ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic EXO]Beauty Poison (LUBAEK)

    ลำดับตอนที่ #7 : Beauty Poison 6:Destroy

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 871
      7
      8 พ.ค. 57

     

    -6-

    Destroy

    ไม่มีความโหดร้ายใดเทียบเท่ากับความโหดร้ายที่มนุษย์กระทำต่อกันเอง

    ไม่มีความอัปยศใดเทียบเท่ากับความอัปยศที่มนุษย์คนหนึ่งหยิบยื่นให้แก่เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

     

     

    แบคฮยอนหวังอยู่ตลอดเวลาว่าจะต้องได้กลับมาหากไม่ใช่การกลับมาในสถานภาพเช่นนี้  ร่างบางแทบล้มทั้งยืนเมื่อพบว่าลู่หานพาเขามายังสถานที่แบบไหน  ไม่ใช่คุก  ไม่ใช่สถานกักกันนักโทษ  แต่มันเป็นบ้านของเขา—บ้านตระกูลพยอน  บ้านอันเคยมีบรรยากาศอบอวลไปด้วยความรักและอบอุ่นหากในเวลานี้มีกลิ่นสาปของคาวเลือดและความชั่วร้าย  ต้นมูกุงฮวาซึ่งเป็นต้นไม้โปรดของพ่อถูกถอนออกไปจนไม่มีเหลือ  สวนดอกไม้ที่แม่ดูแลเป็นอย่างดีในเวลานี้กลับแห้งเหี่ยวไร้ซึ่งการดูแล  กุหลาบพันปีพันธุ์อาซาเลียอันเป็นพันธุ์ที่เขาโปรดปรานมากที่สุดกำลังจะตาย นั้นทำให้แบคฮยอนเสียใจเพราะเหตุใด   สิ่งรอบตัวของเขาจึงถูกทำลายอย่างไม่มีเหลือแม้กระทั่งดอกไม้

     

    ร่างบางสะดุ้งอีกทีเมื่อถูกโอบไหล่เอาไว้ด้วยมือแกร่งของคนตัวสูงกว่า  ลู่หานบีบไหล่เขาจนเจ็บร้าวแล้วกระชากแขนลากเขาเข้าไปในบ้านแม้ว่าในเวลานี้เท้าของเขาจะหนักอึ้ง  แบคฮยอนเอี้ยวตัวออกจากลู่หานแล้วหันกลับไปมองหารถม้าอีกคันซึ่งในนั้นมีนักโทษกบฏของลู่หานหรือก็คือพี่ชายของตนนั้นเอง  เขาเห็นทหารญี่ปุ่นลากบีบอมซึ่งมีสภาพไม่ต่างจากซากผักลงมาจากรถม้าและเหวี่ยงบีบอมลงไปกับพื้น

     

    “อย่าทำรุนแรงกับเขานะ!”แบคฮยอนลืมตัวว่ามีสายตาคมกล้าคู่หนึ่งจับสังเกตตนอยู่  ร่างบางวิ่งไปหาพี่ชายแล้วประคองศรีษะของบีบอมขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง  มือเรียวลูบใบหน้าของพี่ชายซึ่งมีแต่แผล  เลือดและเศษฝุ่นเปรอะเปื้อนจนไม่เหลือเค้าของบุรุษผู้หล่อเลา  ก้มลงกระซิบเรียกชื่อพี่ชายของตนหมายให้อีกฝ่ายลืมตาขึ้นมา  ลมหายใจของบีบอมช่างแผ่วเบานัก—แผ่วเบาจนน่ากลัว 

     

    ลู่หานแสยะยิ้มกับภาพความรัก  ความห่วงหาตรงหน้าระหว่างชายหนุ่มร่างสูงกับหนุ่มน้อยตัวบางหน้าหวานผู้สวมใส่ชุดฮันบกโบราณสีชมพูอ่อน  เป็นดั่งภาพเขียนบอกเล่าถึงความรักได้อย่างลึกซึ้งจับใจ—ผู้พันหนุ่มพยักหน้าให้แก่ลูกน้องของตนเพื่อแยกทั้งสองคนออก  หมดเวลาเล่นบทรักประโลมโลก   ลุ่หานเข้าไปดึงตัวแบคฮยอนออกมาเช่นกัน  ปล่อยให้ลูกน้องหิ้วปีกบีบอมออกไปอีกทาง

     

    “จะเอาเขาไปไหน!  ปล่อยเขา  อย่าลากเขาแบบนั้น  ไม่เห็นหรือไงว่าเขาไม่สบายมาก  ไอ้พวกบ้า!!”แบคฮยอนสบถคำหยาบคายออกมา  หมายวิ่งเข้าไปเอาตัวพี่ชายออกมาจากทหารชั่วแต่โดนกระชากแขนจนแทบล้มคว่ำไปกับพื้น  ลู่หานลากแบคฮยอนเข้าไปในบ้านแม้ว่าเขาจะยื้อเอาไว้สุดตัวแค่ไหนก็ตาม 

     

    ลู่หานสั่งให้ลูกน้องพาบีบอมไปขังไว้ในกรงเสืออันว่างเปล่า  น่าเสียดายที่เสือโคร่งตัวนั้นตายไปเสียก่อนทำให้บีบอมต้องนอนคนเดียว  แน่นอนว่าลู่หานยังไม่ยอมให้บีบอมตายในตอนนี้—เขาเรียกหมอมารักษาแล้ว  ที่ทำไปทั้งหมดแค่การตกปลาแถมในตอนนี้ยังได้ปลาสีสวยที่เขาพอใจ—ไม่ต้องห่วง  ทุกคนในตระกูลพยอนยังไม่ตายตอนนี้แน่ยังไม่ตายจนกว่าจะตามหาตัวแทซันพบ

     

    “พามาที่นี่ทำไม!”แบคฮยอนถามเสียงกร้าว  ทั้งโกรธทั้งเสียใจจนรวมเป็นเกลียดสุดขั้วหัวใจ  มองหน้าผู้พันหนุ่มด้วยความชิงชัง  แม้คนตรงหน้าจะรูปงามมากกลับมีจิตใจชั่วช้าจนทำให้แบคฮยอนเห็นว่าอีกฝ่ายน่าเกลียดน่ากลัวเหลือแสน

     

                “จงอิน  จงอิน!”ลู่หานไม่ตอบคำถามของแบคฮยอน  เขาตะโกนเรียกลูกน้องคคนสนิทเพียงครู่จึงปรากฏร่างของชายหนุ่มผู้มีชื่อว่าจงอิน  แบคฮยอนหรี่ตามองจงอินด้วยความรู้สึกคุ้นตาแต่เมื่อจงอินหันมามองด้วยใบหน้าเย็นชาและสายตาน่ากลัวไม่ผิดกับนายของตนจึงทำให้แบคฮยอนกระพริบตาถี่ๆ แล้วก้มหน้าหลบสายตากร้าวคู่นั้น

     

                “ทีนี้ก็มาพูดเรื่องของเรา”ลู่หานก้าวประชิดตัวแบคฮยอนหลังจากที่เขากระซิบกระซาบสั่งการอะไรบางอย่างกับจงอินไปเมื่อครู่  ลู่หานโอบเอวของแบคฮยอนเอาไว้ป้องกันอีกฝ่ายหนี  โน้มหน้าเข้าไปหาแบคฮยอนซึ่งเอนหนีจนหลังแทบติดพื้นแต่การทำแบบนั้นทำให้ช่วงกลางลำตัวของแบคฮยอนและลู่หานแนบสนิทกันมากขึ้น

     

                “ผมไม่มีอะไรจะคุยด้วย!”แบคฮยอนเสียงกร้าว  หัวใจของเขาเต้นแรงด้วยความขยาดกลัว  ขนลุกชันไปทั้งตัวด้วยความรังเกียจ  พอได้อยู่กันสองคนแบบนี้มันทำให้เหตุการณ์ในค่ำคืนอันเลวร้ายโผล่เข้ามาในความทรงจำ  แบคฮยอนกระตุกเฮือก  ดวงตาเบิกกว้างแล้วรวบรวมกำลังผลักลู่หานออกไป  เขาหันหลังจะวิ่งหนีแต่ถูกรวบเอาไปกอด..อีกแล้ว

     

    “มีสิเรื่องของเรายังไงล่ะ  นายจำพี่ไม่ได้จริงๆ เหรอ พยอนแบคฮยอน

     

    “ผมไม่ใช่พยอนแบคฮยอน  ผมคือลีแบคฮยอนและผมไม่เคยรู้จักคุณ!”แบคฮยอนขนลุกกับเสียงออดอ้อนของลู่หาน  ไร้ซึ่งความจริงใจและถึงแม้ว่าเขาจะเป็นพยอนแบคฮยอน  เขาก็มั่นใจว่าเศษเสี้ยวของความทรงจำไม่เคยมีบุคคลนี้ปรากฏอยู่  ในชีวิตที่ผ่านมาของคุณหนูพยอนแบคฮยอนไม่เคยได้รู้จักกับชายผู้โหดเหี้ยมเช่นนี้

     

    “พี่เสียใจ”พูดว่าเสียใจหากใบหน้ายังยิ้มแย้มเลือดเย็น  ลู่หานหมดมุขจะพูดต่อเมื่อมีกีแซงตัวหอมอยู่ในอ้อมกอดเช่นนี้  กลิ่นกายของแบคฮยอนจุดให้เขานึกถึงค่ำคืนนั้นที่เคยใช้เวลาอยู่ร่วมกัน  เด็กหนุ่มร่างกายผอมบางคนนี้ทำให้เขาพึงพอใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนกับนางคนอื่นๆ  น่าแปลกใจยิ่งนักราวกับว่ามีมนต์เสน่ห์ลึกลับบางอย่างทำให้เขาต้องการอย่างไม่รู้พอ  ดูเหมือนว่าจุดประสงค์การพากีแซงหนุ่มมาจะผิดเพี้ยนไปเสียแล้ว  จากคราแรกต้องการล้วงความจริงออกมาจากปากของอีกฝ่าย  ในเวลานี้กลับอยากทำอย่างอื่นเสียมากกว่าในเมื่อแบคฮยอนพยศเสียขนาดนี้  เขามีวิธีปราบพยศแบคฮยอนในแบบรุนแรงและมีความสุขไปพร้อมๆ กัน

     

    “อย่าทำแบบนี้นะ!”แบคฮยอนหดคอหนีเมื่อลู่หานจุมพิตลงบนหลังคอของตนและเริ่มจูบไปทั่วทั้งลำคอและไหล่บาง  ร่างบางกลัวจนตัวสั่น  กลัวสัมผัสของลู่หาน  กลัวความโหดร้ายของชายหนุ่ม  กลัวว่าตัวเองจะเจ็บเจียนตายอีก 

     

    “พยอนแบคฮยอนใช่หรือไม่?”ลู่หานถามอีกครั้ง  เขาไม่ได้เลิกสงสัยในตัวของกีแซงหนุ่มแต่มีวิธีสนุกกว่าที่จะรีดความจริงออกมา  ลู่หานเอื้อมมือมาปลดเชือกเสื้อมากาโจของแบคฮยอน  เขาแวกมันออกแล้วส่งมือไปลูบไล้ทั่วแผงหน้าอกบางซึ่งมีเสื้อซับสีขาวอีกตัวขวางกั้นอยู่หากเนื้อผ้าของเสื้อซับด้านในถูกออกแบบมาให้บางอยู่แล้ว  ดังนั้นเขาจึงรู้สึกว่าได้สัมผัสเนื้อหนังของแบคฮยอนเสียมากกว่า  เขาลากมือปัดผ่านเม็ดยอดอกจนนึกอยากบีบขยี้   

     

    “มะ  ไม่ใช่ลีแบคฮยอน  ลีแบคฮยอนลูกพ่อค้า!”แบคฮยอนแทบสะอื้น  เขานั้นไม่อาจยอมรับได้ว่าตนเป็นใคร  เขานั้นมีสิ่งยิ่งใหญ่ที่ได้รับมอบหมายให้ทำ แต่เขานั้นกลัวกลัวลู่หานเหลือเกิน   แบคฮยอนแกะมืออีกข้างของลู่หานซึ่งโอบเอวของตนไว้   ครั้นเขาหยิกก็โดนลู่หานกัดลงตรงหัวไหล่จนน้ำตาซึม   พอเขาตีก็โดนลู่หานขบเม้มลำคอด้านหลังจนทำให้แข้งขาอ่อนแรง   ลู่หานสมกับเป็นชายผู้ผ่านเรื่องแบบนี้มามาก—ผู้พันหนุ่มจับจุดอ่อนของแบคฮยอนได้หมด

     

    “ไม่ว่าพยอนแบคฮยอนหรือลีแบคฮยอนก็เป็นได้แค่หมากตัวหนึ่งบนกระดานของพวกเกาหลีชั่วช้า  แต่มันน่าเจ็บใจชะมัด--ไอ้พวกนั้นประเมินฉันต่ำเกินไปหรือประเมินความสามารถของนายสูงเกินไป  แต่ไม่ว่ายังไง--หมากกระดานนี้  ฉันเท่านั้นที่เป็นผู้ชนะ”

     

    “ผมไม่ใช่หมากบนกระดานของใคร  ผมไม่รู้เรื่องอะไรของพวกคุณทั้งนั้น! และตอนนี้ผมต้องการไปหาบีบอม  ผมต้องไปหาเขา”

     

    “ทำไม!!  บีบอมมีความสำคัญอะไรมากมายขนาดนั้น”

     

    “เขาเป็นคนรักของผม!

     

    “งั้นเราคงมีเรื่องให้คุยกันอีกยาว”ลู่หานจับตัวแบคฮยอนพริกกลับมาพร้อมป้อนจูบเร่าร้อนให้อีกฝ่าย  ตอนนี้แบคฮยอนเหลือเพียงเสื้อซับในสีขาวและกางเกงผ้าแพรเนื้อลื่นแบบสวมที่มันช่างดึงออกได้อย่างง่ายดาย  ชุดฮันบกของกีแซงมีข้อดีที่สุดตรงถอดออกง่ายและไม่ขัดอารมณ์

     

     

     

     

     

    ลึกลงไปด้านล่างของบ้านตระกูลพยอนมีห้องลับใต้ดินที่น้อยคนนักจะรู้นอกจากเจ้าของบ้านคนเก่าและเจ้าของบ้านคนใหม่ที่ตอนนี้กำลังสนุกอยู่กับการเค้นความจริงออกมาจากปากของกีแซงหนุ่ม  จงอินเดินลงบันไดที่ทั้งมืดทั้งเหม็นอับ  มือข้างนึงถือตะเกียงเจ้าพายุเพราะยิ่งลึกยิ่งมืด  เขาหยุดอยู่ตรงหน้าประตูไม้แล้วไขกุญแจเข้าไปในนั้น  จงอินต้องก้มหัวลงเล็กน้อยเพราะความสูงของเขาเลยประตูไปแล้ว  เมื่อเข้ามาด้านในจะพบว่ามันกว้างขวางมากพอจนทำให้มีห้องนอนและห้องน้ำไปในตัว  เขาถอนใจแล้ววางตะเกียงเจ้าพายุลง  เดินไปเปิดไฟแล้วพบว่ามีร่างของหญิงสาวสองคนนั่งคุดคู้อยู่ตรงมุมห้อง

     

    หนึ่งในสองนั้นสวยสะพรั่งและอยู่ในวัยสาวเต็มตัว  ส่วนอีกคนเป็นหญิงวัยกลางคนท่าทางสุขภาพไม่ค่อยดี  ทั้งสองหยีตาขึ้นและเมื่อเห็นว่าผู้มาใหม่เป็นใครก็ทำหน้าทั้งหวาดกลัวและโล่งใจ

     

    “ทำไมคุณไม่ขึ้นไปนอนบนเตียงครับ”จงอินเดินเข้าไปใกล้  เขาไม่ได้มีท่าทางรุกรานและพูดกับเธอทั้งสองด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเสียด้วยซ้ำหากเธอทั้งสองกลับหดตัวหนีด้วยความหวาดกลัว  จงอินมองสภาพกึ่งคนกึ่งสัตว์เช่นนั้นด้วยความเห็นใจเล็กน้อย  เขาเดินไปยังเตียงนอนขนาดคิงไซส์แล้วพบว่ามีทั้งคราบอ้วกและคราบเลือด  สภาพยับเยินเสียจนนอนไม่ได้  คราบอ้วกคิดว่าหนึ่งจากในสองคนนั้นคงไม่สบาย  ส่วนคราบเลือดนั้นคงเกิดจากการโดนกระทำอะไรสักอย่าง

     

    จงอินรื้อผ้าปูเตียงออก  เขาตั้งใจจะเอามันไปซักให้แม้รู้ว่าการอ่อนโยนและดูแลเอาใจใส่เชลยของนายอาจทำให้เขาอาจถูกตีหรือโดนต่อว่าอย่างรุนแรง  ลู่หานเป็นพวกระงับความโกรธไม่เป็นและมักทำร้ายคนอื่นอย่างรุนแรงจนพอใจจึงหยุดหรือไม่ก็ต้องโดนน็อคให้หมดสติ  ในบางครั้งจงอินยังเป็นฝ่านน็อคลู่หานเหมือนกัน

     

    “วันนี้เขาจะมาที่นี่ไหม”หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ  ดวงตาคู่สวยสั่นระริก  เธอกอดตัวเองไว้ราวกับป้องกันตัวจากอะไรสักอย่าง

     

    “วันนี้อินซองไม่สบาย  อย่าให้เขาลงมาที่นี่  ต้องห้ามเขานะ”หญิงวัยกลางคนกอดคนเป็นลูกสาวของเธอเอาไว้  ทุกครั้งเวลา เขา ลงมาที่นี่   เธอจะถูกโยนเข้าไปในห้องน้ำและขังเอาไว้หลังจากนั้นเธอจะได้ยินเพียงเสียงร้องไห้ของลูกสาว  พอถูกปล่อยตัวออกมา เธอพบลูกสาวนอนร้องไห้อยู่บนเตียงเป็นประจำ  ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนคนนั้นทำอะไรกับลูกสาวของเธอ   หัวใจคนเป็นแม่แทบสลาย

     

    “เขาจะไม่ลงมาแต่คุณต้องขึ้นไปหาเขา”จงอินคว้าปืนซึ่งเหน็บเอาไว้ข้างตัวออกมาจ่อตรงหน้าของสองแม่ลูก  เขาพยักเพยิดไปที่ประตูแต่สองแม่ลูกยังคงนิ่ง

     

    “ฟังผมนะ—อย่าดื้อและเดินไปที่ประตู  ผมไม่อยากทำร้ายคุณสองคนแต่ผมต้องทำตามคำสั่งของเจ้านายเช่นกัน”จงอินกระชากตัวลูกสาวหรืออินซองขึ้นมา  ผลักเธอไปทางประตูและดึงคนเป็นแม่ขึ้นมา  ใช้ปืนจี้หลังทั้งสองเดินขึ้นบันได

     

    พาตัวคุณหญิงพยอนกับอินซองมาที่นี่  ฉันต้องการจัดงานฉลองวันครอบครัวให้พวกมัน

     

    คำสั่งของผู้พันลู่หานที่ถ่ายทอดมายังเขาทำให้เขาต้องพาสองแม่ลูกขึ้นไปด้านบนหลังจากถูกขังอยู่ในนี้มาเกือบครึ่งปี  ในตอนนี้ยังมีพยอนบีบอมถูกจับแล้วและถูกขังอยู่ในกรงเสือหลังบ้าน  ทั้งเด็กหนุ่มสวมชุดฮันบกคนนั้นมองแล้วรู้ว่าคงเป็นคนของสำนักกีแซงฮันวอลที่เขาคุ้นหน้าเหลือเกิน หรือจะเป็น!!

     

    จงอินหยุดชะงักเมื่อนึกถึงใบหน้าหมดจดของกีแซงชายที่มาพร้อมผู้พันลู่หานเจ้านายของเขา  หากเขาไม่คิดว่าโลกจะโหดร้ายปานนั้น—แต่จงอินอาจลืมไปว่าในเวลานี้เขากำลังอยู่ในโลกอันโหร้ายเหลือประมาณ  ทั้งสงครามและความอดอยาก  โลกใบนี้โหดร้าย  โหดร้ายเสมอดังที่เขาเห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน  มนุษย์ฆ่ามนุษย์ด้วยกันเอง  มนุษย์ทารุณเผ่าพันธุ์เดียวกันเพื่อสนองความสะใจส่วนตัว 

     

    จงอินสะบัดหน้าไล่ความหวาดวิตกกังวลใจนั้นออกไป  เขาหวังเพียงว่ากีแซงคนนั้นจะไม่ใช่—ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะใช่  เขาภาวนาให้ตระกูลพยอนรอดจากเงื้อมือของลู่หานไปสักคนและสักคนนั้นก็อยากให้เป็นคุณหนูเล็กของตระกูลพยอน  คุณหนูเล็กผู้มีน้ำใจและน่ารักสดใสเหลือเกิน—

     

     

     

     

     

     

    แบคฮยอนเหมือนคนกำลังจมน้ำ  ขาดอากาศหายใจและกำลังจะตายเสียให้ได้  ลู่หานจูบและจูบเขาจนปากร้อนบวมเจ่อ  จูบของลู่หานนั้นเร่าร้อน  รุนแรงและปล้นเอาลมหายใจของเขาไปเกือบทั้งหมด  กดจูบหนึ่งครั้งกินเวลายาวนานหลายนาทีและเมื่อผละออกยังไม่ทันได้หายใจก็กดจูบย้ำลงมาใหม่และเนิ่นนานหลายนาทีเช่นกัน 

     

    แบคฮยอนผลักไสและตะเกียกตะกายหนีเท่าไหร่กลับไร้ผล  ถูกกระทำอยู่ตรงโซฟากลางบ้านหลังที่ตนเติบโตมา  ตรงห้องรับแขกโล่งโจ่งไม่มีประตูกั้น  มีแม่บ้านเดินผ่านไปมาหรือกระทั่งพวกทหารญี่ปุ่นเดินเข้าออกผ่านตรงนี้  มันทำให้เขาอายแทบแย่แต่ลู่หานกลับไม่สะทกสะท้าน  ยังคงบ้าปล้ำจูบเขาเหมือนไม่รู้อะไรอีกแล้วนอกจากจูบ  จูบและจูบเท่านั้น   

     

    เสื้อมากาโจตัวยาวถูกกองไว้ตรงพื้น  เสื้อซับตัวบางของเขาเลิกขึ้นมาเหนือราวนมและมือของลู่หานไม่ได้ผละออกจากหน้าอกของเขาเลย

     

    “มาเล่นเกมกันไหม  ฉันจะบอกเรื่องตระกูลพยอนให้ฟังทีละเรื่องแลกกับการที่นายเล่าเรื่องครอบครัวของนายให้ฉันฟัง  ถ้าฉันฟังเรื่องของนายแล้วรู้สึกว่าไม่เชื่อหรือจับได้ว่าโกหกโดนหนักแน่”ลู่หานดึงตัวแบคฮยอนขึ้นมานั่ง   เขาวางมือพาดไหล่แบคฮยอนและใช้ขาอีกข้างวางพาดตักแบคฮยอนจนอีกฝ่ายหมดทางหนีอย่างแน่นอน   แบคฮยอนกำลังหอบไม่ทันได้ฟังอะไรและต้องสะดุ้งเมื่อลู่หานจับใบหน้าของตนให้หันไปมอง

     

    “ว่าไงมาเล่นกันไหม”

     

    “ไม่!

     

    “ไม่อยากรู้เรื่องชั่วช้าของตระกูลพยอนหรือไง”

     

    “พวกเขาเป็นคนดี  โอ้ย..”แบคฮยอนเถียงกลับเสียงแข็งดวงตากร้าวแต่กลับร้องด้วยความเจ็บปวดเมื่อลู่หานบีบคางของเขาจนกระดูกแทบแตก 

     

    “รู้สึกว่าจะปกป้องกันดีจริงนะ  ฉันยังไม่เลิกสงสัยในสิ่งที่ฉันสงสัยหรอก  กีแซงหนุ่มโผล่มาในตอนที่คุณหนูคนเล็กของตระกูลพยอนหายไป  ซ้ำวันนี้ยังทำท่าอย่างกับว่าจะลงไปตายแทนไอ้บีบอมมันอย่างนั้นเหละ  ถึงจะอ้างว่าเป็นคนรักแต่หน้าอย่างนี้เหรอที่ไอ้บีบอมมันจะชอบ  ไอ้นั่นมันวนเวียนอยู่กับพวกลูกสาวของตระกูลดังและไม่ได้นิยมเด็กหนุ่มหน้าหวานหรอกนะ”ลู่หานปล่อยมือจากคางของแบคฮยอนด้วยความหงุดหงิด  เขาเกลียดเวลาได้ยินคนสรรเสริญตระกูลพยอน

     

    แบคฮยอนนิ่งอึ้งไป  จะว่าไปแล้วเขาก็ไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับพี่ชายของตนนักด้วยอายุที่ห่างกันสิบปีทำให้ไม่ได้ใกล้ชิดกันมากแต่พี่บีบอมใจดีกับเขาเสมอ  นั้นคือสิ่งที่แบคฮยอนรู้มาโดยตลอด—กลายเป็นว่าแบคฮยอนไม่เคยรู้อะไรเลยและไม่รู้เลยว่าคนตรงหน้าเป็นเพื่อนของบีบอมจริงๆ หรือแค่แกล้งพูดตามประสาคนเล่ห์เหลี่ยมจัดเท่านั้น

     

    “พยอนแทซันฆ่าคนบริสุทธิ์มากมายเพื่อให้ตนเองได้เป็นใหญ่  ตำแหน่งนายพลได้มาจากการยัดเยียดข้อกล่าวหาให้กับครอบครัวของเพื่อนรัก   การได้เป็นคนสนิทและได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยจากพระราชาจะนำมาซึ่งอำนาจและเงินทอง  ในตอนนั้นแม้แต่เพื่อนรักที่เคยร่วมรบด้วยกันมาพยอนแทซันยังทำได้ลงคอ   ฆ่าทุกคนในบ้านหลังนั้นเริ่มจากคนรับใช้  คนสวน  นายหญิงของตระกูลและเพื่อนรักของตัวเอง  ผู้พันแฮซูคือชื่อของเขา  เขาโดนเพื่อนรักของตัวเองยิงตายในห้องทำงานของตัวเอง  ในห้องที่เขากับแทซันมักใช้เวลาเล่นหมากรุกด้วยกันอยู่บ่อยๆ”

     

    “ไม่จริง!”แบคฮยอนส่ายหน้าไม่เชื่อเด็ดขาด  ร่างบางลุกขึ้นหมายจะหนีไปจากเรื่องโกหกหลอกลวง  ลู่หานกระชากแขนแบคฮยอนแล้วผลักให้ลงไปนอนบนโซฟา  ลู่หานตามขึ้นทาบทับอย่างรวดเร็ว  เขาจับมือทั้งสองของของแบคฮยอนที่ยกขึ้นมาปิดหูตัวเองเอาไว้ 

     

    “ฉันยังเล่าไม่จบ  ห้ามลุกหนี!

     

    “คุณแต่งเรื่องทั้งนั้น  ผมรู้จักตระกูลพยอน  ผมรู้จักนายพลพยอนแทซัน  ผมรู้จักพวกเขาดี  พวกเขาเป็นคนดี  จิตใจดี  พวกเขาไม่มีทางฆ่าใคร!

     

    “มันเป็นคนฆ่าพ่อแม่ของฉัน!  ฉันเห็นทุกอย่างกับตา”ลู่หานตะคอกเสียงดังลั่นเมื่ออีกฝ่ายเอาแต่แก้ต่างหใตระกูลพยอน  ดวงตาของลู่หานมักแดงก่ำเสมอในเวลาที่เขาโกรธและโมโหจนถึงขีดสุดหากใครเล่าจะได้เห็นว่ามันซ่อนบาดแผลและความเจ็บปวดเอาไว้อย่างมากมาย 

     

    “น้องสาวของฉันหนีออกจากบ้านไปหาไอ้บีบอม  ผู้ชายที่ยัยน้องสาวโง่เง่าของฉันไว้ใจแม้ว่าพ่อของมันจะเพิ่งฆ่าทุกคนในบ้านของเราตาย  ฉันเตือนแล้ว  ฉันบอกเธอแล้วแต่เขาไว้ใจพี่ชายของแกโดยที่ไม่รู้ว่าพี่แกมันเลวร้ายมากแค่ไหน  น้องสาวของฉันฆ่าตัวตายเพราะมัน”เหมือนกับทุกสิ่งทุกอย่างหมุนวนมาตรงหน้าอีกครั้ง  ภาพข้างตัวของเขาเริ่มเปลี่ยนไป  เขาถูกดึงย้อนกลับไปในคืนนั้นเมื่อสิบปีที่แล้ว 

     

    เขาเห็นตัวเองแอบอยู่ในห้องแคบๆ หลังชั้นวางหนังสือในห้องทำงานของพ่อ  มันเป็นช่องลับเอาไว้สำหรับเก็บเงินและทองจำนวนมากของพ่อและกลายเป็นที่หลบภัยของเขา  เขามองลอดออกมาระหว่างช่องของชั้นวางหนังสือ--เห็นพ่อกับแม่ถูกมัดคุกเข่าอยู่ตรงหน้าชายร่างสูง 

     

    แม่ร้องไห้อ้อนวอนส่วนพ่อเอาแต่นิ่งไม่ยอมพูดอะไร  มันยิงแม่ของเขาก่อนตามด้วยพ่อของเขา  หลังจากนั้นก็ร้อนเหมือนอยู่ในนรก—บ้านถูกเผาวอดวายทั้งหลัง  ในตอนนั้นเขากำลังกอดศพพ่อกับแม่เอาไว้  พยายามปลุกท่านทั้งสองคนจนกระทั่งควันลอยเข้ามาในห้องหนังสือจนเต็มไปหมด  หายใจไม่ออกและคิดว่ากำลังจะตาย 

     

    เขาถูกดึงให้วิ่งและช่วยให้รอดด้วยลูกชายของคนสวน  คิมจงอิน เป็นผู้ช่วยชีวิตของเขาไว้  ตอนนั้นจงอินร้องไห้อยู่เช่นกัน  เสื้อเปื้อนเลือดของจงอินทำให้ลู่หานรู้ว่าพ่อกับแม่ของจงอินคงไม่อยู่แล้ว  โชคดีเพียงอย่างเดียวในตอนนั้นคือตอนที่หันไปเห็นน้องสาวนั่งกอดตัวเองแล้วร้องไห้อยู่ในสภาพครบ 32 และปลอดภัยทำให้เขาโล่งใจขึ้นมาบ้าง  เขาคิดว่าสวรรค์ยังมีเมตตาเพราะยังให้เขาเหลือนางฟ้าตัวน้อยอยู่ข้างๆ แต่แล้วนางฟ้าตัวน้อยกลับบินหนีเขาไป 

     

    เขาวิ่งตามเธอไปจนเห็นว่าเธอหยุดที่หน้าบ้านซอมซ่อหลังหนึ่งซึ่งอยู่ตรงเชิงเขา  เขาเพิ่งรู้ว่าไอ้บีบอมมักนัดเธอมาที่นี่—เธอบอกว่ามันเป็นที่ลับระหว่างเธอกับไอ้บีบอม  เขาเตือนเธอว่า ไอ้บีบอมคือลูกของศัตรูแต่เธอไว้ใจบีบอมมากเหลือเกิน  ทั้งรักทั้งหลง  เธอเข้าไปหาบีบอม--เธอได้พบว่าบีบอมไม่ได้มีเธอแค่คนเดียว  มันกำลังอยู่กับผู้หญิงอีกคนซึ่งก็คือเพื่อนสนิทของเธอ 

     

    เวลานั้นนางฟ้าตัวน้อยตัดสินใจหยิบสิ่งชั่วร้ายที่ไม่เหมาะจะอยู่ในมือเธอ—ปืนสีดำจ่อขมับและเธอก็บินหนีจากเขาไปตลอดกาล

     

      “ไอ้แทซันจะต้องลงไปอยู่ในจุดเดียวกับที่ฉันเคยอยู่  มันจะได้เห็นความวอดวายของทุกคนในตระกูลพยอน”ลู่หานยิ้มแล้วค่อยๆ หัวเราะออกมา  เขาหัวเราะทั้งที่ดวงตาปริ่มไปด้วยหยดน้ำ  เขาจะเก็บทุกคนในตระกูลพยอนเอาไว้ในบ้านหลังนี้และฆ่าพวกมันต่อหน้าแทซัน  เขาจะเผาบ้านพยอนให้วอดวายเช่นเดียวกับที่แทซันเผาบ้านของเขา

     

    “โกหก!!”แบคฮยอนตวาดเสียงกร้าว  เขาเชื่อมั่นในตัวของพ่อว่าคนตงฉินอย่างนายพลแทซันจะไม่มีวันทำอะไรที่โหดเหี้ยมเช่นนั้น  คนที่รับใช้พระราชาและแผ่นดินอย่างซื่อสัตย์เช่นพ่อไม่มีวันทรยศใคร  ผิดกลับคนตรงหน้าซึ่งทรยศแผ่นดิน—เช่นนั้น  เขาไม่มีวันเชื่อเรื่องโกหกนี้แน่ๆ

     

    “คนทรยศชาติอย่างคุณไม่ควรมาว่าร้ายคนดีๆ  แบบท่านนายพลแทซัน  ท่านนายพลรับใช้พระราชาและแผ่นดินอย่างซื่อตรง  เขาเป็นคนดี”

     

    “หุบปาก!

     

    “คนที่ควรหุบปากก็คือคุณ!  คุณมันเลวเกินกว่าที่ชื่อของคนดีๆ แบบท่านนายพลแทซันจะต้องมาแปดเปื้อนเพราะคุณ  คนที่อ๊ะ!”แบคฮยอนถูกบีบคอจนหายใจไม่ออก  คนตรงหน้ามีใบหน้าบิดเบี้ยวจนไม่เหลือเค้าความเป็นคนอยู่อีกแล้ว  แบคฮยอนดันตัวลู่หานออกและพยายามแกะมือของลู่หานก่อนที่ตนจะขาดอากาศหายใจ  น้ำตาเม็ดโตไหลออกมาจากหางตาทั้งสองข้าง  ดวงตาเรียวมองใบหน้าของลู่หานอย่างนึกสาปแช่งอยู่ในใจ

     

    ระหว่างที่แบคฮยอนกำลังจะขาดอากาศหายใจตายนั้น  ลู่หานเห็นใบหน้าของน้องสาวซ่อนทับกับใบหน้าของแบคฮยอนเสียอย่างนั้น  มันทำให้เขาสับสนจนปล่อยมือจากลำคอของแบคฮยอน  ลู่หานนั่งอย่างหมดแรงอยู่บนตัวของแบคฮยอน  ในขณะที่ร่างบางทั้งไอทั้งหอบจนน้ำตาไหลออกมาเป็นสาย

     

    ลู่หานทิ้งตัวลงบนตัวของแบคฮยอน  กลิ่นกายของเด็กหนุ่มเคยทำให้เขาตื่นตัวแต่มันก็ทำให้เขาผ่อนคลายได้เช่นกัน  ไอร้อนจากตัวของแบคฮยอนคือความอบอุ่นอันแสนพิเศษที่มาพร้อมกับมนุษย์ทุกคน—แค่กอด 

     

    ลู่หานสอดมือเข้าไปด้านหลังของแบคฮยอนแล้วทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมากว่าสิบปี—เขากำลังกอดแบคฮยอน  อาจเป็นเพราะเขาเพิ่งเล่าเรื่องราวในคืนอันโหดร้ายนั้นออกมาจึงทำให้เขาเสียความเป็นตัวเองไปชั่วครู่หนึ่งหรืออาจเป็นเพราะเขาเห็นน้องสาวของตนเองตอนมองผ่านแบคฮยอนเมื่อครู่นี้  ลู่หานหลับตาจินตนาการว่ากำลังกอดน้องสาวสุดที่รักของเขา—ตอนนี้เหมือนเขากำลังนึกอะไรบางอย่างออก  ใช่..กลิ่นกายอันน่าหลงใหลของแบคฮยอน—เขาเคยบอกคิดว่า หอมอย่างน่าประหลาด  ไม่เหมือนน้ำหอมชนิดไหนบนโลกเพราะอีกฝ่ายไม่ได้ใส่น้ำหอม  กลิ่นกายนี้เหมือนกลิ่นกายของน้องสาว—กลิ่นของนางฟ้า

     

    ตอนนี้เขากำลังเหนื่อยเพราะวิ่งและพุ่งชนทุกอย่างมาสิบปี  บางทีเขานึกอยากให้มันจบเสียที  ความโกรธแค้นอันยาวนาน  บางวันเหนื่อยล้าจนไม่อยากลืมตาหรือลุกจากที่นอน  เขายังหวังจะมีใครสักคนหนึ่งถือปืนมาฆ่าเขาให้ตาย—ตายไปจะได้ไม่ต้องมาอยู่กับวังวนบ้าๆ เช่นนี้  หากอีกความคิดหนึ่งกลับบอกเขาว่า ความพยายามของเขาใกล้จะสำเร็จแล้วตอนนี้เขามีคนในครอบครัวพยอนอยู่ในมือ  ทั้งกีแซงคนนี้อาจเป็นคุณหนูเล็กตระกูลพยอนก็เป็นได้  คงเหลือแต่ตามหาตัวแทซันในเจอและจบทุกอย่าง—จบความแค้นยาวนานสิบปี

     

    แบคฮยอนรวบรวมสติและผลักลู่หานออก  ร่างบางรีบลุกขึ้นแล้วลงไปนั่งกับพื้นเพราะไม่อยากนั่งบนโซฟาเดียวกับลู่หาน  ยกมือขึ้นลูบคอของตนแล้วพาลอยากจะร้องไห้ออกมาด้วยความหวาดกลัว—เขาเกือบตาย  เขาทั้งอยากวิ่งหนีและไม่กล้าวิ่งหนี  กลัวว่าถ้าวิ่งไปแล้วจะตาย  แต่อยู่ตรงนี้ก็อาจจะตายได้เหมือนกัน

     

    ลู่หานมองแบคฮยอนที่ทำหน้าสับสนและเหมือนกำลังจะร้องไห้ด้วยความรู้สึกมึนๆ งงๆ  เขาทำอะไรไปเมื่อครู่นี้หรือ—แทบไม่รู้ตัวเลย  ลู่หานยกมือขึ้นลูบใบหน้าของตัวเอง หายใจแรงๆ อยู่อีกหลายทีก่อนลดมือลงแล้วมองแบคฮยอนซึ่งอยู่ในสภาพเสื้อผ้าแทบจะหลุดรุ่ย

     

    เป็นครั้งแรกที่ลู่หานปล่อยให้ความเงียบเข้ามากินเวลาได้นานขนาดนี้ 

     

    “นายท่านครับ”เสียงของจงอินดังขึ้นขัดความเงียบอันยาวนาน  ลู่หานจึงละสายตาจากแบคฮยอนและมองหน้าลูกน้องของตน  ใบหน้าของลู่หานเปลี่ยนไปอีกครั้ง—เขากลับมายิ้มอีกครั้งเมื่อเห็นผู้ที่มาพร้อมกับจงอิน

     

    “แบคฮยอนอ่า”ลู่หานลากเสียงยาว  เขาเขยิบตัวเข้าไปใกล้แบคฮยอน  เชยคางแบคฮยอนขึ้นมาแล้วส่งยิ้มมุมปากให้อีกฝ่าย—รอยยิ้มที่ไม่เคยวางใจได้เลยสักครั้ง  รอยยิ้มอันนำมาแต่เรื่องเลวร้ายและแบคฮยอนรู้สึกไม่ปลอดภัย

     

    “จงอินพาเพื่อนเล่นมานู่นแล้ว”ลู่หานเหลือบตามองไปทางจงอิน  เขายืดตัวขึ้น  ยกมือกอดอกแล้วเอนหลังพิงพนักโซฟา  ลอบสังเกตปฎิกริยาของแบคฮยอน

     

    แบคฮยอนขมวดคิ้วมองลู่หานอย่างไม่ไว้ใจ  เขาจำต้องหันกลับไปมอง—

     

    “ไม่นะ!!”แบคฮยอนหวีดร้องออกมาสุดเสียงเมื่อเห็น-แม่กับพี่สาวของตัวเอง—เขาลุกขึ้นยืนทำเหมือนจะเข้าไปหาแต่ก็ได้เพียงแค่นั่งคุกเข่าลงท่าเดิมแล้วร้องไห้ออกมา  แบคฮยอนเท้ามือทั้งสองข้างไว้กับพื้นเหมือนจะคลานเข้าไปแต่ก็ถอยออกมา  เขาแทบบ้าที่เห็นแม่กับพี่สาวในสภาพนั้น  แม่ดูเหมือนขอทานส่วนพี่สาวทรุดโทรมจนดูไม่ได้  ทั้งสองถูกผ้าพันปิดตาเอาไว้

     

    “ไม่ๆๆ ไม่!  ต้องไม่เป็นแบบนี้  ไม่! ฮึกก  ทำไม  ทำไม!!! ฮืออออ”แบคฮยอนหมอบลงกับพื้นแล้วนอนขดตัวร้องไห้อย่างหมดสภาพ  ร้องไห้สะอึกสะอื้นจนหอบตัวโยน  ปากก็พูดว่า ไม่  เป็นไปไม่ได้  ทำไม  จะทำยังไงดี  สลับกับร้องไห้จนแทบไม่เป็นภาษา

     

    ลู่หานยกมือขึ้นแล้วโบกเบาๆ  จงอินเห็นจึงก้มหัวให้ลู่หานเป็นเชิงรับคำสั่ง  เขาเดินไปด้านหลังของหญิงสาววัยกลางคนก่อนแกะผ้าซึ่งผูกเป็นปมเอาไว้หยาบๆ

     

    “ไม่!!”แบคฮยอนร้องบอกจงอินเสียงดัง  ร่างบางรีบคลานเข้าไปกอดขาลู่หานเอาไว้แล้วส่ายหน้าเป็นการขอร้อง  เขาจะให้แม่กับพี่สาวเห็นเขาไม่ได้—ไม่อย่างนั้นก็จบ  ลู่หานจะรู้ทันทีว่าเขาเป็นใครและถึงแม้ลู่หานจะรู้ดีอยู่แก่ใจหากเขาไม่ยอมรับเสียอย่าง—หากว่าไม่มีพยานมายืนยันว่าเขาเป็น ลู่หานก็ยังคงทำอะไรไม่ได้และเมื่อถึงเวลาเขาจะพยายามทำให้ลู่หานไว้ใจ

     

    “จงอิน”ลู่หานยกมือขึ้นห้ามจงอิน   ตายังคงมองหน้าแบคฮยอนซึ่งยอมคลานมากอดขาตนไว้แล้วอยากจะหัวเราะ   ลู่หานยิ้มมุมปาก  เขาตบหน้าตักของตนเองโดยไม่พูดอะไร  แบคฮยอนรู้—และแบคฮยอนต้องข่มความรังเกียจและโกรธเอาไว้  กีแซงหนุ่มค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วหย่อนตัวลงนั่งบนตักของลู่หาน  ลู่หานจับแขนของแบคฮยอนมาคล้องคอตนเอาไว้  เขาจับเอวของแบคฮยอนเอาไว้ด้วยแล้วยิ้ม—ยิ้มอย่างพอใจ

     

     


     

    #บตฟพ

    ไรเตอร์:เหมือนคนอ่านหาย  แงงงงง ไม่เป็นไรค่ะ  ฮึบบบบบบบบบบบ 

    ถ้าให้ดีอ่านภาคผนวกด้วยก็ดีนะคะ

     




    ภาคผนวก #1  ตัวละครที่ชื่อลู่หานของเรา

     
     

    เกริ่นก่อนว่า ตัดสินใจเขียนขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนเข้าใจตัวละครมากขึ้น  เรากลัวว่าเราจะสื่อสารไม่ดีและอาจทำให้คนงงว่า เอ๊ะ! ไอ้นี่มันอะไรของมันมากมายฟร่ะ!  เช่นตัวละครที่ชื่อว่า ลู่หานในเรื่องนี้เข้าใจยากมากมั้ง

     

    ลู่หาน  เป็นผู้ชายวัยเกือบ 30 ที่สั่งสมความแค้นมายาวนานกว่า 10 ปี  เขาเห็นพ่อแม่โดนฆ่าต่อหน้า  น้องสาวก็ตายเพราะเพื่อนรักอีก  ลู่หานในสิบปีที่แล้วก็คล้ายกับแบคฮยอนในตอนนี้  คือ..ลู่หานเคยมีทุกอย่าง  มีเงิน  มีเกียรติ มีบ้าน มีครอบครัวแต่ทุกอย่างที่เคยมีหายวูบไปไหนคืนเดียว..หายไป ทุกอย่าง

     

    ลู่หานเป็นโรคจิตไหม?  ค่ะ!  ลู่หานเป็นโรคจิตค่ะ  เป็นคนควบคุมความโกรธของตนเองไม่เป็นซึ่งมันเป็นโรคทางจิตอย่างหนึ่งค่ะ  เขาเป็นผู้ชายที่จมอยู่กับความแค้น  ความเจ็บปวดและฝันร้ายทุกคืน  ลู่หานขาดความรัก ขาดคนเข้าใจ  สิบปีที่ผ่านมาทำให้เขากลายเป็นคนไร้หัวใจและเห็นการฆ่าเป็นเรื่องปกติด้วยเพราะเขาเป็นทหารในยุคสงครามนี่เนอะ

     

    จริงๆ แล้ว..ลู่หานเป็นคนน่าสงสารมากๆ  บางครั้งสับสนในตัวเอง  ไม่อยากทำ  ไม่อยากแก้แค้นแล้ว  เขาเหนื่อยแต่เขาหยุดมันไม่ได้แล้ว  เขามาไกลเกินกว่าจะวางมือจากทุกอย่าง  หากไม่แก้แค้นเขาก็อยู่ต่อไปไม่ได้เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา  เขามีลมหายใจอยู่ได้ด้วยความแค้นเท่านั้น  ชีวิตของเขาไม่เหลืออะไรแล้วและเหตุผลข้อเดียวของการมีชีวิตอยู่ในตอนนี้คือ แก้แค้น  ลู่หานเลยอยากให้มีใครสักคนมาฆ่าเขาเพราะเขาเหนื่อยแล้ว

     

    จบ ภาคผนวก #1

    :-Daisy ✿
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×