ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เบื้องหลังเรื่องราวเหนือธรรมชาติ

    ลำดับตอนที่ #5 : หมอดูหรือหมอเดา? ตอนที่ 4: ตอบคำคัดค้าน

    • อัปเดตล่าสุด 14 ม.ค. 52


    พออ่านมาถึงจุดนี้ ผมคาดว่าผู้อ่านหลาย ๆ คนอาจจะมีแนวคิดทำนองต่อไปนี้

     

    ถึงแม้การดูดวงจะไม่มีมูลความจริง แต่มันก็มีประโยชน์ มันเป็นการให้กำลังใจ เป็นการให้คำปรึกษาในหลาย ๆ ด้านของชีวิต ไปดูดวงไม่เห็นจะเสียหายตรงไหนเลยไม่ใช่หรือ?

     

    แต่ผมก็มีเหตุผลหลายประการที่ทำให้ผมไม่สนับสนุนการดูดวง

     

    1. เป็นการใช้ข้อมูลที่ไร้หลักฐานในการตัดสินใจ

    สำหรับคนที่บอกว่าการดูดวงเป็นการหาคำปรึกษานั้น ผมกลับคิดว่า คำปรึกษาลอย ๆ ที่ไร้หลักฐานนี้อาจจะมีข้อเสียมากกว่าข้อดีด้วยซ้ำ

     

    ยกตัวอย่างการไปดูดวงของคู่รักว่าเป็นคู่แท้หรือไม่ ถ้าหมอดูบอกมาว่าคนนี้ไม่ใช่คู่แท้ แล้วเราไปเลิกกับเขาไป เราก็อาจจะเสียโอกาสที่ดีไป หรือในทางกลับกัน ถ้าเขาบอกว่าคนนี้เป็นคู่แท้แล้วเราเชื่อไปโดยไม่ยั้งคิด ก็อาจจะทำให้เราต้องเสียใจในภายหลัง

     

    คนที่จะสามารถบอกได้ดีที่สุดว่าเขาเป็นคู่แท้หรือไม่นั้น ก็คือตัวเราเอง ใช้ความคิดความรู้สึกของเราเอง ไม่ใช่ใช้วันเดือนปีเกิดหรืออะไรก็ตามที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับความรัก

     

    ส่วนคนที่บอกว่าการดูดวงช่วยให้สบายใจขึ้นนั้น ผมไม่เถียงจุดนั้น บางทีการดูดวงอาจทำให้รู้สึกสบายใจขึ้นจริง ๆ ก็ได้ แต่ผมคิดว่าความสบายใจที่ได้มานี้มันเป็นดาบสองคม คือมันก็มีสิทธิทำให้เรารู้สึกดี แต่ถ้าปรากฎว่าความจริงนั้นไม่เหมือนกับที่เราเชื่ออยู่ ก็อาจทำให้เรารู้สึกแย่ยิ่งกว่าเดิม ถ้าความสบายใจเราไม่ได้มีรากฐานอยู่ในความเป็นจริง มันก็ไม่ต่างอะไรกับการหลอกตัวเอง

     

    2. เป็นการแสดงความไร้วิจารณญาน

    ในโลกอุดมคติ ผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์มากขึ้นเรื่อย ๆ ก็ควรจะมีความสามารถในการตัดสินใจมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ทำไมในปัจจุบันยังพบเห็นคนใหญ่คนโต บางทีเป็นถึงระดับผู้บริหารประเทศ ที่ยังไปดูดวงอยู่?

     

    ผมพูดตรง ๆ เลยว่า เป็นเรื่องที่น่าสมเพชที่สุด ถ้าคุณเป็นเด็กที่ยังไร้ประสบการณ์ผมจะไม่ว่าอะไรเลย แต่ถ้าคุณเป็นผู้ใหญ่แล้วยังเชื่อเรื่องงมงายเหล่านี้อยู่ ก็เหมือนกับคุณพูดออกมาว่า “ผมไร้วิจารณญาน ผมขาดความสามารถในการตัดสินใจ ผมแยกไม่ออกระหว่างโลกแห่งความงมงายกับโลกแห่งความเป็นจริง ผมเลือกที่จะเชื่อนิทานหลอกเด็กอยู่”

     

    ผมอยากบอกกับผู้ใหญ่ทุกคนที่ยังเชื่อการดูดวงอยู่ว่า คุณโตแล้วนะ ช่วยออกจากโลกแห่งนิทานหลอกเด็กแล้วทำตัวให้สมเป็นผู้ใหญ่หน่อยเถอะ ผมทนดูไม่ได้แล้ว

     

    3.เป็นการปิดกั้นโอกาสตนเอง

    นี่เป็นเหตุผลใหญ่ที่สุดที่ทำให้ผมต่อต้านการดูดวง คือเพราะว่ามันเป็นการไปจำกัดชีวิตและปิดโอกาสตนเองโดยใช่เหตุ

     

    คิดง่าย ๆ ว่า ถ้าดวงดาวบอกว่าเราจะมีนิสัยแบบนี้ แล้วเราต้องไปเชื่อตามมันหรือเปล่า?

    ถ้าลายมือบอกว่าเราจะประสบชะตาอย่างนี้ แล้วมันจำเป็นต้องเป็นไปตามนั้นหรือเปล่า?

     

    แต่ละคนย่อมมีความเป็นตัวของตัวเอง และมีเส้นทางชีวิตที่ตัวเองมีสิทธิเลือกได้ สิ่งที่กำหนดชะตากรรมของเราไม่ใช่ดวงดาว ไม่ใช่วันเกิด ไม่ใช่เส้นบนมือ ไม่ใช่เค้าโครงหน้า ไม่ใช่เรื่องงมงายใด ๆ ทั้งสิ้น

     

    มันคือตัวของเราเอง

     

     

    ท้ายสุดนี้ผมขอย้ำว่า ผมไม่สามารถติคนที่ดูดวงโดยที่เข้าใจว่ามันเป็นการบันเทิงหรอก ใคร ๆ ก็มีวิธีหาความบันเทิงเป็นของตัวเอง บ้างก็ชอบดูหนัง ดูมายากล(เช่นตัวผมเอง) หรืออ่านการ์ตูน เป็นต้น

     

    แต่คนที่ผมจะวิจารณ์คือคนที่เชื่อว่าการดูดวงมีมูลความจริง เหมือนกับการที่ผมคงจะติเตือนคนที่เชื่อว่าหนังที่ดูในโรงเป็นเรื่องจริง คนที่เชื่อว่านักมายากลมีเวทมนตร์จริง และคนที่เชื่อว่ามิกกี้ เมาส์มีจริง

     

    ในเรื่องดูดวงผมขอจบเพียงเท่านี้ และในบทความหน้าผมจะขึ้นหัวข้อใหม่
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×