดเธอไม่ไปฉันก็อาจจะสั่งพวกลูกน้องให้บุกไปกำจัดพวกเขาก็ได้นา สึนะโยชิคุง ~~ ”

       

      มะ ไม่นะ อย่าทำอะไรพวกเขานะ ฉันตกลง ฉันจะไปพบนาย !! ” สึนะโยชิรีบตะโกนเมื่อได้ยินประโยคที่ออกมาจากริมฝีปากเรียวได้รูปของชายตรงหน้า ดวงตาสีมะฮอกกานีเบิกกว้างอย่างหวาดๆ อีกฝ่ายที่ได้ยินคำตอบนั้นคลี่ยิ้มอย่างพอใจ ผิดกับคนอื่นๆภายในห้องที่หันกลับไปมองเจ้าของน้ำเสียงหวานนั้นด้วยความตกใจ

       

      รุ่นที่ 10 / บอส / สึนะ / วองโกเล่ / ซาวาดะ / สึนะคุง / ไอ้สวะ / ไอ้เปี๊ยก / เจ้าสัตว์กินพืช / คุณซาวาดะ / สึนะโยชิคุง / ท่านซาวาดะ / เจ้าหญิง  ทำไมถึงตกลงล่ะ  (ขอรับ / เว้ยเฮ้ย / ครับ / คะ / สุดขั้ว) !!?

       

      แหมๆ ฉันดีใจนะที่เธอตอบตกลงน่ะ สึนะโยชิคุง เวลานัดคือ 13.00 นะ อย่าลืมมาล่ะ ~~ ” บอสแห่งเจสโซ่กล่าว เขาเดินออกไปทางประตู แต่จู่ๆเขาก็ชะงักขาที่กำลังจะก้าวราวกับนึกบางสิ่งออกก่อนที่เขาจะหันกลับมาพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า

       

      ฉันลืมไปน่ะ มะรืนนี้เธอต้องมาเจอฉัน คน-เดียว นะ สึนะโยชิคุง ~~ ” ชายหนุ่มเน้นคำพลางหยิบถุงมาชเมลโล่ออกมาและหยิบสิ่งที่อยู่ในนั้นเข้าปาก เขาโบกมือลาทุกคนที่อยู่ภายในห้องนั้นหลังสิ้นประโยคและเดินออกไปพร้อมกับเหล่าลูกน้อง

       

      ปึง !!!

       

      แกจะตอบตกลงมันทำไม ไอ้สวะ !!!?บอสแห่งวาเรียตะโกนขึ้นพร้อมกับทุบโต๊ะเสียงดัง นัยน์ตาสีแดงฉานแสดงความเกรี้ยวกราดอย่างปิดไม่มิดโดยที่สายตาคู่นั้นมองไปที่บอสแห่งวองโกเล่ที่บัดนี้ยืนนิ่ง ดวงตาสีมะฮอกกานีเหลือบมองหัวหน้าของเหล่าวาเรียและคนอื่นๆภายในห้อง

       

      เพราะถ้าสิ่งที่เบียคุรันพูดเป็นเรื่องจริง.. แล้วพ่อกับแม่ผมเป็นอะไรไป ผมคงไม่อยากที่จะมีชีวิตต่อไปหรอกนะครับแซนซัส… ” ทุกคนสะดุ้งกับคำพูดและดวงตากลมโตที่ดูแข็งกร้าว แต่ไม่นานสึนะโยชิก็ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่งก่อนจะแย้มยิ้มบางๆ

       

      แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ เพราะผมน่ะ…. ” คำสุดท้ายนั้นช่างแผ่วเบาจนไม่มีใครสามารถได้ยินมัน เห็นแต่เพียงรอยยิ้มที่ดูเศร้าสร้อยบนดวงหน้าหวานนั้น ร่างบอบบางของบอสแห่งวองโกเล่เดินไปข้างๆกายร่างสูงของผู้พิทักษ์เมฆา เขาโน้มตัวลงไปกระซิบบางอย่างที่ได้ยินเพียงพวกเขาสองคน มือเล็กยัดกระดาษบางอย่างใส่ในมือหนาของฮิบาริ ซึ่งนั่นสร้างความไม่พอใจจากผู้พิทักษ์วายุที่ดำรงตำแหน่งมือขวาเป็นอย่างมาก

       

      “ !! ” นัยน์ตาสีรัตติกาลเบิกกว้างเมื่อได้ยินคำพูดที่เอื้อนเอ่ยจากริมฝีปากเรียวนั้น เขามองที่ใบหน้าหวานของผู้ที่ดำรงจตำแหน่งบอสของตนที่บัดนี้ดูจริงจังอย่างไม่น่าเชื่อ ครู่หนึ่งที่เห็นแววตาที่ทอความเจ็บปวดจากฮิบาริ เขาหลับตาลงพลางพยักหน้ารับให้กับคำพูดของสึนะโยชิ

       

      รุ่นที่ 10 บอกอะไรเจ้าฮิบาริมันเหรอครับ ถ้ามีอะไรบอกผมก็ได้ไม่ต้องไปวานเจ้านั่นหรอก !!! ” สึนะโยชิยิ้มเจื่อนๆให้กับคำพูดของมือขวา แม้ทุกคนจะอยากห้ามร่างบางในเรื่องนั้นแต่เขาก็สั่งเลิกการประชุมเสียก่อน พร้อมกับเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจคำทัดทานใดๆ เช่นเดียวกับร่างของผู้พิทักษ์เมฆาที่เดินแยกจากคนอื่นๆไปยังฐานทัพลับของตนเพื่อเตรียมการบางอย่าง

       

       

      วันที่ 24 เดือนธันวาคม

       

              ภายในตัวเมืองนามิโมริประกอบไปด้วยเสียงฝีเท้าของผู้คนมากมายเดินสวนกันไปมา เสียงของกระดิ่งจากหุ่นกวางรูดอล์ฟของหุ่นซานต้าครอสหรือแม้แต่เสียงพูดคุยกันระหว่างคู่รักหนุ่มสาว แต่ท่ามกลางฝูงชนก็มีร่างบอบบางร่างหนึ่งที่กำลังยืนพิงกำแพงที่ร้านแถวแถวนั้น ดวงตากลมโตสีอัญมณีของมะฮอกกานีมองไปรอบๆราวกับกำลังหาบางสิ่งอยู่  ดูเหมือนจะยากที่จะหาคนคนนั้นเจอท่ามกลางคนมากมายขนาดนี้เขาเหม่อมองท้องนภายามค่ำคืนที่ถูกกลืนกินด้วยสีแห่งรัตติกาลพลางนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อวาน มือบางยกขึ้นมารับเกล็ดหิมะสีขาวบริสุทธิ์ที่ล่องลอยลงมาแต่เพียงไม่นานมันก็กลายเป็นเพียงหยาดน้ำจางๆบนฝ่ามือของเขาเท่านั้นเอง

       

      พรุ่งนี้งั้นรึ… ”

       

      รีบอร์น….. ” ริมฝีปากบางเอื้อนเอ่ยชื่อคนรักของตนออกมา ดวงตากลมโตคู่นั้นฉายแววเจ็บปวดออกมาอย่างเห็นได้ชัด ความคิดภายในหัวตีกันจนรู้สึกสับสน แต่ฉับพลันที่หางตาเหลือบเห็นใครบางคนที่กำลังเดินมาทางนี้ ร่างสูงโปร่งที่อยู่ในสูทดำที่เป็นเอกลักษณ์บัดนี้สูทนั้นถูกเสื้อคลุมหนังสีน้ำตาลอ่อนคลุมทับไว้จนดูตัดกันอย่างชัดเจน      ยามเมื่อร่างของชายผู้นั้นฉายชัดดวงตาสีมะฮอกกานีฉายประกายความดีใจเปี่ยมล้นอย่างชัดเจนขาเรียวเล็กก้าวเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าของเขา ชายคนนั้นเมื่อเห็นว่ามีสิ่งที่ยืนขวางทางของตนจึงเงยหน้าขึ้นมาเตรียมจะต่อว่าสิ่งนั้นแต่ก็ต้องชะงัก เมื่อพบร่างบอบบางเจ้าของใบหน้าน่ารักที่เป็นเจ้าของหัวใจของเขาและเป็นบุคคลที่เขาคิดถึงมาตลอดในช่วง 2-3 เดือนที่เขาต้องไปทำภารกิจ ริมฝีปากเรียวค่อยๆเอ่ยชื่อของคนตรงหน้า

       

      สึนะ… ” หยาดน้ำตาเอ่อคลอดวงตาสดใสคู่นั้นสึนะโยชิเข้าสวมกอดร่างหนาของอีกฝ่ายมือเล็กทั้งสองกำเสื้อคลุมหนังนั้นไว้แน่นรีบอร์นเห็นดังนั้นจึงโอบกอดร่างบอบบางที่ตัวสั่นระริกเพราะแรงสะอื้น ร่างสองร่างสวมกอดกันท่ามกลางหิมะที่โปรยปรายเพราะความหนาวเหน็บจากไอเย็นหรือเพราะความห่างเหินจึงทำให้พวกเขากระชับอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นนี้ให้แนบแน่นด้วยความโหยหา

       

      ฉัน ฮึก ฉันคิดถึงนายมากเลยนะ คนบ้า ฮึก… ” มือเล็กทุบแผ่นอกแกร่งของอีกฝ่ายเบาๆราวกับระบายความอัดอั้นใจนัยน์ตาสีถ่านมองการกระทำนั้นด้วยแววตาที่อ่อนลง มือหนาเชยคางมนของลูกศิษย์น้อยขึ้นมาสบตากับตนก่อนจะโน้มตัวลงไปประทับริมฝีปากเรียวได้รูปเข้ากับริมฝีปากสีซากุระอ่อนของสึนะโยชิ

       

      อืม… ” สึนะโยชิครางเสียงอื้ออึงในลำคอ เมื่ออาจารย์หนุ่มเห็นว่าคนตัวเล็กไม่ยอมรับจุมพิตนั้นพยายามดันลิ้นร้อนของตนกลับจึงจำยอมผละออกมาจากกลีบปากเย้ายวนนั้นอย่างอ้อยอิ่ง อดนึกตัดพ้อศิษย์น้อยในใจไม่ได้ทั้งๆที่ตนนั้นคิดถึงลูกศิษย์ตัวน้อยจนรีบวิ่งกลับมาเมื่อเสร็จงาน อยากจะจูบให้หายความเหน็ดเหนื่อยแต่ศิษย์น้อยกลับไม่จำยอม คิดแล้วชอกช้ำใจ

       

      โหยหา.. คิดถึงร่างเล็กตรงหน้านี้จนแทบจะเป็นบ้า

       

      ขะ ขอโทษนะ.. ตะ ตรงนี้มันไม่ค่อยเหมาะน่ะ… ” สึนะโยชิว่าเสียงอ้อนแอ้น เขาเบือนหน้าหลบสายตานึกตัดพ้อของอาจารย์หนุ่มเพื่อปิดบังใบหน้าที่ขึ้นสีระเรื่อของตนเอาไว้ อาจารย์หนุ่มได้ยินดังนั้นจึงคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์แบบที่ตนชอบยิ้มเป็นประจำ งั้นแสดงว่าถ้าไม่ใช่ที่โจ่งแจ้งก็ทำได้สินะ ?

       

      มะ ไม่ต้องยิ้มแบบนั้นเลย ฉันรู้นะว่านายคิดอะไรอยู่ ไม่ต้องคิดจะพาฉันไปในซอกตึกแล้วทำเรื่องอย่างนั้นเลยนะ !!! ” คงเพราะอยู่ด้วยกันมานานเลยทำให้สึนะโยชิรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายคิดจะทำอะไรกับตนบ้างและดูเหมือนว่าเขาจะลนลานเกินไปจนไม่ทันสังเกตว่ารีบอร์นแอบสบถเบาๆที่พลาดโอกาสที่จะได้ทำเรื่องอย่างนั้นกับลูกศิษย์น้อยไป

       

      ไม่ทำก็ได้.. อ๊ะ นี่ใกล้จะถึงเวลาที่รถไฟจะออกแล้วนี่ เรารีบไปเดทกันก่อนดีกว่า เจ้าห่วย !! ” ไม่ว่าเปล่า มือหนาจูงมือของอีกฝ่ายเดินเข้าไปในตัวเมืองที่กำลังเทศกาลคริสต์มาสกันอย่างสนุกสนาน สึนะโยชิก้มลงไปมองมือของอาจารย์ที่กำลังจับมือเขาไว้อยู่ฉับพลันที่ดวงตาสีมะฮอกกานีนั้นหม่นหมองลง ความอบอุ่นที่ส่งมาผ่านมือของอาจารย์ แต่หากผ่านพรุ่งนี้ไปแล้ว  ถ้า แผนการที่วางเอาไว้ไม่สำเร็จ เขาคง

       

      เจ้าห่วยเป็นอะไรไปน่ะ ?

       

      อ๊ะ ! ปะ เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร นี่ รีบอร์น ทางนู้นท่าทางน่าสนใจดีนะ ลองไปดูกันเถอะ ! ” สึนะโยชิที่หลุดจากภวังค์รีบชี้นิ้วไปในทางสุ่มๆแล้วรีบลากอาจารย์ของตนไปทางที่ชี้พร้อมกับตัวเองทันทีโดยไม่ทันให้รีบอร์นได้กล่าวหรือพูดอะไรสักอย่างเขาก็โดนศิษย์ตัวน้อยลากเข้าไปในร้านบางอย่างเสียแล้ว

       

       

       

      เป็นไงบ้าง สนุกไหม เจ้าห่วย ?ครูหนุ่มถามลูกศิษย์ที่มีสถานะเป็นคนรักของตนพร้อมกับยื่นแก้วที่ใส่โอวัลตินอุ่นๆให้เขา ดวงหน้าหวานแย้มยิ้มน่ารักให้กับเขาก่อนจะรับโอวัลตินแก้วนั้นไปดื่ม  รีบอร์นหย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ม้าหินที่ตั้งอยู่ใต้ต้นคริสต์มาสที่อยู่ในใจกลางเมืองข้างๆศิษย์น้อย  เขายกแก้วเอสเพรสโซ่ของตนขึ้นดื่มพลางเหลือบมองคนตัวเล็กที่นั่งนิ่งอยู่ข้างๆเขา  บรรยากาศรอบตัวทั้งสองนั้นช่างครึกครื้นแต่ทำไมรีบอร์นกลับรู้สึกว่ามันช่างน่าอึดอัดเหลือเกินที่จู่ๆสึนะโยชิก็เงียบไปแบบนี้ เพราะหากเป็นปกติสึนะจะคอยชวนเขาคุยตลอดแทบไม่มีหยุด วันนี้สึนะเป็นอะไรไป ?

       

            สึนะโยชิที่ละจากเครื่องดื่มเงยหน้าขึ้นไปมองฝูงคนที่พากันเดินสวนไปมา ซึ่งส่วนใหญ่นั้นจะเป็นคู่รักของชายหญิงเสียมากกว่าที่จะเป็นครอบครัว ฉับพลันที่เขาได้ยินเสียงคำสารภาพรักของชายหนุ่มคนหนึ่งที่ยืนไม่ไกลจากพวกเขา สึนะโยชิหันไปมองชายคนนั้นกับหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่มีทีท่าเขินอายกับคำสารภาพของเขาแต่เพียงไม่นานเธอก็ตอบตกลง เจ้าตัวชายหนุ่มที่เห็นดังนั้นก็ดีใจเป็นปลากระดี่ได้น้ำทันทีเขาวิ่งเข้าไปกอดหญิงสาวคนนั้นอย่างรวดเร็วและเธอก็กอดเขากลับเช่นกัน

       

             คนตัวเล็กที่เห็นภาพนั้นก็คลี่ยิ้มบางๆ เพราะมันช่างดูเหมือนกับที่รีบอร์นสารภาพรักกับเขาครั้งแรก เพียงแต่ชายหนุ่มแค่เดินเข้ามากอดเขาไม่เหมือนกับชายคนนั้นที่รีบวิ่งเข้าไปกอดฝ่ายหญิง สึนะโยชิแอบเหลือบมองคนข้างกายที่กำลังดื่มเอสเพรสโซ่ของตนโดยไม่สนใจบรรยากาศรอบข้าง ร่างบางกำแก้วโอวัลตินภายในมือแน่นพลางคิดไปถึงคำสั่งที่เขาบอกกับทุกคนเมื่อเช้า

       

      ทุกคน นี่จะถือว่าเป็นคำสั่งของฉัน.. เรื่องที่ฉันจะไปพบกับเจสโซ่นี้ ห้ามบอกรีบอร์นเด็ดขาด… ’

       

      นี่ รีบอร์น… ” จู่ๆเสียงหวานก็เอ่ยขึ้นมาทำลายบรรยากาศเงียบสงัดระหว่างพวกเขา อาจารย์หนุ่มหันหน้ามาพลางเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงว่า มีอะไร  สึนะโยชิเลิ่กลั่กสักครู่มือที่กำแก้วไว้บีบแน่นขึ้น ขณะที่รีบอร์นก็ละจากเอสเพรสโซ่ของเขาหันไปสนใจในสิ่งที่คนรักของตนจะพูดแทน

       

      ฉัน..ขอบคุณนายมากเลยนะ… ”

       

      หืม ?

       

      ถ้าหากในตอนนั้น..นายไม่ได้มาปรากฏตัวต่อหน้าฉัน ฉันก็คงจะเป็นจอมห่วยสึนะเหมือนเดิม… ”

       

      แต่เพราะนายทำให้ฉันได้พบกับเพื่อนพ้องที่แสนดีมากมายและทำให้ฉันรู้จักคุณค่าของชีวิตสิ่งที่นายทำให้กับฉัน ไม่ว่าฉันจะขอบคุณสักกี่ครั้งมันก็คงใช้ไม่หมด… ”

       

      เป็นอะไรไปน่ะ เจ้าห่วย ทำไมจู่ๆนึกครึ้มอะไรถึงพูดแบบนี้ ?ครูหนุ่มวางแก้วเอสเพรสโซ่ลงพลางมองลูกศิษย์ของตนด้วยแววตาสงสัย สึนะโยชิไม่ได้ตอบอะไรเพียงแย้มยิ้มบางๆเขาเอนศีรษะไปพิงไหล่แกร่งของอาจารย์ ดวงตากลมโตมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่ประดับด้วยดวงดารานับไม่ถ้วน

       

      รีบอร์น..ถ้าเกิดวันหนึ่งฉันหายไปนายจะทำยังไง… ”

       

      นี่ เจ้าห่วย พูดอะไรน่ะ ฉันชักจะกังวลแล้วนะ !!?อาจารย์หนุ่มจับไหล่สองข้างของคนตัวเล็ก เขาจ้องลึกลงไปในดวงตาสีมะฮอกกานีนั้นเห็นเพียงประกายความเศร้าเพียงชั่วครู่ก่อนที่มันจะกลับมาเป็นปกติ สึนะโยชิหัวเราะคิกคักเมื่อเห็นท่าทางร้อนรนของอาจารย์

       

      ฮึฮึ ฉันแค่ล้อเล่นน่า อย่าซีเรียสสิศิษย์น้อยจิ้มแก้มของอาจารย์เบาๆ รีบอร์นมองใบหน้าที่แย้มยิ้มสดใสพลางถอนหายใจ สงสัยเขาคงจะคิดมากไปเองจู่ๆเสียงโทรศัพท์ของอาจารย์ก็ดังขึ้นขัดทั้งสอง รีบอร์นเอื้อมมือลงไปหยิบโทรศัพท์ของตนแล้วคุยกับปลายสายโดยมีสึนะโยชินั่งฟังบทสนทนานั้น

       

      จะไป..แล้วเหรอ?อดถามไม่ได้เมื่ออาจารย์วางโทรศัพท์ลง รีบอร์นหันไปมองคนข้างกายที่ใบหน้าหมองมัวลง เขาโอบกอดคนตัวเล็กเข้ากับแผ่นอกแกร่งพลางลูบศีรษะของเขาอย่างอ่อนโยน เหตุการณ์ที่ชายหนุ่มสารภาพรักหญิงสาวยังตราตรึงอยู่ในหัวของสึนะโยชิ เหตุการณ์นั้นทำให้เขานึกถึงบางอย่าง

       

      รีบอร์น… ”

       

      มีอะไรรึ สึนะ ?

       

      บางทีนี่จะเป็นครั้งสุดท้าย

       

       “ ช่วย..บอกรักฉันอีกครั้งได้ไหม..?

       

      ที่ฉันอาจจะได้ฟังคำว่า รักจากปากของนาย

       

              ไม่มีคำตอบใดๆจากริมฝีปากเรียวได้รูปจากเจ้าของอ้อมกอด รีบอร์นผลักลูกศิษย์ตัวเล็กนอนราบกับม้าหินแล้วขึ้นคร่อมร่างของเขาไว้ ใบหน้าคมคายก้มลงมาทาบทับริมฝีปากเข้ากับริมฝีปากอวบอิ่มของร่างข้างใต้ ขณะที่คนที่ผ่านมาเห็นเหตุการณ์นี้ก็ต่างหน้าแดงแล้วรีบเดินออกจากตรงนั้นเพื่อที่จะไม่ไปขัดจังหวะพวกเขาสองคน

       

      อื้อ อื้ม… ” ลิ้นร้อนเกี่ยวพันกับลิ้นเล็กพลางกวาดหาความหวานจากโพรงปากบางอย่างโหยหา มือเล็กกำเสื้อสูทสีดำของอาจารย์แน่นเมื่อจุมพิตเริ่มร้อนแรง หากเป็นยามปกติคนตัวเล็กคงจะต้องผลักเขาออกมาเมื่อหายใจไม่ออก

       

              แต่ครั้งนี้กลับไม่ใช่ สึนะโยชิกลับรั้งท้ายคอเขาเข้าใกล้พร้อมกับพยายามจูบตอบอย่างไร้เดียงสา ราวกับว่าเขาต้องการตอบรับจุมพิตนี้มากเหลือเกิน ร่างสูงผละออกมาจากกลีบปากเย้ายวนนั้นไม่นานก็ก้มลงไปประทับริมฝีปากอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า

       

      “ …… ” เสียงทุ้มกระซิบบางสิ่งข้างใบหูเล็กก่อนที่เขาจะจุมพิตหน้าผากมนแล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้ม้าหินตัวนั้น เขาเห็นสึนะโยชิลุกขึ้นนั่งแล้วจ้องมองมาที่เขา ดวงตาสีมะฮอกกานีราวกับจะสื่อถึงบางสิ่ง บางสิ่งที่เขามิอาจรับรู้

       

      ถ้างานเสร็จฉันจะรีบกลับมาภายในพรุ่งนี้นะ สึนะ

       

      อื้อ ไปดีมาดีนะ รีบอร์นร่างสูงโบกมือพร้อมยิ้มบางๆก่อนจะเดินออกจากจุดนั้น สึนะโยชิมองตามแผ่นหลังของอาจารย์จนร่างสูงโปร่งนั้นลับสายตาไปกับฝูงชน ร่างบอบบางก็เดินไปอีกทิศทางหนึ่งพลางหยิบโทรศัพท์ของตนขึ้นมากดหมายเลขปลายทาง เสียงรอรับดังขึ้นสักพักหนึ่งก่อนที่ปลายสายจะรับไม่รอช้าวองโกเล่รุ่นที่ 10 รีบกรอกเสียงลงไปทันที

       

      โชอิจิเหรอ นี่ฉันสึนะโยชินะ แผนการนั้นเตรียมเสร็จแล้วใช่ไหม ? อืมฉันกำลังจะไปพบนายอีก 20 นาทีคงจะถึง นายรอที่นั่นแหละเขากดวางสายแล้วเก็บโทรศัพท์เข้าที่เดิม สึนะโยชิรีบเดินไปยังจุดหมายที่เขานัดกับชายหนุ่มเอาไว้ ระหว่างทางที่ขาเรียวก้าวเดินคำพูดของอาจารย์สอนพิเศษที่กระซิบเขาเมื่อตอนนั้นก็ดังขึ้นมาในหัวพร้อมกับเสียงระฆังที่ดังขึ้น

       

      ไว้ในวันคริสต์มาสอีฟ..ฉันค่อยบอกนายนะ… ’

       

      เกรงว่า.. ฉันอาจจะไม่ได้อยู่ฟังจนถึงตอนนั้นน่ะสิ รีบอร์น

       

       

       

      วันที่ 25 เดือนธันวาคม

       

      รุ่นที่ 10 จะไปจริงๆเหรอครับ… ” ร่างบอบบางของวองโกเล่รุ่นที่ 10 หันกลับมาตามน้ำเสียงที่ดูเศร้าหมองจากผู้พิทักษ์แห่งวายุ พบเพื่อนพ้องทุกคนยืนอยู่กับโกคุเทระพร้อมกับพยายามห้ามไม่ให้เขาไปเจรจากับทางเจสโซ่

       

      ไม่ได้นะคะ คุณซาวาะดะ ถ้าคุณไป..!! ” สึนะโยชิเข้ากอดร่างของเด็กสาวไว้ก่อนที่เธอจะพูดจบ ดวงตาสีน้ำเงินสดใสกลับมัวหมองพร้อมกับหยาดน้ำตาที่เอ่อคลอ เธอเห็นอนาคตทุกอย่าง.. เธอเห็นว่าถ้าชายผู้นี้ไปแล้วจะต้องประสบกับอะไรเธอเห็นเพียงแค่นั้น แต่แค่นั้นมันก็เกินพอแล้ว

       

      ไม่เป็นไรหรอก ยูนิจัง.. ฉันไม่เป็นอะไรหรอกนะ อย่าร้องไห้เลย… ”

       

      ไม่นะคุณซาวาดะ อย่าไปนะคะ

       

      ยังไงฉันก็ต้องกลับมา เชื่อฉันสิ ยูนิจัง ^^ ! ”

       

      ไม่..ไม่ คุณจะไม่กลับมาคุณจะจากพวกฉันไป..ตลอดกาล

       

      แล้วเรื่องแหวนวองโกเล่ล่ะ.. ทุบทิ้งไปหรือยัง โกคุเทระคุง ?

       

      อะ !! ครับ พวกเราทุบมันทิ้งไปแล้วครับ..รวมถึงแหวนของท่านด้วย… ” ใบหน้าของชายหนุ่มสลดลงอย่างเห็นได้ชัด นายเหนือหัวที่เห็นดังนั้นจึงผละออกจากเด็กสาวและหันไปแย้มยิ้มให้กับมือขวาของเขา คำสั่งที่สึนะโยชิมอบให้กับพวกเขาเมื่อวานก็คือ การทำลายแหวนวองโกเล่ทิ้งเสีย.. เจ้าตัวให้เหตุผลเพียงแค่ ก็เพราะว่าแหวนวงนี้น่ะ เป็นสิ่งที่เบียคุรันต้องการ.. ถ้าหากพวกนายเก็บเอาไว้มันจะเป็นผลเสียต่อพวกนาย เพราะฉะนั้น..ทำลายมันไปเถอะนะเสียงหวานใสยังดังก้องอยู่ในหัวของเหล่าผู้พิทักษ์ แม้ตอนแรกทุกคนจะคัดค้านแต่สึนะโยชิก็ยังไม่เปลี่ยนใจ.. พวกเขาจึงทำลายวองโกเล่ริงค์ทิ้งไปเสีย

       

      อย่าเศร้าไปเลยโกคุเทระคุง ถึงเราไม่มีแหวนพวกนั้นแต่พวกเราก็ยังเป็นเหมือนเดิม ยังเป็นแฟมิลี่เหมือนเดิมนะ ^^ ” ผู้พิทักษ์วายุถึงกับน้ำตาไหลพรากกับคำพูดจากบอสของตน โกคุเทระเข้ากอดร่างบอบบางที่มีฐานะเป็นถึงนายเหนือหัวของตนซึ่งสึนะโยชิก็กอดเขากลับเช่นกัน เขาหันไปมองคนอื่นๆก็พบ่วาพวกเขาไม่ได้มีท่าทีแตกต่างกับเด็กสาวเลยทุกคนล้วนดูเศร้าหมอง ไม่เว้นแม้แต่ซาซางาวะ เรียวเฮ โรคุโด มุคุโร่หรือพวกวาเรีย มีเพียงฮิบาริ เคียวยะเท่านั้นที่ยืนห่างจากพวกเขา สึนะโยชิหันไปแย้มยิ้มบางๆให้กับชายหนุ่มแต่เขากลับเบือนหน้าหนี เพื่อหลบซ่อนนัยน์ตาสีรัตติกาลที่แฝงไปด้วยความเจ็บปวดไว้

       

      จริงสิครับ พวกคุณ..คอยระวังจุกนมของพวกคุณด้วยนะครับเพราะว่าเบียคุรันจ้องที่จะชิงสิ่งนั้นจากพวกคุณอยู่ เขาอาจจะมาลอบทำร้ายพวกคุณได้เหล่าอัลโกบาเลโน่พยักหน้ารับกับประโยคนั้นก่อนที่พวกเขาจะก้มลงไปมองจุกนมภายในมือของพวกตน

       

      ไม่เป็นไรหรอก เว้ยเฮ้ย พวกฉันจะคอยรักษามันไว้อย่างดีเลยล่ะ เว้ยเฮ้ย !! ”

       

      แล้วสึนะคุงก็ไม่ต้องเป็นห่วงยูนิจังหรอกนะครับ พวกผมจะคอยปกป้องเธอเอง ^^ ” ชายหนุ่มที่มีใบหน้าละม้ายผู้พิทักษ์เมฆากล่าวพร้อมรอยยิ้มก่อนจะหันไปทางเด็กสาวที่มีฐานะเป็นบอสของพวกตน แต่ดูเหมือนว่าเด็กสาวจะไม่สนใจสิ่งใดเลยแม้แต่จุกนมที่ห้อยตรงคอของเธอ

       

      ไอ้สวะ แกแน่ใจนะว่าจะไม่บอกไอ้เจ้าสวะอัลโกบาเลโน่นั่น ?คำถามจากบอสแห่งวาเรียเรียกให้ทุกสายตามองไปที่ร่างบอบบางเป็นตาเดียว สึนะโยชิก้มหน้าลงเล็กน้อยก่อนที่ดวงหน้าหวานจะเผยรอยยิ้มที่แลดูเศร้าสร้อย

       

      ไม่ต้องบอกรีบอร์นหรอกครับ ถ้าเขารู้จะทำให้เขาเสียงานเปล่าๆ.. อา..ผมฝากพวกคุณบอกรีบอร์นได้ไหมครับว่าให้ระวังตัวไว้ อ๊ะ นี่ก็เที่ยงสี่สิบแล้วงั้นผมขอตัวก่อนนะครับบอสแห่งวองโกเล่หันไปพูดกับเหล่าอัลโกบาเลโน่พลางก้มหน้ามองนาฬิกาข้อมือของตน เขารีบบอกลาเพื่อนพ้องแล้วเดินออกจากประตูไปผ้าคลุมสีขาวบริสุทธิ์โบกพลิ้วไปแรงลมอ่อนเขาเดินไปขึ้นรถลีมูซีนสีดำทมึนก่อนที่รถคันนั้นจะเริ่มเคลื่อนที่จนลับสายตาพวกเขา ทุกคนที่เห็นดังนั้นอดรู้สึกใจหายเสียไม่ได้ ถ้าหากสึนะไม่ได้ไปคนเดียวแล้วมีผู้พิทักษ์ไปด้วยพวกเขาคงจะโล่งอกมากกว่านี้เป็นแน่

       

           ฮิบาริที่เห็นว่ารถคันนั้นลับสายตาเขาก็เดินออกไปยังฐานทัพลับของตน มือหนาที่ล้วงกระเป๋าเสื้อสัมผัสถึงบางสิ่งเขาจึงหยิบมันขึ้นมาดู นี่มัน..กระดาษที่เจ้าสัตว์กินพืชตัวเล็กให้มาเขากัดฟันแน่นเมื่อคิดไปถึงสิ่งที่ร่างเล็กบอกเมื่อครั้งประชุม เขาแหงนหน้าขึ้นมองท้องนภาสีครามเบื้องบนที่มีเมฆลอยอยู่เคียงข้างนัยน์ตาสีรัตติกาลทอความเจ็บปวดทันทีที่เห็นดังนั้น

       

      เมฆามิอาจขาดนภาไปได้.. หากนภาหายไปแล้วตัวเมฆาจะล่องลอยไปที่ใดเล่า

       

       

             เด็กสาวที่เห็นว่าผู้ที่เป็นเหมือนกับพี่ชายคนสำคัญของตนได้หายไปจากสายตาเสียแล้ว เธอกำจุกนมของตนเองไว้แน่น ดวงหน้าสวยเต็มไปด้วยความกังวลพร้อมกับเหงื่อที่ไหลลงมาตามใบหน้า ความสามารถในการมองเห็นอนาคตของเธอมันร้องเตือนบางอย่าง

       

      คุณซาวาดะ คุณจะไปพบเบียคุรันไม่ได้นะคะ !!!

       

      ทุกคนคะ รีบติดต่อคุณรีบอร์นให้กลับมาเดี๋ยวนี้เลยค่ะ !! มีเพียงคุณลุงเท่านั้นที่จะหยุดคุณซาวาดะได้ !!!! ”

       

      “ !!!! ”

       

       

      ตึกเจสโซ่ แฟมิลี่

       

      ฮืม ~~ มาแล้วเหรอ สึนะโยชิคุง ~~ ” ชายหนุ่มที่มีเรือนผมสีขาวพิสุทธิ์หันไปมองร่างบอบบางที่แต่งในชุดเต็มยศของบอสแห่งวองโกเล่มา เขามองดวงตาสีมะฮอกกานีที่ดูแข็งกร้าวพร้อมกับมองมาที่ตน สึนะโยชิมองคนตรงหน้าที่นั่งเก้าอี้ใกล้ๆกับโต๊ะทำงานของเขาพลางก้าวเข้าไปใกล้

       

             เบียคุรันเหลือบมองสิ่งที่อยู่ภายในลิ้นชักตรงโต๊ะของเขาก่อนจะผายมือให้สึนะโยชิมานั่งตรงเก้าอี้ที่อยู่ด้านตรงข้ามกับตน ร่างบางเดินมานั่งลงบนเก้าอี้ตัวนั้นก่อนจะชะงักเมื่อเห็นอีกฝ่ายยื่นถึงมาชเมลโล่มาเบื้องหน้าเขาโดยมีเพียงโต๊ะทำงานที่คั่นระหว่างพวกเขาไว้

       

      ทานมาชเมลโล่ไหม สึนะโยชิคุง ~~ ” นภาแห่งเจสโซ่แย้มยิ้มที่แลดูใสซื่อให้กับร่างบาง สึนะโยชิเพียงยิ้มรับแล้วส่ายหน้าน้อยๆ เบียคุรันที่เห็นท่าทางของอีกฝ่ายจึงวางถุงมาชเมลโล่ลงและใช้มือทั้งสองเท้าคางไว้บนโต๊ะพลางหรี่ตามองร่างตรงหน้า

       

      เธอคงรู้เหตุผลที่ฉันเรียกเธอมาเจรจาสินะ สึนะโยชิคุง ?

       

      “ …ครับ.. ผมรู้ว่าคุณต้องการที่จะครอบครองพลังแห่งทรูนิเซน… ” หางคิ้วของชายหนุ่มเลิกขึ้นเล็กน้อยเมื่อสึนะโยชิพูดจบ ดวงตาสีอเมทิสต์ของเบียคุรันก็จ้องไปที่คนตรงหน้าเขม็งพลางค่อยๆเปิดลิ้นชักนั้นอย่างแผ่วเบาเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว

       

      งั้น..คำตอบล่ะ ?

       

      แน่นอนครับ… ” ชายหนุ่มคลี่ยิ้มพอใจเมื่อได้ยินคำตอบ แต่ก็ต้องชะงักเมื่ออีกฝ่ายกลับพูดประโยคต่อไป

       

      ไม่มีทาง… ” หางคิ้วของชายหนุ่มกระตุกขึ้น อัญมณีสีมะฮอกกานีทั้งคู่จ้องไปทีอีกฝ่ายเขม็ง ไร้ซึ่งความอ่อนโยนบนใบหน้าน่ารัก เช่นเดียวกับอีกฝ่ายแต่เบียคุรันยังพยายามปั้นสีหน้ายิ้มเอาไว้แล้วเอ่ยด้วยเสียงสดใส

       

      ฮะฮะ สึนะโยชิคุง ถึงเธอจะปฏิเสธไป.. แหวนของพวกเธอก็ต้องเป็นของฉันอยู่ดี… ”

       

      เสียใจด้วยนะครับ เบียคุรัน เพราะความหวังของคุณคงไม่เป็นจริงแล้วล่ะยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะพูดจบ ร่างบอบบางก็แทรกขึ้นมาเสียก่อน ถึงแม้ในใจเบียคุรันจะคุกรุ่นเพียงใดแต่ก็ยังคงรอยยิ้มเสแสร้งไว้บนใบหน้าคมคาย

       

      เพราะว่า..ทางพวกผม ได้ทำลายวองโกเล่ริงค์ทิ้งไปแล้ว… ” ดวงตาสีอเมทิสต์เบิกกว้างเมื่อเห็นมือเล็กที่ว่างเปล่าปราศจากเครื่องประดับหรือแหวนวงใด เห็นดังนั้นรอยยิ้มที่ประดับบนใบหน้าจึงสิ้นเพราะดูจากท่าทางของคนตรงหน้าแล้วไม่ได้มีสิ่งใดที่บ่งบอกว่าเขากำลังโกหกเลยแม้แต่น้อย.. มือหนาจึงเอื้อมลงไปหยิบสิ่งที่อยู่ในลิ้นชักออกมา

       

       

                โทรศัพท์ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะไม้ภายในห้องทำงานชั่วคราวของอาจารย์สอนพิเศษดังขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่มีทีท่าว่าจะหยุด แต่ด้วยความที่แถวนั้นไม่ค่อยมีใครผ่านเนื่องจากเจ้าของห้องไม่ค่อยอยากให้ใครรบกวนจึงไม่มีใครเข้าไปรับสายมันเลยแม้แต่คนเดียว

       

                 หากถามถึงเจ้าของโทรศัพท์เครื่องนี้เขาได้ออกไปข้างนอกเพื่อทำงานตั้งแต่เช้าและดูเหมือนว่ารีบอร์นจะลืมมันทิ้งไว้ที่นี่  เสียงเรียกเข้าของมันหยุดเงียบไปพร้อมกับหน้าจอที่เรืองแสงและข้อความที่ขึ้นอยู่ตรงกลางหน้าจอก่อนที่มันจะดับไป

       

      Miss call . Colonello 23…

       

         

              

                  อีกด้านหนึ่ง.. หลังจากที่บอสแห่งวองโกเล่ได้ออกไป เด็กสาวได้ให้คำสั่งแก่ทุกคนเพื่อติดต่อหาอาจารย์ของสึนะโยชิ โคโรเนโร่ที่สนิทกับรีบอร์นมากที่สุดจึงโทรเข้ามือถือของเพื่อนสนิทแต่ผ่านไปถึง 40 นาทีปลายสายก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะรับ นี่เป็นสายที่ 23… หยาดเหงื่อเริ่มไหลลงมาตามใบหน้าคมเมื่อเสียงรอสายดังขึ้นขณะที่คนอื่นๆต่างมองชายหนุ่มเป็นตาเดียว จนกระทั่งโคโรเนโร่โยนโทรศัพท์ตนเองลงบนโซฟาอย่างอารมณ์เสีย

       

      ไอ้เจ้ารีบอร์น มันทำอะไรอยู่ ทำไมไม่ยอมรับสายสักทีเนี่ย เว้ยเฮ้ย !!! ” เขาตะโกนออกมาพร้อมทึ้งหัวตนเอง ทุกคนที่ได้ยินดังนั้นก็ต่างมีสีหน้าเคร่งเครียดทันทีโดยเฉาะผู้พิทักษ์วายุแห่งวองโกเล่ เขาก้มลงมองนาฬิกาข้อมือของตนก่อนที่ดวงตาสีมรกตสวยจะเบิกกว้าง

       

      บ้าเอ้ย นี่มัน 13.20 แล้วนะ รุ่นที่ 10 ไปตั้ง 40 นาทีแล้วจะเป็นยังไงบ้างล่ะ ไม่รู้แล้ว ฉันจะไปหาท่านที่เจสโซ่ !!!! ” โกคุเทระตะโกนพร้อมทำท่าจะออกไปข้างนอกเขาเปิดประตูออกไปแต่กลับมีชายสวมชุดสูทกลุ่มใหญ่วิ่งมาขวางหน้าเขาไว้เสียก่อน

       

      พวกแกเป็นใคร !!!! ”

       

      พวกเราเป็นคนของเจสโซ่ แฟมิลี่ บอสของพวกเราเกรงว่าพวกคุณจะไปขัดขวางการเจรจาจึงสั่งให้พวกเรามาเฝ้าพวกคุณเอาไว้ครับ

       

      ไม่มีทาง พวกฉันจะไปหารุ่นที่ 10 !!! ” โกคุเทระจุดไฟธาตุวายุขึ้นมาเตรียมจะเปิดกล่องธาตุวายุของตนขึ้นมาเช่นเดียวกับคนอื่นๆ แต่ทว่ามีบางสิ่งที่เคลื่อนมาปิดรูของกล่องที่ไว้สำหรับใส่ไฟดับเครื่องชนของพวกเขาเสียก่อน…  รากไม้ !!?

       

       

      ฮะฮ้า พวกคุณไม่ยอมอยู่นิ่งๆจริงด้วยสิครับ ดีนะเนี่ยที่ท่านอิริเอะสั่งให้พวกเรามาด้วยเสียงหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของชายที่มีเรือนผมยาวสีเขียวอ่อน เขาใช้มือลูบคางพลางมองไปที่พวกโกคุเทระก่อนจะเลื่อนสายตาลงไปกล่องของทุกคนที่มีรากของต้นไม้บางชนิดเลื้อยพันอยู่

       

      แกเป็นใครฟะ !!?พิรุณแห่งวาเรียวาเรียตะโกนถามพร้อมอาวุธดาบที่ชี้ไปทางคนคนนั้นพร้อมกับคนอื่นๆที่เริ่มเอาอาวุธที่ไม่ได้ถูกผนึกไว้เหมือนอาวุธกล่องขึ้นมา

       

      ฮะฮ้า ผมไม่ต้องบอกพวกคุณหรอกครับ รู้ไว้แค่ว่าพวกคุณอย่าไปขัดขวางการเจรจาระหว่างท่านเบียคุรันกับวองโกเล่ก็พอแหละครับ ฮะฮ้าฉับพลันต้นไม้เลื้อยขนาดใหญ่ก็งอกขึ้นมาจากพื้นดินและปกคลุมคฤหาสน์วองโกเล่หลังนั้นเอาไว้ ทำให้มันไร้ซึ่งทางออกราวกับคุกจองจำก็มิปาน

       

      นี่มันอะไรกันน่ะ !!! ” บอสของคาบัคโรเน่ตะโกนออกมาแต่เนื่องจากที่เหล่าลูกน้องไม่อยู่จึงทำให้เขาสะดุดขากางเกงตัวเองและล้มหน้าคำมำไปกับพื้น ขณะที่คนอื่นๆที่อยู่บริเวณนั้นก็มองสายตาเอือมระอาไม่เว้นแม้แต่ยูนิหรือโคลม

       

      หลบไป !!!! ” เสียงคำรามจากบอสแห่งวาเรียเรียกให้ทุกสายตาหันไปมองแต่เมื่อเห็นแสงสีส้มจากปากกระบอกปืนนั้นทำให้ทุกคนที่ยืนข้างหน้าเขาต้องรีบหลบไปด้านข้างทันที เพลิงพิโรธได้ถูกชาร์จไว้ที่ปืนในมือทั้งสองข้างของเขาก่อนที่มันจะถูกยิงออกไป

       

               แสงสีส้มพุ่งปะทะกับต้นไม้ยักษ์เหล่านั้นทำให้ควันจำนวนมากลอยฟุ้งไปทั่ว ทำให้ทุกคนต้องรีบปิดตากับฝุ่นละอองที่ลอยตามมาหากแต่เมื่อควันจางลงแล้วทุกร่างกลับเบิกตากว้างเมื่อต้นไม้เหล่านั้นกลับไม่เป็นอะไรเลย บ้าน่า เพลิงพิโรธของแซนซัสทำอะไรมันไม่ได้งั้นรึ !!!

       

      ฮะฮ้า น่าจะรู้แล้วนะครับว่ามันเปล่าประโยชน์ โอ๊ะโอ๋ แต่ว่าคงต้องระวังพวกคุณที่เป็นอัลโกบาเลโน่ด้วยสินะครับ ฮะฮ้าชายคนนั้นดีดนิ้วแล้วปรากฏเครื่องที่มีลักษณะเป็นลูกกลมๆสีเขียวหลายลูก แต่ละลูกลอยไปล้อมรอบคฤหาสน์ที่ถูกปกปิดไว้ด้วยต้นไม้ไว้ก่อนที่ใต้เครื่องจะปรากฏผงอณูเล็กๆออกมา ทันทีที่ผงเหล่านั้นสัมผัสเข้ากับร่างของอัลโกบาเลโน่พวกเขาต่างชะงักนิ่ง มือที่ถือปืนของโคโรเนโร่กับรัล มิลจิกลับแบออกจนทำให้มันร่วงลงสู่พื้น คนอื่นๆหันไปทางพวกเขาและยูนิด้วยแววตาตื่นตกใจ

       

      พวกนายเป็นอะไรไปน่ะ !!! ” ยามาโมโตะตะโกนถามกับพวกเขา แต่ทุกคนที่มีสถานะเป็นอัลโกบาเลโน่กลับหยุดนิ่งรวมถึงเด็กสาว แกมม่ารีบวิ่งเข้าไปดูบอสของตนอย่างเร่งรีบเขาเขย่าตัวเธอพร้อมกับตะโกนถาม ริมฝีปากของยูนิพยายามเอื้อนเอ่ยบางสิ่ง ซึ่งแกมม่าก็พอจับความได้คร่าวๆ

       

      ขยับไม่ได้พวกนายกับองค์หญิงขยับไม่ได้งั้นรึ !!!!?อัลโกบาเลโน่ทุกคนต่างพยักหน้าช้าๆ ผงอณูที่ลอยเข้ามามันมีอะไรบางอย่าง ที่ทำให้ร่างอัลโกบาเลโน่ของพวกเขาขยับไม่ได้ราวกับมีอะไรควบคุมไว้ ทุกคนที่ได้ยินดังนั้นต่างเบิกตากว้าง เหล่าคนที่แข็งแกร่งที่สุดในตอนนี้กลับขยับไม่ได้ แม้แต่เพลิงพิโรธของบอสแห่งวาเรียที่มีพลังมากโขก็ทำอะไรต้นไม้เหล่านั้นไม่ได้ มันก็เหมือนกับไร้ซึ่งหนทาง

       

      ไอ้เจ้าโรคุโด พวกแกใช้ภาพมายาช่วยไม่ได้รึไง !!!! ” โกคุเทระหันไปถามกับผู้พิทักษ์สายหมอกทั้งสองและฟราน แต่พวกเขาทั้งสามกลับส่ายหน้าพร้อมกับผู้พิทักษ์สายหมอกสาวที่เอ่ยขึ้นมา

       

      ภาพมายามีเอาไว้เพื่อหลอกลวง คงไม่มีผลอะไรกับต้นไม้ที่แม้แต่เพลิงพิโรธของคุณคนนั้นยังทำไม่ได้หรอกค่ะ… ”

       

      ปัดโธ่เว้ย !! แล้วเราจะไปหารุ่นที่ 10 ได้ยังไงกัน !!!! ” โกคุเทระสบถพร้อมกับทุบผนังเสียงดัง คนอื่นๆต่างกัดฟันกรอดขณะที่บางคนพาเหล่าอัลโกบาเลโน่ที่ขยับตัวไม่ได้ไปนั่งบนโซฟา ในใจทุกคนล้วนเป็นห่วงบอสแห่งวองโกเล่ที่ไปพบกับนภาแห่งเจสโซ่เพียงลำพัง ตอนนี้พวกเขาได้แต่ตั้งความหวังว่าสึนะโยชิจะปลอดภัยกลับมา

       

       

            ร่างสูงของผู้พิทักษ์แห่งเมฆายืนมองเหตุการณ์นั้นอยู่ห่างๆ เขามองต้นไม้ยักษ์ที่กำลังเลื้อยปกคลุมรอบคฤหาสน์วองโกเล่ ต้นไม้เหล่านั้นมีไฟธาตุเมฆาอยู่ คุณสมบัติการเพิ่มพูนของธาตุเมฆาทำให้ต้นไม้บริเวณที่โดนเพลิงพิโรธงอกขึ้นมาใหม่อย่างรวดเร็วจนดูเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

       

                เขาหรี่ตามองกลุ่มชายสวมชุดสูทที่ยืนล้อมอยู่รอบตัวคฤหาสน์และชายผู้ที่เหมือนจะเป็นคนควบคุมต้นไม้ยักษ์เหล่านั้น แม้เขาจะไม่ได้ถูกขังอยู่ในนั้นเช่นเดียวกับคนอื่นๆแต่เขาก็ไม่ได้คิดจะยื่นมือไปช่วยแม้สักนิด ฮิบาริเลือกที่จะเดินออกจากตรงนั้นอย่างเงียบๆเพื่อไม่ให้ศัตรูรู้ตัว

       

      ถ้าหากเข้าไปยุ่งแล้ว แผนการ ของพวกเขาอาจจะล้มเหลวก็เป็นได้

       

       

       

      ดูเหมือนเธอจะไม่รู้สึกกลัวเลยสินะ สึนะโยชิคุง… ” ชายหนุ่มถามคนตรงหน้าขณะที่มือข้างหนึ่งของเขากำลังถือปืนและหันมันไปทางบอสแห่งวองโกเล่คนปัจจุบันที่ยังคงท่าตามเดิมไม่ได้มีวี่แววตื่นตกใจหรือร้องขอความช่วยเหลือแม้สักนิด

       

      คุณจะไม่มีวันได้ทรูนิเซนไปครอบครอง เบียคุรัน… ”  

       

      เธอเป็นคนที่น่าสนใจ สึนะโยชิคุง… ”

       

      น่าสนใจมากเสียจนไม่สมควรที่จะอยู่บนโลกนี้… ” ดวงตาสีอเมทิสต์หรี่ลงพร้อมกับนิ้วเรียวที่ปลดไกปืน..

       

      ใช่.. ไม่สมควรที่จะมีชีวิตอยู่บนโลกที่เขาจะครอบครองมัน

       

       

       

             ขณะที่ร่างหนาของอาจารย์สอนพิเศษกำลังเดินอยู่ในตัวเมืองที่เขามาทำธุระ นัยน์ตาสีนิลก็เหลือบไปเห็นบางสิ่งผ่านกระจกร้านร้านหนึ่ง แสงสีเงินที่สะท้อนเข้าตาเรียกให้ขาเรียวยาวทั้งสองก้าวเข้าไปในร้านนั้น เขาเดินไปหยุดหน้าตู้กระจกก่อนจะมองหามันอยู่สักพักหนึ่ง เขากวักมือเรียกพนักงานหญิงของร้านนั้นซึ่งเมื่อเธอเห็นบุรุษที่เป็นลูกค้าเรียกจึงเดินเข้าไปใกล้

       

      คะ ต้องการอะไรคะ ?

       

      คือว่า..ช่วยหยิบสร้อยเส้นนั้นให้ดูหน่อยได้ไหมครับ ?รีบอร์นชี้ไปที่สร้อยเส้นหนึ่งภายในตู้กระจก เธอพยักหน้ารับก่อนจะก้มลงไปเปิดตู้กระจกแล้วหยิบสร้อยที่เขาต้องการออกมา ร่างสูงค่อยๆหยิบสร้อยเส้นนั้นขึ้นมาอย่างทะนุถนอม สร้อยที่มีรูปร่างเป็นรูปหัวใจขอบสีเงินภายในตัวขอบนั้นราวกับแก้วใสสลักเป็นตัวอักษรสีเทาตัวเล็กไว้ตรงกลางเป็นคำว่า Love…

       

      คุณลูกค้าสนใจสร้อยเส้นนี้เหรอคะ คุณลูกค้านี่ตาแหลมสุดๆเลยนะคะ นี่เป็นสร้อยที่นิยมกันมากที่สุดในหมู่คู่รักตอนนี้เลยล่ะค่ะ คำพูดของพนักงานสาวเรียกให้ใบหน้าคมคายแสดงความสงสัยออกมาได้ไม่ยาก สร้อยที่ดูธรรมดานี่น่ะรึ ที่นิยมในตอนนี้  อีกฝ่ายที่เห็นดังนั้นจึงรีบอธิบายต่อเพราะเกรงว่าคุณลูกค้าของเธอจะเข้าใจบางอย่างผิด

       

      มันไม่ใช่อย่างที่คุณลูกค้าคิดนะคะถึงแม้ว่าสร้อยเส้นนี้มันดูธรรมดา แต่ที่มันนิยมกันในหมู่นี้ก็เพราะว่าเราสามารถเขียนข้อความที่เราต้องการจะบอกอีกฝ่ายลงไปตรงด้านหลังหัวใจได้น่ะค่ะ

       

      ข้อความ ?

       

      ใช่แล้วค่ะ นี่เป็นแก้วแบบพิเศษที่ทางร้านทำขึ้นมาโดยเฉพาะมันสามารถสลักข้อความได้ค่ะ ถ้าหากคุณลูกค้าจะนำมันไปมอบให้ใครท่านก็สามารถให้ทางร้านเขียนข้อความที่ท่านอยากจะบอกลงไปให้อีกฝ่ายได้รับรู้ หรือถ้าคุณลูกค้าจะไปสารภาพรักก็สามารถใช้สร้อยเส้นนี้บอกให้เขารับรู้ได้ค่ะรีบอร์นพยักหน้ากับคำพูดของพนักงานสาว เขาเริ่มจะรู้สึกสนใจในสร้อยเส้นนี้ขึ้นมาแล้วล่ะสิ สิ่งที่อยากบอก..งั้นรึ ? ฉับพลันที่ใบหน้าของลูกศิษย์น้อยผ่านเข้ามาในหัว เขาได้ให้พนักงานคนนั้นนำสร้อยเส้นนี้ไปห่อเป็นกล่องของขวัญเล็กๆแล้วจ่ายเงินค่าสร้อยเส้นนั้น

       

      คุณลูกค้าจะให้ทางร้านสลักเป็นข้อความอะไรดีคะ ?รีบอร์นหันไปตามเสียงใสของพนักงานสาวที่ถามกับตน เขาทำท่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เพราะพื้นที่หัวใจนั้นเล็กมากไม่สามารถที่จะเขียนข้อความยาวๆได้ควรจะย่อให้เหลือเพียงคำสั้นๆเสียมากกว่า

       

      เอาเป็น… ”

       

       

      ขอบคุณที่ใช้บริการนะคะร่างสูงเดินออกจากร้านพร้อมกับเสียงพนักงานสาวคนนั้นที่ดังไล่หลังเขามา เขาเดินไปตามทางถนนคนเดินตัวเมืองพลางมองกล่องของขวัญที่มีขนาดเท่าฝ่ามือในมือของเขา ใบหน้าคมคายเผยรอยยิ้มบางๆ เมื่อนึกไปถึงใบหน้าน่ารักที่เปี่ยมด้วยความสุขยามที่ได้รับสร้อยเส้นนี้

       

      นายจะดีใจไหมนะ.. สึนะ

       

       

      ปัง !!!!!

       

               เสียงเหนี่ยวไกปืนดังขึ้นพร้อมกับร่างบอบบางที่ค่อยๆเซลงไปทางด้านซ้ายพร้อมกับเลือดที่เริ่มซึมออกมาตามเนื้อผ้าบริเวณตำแหน่งหัวใจ ร่างของบอสแห่งเจสโซ่เหยียดยิ้มพร้อมกับเก็บปืนกระบอกนั้นลงลิ้นชักตามเดิม สักพักเสียงฝีเท้าที่วิ่งมาทางห้องของเขาก็ดังขึ้นพร้อมประตูที่ถูกเปิดออกปรากฏร่างของชายหนุ่มที่มีเรือนผมสีส้มอมแดง

       

      คุ คุณเบียคุรัน เสียงเมื่อกี้นี้มัน แล้วนั่น วองโกเล่รุ่นที่ 10 !!?ชายคนนั้นมีทีท่าว่าจะถามถึงเสียงที่ดังเมื่อสักครู่แต่เมื่อเห็นร่างที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นพรมประเด็นนั้นก็ถูกยกทิ้งออกไปจากหัวทันที เบียคุรันไม่ได้มีทีท่าตื่นตระหนกแม้แต่น้อยที่มีคนมาเห็นเพราะนั่นเป็นคนสนิทของเขานี่นาเขาเดินไปหยิบมาชเมลโล่ในถุงก่อนจะนำมันเข้าปากพลางหันไปพูดกับคนสนิทของตน

       

      เจรจาไม่เป็นผลน่ะ โชจัง ~~ ”

       

      งะ งั้นรึครับ… ” ชั่วพริบตาที่เห็นความเจ็บปวดจากดวงตาคู่นั้นของอิริเอะ ก่อนที่เขาจะกลับมามีสีหน้าเป็นปกติซึ่งท่าทางนั้นไม่ได้หลุดพ้นสายตาของชายหนุ่มไปแม้สักนิด หากแต่ใบหน้าคมก็ยังคงประดับรอยยิ้มไว้เช่นเดิม

       

      นั่นสินะ สึนะโยชิคุงเขาบอกว่าทำลายแหวนวองโกเล่ทิ้งไปแล้วน่ะ จะทำยังไงดีล่ะ โชจัง ~~ ?

       

      เรื่องนั้น..ทางผมได้ลงมือไป 20% แล้วครับ คุณเบียคุรัน คุณไม่ต้องห่วง..เพราะคุณจะต้องได้ครอบครองทรูนิเซนไว้ในกำมือแน่นอน… ” เบียคุรันยิ้มอย่างพึงพอใจในคำตอบ เขาฝากเรื่องวองโกเล่รุ่นที่ 10 ไว้กับคนสนิท อิริเอะก้มหน้ารับคำสั่งพร้อมมองบอสของตนที่เดินออกจากห้องไปแล้วเขาก็หันไปทางร่างที่นอนอยู่บนพื้นพรมด้วยสีหน้าที่แสดงถึงความลำบากใจและความเจ็บปวด

       

                ชั่วขณะที่ภาพอาจารย์สอนพิเศษปรากฏขึ้นมาในหัวของสึนะโยชิ ใบหน้าของคนรักที่กำลังแย้มยิ้มบางๆเรียกให้หยาดน้ำใสไหลรินออกมาจากดวงตาสีมะฮอกกานีที่ใกล้จะปิดสนิท เขารู้สึกถึงเลือดจำนวนมากที่หลั่งออกจากแผลนั้นแต่น่าแปลกที่กลับไม่รู้สึกเจ็บปวดแม้สักนิดรู้สึกชาไปทั้งตัวราวกับร่างกายมันด้านสนิท.. แต่ความเจ็บปวดมันกลับอยู่ตรงจิตใจอยากจะเห็นหน้าของทุกคน อยากจะเห็นใบหน้าของคนคนนั้นก่อนที่เขาจะหลับไปเพียงครู่หนึ่งหรือชั่วนิรันดร์รีบอร์น       เปลือกตาของเขาปิดสนิทพร้อมกับลมหายใจของสึนะโยชิที่หยุดลง และความคิดสุดท้ายที่ผ่านไปในสมอง..

       

      ฝากเรื่องทุกอย่างด้วยนะ ตัวฉันในอดีต

       

       

       

            ทางด้านรีบอร์นที่รีบกลับมาจากภารกิจพร้อมกล่องของขวัญภายในมือเขาก็ต้องหยุดชะงักลงเมื่อเห็นชายสวมชุดสูทกลุ่มใหญ่ที่ยืนล้อมรอบคฤหาสน์ที่ถูกปกคลุมด้วยไม้เลื้อยขนาดยักษ์ รีบอร์นตัดสินใจหลบที่หลังต้นไม้แถวๆนั้นเขาหยิบปืนคู่ใจของตนขึ้นมาพร้อมกับค่อยๆเคลื่อนหลบหลังต้นไม้แต่ละต้นเพื่อเข้าใกล้คนพวกนั้นพลางเก็บกล่องของขวัญนั้นเข้ากระเป๋าเสื้อสูทของตน

       

                รีบอร์นเหลือบมองเครื่องบางอย่างที่ลอยอยู่รอบด้านของคฤหาสน์ลางสังหรณ์ของเขามันบ่งบอกให้ทำลายเครื่องพวกนั้นไปเสียก่อน.. เขาเล็งปืนไปทางด้านหน้าของตัวคฤหาสน์นิ้วเรียวค่อยๆเตรียมเหนี่ยวไกพร้อมเอ่ยด้วยเสียงที่แผ่วเบา

       

      คาออส ช็อต… ”

       

      ปัง !!!!

       

      “ !!!!! ” เสียงที่ดังขึ้นฉับพลันเรียกให้ทุกสายตาหันไปมองก่อนจะพบลูกกระสุนที่พุ่งตรงมาเป็นแสงสีเหลืองทอง ทุกคนที่คุมบริเวณด้านนอกเตรียมจะป้องกันแต่พริบตากระสุนลูกนั้นก็แยกออกเป็นเส้นสายแยกกันพุ่งตรงไปทำลายเครื่องที่กำลังทำงานนั้นอยู่ทันที

       

              เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมกับควันที่ฟุ้งกระจาย ทุกคนรวมถึงชายที่มีเรือนผมสีเขียวหันไปมองทิศทางต้นเสียง ร่างร่างหนึ่งฉวยโอกาสแฝงตัวเข้ามาขณะที่ควันจากแรงระเบิดรอบๆนั้นลอยฟุ้ง รีบอร์นเตรียมจะยิงคาออส ช็อตอีกนัดแต่ทว่ากลับมีรากไม้ปริศนาพุ่งขึ้นมาจากดินจับตัวของเขาไว้ก่อน

       

      ฮะฮ้า ก็ว่าใครที่แท้อัลโกบาเลโน่ รีบอร์น นี่เอง ~~ ” หลังจากที่ควันสลายไปหมดชายคนนั้นก็เดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าชายหนุ่ม รีบอร์นพยายามสะบัดให้หลุดออกจากการจับกุมของรากไม้เหล่านั้นแม้แต่ปืนภายในมือก็ร่วงลงกับพื้นหิมะ  เหล่าชายสวมสูทต่างวิ่งเข้ามาล้อมอัลโกบาเลโน่แห่งอรุณไว้พร้อมกับหยิบปืนขึ้นมาและเล็งไปที่เขาขณะที่ชายหนุ่มกัดฟันกรอดเมื่อตนกลับตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

       

      ฮะฮ้า พวกคุณไม่ต้องทำอะไรแล้วล่ะครับ เพราะดูเหมือนบอสของพวกเราจะเจรจาเสร็จแล้ว… ” ชายคนนั้นพูดหลังจากได้ยินเสียงบางอย่างผ่านหูฟังของตนเอง เหล่าลูกน้องที่ได้ยินดังนั้นจึงวางอาวุธลงพร้อมกับถอยออกไปจากร่างของรีบอร์น

       

      ตอนนี้พวกผมคงต้องขอตัวก่อน แต่ว่าพวกผมมีของขวัญบางอย่างที่จะมอบให้พวกคุณด้วยสิ่งประดิษฐ์ที่ทางเจสโซ่ประดิษฐ์ขึ้นหลังจากที่พวกผมกลับไป ฮะฮ้า ~~ ” เพียงแค่ชายหนุ่มดีดนิ้วรากไม้ขนาดยักษ์รวมถึงที่พันตัวอัลโกบาเลโน่แห่งอรุณไว้อยู่ก็มลายหายไปราวกับมันเป็นเพียงภาพลวงตา

       

                 คนพวกนั้นเดินออกไปจากบริเวณของคฤหาสน์วองโกเล่แล้วขึ้นรถยนต์ของพวกตนก่อนที่จะขับออกไป รีบอร์นที่ร่างของตนไร้ซึ่งสิ่งพันธนาการจึงก้มลงไปหยิบปืนของตนขึ้นมาพร้อมปัดหิมะที่เปื้อนตามตัวด้ามกระบอก ทางด้านคนอื่นๆที่ถูกขังอยู่ภายในคฤหาสน์เมื่อต้นไม้ยักษ์และเครื่องที่ปล่อยผงอณูนั้นออกมาได้หายไปพวกเขาก็รีบวิ่งออกมาจากที่นั่นทันที

       

      อ้าว นั่นรีบอร์นนี่นา เว้ยเฮ้ย !!! ” โคโรเนโร่ตะโกนชื่อผู้ที่ยืนอยู่คนเดียวท่ามกลางหิมะที่เริ่มโปรยลงมา รีบอร์นที่ได้ยินเสียงของเพื่อนสนิทจึงหันไปทางพวกเขาพบว่าทุกคนอยู่กันครบ ยกเว้นลูกศิษย์ตัวน้อยของเขา

       

      พวกนาย.. พวกเมื่อกี้นี่มันเป็นคนของเจสโซ่ใช่ไหม ? เขาเอ่ยถามกับเพื่อนพ้องพวกเขาเพียงแค่พยักหน้ารับ พร้อมกับคำถามที่ออกมาจากปากของแซนซัส บอสแห่งวาเรีย

       

      ไอ้สวะ ทำไมแกไม่ยอมรับโทรศัพท์… ” ทุกคนดูเหมือนจะสนใจคำถามนี้กันมากทีเดียว ทุกสายตาหันไปมองอาจารย์สอนพิเศษของสึนะโยชิที่ได้ยินคำถามก็แสดงใบหน้าที่มีแต่ความสงสัยออกมา

       

      หา โทรศัพท์ ?

       

      ก็ใช่ไง เว้ยเฮ้ย พวกฉันโทรไปตั้งหลายรอบแล้ว !!! ” รีบอร์นเริ่มอึ้งหนักกว่าเดิม เขาเริ่มนึกย้อนกลับไปตั้งแต่ตอนที่เขาไปถึงที่ทำงานเขาก็ไปรับงานจากผู้ว่าจ้างแล้วพอกลับห้องเขาก็เขาลืมโทรศัพท์ไว้ที่ห้องนี่นา !!!!

       

      ฉัน..ลืมโทรศัพท์ไว้ที่ห้องตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว… ”

       

      ไอ้บ้าเอ้ย !!!! ” สิ้นคำตอบของชายหนุ่ม แซนซัสก็ตรงเข้าไปชกเข้าที่ใบหน้าด้านขวาของรีบอร์นอย่างเต็มแรงจนเจ้าตัวล้มลงไปกองกับพื้นหิมะ ด้วยความที่แรงของแซนซัสนั้นไม่ใช่น้อยๆจึงทำให้มุมปากของรีบอร์นมีเลือดซิบออกมาชายหนุ่มใช้มือเช็ดคราบเลือดนั้นพร้อมกับมองไปที่บอสแห่งวาเรียด้วยแววตาแค้นเคือง

       

      นี่นายทำบ้าอะไร… ”

       

      แกนั่นแหละ !! ทำไมถึงไม่พกโทรศัพท์ติดตัวไว้ ถ้าแกรู้เรื่องแกก็อาจจะไปห้ามไอ้สวะนั่นได้ !!!! ” วาเรียคนอื่นๆรีบเข้าไปห้ามบอสของพวกเขาที่กำลังจะใช้เพลิงพิโรธใส่ชายหนุ่ม ขณะที่รีบอร์นมองท่าทางนั้นอย่างไม่เข้าใจ ห้ามอะไร แล้วหมายถึงใคร?  เขาลุกขึ้นมาก่อนจะเหลือบไปเห็นบางสิ่งที่ตกอยู่บนพื้นหิมะ เขารีบก้มลงไปเก็บกล่องของขวัญกล่องนั้นที่หลุดออกจากกระเป๋าเสื้อตอนเขาล้มพร้อมกับดูรอบๆกล่องว่ามีรอยอะไรหรือไม่

       

      นั่นกล่องอะไรเหรอครับ รุ่นพี่รีบอร์น ?เบ๊ประจำกลุ่มอัลโกบาเลโน่ สคัลถามชายหนุ่มที่กำลังเช็คของขวัญกล่องนั้นอยู่ รีบอร์นที่ได้ยินคำถามก็นึกบางอย่างออกเขามองไปรอบๆเพื่อหาร่างบอบบางของสึนะโยชิ แต่ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ไม่มีแม้แต่เงาของเขาเลย

       

      นี่เป็นของฝากให้สึนะน่ะ แล้วสึนะอยู่ที่ไหนล่ะ ฉันไม่เห็นเขามาตั้งนานแล้วนะ ?ทุกคนชะงักกับคำถามนั้น พวกเขาต่างก้มหน้าลงพร้อมใบหน้าที่มัวหมอง อัลโกบาเลโน่แห่งอรุณที่เห็นดังนั้นก็เริ่มรู้สึกถึงลางไม่ดีแต่ก็ยังพยายามข่มอารมณ์ใจเย็นเอาไว้

       

      เฮ้ เกิดอะไรขึ้น ตกลงเจ้าห่วยอยู่ที่ไหน โคโรเนโร่ !!?เขาหันไปถามเพื่อนสนิทของตนแต่เจ้าของนามกลับนิ่งเงียบ ร่างสูงยังคงพยายามคาดคั้นเอาความจริงจากอีกฝ่ายโคโรเนโร่ไม่ได้พูดอะไรจนกระทั่งนภาแห่งอัลโกบาเลโน่และจิสโรเนโร่กัดฟันตะโกนขึ้นมา

       

      คุณซาวาดะไปพบกับเบียคุรันที่เจสโซ่ แฟมิลี่ค่ะ !!!! ”

       

      “ !!! ” นัยน์ตาสีถ่านเบิกกว้างเมื่อสิ้นประโยค เขาคิดว่ามันอาจจะเป็นเพียงเรื่องล้อเล่นแต่เมื่อเห็นใบหน้าที่แลดูเจ็บปวดของทุกคนในที่นั้นมันก็สามารถบ่งบอกได้ดีว่านั่นไม่ใช่เรื่องโกหกเลยแม้สักนิด ริมฝีปากเรียวเริ่มสั่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเขากลืนน้ำลายฝาดๆลงคอก่อนจะค่อยๆเค้นเสียงถาม

       

      ปะ ไปตอนไหน.. เจ้าห่วย..ไปนานเท่าไรแล้ว?

       

      รุ่นที่ 10 ไปตั้งแต่เที่ยงสี่สิบแล้วครับ..ตอนนี้ก็บ่ายโมงครึ่งแล้วท่านยังไม่กลับมาเลยครับ… ”

       

      เที่ยง..สี่สิบ.. 50 นาที.. ยังไม่กลับงั้นรึ !!?โกคุเทระพยักหน้านั่นยิ่งทำให้จิตใจของนักฆ่าเริ่มกระตุกวูบ แต่ก็มีเสียงๆหนึ่งที่ดังมาจากข้างหลังของรีบอร์นและนั่นเป็นเสียงที่เรียกความสนใจจากทุกร่างให้มองไปที่มัน

       

                ร่างที่ยังคงอยู่ในชุดเต็มยศของบอสแห่งวองโกเล่สีขาวบริสุทธิ์ยืนอยู่ตรงนั้น ทุกคนที่เห็นดังนั้นต่างเผยรอยยิ้มที่เปี่ยมด้วยความดีใจและกำลังจะเอ่ยเรียกชื่อของเขาแต่ยังไม่ทันที่จะเอ่ยอะไร ร่างร่างนั้นก็ค่อยๆเซล้มลงไปบนพื้นหิมะพร้อมกับของเหลวสีชาดที่เริ่มนองไปทั่วบริเวณนั้นสิ่งที่ทำให้ทุกร่างเบิกตากว้างและตะโกนออกมาสุดเสียง

       

      รุ่นที่ 10 / บอส / สึนะ / วองโกเล่ / ซาวาดะ / สึนะคุง / ไอ้สวะ / ไอ้เปี๊ยก / คุณซาวาดะ / สึนะโยชิคุง / ท่านซาวาดะ / เจ้าหญิง !!!!!! ” ทุกคนรีบวิ่งเข้าไปหาแต่คนที่ไวกว่าใครก็คือบุรุษที่มีฐานะเป็นอาจารย์และคนรักของสึนะโยชิ..

       

           ยามที่ขาทั้งสองเริ่มเข้าไปใกล้ร่างบอบบางที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นหิมะจิตใจที่เข้มแข็งของเขาเริ่มสั่นคลอน ยามที่มือทั้งสองค่อยๆประคองร่างนั้นขึ้นมาไว้ในอ้อมกอดเขารู้สึกถึงจิตใจที่เริ่มแหลกสลาย ร่างที่นอนตัวเย็นเฉียบในอ้อมแขนยิ่งทำให้เขารู้สึกถึงสิ่งที่นักฆ่าไม่ควรมี

       

           เขาย้ำเตือนตัวเองว่านี่อาจเป็นเรื่องล้อเล่นของคนตัวเล็ก รีบอร์นค่อยๆเคลื่อนมือไปแตะใบหน้าของร่างบางที่เย็นเฉียบรวมถึงเปลือกตาที่หลับสนิท ลมหายใจที่หยุดห้วงและหยาดโลหิตที่ไหลรินออกมาจากบาดแผลในตำแหน่งของหัวใจมันเป็นสิ่งตอกย้ำจิตใจว่านี่มันเป็นเรื่องจริง

       

      ระ รุ่นที่ 10… ”

       

      สึ..นะ… ” เพื่อนสนิทและมือขวาของสึนะโยชิเอ่ยเรียกชื่อของร่างนั้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ สายหมอกสาวและนภาแห่งจิสโรเนโร่ต่างปิดปากของตนเองเพื่อกลั้นเสียงสะอื้นพร้อมกับหยาดน้ำตาที่เอ่อคลอ ขณะที่คนอื่นๆต่างมองภาพนั้นด้วยสายตาหวาดๆอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น เว้นแต่อัสนีแห่งวองโกเล่ที่บ่อน้ำตาแตกตั้งแต่เห็นสภาพของพี่ชายคนสำคัญ

       

      เฮ้.. เจ้าห่วยนายล้อเล่นใช่ไหม..นายแค่หลับไปใช่ไหม?มือหนาของอาจารย์สอนพิเศษตบเข้าที่พวงแก้มนวลที่เย็นยะเยือกราวกับน้ำแข็งนั้นเบาๆ เขาทั้งเอ่ยเรียกชื่อทั้งเขย่าตัวของร่างภายในอ้อมกอดแต่สึนะโยชิก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมา หยาดเลือดที่หยดลงไปบนพื้นหิมะสีขาวทำให้เลือดเหล่านั้นเริ่มแข็งตัวรวมเข้ากับหิมะจนมันกลายเป็นสีแดงฉานของโลหิต

       

      ตื่นขึ้นมาบอกฉันสิ ตื่นขึ้นมาฟังฉันก่อนสิ เจ้าห่วย !!!! ” กล่องของขวัญกล่องนั้นร่วงลงไปกับพื้นแต่อาจารย์หนุ่มก็ไม่แม้แต่จะเหลียวแลมันด้วยซ้ำ เขายังคงตะโกนถามในสิ่งที่มันไม่มีวันจะเป็นจริง

       

      ลมหายใจที่หยุดไป เป็นสิ่งที่ย้ำเตือน

       

      เป็นไปไม่ได้ที่ร่างในอ้อมกอดจะฟื้นขึ้นมา

       

      รีบอร์น..ถ้าเกิดวันหนึ่งฉันหายไปนายจะทำยังไง… ’

       

      เสียงหวานของคนรักที่เอ่ยถาม ยังคงดังวนเวียนอยู่ในหัวของรีบอร์น

       

      ที่นายถามเมื่อตอนนั้น..เพราะนายรู้ใช่ไหม รู้ถึงเหตุการณ์ในวันนี้

       

      ตื่นขึ้นมาฟังคำตอบฉันก่อนสิ !! ” ชั่วขณะนั้นเองที่เขารู้สึกถึงความเย็นบนใบหน้า หยาดน้ำใสเริ่มไหลรินจากดวงเนตรสีถ่านลงอาบใบหน้าคมคาย รีบอร์น นักฆ่าอันดับหนึ่งของโลกกำลังร่ำไห้.. คนที่เข้มแข็งที่สุดอย่างเขากำลังร้องไห้

       

      รีบอร์น / คุณรีบอร์น / เจ้าหนู / อัลโกบาเลโน่ / ไอ้สวะ / ท่านรีบอร์น / รุ่นพี่รีบอร์น / คุณลุง… ” หลากหลายโทนเสียงเรียกชื่อของผู้ที่กำลังโอบกอดร่างบอบบางไว้ในอ้อมแขน เขาตะโกนและร้องไห้โดยไม่อายคนที่อยู่แถวนั้นเลย  ภาพพจน์นักฆ่าอันดับหนึ่งที่เขาสร้างมาไม่เหลือสิ้นแต่รีบอร์นกลับไม่ได้สนใจเรื่องนั้นแม้สักนิด

       

      ได้โปรดเถอะ พระเจ้า.. บอกผมทีว่านี่มันเป็นเรื่องโกหก

       

      ได้โปรด ฟื้นขึ้นมาสิ  สึนะ !!!!!!!!! ” เสียงตะโกนของนักฆ่าดังไปทั่วบริเวณพร้อมกับเสียงสะอื้น เสียงร้องไห้ของทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นหรือเสียงที่สบถออกมาเบาๆของเหล่าวาเรียและบางคน โคลมซบเข้ากับแผ่นอกของผู้มีพระคุณและร้องไห้ออกมาจากการจากไปของบอสผู้เป็นที่รักของทุกคน โรคุโดลูบศีรษะของหญิงสาวอย่างอ่อนโยน นัยน์ตาต่างสีจ้องมองที่ร่างบอบบางที่นอนแน่นิ่งด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด

       

      จิตใจของนักฆ่าที่พังทลายจิตใจที่สูญเสียสิ่งที่สำคัญที่สุดไป

       

      หยาดน้ำตาหยดลงบนพื้นหิมะรวมเข้ากับโลหิตของผู้เป็นที่รัก..น้ำตาที่ไหลริน..ไม่มีทีท่าว่าจะจบ

       

      บ่งบอกให้ทุกร่างได้รับรู้..ว่านักฆ่าหนุ่มนาม รีบอร์น เสียใจมากเพียงใด

       

       

              ฮิบาริที่มองเหตุการณ์อยู่ห่างๆกัดฟันกรอด แม้ในใจจะรู้อยู่แล้วว่าเหตุการณ์ต้องเป็นแบบนี้แต่มันก็อดรู้สึกแย่ไม่ได้  เขาตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและกดเลื่อนไปยังเบอร์หนึ่งพร้อมกับโทรออกไป ไม่นานปลายสายก็ตอบรับเบอร์โทรของเขา

       

      สับกระสุนแล้วใช่ไหม เจ้าสัตว์กินพืช ?

       

      ‘ ..ครับ ผมสับกระสุนที่ปืนของคุณเบียคุรันแล้วและใช้เครื่องเคลื่อนย้ายของทางเจสโซ่ย้ายร่างของสึนะโยชิคุงมา แต่ว่า..กระสุนนั้นมัน… ’

       

      มีความเสี่ยงเป็นตาย..เท่ากันใช่ไหม?ปลายสายอึกอักไปชั่วครู่ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาและแลดูเจ็บปวด ฮิบาริกำมือถือของเขาแน่นพร้อมกับตัดสายทิ้งไป  เขานิ่งเงียบไปสักพักหนึ่งก่อนจะเหลือบมองไปที่อัลโกบาเลโน่แห่งอรุณพลางหยิบกระดาษใบนั้นขึ้นมาดู

       

      ผมฝากคุณมอบกระดาษแผ่นนี้ให้กับรีบอร์นด้วยนะครับ

       

      ถ้าแผนการครั้งนี้ไม่สำเร็จ..มันจะไม่ใช่เพียงแค่หลับตาลง

       

      แต่นายจะหลับไปชั่วนิรันดร์

       

      นายต้องกลับมาให้ได้นะ เจ้าสัตว์กินพืช

       

      ซาวาดะ สึนะโยชิ

       

       

       

           หลังงานศพของวองโกเล่รุ่นที่ 10 ผ่านไปก็เป็นช่วงเวลาแห่งรัตติกาลทุกร่างกลับที่อาศัยของตนไปพร้อมกับใบหน้าที่มัวหมองและคราบน้ำตา.. เมื่อแน่ใจว่าทุกคนกลับไปกันแล้วร่างสูงโปร่งที่สวมชุดสูทก็เดินออกมาจากหลังต้นไม้ไปยังโลงศพที่ตั้งอยู่ใจกลางของป่า

       

              นักฆ่าอันดับหนึ่งของโลกมองที่โลงศพสีดำสนิทนั้นด้วยท่าทีที่เรียบเฉยแต่ใครจะรู้เล่าว่าภายในจิตใจของอัลโกบาเลโน่แห่งอรุณ รีบอร์นนี้มันแทบจะแหลกสลายไปแล้วเสียด้วยซ้ำ..  ภาพความทรงจำเก่าๆฉายเข้ามาในหัวของร่างสูงราวกับการกรอเทปไม่ว่าจะเป็นตอนที่พบกันครั้งแรก การทะเลาะถกเถียงกัน การหัวเราะและยิ้มให้แก่กันหรือแม้แต่วันที่พวกเขาจูบกันเป็นครั้งแรก

       

           รีบอร์นทรุดตัวลงไปกับพื้นหิมะมือหนาเลื่อนฝาโลงศพสีดำมืดนั้นออกไป แสงจันทราค่อยๆเคลื่อนมาสาดส่องกระทบกับร่างของครูหนุ่มและร่างที่นอนแน่นิ่งอยู่ในโลงเผยให้เห็นดวงหน้าหวานที่หลับตาพริ้มยังคงใส่ชุดสีขาวบริสุทธิ์ที่ดูกลมกลืนไปกับสีของกุหลาบที่โรยรายรอบข้างเขาชุดที่ไร้ซึ่งของเหลวสีชาดต่างกับในตอนบ่ายของวันนี้

       

           อาจารย์หนุ่มล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อสูทและหยิบสิ่งที่อยู่ในนั้นออกมากล่องของขวัญสีชมพูอ่อนที่เขาตั้งใจจะมอบให้กับลูกศิษย์หรือคนรักของเขา.. เขาค่อยๆแกะกระดาษที่ห่อกล่องนั้นพร้อมกับหยิบสร้อยที่ทอประกายแสงสีเงินสะท้อนกับแสงจันทราออกมา

       

      สร้อยนี่.. ฉันซื้อมาตอนที่ฉันกลับจากทำภารกิจ… ” ชายหนุ่มประคองท้ายทอยของร่างนั้นขึ้นมาใกล้ เขาสวมสร้อยเส้นนั้นบนลำคอระหงส์อย่างเบามือแล้วค่อยๆวางร่างของสึนะโยชินอนลงบนกุหลาบสีขาวบริสุทธิ์อีกครั้งสร้อยที่สลักคำว่า Love ทอประกายแสงวิบวับในยามค่ำคืน เขาจ้องมองร่างบอบบางที่สวมสร้อยเส้นนั้นพร้อมกับแย้มยิ้มบางๆ สร้อยเส้นนี้..มันเหมาะกับนายจริงๆสึนะ นัยน์ตาสีถ่านยามที่มองสึนะโยชิทั้งเต็มไปด้วยความรักใคร่ ความเศร้าใจและความเจ็บปวด ทั้งๆที่เขาหวังจะได้เห็นรอยยิ้มของร่างบาง..แต่ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้

       

      ถ้าในวันนั้น..ฉันรู้ตัวเร็วกว่านี้

       

      นายอาจจะไม่ต้องมาเป็นแบบนี้

       

      ถ้าในคืนนั้นฉันติดใจในรอยยิ้มที่ดูเศร้าสร้อยของนาย

       

      ฉันอาจจะไม่ต้องสูญเสียนายไป

       

             มือหนาค่อยๆลูบพวงแก้มนิ่มที่เย็นเฉียบอย่างแผ่วเบาใบหน้าคมคายโน้มลงไปใกล้ดวงหน้าน่ารักที่ไร้ซึ่งชีวิตอีกต่อไป ยามที่นึกถึงรอยยิ้มที่สดใสและทำให้คนรอบข้างมีความสุขไปด้วยก็ยิ่งรู้สึกเจ็บปวดเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่านักฆ่าที่แข็งแกร่งเช่นเขาจะมีความรู้สึกแบบนี้

       

      ความรู้สึก..กลัวกลัวที่จะต้องอยู่คนเดียว

       

      ทำไมนายถึงทิ้งให้ฉันอยู่คนเดียว

       

                ริมฝีปากเรียวค่อยๆเคลื่อนมอบจุมพิตที่แผ่วเบาให้กับร่างบอบบางเหมือนกับในคืนนั้นต่างกันแค่ตอนนั้นร่างของลูกศิษย์ตัวน้อยยังอบอุ่นมิได้หยุดหายใจและนี่ไม่ใช่จูบที่มอบด้วยความสุข..แต่กลับเต็มไปด้วยความเศร้าเพียงแค่สัมผัสกับผิวที่ซีดเซียวหยาดน้ำใสก็เอ่อล้นดวงเนตรคมทั้งคู่ ของเหลวใสไหลรินอาบใบหน้าและหยดลงไปกระทบกับดวงหน้าหวานนั้น

       

      อึก..ทำไมล่ะไหนนายบอกว่า.นายจะอยู่กับฉันตลอดไปไง… ” เขาสะกดกลั้นเสียงสะอื้นด้วยการกัดริมฝีปากจนเลือดเริ่มซิบ รีบอร์นไม่คิดจะเช็ดน้ำตาที่ไหลรินแม้สักนิดเขาจับขอบโลงศพไว้แน่น เสียงของนักฆ่าดังไปทั่วป่าที่เงียบสงบแห่งนี้พร้อมกับสายลมหนาวที่พัดอ่อนๆ  

       

      เวลา 05.59

       

      ช่วย..บอกรักฉันอีกครั้งได้ไหม..?

       

                 เขานึกถึงเสียงหวานใสที่เคยพูดกับเขาในยามค่ำคืนของเมื่อวาน มือหนาเคลื่อนไปจับคำที่สลักไว้ที่ด้านหลังของสร้อยพร้อมเอ่ยมันอีกครั้งด้วยเสียงที่แผ่วเบา เขาหวังให้สายลมช่วยพัดพาคำคำนี้ไปให้กับลูกศิษย์ของเขาที่อยู่ ณ ที่ไกลแสนไกลแทนเขา

       

      0.00

       

      เข็มยาวบนแป้นนาฬิกาใหญ่ใจกลางเมืองชี้ไปที่เลข 12…

       

      เสียงระฆังสีทองที่โบสถ์ในตัวเมืองดังก้องกังวาน

       

      เสียงที่บ่งบอกให้ทุกร่างรับรู้ถึง..จุดสิ้นสุดคริสต์มาสอีฟ

       

      Ti amerò per sempre…

       

       

      ฉันจะรักเธอ..ตลอดไป

       

      นายคงจะ..หนาวแล้วสินะ… ” เสียงทุ้มเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เขาเลื่อนฝาโลงศพนั้นจนค่อยๆปิดบังดวงหน้าที่หลับสนิทของร่างบอบบางไปจนสิ้น รีบอร์นลุกขึ้นจากพื้นหิมะที่หนาวเหน็บพร้อมกับเช็ดคราบน้ำตาบนใบหน้าก่อนที่เขาจะเดินออกไปจากตรงนั้นแต่ไม่นานเขาก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังมาจากพุ่มไม้เขาจึงเอ่ยเสียงเยียบเย็น

       

      พวกนายก็ออกมาได้แล้ว โคโรเนโร่ ฟง… ”

       

      อา.. รู้ตัวด้วยเหรอเนี่ย เว้ยเฮ้ย !! ” บุรุษสองร่างเดินออกมาจากพุ่มไม้ที่เปื้อนไปด้วยหิมะ ใบหน้าทั้งสองประดับรอยยิ้มบางๆแต่มันก็แฝงไปด้วยความเศร้าที่ไม่มีทางปิดผู้ใดมิดโดยเฉพาะเพื่อนสนิทที่อยู่เบื้องหน้า

       

      พวกผมก็แค่จะออกมาตามคุณแหละครับ..เพราะหลังจากที่สึนะคุง..ตายรังสีที่เวลเด้มาบอกทีหลังว่ามันคือรังสีนอนทรูนิเซนก็เริ่มขยายไปทั่วและมันมีอันตรายต่อร่างที่เป็นอัลโกบาเลโน่อย่างพวกเรามากน่ะครับ… ”

       

      หึ ตามฉันกลับเรอะ พวกนายจะมาหาสึนะล่ะสิไม่ว่า..อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าพวกนายคิดยังไงกับสึนะน่ะ… ” ชายหนุ่มทั้งสองสะดุ้งโหยงกับคำกล่าวนั้นพวกเขาก้มหน้าลงก่อนจะมองไปยังโลงศพที่คนคนนั้นนอนหลับใหลอยู่ด้วยแววตาที่แฝงไปด้วยหลากหลายความรู้สึก..แต่ที่เด่นชัดที่สุดคือความเจ็บปวด

       

      กะแล้วล่ะนะ..ว่านายจะต้องรู้.. เว้ยเฮ้ย… ”

       

      แล้ว..ไม่คิดจะบอกสึนะหรือไง..ความรู้สึกของพวกนายน่ะ… ”

       

      หึ.. ถึงอยากบอก..มันก็สายเกินไปแล้วล่ะครับ… ” ฟงแค่นหัวเราะๆนิดเมื่อได้ยินคำถามนั้น ถึงแม้พวกเขาจะอยากบอกความรู้สึกที่มีต่อเด็กคนนั้นมากแค่ไหนแต่ก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยออกไปและพวกเขาก็ขอแค่เฝ้ามองสึนะอยู่ห่างๆก็พอแล้ว... จนกระทั่งสุดท้าย..คนคนนั้นก็ได้จากพวกเขาไป..ตลอดกาล

       

      เป้าหมายต่อไปของเจ้านั่น..ก็คือจุกนมพวกนี้สินะ… ” ทั้งสามหยิบจุกนมที่ต่างสีของพวกตนขึ้นมาพร้อมกับกำมันไว้แน่น รีบอร์นเก็บจุกนมของตนลงไปแล้วหยิบกระดาษที่ฮิบาริมอบให้กับเขาโดยที่เจ้าตัวบอกว่า เจ้าสัตว์กินพืชตัวเล็กนั่นฝากมาให้ ข้อความบนกระดาษใบนั้นกลับทำให้ความสงสัยเริ่มก่อตัวในจิตใจ

       

      Se c'è una possibilità ci incontreremo di nuovo

       

      Grazie per tutto

       

      Reborn…

       

      ถ้ามีโอกาส.. เราจะเจอกันอีก

       

      ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง

       

      รีบอร์น

       

                  เขาไม่เข้าใจในข้อความบนกระดาษใบนั้นคำว่าถ้ามีโอกาศของสึนะโยชิหมายถึงอะไรกันแต่พริบตานั้นที่ร่างกายของรีบอร์นก็เกิดความรู้สึกแปลกๆที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ร่างของเขาทรุดลงไปพร้อมกับมือหนาที่ป้องปากที่ไออย่างต่อเนื่องขณะที่เพื่อนทั้งสองเห็นดังนั้นก็รีบเข้ามาหาเขาทันที

       

      เฮ้ รีบอร์นเป็นอะไรไป เว้ยเฮ้ย !!! ”

       

      โคโรเนโร่ ผมสัมผัสได้ถึงนอน ทรูนิเซนที่ซึมซับเข้าไปในร่างของรีบอร์นครับ !!?

       

      อะไรนะ นี่นายไปทำอะไรถึงได้มีนอน ทรูนิเซนเข้าไปอยู่ในตัวเนี่ย เว้ยเฮ้ย !!!?

       

      อุ๊บ แค่ก แค่ก !! มะ..ไม่รู้.. หรือว่า ตอนนั้น !!?เขานึกย้อนไปตอนที่รากไม้ของชายหนุ่มผู้นั้นจับตัวเขาไว้ ตอนนั้นเขารู้สึกถึงอาการเจ็บแปล็บที่แขนราวกับสารบางอย่างเข้าไปในตัวแต่แล้วทุกร่างรวมถึงรีบอร์นก็ต่างเบิกตากว้างเมื่อเขาละมือหนาออกมาเผยให้เห็นถึงของเหลวสีชาดที่อยู่บนนั้น

       

      รีบอร์น คุณไอเป็นเลือด !!!?

       

      แค่ก แค่ก !!!! ” ชายหนุ่มไม่ได้ตอบอะไรแต่กลับไอหนักขึ้นเขารู้สึกถึงความเจ็บปวดที่แล่นไปทั่วร่างกายและสติที่พร่าเลือนเขาหันไปมองสถานที่ที่ผู้เป็นที่รักหลับใหลพลางกัดฟันกรอด ทั้งๆที่เขาจะต้องล้างแค้นให้กับสึนะ แต่ทำไม

       

           นี่คงเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกถึงความตายที่กำลังใกล้เข้ามา.. น่าแปลกที่เขากลับไม่รู้สึกหวาดกลัวแม้สักนิดแต่เขากลับรู้สึกดีใจและเคียดแค้นแค้นตัวเองที่ไม่สามารถล้างแค้นให้กับลูกศิษย์ของตนได้แต่เขาก็ดีใจที่ตัวของเขากำลังจะได้ไปหาสึนะโยชิในที่ที่ไกลแสนไกล

       

      ฉันกำลังจะไปหาแล้วนะ..สึนะ

       

      ฉันจะไม่ให้นายอยู่คนเดียว

       

           ลมหายใจของนักฆ่าหยุดลงพร้อมกับดวงเนตรที่หลับสนิทท่ามกลางเสียงตะโกนของเพื่อนสนิทอีกสองคน มือหนาและกระดาษที่เปรอะเปื้อนหยาดโลหิตของรีบอร์นหล่นลงไปกับพื้นหิมะ ที่นั่นไม่ไกลกับที่ที่สึนะโยชิหลับใหลเลย รีบอร์นได้หลับอย่างสงบหลังจากที่นภาได้จากเขาไปไม่นาน..พร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า

       

      ฉันจะไม่มีวันรักใคร..นอกจากนาย

       

      หัวใจของฉัน มันเป็นของนายเพียงคนเดียว

       

      นภาเพียงหนึ่งเดียวของฉัน

       

       

      Fin.
       

       

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      "สุดยอดมากค่ะ!!!"

      (แจ้งลบ)

      ไม่รู้จะอธิบายยังไง แต่อ่านแล้วฟินมากมาย ใช้คำได้เข้าถึงอารมณ์ อ่านแล้วเห็นภาพเลย เนื้อเรื่องแบบนี้กำลังดี ดราม่าบ้างหวาน หน่อยๆ นี่คือนิยายที่ตามหามานาน น่าจะแต่งต่อหลายๆเรื่องนะ ถ้าแต่งต่อขอเป็น All27 เป็นตอนๆ หรือ สั้นๆ แบบนี้ก็ได้ ขอบอกเลยนะว่า ถ้าโตขึ้นไปแล้วแต่งนิยาย เรื่องๆ แบบนี้ ต้องมีคนซื้ออ่านเยอะ แน่ๆเลยล่ะ เราจะคอยติดตามผลงานชิ้นต่อไ ... อ่านเพิ่มเติม

      ไม่รู้จะอธิบายยังไง แต่อ่านแล้วฟินมากมาย ใช้คำได้เข้าถึงอารมณ์ อ่านแล้วเห็นภาพเลย เนื้อเรื่องแบบนี้กำลังดี ดราม่าบ้างหวาน หน่อยๆ นี่คือนิยายที่ตามหามานาน น่าจะแต่งต่อหลายๆเรื่องนะ ถ้าแต่งต่อขอเป็น All27 เป็นตอนๆ หรือ สั้นๆ แบบนี้ก็ได้ ขอบอกเลยนะว่า ถ้าโตขึ้นไปแล้วแต่งนิยาย เรื่องๆ แบบนี้ ต้องมีคนซื้ออ่านเยอะ แน่ๆเลยล่ะ เราจะคอยติดตามผลงานชิ้นต่อไปนะ   อ่านน้อยลง

      ปากกานี้ของฉันย่ะ | 3 เม.ย. 56

      • 2

      • 0

      คำนิยมล่าสุด

      "สุดยอดมากค่ะ!!!"

      (แจ้งลบ)

      ไม่รู้จะอธิบายยังไง แต่อ่านแล้วฟินมากมาย ใช้คำได้เข้าถึงอารมณ์ อ่านแล้วเห็นภาพเลย เนื้อเรื่องแบบนี้กำลังดี ดราม่าบ้างหวาน หน่อยๆ นี่คือนิยายที่ตามหามานาน น่าจะแต่งต่อหลายๆเรื่องนะ ถ้าแต่งต่อขอเป็น All27 เป็นตอนๆ หรือ สั้นๆ แบบนี้ก็ได้ ขอบอกเลยนะว่า ถ้าโตขึ้นไปแล้วแต่งนิยาย เรื่องๆ แบบนี้ ต้องมีคนซื้ออ่านเยอะ แน่ๆเลยล่ะ เราจะคอยติดตามผลงานชิ้นต่อไ ... อ่านเพิ่มเติม

      ไม่รู้จะอธิบายยังไง แต่อ่านแล้วฟินมากมาย ใช้คำได้เข้าถึงอารมณ์ อ่านแล้วเห็นภาพเลย เนื้อเรื่องแบบนี้กำลังดี ดราม่าบ้างหวาน หน่อยๆ นี่คือนิยายที่ตามหามานาน น่าจะแต่งต่อหลายๆเรื่องนะ ถ้าแต่งต่อขอเป็น All27 เป็นตอนๆ หรือ สั้นๆ แบบนี้ก็ได้ ขอบอกเลยนะว่า ถ้าโตขึ้นไปแล้วแต่งนิยาย เรื่องๆ แบบนี้ ต้องมีคนซื้ออ่านเยอะ แน่ๆเลยล่ะ เราจะคอยติดตามผลงานชิ้นต่อไปนะ   อ่านน้อยลง

      ปากกานี้ของฉันย่ะ | 3 เม.ย. 56

      • 2

      • 0

      ความคิดเห็น

      ×